ทันทีที่ลืมตาเธอพบว่าตัวเองได้มาอยู่ในร่าง “นาเซีย” นางร้ายที่กำลังจะพบจุดจบ เพียงแค่อยากมีชีวิตรอดจนกว่าจะหาทางกลับโลกเดิมได้ แต่ทำทุกคนถึงได้มาวุ่นวายกับเธอกันจัง
ตะวันตก,ผจญภัย,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,ดยุก,สวมร่าง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Please help me ช่วยฉันทีฉันไม่อยากอยู่ในโลกนิยายทันทีที่ลืมตาเธอพบว่าตัวเองได้มาอยู่ในร่าง “นาเซีย” นางร้ายที่กำลังจะพบจุดจบ เพียงแค่อยากมีชีวิตรอดจนกว่าจะหาทางกลับโลกเดิมได้ แต่ทำทุกคนถึงได้มาวุ่นวายกับเธอกันจัง
เมื่อหญิงสาวที่อาศัยอยู่ในโลกปัจจุบันได้ทะลุเข้ามาในโลกนิยายแฟนตาซีในร่างของ "นางร้าย" ที่โชคชะตากำหนดให้ถูกตัวร้ายชายฆ่าตาย เธอจึงต้องหาทางรอดพ้นจากจุดจบอันโหดร้ายนี้ แต่แทนที่เธอจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว เธอกลับพบว่าเหล่าตัวละครหลักทั้งหลาย ต่างพากันหันมาสนใจและเข้ามาในชีวิตของเธออย่างไม่คาดฝัน การต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตา และค้นหาความลับเบื้องหลังโลกใบนี้ เธอจะสามารถพลิกชะตาของนางร้ายและเปิดเผยความจริงที่ซ่อนอยู่ในโลกแห่งนี้ได้หรือไม่?
ฝากกดถูกใจ ให้กำลังใจนักเขียนด้วยค่ะ
“เฮ....เฮ...” เสียงโห่ร้องดังก้องไปทั่วทั้งปราสาทดยุก เหล่าอัศวินกำลังฝึกซ้อมฟันดาบอย่างเอาเป็นเอาตาย เมื่อมีหนังสือมาจากองค์จักรพรรดิในการจัดเลี้ยงต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองอย่างจักรวรรดิซายา ทั้งยังประกาศทั่วว่าหากผู้ใดเอาชนะอัศวินจากซายาได้ เงินรางวัลมูลค่าสองล้านโกลว์ จะตกเป็นของผู้ชนะอันดับหนึ่งทันที
นาเซียมองไปยังกลุ่มกองอัศวิน ร่างสูงไหล่กว้างดูโดดเด่นกว่าใครทั้งหมดเส้นผมหยักศกรับสันกรามเล็ก ๆ ของเขา แววตาดูอ่อนโยน เธอเพ่งพิจารณาราวกับเคยเห็นชายผู้นั้นจากที่ใดกัน
“อัน....ผู้นั้นคือ” เธอเอื้อนเอ่ยถามสาวใช้ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พลางยกถ้วยชาจิบราวกับกำลังมองทิวทัศน์เบื้องหน้า
“ลอร์ดเฮนรี่ไงละคะ” อันตอบอย่างรวดเร็ว นาเซียทำตาโตเธอเพิ่งเคยเห็นภาพลักษณ์ของเฮนรี่ที่แปลกตา เพราะทุกครั้งที่เธอพบเขา เฮนรี่แทบจะไม่ค่อยพูดจามากนัก ทั้งยังเอาแต่เคร่งเครียดอยู่แต่กับเอกสารในห้องทำงานดยุกกาบริเอล นาเซียหรี่ตามองใบหน้าที่ไร้แว่นตาที่บดบัง ใบหน้าของเขากลับดูนุ่มนวล อีกทั้งยังหล่อเหลาไม่น้อย ดูเหมือนเธอจะจ้องเขานานเกินไป เฮนรี่กำลังเดินตรงมาที่เธอ นาเซียรีบวางแก้วชาลงอย่างเร่งรีบด้วยความตกใจปนเขินเล็กน้อย เมื่อถูกเขาจับได้ว่ากำลังแอบมอง
“สวัสดีครับมาดาม วันนี้ท่านดยุกไม่อยู่คงเหงานะครับ” นัยน์ตาสีไม้โอ๊คจ้องมาพร้อมรอยยิ้มอย่างสุภาพ
