วังวนของความเข้าใจผิดและปมแค้นในอดีต นำพาให้เขาและเธอต้องมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน ในเกมความรู้สึกครั้งนี้ หัวใจที่แข็งกระด้างจะค่อย ๆ อ่อนลง หรือจะถูกปิดกั้นด้วยกำแพงแห่งอดีตตลอดไป?

Accidentally in Love ให้รักพิทักษ์หัวใจ - บทที่ 2 เพลิงแค้นท่ามกลางลิลลี่แห่งรัก โดย นฤชกร @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ครอบครัว,สะท้อนปัญหาสังคม,หึงแรง,โรแมนซ์,ชีวิตประจำวัน,อบอุ่นหัวใจ,จบแฮปปี้,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Accidentally in Love ให้รักพิทักษ์หัวใจ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ครอบครัว,สะท้อนปัญหาสังคม

แท็คที่เกี่ยวข้อง

หึงแรง,โรแมนซ์,ชีวิตประจำวัน,อบอุ่นหัวใจ,จบแฮปปี้,ดราม่า

รายละเอียด

วังวนของความเข้าใจผิดและปมแค้นในอดีต นำพาให้เขาและเธอต้องมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน ในเกมความรู้สึกครั้งนี้ หัวใจที่แข็งกระด้างจะค่อย ๆ อ่อนลง หรือจะถูกปิดกั้นด้วยกำแพงแห่งอดีตตลอดไป?

ผู้แต่ง

นฤชกร

เรื่องย่อ

เมื่อหัวใจที่เต็มไปด้วยความแค้น ต้องเผชิญหน้ากับความรักที่ไม่คาดคิด

‘ต้นธาร’ ชายหนุ่มผู้ที่เฝ้าสะสมความเกลียดชังที่เขามีต่อพ่อมาตลอดชีวิต 

ต้องกลับมาที่เมืองไทยเพื่อจัดการเรื่องพินัยกรรมหลังการตายของ ‘ไพลิน’ ผู้เป็นพ่อ

ทำให้เขาได้พบกับ ‘พลอยมุก’ หญิงสาวปริศนาที่มักจะมายืนที่หน้าบ้านพร้อมกับดอกลิลลี่สีขาวและเธอนั้นมีน้ำตาร่วงลงมาในทุก ๆ ครั้ง ที่เขาพบเธอ

แต่แท้จริงแล้วเธอคือใครกันแน่? ทำไมเธอจึงร้องไห้กับการสูญเสียครั้งนี้ 

และทำไมเธอถึงสำคัญกับพ่อของเขามากขนาดนี้?

ในระหว่างที่ต้นธารเฝ้ามองและจ้องจะจับผิด

 พลอยมุกกลับเผยให้เขาได้เห็นความจริงบางอย่างที่เขาไม่เคยคาดคิดและมันส่งผลต่อความเชื่อของเขาที่เคยมีมาตลอด

ความจริงที่ทำให้หัวใจที่เย็นชาของเขาเริ่มสั่นไหวและความแค้นที่เคยหล่อเลี้ยงหัวใจ

ที่ผลักดันให้เขาต้องกลายเป็นคนแบบนี้ กลับค่อย ๆ จางหายไปในความอบอุ่นที่พลอยมุกมอบมาให้

ต้นธารจะยอมให้หัวใจที่คั่งแค้นถูกพิทักษ์ไว้ด้วยความรัก หรือจะปล่อยให้มันทำลายทั้งตัวเขาและคนที่เขาเพิ่งเริ่มต้นที่จะรัก?

 

********************

นางเอก

พลอยมุก ปราเมศ / พลอย (21)

นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะศึกษาศาสตร์ รักศิลปะพอ ๆ กับที่รักแมว มีพลังบวกที่ไม่ว่าใครต้องยอมแพ้ 

สดใสราวกับแสงแดดยามเช้าในวันที่อากาศดี เป็นคนที่พร้อมจะยิ้มและหัวเราะ แม้ในวันที่โลกกำลังแตกสลาย

 สาวน้อยที่อบอุ่น คนที่มีความสามารถที่จะทำให้คนอื่นอารมณ์ดี และอ่อนลงได้ราวกับมีเวทมนตร์

ถึงจะดูเหมือนมองโลกในแง่ดีเกินไป และคิดบวกกับทุกอย่างแต่คนอย่างพลอยมุกก็ไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ

 

“คิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่างในโลกรึไงคะ? ทั้งที่คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคำว่าขอโทษต้องสะกดยังไง”

 

พระเอก

ต้นธาร (เพทาย) รัตนากร / ต้นธาร,ต้น (28)

เชฟและนักธุรกิจสุดฮอต ที่หมายถึงเหมือนกับกำลังอยู่ในนรก มีเสน่ห์ ดึงดูดคนมาก แต่ก็เข้มงวดเบอร์หนึ่ง 

จริงจังกับชีวิต ชอบวางแผนทุกอย่างเป๊ะ เหมือนโลกจะล่มสลายถ้าเขาไม่ได้ควบคุมทุกอย่างไว้ในมือ 

เป็นเสือยิ้มยาก เงียบขรึม แต่พอด่าใครด่าเอาตาย กัดเจ็บจนเลือดสาด คนโดนกัดจะเจ็บเหมือนโดนหมาซอมบี้กัด 

ปากแซ่บธงแดงแปร๊ดดดดดดดด  ไว้ใจคนยากและกลัวความรักชนิดที่เห็นจากระยะ 800 เมตร ก็พร้อมจะปิดประตูใส่

 

“การที่เธอชอบฝันกลางวันก็มีข้อดีนะ เพราะเธอจะได้ไม่รู้ว่าตอนที่ตื่นขึ้นมา โลกแห่งความจริงมันไม่ได้สวยงามอย่างที่เธอคิด”

 

********************

 

Trigger Warning :  Physical abuse-การทำร้ายร่างกาย, Mental Abuse-การทำร้ายจิตใจ, Attempted murder-การพยายามฆ่า

การเตือนด้านบนไม่ใช่สิ่งที่พระเอกทำกับนางเอกค่ะ และถ้ามีนอกจากนี้ จะเตือนไว้ในบทแต่ละบทค่ะ

 

นิยายเรื่องนี้เป็นจินตนาการของผู้แต่ง เป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้น 

สถานที่ องค์กร ฉาก บุคคล ฉาก และเหตุการณ์ต่าง ๆ ไม่ได้มีอยู่จริง

สร้างขึ้นเพื่อความบันเทิง ตัวละคร พฤติกรรม สถานที่และเหตุการณ์ในเรื่องเป็นเรื่องสมมติ

มิได้มีเจตนาพาดพิงถึงองค์กร วิชาชีพ หรือบุคคลใด ๆ 

 

ช่องทางติดต่อดำเกิง : Twitter(X)

 

สารบัญ

Accidentally in Love ให้รักพิทักษ์หัวใจ-บทที่ 1 การสูญเสียที่ไม่ได้รับการให้อภัย,Accidentally in Love ให้รักพิทักษ์หัวใจ-บทที่ 2 เพลิงแค้นท่ามกลางลิลลี่แห่งรัก,Accidentally in Love ให้รักพิทักษ์หัวใจ-บทที่ 3 สะพานแห่งการตัดสินใจ,Accidentally in Love ให้รักพิทักษ์หัวใจ-บทที่ 4 ใต้เงาความไม่ไว้ใจ,Accidentally in Love ให้รักพิทักษ์หัวใจ-บทที่ 5 ละลายพฤติกรรม

