พิภพ หนุ่มโสดเจ้าของรูปร่างสูงใหญ่ 180 ซม. กับสาวสวยตาหวาน มินตรา ลูกสาวเจ้าของที่ดินให้เช่าทำฟาร์มกุ้ง มนต์เสน่ห์ของธรรมชาติ การดำเนินชีวิต และความรักอันร้อนแรงของหนุ่มสาววัยว้าวุุ่น
ชาย-หญิง,รัก,ผู้ใหญ่,ไทย,วัยว้าวุ่น,ชาย-หญิง,NC25++,เซ็กส์,เซ็กส์จัด,นางเอก,นางเอกสวยมาก,พระเอกรวย,พระเอกขี้หึง,พระเอกครั่งรัก,พระเอกขี้หวง,เลี้ยงสัตว์,ทำสวน,ทำฟาร์ม,ครอบครัว,18+,อีโรติก,โรแมนติก,วัยว้าวุ่น,รัก,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
อลหม่่านรักแรกพบพิภพ หนุ่มโสดเจ้าของรูปร่างสูงใหญ่ 180 ซม. กับสาวสวยตาหวาน มินตรา ลูกสาวเจ้าของที่ดินให้เช่าทำฟาร์มกุ้ง มนต์เสน่ห์ของธรรมชาติ การดำเนินชีวิต และความรักอันร้อนแรงของหนุ่มสาววัยว้าวุุ่น
ในระหว่างที่กำลังคุยเรื่องเช่าที่ดินนั้น พิภพก็ได้ลอบมองหามินตรา ที่ไม่ได้เห็นตั้งแต่เริ่มทานอาหาร สาวสวยนั้น ถูกตาถูกใจเขามาก เขาอยากจะทำความรู้จักแม่สาวตาหวานให้มากกว่านี้สักหน่อย
“เอ่อ ไม่ทราบว่าห้องน้ำไปทางไหนหรือครับ ผมขอเข้าห้องน้ำหน่อยได้ไหมครับ” พิภพลอบเดินมาเอ่ยถามป้าศรีในระหว่างที่เถ้าแก่กับลุงเอิบกำลังเสวนากัน
“อ๋อ เดินลัดไปในครัวนี่เลยจ้ะพ่อหนุ่ม ทางประตูหลังจะเห็นทางเดินไปห้องน้ำไม่ไกลห้องครัวหรอก ห้องน้ำอยู่ด้านหลังบ้าน มีรองเท้าอยู่ ใส่ไปได้เลยจ้ะ” ป้าศรีเอ่ยตอบหนุ่มน้อย พลางคิดในใจว่า เด็กคนนี้หน้าตาดีจริงๆ
“ขอบคุณครับ” พิภพเอ่ยตอบ พลางเดินไปห้องน้ำตามที่ป้าศรีบอก พอเสร็จกิจ เดินออกมาระหว่างกำลังกลับเข้าไปในตัวบ้าน เหลือบไปเห็นสาวตาหวานนั่งอยู่บนแคร่อีกฟากหนึ่งของบ้าน
“หึ ไอ้เราก็มองหาตั้งนาน มาหลบอยู่นี่นี่เองแม่สาวตาหวาน” พิภพเอ่ยพึมพำ แล้วเดินไปหาสาวน้อยที่หมายตา
“มานั่งทำอะไรตรงนี้คนเดียวหรือครับ น้องมิ้นท์” พิภพเอ่ยทัก
“อุ้ย เอ่อ คุณพิภพ พอดีมิ้นท์มานั่งตากลมเย็นเย็นเล่นสักหน่อยหน่ะค่ะ” มินตราเอ่ยตอบ
“แล้วทำไมเราไม่ทานข้าวกับพวกพี่หล่ะครับ”
“มิ้นท์ไม่ค่อยหิวค่ะ คุณพิภพมาทำอะไรหรอคะ”
“เรียกพี่ แทนได้ไหมครับ เรียกคุณมันทางการไปหน่อยนะครับ”
“เรียกคุณแบบนี้ มิ้นท์ก็สะดวกนะคะ”