“อ่ะ...คะ ค่ะ” นาเซียตกใจรีบลุกจากเก้าอี้ตอบ
“ฮ่ะ ฮา ไม่เป็นไรครับ มาดามไม่ต้องให้เกียรติผมขนาดนี้ก็ได้” เขาหัวเราะในท่าทางที่เธอลุกพรวดยืนขึ้น
“เพิ่งเคยเห็นลอร์ดไม่สวมแว่นดูแปลกตาดีนะคะ”
“ผมจะใส่มันไว้แค่ตอนทำงานบนโต๊ะห้องดยุกเท่านั้นแหละครับ” เฮนรี่ก้มหน้าตอบพลางยกมือปัดเส้นผมเบา ๆ ด้วยความเก้อเขิน
“นี่ลอร์ดก็จะร่วมลงแข่งฟันดาบด้วยสินะคะ”
“ไม่ใช่แค่ผมหรอกครับ ดยุกเองก็ร่วมลงแข่งขันมาดามน่าจะไปสนับสนุนท่านดยุกน่าจะดีกว่านะครับ” นาเซียหันกลับไปมองตาอันซึ่งยืนอยู่ข้าง ด้วยสีหน้างุนงง มิกาเอลไม่เห็นเอ่ยถึงเรื่องนี้
นาเซียนั่งรออย่างเงียบ ๆ ในห้องทำงาน ทันทีที่มิกาเอลกลับมาเธอก็รีบดีดตัวลุกยืนรอ
“เจ้ากำลังรอข้างั้นรึ” ร่างสูงเดินประชิดใกล้ก่อนจะโน้มตัวโอบกอดเธอ เบา ๆ นาเซียแหงนใบหน้ามองคนที่สูงกว่า
“ท่านดยุกจะร่วมแข่งขันฟันดาบหรือคะ”
“ใครบอกเจ้า”
“หากท่านไม่ต้องการให้ฉันไปดูการแข่งขันฉันก็จะไม่ไปค่ะ” นาเซียบุ้ยปากแล้วผละตัวเองออกจากอ้อมกอดเขาอย่างไม่พอใจ
“ใครว่ากัน เป็นเพราะเจ้าต่างหากที่ทำสีหน้าดูหวาดกลัวทุกครั้งที่ข้าจับดาบคม ๆ อยู่ใกล้” มิกาเอลกล่าว นั่นก็เป็นความผิดของเขาเองที่ตัดศีรษะไวเคานต์ต่อหน้านาง
‘อ่า...คงเพราะเรื่องตอนนั้นซินะ’ ดูเหมือนเธอจะนึกได้ เพราะนอกจากตัดศีรษะไวเคานต์แรนิเยร์ต่อหน้าเธอไม่พอ เขายังข่มเสียงเตือนราวโกรธเคืองใส่เธออีก
“ฉันไม่เป็นไรแล้วค่ะ” นาเซียตอบเพราะเธอไม่ใช่นาเซียคนเดิมอีกแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่ตัวเธอจะหวาดกลัวเขา เพราะหลังจากที่เขาได้เล่าสิ่งต่าง ๆ ที่ทำไปด้วยเหตุผลที่สมเหตุสมผล เธอก็เข้าใจเขาได้ดี ทั้งยังนึกชมไม่คิดเลยว่าเขายอมให้ผู้อื่นว่ากล่าวร้ายต่อเขาว่าเป็นปีศาจร้ายที่เหี้ยมโหด จนไม่มีตระกูลขุนนางใดยินดีที่จะยกบุตรสาวให้เป็นภรรยา อีกทั้งสีหน้าเย็นชาของเขายังทำให้เหล่าสตรีทั่วทั้งจักรวรรดิต่างไม่กล้าเข้าใกล้เขาอีก เขาแทบไม่มีปฏิสัมพันธ์ใดกับสตรีในจักรวรรดินี้เลยก็ว่าได้
การแข่งขันฟันดาบเริ่มขึ้นก่อนที่จะเริ่มงานจัดเลี้ยง นาเซียสวมชุดสูทกางเกงม้าเข้ารูป รัดผมขึ้นสูงเธออยากจะร่วมชมการแข่งขันกีฬาด้วยชุดที่เคลื่อนตัวที่ง่ายขึ้น ยังดีในจักรวรรดินี้ยินยอมให้สตรีสวมใส่กางเกงได้ดั่งเช่นบุรุษ แต่น้อยคนที่จะสวมใส่มัน เลดี้ส่วนใหญ่ยังคงชื่นชอบเดรสหรูประดับไปด้วยอัญมณี แต่สำหรับเธอแล้วมันทั้งหนักและยังไม่สบายตัว เสื้อสูทสีขาวปักลายเส้นสีทองแซม ดูหรูหราเสียกว่าอัญมณีพวกนั้นเสียอีก นาเซียหันมองอีกคนที่กำลังทำสีหน้าราวไม่พึงพอใจ
“มาดามควรที่จะสวมเดรสที่เพิ่งตัดใหม่นะคะ” อันกำลังยกชุดขึ้นมองอย่างเสียดาย นาเซียส่งยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“นั่นก็เพราะพวกเจ้าไม่เชื่อฟังเรามากกว่า เราบอกแล้วว่าเราจะไม่สวม เดรสนี่ไปชมการแข่งขันฟันดาบ”