เนื้อหา

บทที่ 2 เพลิงแค้นท่ามกลางลิลลี่แห่งรัก

แม้จะผ่านมาหลายวันแล้วหลังจากการเสียชีวิตของไพลิน แต่บรรยากาศในบ้านยังคงตึงเครียด หลังจากต้นธารต้องดำเนินการทางกฎหมายหลายขั้นตอนร่วมกับอิทธิกร ทนายประจำบ้าน แต่ยังเหลือเรื่องการจัดการทรัพย์สินและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องตามพินัยกรรมของไพลิน ต้นธารต้องการรีบจัดการทุกเรื่องให้มันจบสิ้นไปเสียที เพราะเขาเกลียด เกลียดทั้งที่นี่ เกลียดทั้งต้องมาทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับไพลิน อยากจะหนีทุกอย่างไปให้พ้น

โชคดีที่เขายังมีอิทธิกร ชายหนุ่มที่ต้นธารมองว่าจริงใจและพร้อมจะช่วยเหลือต้นธารอย่างถึงที่สุด ถ้าตัดเรื่องที่โดนถามว่าจะไปเยี่ยมผู้เป็นพ่อที่สุสานไหม นอกนั้นอิทธิกรก็ไม่ได้ทำอะไรให้ต้นธารรู้สึกลำบากใจ และรวมถึงเหล่าแม่บ้าน พ่อบ้าน ที่เข้าใจเขาว่าเวลาเช้าและเย็นเขาต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องมาทำอาหารให้หรือมาดูแลเขาอย่างเป็นพิเศษอะไร เพราะเขาไม่ชินกับการมีคนคอยประคบประหงมดูแลเขาเยี่ยงเจ้าชายของตระกูลรัตนากร

 

แต่มีอยู่อย่างเดียวเท่านั้น สิ่งที่ทำให้เขาเคลือบแคลงใจ

เพราะทุกวัน ในเวลานี้ เธอจะมา…

 

วันแรก เป็นในตอนเช้าตรู่ ต้นธารจิบกาแฟขณะมองออกไปนอกหน้าต่าง ทันใดนั้น สายตาคมของเขาก็ไปปะทะกับร่างบางของหญิงสาวในชุดนักศึกษา เธอแต่งตัวเรียบร้อยถูกระเบียบ ใบหน้าหวานรวมทั้งผมยาวสลวยสีน้ำตาล ทำให้เขาจำเธอได้ดี พลอยมุกค่อย ๆ เดินเข้ามา โดยมีน้อย แม่บ้านวัย30 เปิดประตูให้ พลอยมุกมาพร้อมทั้งช่อลิลลี่สีขาวในมือ ใบหน้าของเธอสงบ แต่แฝงไปด้วยความเศร้า เธอเดินไปยังจุดหนึ่งที่หน้าบ้าน วางช่อดอกไม้ไว้บนหินแกรนิตตรงมุมหนึ่งของสวน ก่อนจะก้มศีรษะนิ่ง ต้นธารมองดูภาพนั้นด้วยสีหน้าราบเรียบไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ แต่คิ้วตรงสวยของเขาเลิกขึ้นเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้ใส่ใจมากนัก

 

วันที่สอง เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะต้นธารกำลังเตรียมเอกสารด้านกฎหมายตามที่อิทธิกรแจ้งให้เขาต้องเตรียม แม้ในมือจะจัดแจงเอกสาร แต่สายตาคมเหลือบมองไปที่หน้าต่างอีกครั้ง และพบกับภาพเดิมที่ฉายซ้ำ หญิงสาวในชุดนักศึกษาปรากฏตัวอีกครั้ง พร้อมกับช่อดอกลิลลี่สีขาวดังเดิม เธอนำดอกไม้มาวางลงที่เดิม นั่งคุกเข่าลงเล็กน้อย และใช้ปลายนิ้วแตะที่ดอกลิลลี่ที่วางไว้อย่างต้องการสื่อสารอะไรบางอย่าง แม้พลอยมุกดูซ่อนเร้นความรู้สึก แต่เธอกลับดูฝืน ร่างของเธอสั่นเบา ๆ แบบที่เขาดูออกว่าเธอกำลังร่ำไห้ ต้นธารเริ่มสงสัย และเริ่มสนใจพลอยมุกมากขึ้น

 

วันที่สาม ต้นธารนั่งอยู่ในห้องของวราลี หน้าต่างบานใหญ่เปิดออกไปทางหน้าบ้าน เผยให้เห็นสวนเล็ก ๆ ที่เขาเคยเล่นซ่อนแอบในวัยเด็ก สวนนี้ยังคงมีดอกไม้บานสะพรั่ง ให้พอได้เห็นชัดว่ามีคนคอยดูแลรักษามันด้วยความรักความใส่ใจอย่างดี ดูงดงาม สดใส และอบอุ่น ทว่าบรรยากาศกลับเงียบเหงา ต้นธารนั่งอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำ หน้าจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้ายังเปิดแสดงอีเมลจากแคนาดา แม้จะมีงานของธุรกิจที่ต้องจัดการ แต่สายตาของเขากลับไม่สามารถละจากภาพภายนอกหน้าต่างได้ ภาพเดิมที่เข้ามาในสายตาคือพลอยมุกนำช่อลิลลี่มาวางไว้ที่เดิมก่อนจะจากไป

 

และวันนี้ วันที่ต่างจากวันที่ผ่านมา ต้นธารนั่งอยู่ในรถกับอิทธิกรหลังออกไปทำธุระด้วยกันมา เมื่อรถขับกลับมาถึงบ้าน ทันทีที่รถจอดหน้าบ้าน และต้นธารเปิดประตูลงจากรถมา เขาเห็นพลอยมุกมาอีกครั้งพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าสวยหวานปรากฏขึ้นจาง ๆ แต่ยังปะปนไปด้วยความเศร้าสร้อย เธอยังคงถือช่อลิลลี่สีขาวมาอย่างเคย เมื่อเขาได้พบเธอแบบซึ่งหน้า ประกอบกับบรรยากาศรอบข้างที่ทั้งอิทธิกร และเหล่าแม้บ้านมีท่าทีที่ดูกระอักกระอ่วน อึดอัด และพากันทำตัวไม่ถูก ทุกสิ่งรอบตัวต้นธารกลับพลันกลายเป็นความวุ่นวาย

 

ต้นธารทนไม่ไหวอีกต่อไป

 

ร่างสูงเดินพุ่งตรงไปหาพลอยมุกอย่างรวดเร็ว ความสงสัยที่สุมกับความแค้นที่สะสมมาหลายวันพุ่งสูงขึ้น ขณะที่พลอยมุกยังไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไรออกมา เสียงซุบซิบของเหล่าแม่บ้านที่คุยกันขณะพวกเธอมองสลับไปมาระหว่างต้นธารและพลอยมุก ยิ่งทำให้เขาไม่สบายใจ ต้นธารก็กระชากช่อดอกลิลลี่ออกจากมือเธอและโยนมันลงกับพื้นอย่างไร้ความเมตตา

 

“เธอเป็นใคร!?” ต้นธารตะคอกถามพลอยมุกด้วยน้ำเสียงโกรธ กระแสโทสะของเขาที่ปลดปล่อยออกมาทำให้ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ล้วนทำตัวไม่ถูก นัยน์ตาสีนิลของเขาเปล่งประกายคมปลาบ สายตาคมกริบดุดันของต้นธารที่มองมาทำให้พลอยมุกสะดุ้งวาบในใจ เธอผงะถอยหลังออกจากเขาโดยไม่รู้ตัว

 

“…” พลอยมุกที่ยังคงตกใจ ไม่ทันได้ตอบอะไร ต้นธารก็กล่าวหาเธอต่อทันที

 

“ทำไมต้องทำเหมือนพ่อของฉันมีความสำคัญกับเธอมากขนาดนั้น? เธอเป็นอะไรกับเขา?” น้ำเสียงของต้นธารเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม ใบหน้าของเขาฉายแววความโกรธเกรี้ยว แววตาเย็นชา ริมฝีปากของเขาเม้มแน่น แววตาของเขาจ้องมองราวกับว่าเธอเป็นศัตรู “หรือว่าเขาเป็นเสี่ยเลี้ยงของเธอ? เป็นเมียน้อยคนมีลูกมีเมียแล้วมันสนุกนักเหรอ?” คำพูดที่รุนแรงของต้นธารทำให้อิทธิกรและเหล่าแม้บ้านตกใจอย่างมาก “อายุก็ยังน้อย หน้าตาก็ดี เรียนมอดัง อนาคตคงจะดี แต่มาคบหากับคนอายุคราวพ่อเนี่ยนะ?”

