พิภพ หนุ่มโสดเจ้าของรูปร่างสูงใหญ่ 180 ซม. กับสาวสวยตาหวาน มินตรา ลูกสาวเจ้าของที่ดินให้เช่าทำฟาร์มกุ้ง มนต์เสน่ห์ของธรรมชาติ การดำเนินชีวิต และความรักอันร้อนแรงของหนุ่มสาววัยว้าวุุ่น
ชาย-หญิง,รัก,ผู้ใหญ่,ไทย,วัยว้าวุ่น,ชาย-หญิง,NC25++,เซ็กส์,เซ็กส์จัด,นางเอก,นางเอกสวยมาก,พระเอกรวย,พระเอกขี้หึง,พระเอกครั่งรัก,พระเอกขี้หวง,เลี้ยงสัตว์,ทำสวน,ทำฟาร์ม,ครอบครัว,18+,อีโรติก,โรแมนติก,วัยว้าวุ่น,รัก,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
อลหม่่านรักแรกพบพิภพ หนุ่มโสดเจ้าของรูปร่างสูงใหญ่ 180 ซม. กับสาวสวยตาหวาน มินตรา ลูกสาวเจ้าของที่ดินให้เช่าทำฟาร์มกุ้ง มนต์เสน่ห์ของธรรมชาติ การดำเนินชีวิต และความรักอันร้อนแรงของหนุ่มสาววัยว้าวุุ่น
ในระหว่างที่กำลังคุยเรื่องเช่าที่ดินนั้น พิภพก็ได้ลอบมองหามินตรา ที่ไม่ได้เห็นตั้งแต่เริ่มทานอาหาร สาวสวยนั้น ถูกตาถูกใจเขามาก เขาอยากจะทำความรู้จักแม่สาวตาหวานให้มากกว่านี้สักหน่อย
“เอ่อ ไม่ทราบว่าห้องน้ำไปทางไหนหรือครับ ผมขอเข้าห้องน้ำหน่อยได้ไหมครับ” พิภพลอบเดินมาเอ่ยถามป้าศรีในระหว่างที่เถ้าแก่กับลุงเอิบกำลังเสวนากัน
“อ๋อ เดินลัดไปในครัวนี่เลยจ้ะพ่อหนุ่ม ทางประตูหลังจะเห็นทางเดินไปห้องน้ำไม่ไกลห้องครัวหรอก ห้องน้ำอยู่ด้านหลังบ้าน มีรองเท้าอยู่ ใส่ไปได้เลยจ้ะ” ป้าศรีเอ่ยตอบหนุ่มน้อย พลางคิดในใจว่า เด็กคนนี้หน้าตาดีจริงๆ
“ขอบคุณครับ” พิภพเอ่ยตอบ พลางเดินไปห้องน้ำตามที่ป้าศรีบอก พอเสร็จกิจ เดินออกมาระหว่างกำลังกลับเข้าไปในตัวบ้าน เหลือบไปเห็นสาวตาหวานนั่งอยู่บนแคร่อีกฟากหนึ่งของบ้าน
“หึ ไอ้เราก็มองหาตั้งนาน มาหลบอยู่นี่นี่เองแม่สาวตาหวาน” พิภพเอ่ยพึมพำ แล้วเดินไปหาสาวน้อยที่หมายตา
“มานั่งทำอะไรตรงนี้คนเดียวหรือครับ น้องมิ้นท์” พิภพเอ่ยทัก
“อุ้ย เอ่อ คุณพิภพ พอดีมิ้นท์มานั่งตากลมเย็นเย็นเล่นสักหน่อยหน่ะค่ะ” มินตราเอ่ยตอบ
“แล้วทำไมเราไม่ทานข้าวกับพวกพี่หล่ะครับ”
“มิ้นท์ไม่ค่อยหิวค่ะ คุณพิภพมาทำอะไรหรอคะ”
“เรียกพี่ แทนได้ไหมครับ เรียกคุณมันทางการไปหน่อยนะครับ”
“เรียกคุณแบบนี้ มิ้นท์ก็สะดวกนะคะ”
“พี่อยากสนิทกับเราหน่ะ เรียกพี่เถอะนะ นะครับ” พิภพทำเสียงอ้อน
“....” มินตราหันไปมองพลางคิดในใจ คนคนนี้ยังไงของเขากันนะ
“....” พิภพมองตอบ พลางส่งสายตาสื่อความหมายให้