“พี่อยากสนิทกับเราหน่ะ เรียกพี่เถอะนะ นะครับ” พิภพทำเสียงอ้อน
“....” มินตราหันไปมองพลางคิดในใจ คนคนนี้ยังไงของเขากันนะ
“....” พิภพมองตอบ พลางส่งสายตาสื่อความหมายให้
“เอ่อ ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ”
“.....” พิภพมองไม่วางตา
“ค่ะ พี่พิภพ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว มิ้นท์ขอตัวนะคะ” มินตราพูดพร้อมลุกขึ้น
“เดี๋ยวสิครับ รีบไปให้หล่ะ มาคุยกับพี่ก่อนสิ พี่อยากฟังว่า ในสวนปลูกอะไรไว้บ้าง” พิภพว่าพลางคว้าแขนของมินตราไว้ หืม แขนนุ่มมาก พิภพคิดในใจ
“คะ” มินตราตกใจ สะบัดแขนออก
“พี่ขอโทษนะคะ พอดีพี่ตกใจ จู่จู่หนูก็ลุกขึ้น นั่งลงก่อนนะครับ อยู่คุยเป็นเพื่อนพี่ก่อนนะครับ” พิภพรีบตอบอย่างร้อนใจ
“อ๋อ ค่ะ งั้นอยู่คุยเป็นเพื่อนก็ได้ค่ะ” มินตราตอบพลางนั่งลงตามเดิมและเล่าเรื่องราวในสวนให้พิภพฟังจนเผลอยิ้มออกมา
พิภพที่กำลังนั่งฟัง ก็ได้ลอบมอง สาวตาหวานคนนี้ ก็คิดชมในใจว่า เธอมีผิวสวย แถมยังนุ่มนิ่ม นั่งใกล้ๆ ก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ กลิ่นอะไรกันนะ อยากรู้จัง ถามดีไหมนะ ดูเธอยิ้มสิ ตาก็หวาน ยิ้มมาที ละลายเลยนะนี่ อายุเท่าไหร่กันนะ น่ารักเป็นบ้า ยิ่งมองยิ่งน่ารัก โอ๊ย
“มีอะไรติดหน้ามิ้นท์หรอคะ พี่พิภพ” มินตราหันมาเห็นพิภพนั่งจ้องหน้าเธออยู่
“อ๋อ เปล่าครับ พี่ตั้งใจฟังเราอยู่หน่ะ”
ติ๊ง เสียงข้อความโทรศัพท์ของพิภพดังขึ้น
พิทักษ์ : มึงอยู่ไหนเนี่ย ไปตกส้วมตายหรอ เขากำลังจะกลับกันแล้ว
พิภพ : โอเค เดี๋ยวรีบไป
“พี่ว่า ผู้ใหญ่น่าจะคุยกันเสร็จแล้ว เดี๋ยวพี่กลับก่อนนะครับ ไว้เจอกันใหม่”
“มิ้นท์ส่งตรงนี้นะคะ สวัสดีค่ะ” มิ้นท์ไหว้พร้อมเอ่ยลา
พิภพเดินกลับเข้ามาในตัวบ้าน บอกลาลุงเอิบกับป้าศรีก่อนเดินทางกลับ แต่มินตรายังนั่งอยู่ตรงที่เดิม พลางแอบเขินอยู่ในใจ คนอะไรหล่อจัง
เนื้อเรื่องของนิยายเรื่องนี้นำเสนอการดำเนินชีวิตแบบฉบับชาวสวน
และเรื่องราวความรักหลากหลายอารมณ์ของหนุ่มสาว
ตอนจบจะเป็นเช่นไรมาเอาใจช่วยน้องมินตรากับพี่พิภพไปพร้อมๆ กันนะคะ
