ทันทีที่ลืมตาเธอพบว่าตัวเองได้มาอยู่ในร่าง “นาเซีย” นางร้ายที่กำลังจะพบจุดจบ เพียงแค่อยากมีชีวิตรอดจนกว่าจะหาทางกลับโลกเดิมได้ แต่ทำทุกคนถึงได้มาวุ่นวายกับเธอกันจัง

Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย - ตอนที่ 6 หินเวทย์เคลื่อนย้าย โดย ไอร่าณาลัลน์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ตะวันตก,ผจญภัย,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,ดยุก,สวมร่าง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ตะวันตก,ผจญภัย,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,ดยุก,สวมร่าง

รายละเอียด

Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย โดย ไอร่าณาลัลน์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ทันทีที่ลืมตาเธอพบว่าตัวเองได้มาอยู่ในร่าง “นาเซีย” นางร้ายที่กำลังจะพบจุดจบ เพียงแค่อยากมีชีวิตรอดจนกว่าจะหาทางกลับโลกเดิมได้ แต่ทำทุกคนถึงได้มาวุ่นวายกับเธอกันจัง

ผู้แต่ง

ไอร่าณาลัลน์

เรื่องย่อ

เมื่อหญิงสาวที่อาศัยอยู่ในโลกปัจจุบันได้ทะลุเข้ามาในโลกนิยายแฟนตาซีในร่างของ "นางร้าย" ที่โชคชะตากำหนดให้ถูกตัวร้ายชายฆ่าตาย เธอจึงต้องหาทางรอดพ้นจากจุดจบอันโหดร้ายนี้ แต่แทนที่เธอจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว เธอกลับพบว่าเหล่าตัวละครหลักทั้งหลาย ต่างพากันหันมาสนใจและเข้ามาในชีวิตของเธออย่างไม่คาดฝัน การต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตา และค้นหาความลับเบื้องหลังโลกใบนี้ เธอจะสามารถพลิกชะตาของนางร้ายและเปิดเผยความจริงที่ซ่อนอยู่ในโลกแห่งนี้ได้หรือไม่?

 

ฝากกดถูกใจ ให้กำลังใจนักเขียนด้วยค่ะ

สารบัญ

Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 1 เกิดอะไรขึ้นกับตัวเรา,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 2 ขอบคุณท่านดยุก,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 3 หม่อมฉันรู้สำนึกดี,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 4 ข้าไม่ไป,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 5 ข้าไม่ได้อยากออกมาเสียเมื่อไหร่กัน,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 6 หินเวทย์เคลื่อนย้าย,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 7 เลดี้ลืมไปแล้วหรือครับ,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 8 เจ้าเดินละเมอออกมาหรือยังไงกัน,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 9 ข้าจะของานแต่งงาน,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 10 ท่านกล่าวจริงหรือไม่,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 11 ถึงตอนนี้ก็ไม่มีใครนึกปกป้องเธอเลยสักคน,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 12 แผนการดยุกกาบริเอล,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 13 การแต่งงาน,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 14 กล่อมข้าที,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 15 เจ้าหักหลังข้า,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 16 เลดี้อีวอน,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 17 เรียกนามข้า,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 18 อะไรคะ...หมายความว่ายังไง,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 19 ใครบอกเจ้า,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 20 ท่านจะเลือกใคร,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 21 ถึงอย่างไรข้าก็เป็นดัชเชส,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 22 อำนาจกาบริเอล,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 23 หนังสือสัญญาแห่งเวทมนตร์,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 24 ลงโทษดัชเชส,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 25 คุณมีเวลาแค่ก่อนอารอนจะจบจากอคาเดมี่เท่านั้น,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 26 คนรักเก่า,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 27 ห้องลับ,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 28 ขอบคุณนะคะ,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 29 อัญมณีแห่งการย้อนเวลา,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 30 กลับมาแล้วสินะ,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 31 ให้เราเหรอ,Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยาย-ตอนที่ 32 แต่นางเป็นภรรยาข้า

เนื้อหา

ตอนที่ 6 หินเวทย์เคลื่อนย้าย

ทันทีที่นาเซียรู้สึกตัว เธอขอร้องให้สาวใช้ที่ดยุกบริกาเอลจัดไว้ดูแลยามที่พักอยู่ปราสาทนี้ เธอขอร้องให้สาวใช้พาไปยังห้องพักของเซลีนก่อนที่จะเห็นว่าเซลีนกำลังมีช่วงน้ำชายามบ่ายร่วมกับลาฟาซ