 

และขณะที่อิทธิกรกำลังจะเข้ามาห้ามไม่ให้ต้นธารพูดจาร้ายกาจต่อไป พลอยมุกที่กำลังเศร้า สะเทือนใจ และตกใจ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้เกลียดชังเธอถึงเพียงนี้ ทั้งที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก แต่เขาก็ไร้มารยาท และไม่ให้เกียรติเธอเลยแม้แต่นิดเดียว เธออยากจะเห็นแก่ที่เขาเป็นลูกชายของไพลิน แต่ท่าทีของเขาที่ด่าว่าและดูถูกเธอมันรุนแรงเหลือเกิน จนเธอไม่อาจทนได้ต่อไป เธอไม่จำเป็นต้องแคร์เขาที่ไม่ให้เกียรติเธอถึงขนาดนี้

 

“ฉันไม่จำเป็นต้องอธิบายความสัมพันธ์ของฉันกับคุณไพลินให้ใครฟังค่ะ โดยเฉพาะกับคุณที่เป็นคนทิ้งเขาไปถึง 21 ปี แล้วตอนนี้จะมาอ้างเรื่องการเป็นลูกเพื่อมากีดกันการที่ฉันแค่เอาดอกไม้มาให้คุณไพลิน” พลอยมุกสวนกลับ เธอถลึงตาใส่เขาแต่แววตาคู่งามกลับวูบไหว เสียงของเธอสั่นเทาเพราะในใจของเธอมีทั้งความเจ็บปวดและโกรธเคือง “ตลกเกินไปแล้ว ใช้สิทธิ์ลูกในการต่อว่าฉัน แต่ไม่เคยกลับมาอยู่เคียงข้างคุณไพลิน ปล่อยให้เขาตายอย่างโดดเดี่ยว คุณไพลินที่น่าสงสาร.. ถ้าคุณเขาไม่มีมรดกและทรัพย์สมบัติให้คุณ คุณก็คงไม่กลับมาเหยียบที่นี่ด้วยซ้ำ ลูกแบบไหนกันที่ทำตัวแบบนี้??”

 

พลอยมุกเอ่ยอย่างโทสะ ใบหน้างดงามของเธอซีดเผือด ปรากฏแววขุ่นเคืองน้อย ๆ น้ำตาคลอหน่วยด้วยความรู้สึกเสียใจปนโกรธ แต่เธอยังแสดงถึงความแข็งแกร่งในหัวใจและจะไม่มีทางยอมแพ้คนตรงหน้า เธอจ้องต้นธารอย่างไม่เกรงกลัว มือของเธอกำแน่นจนร่างเล็กสั่นสะท้าน แม้จะรู้ว่าเขาเป็นใครและอายุมากกว่าเธอแค่ไหน

 

“เด็กอย่างเธอไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับเรื่องในครอบครัวฉัน หรือมาสั่งสอนฉัน!!” ต้นธารตะคอกเสียงดัง

 

เมื่อแม่บ้านและอิทธิกรจะเข้ามาห้าม สาวน้อยใจแกร่งก็เลือกที่จะหันหลังถอยออกจากต้นธารไป น้ำตาที่ไหลอาบแก้มลงมาสุดจะกลั้นไว้ได้อีกต่อไปทำให้เธอรีบปาดมันออกก่อนที่เขาจะทันได้เห็นอย่างรวด รู้ดีว่าถึงจะพยายามอธิบายอะไรไป ไฟอย่างเขาก็ไม่ยอมดับลง ท่าทีแสดงออกมาราวเธอเป็นปรปักษ์ และต้นธารดูที่จะไม่ลดละการโจมตีพลอยมุกทางวาจาและอารมณ์ที่รุนแรง

 

คุยกับคุณก็เหมือนคุยกับกำแพง ฉันขอลาขาด ขออย่าได้พบได้เจอกันอีกเลย

 

สวนดอกไม้เล็ก ๆ หน้าบ้านที่งดงามกลับดูอับเฉาและแห้งเหี่ยวลงไปพร้อมช่อดอกลิลลี่ที่โดนต้นธารเหวี่ยงลงพื้นอย่างไร้ความปราณี ที่มันกระจัดกระจาย เหมือนกับพลอยมุกที่กำลังเดินออกจากต้นธารตอนนี้ เธอรีบเดินไปที่ประตูหน้าบ้าน ร่างบางของเธอค่อย ๆ ไกลจากสายตาของทุกคน แต่อิทธิกรรีบเดินไปขึ้นรถและขับตามพลอยมุกออกไปทันที

ต้นธารยืนเงียบอยู่ครู่สักพัก ใจของเขายังคงเต้นแรงจากการทะเลาะเมื่อครู่ แต่ความรู้สึกไม่พอใจที่พลอยมุกทิ้งไว้ให้เขากับทวีคูณขึ้น เขาไม่คิดว่าเด็กเมื่อวานซืนอย่างเธอจะรู้เรื่องเขามากขนาดที่กล้าลุกมาสวนเขากลับ พลอยมุกพูดอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการที่เขาจากไป 21 ปี คำพูดของเธอทุกคำทิ่มแทงหัวใจเขา แต่ต้นธารเลือกจะไม่สนใจ แม้ในใจจะเจ็บปวด แต่เขาไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีก

 

หัวสมองของเขากลับมาสู่ความคิดเดิม ขณะร่างสูงเพรียวหมุนกายเดินเข้าไปในบ้าน โดยไม่สนใจว่าเหล่าแม่บ้านจะพูดคุยอะไรกัน เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น สนอยู่ก็แต่เรื่องเดียว–ผู้หญิงคนนั้นคือใคร? และเธอเกี่ยวข้องกับไพลินอย่างไร?

ต้นธารเดินขึ้นชั้นสองไปยังห้องของตน เขาปิดประตูแล้วเดินมาที่หน้าต่าง ใบหน้าหล่อเหลาฉายอารมณ์ขุ่นมัว แววตายากคาดเดามองไปยังบริเวณสวนที่เขาเพิ่งทะเลาะกับพลอยมุก ไม่ว่าจะเป็นเพราะความสงสัย โกรธแค้น หรือความต้องการเอาชนะก็ตาม เขาต้องได้คำตอบในสิ่งที่เขาสงสัย

 

เขาจึงล้วงโทรศัพท์มือถือออกมา กดเบอร์โทร.ไปหาเบอร์ที่โชว์เด่นบนหน้าจอว่าเขาโทร.ไปที่เบอร์นี้หลายต่อหลายหนแล้ว พงศ์อินทร์ นักสืบเอกชนผู้เชี่ยวชาญที่ต้นธารเคยใช้บริการมาก่อน เสียงรอสายดังขึ้นไม่กี่ครั้ง ก่อนจะได้ยินเสียงตอบรับที่คุ้นเคยจากอีกฝั่ง

 

‘สวัสดีครับ คุณต้นธารสบายดีนะครับ?’ ปลายสายถามด้วยน้ำเสียงที่มีพลัง กระฉับกระเฉง

“สบายดีครับ หวังว่าคุณอินทร์จะสบายดีเช่นกัน”

‘ขอบคุณครับ.. ไม่คิดว่าจะได้รับสายจากคุณในเวลาเช้าแบบนี้ มีอะไรให้ผมช่วยเหรอครับ?’

