ดราม่า,อาชญากรรม,ลึกลับ,ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,ระทึกขวัญ,น่ากลัว,นัวร์,ปริศนา,แอ็กชัน,ขบวนการอาถรรพ์,ผู้ชายท้องได้,พืชสัตว์ประหลาด,พระ-นางหลายคู่,ทาสบำเรอกาม,ทารุณ,ข่มขืน,ปีศาจ,แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,สยองขวัญ,ดราม่า,ฆาตกรรม,อาชญากรรม,อาชญาอาถรรพ์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
รถตู้ของพวกพีชได้เข้ามาจอดอยู่ที่ร้านอาหารเรือนไทยในเวลาช่วงบ่ายโมงกว่าแล้ว ซึ่งที่หน้าร้านมีชายสองถึงสามคน รวมถึงหญิงวัยสี่สิบรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ของเธอ รินลดา อุมารยะ และปาริชาติ น้องต่างแม่ของเธอในอายุห้าขวบที่กำลังกอดแม่ของตนที่ด้านหลัง ชายที่ใส่ชุดตำรวจก็ได้วันทยาหัตถ์ให้แก่ผู้ใหญ่ในบังคับที่เดินลงมาจากรถพร้อมบุตรสาวของตนว่า
" สวัสดีตอนเย็นครับท่านผู้กำกับ! "
ดลวิภาคตอบกับผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาด้วยความเป็นกันเอง สีหน้าของเขายิ้มไปกับคนรอบข้าง
" ตามสบาย วันนี้ทุเลาการเคารพได้ คืนนี้เราคงต้องกินเลี้ยงกันก่อน เพราะว่าวันพรุ่งนี้เราเองจะได้ทำงานหามรุ่งหามค่ำแน่ หนูปลาเองก็กินกับพวกอาๆน้าๆตำรวจเขาเลยนะ"
" ค่ะคุณพ่อ! "
หนูปลาตอบรับคำด้วยท่าทีที่แจ่มใส เปียโนที่อยากพบหน้าน้องจึงเดินไปหยิบเอาขนมในรถมาให้น้องสาวตัวเล็กอย่างอารมณ์ดีว่า
" นี่! พี่เปียมีมันฝรั่งทอด ขนมปังขนมเค้ก น้ำหวานน้ำนมอร่อยๆพี่ซื้อมาให้เรากินด้วย"
" ขนม! "
เมื่อพูดถึงขนม เด็กน้อยถักเปียตาใสหน้าจิ้มลิ้มก็เกิดอาการวาวโรจน์ ตาลุกวาวอยากจะกินขนมของผู้เป็นพี่สาว ก็เลยลอยมาที่ถุงขนมของคนเป็นพี่ แต่เด็กน้อยก็ยังไม่กล้าที่จะกินมันจึงได้เงยหน้ามองขึ้นมาหาคนที่มีศักดิ์อายุเยอะกว่าว่า
" พี่เปียแน่ใจเหรอคะว่าจะให้ขนมกับหนู? "
ผู้เป็นพี่ลูบหัวแป้นราวมะนาวริ้วเรียบอย่างเอ็นดูเด็กสาวแล้วกล่าวกับหนูปลาว่า
" ค่ะ ในถุงนี้กินได้หมดเลยค่ะยกเว้นถุงขนมกับขวดน้ำที่กินไม่ด้าย..."
เปียโนลูบหัวแรงขึ้นเล็กน้อยจนเด็กสาวแก่นแก้วหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างพอใจแล้วจึงยกมือพนมไหว้ผู้อาวุโสกว่าอย่างนาคสุรีย์ ปาริชาติก้มหน้าแล้วพูดกับนาคสุรีย์เสียงใสน่าฟังว่า
" ขอบคุณค่ะพี่เปียโน! "
" ค่า...เป็นเด็กดีของคุณพ่อคุณแม่นะคะ"
" แน่นอนค่ะ หนูจะไม่ดื้อไม่ซนกับคุณแม่เลย..."
