ทันทีที่ลืมตาเธอพบว่าตัวเองได้มาอยู่ในร่าง “นาเซีย” นางร้ายที่กำลังจะพบจุดจบ เพียงแค่อยากมีชีวิตรอดจนกว่าจะหาทางกลับโลกเดิมได้ แต่ทำทุกคนถึงได้มาวุ่นวายกับเธอกันจัง
ตะวันตก,ผจญภัย,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,ดยุก,สวมร่าง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยายทันทีที่ลืมตาเธอพบว่าตัวเองได้มาอยู่ในร่าง “นาเซีย” นางร้ายที่กำลังจะพบจุดจบ เพียงแค่อยากมีชีวิตรอดจนกว่าจะหาทางกลับโลกเดิมได้ แต่ทำทุกคนถึงได้มาวุ่นวายกับเธอกันจัง
เมื่อหญิงสาวที่อาศัยอยู่ในโลกปัจจุบันได้ทะลุเข้ามาในโลกนิยายแฟนตาซีในร่างของ "นางร้าย" ที่โชคชะตากำหนดให้ถูกตัวร้ายชายฆ่าตาย เธอจึงต้องหาทางรอดพ้นจากจุดจบอันโหดร้ายนี้ แต่แทนที่เธอจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว เธอกลับพบว่าเหล่าตัวละครหลักทั้งหลาย ต่างพากันหันมาสนใจและเข้ามาในชีวิตของเธออย่างไม่คาดฝัน การต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตา และค้นหาความลับเบื้องหลังโลกใบนี้ เธอจะสามารถพลิกชะตาของนางร้ายและเปิดเผยความจริงที่ซ่อนอยู่ในโลกแห่งนี้ได้หรือไม่?
ฝากกดถูกใจ ให้กำลังใจนักเขียนด้วยค่ะ
เธอหยุดมองเพดานห้องที่อยู่สูงโคมไฟระย้าประดับด้วยหินเวทกำลังส่องสว่างราวแสงไฟ ดยุกกาบริเอลไม่ได้ต้องการที่จะนอนกับเธอ ร่างบางลุกพรวดเมื่อได้ยินเสียงร้องเหมือนเช่นคืนนั้น ดยุกกาบริเอลกำลังขาดสติ เธอควรทำเช่นไร เสียงร้องราวเจ็บปวดดูน่าสงสาร แต่หากเธอพลาดเข้าไปอาจรั้งโดนบีบคอได้เหมือนเช่นคราวก่อน แม้เสียงจะดังมาเป็นระรอกแต่ดูเหมือนจะคงไปไม่ถึงยังห้องพักคนรับใช้ นาเซียกำเสื้อคลุมอย่างไม่มั่นใจนัก เธอค่อย ๆ เดินตามทางเดินชั้นสองไปยังห้องทำงานของเขาที่อยู่ชั้นบนกว่า แสงไฟจากห้องทำงานเล็ดลอดออกมาเพียงริบหรี่ นาเซียมองร่างหนากำลังเอามือเกาะกุมศีรษะตัวเอง ‘เป็นไงเป็นกัน’ นาเซียคิด ถึงอย่างไรเธอก็ต้องหาทางช่วยเหลือเขาอยู่ดี นาเซียขยับตัวเดินผ่านประตูเข้าไปอย่างระมัดระวัง ก่อนแววตาเขาจะหันมาจ้อง ดวงตาสีแดงก่ำพร้อมรอยคราบน้ำตาดูน่าทรมาน ดยุกกาบริเอลสงบนิ่งไม่เหมือนคราวก่อน ดูเหมือนเขาพอยังคงได้สติอยู่บ้าง ก่อนร่างหนาจะขยับตัวลุกเดินตรงมาที่เธอ
หมับ!! มิกาเอลคว้าตัวเธอมากอด พร้อมริมฝีปากร้อนที่บดคลึงไปมา เพราะไม่ทันตั้งตัวเธอรู้สึกเหมือนทุกอย่างรอบตัวขาวโพลนไปหมด บรรยากาศรอบด้านก็รู้สึกวูบวาบชวนขนลุก มือหนาค่อย ๆ ประคองศีรษะของเธอเอาไว้ทั้งอีกแขนยังช่วยประคองตัวเธอให้มั่นคง มิกาเอลโน้มตัวเข้าใส่ราวกับพยายามจะบดขยี้ริมฝีปากเธอให้แหลกสลาย ลิ้นสากเกี่ยวดึงจนสายน้ำสีเงินไหลออกข้างมุมปาก