 

ต้นธารเงียบไปชั่วขณะ เขามองไปยังมุมที่มีหินแกรนิตที่มักจะมีช่อลิลลี่สีขาวมาวางไว้อยู่หลายวัน เพราะช่อลิลลี่ที่เขาทำมันกระจัดกระจายได้มีแม่บ้านมาเก็บทำความสะอาดไปแล้ว ดวงตาคมฉายแววคึกคะนองโดยที่ต้นธารเองก็ไม่รู้ตัว

“ผมมีงานให้คุณอินทร์ช่วยสืบนิดหน่อยครับ.. ไม่ใช่งานที่ยากหรอก แต่ผมขอให้ทำเงียบ ๆ และอย่าให้คนที่คุณไปตามสืบรู้ตัวนะครับ” น้ำเสียงของต้นธารหนักแน่น แต่ไม่ได้แสดงความโกรธเกรี้ยวอย่างที่เพิ่งเคยเกิดขึ้น แฝงไปด้วยความสงบเยือกเย็นอย่างบอกไม่ถูก

‘ครับ เข้าใจแล้วครับ แล้วรายละเอียดล่ะครับ?’

“มีผู้หญิงที่น่าสงสัยคนหนึ่ง.. ผมต้องการรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ ตั้งแต่เรื่องครอบครัว ฐานะ การศึกษา ไปจนถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอคนนี้ กับคุณไพลิน รัตนากร” คำพูดของต้นธารมั่นคงและชัดเจน “เดี๋ยวผมจะส่งรายละเอียดให้คุณ เริ่มงานได้เลย ราคาเท่าไหร่ผมก็พร้อมจ่าย ขอบคุณครับ สวัสดีครับ”

‘ได้ครับ สวัสดีครับ’

ต้นธารวางสายทันที เขาไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากเกินไป เขาวางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้หนังสีดำ ถอนหายใจออกมาและหลับตาคู่งามลงปิดสนิท แต่ภาพของพลอยมุกยังฉายชัดขึ้นมา แม้เธอจะดูสะเทือนใจและมีน้ำตา และเขายังคงโกรธและเคลืบแคลงในตัวเธอ แต่ตอนนี้เขาพร้อมแล้วที่จะค้นหาคำตอบทุกอย่างที่เขาสงสัยในตัวเธอ

 

วันต่อมา..

แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างของห้องรับแขกในบ้านหลังใหญ่ บรรยากาศในห้องหนักอึ้ง แม้จะเป็นวันสำคัญสำหรับการเปิดพินัยกรรมของไพลิน ไร้เงาของวราลีผู้เป็นแม่ และพชระผู้เป็นอา ญาติที่ต้นธารไม่ชอบขี้หน้า ทิ้งให้มีเพียงต้นธารที่นั่งรอฟังการเปิดเผยพินัยกรรม ยิ่งทำให้บ้านที่เหมือนกับวังหลังนี้ดูอ้างว้าง เงียบงัน และมีกลิ่นอายความตึงเครียด ราวกับการรอคอยระเบิดเวลา

ต้นธารนั่งอยู่บนโซฟาหนังรูปทรงคลาสสิคสีน้ำตาล ขณะที่อิทธิกร ทนายผู้มากประสบการณ์กำลังจัดเตรียมเอกสาร ความเงียบแผ่กระจายไปทั่วห้องจนได้ยินแต่เสียงนาฬิกาแขวนผนัง

ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก…

นาทีแล้วนาทีเล่าที่ผ่านไป

อิทธิกรรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจที่ต้นธารพยายามระงับมันอย่างหนัก ราวกับว่าเขารีบให้อิทธิกรเปิดเผยพินัยกรรม และเขาไม่ได้อยากจะอยู่ที่นี่อีกต่อไป ลมเย็นพัดสัมผัสใบหน้าของอิทธิกร ทำให้เขาหยิบเอกสารพินัยกรรมขึ้นมาทันที เมื่อเอกสารพินัยกรรมถูกยกขึ้น ต้นธารเหลือบตามองอย่างรวดเร็ว อิทธิกรสูดหายใจลึก ก่อนจะเริ่มเปิดเผยเนื้อหาของพินัยกรรม

 

ข้าพเจ้า นายไพลิน รัตนากร ผู้มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ และมีความสามารถในการทำพินัยกรรมโดยปราศจากการบังคับข่มขู่ หรือกดดันจากบุคคลอื่น ๆ ได้จัดทำพินัยกรรมนี้ไว้เพื่อแสดงความประสงค์ในการแบ่งสรรทรัพย์สินของข้าพเจ้าหลังจากข้าพเจ้าถึงแก่กรรม ดังนี้

ทรัพย์สินทั้งหมดที่ข้าพเจ้ามี ได้แก่ หุ้นจำนวน 30 เปอร์เซ็นต์ ของห้างหุ้นส่วนจำกัด RK Hi-Tech Metal, เงินสดและธนบัตรในบัญชีธนาคารรวมมูลค่า600,000,000 บาท (หกร้อยล้านบาทถ้วน) , สังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด รวมถึงบรรดาทรัพย์สินทั้งหลายที่ข้าพเจ้ามีอยู่ในปัจจุบัน และที่จะมีต่อไปในอนาคต ข้าพเจ้าขอมอบทรัพย์สินทั้งหมดที่ระบุไว้ ให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ นายเพทาย รัตนากร ลูกชายของข้าพเจ้าแต่เพียงผู้เดียว’

อิทธิกรอ่านพินัยกรรมด้วยน้ำเสียงมั่นคง แววตาของเขานิ่งสงบ แม้เขารู้สึกถึงแรงกดดันของต้นธารที่กำลังทับถมลงมาจนอิทธิกรแทบหายใจไม่ออก ด้านต้นธารก็ยิ้มมุมปาก ใบหน้าหล่อคมดูหยิ่งพยองและเย็นชา ไม่ต่างจากที่คิดเท่าไหร่ ไพลินคงอยากชดใช้ความผิดที่เคยสร้าง แต่มันไม่ง่ายแม้ไพลินจะตายไปแล้ว

สมบัติและเงินทองสกปรก จากคนจิตใจสกปรก เขาไม่อยากได้สักนิด

เขาจะบริจาคมันทิ้งให้หมด และจะไปเริ่มต้นใหม่กับแม่ที่เขารักและห่วงใย

 

“แต่ตามพินัยกรรมของคุณไพลิน พ่อของคุณ ถึงเขาจะได้จัดสรรทรัพย์สินและมรดกทั้งหมดของเขาให้คุณ.. แต่มีเงื่อนไขที่คุณต้นธารต้องปฏิบัติตาม ถึงจะได้มันไปครับ” อิทธิกรพูดพร้อมจ้องมองหน้าต้นธารที่สายตาขรึมลง

