‘ฉินอวี่’ ทะลุมิติมาพร้อมกับภารกิจสุดปวดหัว เดิมทีเขาคิดจะทิ้งภารกิจแล้วรอไปเกิดใหม่ แต่ระบบเฮงซวยดันบอกว่าหากภารกิจล้มเหลววิญญาณจะแตกดับ [ฉินอวี่ : แล้วฉันเลือกอะไรได้บ้าง!!]
ชาย-ชาย,รัก,ยุคปัจจุบัน,ข้ามเวลา,แฟนตาซี,แฟนตาซี,โรแมนติก,นิยายวาย,yaoi,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่‘ฉินอวี่’ ทะลุมิติมาพร้อมกับภารกิจสุดปวดหัว เดิมทีเขาคิดจะทิ้งภารกิจแล้วรอไปเกิดใหม่ แต่ระบบเฮงซวยดันบอกว่าหากภารกิจล้มเหลววิญญาณจะแตกดับ [ฉินอวี่ : แล้วฉันเลือกอะไรได้บ้าง!!]
ฉินอวี่ ทะลุมิติมาเข้าร่างของหนุ่มน้อยที่มีหน้าและชื่อคล้ายตัวเอง ต่างกันตรงที่ร่างนี้เป็นเงือกและตายไปเพราะรักคนผิด
เขาเลยต้องมารับช่วงต่อพร้อมกับได้ภารกิจจัดการคนเฮงซวยที่เป็นต้นเหตุให้เจ้าของร่างต้องตาย
เขาไม่ใช่คนชอบสู้รบกับใครเสียด้วยสิ
ในขณะที่คิดว่าจะปล่อยให้ภารกิจล้มเหลวแล้วรอไปเกิดใหม่ ระบบเฮงซวยดันดักคอเสียก่อน
[ระบบ : หากตายครั้งนี้จะเท่ากับวิญาณแตกสลาย ไม่มีทางได้ไปผุดไปเกิดอีกตลอดกาล]
“ฉิบ”
โอเค ไอ้ระบบนี่ตัดทางรอดเขาจนหมดแล้วเรียบร้อย
ภายในห้องพักนั้นสภาพก็ไม่ได้แตกต่างไปจากนอกตึกสักเท่าไหร่ ขนาดห้องเรียกได้ว่าเล็กมาก แค่ยืนมองจากทางเข้าก็เห็นทั่วทั้งห้องแล้ว
ร่างเดิมจนมาก ภายในห้องพักจึงมีเพียงแค่เตียงสามฟุต ตู้เสื้อผ้า ตู้เย็นขนาดเล็ก และโต๊ะหนังสือเท่านั้น เหมือนหอพักนักเรียนที่ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง
สิ่งแรกที่ฉินอวี่ทำหลังเข้ามาในห้องก็คือตรงไปนั่งที่โต๊ะหนังสือ จากนั้นหยิบโน้ตบุ๊คที่หิ้วกลับมาจากออฟฟิศขึ้นมาเปิดอย่างรวดเร็ว
บริษัทนี้ค่อนข้างเอาใจใส่พนักงานพอสมควร เพราะแม้แต่โน้ตบุ๊คก็ยังมีให้ยืมใช้กันคนละเครื่อง ระหว่างที่เป็นพนักงานอยู่สามารถหิ้วกลับบ้านได้ตามสบาย ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องคิดหรอกว่าร่างเดิมที่กรอบเป็นข้าวเกรียบขนาดนี้จะเอาปัญญาที่ไหนไปซื้อคอมใช้
แล้วทำไมถึงไม่ใช้โทรศัพท์?