“เอ่อ ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ”
“.....” พิภพมองไม่วางตา
“ค่ะ พี่พิภพ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว มิ้นท์ขอตัวนะคะ” มินตราพูดพร้อมลุกขึ้น
“เดี๋ยวสิครับ รีบไปให้หล่ะ มาคุยกับพี่ก่อนสิ พี่อยากฟังว่า ในสวนปลูกอะไรไว้บ้าง” พิภพว่าพลางคว้าแขนของมินตราไว้ หืม แขนนุ่มมาก พิภพคิดในใจ
“คะ” มินตราตกใจ สะบัดแขนออก
“พี่ขอโทษนะคะ พอดีพี่ตกใจ จู่จู่หนูก็ลุกขึ้น นั่งลงก่อนนะครับ อยู่คุยเป็นเพื่อนพี่ก่อนนะครับ” พิภพรีบตอบอย่างร้อนใจ
“อ๋อ ค่ะ งั้นอยู่คุยเป็นเพื่อนก็ได้ค่ะ” มินตราตอบพลางนั่งลงตามเดิมและเล่าเรื่องราวในสวนให้พิภพฟังจนเผลอยิ้มออกมา
พิภพที่กำลังนั่งฟัง ก็ได้ลอบมอง สาวตาหวานคนนี้ ก็คิดชมในใจว่า เธอมีผิวสวย แถมยังนุ่มนิ่ม นั่งใกล้ๆ ก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ กลิ่นอะไรกันนะ อยากรู้จัง ถามดีไหมนะ ดูเธอยิ้มสิ ตาก็หวาน ยิ้มมาที ละลายเลยนะนี่ อายุเท่าไหร่กันนะ น่ารักเป็นบ้า ยิ่งมองยิ่งน่ารัก โอ๊ย
“มีอะไรติดหน้ามิ้นท์หรอคะ พี่พิภพ” มินตราหันมาเห็นพิภพนั่งจ้องหน้าเธออยู่
“อ๋อ เปล่าครับ พี่ตั้งใจฟังเราอยู่หน่ะ”
ติ๊ง เสียงข้อความโทรศัพท์ของพิภพดังขึ้น
พิทักษ์ : มึงอยู่ไหนเนี่ย ไปตกส้วมตายหรอ เขากำลังจะกลับกันแล้ว
พิภพ : โอเค เดี๋ยวรีบไป
“พี่ว่า ผู้ใหญ่น่าจะคุยกันเสร็จแล้ว เดี๋ยวพี่กลับก่อนนะครับ ไว้เจอกันใหม่”
“มิ้นท์ส่งตรงนี้นะคะ สวัสดีค่ะ” มิ้นท์ไหว้พร้อมเอ่ยลา
พิภพเดินกลับเข้ามาในตัวบ้าน บอกลาลุงเอิบกับป้าศรีก่อนเดินทางกลับ แต่มินตรายังนั่งอยู่ตรงที่เดิม พลางแอบเขินอยู่ในใจ คนอะไรหล่อจัง
เนื้อเรื่องของนิยายเรื่องนี้นำเสนอการดำเนินชีวิตแบบฉบับชาวสวน
และเรื่องราวความรักหลากหลายอารมณ์ของหนุ่มสาว
ตอนจบจะเป็นเช่นไรมาเอาใจช่วยน้องมินตรากับพี่พิภพไปพร้อมๆ กันนะคะ
*เนื้อหามีความละเอียดอ่อนไม่แนะนำให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีอ่านนะคะ*
📚Talk Talk กับนักเขียน😊
สวัสดีค่ะ🙏🏻 สะเดาหวาน ผู้ชื่นชอบนิยายเป็นชีวิตจิตใจ
ฝากกดติดตามเพจของสะเดาด้วยนะคะ🙏🏻❤️
😊นิยายทุกเรื่องสะเดาตั้งใจสร้างผลงานเพื่อรี้ดทุกท่าน หวังว่าจะสนุกกับนิยายของสะเดานะคะ สะเดาอยากอ่านคอมเม้นต์ของรี้ดทุกท่านมากๆ กดเข้ามาเม้นต์มาคุยกันได้นะ
สุดท้ายนี้ฝากเป็นกำลังใจให้สะเดาด้วยนะคะ ❤️✌🏻
🙏🏻❤️ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของรี้ดทุกท่านมากๆเลยค่ะ
❤️🧡💜💙🩷💚🩵🤍
เมื่อเริ่มเข้าเดือนธันวาคม บรรยากาศบริเวณบ้านของมินตราอบอวลไปด้วยน้ำค้างเย็นปกคลุมโดยรอบ ในยามเช้ามีหมอกจางๆ ในยามสายจนถึงยามเย็นมีลมพัดให้รู้สึกเย็นสบาย ช่วงนี้พ่อเอิบกับแม่ศรีก็จะว่างเว้นจากการขายของที่ตลาดเนื่องด้วยพืชผักต่างๆ ทยอยเก็บเกี่ยวจนเหลือแค่พอกินพอเก็บ
“เอ้อ อากาศดีจริงๆ วันนี้ทำข้าวหลามเอาไปทำบุญพรุ่งนี้ ถ้ากลัวจะดี” พ่อเอิบตื่นเช้ามาขยับร่างกายเล็กๆน้อยๆ นานๆทีจะว่างเว้นจากการทำงานหนักๆ ก็จะหาโอกาสไปทำบุญทำทานกับแม่ศรีอยู่บ่อยๆ
"จะเผาข้าวหลามอีกแล้วหรอจ๊ะพ่อ แหมพอช่วงนี้ทีไรนี่ เผาข้าวหลามตลอดเลยนะจ๊ะ" มินตราที่กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัวได้ยินพ่อเอิบกำลังบ่นพึมพำก็อดแซวไม่ได้
"เอ้อ พ่อก็ว่าจะเผาวันนี้แหละ เดี๋ยวไปตัดไผ่ข้าวหลามมาเตรียมไว้ก่อน มิ้นท์ก็ไปซื้อข้าวเหนียวกับถั่วดำมาแล้วกันนะลูก น้ำตาลแม่เขาซื้อไว้น่าจะยังพอมี" พ่อเอิบหันไปตอบลูกสาวตัวเองก่อนจะเดินเข้าบ้านไปหยิบเสื้อแขนยาวกับถุงมือมา
"พ่อจะเผากี่โล หนูจะเตรียมของไว้จ้ะ แล้วเดี๋ยวไปช่วยพ่อตัดไม้ไผ่ด้วยคน" มินตราทำกับข้าวเช้าใกล้จะเสร็จแล้ว จึงอยากจะอาสาไปช่วยพ่อด้วยอีกแรง
"สัก 5 โลก็พอ เตรียมข้าวเหนียวไปเถอะ เดี๋ยวพ่อจะไปตัดเอง ไม้แค่ไม่กี่ลำ สบายมาก" พ่อเอิบคว้าเลื่อยยนต์ไฟฟ้าขนาดพอดีมือ แล้วก็เดินออกจากบ้านไป
"อ้าว แล้วไม่กินข้าวเช้าก่อนหล่ะจ๊ะพ่อ" มินตราหันมา เห็นพ่อเดินออกจากบ้านแล้ว ตะโกนถามตามหลังไป
"ตัดเสร็จแล้วค่อยกลับมากินก็ได้" พ่อเอิบตะโกนตอบกลับมา เดินลิ่วๆหายเข้าสวนไปเรียบร้อย
"เฮ้อ พ่อนี่นะ" มินตราบ่นอุบอิบให้กับความเร็วของพ่อ อายุอานามก็มากขึ้นแล้ว ยังทำอะไรรวดเร็วปานคนหนุ่มคนสาวอยู่เรื่อยเลย
"แม่จ๋า มิ้นท์ไปซื้อของเดี๋ยวมานะจ๊ะ แม่จะฝากซื้ออะไรไหมจ๊ะ" หลังจากเตรียมกับข้าวเสร็จ มินตราก็เตรียมขี่รถจักรยานยนต์ไปซื้อของตามคำสั่งพ่อ
"อ้อ ไม่เอาหรอกลูก รีบไปรีบมานะ ขี่รถดีดีหล่ะ" แม่ศรีกำลังนั่งซักผ้าของตัวเองกับของพ่อเอิบอยู่ในห้องน้ำ ตะโกนตอบกลับมา
"จ้า" สตาร์ทรถได้ มินตราขี่ออกไปฉิวเห็นแต่ฝุ่นตลบตามหลังไป
................