คิ้วตรงสวยของต้นธารเลิกขึ้นนิดหน่อย หัวใจของเขาเริ่มเต้นแรงขึ้นในขณะที่เขาเลือกเงียบฟังต่อไป มือหนาสอดประสานบีบกันแน่น แววตาของเขาจับจ้องไปที่อิทธิกร เป็นอีกครั้งที่ไม่ต่างจากที่ต้นธารคิดไว้ ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยที่กำลังคืบคลานเข้ามา ไพลิน พ่อของเขามีแผนการอะไรบางอย่าง แผนที่เขากลัวว่าจะทำให้สิ่งที่ต้นธารหวังต้องพังทลายลง

เขากำลังสั่นคลอน

อิทธิกรยกพินัยกรรมขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะค่อย ๆ อ่านเน้นย้ำข้อความสำคัญอย่างระมัดระวัง

“นายเพทาย รัตนากร จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ นายเพทาย จะต้องรับผิดชอบ ดูแล และส่งเสีย นางสาวพลอยมุก ปราเมศ ให้ได้ระดับการศึกษาปริญญาตรีและจนนางสาวพลอยมุกสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท หากนายเพทาย ไม่สามารถทำตามเงื่อนไขดังกล่าวได้ ไม่ว่าด้วยเหตุอันใดก็ตาม ข้าพเจ้าขอยกทรัพย์สินทั้งหมดที่ระบุไว้ ให้กับ นายพชระ รัตนากร น้องชายของข้าพเจ้า แต่เพียงผู้เดียว

 

คำพูดของอิทธิกรในการอ่านพินัยกรรมตอนนี้กลายเป็นเหมือนกับระเบิดที่เพิ่งจุดชนวน ความเงียบในห้องรับแขกถูกทำลายทันทีด้วยข้อความเพียงไม่กี่บรรทัดในพินัยกรรม และการโต้ตอบที่รุนแรงของต้นธาร ร่างสูงลุกขึ้นยืนอย่างฉับพลัน ทิ้งท่าทีที่เคยสุขุม แววตาของเขาในตอนนี้น่าหวาดหวั่นยิ่งกว่าแววตาของราชสีห์ ใจประทุความไม่พอใจขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ได้ เขาได้ยินเสียงเส้นอะไรบางอย่างในหัวขาดออกจากกันดังปึ้ด เส้นเลือดตรงขมับเต้นตุบ ๆ

 

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!” เสียงทุ้มอันทรงเสน่ห์บัดนี้ถูกคำรามออกมาด้วยหัวใจที่สุมไปด้วยไฟโทสะที่ลุกโชนขึ้นมา “จะให้ผมไปดูแลผู้หญิงคนนั้นเนี่ยนะ จะบ้ารึไงวะ แล้วทำไมต้องเป็นเธอคนนี้ด้วย?” แม้ต้นธารจะลุกขึ้นมายืนนิ่ง แต่ร่างกายของเขากำลังสั่นเล็กน้อยจากความโกรธที่พุ่งขึ้นมาเสียจนแทบควบคุมไม่ได้

 

ไพลินกำลังเล่นเกมกับตัวเขา เกมที่รู้ว่าต้นธารจะต้องยอมรับเงื่อนไขบ้าบอนี้

พชระ คือญาติฝั่งพ่อเพียงคนเดียวที่เขาชิงชัง อาจจะเกลียดผู้เป็นอามากกว่าพ่อของตัวเองด้วยซ้ำ

 

เพราะต้นธารไม่ยอมให้คนอย่างพชระต้องสุขสบาย จากเงินทองที่คนพรรค์นั้นไม่ได้หามาเอง

ตลอดเวลาที่อยู่ที่แคนาดา และกลับมาที่นี่ เขาสืบเรื่องราวของพชระตลอด และได้รู้ว่าผู้เป็นอาใช้ชีวิตเละเทะแค่ไหน แม้จะมีครอบครัวรัตนากรคอยสนับสนุน และพชระมีตำแหน่งเป็นหนึ่งในผู้บริหารของ RK Hi-Tech Metal ก็ตาม แต่พฤติกรรมของพชระที่ต้นธารเห็น รวมถึงสิ่งที่พชระเคยทำกับต้นธารเมื่อเขายังเด็ก เขายอมไม่ได้ ที่จะให้แผนของเขามาพังเพราะไพลิน และสมบัติต้องตกไปอยู่ในมือคนเลวอย่างพชระ เขาไม่มีทางยอมรับมัน

“ผมตั้งใจมายุ่งกับเรื่องนี้ครั้งสุดท้าย มีธุรกิจและชีวิตที่รอผมที่แคนาดา ผมต้องการกลับแคนาดาทันที ไม่ได้ต้องการจะมาคิดวุ่นวายกับเงื่อนไขบ้า ๆ พวกนี้!” ช่วงไหล่กว้างของต้นธารขยับขึ้นลงจากการหายใจแรง ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “หรือว่าพ่อกับเธอมีอะไรกันจริง ๆ ถึงกับจะยกทุกอย่างให้อาเพชร.. พลอยมุก เธอคงสำคัญกับพ่อของผมมากถึงเพียงนั้นสินะ”

ต้น ใจเย็นก่อนนะ” การเรียกชื่อต้นธารของอิทธิกรเปลี่ยนไป ดูนุ่มสบายและเป็นกันเองมากขึ้น ราวอิทธิกรต้องการปลอบใจและช่วยให้ต้นธารใจเย็นลง เพราะต้นธารคือหนึ่งในคนที่เป็นเพื่อนวัยเด็กของอิทธิกร ถึงจะไม่ได้เจอกันนาน แต่ความห่วงใยและหวังดี เขามีให้น้องชายคนนี้เสมอ “เงื่อนไขของพ่อนายที่เขาวางไว้ อาจจะฟังดูแปลก แต่เชื่อพี่เถอะว่ามันต้องมีเหตุผลอยู่เบื้องหลัง ต้นอย่าลืมสิว่าคุณไพลินฉลาด รอบคอบ และมีเหตุผลมากแค่ไหน”

“ฉลาดตรงวางแผนมัดมือชกล่ะสิไม่ว่า ตายไปแล้วก็ยังทำคนอื่นเดือดร้อน” ต้นธารเค้นเสียงต่ำรอดไรฟันออกมา เขากัดฟันกรอด ไม่คิดว่าไพลินจะทำกับเขาได้ขนาดนี้ แล้วคิดรอบคอบแบบไหนถึงจะยกทรัพย์สินให้ผีพนันอย่างพชระ—ถ้าเขาไม่ทำตามเงื่อนไข

อิทธิกรถอนหายใจ เขาลุกขึ้นเดินมาที่ต้นธารแล้ววางมือลงบนบ่าของต้นธารเบา ๆ เพื่อแสดงถึงความเป็นห่วง “คิดสิว่าทำไมคุณไพลินถึงเลือกพลอยมุกให้มาอยู่ในเงื่อนไขนี้? เขาคงไม่ทำอะไรที่ไม่มีเหตุผลถูกไหม?” อิทธิกรแม้จะมีสีหน้าเคร่งเครียด แต่เขาไม่ได้แสดงความตกใจออกมามากนัก เพราะคาดไว้แล้วว่าต้นธารจะต้องมีปฏิกิริยาเชิงลบรุนแรงขนาดนี้