*เนื้อหามีความละเอียดอ่อนไม่แนะนำให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีอ่านนะคะ*
📚Talk Talk กับนักเขียน😊
สวัสดีค่ะ🙏🏻 สะเดาหวาน ผู้ชื่นชอบนิยายเป็นชีวิตจิตใจ
ฝากกดติดตามเพจของสะเดาด้วยนะคะ🙏🏻❤️
😊นิยายทุกเรื่องสะเดาตั้งใจสร้างผลงานเพื่อรี้ดทุกท่าน หวังว่าจะสนุกกับนิยายของสะเดานะคะ สะเดาอยากอ่านคอมเม้นต์ของรี้ดทุกท่านมากๆ กดเข้ามาเม้นต์มาคุยกันได้นะ
สุดท้ายนี้ฝากเป็นกำลังใจให้สะเดาด้วยนะคะ ❤️✌🏻
🙏🏻❤️ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของรี้ดทุกท่านมากๆเลยค่ะ
❤️🧡💜💙🩷💚🩵🤍
หลังจากที่แขกทั้ง 3 คนกลับไปในวันนั้น ก็ผ่านล่วงเลยมา 3 สัปดาห์แล้ว มินตราก็ยังคงดำเนินชีวิตไปเรื่อย ๆ แบบของเธอเหมือนทุกๆ วัน วันนั้นพ่อเอิบก็ได้ตกลงกับเถ้าแก่ไพรวัลย์เรียบร้อย ว่าจะให้เช่าที่ดินแปลงข้างๆ นี้ แต่จะทำเป็นฟาร์มกุ้ง ไม่ได้เพาะปลูกเหมือนเดิม โดยที่ค่ารถแม็คโครขุดบ่อ และกลบบ่อนั้นจะเป็นค่าใช้จ่ายที่ทางเถ้าแก่ดูแลเอง เพราะที่บ้านเถ้าแก่มีรถแม็คโคร เครื่องมือต่างๆ พร้อม ทางพ่อเอิบรับแค่ค่าเช่ารายปีไป และยังให้ราคาที่มากกว่าเดิมอีกเท่าตัว เพราะด้วยว่าคนของเขาต้องมาอาศัยอยู่ใกล้ๆ เพื่อดูแลกุ้งให้ดี อาจจะมีการรบกวนกันบ้าง ใช้เส้นทางสัญจรไปมาบ้าง พ่อเอิบเห็นว่า ก็ไม่ติดขัดอะไร ที่ดินก็ไม่เสียหาย จบสัญญา ดินที่เลี้ยงกุ้งก็ยังมีปุ๋ยจากขี้กุ้งบำรุงดินอีก ทั้งยังมีเพื่อนบ้านอยู่ใกล้ๆ ไว้คอยช่วยเหลือเป็นหูเป็นตา เพราะตนก็เป็นห่วงลูกสาวที่อยู่บ้านคนเดียวเหมือนกัน ชวนไปขายของก็ไม่ไปคอยแต่จะอยู่กับบ้าน ไปเที่ยวพักผ่อนก็นานนานถึงไปที
ช่วงนี้เป็นช่วงปลายปี อากาศที่บ้านของมินตราก็เริ่มเย็นลงเล็กน้อย มีหมอกลงบ้างในตอนเช้า มินตราชอบช่วงเวลานี้ที่สุด เพราะสามารถทำงานได้ตลอดทั้งวัน มีลมพัดเอื่อยๆ ตลอดเวลา วันนี้หลังจากทำงานเสร็จสรรพในช่วงเช้า เธอก็ออกไปเดินเล่นที่สวนผลไม้บ้าง พ่อของเธอบอกว่า เหมือนมะพร้าวกะทิที่ปลูกไว้จะแก่แล้ว ให้ลองไปสอยมาดู เธอเดินไปถึงใต้ต้นมะพร้าว แหงนหน้ามอง พอปรับสายตาให้สามารถมองสะท้อนแสงแดดได้ ดวงตาเธอก็เปล่งประกายทันที
