ทันทีที่ลืมตาเธอพบว่าตัวเองได้มาอยู่ในร่าง “นาเซีย” นางร้ายที่กำลังจะพบจุดจบ เพียงแค่อยากมีชีวิตรอดจนกว่าจะหาทางกลับโลกเดิมได้ แต่ทำทุกคนถึงได้มาวุ่นวายกับเธอกันจัง
ตะวันตก,ผจญภัย,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,ดยุก,สวมร่าง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยายทันทีที่ลืมตาเธอพบว่าตัวเองได้มาอยู่ในร่าง “นาเซีย” นางร้ายที่กำลังจะพบจุดจบ เพียงแค่อยากมีชีวิตรอดจนกว่าจะหาทางกลับโลกเดิมได้ แต่ทำทุกคนถึงได้มาวุ่นวายกับเธอกันจัง
เมื่อหญิงสาวที่อาศัยอยู่ในโลกปัจจุบันได้ทะลุเข้ามาในโลกนิยายแฟนตาซีในร่างของ "นางร้าย" ที่โชคชะตากำหนดให้ถูกตัวร้ายชายฆ่าตาย เธอจึงต้องหาทางรอดพ้นจากจุดจบอันโหดร้ายนี้ แต่แทนที่เธอจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว เธอกลับพบว่าเหล่าตัวละครหลักทั้งหลาย ต่างพากันหันมาสนใจและเข้ามาในชีวิตของเธออย่างไม่คาดฝัน การต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตา และค้นหาความลับเบื้องหลังโลกใบนี้ เธอจะสามารถพลิกชะตาของนางร้ายและเปิดเผยความจริงที่ซ่อนอยู่ในโลกแห่งนี้ได้หรือไม่?
ฝากกดถูกใจ ให้กำลังใจนักเขียนด้วยค่ะ
ประตูทางเดินชั้นใต้ดินถูกเปิดโดยลอร์ดเควินบัตเลอร์ของปราสาทกาบริเอล แสงไฟส่องสว่างเป็นทางบันไดลึกลงไป ดูเหมือน มิกาเอลกำลังซ่อนบางอย่างไว้ที่นี่ นาเซียก้าวเท้าลงอย่างช้า ๆ แม้จะรู้สึกว่าอากาศรอบตัวจะชื้นเย็นเช่นไร แต่เธอก็ยังคงค่อย ๆ เดินลงไปตามบันไดนั้นราวอยากรู้ ประตูไม้อีกชั้นมีแสงส่องสว่างแผ่กระจาย ‘หินเวทส่องสว่าง’ มือเรียวผลักประตูเปิดออก ชั้นไวท์ถูกจัดเป็นระเบียบ เธอหรี่ตาลงอย่างสงสัยพลางขมวดคิ้วมองดู ‘อ่า...ห้องเก็บไวท์นี่เอง’ เธออยากจะเอามือตีตัวเองนัก ของสำคัญขนาดนี้ย่อมต้องเก็บไว้ในที่ มิดชิดกว่านี้นาเซียเดินคอตกกลับขึ้นมาก่อนจะชนเข้ากับแผล่งอกใครบางคน
“ทะ...ท่านดยุก!!” นาเซียอุทานด้วยความตกใจ เมื่อใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงเข้ามาใกล้
“เซีย เจ้าลงไปด้านล่างทำไม” น้ำเสียงนุ่มนวลกลับดูเย็นยะเยือก มิกาเอลยังคงจดจ้องแววตาเธอ มือของเธอตอนนี้รู้สึกเหมือนมีเม็ดเหงื่อแทรกซึมเมื่อกำลังรู้สึกว่าตนกำลังถูกสอบความผิดครั้งนี้
“ฉัน…ฉันเห็นสาวใช้บอกว่าปราสาทท่านดยุกมีไวท์ชั้นดี ฉันแค่อยากเพียงลองชิมเท่านั้นค่ะ” เสียงตอบสั่นไหวเล็กน้อย นาเซียรีบหาข้ออ้าง แต่เขากลับโน้มตัวมองไปยังด้านหลังของเธอก่อนเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“แล้วไหนไวท์ที่เจ้าอยากดื่ม” เขาถาม
“มันเยอะเกินไป ฉันเลือกไม่ถูก” รอยยิ้มแห้ง ๆ ฟืนออกมาบนใบหน้าที่ดูซีด นาเซียรู้สึกได้ว่ากำลังถูกสงสัย เธอจะทำอย่างไร
“ท่าทางของเจ้าเหมือนจะ....”