“ถวายพระพรเพค่ะ” นาเซียย่อตัวลงตามธรรมเนียมก่อนจะรอให้เซลีนเอ่ยเชื้อเชิญ

“เลดี้ดาร์เรล เชิญร่วมดื่มชาด้วยกันก่อนสิคะ” เซลีนลุกยืนพร้อมผายมือเชิญ แม้อีกคนจะขมวดคิ้วขึงจ้องมองราวกำลังขับไล่เธออยู่ก็ตาม

“หม่อมฉันรบกวนเวลาน้ำชาฝ่าบาทไม่นานหรอกเพคะ” นาเซียหันมาทางลาฟาซในขณะที่หย่อนตัวนั่งลงเก้าอี้ดัดสีขาวสะอาด บนโต๊ะมีน้ำชาพร้อมขนมหวานกลิ่นหอม

“อาการเลดี้เป็นเช่นไรบ้างคะ” เซลีนเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นว่าบรรยากาศตรงหน้าเริ่มดูขุ่นมัว

“ขอบคุณค่ะ ฉันรู้ดีว่าเป็นเพราะเลดี้เซลีนอาการบาดเจ็บจึงหายไปอย่างรวดเร็ว” นาเซียส่งยิ้มให้เซลีน แต่ทำไมสีหน้าของเซลีนถึงดูราวกับหวาดกลัวรอยยิ้มของเธอนัก

“เป็นเพราะหมอที่มิกาเอลเรียกมาตรวจดูต่างหาก ไม่ได้เกี่ยวกับเซลีนสักนิด” อยู่ ๆ ลาฟาซก็ตัดบทสนทนาขึ้น ทั้งยังดูไม่สบอารมณ์ หรือเธอจะทำสิ่งใดผิดกัน เธอแค่ต้องการกล่าวขอบคุณ มันคือความขอบคุณที่ออกมาจากใจเธออย่างแท้จริง แต่เธอก็เข้าใจลาฟาซคงอยากที่จะอยู่ร่วมดื่มด่ำช่วงเวลาเช่นนี้กับเซลีน เขาถึงได้ออกปากเอ่ยไล่เธอราวไม่ให้เกียรติ นาเซียลุกยืนพร้อมขอตัวลา ก่อนที่เธอจะเดินกลับเซลีนกลับวิ่งตามหลังเธอมาอย่างร้อนร้น

“เลดี้ดาร์เรล สักครู่ค่ะ” เซลีนร้องตะโกนเรียกเธอ ใบหน้าขาวซีดดูแดงขึ้น ดูท่าเซลีนคงรีบร้อนไม่น้อย มือเรียวกอบกุมยกชายกระโปรงสูงยังไม่ทันที่จะปล่อยมันลงเธอก็รีบเอาตัวยืนขวางตรงหน้าเธอไว้

“เลดี้เซลีนมีอะไรจะเอ่ยกับฉันงั้นเหรอ” นาเซียกล่าวอย่างสงสัย เธอมองแววตาสีครามนั่นมีแววกังวลถึงบางอย่าง

“เลดี้รู้ได้อย่างไรคะว่าฉันใช้พลังเยียวยาแก่เลดี้” อยู่ ๆ เซลีนก็เอ่ยถามขึ้น นาเซียรู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังทำผิดบางอย่าง ตัวละครนาเซียแต่เดิมไม่รู้ว่าเซลีนมีพลังเยียวยา เพราะเรื่องนี้เป็นความลับ ลาฟาซไม่ต้องการให้ทางวิหารรู้เรื่องที่เซลีนมีพลังพิเศษนี้พอ ๆ กับดยุกกาบริเอลที่ช่วยเซลีนปกปิดเช่นกัน สิ่งที่ลาฟาซกลัวคือการที่นาเซียรู้แล้วนำเรื่องนี้ไปกล่าวทูลต่อองค์ราชินี เพราะหากเป็นเช่นนั้นแล้วโอกาสที่เซลีนจะถูกส่งไปยังวิหารก็ง่ายขึ้น นาเซียยืนนิ่งมองหน้าเซลีนก่อนที่ใครบางคนจะหยุดยืนนิ่งไม่ต่างกับรูปปั้น ดยุกกาบริเอลยืนมองเธอด้วยแววตาเย็นชา เขาคงรอฟังคำตอบของเธอไม่ต่างไปกับเซลีน