“แต่มาดามเคยชื่นชอบมันมากไม่ใช่เหรอคะ” อันแย้ง
“นั่นก็ใช่” สำหรับนาเซียคนเก่า แต่สำหรับเธอ เธอชอบแบบนี้มากกว่า
ร่างบางเดินออกมาพร้อมสาวใช้คนสนิทของเธอ นาเซียมมิกาเอลที่ยืนรอ เส้นผมดำขลับถูกหวีเสยขึ้นเผยให้มองเห็นคิ้วหนา และนัยน์ตาสีฟ้าครามชัดเจนจนใจของเธอแทบละลายไปเสียตรงนั้น นาเซียสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะส่งมือเรียวเล็กให้แก่เขา มิกาเอลคว้าเอวแล้วชูตัวเธอขึ้นบนรถม้า แก้มของเธอแดงจัดเมื่อมองไปยังลอร์ดเควินที่เอากำมือป้องปากราวกับกำลังหัวเราะพวกเธอ
“เจ้าแน่ใจนะว่าจะไปดูการแข่งขันของข้า” ดยุกกาบริเอลเอ่ยขึ้นทันทีที่ขึ้นนั่ง เธอหันมองและพยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนจะหลับตาแน่น นาเซียไม่ชอบเลยเวลาที่เธอต้องเดินทางเขาพระราชวังด้วยการเคลื่อนย้ายเช่นนี้ มันทำให้ศีรษะของเธอรู้สึกหมุนราวลูกข่าง แม้จะเป็นการเดินทางที่ค่อนข้างเร็ว นาเซียเปิดผ้าม่านออกก่อนที่รถม้าจะค่อย ๆ เดินไปยังหน้าประตูบานใหญ่ด้านหน้าพระราชวัง ทันทีที่เธอมาถึงเซอร์อาร์เซลได้ยืนรออยู่ด้านหน้าประตูห้องโถงชั้นสองของพระราชวังหลัก
“สวัสดีท่านดยุก และดัชเชสแห่งกาบริเอล” วิลเลี่ยมยกมือขวาทาบวางอกซ้ายแล้วโน้มตัวโค้งอย่างแสดงความเคารพ นาเซียรอบแอบมองใบหน้าของมิกาเอล นัยน์ตาที่ดูไม่สบอารมณ์นัก เธอจึงยืนข้าง ๆ อย่างสงบนิ่ง
เฮ.....!! เฮ.... เพียงครู่เหล่าทหาร และอัศวินต่างโห่ร้องนาเซียถูกเชื้อเชิญโดยราชินีแคลบอร์น เธอจึงจำเป็นต้องแยกออกจากมิกาเอลตรงโถงทางเดิน นาเซียมองใบหน้าที่อิ่มเอมของสตรีสูงศักดิ์เบื้องหน้า แววตานางยังคงอบอุ่นแก่เธอเสมอ แม้ในตอนนี้เธอจะเป็นดัชเชสกาบริเอลแล้วก็ตาม
“มานี่ซิ นาเซีย” นางกวักมือเรียกเธอเล็กน้อย สาวใช้ดูมีอายุเดินถือถาดกำมะหยี่สีแดงมาใกล้ก่อนจะเปิดมันออก มันคือสร้อยคอที่มีพลอยไพลินสีน้ำเงินเข้ม
“ขยับมานี่ซิ” ราชินีมาเรน่าเอ่ยเรียก นาเซียย่อลงนั่งที่โซฟาสีทองอร่าม เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างล้วนดูประณีตโอ่อ่าสมกับฐานะนาง เธอมองสร้อยคอพลอยไพลินเม็ดงาม ในขณะที่ราชินีกำลังสวมมันให้กับเธอ
“นาเซีย นี่คือของขวัญที่เราจะมอบให้แก่เจ้า แม้เจ้าจะไม่ได้อภิเษกกับลาฟาซก็ตาม” นางเอ่ยเพียงเบา ๆ ไม่แปลกเลยที่ราชินีแคลบอร์นจะรักและเอ็นดูนาเซียมากกว่าใคร เพราะตระกูลดาร์เรลคือตระกูลที่ราชินีสนับสนุนอย่างเต็มที่ มารดาของนาเซีย นางเป็นเพื่อนรักของราชินี แต่โชคไม่ดีที่เธออายุสั้นจากไปเสียก่อน ราชินีจึงให้เอิร์ลดาร์เรลส่งเธอเข้ามาอยู่กับราชินีบ่อย ๆ เพราะกลัวว่าเธอจะเหงา