เหอะ! ขอแค่เครื่องไม่ค้างก็บุญหัวแล้ว เรื่องนี้ทำเอาฉินอวี่ที่เป็นโรคติดโซเชียลถึงกับหัวเสียไปพักใหญ่เหมือนกัน
กระทั่งต่อเน็ตฟรีของหอพักเรียบร้อย ชายหนุ่มจึงรีบเข้าไปพิมพ์ค้นหาชื่อที่จำเอาไว้ทันที
ไลฟ์สดเลวี่
ทว่าสิ่งที่ขึ้นมาก็ทำให้เขาผิดหวัง เพราะมันไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่อีกฝ่ายน่าจะดังมากแท้ ๆ
อีแบบนี้คิดได้อย่างเดียวก็คือไลฟ์นั้นจะต้องเป็นแพลตฟอร์มเฉพาะที่จะไม่ปรากฏในหน้าค้นหาแน่ ๆ
ทันทีที่คิดได้ นิ้วเรียวยาวจึงเลื่อนไปเปิดแพลตฟอร์มยอดนิยมของโลกนี้แทน ฉินอวี่ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาสมัครให้วุ่นวายเพราะร่างเดิมมีบัญชีอยู่แล้ว และเขาก็ไม่คิดที่จะเปลี่ยนด้วย
สิ่งที่ร่างเดิมโพสต์เอาไว้มีเพียงแค่ภาพวิวท้องฟ้าไม่กี่ภาพเท่านั้น แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่เขาต้องสนใจ
เมาส์ถูกลากไปวางตรงช่องค้นหา ทันใดนั้นสิ่งที่เขาต้องการก็ปรากฏขึ้นมาเต็มสองตา เพราะมันมียอดค้นหาอันดับหนึ่งเลยทีเดียว
[ท่านเลวี่ไลฟ์แล้ว] hot!
ฉินอวี่คลิกเข้าไปด้วยความรวดเร็ว
[กรี๊ด! วันนี้ท่านเลวี่ก็หล่อมากอีกแล้วค่า]
[พูดตรงๆ นะ ฉันอยากโดนท่านเลวี่กินจังเลย]
[+1 ถ้าโดนกินนะจะตั้งใจเรียนเลย]
[โซฮอตเวอร์! ฉันแคปภาพจนเมมเครื่องจะเต็มอยู่แล้ว ทำไงดี!]
ดวงตาสีน้ำเงินเลื่อนอ่านโพสต์หวีดคนที่ชื่อเลวี่ไปเรื่อย ๆ แต่ไม่ว่าจะเลื่อนลงมาลึกแค่ไหนกลับไม่เจอรูปของอีกฝ่ายแม้แต่รูปเดียว แล้วคนพวกนี้ไปดูกันที่ไหนล่ะนั่น
ฉินอวี่ครุ่นคิดกับตัวเองเงียบ ๆ หากไม่ถามแล้วจะได้คำตอบตอนไหน ไม่ต้องเลื่อนหากันจนตาหลุดเลยเหรอ
[น้องสาวทั้งหลาย พี่สาวเพิ่งหัดเล่นแอพนี้ได้ไม่นาน วันนี้เห็นพวกเธอพูดคุยกันแต่เรื่องนี้ แม้แต่บนรถประจำทางก็ยังได้ยินชื่อท่านเลวี่ พี่สาวเลยอยากจะไปตามบ้างแต่ไม่รู้ต้องไปดูที่ไหน ใครบอกได้บ้างไหม]
ฉินอวี่พิมพ์เสร็จก็กดโพสต์ เขาไม่ติดหรอกหากว่าต้องแกล้งพิมพ์แบบผู้หญิง ถึงยังไงอีกฝ่ายก็ไม่รู้ว่าฝั่งตรงข้ามหน้าตาเป็นยังไงหรือเพศไหนอยู่แล้ว การที่เขาปลอมเป็นผู้หญิงย่อมจะทำให้พวกเธอไว้ใจมากกว่าเสียอีก
ใต้โพสต์นั้นไม่มีใครมาตอบเลยสักคน ทว่าไม่นานช่องแชตของเขาก็เด้งขึ้นมา
หลังจากสลับกันแนะนำตัวไปเล็กน้อย อีกฝ่ายก็ส่งรายละเอียดมาให้ทั้งยังบอกอีกว่าห้ามไปบอกใครว่าเธอเป็นคนแจ้งพิกัด ฉินอวี่รับปากแล้วพิมพ์ขอบคุณกลับไป จากนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตาอ่าน