หนูปลาได้ยกนิ้วโป้งขึ้นให้กับพี่สาวสุดสวยอย่างเปียโน หนูปลาเดินถอยหลังไปหาคุณแม่รินของเธอ หนูน้อยหยิบขนมห่อหนึ่งมากินเล่น ในขณะเดียวกันแม่ของหนูปลาก็โอบกอดลูกน้อยด้วยความรักความเอ็นดูแล้วเงยหน้ามองมาที่เปียโนถามถึงเพื่อนสนิทของเธอว่า
" แม่มายด์ของหนูไม่มากับหนูเหรอ"
" ค่ะ แต่อีกสองถึงสามวันจะตามมาแล้วละค่ะ"
ดลวิภาคที่คุยกับลูกน้อยอยู่จึงได้ชวนเมียปัจจุบันของตนว่า
" ป่ะริน! เข้าไปในร้านกันเถอะ"
" ค่ะที่รัก "
รินลดาเธอมองมาที่สามีแล้วจับมือเขาเอาไว้ โดยมีนาคสุรีย์มองทั้งสองคนจับมือกันด้วยความรู้สึกแปลกๆ รินลดาหันมามองหลานสาวของเธอแล้วกล่าวตอบว่า
" งั้นแม่รินไปก่อนนะเปียโน "
นาคสุรีย์เงยหน้ามองมาที่ใบหน้างามแล้วกล่าวว่า
" ค่ะ ถ้างั้นหนูลาหล่ะนะคะ"
เปียโนยกมือไหว้แล้วเดินขึ้นมาในรถตู้ เธอหันหน้าบอกกับพีชว่า
" พีช "
" ว่าไงเปีย ตอนนี้กูกำลังเล่นเกมอยู่ อย่าพึ่งมากวน นี่ๆๆ! พี่เมฆาเขาจะตื่นป้อมกูจะแตกแล้ว~"
" มึงช่วยบอกพี่ทองดีให้ขับไปที่ชายทะเลหน่อย กูอยากเดินสูดอากาศหวะ"
พีชที่สนใจแต่เกมบนหน้าจออย่างขะมักเขม้นจึงได้บอกกับกับคนขับที่อายุเยอะกว่าว่า
" พี่ดี พี่ขับไปที่ทะเลเพชรบูรณ์หน่อย แวะเก็บบรรยากาศสักครู่อีกทุ่มสองทุ่มค่อยขับต่อก็ได้"
ทองดีบุตรชายของนายหำคนขับพ่วงบอดี้การ์ดผู้มีสายเลือดอีสานผิวคล้ำตกปากรับคำนายน้อยของตนด้วยรอยยิ้มเล็กๆ
" รับทราบครับคุณพีช "
คนขับรถหันหัวไปที่พวงมาลัยรถแล้วดันเกียร์เหยียบคันเร่งเบาๆแล้วค่อยๆขับออกไป ก่อนที่ทองดีจะเปลี่ยนเกียร์ไต่ระดับความเร็วของรถวัดจากตัวเลขดิจิตอลบอกแรงม้าที่รถวิ่งจนมีระดับเกินร้อย ตอนนี้ทุกคนในรถกำลังสนใจกับสิ่งที่ตนสนใจอยู่ พีชกับเมฆานั้นกำลังเลานเกมอยู่ ส่วนปริ๊นซ์กับจีจี้นั้นกำลังสนในการนอนหลับอยู่ หากมาดแม้นว่าใครมาปลุกในเวลานี้ สองคนนี้คงจะต้องมีหงุดหงิดใจกันบ้างแล้ว ยามบ่ายของถนนเพชรบุรีที่มีตึกรามบ้านช่องนั้น มันช่างน่าดูชมยิ่งนัก
หาดเจ้าสำราญ เพชรบุรี
ณ หาดทรายอันเงียบสงบนี้ มีผู้คนทยอยกันเข้ามาพักผ่อน เพราะที่นี่มีอากาศที่ดี ผู้คนไม่พลุ่กพล่าน ร้านอาหารมากมายต่างบริการไม่ได้ขาด เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความเงียบสงบในชีวิตที่ต้องการหาทะเลสงบพักผ่อนจิตใจที่ว้าวุ่นมานาน
รถตู้สีดำของพีชขับมาถึงก็หาที่จอดแถวนี้ เมื่อรถจอดในที่สมควรจอดแล้วประตูของรถตู้ก็ค่อยๆเลื่อนเปิดให้คนในรถออกมาสูดอากาศข้างนอก พีชเดินลงมาหาทองดีที่เดินลงมาจะจุดบุรี่สูบสารนิโคตินในบุหรี่นี้ระบายความเครียดจากการเดินทางสักพัก พีชเดินเข้ามาแล้วบอกขอบคุณชายร่างสมส่วนว่า
" ขอบใจมากนะพี่ที่เดินทางมาถึงที่หาดนี่ได้"
ทองมีโค้งคำนับเจ้านายแล้วคาบมวนบุรี่ ยกมุมปากยิ้มอย่างขอบคุณกลับ พูดด้วยเสียงที่ไม่ชัดเจนนักเพราะมีมวนบุรี่อยู่ในปาก
" ขอบคุณครับคุณพีช "
ทองมีเอาไฟแช็กจุดบุรี่สูบควันพักหนึ่งแล้วทำปากจู๋พ่นควันยานั้นออกมา ส่วนพีชก็ได้เดินไปหาเปียโนในกลุ่มเพื่อนๆของเขา เขาได้ทำท่าแบมือแล้วบอกเป็นคำหยาบที่ฟังสนิทกันว่า
" กูขอเงินสักห้าพันหน่อยซิเปีย กูว่ากูจะไปซื้อของกินแถวนี้หน่อย"
เปียโนที่จะไปเดินสูดอากาศให้ปลอดโปร่งหายจากความคิดอันขมุกขมัวในสมองสีเทาของเธอ เธอหันไปมองพีชชักสีหน้าหรี่ตาขวานิดๆยืนเท้าเอวยกปากเอียงคอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกดต่ำลงว่า
" ไอ้พีช ตั้งแต่กูฝังยาคุมแล้วได้เงินสองสามหมื่นมึงนี่เที่ยวแต่ขอเงินกูจังเลย กูเพื่อนมึงนะไม่ใช่แม่มึงที่จะมาเปย์เงินใช้ๆ เอ้า! "
เปียโนคว้ากระเป๋าสะพายใบเล็กที่จุเงินสดไว้จำนวนมากแล้วควักเงินจำนวนหนึ่งให้แก่เขา แล้วชี้หน้าคาดโทษเขาไป
สายลมทะเลอ่อนๆ ทำให้เธออยากยืนอยู่จุดนี้นานๆ บรรยากาศทะเลชนบทที่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก เหตุใดหนอทำให้สมองและจิตใจของเธอนึกย้อนไปถึงความหลัง ความหลังเมื่อครั้งที่เธอยังเป็นเด็กหญิงนาคสุรีย์ เมื่อที่เธอเคยจับมือพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวของเธอ มันช่างราวกับเป็นภาพอันติดตาของเด็กน้อยที่ไม่อยากจะให้เวลาดีๆที่พ่อแม่ของเธอได้ใช้ชีวิตร่วมกันมา ต้องแยกทางจากกันโดยที่เธอเองก็ไม่อยากจะให้พ่อแม่ของเธอต้องมาแยกทางกันในช่วงเวลานี้เลย
แต่มันก็ต้องเกิดขึ้น
ใช่ มันก็ต้องเกิดขึ้น มันเกิดขึ้นโดยอาจจะเกิดขึ้น พ่อของเธอเป็นตำรวจสืบสวนที่ต้องคอยเดินทางไปสืบสวนและดูแลคนในท้องที่ แม่ของเธอก็เป็นพนักงานหัวดีที่อนาคตกำลังรุ่งโรจน์ เป็นหัวหน้าพนักงานหลายสิบชีวิต ย่อมไม่มีเวลามาเลี้ยงดูแลลูกพร้อมกันเท่าใดนัก ที่เธอยังถูกเลี้ยงดูอย่างดีเพราะเธอมีคุณตากับคุณยายคอยเลี้ยงดูเธอมาโดยตลอด แต่พอเธอเข้าเรียนที่ชั้นป.3 คุณยายผู้ซึ่งเป็นที่รักของเธอก็ได้จากไป จะด้วยโรคประจำตัวหรือโรคชราก็ว่าไป แต่พอยายเธอสิ้นยังมิพอ หนึ่งปีผ่านตาของเธอก็สิ้นใจตามด้วยความเศร้าที่คู่ชีวิตของท่านต้องจากไปก่อน หลังงานฌาปนกิจร้อยวันของท่าน พ่อกับแม่ของเธอก็ได้อย่าขาดจากกันเพราะหน้าที่การงานมันรัดตัวเหลือเกิน ท่านทั้งสองต้องแยกจากกันด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดทั้งคู่