“เดี๋ยวก่อนท่านดยุก” นาเซียร้องห้าม แต่เขากลับอุ้มตัวเธอขึ้นเกี่ยวเอวสอบเขาไว้ นาเซียไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ตัวเธอกำลังนั่งทับขาทั้งสองขาของเขาบนโซฟาตัวใหญ่
“เซีย...กล่อมข้าที” เสียงทุ้มกล่าวกระซิบ นาเซียมองแววตาที่แดงก่ำ ดูเหมือนเขายังคงเจ็บปวด เส้นเลือดหนาที่ปูดขึ้นเป็นเส้นสองข้างขมับยังคงเต้นแรง เธอยกมือขึ้นลูบศีรษะเขาเล็กน้อยก่อนจะยกเรียวแขนเกี่ยวลำคอหนาของเขา ริมฝีปากอิ่มที่บดคลึงอย่างไม่ชำนาญนักดูแล้วสะเปะสะปะจนเขาต้องใช้มือประคองตรึงท้ายทอยลำคอระหงของเธอ เสื้อคลุมที่เธอคว้ามาคลุมทับชุดนอนตอนที่เดินออกมาถูกปลดออกเหลือเพียงชุดนอนซีทรูบาง ร่างอิ่มแอ่นรับเมื่อริมฝีปากครอบลงยอดอกที่กำลังชูชัน มิกาเอลลากลิ้นสากวนรอบผ่านเนื้อผ้าบางจนเปียกชื่น แม้นาเซียจะดูร่างแบบบางแต่ทรวงอกเธอกับอวบอิ่มพอดีมือ เขาคว้าบีบคลึงเบา ๆ ก่อนจะสอดมือไล้ผิวไปมา นาเซียรู้สึกเหมือนกับว่าผิวของเธอต้องไฟ ทุกครั้งที่มือนั่นลูบสัมผัสมันช่างร้อนผ่าวไปทั่วร่าง ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเรียวนิ้วยาวกำลังสอดลูบสัมผัสกับร่องกลีบด้านล่างทำให้เธอรีบดันขาเข้าหาการอย่างลืมตัว มิกาเอลพยายามที่จะเบี่ยงเบนความสนใจเธอด้วยการบดขึ้นริมฝีปากไปที่ยอดอกของเธอแรงขึ้น ก่อนจะใช้ปลายนิ้วหนึ่งสอดเข้าอย่างช้า ๆ ผ่านจุดที่ไวสัมผัส
“อร๊ะ” เสียงเล็กเล็ดลอดผ่านลำคอระหง เขาโน้มคอเธอลงบดจูบอีกครั้งราวเก็บเสียงที่หลุดลอย ในสมองของเธอตอนนี้แทบมองไม่เห็นสิ่งใด ทุกอย่างขาวโผลนไปหมด มีเพียงสัมผัสจากด้านล่างที่ชัดเจน ดูเหมือนเขาพยายามจะทำให้เธอคุ้นชินกับมันก่อนที่เนื้อท่อนเอ็นลำใหญ่จะปดออกมา นาเซียรับรู้สึกสัมผัสที่คับแน่นเธอพยายามจะยกสะโพกหนี แต่ฝ่ามือหนากับคว้ารั้งเอาไว้จนไม่อาจดิ้นหลุด มือหนากดสะโพกเธอลงพร้อมความแน่นอัดเต็มร่อง เสียงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันดัง ดูเหมือนร่างกายเธอจะยังไม่คุ้นชินกับส่วนด้านล่างของเขานัก ดยุกกาบริเอลโน้มใบหน้าคลอเคลียร์ลำคอทั้งยังเริ่มขบเม้มไปทั่วร่างกายเธอเบา ๆ นาเซียพยายามที่จะผ่อนคลายในขณะที่เขาพยายามที่จะดันส่วนลางเข้ามา ทันทีที่เธอผ่อนคลายสะโพกหนากลับกระแทกสวนขึ้น ทำเอาเธอถึงกับจุก
“เซีย...เจ้ายินดีที่จะอยู่เคียงข้างข้าใช่หรือไม่” เขายังคงกระซิบถาม น้ำเสียงสั่นกระเซ้าทำให้เธอไม่สามารถจดจ่อกับคำถามเขาได้ ในเมื่อด้านล่างยังคงขยับเข้าออกอยู่เนื่อง ๆ
“อร๊างงงง” นาเซียครางเสียง เธอไม่อาจฟืนกลั้นอดทนไว้ได้ร่างบางบิดกายรับจังหวะ เอวสอบขยับแรงขึ้นจนทั่วท้องเธอรู้สึกราวกับมีบางอยางกำลังขยับไปมา เมือกเหลวแทรกซึมช่วยให้ท่อนเนื้อลำใหญ่ขยับเข้าออกได้ง่าย
นาเซียทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มหลังจากที่เขาอุ้มพาเธอกลับมาที่ห้องนอน ดยุกกาบริเอลขยับตัวแนบชิดก่อนจะคว้าเอวกอด เสียงลมหายใจที่ปะทะใบหูของเธอทำให้รู้สึกจั๊กจี้ นาเซียพลิกตัวกลับก่อนถูกมือหนาคว้าตรึงท้ายทอยไว้แน่น ริมฝีปากอิ่มถูกดูดกลืนอีกครั้งราวกับไม่เพียงพอสำหรับเขา
นาเซียขยับตัวด้วยสัมผัสถึงแสงที่ส่องเข้ามาที่ใบหน้า ดูเหมือน มิกาเอลจะลุกออกไปเสียก่อนที่เธอจะตื่น นาเซียมองไปรอบ ๆ ก่อนจะสะดุ้งตัวเล็กน้อย มิกาเอลกำลังถือถาดอาหารเข้ามาที่เตียงนอน
“เซีย เจ้าอย่าเพิ่งลุกเลยเดี๋ยวข้าช่วยเจ้าแต่งตัวเอง” น้ำเสียงของเขาดูอ่อนโยน นาเซียมองใบหน้าคมคายของเขาก่อนหลุบตามองสำรวจตัวเองอีกที ‘อะไรกันทำไมมีฉันคนเดียวละที่อยู่ในสภาพนี้’ เส้นผมที่ฟูฟ่อง แววตาที่ยังคงดูไม่เต็มตื่น ชุดนอนหลุดลุ่ย เธอรู้สึกอายเสียจนอยากจะเอาตัวซุกกลับไปที่นอนเสียอีกครั้ง
จุ๊บ...มิกาเอลกดปลายจมูกโด่งมาที่แก้มของเธอก่อนจะกดมันอีกที ที่หน้าผาก นาเซียจ้องมองแววตาของเขาอย่างไม่คุ้นเคยนัก
“วันนี้ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าออกไปไหนนอกจากอยู่บนเตียงนี้ เซีย..ข้าไม่อยากห่างเจ้าเลย” เป็นครั้งแรกที่มิกาเอลกล่าวน้ำเสียงออดอ้อน นาเซีย กระพริบตามอง อะไรกันทำไมถึงทำท่าทางเช่นนี้กับเธอ แล้วท่าทางเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกัน นาเซียรู้สึกสับสนไปหมด ท่าทางที่เคยว่าดูเย็นชากลับดูอ่อนโยนราวคนละคน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูด้านนอก เขาหันไปมองเพียงครั้งก่อนจะหันกลับมาจูบริมฝีปากเธอเพียงครั้ง และลุกเดินออกไป นาเซียรอบมองไปที่ประตู ลอร์ดเฮนรี่กำลังยืนรอ ดูเหมือนเขามีงานสำคัญต้องรีบไปทำ นาเซียมองถาดอาหารที่มีซุปข้าวโพดวางอยู่พร้อมขนมปังอีกชิ้น เธออดคิดถึงเรื่องราวในค่ำคืนไม่ได้ ท่าทางแข็งกร้าวราวสัตว์ป่าของเขาทำให้ทั่วท้องของเธอรู้สึกร้อนวูบ ‘อะไรกัน นี่ฉันกำลังคิดอะไรอยู่’ นาเซียปัดความคิดออกไป ก่อนจะตักซุปชิม
นาเซียใช้ความคิดในขณะที่เธอออกมานั่งอยู่ที่สวนในเรือนกระจก ดูเหมือนว่ามิกาเอลมั่นใจแน่นอนแล้วว่าเธอจะต้องใช้สวนนี้เป็นที่พักผ่อนอย่างแน่นอน ถึงได้เคลื่อนย้ายมันมาไว้ที่ปราสาทเขาตามอำเภอใจ นาเซียรู้สึกว่าไม่ใช่เพียงความโหดเหี้ยมเย็นชาที่เขามี แต่มิกาเอลกลับมีอีกด้านที่ผู้ใดก็ไม่อาจได้เห็น นาเซียเอนตัวอิงกับพนักเก้าอี้ก่อนหลับตาลง เธอพยายามใช้เพียงสัมผัสจากกลิ่นหอมของดอกลาเวนเดอร์ช่วยผ่อนคลายความคิดฟุ้งซ่าน หากเรื่องราวเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น อย่างน้อยเธอก็พอยืดหยุ่นการคิดหาวิธีกลับคืนไปโลกเดิมอีกสักระยะหนึ่งก็ยังได้