ไลฟ์ที่พวกเขาพูดถึงกันนั้นก็คือไลฟ์ใต้ดิน แน่นอนว่าชื่อนี้มันย่อมหมายความว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ไม่เปิดสาธารณะ ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเข้าไปดูได้แต่จะต้องผ่านขั้นตอนการสมัครและตรวจสอบที่เข้มงวด อีกทั้งหากเข้าไปดูแล้วข้อห้ามหลักเลยก็คือห้ามเปิดเผยภาพและคลิปวิดีโอออกมาภายนอกอย่างเด็ดขาด
ที่ต้องลึกลับขนาดนี้เพราะมันเป็นแพลตฟอร์มที่เอาไว้ให้อมนุษย์ไลฟ์โดยเฉพาะ ง่าย ๆ ก็คือ มนุษย์ธรรมดาไลฟ์ในที่สว่าง ส่วนอมนุษย์ไลฟ์ในที่มืดนั่นเอง
ถึงจะบอกว่าเป็นแพลตฟอร์มของอมนุษย์ แต่คนทั่วไปก็สามารถเข้าไปใช้งานได้เช่นกัน เพียงแค่ไม่สามารถไลฟ์ได้ก็เท่านั้น ทำได้แค่ดูและเปย์ เป้าหมายชัดเจนยิ่งกว่าอะไร
และถึงจะบอกว่าห้ามเผยแพร่ภาพจากภายใน ทว่ามันก็ยังมีช่องโหว่ของกฎอยู่นั่นก็คือ พวกเขาสามารถเอาชื่อของบุคคลในนั้นออกมาหวีดข้างนอกได้ คนทั่วไปที่กดเข้ามาดูก็จะเจอเพียงแค่ชื่อ แต่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครหรือตัวอะไร
ก็ย้อนแย้งดีนะ มนุษย์กลุ่มหนึ่งแอนตี้เผ่าพันธุ์ประหลาดเพราะกลัวว่าพวกเขาเหล่านั้นที่มีพลังเหนือกว่าจะมากุมอำนาจแล้วกดตัวเองลง แต่ไม่ว่าจะแอนตี้แค่ไหนกลับยังมีคนอีกกลุ่มที่ชื่นชอบพวกเขา ทั้งยังสนับสนุนคอยมอบเงินให้อีกด้วย
เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการ ฉินอวี่จึงลบโพสต์ของตัวเองออกเงียบ ๆ
เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มใต้ดิน มันจึงไม่สามารถค้นหาเจอได้ตามช่องทางปกติ หากไม่มีลิงก์จะไม่สามารถหาเว็บนี้เจอได้เลย ฉินอวี่กดเข้าไปอย่างไม่รอช้า พื้นหลังของเว็บเป็นสีดำสนิท ช่างสมกับเป็นเว็บใต้ดินเสียจริง
หน้าแรกขึ้นมาให้สมัครสมาชิก โดยมีการแบ่งเผ่าพันธุ์ชัดเจน
[คุณเป็นมนุษย์]
[คุณเป็นอมนุษย์]
ฉินอวี่เลือกหัวข้อแรกก่อนเพื่ออ่านรายละเอียด
ขั้นตอนการสมัครนั้นก็เหมือนเว็บไซต์ทั่วไป เพียงแต่บรรทัดสุดท้ายกลับทำให้ชายหนุ่มชะงักมือที่กำลังจะกรอกข้อมูล เพราะมันมีค่าธรรมเนียมในการสมัครเดือนละ 300 เหรียญด้วย
แพงใช้ได้
ด้วยสภาพการเงินเข้าขั้นวิกฤตของเขา ไม่มีทางเอาเงินสามร้อยมาละลายเล่นแน่นอน
ฉินอวี่กดย้อนกลับไปที่หน้าแรกอีกครั้ง จากนั้นเปลี่ยนไปเลือกหัวข้ออมนุษย์ ขั้นตอนการสมัครของหัวข้อนี้แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เพราะมันไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมรายเดือน แต่ต้องยืนยันตัวตนด้วยอัตลักษณ์ของเผ่าพันธุ์ตัวเองแทน
[กดปุ่มอัดคลิปด้านล่างเพื่อแสดงลักษณะเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายคุณ ไม่จำเป็นต้องถ่ายใบหน้า ทางเราจะเก็บรักษาข้อมูลของคุณเป็นอย่างดี]
“...”
