ทันทีที่ลืมตาเธอพบว่าตัวเองได้มาอยู่ในร่าง “นาเซีย” นางร้ายที่กำลังจะพบจุดจบ เพียงแค่อยากมีชีวิตรอดจนกว่าจะหาทางกลับโลกเดิมได้ แต่ทำทุกคนถึงได้มาวุ่นวายกับเธอกันจัง
ตะวันตก,ผจญภัย,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,ดยุก,สวมร่าง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยายทันทีที่ลืมตาเธอพบว่าตัวเองได้มาอยู่ในร่าง “นาเซีย” นางร้ายที่กำลังจะพบจุดจบ เพียงแค่อยากมีชีวิตรอดจนกว่าจะหาทางกลับโลกเดิมได้ แต่ทำทุกคนถึงได้มาวุ่นวายกับเธอกันจัง
เมื่อหญิงสาวที่อาศัยอยู่ในโลกปัจจุบันได้ทะลุเข้ามาในโลกนิยายแฟนตาซีในร่างของ "นางร้าย" ที่โชคชะตากำหนดให้ถูกตัวร้ายชายฆ่าตาย เธอจึงต้องหาทางรอดพ้นจากจุดจบอันโหดร้ายนี้ แต่แทนที่เธอจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว เธอกลับพบว่าเหล่าตัวละครหลักทั้งหลาย ต่างพากันหันมาสนใจและเข้ามาในชีวิตของเธออย่างไม่คาดฝัน การต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตา และค้นหาความลับเบื้องหลังโลกใบนี้ เธอจะสามารถพลิกชะตาของนางร้ายและเปิดเผยความจริงที่ซ่อนอยู่ในโลกแห่งนี้ได้หรือไม่?
ฝากกดถูกใจ ให้กำลังใจนักเขียนด้วยค่ะ
เสียงดนตรีดังก้องไปทั่วอาณาจักร แสงไฟสว่างไปทั่วรอบ นาเซียยืนมองขบวนรถม้าการแสดงที่กำลังวิ่งผ่านไปอย่างช้า ๆ ‘นี่ฉันกำลังทำอะไรกันอยู่แน่’ นาเซียยืนมองอย่างไร้อารมณ์ คราแรกที่เธอมาอาณาเขตนี้ก็เพราะองค์ราชินี แต่ครานี้ที่ต้องมาร่วมงานก็เพราะดยุกกาบริเอลเป็นคนสั่ง เขาใช้เหตุผลที่เคยช่วยเหลือเธอบังคับให้เธอมาร่วมงาน แม้จะไม่อยากมาก็ตาม หลังจากที่จุดพลุเปิดงานเสร็จนาเซียก็หาทางที่จะหลบเลี่ยงออกมา เธอเดินชมงานราวกับลืมเรื่องที่เธอจะต้องทำ เธอมองชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองกาบริเอลอย่างสนใจ ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ลำบากยากแค้นอย่างที่คิด แม้จะไม่มีการเกษตรหรือพืชผล แต่ชาวเมืองอยู่ได้ด้วยงานฝีมือ อัญมณีมากมายล้วนหาได้ง่ายในอาณาเขตกาบริเอล นาเซียเลิกสนใจเรื่องงานเต้นรำ เธอได้ยินเสียงของดนตรีเริ่มการแสดง ผู้คนต่างทยอยกันไปยังจัตุรัสของเมืองเพื่อเริ่มเต้นรำ แต่เธอใช่จะสนใจ เธอมองไปยังตรอก เล็ก ๆ ที่มีหญิงชราผู้หนึ่งกำลังนั่งขดตัวอยู่ข้างลังไม้เก่า ๆ หญิงชราผู้นั้นยกยิ้มให้กับเธอพร้อมกับแววตาสีขาวฝ่ามัว เธอมองดูราวกับว่าเธอเคยเห็นหญิงชราผู้นี้ที่ไหนสักแห่ง ไม่ช้าหญิงชราผู้นั้นก็ลุกเดินหายไปทางด้านหลังตรอกเล็ก ๆ นาเซียคิดว่าถ้าได้ลองพูดคุยกับนางแล้วเธออาจจะได้รู้อะไรบางอย่าง นาเซียตัดสินใจวิ่งตามก่อนที่ร่างของหญิงชรานั้นค่อย ๆ เดินหายไปในหมอกหนา
