ในเมื่อโลกมันเน่าเฟะไปทุกวัน เขาเหล่านั้นก็ปรากฏตัวด้วยความอำมหิต

อาชญาอาถรรพ์ - บทที่ 6. สายลมแสงแดด โดย สตีรอรรถ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดราม่า,อาชญากรรม,ลึกลับ,ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,ระทึกขวัญ,น่ากลัว,นัวร์,ปริศนา,แอ็กชัน,ขบวนการอาถรรพ์,ผู้ชายท้องได้,พืชสัตว์ประหลาด,พระ-นางหลายคู่,ทาสบำเรอกาม,ทารุณ,ข่มขืน,ปีศาจ,แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,สยองขวัญ,ดราม่า,ฆาตกรรม,อาชญากรรม,อาชญาอาถรรพ์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

อาชญาอาถรรพ์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,อาชญากรรม,ลึกลับ,ชาย-หญิง,ชาย-ชาย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ระทึกขวัญ,น่ากลัว,นัวร์,ปริศนา,แอ็กชัน,ขบวนการอาถรรพ์,ผู้ชายท้องได้,พืชสัตว์ประหลาด,พระ-นางหลายคู่,ทาสบำเรอกาม,ทารุณ,ข่มขืน,ปีศาจ,แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,สยองขวัญ,ดราม่า,ฆาตกรรม,อาชญากรรม,อาชญาอาถรรพ์

รายละเอียด

อาชญาอาถรรพ์ โดย สตีรอรรถ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ในเมื่อโลกมันเน่าเฟะไปทุกวัน เขาเหล่านั้นก็ปรากฏตัวด้วยความอำมหิต

ผู้แต่ง

สตีรอรรถ

เรื่องย่อ

สวัสดี​ครับ​หลานๆทุกท่าน
น้ามีนิยายเรื่องหนึ่งชื่อว่า

"อาชญา​อาถรรพ์" ซึ่งน้าเองก็ขอฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคร้าบ เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ​  ช่วยอุดหนุนด้วยนะ​ ขอบคุณครับ และก็

คำเตือน!!

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่สร้างจากจินตนาการ​ทั้งสิ้น​  โดยตัวละคร สถานที่ สิ่งของและบุคคลที่ได้ปรากฏในนิยาย​  ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในโลกจริงและเรื่องใดๆ นิยายเรื่องนี้มีฉากที่ไม่เหมาะกับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า​  เช่น​  เซ็กซ์ในรูปแบบต่างๆ​  การค้ายาค้าสินค้าจากมนุษย์​  การทรมานและการฆาตกรรม การแปรรูปศพเป็นอาหาร​  เพราะเหตุการณ์ในเรื่องเป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้นควรอ่านเพื่อความบันเทิงไม่ควรลอกเลียนแบบ​  ห้ามนำไปเป็นลิขสิทธิ์ของตนโดยไม่ได้รับอนุญาต

หลังจากนี้จะเป็นเรื่องราวของนิยายเรื่องนี้








เธอถูกเหล่าคนร้ายฆ่า​  ลูกของเธอถูกเค้าข่มขืน​  เมื่อเธอฟื้นขึ้นมาพร้อมกับมารร้าย มหันตภัยต่างๆจึงได้เกิดขึ้น เพราะ

"อาชญาอาธรรพ์"

เขียนนิยายโดย

สตีรอรรถ




สารบัญ

อาชญาอาถรรพ์-0. เกริ่นนำ,อาชญาอาถรรพ์-บทที่ 1. แม่และลูก,อาชญาอาถรรพ์-บทที่ 2. ความลับ,อาชญาอาถรรพ์-บทที่ 3. เบื้องหลัง,อาชญาอาถรรพ์-บทที่ 4. เช็กก่อนเที่ยว,อาชญาอาถรรพ์-บทที่ 5. ยาคุม,อาชญาอาถรรพ์-บทที่ 6. สายลมแสงแดด

เนื้อหา

บทที่ 6. สายลมแสงแดด

รถตู้ของพวกพีชได้เข้ามาจอดอยู่ที่ร้านอาหารเรือนไทยในเวลาช่วงบ่ายโมงกว่าแล้ว  ซึ่งที่หน้าร้านมีชายสองถึงสามคน  รวมถึงหญิงวัยสี่สิบรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ของเธอ  รินลดา  อุมารยะ  และปาริชาติ  น้องต่างแม่ของเธอในอายุห้าขวบที่กำลังกอดแม่ของตนที่ด้านหลัง  ชายที่ใส่ชุดตำรวจก็ได้วันทยาหัตถ์ให้แก่ผู้ใหญ่​ในบังคับที่เดินลงมาจากรถพร้อมบุตรสาว​ของตนว่า



"  สวัสดี​ตอนเย็นครับท่านผู้กำกับ! "



ดลวิภาคตอบกับผู้ใต้บังคับบัญชา​ของเขาด้วยความเป็นกันเอง  สีหน้าของเขายิ้มไปกับคนรอบข้าง



"  ตามสบาย  วันนี้ทุเลาการเคารพได้  คืนนี้เราคงต้องกินเลี้ยง​กันก่อน  เพราะว่าวันพรุ่งนี้เราเองจะได้ทำงานหามรุ่งหามค่ำ​แน่  หนูปลาเองก็กินกับพวกอาๆน้าๆตำรวจเขาเลยนะ"



"  ค่ะคุณพ่อ!  "



หนูปลาตอบรับคำด้วยท่าทีที่แจ่มใส  เปียโนที่อยากพบหน้าน้องจึงเดินไปหยิบเอาขนมในรถมาให้น้องสาวตัวเล็กอย่างอารมณ์​ดีว่า



"  นี่!  พี่เปียมีมันฝรั่งทอด​  ขนมปังขนมเค้ก  น้ำหวานน้ำนมอร่อยๆพี่ซื้อมาให้เรากินด้วย"



"  ขนม!  "



เมื่อพูดถึงขนม  เด็กน้อยถักเปียตาใสหน้าจิ้มลิ้มก็เกิดอาการวาวโรจน์​  ตาลุกวาวอยากจะกินขนมของผู้เป็นพี่สาว  ก็เลยลอยมาที่ถุงขนมของคนเป็นพี่  แต่เด็กน้อยก็ยังไม่กล้าที่จะกินมันจึงได้เงยหน้ามองขึ้นมาหาคนที่มีศัก​ดิ์อายุเยอะกว่าว่า



"  พี่เปียแน่ใจเหรอคะว่าจะให้ขนมกับหนู?  "



ผู้เป็นพี่ลูบหัวแป้นราวมะนาวริ้วเรียบอย่างเอ็นดูเด็กสาวแล้วกล่าวกับหนูปลาว่า



"  ค่ะ  ในถุงนี้กินได้หมดเลยค่ะยกเว้นถุงขนมกับขวดน้ำที่กินไม่ด้าย..."



เปียโนลูบหัวแรงขึ้นเล็กน้อยจนเด็กสาวแก่นแก้วหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างพอใจแล้วจึงยกมือพนมไหว้ผู้อาวุโส​กว่าอย่างนาคสุรีย์​  ปาริชาติก้มหน้าแล้วพูดกับนาคสุรีย์​เสียงใสน่าฟังว่า



"  ขอบคุณ​ค่ะพี่เปียโน!  "



"  ค่า...เป็นเด็กดีของคุณพ่อคุณแม่นะคะ"



"  แน่นอนค่ะ  หนูจะไม่ดื้อไม่ซนกับคุณแม่เลย..."



หนูปลาได้ยกนิ้วโป้งขึ้นให้กับพี่สาวสุดสวยอย่างเปียโน  หนูปลาเดินถอยหลังไปหาคุณแม่รินของเธอ  หนูน้อยหยิบขนมห่อหนึ่งมากินเล่น  ในขณะเดียวกันแม่ของหนูปลาก็โอบกอดลูกน้อยด้วยความรักความเอ็นดูแล้วเงยหน้ามองมาที่เปียโนถามถึงเพื่อนสนิทของเธอว่า



"  แม่มายด์ของหนูไม่มากับหนูเหรอ" 



"  ค่ะ  แต่อีกสองถึงสามวันจะตามมาแล้วละค่ะ"



ดลวิภาคที่คุยกับลูกน้อยอยู่จึงได้ชวนเมียปัจจุบัน​ของตนว่า



"  ป่ะริน!  เข้าไปในร้านกันเถอะ"



"  ค่ะที่รัก  "



รินลดาเธอมองมาที่สามีแล้วจับมือเขาเอาไว้  โดยมีนาคสุรีย์​มองทั้งสองคนจับมือกันด้วยความรู้สึกแปลกๆ  รินลดาหันมามองหลานสาวของเธอแล้วกล่าวตอบว่า



"  งั้นแม่รินไปก่อนนะเปียโน  "



นาคสุรีย์​เงยหน้ามองมาที่ใบหน้างามแล้วกล่าวว่า



"  ค่ะ  ถ้างั้นหนูลาหล่ะนะคะ"



เปียโนยกมือไหว้แล้วเดินขึ้นมาในรถตู้  เธอหันหน้าบอกกับพีชว่า



"  พีช  "



"  ว่าไงเปีย  ตอนนี้กูกำลังเล่นเกมอยู่  อย่าพึ่งมากวน  นี่ๆๆ! พี่เมฆาเขาจะตื่นป้อมกูจะแตกแล้ว~"



"  มึงช่วยบอกพี่ทองดีให้ขับไปที่ชายทะเลหน่อย  กูอยากเดินสูดอากาศหวะ"



พีชที่สนใจแต่เกมบนหน้าจออย่างขะมักเขม้น​จึงได้บอกกับกับคนขับที่อายุเยอะกว่าว่า



"  พี่ดี  พี่ขับไปที่ทะเลเพชรบูรณ์​หน่อย  แวะเก็บบรรยากาศ​สักครู่อีกทุ่มสองทุ่มค่อยขับต่อก็ได้"



ทองดีบุตรชายของนายหำคนขับพ่วงบอดี้การ์ด​ผู้มีสายเลือดอีสานผิวคล้ำตกปากรับคำนายน้อยของตนด้วยรอยยิ้มเล็กๆ



"  รับทราบครับคุณพีช  "



คนขับรถ​หันหัวไปที่พวงมาลัยรถแล้วดันเกียร์เหยียบคันเร่งเบาๆแล้วค่อยๆขับออกไป  ก่อนที่ทองดีจะเปลี่ยนเกียร์​ไต่ระดับความเร็วของรถวัดจากตัวเลขดิจิตอล​บอกแรงม้าที่รถวิ่งจนมีระดับเกินร้อย  ตอนนี้ทุกคนในรถกำลังสนใจกับสิ่งที่ตนสนใจอยู่  พีชกับเมฆานั้นกำลังเลานเกมอยู่  ส่วนปริ๊นซ์​กับจีจี้นั้นกำลังสนในการนอนหลับอยู่  หากมาดแม้นว่าใครมาปลุกในเวลานี้ สองคนนี้คงจะต้องมีหงุดหงิด​ใจกันบ้างแล้ว  ยามบ่ายของถนนเพชรบุรี​ที่มีตึกรามบ้านช่องนั้น  มันช่างน่าดูชมยิ่งนัก

หาดเจ้าสำราญ​  เพชรบุรี​

ณ  หาดทรายอันเงียบสงบนี้  มีผู้คนทยอยกันเข้ามาพักผ่อน  เพราะที่นี่มีอากาศที่ดี  ผู้คนไม่พลุ่กพล่าน  ร้านอาหารมากมายต่างบริการไม่ได้ขาด  เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความเงียบสงบ​ในชีวิตที่ต้องการหาทะเลสงบพักผ่อนจิตใจที่ว้าวุ่นมานาน

รถตู้สีดำของพีชขับมาถึงก็หาที่จอดแถวนี้  เมื่อรถจอดในที่สมควรจอดแล้วประตูของรถตู้ก็ค่อยๆเลื่อนเปิดให้คนในรถออกมาสูดอากาศข้างนอก  พีชเดินลงมาหาทองดีที่เดินลงมาจะจุดบุรี่สูบสารนิโคติน​ในบุหรี่นี้ระบายความเครียด​จากการเดินทางสักพัก  พีชเดินเข้ามาแล้วบอกขอบคุณชายร่างสมส่วนว่า



"  ขอบใจมากนะพี่ที่เดินทางมาถึงที่หาดนี่ได้"



ทองมีโค้งคำนับเจ้านายแล้วคาบมวนบุรี่  ยกมุมปากยิ้มอย่างขอบคุณ​กลับ  พูดด้วยเสียงที่ไม่ชัดเจนนักเพราะมีมวนบุรี่อยู่ในปาก



"  ขอบคุณครับคุณพีช  "