ยุ่งยากฉิบ
แล้วเขาเป็นเงือกก็ต้องโชว์หางถูกไหม อันที่จริงฉินอวี่ก็อยากเห็นร่างกายนี้ตอนกลายเป็นเงือกเหมือนกัน แต่ปัญหาคือน้ำประปามันไม่ได้ทำให้เขากลายร่างนี่สิ แม้แต่ในความทรงจำของร่างเดิมก็มีเพียงแค่ภาพเลือนรางตอนยังเป็นเด็กน้อยที่สถานสงเคราะห์พาไปเที่ยวทะเลครั้งหนึ่งเท่านั้น
แล้วทีนี้จะทำยังไง
ฉินอวี่ครุ่นคิดจนคิ้วสีอ่อนขมวดยุ่ง กระทั่งเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งก็เห็นว่าท้องฟ้าด้านนอกกลายเป็นสีหมึกดำคล้ำไปแล้วเรียบร้อย
มืดแล้วเหรอเนี่ย มิน่าถึงได้หิวขนาดนี้
มือเรียวสวยเลื่อนลงไปลูบท้องตัวเองเบา ๆ ลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาของกิน แต่แล้วเขาก็ต้องพบเข้ากับเรื่องเหลือเชื่อ
“...”
ฉินอวี่มองตู้เย็นตรงหน้าด้วยสายตาเหม่อลอย เพราะมันช่างว่างเปล่าสะอาดสะอ้านสุด ๆ มีเพียงแค่น้ำเปล่าสองสามขวดพอให้ได้ดับกระหายแค่นั้น
ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์เครื่องเก่าขึ้นมาเปิดบัญชีเพื่อเช็กยอดเงิน ก่อนที่จะต้องตาค้างอีกครั้งเมื่อเห็นจำนวนเงินที่เหลือหลังจากจ่ายค่าเช่าห้องอยู่ประมาณพันกว่าเหรียญเท่านั้น แล้วนี่เพิ่งจะต้นเดือน อีกยี่สิบกว่าวันที่เหลือเขาต้องตายแน่ ๆ
ลมหายใจถูกพ่นออกมาอย่างหนักอก ไม่รู้ว่าวันนี้เขาถอนหายใจไปกี่รอบแล้ว เรื่องภารกิจก็เป็นปัญหาใหญ่ ตอนนี้ยังมาพ่วงด้วยปัญหาทางการเงินอีก!
โชคดีที่ภายในห้องยังพอมีบะหมี่เหลืออยู่หลายห่อ เห็นได้ชัดว่าร่างเดิมคงกินมันเป็นอาหารหลัก ตอนนี้ฟ้ามืดสนิท ครั้นจะให้ลงไปเดินซื้อข้าวเขาก็ไม่กล้าเช่นกัน เพราะด้วยหน้าตาแบบนี้ บางทีคืนนี้เขาอาจจะไม่ได้กลับห้องอีกเลยก็ได้
ระหว่างที่นั่งกินบะหมี่ ฉินอวี่ก็นึกย้อนไปถึงในชาติก่อน ที่ออฟฟิศเดิมของเขามีเพื่อนคนหนึ่งหลงใหลคลั่งไคล้ในปลาทะเลมากจนไปหาซื้อมาเลี้ยง หมดเงินไปหลายหมื่นกันเลยทีเดียว แถมหมอนั่นยังเล่าให้ฟังบ่อย ๆ ว่าการเลี้ยงปลาทะเลจะต้องรักษาระดับความเค็มของน้ำให้เสมือนน้ำทะเลจริง ๆ
แล้วการที่จะทำแบบนั้นได้ก็ต้องใช้...
เกลือทะเล!!
ดวงตาสีน้ำเงินสว่างวาบ รีบเปิดหาในเว็บช็อปปิ้ง แล้วก็พบว่ามันมีจริง ๆ เสียด้วย ราคาก็ไม่ถือว่าแพงจนเกินไป เพียงแค่ 50 เหรียญ ก็ได้เกลือถึง 5 กิโลกรัม
แม้ร้านจะบอกว่าสามารถใส่บ่อปลาได้ทว่าก็ไม่สามารถรับประกันได้เลยว่าจะใช้ได้ผลกับเขา แต่ไม่ลองก็ไม่รู้
ก่อนลงมือกดสั่ง จู่ ๆ ปลายนิ้วก็ชะงักไปอย่างนึกอะไรได้ วันนี้วันศุกร์ ถ้าสั่งตอนนี้แล้วร้านส่งเสาร์ ของถึงอย่างไวก็วันอาทิตย์ หรืออย่างช้าก็จันทร์
เขารอไม่ไหวจริง ๆ
ฉินอวี่เปลี่ยนจากกดสั่งซื้อเป็นแชตหาร้านแทน หลังจากพูดคุยสอบถามก็พบว่าร้านอยู่ภายในเมืองเดียวกัน หากส่งด่วนภายในหนึ่งวันก็สามารถทำได้ แต่ปัญหาคือค่าส่งที่เขาต้องจ่ายอีกเป็นร้อยเหรียญนี่สิ
หลังจากครุ่นคิดอยู่หลายตลบ สุดท้ายเขาจึงเลือกที่จะเข้าไปที่ร้านเองในวันพรุ่งนี้
อย่างน้อยค่ารถเมล์ก็ถูกกว่าล่ะนะ
เช้าตรู่วันถัดมา ฉินอวี่รีบลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปทันที ใช้เวลานั่งรถเมล์อยู่ประมาณหนึ่งชั่วโมงในที่สุดเขาก็มาถึงร้านจนได้
“ใช่คนที่ทักมาเมื่อคืนไหมครับ” เจ้าของร้านพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม อีกฝ่ายเป็นชายวัยกลางคนผิวขาวพุงพลุ้ยท่าทางดูใจดี
“ครับ” ฉินอวี่พยักหน้า พลางหันมองไปรอบร้านด้วยความสนใจ
ร้านนี้เป็นร้านขายเกลือขนาดใหญ่ ไม่ว่ามองไปทางไหนก็มีแต่เกลือเต็มไปหมด พอเดินเข้ามาด้านในก็เห็นว่าผนังฝั่งหนึ่งมีตู้ปลาใบยาวขนาดสามเมตรตั้งอยู่ ภายในนั้นมีปลาทะเลตัวน้อยสีสันสวยงามแหวกว่ายไปมาอย่างมีความสุข
ไม่รู้ทำไม ตอนที่มองพวกปลาว่ายน้ำเขากลับเกิดความรู้สึกอิจฉาพวกมันอย่างบอกไม่ถูก
“คุณอยากได้เกลือกี่กิโลครับ แล้วนี่มายังไง” เจ้าของร้านถามก่อนชะโงกหน้าออกไปข้างนอกเพื่อมองหารถของลูกค้าหนุ่มหล่อคนนี้ทว่ากลับพบแต่ความว่างเปล่า
“นั่งรถประจำทางมาน่ะครับ ผมอยากซื้อแค่นิดหน่อย คุณลุงขายไหม”
“ขายครับขาย” เจ้าของร้านขายเกลือพยักหน้า แม้จะเสียดายที่ไม่ใช่ลูกค้ารายใหญ่ แต่เขาไม่เลือกลูกค้าอยู่แล้ว ต่อให้ถ่อมาถึงร้านแล้วซื้อแค่กิโลเดียวเขาก็เต็มใจขายให้
หลังจากฉินอวี่แจ้งจำนวนที่ต้องการไป คุณลุงขายเกลือก็บอกให้เขาเดินดูปลาในร้านไปก่อนระหว่างที่รออีกฝ่ายไปเตรียมของให้ ซึ่งนั่นก็ตรงกับใจเขาพอดี
ฉินอวี่เดินเข้าไปใกล้ตู้ปลาทะเลราวกับต้องมนต์สะกด บนกระจกปรากฏภาพชายหนุ่มผมทองดวงตาสีน้ำเงินสดใสดั่งสีของใต้ทะเลลึกอย่างเลือนราง ริมฝีปากได้รูปสวยเอื้อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“สวัสดี”
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า ทันทีที่ฉินอวี่เอ่ยทักทายออกไป เหล่าปลาในตู้ก็พร้อมใจกันหยุดว่ายแล้วหันมองมาทางเขากันทุกตัว
มือขาวผ่องยกขึ้นมาทาบทับลงไปบนตู้กระจกอย่างเผลอไผล และเขาก็พบว่าพวกปลาว่ายเข้ามาใกล้ตนเองด้วยเช่นกัน
ฉินอวี่เงยหน้ามองซ้ายมองขวาเห็นว่าปลอดคนอีกทั้งที่ร้านนี้ยังไม่มีกล้องวงจรปิด ทันใดนั้นเขาก็เอื้อมตัวจุ่มมือลงไปด้านในตู้อย่างไม่รอช้า