“หืม มันแก่แล้วจริงด้วย น่าจะกินได้แล้ว ทำขนมอะไรดีนะ”
มินตราเดินกลับไปลากไม้ไผ่ลำยาวที่ไว้ใช้สำหรับสอยมะพร้าวมา ส่วนปลายของไม้ไผ่เสียบตะขอสอยมะพร้าวไว้รอแล้ว ใช้แรงแขนเหวี่ยงส่วนโคนไม้ไผ่ให้ปักไว้กับโคนมะพร้าวต้นที่จะสอย พอตั้งหลักได้แล้ว ค่อยๆ เดินหน้าจากกลางไม้ไผ่ไปยังโคน เพื่อตั้งลำไม้ไผ่ให้อยู่ในแนวตั้ง จากนั้นแหงนมองตำแหน่งลูกมะพร้าวที่จะสอย ออกแรงยกลำไม้ไผ่ขึ้นเพื่อให้ตะขอเกาะเกี่ยวขั้วของลูกมะพร้าวไว้ แล้วออกแรงดึงกระชากลงมา มะพร้าวก็จะร่วงหล่นลงมาตามแรงกระชาก บ้างก็ร่วงลงมา 1-3 ลูก พร้อมๆ กัน อย่างคนเก่งๆ แบบพ่อกับแม่เธอ บางทีร่วงลงมา 4-5 ลูกเลยทีเดียว ต้องระวังให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจจะหัวปูดแข้งเขียวกันได้ มีประสบการณ์มา 4-5 ปีแล้ว มินตราผ่านมาหมด แม้เป็นผู้หญิงแต่ก็เป็นลูกชาวสวนชาวไร่ ต้องทำให้เป็น พ่อเธอสอนเอาไว้
“อืม ได้มาเยอะเลย ทำอะไรดีหล่ะเนี่ย”
หลังจากนับแล้วได้มะพร้าวกะทิมา 6 ลูก มินตราคิดไม่ตกว่าจะทำอะไรกินดี หรือเอาไปขายดี เพราะขายก็ได้ราคาดี 1 ลูก ตกราคา 50-200 บาทแล้วแต่พื้นที่ รสชาติของมะพร้าวกะทินั้นหอมมัน หวานนิดหน่อย อร่อยมาก เนื้อนิ่มฟูเหมือนปุยเมฆ เอาไปทำขนมทานได้หลายอย่าง
“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง” ไอ้ขาว หมาแสนรักเห่าส่งสัญญาณว่ามีคนมาเยือน
“น้องมิ้นท์อยู่ไหมครับ พี่ภพเอง” พิภพตะโกนเรียกเสียงดังลั่น
“.....” มินตราเงียบไม่ตอบอะไรเพราะเธอรู้แล้วว่าเสียงนี้เป็นของใคร เธอทำได้แค่รีบเก็บมะพร้าวใส่ตะกร้าสะพายหลังเดินกลับเข้าบ้าน
“สวัสดีค่ะ พี่พิภพ ไม่ทราบว่ามาหาคุณพ่อคุณแม่หรอคะ” มินตราไหว้พร้อมเอื้อนเอ่ยถามหนุ่มผิวเข้มตรงหน้า
“แหม น้องมิ้นท์ พี่เรียกตั้งนาน ไม่ขานรับพี่หน่อยหรอครับ พี่มาหาเรานั่นแหละ แล้วก็แวะเอากระเช้ามาฝากคุณลุงคุณป้าด้วย แล้วนี่ไปทำอะไรมาครับ ด้านหลังนั่นถือไหวไหม แลจะหนักนะ มา พี่ช่วย” พิภพเอ่ยพลางเดินเข้ามาหาหวังจะมาช่วยสาว
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ขอบคุณนะคะ แค่นี้มิ้นท์สบายมาก” มินตราเบี่ยงตัวหลบ แล้วเดินไปวางตะกร้าไว้ที่ศาลาริมน้ำ พิภพเดินตามหลังมาติดๆ นั่งลงอีกฝั่งของศาลา