ต้นธารที่แม้จะรู้สึกดีขึ้นหลังได้ยินคำพูดของอิทธิกร พี่ชายที่สนิทในวัยเด็กเพียงคนเดียวที่เขามองว่าไว้ใจได้มาตลอด แต่ร่างสูงที่ว้าวุ่นใจก็อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นเดินวนรอบห้องไปมา แววตาสีนิลของเขาเต็มไปด้วยความเดือดดาล มือของเขาถูกกำแน่นจนข้อนิ้วแปรเปลี่ยนเป็นสีขาว ราวกับว่าตัวของเขากำลังถูกอะไรบางอย่างดึงเข้าไปในกับดักที่เขาไม่มีทางหนีออกไปได้ แม้ว่าไพลินจะตายไปแล้วก็ตาม แต่ยังสามารถควบคุมชีวิตของเขาได้ด้วยแผนการซ่อนเร้นที่ซับซ้อนแบบนี้

“ตายแล้วก็ตายไปเสียสิ.. ถ้าเขามีเหตุผลจริง ทำไมยังต้องทำให้ผมติดกับเรื่องไร้สาระแบบนี้อีกครับพี่กร?” เสียงทุ้มต่ำถูกส่งถามออกไปอย่างไม่สบอารมณ์ ไม่สนอีกต่อไปว่าคำพูดเหล่านั้นมันจะดูรุนแรงแค่ไหน

อิทธิกรที่ยังคงสงบนิ่ง และกำลังคิดอะไรในหัว แต่ก็ไม่ได้พูดเถียงต้นธาร แค่พยายามอธิบายต่อไป “พลอยมุกเธอเป็นคนดีนะ พี่ยืนยันเรื่องนี้ได้ เธอกับคุณไพลินไม่ได้เป็นอย่างที่ต้นคิด..” คำพูดของอิทธิกรถูกกลืนหายไปพร้อมกับการได้สบกับนัยน์ตาสีดำนิ่งสนิทของต้นธารเพียงครู่ “และถ้าต้นอยากได้รับมรดกตามพินัยกรรม และไม่อยากให้คุณเพชรได้ทุกอย่างไป ต้นก็ต้องทำตามเงื่อนไขนี้.. พี่แนะนำให้ต้นลองคิดดูอีกทีนะ พี่ต้องไปที่สำนักงานก่อนนะ จะเอายังไงก็บอกพี่อีกที” อิทธิกรตบที่ไหล่ของต้นธารเบา ๆ ก่อนจะยิ้มให้เขาอย่างจริงใจ ก่อนร่างสูงของอิทธิกรจะค่อย ๆ เดินออกจากบ้านไป

เมื่ออิทธิกรออกไปแล้ว ก็มีเสียงของผู้มาใหม่ ทำให้ต้นธารหันไปมองและพบกับพงศ์อินทร์ นักสืบเอกชนฝีมือดีที่เขาติดต่อไปเรื่องเกี่ยวกับพลอยมุก พงศ์อินทร์เดินเข้ามาพร้อมกับซองเอกสารสีน้ำตาลในมือ นักสืบวัยกลางคนยื่นซองเอกสารให้กับต้นธารทันที

“สวัสดีครับ คุณต้นธาร นี่คือข้อมูลที่คุณต้องการทั้งหมด เกี่ยวกับคุณพลอยมุกครับ”

ต้นธารรับซองมาโดยไม่พูดอะไร แต่ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อถือ และความสงสัยต่อพลอยมุก ผู้หญิงคนนี้ เขารู้แล้วว่าเธออาจไม่ใช่ชู้รักของพ่อที่เป็นแค่คนธรรมดา เธอต้องมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ไพลินกล้าลงทุนทำมากขนาดนี้ กล้าเอาทุกอย่างมาเดิมพันกับคนอย่างต้นธาร ที่ไพลินรู้ดีว่าเขาคนนี้เกลียดไพลินแค่ไหน และยอมเสี่ยงที่จะยกทุกอย่างให้กับพชระ แทนที่จะเป็นวราลีซึ่งเป็นภรรยาที่ไพลินทำผิดต่อเธออย่างโหดร้ายและรุนแรงเกินที่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งจะทนรับมันไหว

ความโกรธยังคงพลุ่งพล่านในใจที่ร้อนรุ่มของต้นธาร เขาพร้อมที่จะเปิดซองเพื่อรู้ความจริงภายในนั้น ความจริงที่เขาต้องการจะหาคำตอบมาตลอด

 

สามวันต่อมา..

ต้นธารใช้เวลาคิดและไตร่ตรองหลังจากพงศ์อินทร์นำข้อมูลของพลอยมุกมาให้เขา และเพราะไม่อยากให้อิทธิกรต้องรอนาน เขาจึงติดต่ออิทธิกรและวราลีผู้เป็นแม่เกี่ยวกับเรื่องที่เขาจะยินยอมทำตามเงื่อนไขพินัยกรรมของไพลิน สำหรับคนอื่นมันคงยากมากที่ต้องทำใจยอมรับอะไรบ้า ๆ แบบนี้ แต่ต้นธารไม่อาจปล่อยให้เวลาผ่านไป เพราะเวลาอย่างน้อยที่เขาต้องอยู่ที่นี่คือ 3 ปี และธุรกิจของเขาที่แคนาดาก็ไม่ยากเกินที่เขาจะคอยควบคุมมันในระยะไกล อีกอย่างเขามีคนที่ไว้ใจได้คอยช่วย เรื่องงานและพินัยกรรม เรื่องเปลี่ยนแผนใหม่ทั้งหมด เขาใช้เวลาคิดไม่เกินครึ่งชั่วโมงเขาก็วางแผนใหม่อย่างชาญฉลาดได้ เพื่อไม่ให้เรื่องของไพลินไปกระทบชีวิตที่แสนสวยงามของเขาที่นั่น แต่มีแค่เรื่องเดียวที่ทำให้ต้นธารใช้เวลาคิดหนักจนถึงสามวัน

พลอยมุก..

จริงอยู่ที่ตอนนี้ถึงการรู้ข้อมูลของหญิงสาวหน้าสวยหวานแต่สามารถใช้วาจาฟาดฟันกับเขาได้คนนี้ไม่ได้เปลี่ยนอะไรไปมากนัก เขาก็ยังคงไม่ไว้ใจเธอ และไม่มั่นใจที่จะต้องคอยส่งเสียดูแลเธอ

นักสืบบอกกับเขาว่าเธอเป็นแค่นักศึกษาสาวธรรมดา ที่ทำงานเสริม และสอนพิเศษเพื่อหารายได้เสริมเท่านั้น พ่อและแม่ของเธอเสียชีวิตเมื่อเธอยังเด็ก และไม่ได้มีหลักฐานใดยืนยันว่าเธอคือชู้รักของไพลิน

แต่ต้นธารก็ยังคงไว้ใจพลอยมุกไม่ได้ เนื่องจากเขาไม่รู้ไม่รู้ว่าเธอมีสิ่งใดซ่อนเร้นอยู่หรือไม่ หรือเธอต้องการอะไรจากการชอบแวะเวียนมาที่บ้านหลังนี้แม้ไพลินจะเสียชีวิตไปแล้ว เพราะเขาไม่เข้าใจ

ดังนั้นจึงไม่ใช่แค่การไม่ยอมปล่อยให้มรดกของไพลินตกไปอยู่ในมือพชระ แต่เขารู้สึกว่ามาถึงจุดนี้เขาต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้วราลีพึงพอใจ แม่ของเขาเจ็บปวดมาเยอะกับผู้ชายที่ชื่อว่าไพลิน และถ้าเขาสามารถทำตามเงื่อนไขพินัยกรรม และได้บริจาคมรดกทั้งหมดของไพลินเพื่อการกุศล จะแก้แค้นให้วราลีอย่างเหมาะสมที่สุด และจะพิสูจน์ว่าต้นธารไม่เคยต้องการสมบัติใด ๆ จากพ่อ กับเวลาแค่นี้ เขาเสียสละให้กับผู้เป็นแม่ของเขาได้