มันอาจจะเป็นกรรมเก่าของเธอก็ได้ ที่เธอต้องถูกพรากครอบครัวจากกัน แม่ของเธอจึงต้องอย่าพ่อที่รักกันมานานหลายปีต้องขาดสะบั้นลง แต่ว่าในยุคนี้ เงินทองมิได้เข้าใครออกใคร จิตใจที่ว้าวุ่นของเธอคิดถึงสภาวะของคนในยุคนี้ สายลมทะเลที่พัดผ่านทำเอาหลายครั้งมันทำให้เธอหวิวใจมิใช่น้อย เพราะในสายลมมันทำให้คนคิดว่าเย็น แต่ในความเป็นจริงสายลมนั้นมันมิได้เย็นเพราะแค่ตามความคิดของใครหลายคน หลายคนที่ต้องเผชิญหน้ากับสังคมทันสมัย สังคมที่ทันสมัยก็เหมือนกับลมทะเลที่เย็นสบาย คนเราย่อมหาความสะดวกสบายในชีวิตของตนกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น เงินทอง ของหรูๆ บ้านใหญ่ๆ คนรับใช้ และยิ่งในยุคนี้ ความสะดวกสบายของคนเราก็ต้องหาของที่ทันสมัย แอร์ปรับอากาศ มือถือล้ำสมัย รถยนต์รุ่นใหม่ อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ย่อมต้องหามาเพื่อก้าวทันโลก ก้าวทัน.....
ก้าวทัน...
ก้าวทันอย่างนั้นเหรอ?
นาคสุรีย์ นงลักษณ์ หญิงสาววัยสิบห้าปีผู้นี้ ผู้ที่เกิดมาในเมืองศิวิไลซ์ ถึงแม้ว่าจะเกิดมาในสมุทรปราการ แต่เพราะการสั่งสอนบ่มเพาะในสังคมที่เต็มไปด้วยความอลมานน่าเวียนหัวทำให้ความคิดในหัวของเธอเจริญเติบโตเร็วกว่าเด็กหลายคนที่มิอาจเข้าถึงความรู้ในเมืองใหญ่ แต่สำหรับเธอเธอคิดว่าเด็กพวกนั้นยังโชคดีกว่าเธอที่อยู่ในเมืองมากมายหลายเท่านัก เทคโนโลยีที่ทันสมัยของคนในเมืองมันกลับกล่อมเกลาจิตใจของคนในสังคมให้กลายเป็นหุ่นยนต์ที่มีเส้นเลือดและหัวใจไว้หล่อเลี้ยงชีวิตเท่านั้น เพราะมโนธรรมในความคิดของมนุษย์ในยุคนี้มันได้ผ่านความทรงจำอันเจ็บปวดที่สั่งสมมานับหลายพันปีทำให้จิตใจของคนเรากลายเป็นมนุษย์ที่ขวนขวายแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ตนทั้งนั้น สาวน้อยเธอได้แต่เดินมองท้องฟ้าที่เริ่มมีฝูงนกตามทะเลเริ่มกลับไปยังที่อยู่ของตนบนแผ่นดินใหญ่อันเป็นหัวใจที่โบยบินของเธอฝากไปกับนกด้วย ธรรมชาติริมทะเลนั้นมันได้พัดพาหัวใจอันหนักอึ้งตลอดหลายปีทำให้เธอสบายใจขึ้นมาบ้างแล้ว สังคมมันแปรเปลี่ยนทำให้คนเมืองอย่างเธอต้องหวนคิดถึงเรื่องต่างๆราวกับว่าจะพาเรื่องที่คิดอยู่ให้เบาบางจางหายไป
เธอเดินเล่นอยู่บนหาดทรายที่เปล่งประกายราวกับแก้วที่แวววับอยู่ริมฝั่ง แล้วจึงได้เดินไปที่น้ำทะเลพอสาดน้ำไล่ดินไล่ฝุ่น ทำให้จิตใจเธอแจ่มใสขึ้นมาบ้าง เมื่อเธอคิดสรตะอะไรเรื่อยจนสมองโล่งแล้ว พีชที่ซื้อของพะรุงพะรังมาแล้วจึงได้ค่อยๆเดินมาที่ข้างหลังของหญิงสาวแล้วจึงได้กล่าวแก่เธอแล้วชูของกินด้วยน้ำเสียงเบาเล็กน้อย
" นี่เปียโน กูซื้อ...ของกินให้มึงกับพวกเยอะแยะไปหมดเลย นี่ กูเห็นนะที่น้องปลากับพ่อมึงจับมือกัน ใครบ้างที่จะไม่คิดถึงพ่อตัวเองบ้างวะ"
เปียโนหันหลังยิ้มให้แก่เพื่อนชายของตัวเอง ที่จริงต้องขอบคุณเขาไม่งั้นเธอเองก็คงไม่มีโอกาสได้อยู่กับเพื่อนที่อยู่ได้ตลอดเวลาทั้งในเวลาสุขและเวลาทุกข์ ร่วมทั้ง.....เป็นเซ็กซ์ทอยปลดปล่อยอารมณ์ของตัวเองให้แก่กันและกันด้วย
เปียโนกล่าวแก่พีชด้วยหัวใจที่เป็นสุขว่า
" อืม! ขอบใจมึงมากนะ"
พีชจึงเปลี่ยนคำถามว่า
" แล้วนี่มึงจะให้พี่ดีเขาขับรถต่อมั้ย? "
เปียโนจึงตอบด้วยท่าทีที่ร่าเริงขึ้น เธอทำไหล่ยกสูงกล่าวด้วยเสียงห้าวๆเหมือนจิ๊กโก๋ว่า
" เอ้า ก็ต้องเดินทางต่อดิพีช ไอ้ห่ามึงรู้มั้ยทะเลไม่ได้จบแค่ที่เพชรบุรีนะเว้ยจะบอกให้ งานนี้ยันหว่างเพราะแม่กูยังไม่มาง่าย สี่ห้าวันแหนะแม่กูถึงจะกลับมา ฮ่าๆ"
ทั้งสองเดินมาที่รถ คนในรถที่รอก็บ่นนั่นบ่นนี้ คนที่บ่นมากที่สุดคงเป็นเมฆา เขาบ่นให้แก่พีชว่า
" มาเลยครับมาเลย! พวกพี่รอน้องสองคนอยู่นะครับ พี่กับไอ้ปริ๊นซ์รอจนขาจะมีรากอยู่แล้ว"
ชายรูปสวยตอบอย่างไมตรีว่า
" คร้าบ...พี่เมฆา อีเปียโนของผมมันเดินผ่อนอารมณ์เสร็จแล้วครับ"
เมื่อทั้งสองเดินขึ้นรถแล้ว เปียโนจึงได้ขอทองดีว่า
" พี่ทองดีคะ พี่ช่วยเปิดเพดานรถให้หน่อยได้มั้ยคะ"
" ได้ครับน้องเปีย "
สิ้นคำของสารถีหนุ่มแล้ว เขาจึงได้หันพวงมาลัยค่อยๆถอยรถออกสู่ถนนใหญ่ ขับไปบนถนนอันมีหลายเส้นทางรอพวกเขาอยู่ ทองดีไม่ลืมคำขอของเปียโนเขาจึงได้กดปุ่มเปิดเพดานรถให้สายลมที่รถพัดมาเข้ามาในรถ เปียโนใช้ร่างของตนยืนบนเก้าอี้รถแล้วรับเอาสิ่งดีๆเข้าตัว เธอรู้ว่าในอนาคตต้องมีสิ่งที่จะมาเป็นอุปสรรคเข้ามาในชีวิตอีกเป็นแน่ แต่อย่างน้อยๆ เธอขอรับสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต เปรียบดั่งสายลมในช่วงบ่ายที่ยังคงแจ่มใสทอแสงสีทองก่อนที่จะหรี่เป็นสีแดงในไม่ช้า
ใช่ เพราะในอีกไม่ช้า สิ่งที่จะเข้ามาอันเปรียบเสมือนเฆมพายุก้อนใหญ่จะต้องคอยมาถาโถมพวกเขาจนเจ็บปวดอย่างทนทุกข์ทรมานราวกับลงนรกอเวจี แต่อย่างน้อย สิ่งที่หวังในตอน ขอให้ดวงใจดวงน้อยแข็งแกร่งขึ้น เท่านั้นก็พอแล้ว
¤□¤□¤□¤□¤
___/\___/\___/\___
¤□¤□¤□¤□¤