“โอ้ว..เจ้าดูนี่ซิ ข้าเจอผู้ใดกัน” เสียงแหบ ๆ ที่พยายามเปล่งเรียกใครอีกคน นาเซียหันกลับไปมอง ตัวเธอยืนอยู่กลางตรอกลึก ด้านหลังมีชายสูงใหญ่ใบหน้ามีหนวดยากรกรุงรัง
“สตรีงดงามผู้นี้กำลังเชื้อเชิญพวกเราอยู่” ชายอีกคนรูปร่างผอมโซ ใบหน้าซูบตอบแสยะยิ้มให้ราวอยากจะเป็นมิตร แต่สำหรับเธอแล้ว มันช่างเป็นภาพที่น่าหวาดกลัว ชีวิตของนาเซียผู้นี้น่าสงสารนางเป็นนางร้ายที่มักถูกกระทำต่อร่างกายของเธอนับครั้งไม่ถ้วน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่อีกแล้ว นาเซียผู้นั้นทิ้งร่างนี้ไปราวกับโกรธเคืองปล่อยให้เธอผู้มาใหม่ต้องแบกรับชะตากรรมนี้แทน
“ดะ...เดี๋ยว ข้าว่าเราน่าจะคุยกันดี ๆ ได้” นาเซียท้วงเมื่อเห็นพวกนั้นเริ่มขยับตัวเข้าหา หากแต่บุรุษพวกนั้นกับแสยะยิ้มราวกับเป็นเรื่องตลก
“ข้าอยากชมร่างกายเจ้านักว่าจะงดงามเช่นใบหน้าหรือไม่” ชายสูงใหญ่เอ่ยกล่าวไม่พอ มันยังเดินเข้ามาพร้อมกระชากแขนเสื้อเธอจนฉีกขาด
“ไม่...!!” นาเซียตกใจร้อง เธอกำลังจะพบกับโชคชะตาของนาเซีย ชะตาของตัวร้ายที่มักถูกกอดก่ายอยู่กับเหล่าบุรุษ นาเซียก้าวถอยอย่างช้า ๆ พยายามมองหาใครสักคนเพื่อช่วยเหลือ แต่กลับถูกชายผู้นั้นใช้ฝ่ามือหยาบกร้านปิดปากของเธอไว้ ก่อนจะอุ้มตัวเธอพลาดบ่า เสียงดนตรีดังไปทั่วเธอคิดว่าคงไม่มีทางที่เสียงของเธอจะถูกได้ยิน นาเซียพยายามสงบนิ่งคิดหาทางออกเพื่อตัวเองเสียก่อน แต่ก็ดูไร้หนทางเมื่อร่างเธอถูกโยนลงกองฟางที่พื้น คงเป็นโรงเก็บของที่ไหนสักแห่ง ประตูไม้เก่า ๆ ถูกเปิดออกพร้อมกับมีบุรุษมาใหม่อีกสามคนปรากฏตรงหน้า นาเซียมองไปรอบ ๆ บรรยากาศดูไม่น่าไว้ใจ เธอแทบมองไม่เห็นทางออกในตอนนี้
“เจ้าว่านางไม่ใช่คนของกาบริเอลแน่นะ” เสียงชายผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นพร้อมเหยียดยิ้มมาที่เธอ
“ใช่...นางดูไม่ให้คนของอาณาเขตนี้ ดูท่านางคงจะหลงมา” ชายร่างซูบผอมตอบพร้อมนั่งยอง ๆ ลงข้างตัวเธอ
“จับแขนนางไว้ อย่าให้เป็นรอย เพราะข้าไม่อยากหมดสนุก ถ้าเห็นรอยนั้นบนผิวสวย ๆ ของนาง” ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่ดูเหมือนหัวหน้ากลุ่มเอ่ยบอก
เป๊าะ.!! อ๊ากกกก เสียงร้องของชายร่างซูบผอมพร้อมกับตัวที่ลงไปนอนกองข้าง ๆ เธอ นาเซียยกตัวเองขึ้นนั่งพร้อมกับหันไปมองด้วยความตกใจ เมื่อกี้เธอได้ยินเสียงกระดูกของชายผู้นั้นหักแน่ ๆ ว่าแต่ผู้ใดกันที่ทำเรื่องแบบนี้ได้
“หัวหน้า...” เสียงชายอีกคนร้องเมื่อหันไปมองผู้ที่กำลังเข้ามา
“ทะ....ท่านดยุก” พวกมันทรุดเข่าลงด้วยความตกใจก่อนที่ชายคนที่เป็นหัวหน้ากลุ่มถูกแรงบางอย่างบีบเข้าที่ลำคอ นาเซียกอดเข่าตัวเองซุกเข้ากับกองฟางที่สูง