“ฉะ......ฉันเห็นแสงอบอุ่นจากเลดี้ค่ะ” เธอแกล้งตอบ ความจริงเธอไม่เห็นสิ่งใดทั้งสิ้น มีเพียงสิ่งที่รู้ได้จากชีวิตก่อนเท่านั้น ตอนนี้พลังเซลีนยังไม่แข็งแกร่ง วิหารยังไม่รู้เรื่อง แต่ต่อไปหากพลังของเซลีนแข็งแกร่งทางวิหารจะต้องมาพาเซลีนไป โดยใช้อำนาจจากองค์จักรพรรดิในการบีบบังคับนาง

“เลดี้ดาร์เรลมองเห็นอย่างนั้นหรือคะ” เซลีนย้ำ ท่าทางดูกังวล นาเซียยกมือหนึ่งขึ้นจับมือเรียวซีดที่กำลังดึงชายแขนเสื้อเธอให้ปล่อยออก

“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเลดี้จะมีพลังอะไร แต่ขอบคุณที่ช่วย” กล่าวจบนาเซียก็รีบเดินออกจากตรงทางเดินทันที เธอหวาดกลัวแววตานั้นเสียมากกว่า ดยุกกาบริเอลคงกำลังหาทางคิดกำจัดนาเซียแน่ในเมื่อตอนนี้เธอรู้ความลับของเซลีน

นาเซียเลือกที่จะเดินออกมาทางสวนด้านนอกของปราสาท แม้มันจะไม่มีดอกไม้เลยสักดอก อากาศที่หนาวเหน็บทำให้เขตกาบริเอลแทบไม่มีพืชพันธุ์ใด ๆ คงอยู่ได้ มีเพียงต้นสนสูงสลับเต็มหุบเขาด้านหลังปราสาทที่ถูกหิมะปกคลุมจนมองไม่เห็นใบ นาเซียรอบถอนหายใจแรงก่อนทิ้งตัวลงเก้าอี้กลางสวน

“เพราะใครกันละที่พาฉันมาทีนี่ จะโทษฉันไม่ได้หรอกนะ” นาเซียสบถกล่าวออกมาอย่างหงุดหงิด เพราะถ้าเธอไม่มาที่กาบริเอล เรื่องต่าง ๆ ก็คงไม่เกิด เหตุการณ์ที่จะต้องให้เซลีนใช้พลังก็คงไม่ต้องมีเช่นกัน นาเซียทุบโต๊ะตรงหน้าอย่างโมโห เธอสู้อุตส่าห์ที่จะไม่พาตัวเองไปวุ่นวายพวกเขาแล้วแท้ ๆ

“เลดี้ดาร์เรลไม่อยากมางานเทศกาลเต้นรำอย่างนั้นซินะครับ” เสียงทุ้มต่ำที่ดังมาจากด้านหลัง นาเซียรีบลุกยืนก่อนหันไปมองผู้ที่เข้ามาทักเธอ ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งแต่ดูแข็งแกร่ง แววตาสีฟ้าหม่นเส้นผมสีเทาที่ดูกลมกลืนไปกับหิมะ เธอพยายามนึกถึงใครบางคนที่ดูคุ้นเคย นาเซียนึกได้ว่าเขาก็คือหนึ่งในอัศวินอารักขาที่เดินทางร่วมมากับเธอ

“เซอร์อาเซลนั่นเอง ตกใจหมด” นาเซียเอ่ยทักขึ้น นาเซียจำได้ว่าอาร์เซล วิลเลี่ยมผู้นี่ก็คืออีกคนที่เป็นผู้ยอมเสียสละชีวิตตนเองเพื่อปกป้องเซลีน ในตอนที่ไปชิงตัวเซลีนคืนจากดยุกกาบริเอล แต่เหตุใดดูท่าทางเขาถึงช่างกล้าดีเช่นนี้กัน เขาเป็นเพียงอัศวินแต่ทำไมถึงไม่เคารพเธอเลยสักนิด

“เลดี้ดาร์เรลอยากจะกลับก่อนหรือไม่ กระผมสามารถพาท่านกลับคฤหาสน์เอิร์ลได้นะครับ”

“เซอร์จะทำยังไงคะ” นาเซียจ้องมองแววตาฟ้าหม่นของเขาดูไร้ซึ่งความเกรงกลัวต่ออำนาจของเธอไม่