ทองมีเอาไฟแช็ก​จุดบุรี่สูบควันพักหนึ่งแล้วทำปากจู๋พ่นควันยานั้นออกมา  ส่วนพีชก็ได้เดินไปหาเปียโนในกลุ่มเพื่อนๆของเขา  เขาได้ทำท่าแบมือแล้วบอกเป็นคำหยาบที่ฟังสนิทกัน​ว่า



"  กูขอเงินสักห้าพันหน่อยซิเปีย  กูว่ากูจะไปซื้อของกินแถวนี้หน่อย" 



เปียโนที่จะไปเดินสูดอากาศให้ปลอดโปร่ง​หายจากความคิด​อันขมุกขมัว​ในสมองสีเทาของเธอ  เธอหันไปมองพีชชักสีหน้าหรี่ตาขวานิดๆยืนเท้าเอวยกปากเอียงคอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกดต่ำลงว่า



"  ไอ้พีช  ตั้งแต่กูฝังยาคุมแล้วได้เงินสองสามหมื่นมึงนี่เที่ยวแต่ขอเงินกูจังเลย  กูเพื่อนมึงนะไม่ใช่แม่มึงที่จะมาเปย์เงินใช้ๆ  เอ้า!  "



เปียโนคว้ากระเป๋า​สะพายใบเล็กที่จุเงินสดไว้จำนวนมากแล้วควักเงินจำนวนหนึ่งให้แก่เขา  แล้วชี้หน้าคาดโทษเขาไป

สายลมทะเลอ่อนๆ  ทำให้เธออยากยืนอยู่จุดนี้นานๆ  บรรยากาศ​ทะเลชนบทที่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก  เหตุใดหนอทำให้สมองและจิตใจของเธอนึกย้อนไปถึงความหลัง  ความหลังเมื่อครั้งที่เธอยังเป็นเด็กหญิงนาคสุรีย์​  เมื่อที่เธอเคยจับมือพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว​ของเธอ  มันช่างราวกับเป็นภาพอันติดตาของเด็กน้อยที่ไม่อยากจะให้เวลาดีๆที่พ่อแม่ของเธอได้ใช้ชีวิตร่วมกันมา  ต้องแยกทางจากกันโดยที่เธอเองก็ไม่อยากจะให้พ่อแม่ของเธอต้องมาแยกทางกันในช่วงเวลานี้เลย

แต่มันก็ต้องเกิดขึ้น

ใช่  มันก็ต้องเกิดขึ้น  มันเกิดขึ้นโดยอาจจะเกิดขึ้น  พ่อของเธอเป็นตำรวจสืบสวนที่ต้องคอยเดินทางไปสืบสวนและดูแลคนในท้องที่  แม่ของเธอก็เป็นพนักงานหัวดีที่อนาคตกำลัง​รุ่งโรจน์​  เป็นหัวหน้าพนักงานหลายสิบชีวิต  ย่อมไม่มีเวลามาเลี้ยงดูแลลูกพร้อมกันเท่าใดนัก  ที่เธอยังถูกเลี้ยงดูอย่างดีเพราะเธอมีคุณตากับคุณยายคอยเลี้ยงดูเธอมาโดยตลอด  แต่พอเธอเข้าเรียนที่ชั้นป.3  คุณยายผู้ซึ่งเป็นที่รักของเธอก็ได้จากไป  จะด้วยโรคประจำตัว​หรือโรคชราก็ว่าไป  แต่พอยายเธอสิ้นยังมิพอ  หนึ่งปีผ่านตาของเธอก็สิ้นใจตามด้วยความเศร้าที่คู่ชีวิต​ของท่านต้องจากไปก่อน  หลังงานฌาปนกิจ​ร้อยวันของท่าน  พ่อกับแม่ของเธอก็ได้อย่าขาดจากกันเพราะหน้าที่การงานมันรัดตัวเหลือเกิน  ท่านทั้งสองต้องแยกจากกันด้วยความรู้สึก​ที่เจ็บปวดทั้งคู่