“ทำไมเราต้องทำเสียงแข็งกับพี่ด้วยหล่ะ พี่แอบเสียใจนะครับ” พิภพแสร้งทำเสียงเศร้า
“มิ้นท์ไปเอาน้ำมาให้นะคะ รอสักครู่” มินตราไม่รู้จะตอบยังไง เปลี่ยนเรื่องทันที รีบลุกเดินเข้าครัวไปยกน้ำมาให้พิภพ และของเธอด้วย
“พี่พิภพดื่มน้ำก่อนนะคะ”
“ขอบคุณครับน้องมิ้นท์”
“อ่ะ นี่ครับ กระเช้าปีใหม่ พี่ฝากมอบให้คุณลุงคุณป้าแทนพี่ด้วยนะครับ”
มินตราไหว้ขอบคุณพร้อมรับกระเช้ามาวางไว้ข้างตัว
“ส่วนนี่ ของขวัญจากพี่ เล็กๆ น้อยๆ ครับ ถือซะว่าเป็นของขวัญปีใหม่ก็ได้ พี่ไปธุระที่ต่างจังหวัดมา พอเห็นก็นึกถึงหนูเลยซื้อมาฝากครับ”
“ไม่เห็นต้องลำบากเลยค่ะ พี่เก็บไว้ให้แฟนของพี่ดีกว่าไหมคะ เอามาให้มิ้นท์แบบนี้ มิ้นท์เกรงว่าจะไม่เหมาะ”
“เหมาะสิครับ ลำบากอะไรกัน พี่ยังไม่มีแฟนสักหน่อย”
“ไม่เชื่อหรอกค่ะ พี่หน้าตาดีแบบนี้ ไม่มีสาวสาวเลยน่าจะแปลกเกินไปแล้วนะคะ”
“หืม หนูบอกว่าพี่หน้าตาดีหรอ แสดงว่าพี่ตรงสเปคเราใช่ไหม”
“ไม่ คือ หนูไม่ได้หมายถึงแบบนั้นนะคะ แค่พูดโดยรวมที่มองเห็น”
“อุ๊ย แก้มแดงแล้ว น่ารักจัง เขินพี่หรอครับ”
“ไม่ ไม่ใช่นะคะ อากาศร้อนหน่ะค่ะ พี่ก็พูดไปเรื่อย”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย เขินก็บอกว่าเขินสิครับ อากาศก็เย็นลมพัดขนาดนี้ หืม”
“พี่มาพูดธุระเสร็จแล้วใช่ไหมคะ”
“หืม เปลี่ยนเรื่องอีกแล้ว โอเค ไม่แกล้งแล้วครับ ดีกันนะๆ” พิภพง้อ ยิ้มจนตาหยี
“.....” มินตราเสมองไปทางอื่น หวังตั้งหลักให้หายใจหายคอคล่อง
“แล้วนี่น้องมิ้นท์ เอามะพร้าวมาทำอะไรหรอครับ เยอะแยะจัง”
“อ๋อ ค่ะ อันนี้คือ มะพร้าวกะทิ ค่ะ พอดีมันแก่แล้ว ก็เลยสอยลงมา ว่าจะทำขนมไว้ทานตอนเย็นนี้หน่ะค่ะ”
“เหรอครับ พี่ไม่เคยกินเลยไม่รู้จัก หนูจะทำขนมอะไรหรอครับ พี่ขอชิมด้วยคนได้ไหม”
“พี่อยากทานขนมอะไรหรอคะ”
“แล้วแต่หนูเลย พี่กินได้หมดถ้าหนูเป็นคนทำให้” พิภพยิ้มตอบ
“งั้นเดี๋ยวหนูทำขนมง่ายๆ ให้ทานแล้วกันนะคะ”
“งั้นให้พี่ช่วยเป็นลูกมือไหม พี่ปลอกมะพร้าวเป็นนะ”
“งั้นมิ้นท์รบกวนด้วยนะคะ ปลอกแค่ลูกเดียวก็พอค่ะ”