และถ้าพลอยมุก เธอคนนั้นบริสุทธิ์ใจจริง เธอที่ต้องแสดงให้ต้นธารเห็นว่าตัวพลอยมุกไม่ได้เป็นชู้รักของไพลิน เขาต้องการสืบหาความจริงจากเธอโดยตัวเขาเอง เพราะเรื่องระหว่างเธอกับไพลินนักสืบก็ยังไม่สามารถหามาให้เขาได้ และเขาอยากจะรู้ว่าถ้าเขาต้องดูแลเธอ หมายความว่าเธอต้องมาอยู่ในสายตาของเขา มีเขาเป็นผู้ปกครอง พลอยมุกจะสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่เป็นมิตรที่ต้นธารมีต่อเธอแบบนี้ได้อย่างไร พูดง่าย ๆ คือ ต้นธารต้องการจะทดสอบพลอยมุก เธอต้องมีหลักฐานมายืนยันเพื่อแย้งกับสิ่งที่เขาเชื่ออยู่

“ป้านางครับ..” เป็นครั้งแรกที่ต้นธารเป็นฝ่ายเอ่ยกับนางก่อน ด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรและดูสดใส ไร้แววความโกรธ ทำให้นางรีบเดินมาหาต้นธารทันที

“ค่ะคุณต้นธาร มีอะไรให้ป้าช่วยมั้ยคะ?”

“ช่วยบอกคนทำมื้อเที่ยงไว้ให้ ซัก 4 เมนู ไม่ต้องรีบนะครับเดี๋ยวผมจะเข้ามากินประมาณบ่ายสอง อ้อ..” ต้นธารเกือบจะลืมบอกสิ่งที่สำคัญที่สุด “เมนูที่จะทำทั้งหมดขอเป็นของโปรดของพลอยมุก นะครับ”

เพราะแววตาของต้นธารที่เคยดำเข้มและไร้ประกายใด ๆ บัดนี้กลับเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและจริงใจที่ถูกส่งมาพร้อมคำพูดนั้น ที่นางแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง จะเป็นไปได้อย่างไรกันที่อยู่ ๆ พลอยมุกจะมาที่นี่หลังโดนต้นธารพูดจาแบบนั้นใส่ แต่เธอก็ทำได้เพียงตอบรับสิ่งที่ต้นธารขอ เพราะนางมองว่าเรื่องดีกำลังจะเกิดขึ้น

ต้นธารเดินออกจากบ้านและตรงไปยังโรงจอดรถอย่างกระฉับกระเฉง แม้แสงแดดยามสายจะกระทบลงมา แต่ไม่ได้ทำให้ต้นธารรู้สึกร้อนหรือหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย ร่างสูงโปร่งเพรียวของเขาเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความมั่นใจ วันนี้ต้นธารสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวไร้ลวดลาย พับแขนขึ้นถึงศอก เผยให้เห็นแขนที่แข็งแรงจากการออกกำลังกาย และเส้นเลือดที่ชัดบ่งบอกว่าเขาดูแลตัวเองอย่างดี ท่อนล่างใส่กางเกงสแลคสีดำ ผ้าทิ้งตัวเรียบลื่น ในมือถือแว่นกันแดดสีดำ และเขาก็สวมมันทันทีเมื่อตนเองเดินมาถึงรถสปอร์ตสีแดงสดคันงาม Ferrari 296 ที่จอดอยู่

แสงแดดประกายจ้าลงบนถนนสายใหญ่ รถที่ถูกต้นธารขับออกไปอย่างไม่ช้าไม่เร็ว เข้ากับใบหน้าเรียบเฉยของต้นธาร ขากรรไกรของเขาถูกขบไว้แน่น เขารู้ดีถ้าอยากทำเพื่อวราลีเขาต้องเผชิญหน้ากับพลอยมุก และเขาตั้งใจจะเคลียร์ทุกอย่างไม่ให้ต้องเกิดปัญหา

เมื่อถึงมหาวิทยาลัยชื่อดังที่พลอยมุกเรียนอยู่ ต้นธารขับรถมาจอดรอบริเวณหน้าคณะศึกษาศาสตร์ เพราะเขารู้ว่าใกล้เวลาที่เธอจะเรียนเสร็จแล้ว และจะลงมา

มีนักสืบมันก็ดีแบบนี้แหละ ไม่ต้องลดอีโก้ไปโทร.หาว่ายัยเด็กนี่อยู่ที่ไหน หรือทำอะไร

“ออกมาเร็วกว่าที่คิดแฮะ..” ต้นธารเอ่ยออกมาเบา ๆ กับตัวเอง ก่อนจะต้องเลิกคิ้วแปลกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า เพราะวันนี้พลอยมุกแต่งกายต่างออกไปจากที่ต้นธารเคยเห็น เธอไม่ได้แต่งตัวอย่างปกติเช่นเคย กระโปรงพลีทยาวถูกแทนที่ด้วยกระโปรงทรงเอสีดำพอดีตัว ความยาวเหนือเข่าเล็กน้อยเผยให้เห็นเรียวขายาวสวย เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นปลายพับของเธอถูกรีดจนเรียบ กระดุมติดมิดชิดเรียบร้อย นอกจากกระโปรงทรงใหม่แล้ว เธอยังสวมรองเท้าส้นเตี้ยที่ดูหรูหรา เรียบง่าย แต่สง่างาม

อากาศตอนเที่ยงมีแสงแดดอ่อน ๆ ที่ส่องลอดลงมาบนทางเดินหน้าคณะ พลอยมุกเดินออกมาพร้อมกลุ่มเพื่อน ๆ ของเธอ ทั้งหมดต่างกำลังพูดคุยกันและหัวเราะอย่างสนุกสนาน แต่เธอเด่นกว่าใครทั้งหมดในกลุ่มนั้น รอยยิ้มของเธอสดใสจนทำให้บรรยากาศรอบตัวดูสดชื่นยิ่งขึ้น ทุกครั้งที่เธอหัวเราะ แววตาของเธอเปล่งประกาย สายลมพัดผ่านพลิ้ว ทำให้ผมยาวสีน้ำตาลตรงสวยของพลอยมุกขยับตามเบา ๆ เพิ่มความน่ามองให้กับพลอยมุกขึ้นเท่าตัว

ต้นธารซึ่งนั่งอยู่ในรถสปอร์ตคันงามไม่ไกลจากจุดที่พลอยมุกอยู่ เขาเผลอจ้องมองเธออย่างลืมตัว แววตาเย็นชาพลันหายไปเมื่อเห็นว่าพลอยมุกสามารถยิ้มได้สดใสขนาดนี้ แม้เขาจะคิดมาตลอดว่าเธอเงียบและดูเศร้าหมอง ทำเอาเขาเผลอไผลเคลิ้มไปกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขของเธอ คิดไปว่าบางทีเธออาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เขากำลังเข้าใจผิด แต่ไม่นาน ต้นธารก็สะบัดหัวเพื่อดึงตัวเองกลับมาจากภวังค์ ก่อนจะถอนหายใจกับตัวเองอย่างแรงเพราะหงุดหงิดที่ปล่อยตัวเองให้เผลออ่อนลงในช่วงเวลานั้น

ตั้งสติสิต้นธาร นายมาเพื่อเคลียร์เรื่องพินัยกรรม ไม่ใช่มาหลงระเริงไปกับความงดงามและเสน่ห์ของพลอยมุกเสียหน่อย ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยกับการมาสนใจอะไรแบบนี้