“ผมสามารถสั่งให้ทหารพวกนั้นนำท่านกลับไปได้ แต่อาจใช้เวลาเสียหน่อยเพราะผมไม่สามารถใช้หินมานาเคลื่อนย้ายได้หากไม่มีการสั่งจาก       องค์รัชทายาท” วิลเลี่ยมมองไปยังกองทหารที่ยืนขนาบข้างรถมาในตอนที่เธอมา แต่สำหรับเธอแล้ว เธอที่รู้ว่าหากไม่ได้ใช้พลังจากเวทย์เคลื่อนย้าย การเดินทางมายังเขตทางเหนือนี้ค่อนข้างอันตราย เพราะอาจถูกโจมตีจากสัตว์ปีศาจเมื่อใดก็ได้ หรือไม่ก็ไม่สามารถกลับออกไปได้เลย แต่เหตุใดกัน อาร์เซล วิลเลี่ยม ผู้นี้ถึงเสนอสิ่งนี้มาให้เธอ หรือเพราะใครสั่งกัน

“แม้ฉันจะยากกลับคฤหาสน์เอิร์ลเท่าใดก็คงทำไม่ได้ เพราะองค์ราชินีมอบหมายให้ฉันคือผู้ร่วมงานเต้นรำนี้คู่กับองค์รัชทายาท ขอบคุณเซอร์ที่อยากช่วยเหลือ” นาเซียเชิดหน้ากล่าวอย่างชัดเจน ดูท่าตัวเธอในตอนนี้แล้วคงคาดหวังที่จะหาใครช่วยเหลือเธอได้ นาเซียผู้น่าสงสารเสียมากกว่าจะได้ชื่อว่าเป็นหญิงที่ร้ายกาจ

นาเซียกลับมายังห้องนอนก่อนจะนั่งคิด เธอจะต้องรีบหาทางกลับไปยังโลกเดิม เพราะหากอยู่นานกว่านี้ชีวิตนาเซียอันตรายเกินไป นอกจากไม่มีผู้ใดคิดที่จะปกป้องเธอแล้ว อันตรายต่าง ๆ ดูเหมือนจะรอคอยเธอราวกับกำลังลงโทษกับสิ่งที่นาเซียคนเก่าได้กระทำลงไป เพียงแค่สามวันที่อยู่ในเขตกาบริเอลนี้เธอก็เจอกับปัญหาหนักมากมายแล้ว นาเซียมองหินสีสวยที่อยู่ในขวดโหลมันช่วยส่องแสงแทนไฟก่อนที่เธอจะนึกขึ้นได้ว่าเขตกาบริเอลนี้มีหินเวทย์มากมาย หากเธอสามารถหาหินเวทย์ที่มีพลังเคลื่อนย้ายเธออาจสามารถกลับไปยังโลกเดิมได้ก็คงจะดี

นาเซียสั่งให้สาวใช้แต่งตัวให้เธอไม่ต้องหรูหรามากนัก และขอเด็กสาวอีกคนที่พอจะติดตามเธอได้ เธอคิดว่าตลาดในจัตุรัสกาบริเอลคงมีพ่อค้าหินเวทย์หลายร้านพอให้เธอตามหาได้ เด็กสาวตัวเล็กถูกเสนอชื่อให้ติดตามเธอ ดูเหมือนไม่เพียงขุนนางในเมืองหลวงของแคลบอร์นเท่านั้นที่จะรู้ฤทธิ์เดชของนาเซียผู้นี้ แต่บ่าวรับใช้ในปราสาทกาบริเอลก็คงจะรู้จักชื่อเสียงนาเซียเป็นอย่างดี เพราะสาวใช้ที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอดูผอมแห้ง และดูมอมแมมเสียมากกว่าสาวใช้ที่อยู่ในปราสาทดยุกนี่

“เธอชื่ออะไร” นาเซียถามเด็กสาวตรงหน้าที่ยืนตัวสั่นเทา

“ดิ...ฉันชื่ออันค่ะ” เด็กสาวเอ่ยพูดน้ำเสียงแหบแห้งแทบไม่ได้ยิน นาเซียยืนกอดอกมองก่อนจะคว้าไหล่ประคองตัวเธอให้หยุดอาการสั่น

“อัน...ฉันอยากให้เจ้าพาไปเที่ยวเมืองของเจ้าด้วยความสุข” นาเซียค่อย ๆ พูด เธอไม่อยากเปล่งเสียงที่ดังเกินไป

“คะ....ได้ค่ะ ดิฉันจะนำทางท่านเป็นอย่างดี” เด็กน้อยแหงนมองหน้า นาเซียเพิ่งสังเกตุว่าแววตาของเด็กสาวตรงหน้าดูสดใสกว่าเมื่อครู่

“ขอบคุณ” นาเซียกล่าวขอบคุณก่อนจะให้เธอช่วยจัดการหมวกกับถุงมือให้