มันอาจจะ​เป็น​กรรมเก่าของเธอก็ได้  ที่เธอต้องถูกพรากครอบครัว​จากกัน  แม่ของเธอจึงต้องอย่าพ่อที่รักกันมานานหลายปีต้องขาดสะบั้น​ลง  แต่ว่าในยุคนี้  เงินทองมิได้เข้าใครออกใคร  จิตใจที่ว้าวุ่นของเธอคิดถึงสภาวะของคนในยุคนี้  สายลมทะเลที่พัดผ่านทำเอาหลายครั้งมันทำให้เธอหวิวใจมิใช่น้อย  เพราะในสายลมมันทำให้คนคิดว่าเย็น  แต่ในความเป็นจริง​สายลมนั้นมันมิได้เย็นเพราะแค่ตามความคิดของใครหลายคน  หลายคนที่ต้องเผชิญหน้า​กับ​สังคมทันสมัย  สังคม​ที่ทันสมัยก็เหมือนกับลมทะเลที่เย็นสบาย  คนเราย่อมหาความสะดวก​สบายในชีวิตของตนกันทั้งนั้น  ไม่ว่าจะเป็น  เงินทอง  ของหรูๆ  บ้านใหญ่​ๆ  คนรับใช้  และยิ่งในยุคนี้  ความสะดวก​สบายของคนเราก็ต้องหาของที่ทันสมัย​  แอร์ปรับอากาศ​  มือถือล้ำสมัย​  รถยนต์​รุ่นใหม่  อินเตอร์​เน็ต​ความเร็ว​สูง​  ย่อมต้องหามาเพื่อก้าวทันโลก  ก้าวทัน.....

ก้าวทัน...

ก้าวทันอย่างนั้นเหรอ? 

นาคสุรีย์​  นงลักษณ์​  หญิงสาววัยสิบห้าปีผู้นี้  ผู้ที่เกิดมาในเมืองศิวิไลซ์​ ถึงแม้ว่าจะเกิดมาในสมุทรปราการ​ แต่เพราะการสั่งสอนบ่มเพาะในสังคมที่เต็มไปด้วยความอลมาน​น่าเวียนหัวทำให้ความคิดในหัวของเธอเจริญ​เติบโตเร็วกว่าเด็กหลายคนที่มิอาจเข้าถึงความรู้ในเมืองใหญ่​  แต่สำหรับเธอเธอคิดว่าเด็กพวกนั้นยังโชคดีกว่าเธอที่อยู่ในเมืองมากมายหลายเท่านัก  เทคโนโลยี​ที่ทันสมัยของคนในเมืองมันกลับกล่อมเกลา​จิตใจ​ของ​คน​ในสังคมให้กลายเป็นหุ่นยนต์​ที่มีเส้นเลือดและหัวใจ​ไว้หล่อเลี้ยง​ชีวิตเท่านั้น  เพราะมโนธรรมใน​ความคิดของมนุษย​์ในยุคนี้มันได้ผ่านความทรงจำอันเจ็บปวด​ที่สั่งสมมานับหลายพันปีทำให้จิตใจของคนเรากลายเป็นมนุษย์ที่ขวนขวาย​แต่สิ่งที่เป็นประโยชน์​แก่ตนทั้งนั้น  สาวน้อยเธอได้แต่เดินมองท้องฟ้าที่เริ่มมีฝูงนกตามทะเลเริ่มกลับไปยังที่อยู่ของตนบนแผ่นดินใหญ่​อันเป็นหัวใจที่โบยบินของเธอฝากไปกับนกด้วย  ธรรมชาติ​ริมทะเลนั้นมันได้พัดพาหัวใจอันหนักอึ้งตลอดหลายปีทำให้เธอสบายใจขึ้นมาบ้างแล้ว  สังคมมันแปรเปลี่ยนทำให้คนเมืองอย่างเธอต้องหวนคิดถึงเรื่องต่างๆราวกับว่าจะพาเรื่องที่คิดอยู่ให้เบาบางจางหายไป

เธอเดินเล่นอยู่บนหาดทรายที่เปล่งประกาย​ราวกับแก้วที่แวววับอยู่ริมฝั่ง  แล้วจึงได้เดินไปที่น้ำทะเล​พอสาดน้ำไล่ดินไล่ฝุ่น  ทำให้จิตใจเธอแจ่มใสขึ้นมาบ้าง  เมื่อเธอคิดสรตะ​อะไรเรื่อยจนสมองโล่งแล้ว  พีชที่ซื้อของพะรุงพะรัง​มาแล้วจึงได้ค่อยๆเดินมาที่ข้างหลังของหญิงสาวแล้วจึงได้กล่าวแก่เธอแล้วชูของกินด้วยน้ำเสียงเบาเล็กน้อย​