“ใครบังอาจแตะต้องนาง ไม่สมควรอยู่ในอาณาจักรแห่งนี้” สิ้นเสียงเยือกเย็น แววตาของชายตัวสูงใหญ่เหลือกโปน ไม่มีแม้แต่เสียงร้องใด ๆ สุดท้ายร่างนั้นก็ทรุดลงนอนกองอยู่ที่พื้น เหล่าลูกสมุนเห็นท่าไม่ดีต่างก็เตลิดวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง แต่โอกาสรอดแทบไม่เหลือ เมื่อทหารที่ตามมาได้ตัดคอพวกเขาทิ้งเสีย
“ฮื่ออ.ฮือออ..” นาเซียปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาเมื่อคนพวกนั้นถูกลงโทษ เธอคิดว่าไม่มีใครทันสังเกตที่เธอหายไปเสียแล้ว มิกาเอลย่อตัวอุ้มร่างบอกบางของเธอขึ้นอย่างเร็ว เขาคลุมชุดที่ขาดของเธอด้วยเสื้อคลุมของเขาแทน เรียวแขนที่ถูกกิ่งไม้เกี่ยวเป็นรอยแผลยาวทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด
“ใครใช้ให้เจ้าหนีข้าออกมากัน” มิกาเอลเอ่ยเสียงดุเมื่อใบหน้าเรียวยกอุ้มเสมอแววตาเขา
“ฮือ...แล้วใครกันที่บังคับให้ข้าออกมา ข้าไม่ได้อยากออกมาเสียเมื่อไหร่กัน” นาเซียปล่อยเสียงสะอื้นตอบ ตัวเธอสั่นเทาราวลูกนกที่ตกจากรัง กามิเอลหรี่ตามองดูร่างกายที่สั่นเทาจนรู้สึกได้ว่านางคงกลัวจริง ๆ ไม่คิดเลยว่าสตรีที่ดูหยิ่งยโส และร้ายกาจจะดูบอกบางเสียจนเหมือนจะหายไป
มิกาเอลอุ้มร่างบางกลับปราสาท เขามุ่งตรงไปยังปราสาทแยกที่ถูกจัดไว้สำหรับนางก่อนที่ลาฟาซจะเดินเข้ามา
“ส่งมาให้ข้า” ลาฟาซเอ่ยพร้อมชูแขนออกไป เดิมเขาตั้งใจจะต่อว่านางที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย แต่ทันทีที่เห็นสีหน้าซีด ๆ ของนางเขากลับรู้สึกเห็นใจนางอย่างบอกไม่ถูก
“ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง” มิกาเอลเพียงไม่ส่งนางให้แก่ลาฟาซ แต่เขากับเลี่ยงไปยังบันไดทางเดินชั้นสอง
“แต่นางคือผู้ที่องค์ราชินีมอบหมายให้ข้าดูแล” ลาฟาซแย้งขึ้นทั้งยังเร่งฝ่าเท้าเดินสลักด้านหน้ามิกาเอล
“หากนางคือผู้ที่องค์ราชินีมอบให้พระองค์ดูแล แล้วเหตุใดตอนที่นางหายไปพระองค์ไม่รีบตามหานางกัน” มิกาเอลสีหน้าเปลี่ยน เขาทักท้วงลาฟาซขึ้นทันทีที่นางหายไป แต่ลาฟาซเอาแต่เดินตามเซลีนจนเป็นเขาเองที่ต้องเร่งติดตามหา เพราะถึงอย่างไรอาณาเขตนี้เขาก็คือผู้ปกครอง หากเขาหานางช้าไปกว่านี้อีกเพียงไม่เท่าไหร่ เขาไม่อยากนึกเลยว่าสตรีที่ หยิ่งยโสเช่นนาง หากถูกทำลายศักดิ์เช่นนั้นไปนางจะมีสีหน้าเช่นไรกัน มิกาเอลอุ้มนาเซียมายังห้องนอน ก่อนที่เซลีน และลาฟาซจะติดตามมา นาเซียมองหน้าเซลีนที่ดูเรียบนิ่งก่อนที่นางจะนั่งลงข้างตัวเธอ เซลีนยกมือเรียวประคองมาที่แขนเธอเพียงเล็กน้อย ในสมองของเธอกลับดูว่างเปล่าก่อนที่เปลือกตาเธอจะค่อย ๆ ปิดลง
“หม่อมฉันทำได้เพียงแค่ชั่วครู่ หากเลดี้ดาร์เรลตื่นแล้ว นางก็จะกลับมาเป็นเช่นเดิม” เซลีนไม่พูดเปล่า เธอแตะเรียวมือไปยังบาดแผลที่แขนของนาเซียอีกครั้ง บาดแผลค่อย ๆ สมานตัวกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง