ทันทีที่ลืมตาเธอพบว่าตัวเองได้มาอยู่ในร่าง “นาเซีย” นางร้ายที่กำลังจะพบจุดจบ เพียงแค่อยากมีชีวิตรอดจนกว่าจะหาทางกลับโลกเดิมได้ แต่ทำทุกคนถึงได้มาวุ่นวายกับเธอกันจัง
ตะวันตก,ผจญภัย,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,ดยุก,สวมร่าง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยายทันทีที่ลืมตาเธอพบว่าตัวเองได้มาอยู่ในร่าง “นาเซีย” นางร้ายที่กำลังจะพบจุดจบ เพียงแค่อยากมีชีวิตรอดจนกว่าจะหาทางกลับโลกเดิมได้ แต่ทำทุกคนถึงได้มาวุ่นวายกับเธอกันจัง
เมื่อหญิงสาวที่อาศัยอยู่ในโลกปัจจุบันได้ทะลุเข้ามาในโลกนิยายแฟนตาซีในร่างของ "นางร้าย" ที่โชคชะตากำหนดให้ถูกตัวร้ายชายฆ่าตาย เธอจึงต้องหาทางรอดพ้นจากจุดจบอันโหดร้ายนี้ แต่แทนที่เธอจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว เธอกลับพบว่าเหล่าตัวละครหลักทั้งหลาย ต่างพากันหันมาสนใจและเข้ามาในชีวิตของเธออย่างไม่คาดฝัน การต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตา และค้นหาความลับเบื้องหลังโลกใบนี้ เธอจะสามารถพลิกชะตาของนางร้ายและเปิดเผยความจริงที่ซ่อนอยู่ในโลกแห่งนี้ได้หรือไม่?
ฝากกดถูกใจ ให้กำลังใจนักเขียนด้วยค่ะ
“ท่านดยุก..” นาเซียไล่เสียงตามเขา แต่ร่างสูงยังคงสงบนิ่ง ‘ไม่ไหว เขาเดินเร็วเกินไป’ นาเซียยกมือเท้าสะเอวหายใจหอบ ลาฟาซเดินตามก่อนจะคว้าต้นแขนของเธอ
“นาเซีย ข้ายังกล่าวไม่จบ” ลาฟาซรั้งแขนเธอไว้ แววตาคมที่สะท้อนความไม่พอใจปลายจมูกที่ดูแดงเพราะโกรธเคือง นาเซียมองแผ่นหลังของ มิกาเอลก่อนจะหันมองหน้าลาฟาซ
“ไม่ มันจบแล้ว ฉันแต่งงานแล้ว กรุณาปล่อยแขนฉันด้วยเพคะ” นาเซียสะบัดน้ำเสียงใส่ เธอไม่เข้าใจว่าลาฟาซต้องการสิ่งใดจากเธอกันแน่ หากจะบอกว่าลาฟาซชอบเธอก็คงไม่ใช่ เพราะในเรื่องราวบอกไว้อย่างชัดเจนว่าผู้ที่กุมหัวใจของลาฟาซมีเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือเซลีน
“ได้โปรดเจ้าคือผู้เหมาะสมที่สุดนาเซีย เจ้าอย่าทำอะไรที่เป็นการประชดข้าเลย ข้ารู้ว่าใจของเจ้าเป็นเช่นไรนาเซีย” เสียงของเขาดังก้องในหูของเธอ เธอกำลังฟังเสียงของเขาโดยไม่รู้ว่าเขาหมายถึงสิ่งใดกัน เหมาะสม จนถึงสุดท้ายแล้วลาฟาซก็ยังคงเห็นแก่ตัว นาเซียกัดเม้มริมฝีปากเล็กน้อยก่อนแกะมือเขาออกอย่างช้า ๆ
“บ้าไปแล้วหรือไง...!!” เธอสบถน้ำเสียงอย่างไร้มารยาท พร้อมผลักตัวเขาออก
“เกิดอะไรขึ้นเพคะ” เซลีนที่ยืนอยู่ห่างออกไปเอ่ยขึ้น เซลีนกำลังเดินเข้ามาที่คนทั้งสองยืน นาเซียไม่รอให้เสียเวลาอธิบาย เธอหลบตัวเดินออกมาจากตรงนั้นทันที
มิกาเอลยืนนิ่งก่อนจะหันกลับไปมองคนทั้งสองอีกครั้ง หากไม่ใช่ว่าองค์จักรพรรดิเรียกเข้าเฝ้า เขาก็คงไม่รู้เลยว่าตอนที่เขาไม่อยู่นาเซียนั่นได้แอบออกมาพบลาฟาซ มิกาเอลทุบกำปั้นแรงไปที่ต้นไม้ใหญ่ ทั้งที่เขาพยายามจะไม่ใส่ใจผู้หญิงคนนั้นแล้ว แต่พอเห็นแววตากลมจ้องมองอย่างสนใจมันทำให้เขารู้สึกอดใจอ่อนไม่ได้อยู่ดี การแต่งงานที่ดูเหมือนจะบีบบังคับ เขาก็เหมือนสุนัขรับใช้ที่ไม่อาจขัดขืนได้ จักรพรรดิพุชคาเรนต้องการให้เขาทำงานแทนมือ และขาของเขา ทันทีที่ข้อเสนอจากจักรวรรดิซายาส่งมามันคือผลประโยชน์ราวทองคำ จักรพรรดิก็ต้องการให้เขากำจัดสตรีที่อยู่ข้าง ๆ ลาฟาซเสียให้หมด เพื่อให้ลาฟาซได้อภิเษกกับองค์หญิงแห่งซายา แม้เซลีนจะดูเป็นสตรีที่อ่อนไหวแต่นางก็ฉลาดมาก ผิดกับนาเซียที่เอาแต่เกรี้ยวโกรธวิ่งตามลาฟาซจนเขาจับทางได้ไม่ยาก เขายอมที่จะเสียสละตำแหน่งดัชเชสให้แก่นางแล้วแท้ ๆ แต่นางก็ยังไม่สำนึกพึงพอใจ มิกาเอลสบกร้ามจนขึ้นลูก สำหรับเขาแล้วทุกอย่างล้วนเป็นไปตามที่จักรพรรดิต้องการทั้งสิ้น
หิมะโปรยแรงเธอยืนมองออกไปยังด้านนอกปราสาท มิกาเอลยังคงไม่กลับมาเช่นเดิมหลังจากที่เธอพบเขาที่หน้าห้องทำงานลาฟาซ
“มาดามคะ ดิฉันว่ามาดามควรพักผ่อนเสียหน่อยนะคะ” อันยกชุดกาแฟเข้ามาให้ อาณาเขตกาบริเอลทำการที่หลากหลาย เมล็ดกาแฟก็คือส่วนหนึ่งที่เพิ่งส่งเข้ามา แม้ราคาจะค่อนข้างสูงอยู่สักหน่อย นาเซียพยายามที่จะศึกษาเอกสารเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดของกาบริเอล แต่ดูเหมือนว่ามันจะมากเกินไปสำหรับเธอในตอนนี้ ลอร์ดเควินยังคงใจดีค่อยให้กำลังใจเธอเสมอ ไม่ช้าเธอก็ได้ยินเสียงม้าจำนวนหนึ่งวิ่งเข้ามา นาเซียรีบวิ่งลงไปดู ใบหน้าซูบผอมผิวขาวซีดตัดสีดำของเส้นผมที่เปียกลู่ลง หิมะค่อนข้างแรงริมฝีปากเขาดูซีดลงอย่างเห็นได้ชัด ภายหลังแผ่นหลังกว้าง สตรีท่าทางราวกับอัศวินหนึ่งปรากฏกายขึ้น นาเซียจ้องมองสตรีตรงหน้าก่อนเก็บความสงสัยนั้นไว้เสียก่อน
“ท่านดยุก” นาเซียที่กำลังจะเข้าไปเกาะแขนเขากลับถูกมือเขาปัดเต็มแรง ยังดีที่ลอร์ดเฮนรี่ช่วยประคองตัวเธอไว้
“ขอบคุณค่ะ” นาเซียหันมากล่าวขอบคุณเฮนรี่ก่อนมองตามแผ่นหลังของเขา ที่มีสตรีร่างระหงเดินเคียงข้างดูช่างเหมาะสมกับเขานัก
นาเซียถือถาดน้ำชาเพื่อนำเข้ามาให้แก่เขาเอง มิกาเอลกำลังนั่งตัวตรงมองเอกสารในมือ ในขณะที่สตรีอีกคนกำลังเอนตัวพิงพนักเก้าอี้โซฟาอย่างสบายใจ เธอมองใบหน้าที่ขาวซีดของเขาดูมีเลือดขึ้น คงเพราะความอบอุ่นจากเตาพิงด้านห้องทำงานกำลังลุกโชนราวกับจิตใจเธอในตอนนี้ นาเซียพยายามขบเม้มริมฝีปากล่างตน เพื่อไม่ให้เธอต้องมีกิริยาท่าทางดั่งเช่นนางร้าย เธอรู้ว่านี้อาจเป็นนิสัยลึก ๆ ของร่างนี้หาใช่จิตใจของเธอไม่
“ฉันเตรียมน้ำชามาให้ท่านดยุกค่ะ” นาเซียวางมันลงก่อนจะรินส่งให้กับสตรีตรงหน้า แม้นางจะไม่เอ่ยแนะนำตนเอง แต่เธอก็เลือกที่จะปล่อยผ่านในเมื่อเธอนั้นแค่กำลังแสดงหน้าที่ของดัชเชสกาบริเอลให้ดูสมบูรณ์เพียงเท่านั้นเอง
“ดัชเชสช่วยจัดเตรียมห้องนอนไว้ให้นางที” มิกาเอลเอ่ยทักขึ้น แม้มือจะสั่นไปบ้างเล็กน้อย แต่เธอก็รีบชักมันกลับก่อนจะกุมมือตนเองไว้
“ค่ะ...” เธอยกมุมปากให้ดูราวกับยินดี ก่อนจะเร่งฝีเท้าให้ออกจากห้องนี้อย่างไม่รีรอ
“นั่นเลดี้อีวอนนี่คะ” อันเอียงศีรษะมองเข้าไปในห้องทำงานเขา ก่อนจะเอ่ยถามเบาๆ เธอไม่รู้หรอกว่าเลดี้อีวอนคือใคร เธอรู้เพียงแค่ว่านางติดตามมิกาเอลมาก็เท่านั้นเอง
“นางคือใครเหรอ” นาเซียถามอันอย่างสงสัยในขณะที่เดินออกมา
“เลดี้อีวอนนางคือน้องสาวลอร์ดเฮนรี่ นางมีฝีมือที่เก่งกาจช่วยเหลือท่าน ดยุกในการปราบสัตว์ปีศาจอยู่บ่อย ๆ นาน ๆ ครั้งนางจะมาพักที่ปราสาทนี้ค่ะ” อันแนะนำ ดูเหมือนพวกเขาจะเป็นเพื่อนสนิทกัน นาเซียเดินลงไปสำรวจเสบียงที่เพิ่งมาส่ง เธอตรวจนับสินค้าพวกนั้นอย่างคล่องแคล่ว เพราะเรื่องเช่นนี้เธอคุ้นเคยดี ก่อนที่เธอจะมาอยู่ในร่างนี้เธอก็เป็นพนักงานขายของในห้าง การตรวจเช็คสินค้าย่อมคือสิ่งที่เธอถนัด
“เลดี้อีวอนมาแล้วดูท่าท่านดยุกคงจะอารมณ์ดีขึ้นมาก” เสียงหนึ่งดังแว่ว นาเซียยังคงก้มหน้าก้มตาในการดูสินค้า
“แล้วอย่างนี้มาดามจะว่าเช่นไรกัน”
“พวกเจ้าอย่างเอ็ดไป ข่าวที่ว่านางนั้นร้ายกาจเช่นไรเจ้าไม่รู้หรือไง”
“แต่ข้าไม่เห็นว่านางจะทำอะไรเลย”
“แววตาของนางกำลังสำรวจพวกเจ้าอยู่รู้ไหม” นาเซียเผลอทำมันฝรั่งหยุดมือลงเล็กน้อยเมื่อเสียว่าร้ายดังผ่านหู ดูเหมือนว่าการที่เธอไม่ลงมือทำอะไรเลยก็เหมือนเป็นการกำลังจับผิดพวกเขาอยู่สินะ ภาพลักษณ์ตัวละครร้ายต่อให้สงบนิ่งเพียงใดก็ยังดูไม่ดีเสมอ
“หากพวกเจ้ายังคงกล่าวอยู่เช่นนั้น ก็เตรียมหางานใหม่กันไว้ละกัน” นาเซียหันหลังมาตำหนิสาวใช้สี่ห้าคนที่ยืนอยู่ไม่ไกล เพียงแค่เธอเอ่ยเท่านี้พวกนางต่างก็แตกกระจายไปคนละทิศละทาง
“ฟู...นี่เราต้องร้ายขนาดไหนกัน แค่จ้องตาคนรับใช้ก็วิ่งเผ่นกันหมด” นาเซียถอนหายใจเอ่ยถามตัวเองก่อนจะเดินกลับมายังห้องทำงาน
นาเซียก้มมองโหลแก้วที่บรรจุทรายจนเต็ม ดูเหมือนมันจะหายไปกว่าเกินครึ่ง นาฬิกาทรายคือสิ่งบอกเวลาในยามนี้ เธอใช้เวลาหมดไปกับการเคลียร์บัญชีสินค้ามากมาย ไหล่ทั้งสองข้างเริ่มตึงขึ้นมา ร่างบางลุกออกจากเก้าอี้ก่อนจะกลับมายังห้องนอนที่แม้จะเคยเป็นห้องของเขาก็ตาม แต่ดูเหมือนตอนนี้จะเป็นเธอเสียส่วนใหญ่ที่ครอบครอง
“ทะ...ท่าน!!” เธอหลุดอุทานเมื่อร่างสูงเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ กล้ามท้องที่ดูอัดแน่นจนขึ้นลูก เธอแทบไม่อยากที่จะละสายตา แต่ก็เกรงว่าเขาจะโมโห เธอจึงหันตัวเพื่อหลบให้เขา แต่ร่างสูงกลับเดินมาข้างเธอจนใกล้
“ตำแหน่งดัชเชสที่ข้าให้ คงไม่เพียงพอสินะ” เสียงขบฟันกรามดังกร๊อดก่อนที่เขาจะจับตัวเธอหมุนให้สบตา
“เรื่องที่ฉันไปพบองค์รัชทายาทในตอนนั้นฉันอธิบายได้”
“เจ้าไม่ต้องอธิบายใด ๆ ทั้งสิ้น ข้ารู้ดีว่าถึงอย่างไรลาฟาซก็คือคนที่เจ้าต้องการมากที่สุด” แรงบีบจากปลายมือเขาทำให้ไหล่เธอรู้สึกเจ็บเล็กน้อย
“ไม่ใช่ ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้สนใจตำแหน่งว่าที่ราชินีนั่นแล้ว ท่านดยุกกำลังเข้าใจผิด” ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำให้เธอต้องกล่าวเช่นนั้น แต่ดูเหมือนแววตาเขาจะวูบไหวเล็กน้อย
เป็นครั้งแรกที่เธอเพิ่งได้รับจดหมายจากคฤหาสน์ดาร์เรล มันลงชื่อว่าอานิชโตพี่ชายของเธอ นาเซียนั่นมองอยู่ครู่หนึ่งอย่างสงสัยก่อนจะเปิดมันออก
//เซียที่รัก พี่ได้ตรวจสอบถึงสิ่งไม่ชอบมาพากลแล้ว เรื่องที่เจ้าได้แต่งงานกับดยุกกาบริเอลล้วนเป็นคำสั่งขององค์จักรพรรดิทั้งสิ้น พี่เป็นห่วงน้องเหลือเกินเซีย ดยุกกาบริเอลเป็นผู้รับใช้จักรพรรดิแคลบอร์นเขาทำงานให้แก่พระองค์ทั้งสิ้น องค์รัชทายาทมีสัญญาหมั้นหมายกับองค์หญิงซายา เซียเจ้าดูแลตนเองให้ดี พี่จะไปรับเจ้ากลับแน่ อานิชโตพี่ที่รักเจ้า// นาเซียพับจดหมายเก็บเข้าซองดังเดิม และเธอเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นความจริง อานิชโตคือเลขาคนสนิทที่ใกล้ชิดจักรพรรดิแคลบอร์นที่สุด อาณาจักร ซายาเป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองไม่แปลกที่จักรพรรดิจะหันหลังให้แก่ตระกูลดาร์เรลทั้งที่เคยเป็นแหล่งเงินทุนที่อุ้มชูพวกเขามานาน