“ข้าอยากกลับไปพบท่านพ่อ!!” นาเซียรีบเอ่ยแทรกเสียงดัง
“เจ้ากำลังหาหินเคลื่อนย้ายอย่างนั้นซินะ” มิกาเอลเหยียดยิ้มก่อนเอาแขนรวบเอวเธอตรึงแนบเอวสอบของเขา
“ชะ...ใช่ค่ะ” แม้จะมีส่วนไม่จริงบ้าง เธอแนบศีรษะไปที่แผลงอกของเขา เสียงหัวเราะในลำคอดังแผ่ว เขาจะจับเธอขังไว้ที่ใดหรือไม่ นาเซียรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะกลายเป็นนักโทษ
“หากเจ้าต้องการกลับไปคฤหาสน์ดาร์เรลย่อมได้ แต่ข้าจะไปด้วยกับเจ้า” มิกาเอลกล่าวพร้อมซ้อนตัวเธอขึ้นอุ้ม
“อะ!!...ท่านดยุก” เรียวแขนบางรีบยกคว้าลำคอเขาไว้มั่น ริมฝีปากประกบแนบแก้มอิ่มเพียงครั้ง นาเซียหลุบตาหลบด้วยความเขินอาย
“ไว้เจ้าพักหายเหนื่อยเมื่อไหร่ ข้าจะพาเจ้าไปคฤหาสน์ดาร์เรลเอง” เอ่ยจบเขาร่างสูงก็ก้าวขาเดินทั้งยังอุ้มตัวเธอเดินกลับมายังห้องนอน อันวิ่งสวนมา นางรีบหยุด และโน้มตัวโค้ง อันเหลือบมองมาที่นาเซียด้วยแววตาสงสัย แต่ตอนนี้เธอกลับให้คำตอบแก่อันไม่ได้ นาเซียได้แต่ซุกใบหน้าตัวเองลงแผลงอกกำยำที่มีมัดกล้ามกระชับแน่น เธออายสายตาเหล่าผู้รับใช้เสียจนไม่กล้าสบตา มิกาเอลดูเอาอกเอาใจเธอเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรกันทำให้ตัวร้ายเช่นเขาดูเปลี่ยนไป
“ค่อยยังชั่ว ข้าคิดว่าเมื่อคืนข้าทำเจ้าแรงเกินไป” มิกาเอลเอ่ยทั้งมือยังคงเปิดไหล่เธอมองดู รอยเขี้ยวที่ฝังลงเป็นรอยจาง ๆ เขาก้มลงประทับรอยจูบอย่างปลอบโยนทั้งยังเอาศีรษะคอเคลียร์ลำคอเธอจนรู้สึกจั๊กจี้
“ฮ่า ฮา ...พอเถอะค่ะ” นาเซียหลุดหัวเราะออกมาเมื่อเส้นผมสีดำเงานุ่มนิ่มของเขามันสีไปมาข้างแก้ม
“เซีย เจ้ายังต้องการตำแหน่งราชินีอยู่หรือไม่” อยู่ ๆ เขาก็เอ่ยถึงเรื่องตำแหน่งที่นาเซียเคยต้องการ ไม่แปลกที่เขาจะยังคงสงสัย เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา นาเซียคนก่อนนางพยายามทุกอย่างเพื่อตำแหน่งราชินีแห่งแคลบอร์น เพราะความมั่นคงของตระกูลดาร์เรลแล้วละก็นางพยายามผลักดันตัวเองแม้กระทั่งการกีดกันเซลีนนางเอกของเรื่อง แต่สำหรับเธอในตอนนี้ตำแหน่งนั้นไม่ได้สลักสำคัญใด ๆ เลย นาเซียเหลือบมองจ้องตาเขา หากเธอตอบว่าต้องการแล้วละก็ เขาจะทำเช่นไรกัน
“หากข้าต้องการ ท่านดยุกทำเช่นคะ” เธอลองเอ่ยแหย่เขาดู แววตา มิกาเอลดูกระตุกเล็กน้อย
“หากเจ้าต้องการ ข้าจะมอบมันให้แก่เจ้าตำแหน่งราชินีนั่น” น้ำเสียงที่ดูจริงจัง แววตาที่จ้องมองลึกลงไป นาเซียรู้สึกเหมือนกำลังถูกเอาอกเอาใจ นี่เขาพยายามเพราะไม่ต้องการให้เธอไปยุ่งกับเซลีนซินะ