พูดจบ มินตราเดินไปหยิบเหล็กปลอกมะพร้าวมาให้พิภพ จากนั้นเดินเข้าไปในครัว หยิบถ้วยช้อน มีดเล่มใหญ่ กับช้อนตักมะพร้าว มาวางเตรียมไว้ แล้วกลับไปหยิบ น้ำแข็งเกล็ด น้ำแดง นมข้นหวาน ลูกชิดอบแห้งที่เธอซื้อติดบ้านไว้ทานเล่นและทับทิมกรอบที่แม่ซื้อจากตลาดมาให้เมื่อวันก่อนตามมาอีกรอบ เมื่อพิภพปอกเปลือกมะพร้าวเสร็จแล้ว มินตรานำมะพร้าวที่ได้มา ใช้มีดค่อยๆ เกลาลูกมะพร้าวให้ผิวเกลี้ยงเล็กน้อย แล้วใช้สันมีดเคาะเบาไปรอบๆ จากนั้นเคาะแรงๆ ตรงกลางแนวขวางของกะลามะพร้าวให้แยกออกจากกันเป็นสองส่วน มินตราใช้ช้อนตักมะพร้าวใส่ถ้วย ใส่ลูกชิดแห้ง และทับทิมกรอบ ตักน้ำแข็งเกล็ด เติมน้ำแดงแล้วเทนมข้นหวานเล็กน้อย ส่งให้พิภพ 1 ถ้วย ของตัวเธอเองอีก 1 ถ้วย
ระหว่างที่มินตราทำขนม พิภพได้เฝ้ามองไม่วางตา ทุกท่วงท่าที่เธอขยับเขยื้อน มีเสน่ห์น่าหลงใหล ในตาหวานของเธอ ประดับไปด้วยแพรขนตางอนยาว นัยน์ตาเป็นสีน้ำตาลเข้ม กลมโตสุกใส คิ้วเรียงสวยโค้งรับกับใบหน้าจิ้มลิ้ม ปากสีชมพูระเรื่อ กระทั่งเม็ดเหงื่อที่ไหลซึมลงมาตามไรผมก็ทำให้น่าหลงใหลชวนมอง แม้ไม่ได้แต่งแต้มสีสันก็ยังดึงดูดสายตาได้มากเพียงนี้ มันทำให้พิภพพลางนึกภาพในใจ ว่าความรู้สึกนี้แน่ชัดแล้วว่าเขาชอบเธอ แม้เจอกันเพียงสองครั้ง หลังจากนี้คงเดินหน้าจีบเต็มที่ ในขณะที่มองอยู่นั้น มินตราเหมือนจะรู้สึกได้ จึงหันไปมองพิภพพลางส่งถ้วยขนมให้เขาชิม
“ขอบคุณครับ หนูทำเก่งจัง พี่มองเพลินเลยครับ”
“ลองทานดูนะคะ ว่าอร่อยไหม”
“น่าทานแบบนี้ อร่อยชัวร์ครับ”
“...”
“555 อร่อยครับ พี่ขอเอากลับไปทานที่บ้านบ้างได้ไหมครับ”
“ได้อยู่แล้วค่ะ เดี๋ยวมิ้นท์ห่อกลับให้นะคะ”
“เดี๋ยวค่อยห่อก็ได้ครับ พี่ยังอยากอยู่คุยกับหนูต่ออยู่เลย”
“แล้ว...พี่พิภพจะคุยเรื่องอะไรหล่ะคะ”
“พี่ขอถามอายุเราได้ไหมครับ”
“อายุ? .... มิ้นท์อายุ 20 ปี ค่ะ”
“อ๋อ แล้ว....เรามีแฟนหรือยังครับ”
“..... ทำไมถามเรื่องนั้นหรอคะ”
“เอ่อ... ก็... พี่อยากรู้หน่ะครับ เดี๋ยวอีกหน่อยพี่ต้องมาอยู่ดูแลกุ้งในฟาร์ม พี่ก็อยากจะรู้ไว้ก่อนจะได้ตั้งตัวทัน”
“หืม ตั้งตัวทัน? ....”