"  นี่เปียโน  กูซื้อ...ของกินให้มึงกับพวกเยอะแยะ​ไปหมดเลย  นี่  กูเห็นนะที่น้องปลากับพ่อมึงจับมือกัน  ใครบ้างที่จะไม่คิดถึงพ่อตัวเองบ้างวะ"



เปียโนหันหลังยิ้มให้แก่เพื่อนชายของตัวเอง  ที่จริงต้องขอบคุณเขาไม่งั้นเธอเองก็คงไม่มีโอกาสได้อยู่กับเพื่อนที่อยู่ได้ตลอดเวลาทั้งในเวลาสุขและเวลาทุกข์   ร่วมทั้ง.....เป็นเซ็กซ์​ทอยปลดปล่อย​อารมณ์​ของ​ตัวเอง​ให้แก่กันและกันด้วย

เปียโนกล่าวแก่พีชด้วยหัวใจที่เป็นสุขว่า



"  อืม!  ขอบใจมึงมากนะ"



พีชจึงเปลี่ยนคำถามว่า



"  แล้วนี่มึงจะให้พี่ดีเขาขับรถต่อมั้ย?  "



เปียโนจึงตอบด้วยท่าทีที่ร่าเริง​ขึ้น  เธอทำไหล่ยกสูงกล่าวด้วยเสียงห้าวๆเหมือนจิ๊กโก๋​ว่า



"  เอ้า  ก็ต้องเดินทางต่อดิพีช   ไอ้ห่ามึงรู้มั้ยทะเลไม่ได้จบแค่ที่เพชรบุรี​นะเว้ยจะบอกให้   งานนี้ยันหว่างเพราะแม่กูยังไม่มาง่าย  สี่ห้าวันแหนะแม่กูถึงจะกลับมา  ฮ่าๆ"



ทั้งสองเดินมาที่รถ  คนในรถที่รอก็บ่นนั่นบ่นนี้  คนที่บ่นมากที่สุดคงเป็นเมฆา  เขาบ่นให้แก่พีชว่า



"  มาเลยครับมาเลย!  พวกพี่รอน้องสองคนอยู่นะครับ  พี่กับไอ้ปริ๊นซ์รอจนขาจะมีรากอยู่แล้ว"



ชายรูปสวยตอบอย่างไมตรีว่า



"  คร้าบ...พี่เมฆา  อีเปียโนของผมมันเดินผ่อนอารมณ์เสร็จแล้วครับ"



เมื่อทั้งสองเดินขึ้นรถแล้ว  เปียโนจึงได้ขอทองดีว่า



"  พี่ทองดีคะ  พี่ช่วยเปิดเพดานรถให้หน่อยได้มั้ยคะ"



"  ได้ครับน้องเปีย  "



สิ้นคำของสารถีหนุ่มแล้ว  เขาจึงได้หันพวงมาลัยค่อยๆถอยรถออกสู่ถนนใหญ่  ขับไปบนถนนอันมีหลายเส้นทางรอพวกเขาอยู่  ทองดีไม่ลืมคำขอของเปียโนเขาจึงได้กดปุ่มเปิดเพดานรถให้สายลมที่รถพัดมาเข้ามาในรถ  เปียโนใช้ร่างของตนยืนบนเก้าอี้รถแล้วรับเอาสิ่งดีๆเข้าตัว  เธอรู้ว่าในอนาคตต้องมีสิ่งที่จะมาเป็นอุปสรรคเข้ามาในชีวิตอีกเป็นแน่  แต่อย่างน้อยๆ  เธอขอรับสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต  เปรียบดั่งสายลมในช่วงบ่ายที่ยังคงแจ่มใสทอแสงสีทองก่อนที่จะหรี่เป็นสีแดงในไม่ช้า

ใช่  เพราะในอีกไม่ช้า  สิ่งที่จะเข้ามาอันเปรียบเสมือนเฆมพายุก้อนใหญ่จะต้องคอยมาถาโถมพวกเขาจนเจ็บปวดอย่างทนทุกข์ทรมานราวกับลงนรกอเวจี  แต่อย่างน้อย  สิ่งที่หวังในตอน  ขอให้ดวงใจดวงน้อยแข็งแกร่งขึ้น  เท่านั้นก็พอแล้ว

¤□¤□¤□¤□¤

___/\___/\___/\___

¤□¤□¤□¤□¤