“เลดี้เซลีน ท่านยังต้องการนางหรือไม่” นาเซียยกยิ้มมุมปาก เธออยากรู้นักว่าหากเธอเอ่ยชื่อเซลีนแล้วเขาจะทำเช่นไร
“ห้ามเจ้าเอ่ยถึงชื่อนี้อีก ข้าจะคอยมองนางเอง” ดยุกกาบริเอลลุกยืน ใบหน้าดูโกรธอย่างเห็นได้ชัด นาเซียกำชายกระโปรงแน่นแววตาเธอหลุบลงไม่กล้าสบตาเขาเหมือนรู้สึกผิด แต่ภายในใจเธอตอนนี้กลับเต้นแรง หรือเพราะเขาเอ่ยห้ามเธอกล่าวถึงเซลีน ทำไมกันถึงทำให้หัวใจเธอนั้นราวถูกบีบและความน้อยเนื้อต่ำใจคืออะไร นาเซียพยายามข่มอารมณ์ไม่แสดงสีหน้าความไม่พอใจออกมา เพราะการกระทำเช่นนั้นราวกับว่าเธอกำลังเป็นตัวร้ายอย่างนาเซียตัวจริง
“ฉันก็แค่สงสัย หากท่านให้เลดี้เซลีนช่วยรักษานางย่อมทำได้ดีกว่าฉันแน่ค่ะ” นาเซียลุกยืนขึ้นอย่างเร็วก่อนจะรีบเดินหนี เพราะเธอกลัวว่าเขาจะเห็นสีหน้าที่กำลังขุ่นเคืองของเธอได้
หลังจากที่เธอกล่าวถามเรื่องเซลีนออกไป มิกาเอลก็ไม่ได้กลับมาที่ปราสาทดูเหมือนเขาจะมีเรื่องที่ต้องจัดการ นาเซียได้รับจดหมายจากลาฟาซรับเชิญร่วมงานเลี้ยงน้ำชา ครั้นจะปฏิเสธว่าไม่สะดวกรถม้าจากทางราชวังก็หยุดรออยู่ด้านหน้าปราสาทดยุก อันเร่งจัดการชุดให้แก่เธออย่างรู้งาน ไม่ช้ารถม้าก็มายังพระราชวังฝั่งตะวันตก ที่เป็นที่พักองค์รัชทายาทอย่างเขา งานเลี้ยงน้ำชาถูกจัดเช่นนี้เป็นประจำหากเซลีนต้องการเขาย่อมยินดีทำให้แก่นางเสมอ นาเซียมองเซลีนในชุดเปิดไหล่สีเหลืองอ่อน นางกำลังรินน้ำชาให้กับบุตรสาวของไวเคาต์แรนิเยร์ ซาร่า แรนิเยร์ นางคือคนรักของอานิชโต เช่นนั้นไม่ต้องสงสัยว่านางจะเป็นมิตรกับนาเซียหรือไม่ แต่ทันทีที่ซาร่าได้ข่าวการแต่งงานของเธอกับดยุกกาบริเอล แววตาที่จ้องมองมาก็ดูแตกต่างออกไป แววตายาวเรียวเชิดหน้านิ่ง
“ดัชเชสกาบริเอลเชิญค่ะ” เซลีนกล่าวพร้อมรอยยิ้มสดใส นาเซียเหยียดยิ้มเล็กน้อยพอเป็นพิธี เมื่อกวาดสายตามองบุตรี และภริยาขุนนางล้วนแต่มองเธอแปลกไป ยังไม่ทันที่นาเซียจะได้นั่ง มหาดเล็กก็วิ่งมาตามให้เธอไปห้องทรงงานขององค์รัชทายาททันที นั่นทำให้สีหน้าที่ยิ้มแย้มของเซลีนเมื่อครู่ดูลดลงไป
นาเซียเดินตามมหาดเล็กก่อนจะหยุดยืนหน้าประตูห้องทรงงานบานใหญ่สีงาช้างประดับด้วยอัญมณีและทับทิมสีแดงสวย เธอมองความ โอ่อ่าสมกับเป็นที่ประทับราชวงศ์นั้นอย่างลืมตัว ลาฟาซที่กำลังยืนอยู่ด้านในจึงต้องขยับตัวเรียกเมื่อมหาดเล็กส่งสัญญาถึงตัวตนเธอ
“เข้ามาก่อนซิดัชเชส”