“เปล่าครับ.....คำพูดพาไปเฉยๆ ครับ”
“เอ่อ.....อาจจะน่าอายไปหน่อย แต่มิ้นท์ยังไม่มีแฟนค่ะ ไม่มีใครมาจีบสาวบ้านบ้านแบบนี้หรอกค่ะ”
“สาวบ้านบ้านที่ไหนครับ สาวสวยตาหวานมากกว่า ไม่ต้องอายหรอก เดี๋ยวก็ไม่โสดแล้ว”
“แหม พี่พิภพจีบสาวเก่งจังเลยนะคะ จีบมาเยอะหล่ะสิ”
“ไม่นะ พี่ไม่เคยจีบใครเลย พี่ทำงานอย่างเดียวเหมือนหนูนี่แหละ พี่จีบหนูคนแรกนะครับ”
“ยอมรับตรงๆ ว่าจีบเลยหรอคะ”
“ครับ พี่จีบจริงๆ รักจริงหวังแต่งนะครับ”
“......” มินตราหันหน้าหนี พลางแอบยิ้ม
“หนูจะให้พี่จีบได้ไหมครับ”
“..เขาต้องขออนุญาตกันด้วยหรอคะ ถ้าไม่อนุญาตพี่พิภพจะทำยังไงคะ” มินตราอมยิ้ม
“ไม่อนุญาตพี่ก็จะจีบครับ”
“เอ้า..”
“หึ หึ” พิภพยิ้มมองมินตรา
“อืม พอดีมิ้นท์ต้องเข้าสวนแล้ว พี่พิภพกลับก่อนดีกว่าไหมคะ”
“เอ้า ทำไมไล่พี่แล้วหล่ะครับ ให้พี่อยู่ช่วยนะ”
“ไม่ได้ค่ะ มิ้นท์ทำคนเดียวได้ เดี๋ยวคุณพ่อกับคุณแม่ก็กลับมาแล้ว มิ้นท์ยังต้องเตรียมอาหารเย็นต่ออีก หรือพี่พิภพจะอยู่ทานข้าวกับคุณพ่อคุณแม่หล่ะคะ”
“แฮะ แฮะ ไม่ดีกว่าครับ วันนี้พี่แอบมาเจอ เดี๋ยวจะเป็นเรื่องใหญ่ พี่ต้องเข้าให้ถูกทางสิ พี่ถึงจะได้เป็นเขย”
“เป็นขงเป็นเขยอะไรกันคะ ใครให้เป็นกัน เดี๋ยวมิ้นท์จะฟ้องคุณพ่อคุณแม่ ว่าพี่พิภพรังแกมิ้นท์”
“โถ่ หนูมิ้นท์ อย่าพูดแบบนั้นสิครับ นะ เดี๋ยวไว้พี่แวะมาหาใหม่นะครับ อีกไม่นานพี่ก็จะมาอยู่ใกล้ๆ แล้ว”
“รับขนมไปด้วยนะคะ ทำไว้ตั้งเยอะ ฝากเอาไปให้เถ้าแก่ด้วยนะคะ”
มินตราว่าพลาง หยิบขนมบรรจุกล่องเรียบร้อยแล้วส่งให้พิภพ
“พี่ขอทานคนเดียวนะครับ พี่ไม่อยากแบ่งให้ใครเลยอ่ะ พี่หวง”
“หืม แล้วแต่พี่นะคะ มิ้นท์จะเข้าสวนแล้วค่ะ”
“ครับ บ๊ายบายนะครับ”
“สวัสดีค่ะ” มินตรารีบกล่าวลา แล้วรีบเดินกลับเข้าไปในบ้าน เพราะเขินจนหัวใจเต้นแรงจนกลัวอยู่นาน คนข้างๆ จะได้ยิน ส่วนพิภพนั้นก็มองตามจนสาวน้อยหายเข้าบ้านไป
“ฮึ ไหนว่าจะไปสวน หึ หึ”