กลับมาจากซื้อของ มินตราก็มาแช่ข้าวเหนียว กับถั่วดำไว้ จากนั้นก็ไปเตรียมขูดมะพร้าวรอคั้นกะทิ เตรียมน้ำตาลกับเกลือ ตวงชั่งใส่หม้อไว้รอตอนเย็น เมื่อเตรียมทุกอย่างเสร็จสิ้น ก็คว้าเสื้อแขนยาวกับถุงมือเดินเข้าสวนมะพร้าวพร้อมรถเข็นคันหนึ่ง เปลือกมะพร้าว กาบมะพร้าว ทางมะพร้าว ที่กองรวมไว้เป็นกลุ่มๆ ถูกหยิบยกใส่รถเข็นจนเต็ม เข็นมากองรวมกันบริเวณที่ต้องการเตรียมเป็นพื้นที่สำหรับเผาข้าวหลาม มินตราทำทุกอย่างด้วยความว่องไว เพราะคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้เป็นอย่างดี ทุกปีบ้านของเธอจะเผาข้าวหลามแบบนี้ ปีละ 1-2 ครั้งแล้วแต่ความสะดวก กองเปลือกมะพร้าวถูกวางเรียงกันเป็นทางยาวสองข้าง เว้นตรงกลางจะเททรายไว้สำหรับตั้งกระบอกข้าวหลาม กองเปลือกมะพร้าวจะต้องไม่ไกลเกินไปและไม่ใกล้เกินไป อยู่ในระยะที่พอดีเพื่อให้ข้าวหลามที่เผาออกมานั้นสุกเสมอกัน เสร็จจากเตรียมพื้นที่ ท้องของมินตราก็ร้องประท้วงความหิวแล้ว เธอเดินกลับเข้ามาในบ้าน ก็เห็นพ่อเอิบกับแม่ศรีกำลังตัด และล้างกระบอกไม้ไผ่ด้วยกันอย่างสนุกสนาน
"หวานกันจริงๆเลยน้า พ่อกับแม่เนี่ย" มินตราเอ่ยแซว
"อ้าว เตรียมเสร็จแล้วหรอลูก ไป ไป ไปกินข้าวไป พ่อกับแม่เอ็งกินอิ่มไปตั้งนานแล้ว รอไม่ไหว" พ่อเอิบหันมาตอบ ยังไม่หุบยิ้มเลย
"จ้ะพ่อ หนูเตรียมเสร็จแล้ว เหนื่อยสุดๆไปเลย เดี๋ยวหนูขอกินข้าว อาบน้ำแล้วนอนพักสักหน่อยนะจ๊ะ" มินตรายิ้มตอบ
"เออๆ เสร็จจากตรงนี้ พ่อก็จะเอนหลังเหมือนกัน เนาะแม่เนาะ" พ่อเอิบตอบกลับ ยังหันไปทำหน้าทะเล้นกับแม่ศรีต่อ
"พี่เอิบ ลูกก็อยู่ อายลูกมันบ้าง" แม่ศรีเหวใส่พ่อเอิบ แต่แก้มแดงไปถึงหูเรียบร้อย
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า" พ่อเอิบหัวเราะร่า
"................" มินตราส่ายหน้ายิ้มๆ ให้กับความน่ารักน่าเอ็นดูของพ่อกับแม่ ก่อนเดินหายเข้าบ้านไป
..........
ดวงตะวันคล้อยต่ำลงใกล้ลับขอบฟ้า ฉายแสงอาทิตย์สีส้มสาดส่องลงมา บ่งบอกให้รู้ว่าเป็นแสงสุดท้ายของวันแล้ว มินตรากำลังนั่งเตรียมส่วนผสมต่างๆ ผสมรวมเข้าด้วยกันลงหม้อขนาดใหญ่ คนวนไปเรื่อยๆ ก่อนจะยกหม้อลุกไปยังตระกร้าที่ใส่กระบอกไม้ไผ่ไว้ บรรจงตักทีละกระบวย ทีละกระบอก ในระหว่างที่กำลังตักอยู่นั้น
"โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง" เสียงไอ้ขาว ดังขึ้นอยู่หน้าบ้าน
"รถกระบะใครเข้ามาหน่ะพ่อ พ่อไปดูสิ" แม่ศรีเห็นคนแรกเอ่ยขึ้น
"รถคุ้นๆนะ รถเถ้าแก่ไพรวัลย์หรือเปล่า" พ่อเอิบชะโงกมองผ่านหน้าต่างห้องครัว ก่อนเดินไปหน้าบ้าน
ทันทีที่รถจอด ชายหนุ่มพิภพก็ลงมาจากรถยนต์พร้อมถุงมากมาย หอบพะรุงพะรังเต็มไม้เต็มมือ
"สวัสดีครับ คุณลุง" พิภพไหว้ทักทาย
"อ้าว พ่อพิภพเองหรอ เป็นไงมาไงหล่ะฮึ แล้วนี่หอบของอะไรมาพะรุงพะรังเต็มไปหมด" พ่อเอิบรับไหว้ พลางมองไปยังถุงน้อยใหญ่ในมือพิภพ
"ผมซื้อเสื้อผ้ากับขนมมาฝากคุณลุงกับคุณป้าหน่ะครับ พอดีผมไปธุระต่างจังหวัดมา เห็นเสื้อผ้าพวกนี้ก็นึกถึงคุณลุงกับคุณป้าหน่ะครับ" พิภพตอบกลับด้วยน้ำเสียงสุภาพ
"อ้าว เหรอๆ เข้ามาก่อนๆ แล้วนี่มาคนเดียวหรือ แล้วเถ้าแก่ไพรวัลย์หล่ะ" พ่อเอิบถามต่อก่อนจะเชิญเจ้าหนุ่มพิภพเข้าบ้าน
"มากับพิทักษ์ครับ" พิภพตอบลุงเอิบด้วยน้ำเสียงสุภาพก่อนจะหันกลับไปยังรถ "ไอ้ทักษ์ มึงรีบลงมาสิวะ มัวนั่งทำอะไรอยู่" กระซิบกระซาบให้คนในรถรีบลงมา
"สวัสดีครับ คุณลุง ผมพิทักษ์เองครับ น้องพิภพ" พิทักษ์ลงจากรถมานิ่งๆ ก่อนไหว้ทักทายลุงเอิบ
"อ้าว มากับเขาด้วยเหรอ มาๆ ทั้งสองคน เข้าบ้านมาก่อน กินอะไรมากันหรือยัง" พ่อเอิบขานตอบ ก่อนเดินนำพาทั้งสองคนเข้าไปยังครัว
"คุณป้า สวัสดีครับ" พิภพกับพิทักษ์ทักทายพร้อมกัน