“ถวายพระพรอาทิตย์ดวงน้อยแห่งจักรวรรดิแคลบอร์นเพคะ” นาเซียกล่าวทักทายเมื่อเดินเข้ามาในห้อง เธอเหลือบมองบุรุษสูงโปร่งด้านข้างลาฟาซ วิลเลี่ยมยืนสงบนิ่ง แต่เธอกลับยิ้มทักทายเขาอย่างคุ้นเคย แม้จะไม่ได้การตอบรับก็ตาม นาเซียนั่งลงที่โต๊ะด้านหน้าโต๊ะทำงานของลาฟาซ วิลเลี่ยมเดินหลบออกไปเมื่อลาฟาซสะบัดมือโบกไล่ นาเซียมองตามแต่ลาฟาซใช้ตัวเขายืนบัง เธอหันมาสบตากับลาฟาซอีกครั้ง ใบหน้าที่โน้มเข้ามาใกล้ ทำเธอตกใจจนต้องรีบเอียงตัวออก
“อาณาเขตกาบริเอลเป็นอย่างไรบ้าง” ลาฟาซโน้มใบหน้ามาถาม
“ฝ่าบาทหมายถึงเรื่องอะไรเพคะ” นาเซียขมวดคิ้วมุนกับคำถามของเขา
“เจ้าหักหลังข้างั้นรึ” อยู่ ๆ ลาฟาซก็กล่าวว่าเธอ เธอทำอะไรที่เป็นการเอ่ยบอกว่าเธอนั้นหักหลังเขากัน
“หม่อมฉันนะหรือเพคะ ที่หักหลังฝ่าบาท” เธอย้ำทั้งยังเอานิ้วชี้จิ้มไปที่ตัวเอง
“นาเซีย เป็นเจ้ามิใช่รึที่เอ่ยร้องขอตำแหน่งราชินีนั่น ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าแต่งงานกับมิกาเอล ข้าก็คงไม่ต้องทำสัญญาหมั้นหมายกับองค์หญิงแห่งซายาหรอก” ลาฟาซคว้าไหล่บีบและกดตัวเธอนั่งลงที่โซฟาด้านหลัง นาเซียสะบัดตัวออกก่อนจะลุกยืน ท่าทางของเขาดูน่ากลัวต่างกับมิกาเอลมาก แต่หากเรื่องที่นาเซียคนก่อนละก็เธอมั่นใจว่านางคงไม่ต้องการตำแหน่งเพียงการเป็นราชินีแน่ เพราะนาเซียนั้นรักลาฟาซมานาน คงเพราะนางถูกปลูกฝังมาตลอดว่านางจะต้องเป็นสตรีที่แต่งงานกับลาฟาซเท่านั้น
“ฝ่าบาทคิดว่าหม่อมฉันต้องการเพียงตำแหน่งนั้นหรอกหรือเพคะ ฝ่าบาทไม่ได้ใส่ใจหม่อมฉันสักนิด เช่นนั้นหม่อมฉันยังต้องการตำแหน่งนั้นไปเพื่ออะไรกัน”
“เจ้าหมายความว่าไง”
“หม่อมฉันยอมรับมิได้เพคะ หากหม่อมฉันเป็นราชินี แล้วเลดี้เซลีนเป็นมเหสี” นาเซียกล่าวตามความจริง นาเซียเองนางก็คงคิดเช่นนี้
“แล้วทำไมเจ้าไม่บอกข้าว่าเจ้าไม่ต้องการ” สีหน้าลาฟาซดูเปลี่ยนไป แววตาของเขาที่จับจ้องดูคล้ายมิกาเอลอยู่มาก นาเซียผลักตัวเองออก
“นั่นก็เพราะฝ่าบาทควรที่จะรู้เพคะ” นาเซียยกมือห้ามเมื่อเขาขยับเข้าใกล้ ประตูเปิดออกมิกาเอลยืนมองมาทางเธอและลาฟาซ แววตาของเขาราวกับลูกไฟที่กำลังจ้องมองสองตาเธออย่างไม่ไหวติง ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป เธอจ้องมองตามแผ่นหลังของเขาที่เดินจากไป ความเจ็บปวดราวกับค้อนทุบมือเรียวทั้งสองข้างเธอกำแน่นอย่างพยายามสะกดกั้นความเจ็บปวดนั่น เกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมเธอต้องแคร์สายตาเย็นชาเช่นนั้นของเขา แม้ลาฟาซจะรั้งดึงแขนเธอไว้แต่เธอก็สะบัดออกก่อนจะวิ่งตามมิกาเอลที่เดินออกไปไกล