เมื่อคิดได้ดังนั้น และก่อนที่พลอยมุกจะเดินห่างออกไปพร้อมกับกลุ่มเพื่อน ต้นธารก็ตัดสินใจขับรถตามเธอเทียบข้าง ๆ ฟุตบาทไปทันที เขาลดกระจกลงทำให้พลอยมุกและเพื่อนทั้งกลุ่มหยุดมองเขา เมื่อเห็นว่าพลอยมุกชะงัก กับภาพชายรูปหล่อ หุ่นดี ขับรถหรู แม้จะใส่แว่นดำกันแดดแต่ก็ดูออกว่าเขาหน้าตาดีแค่ไหน เพื่อน ๆ ของพลอยมุกจึงพากันฮือฮาและตกตะลึงกับภาพที่เห็น

นี่ ขึ้นมาคุยกันหน่อย” ต้นธารพูดเสียงดัง แต่ไม่ได้เรียกแม้กระทั่งชื่อของพลอยมุก หรือทักทาย ถามไถ่เธออย่างสุภาพด้วยซ้ำ ท่าทีหยาบคายของต้นธารทำให้พลอยมุกไม่พอใจกับการกระทำของเขาอย่างมาก

พลอยมุกไม่ได้ตอบอะไร ก่อนจะสะบัดหน้าเดินหนีต้นธารอย่างรวดเร็ว ร่างเล็กเดินกระแทกเท้าด้วยความหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด เธอเดือดดาลอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แม้เพื่อน ๆ ของเธอพยายามเรียกและห้ามเธอไว้ แต่พลอยมุกก็ไม่ฟัง เธอไม่พอใจที่ต้นธารมาปรากฏตัวตอนนี้ เวลานี้ โดยไม่นัดเธอก่อนด้วยซ้ำ แถมอาจทำให้เพื่อนของเธอเข้าใจเธอผิด แค่มีต้นธารคนเดียวบนโลกที่เข้าใจผิดและเกลียดเธอแบบไม่มีเหตุผล มันก็หนักหนาสำหรับพลอยมุกมากพอแล้ว

ต้นธารไม่สนใจอาการของสาวน้อยที่เดินหนีเขาไป เขาขับรถตามเธอไปเรื่อย ๆ อย่างไม่ลดละ จนมีรถคันอื่นเริ่มบีบแตรใส่เพราะต้นธารขับรถช้าเกินไปและขวางทางรถคันอื่น แต่เขายังคงขับจี้ข้าง ๆ เธอ จนพลอยมุกทนไม่ไหว เธอหันมาถลึงตาใส่เขา พลอยมุกย่นคิ้วเข้าหากันอย่างไม่ชอบใจ

แม้สำหรับต้นธาร พลอยมุกในตอนนี้จะเหมือนหนูแฮมสเตอร์ตัวน้อยที่พยายามแยกเขี้ยวใส่เขา เธอเป็นได้เพียงเท่านั้น ถึงจะพยายามสู้เขา แต่มันไม่ได้ดูน่ากลัวเลยสักนิด

“เธอไม่รู้เหรอว่าฉันคุยกับเธออยู่?” ต้นธารถามออกไปขณะใช้มือข้างหนึ่งถอดแว่นตากันแดดออก เพื่อจะสบตากับพลอยมุกโดยตรง

“นี่คือวิธีที่คนเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งเคยบอกว่าเด็กอย่างฉันไม่ควรสอนคุณ มาขอให้คนไปคุยด้วยเหรอคะ?” คำพูดของพลอยมุกทำให้ต้นธารชะงักค้างไปชั่วครู่ “ถ้าคุณที่จบเมืองนอกเมืองนามา อยู่ในประเทศที่อิสระและเสรีทุกอย่าง แต่คุณยังไม่รู้วิธีที่จะเริ่มต้นพูดกับคนอื่นอย่างมีมารยาท หรือให้เกียรติกัน ก็อย่าเสียเวลามาพูดกับฉันดีกว่า” น้ำเสียงนุ่มหวานทว่าเด็ดเดี่ยวถูกส่งมา พูดจบเธอก็ก้าวเท้าผ่านเดินหนีเขาฉับ ๆ อย่างไม่แยแส

 

เมื่อต้นธารรู้ตัวว่าเขาอาจจะใช้ท่าทีที่ไม่เหมาะสมต่อเธอ และรู้ว่าเขาทำพลาดในการเริ่มต้นบทสนทนานี้ แต่เขากลับรู้สึกถึงความท้าทายมากขึ้น เขาตัดสินใจขับรถเร่งขึ้นแซงหน้าเธอไปหยุดรถในที่จอดรถข้างทาง เขาลงจากรถและเดินตรงเข้ามาหาพลอยมุก เพื่อคุยกับเธออย่างสุภาพ เขาเปลี่ยนท่าทีเย็นชายอย่างเคยให้ดูเป็นมิตรขึ้นแต่ยังคงซึ่งความมั่นใจไว้ เมื่อยืนต่อหน้ากันใกล้ ๆ อีกครั้ง ก็เห็นว่าร่างผอมบางของพลอยมุก สูงเลยไหล่ของเขาขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“ฉันขอโทษที่ทำให้เธอไม่พอใจกับการไม่มีมารยาทของฉัน ฉันแค่มีเรื่องสำคัญจะคุยกับเธอ”

“ค่ะ..” พลอยมุกตอบแค่นั้น เธอเดินเบี่ยงตัวหลบจากเขาเพื่อจะนำหน้าเขาไป แต่สัมผัสจากมือหนาที่มาจับที่แขนของเธอไว้ ทำให้พลอยมุกตกใจและหันกลับไปหาต้นธารทันที ตัวเธอเซเข้ามาหาตัวของต้นธาร จนใบหน้าของทั้งสองไม่ได้ห่างกันมากนัก แม้เขาจะจงใจดึงไม่ให้เธอไปจากเขาอีก แต่ต้นธารก็ระวังไม่ดึงแรงเกินไปเพราะเขากลัวว่าพลอยมุกจะหกล้ม เขาจึงใช้มืออีกข้างคอยประคอง ระวังเธอไว้อย่างดี

 

“คุยกับฉันหน่อยนะพลอยมุก.. ฉันขอร้อง เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับพ่อของฉัน”

 

แม้ยังไม่เข้าใจ ไม่ทันตั้งตัว และเพราะถูกร่างสูงที่แข็งแรงกว่าดึงเอาเธอมาไว้ใกล้ตัว ทำให้พลอยมุกหอบหายใจเร็ว ดวงตาคู่งามเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าดวงตาสีนิลมองจ้องมาอย่างแฝงหลายความหมาย ครั้งนี้เขาเป็นฝ่ายอ่อนให้และยอมพลอยมุกก่อนก็จริง และพลอยมุกเองก็รู้สึกได้ถึงความจริงใจในน้ำเสียงของเขา แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะระแวงเขาอยู่ดี ในเมื่อหลายวันก่อนเขาทั้งต่อว่าและดูถูกเธอไป ทำไมตอนนี้เขาถึงทำเหมือนจะญาติดีกับเธออย่างนี้ โดยเฉพาะถ้ามันเกี่ยวกับเรื่องของไพลิน ที่เธอรู้ดีว่าต้นธารโกรธแค้นไพลินมากแค่ไหน

 

ฉันจะทำยังไงกับลูกชายของคุณดีคะ คุณไพลิน?

 

TBC

/

 

Talk Talk

ปากไม่ดีละยังจะหวังให้เขากลับไปกินข้าวกับตัวเองที่บ้านอีกนะ

แถมแต๊ะอั๋งลูกชั้นอีกไอ้แก่นี่