‘ฉินอวี่’ ทะลุมิติมาพร้อมกับภารกิจสุดปวดหัว เดิมทีเขาคิดจะทิ้งภารกิจแล้วรอไปเกิดใหม่ แต่ระบบเฮงซวยดันบอกว่าหากภารกิจล้มเหลววิญญาณจะแตกดับ [ฉินอวี่ : แล้วฉันเลือกอะไรได้บ้าง!!]

ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่ - ตอนที่ 14 ท่ามกลางคนมากมาย ยังมีเขาที่คอยเป็นห่วง โดย Ferylin @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ยุคปัจจุบัน,ข้ามเวลา,แฟนตาซี,แฟนตาซี,โรแมนติก,นิยายวาย,yaoi,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ยุคปัจจุบัน,ข้ามเวลา,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,โรแมนติก,นิยายวาย,yaoi,ทะลุมิติ

รายละเอียด

‘ฉินอวี่’ ทะลุมิติมาพร้อมกับภารกิจสุดปวดหัว เดิมทีเขาคิดจะทิ้งภารกิจแล้วรอไปเกิดใหม่ แต่ระบบเฮงซวยดันบอกว่าหากภารกิจล้มเหลววิญญาณจะแตกดับ [ฉินอวี่ : แล้วฉันเลือกอะไรได้บ้าง!!]

ผู้แต่ง

Ferylin

เรื่องย่อ

ฉินอวี่ ทะลุมิติมาเข้าร่างของหนุ่มน้อยที่มีหน้าและชื่อคล้ายตัวเอง ต่างกันตรงที่ร่างนี้เป็นเงือกและตายไปเพราะรักคนผิด

เขาเลยต้องมารับช่วงต่อพร้อมกับได้ภารกิจจัดการคนเฮงซวยที่เป็นต้นเหตุให้เจ้าของร่างต้องตาย 

เขาไม่ใช่คนชอบสู้รบกับใครเสียด้วยสิ 

ในขณะที่คิดว่าจะปล่อยให้ภารกิจล้มเหลวแล้วรอไปเกิดใหม่ ระบบเฮงซวยดันดักคอเสียก่อน 

[ระบบ : หากตายครั้งนี้จะเท่ากับวิญาณแตกสลาย ไม่มีทางได้ไปผุดไปเกิดอีกตลอดกาล]

“ฉิบ”

โอเค ไอ้ระบบนี่ตัดทางรอดเขาจนหมดแล้วเรียบร้อย

สารบัญ

ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-บทนำ เรื่องราวหลังการตาย,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 1 ภารกิจเอาตัวรอด ทำก็ตาย ไม่ทำก็ตาย,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 2 ไม่ชอบอะไรมักได้อย่างนั้น,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 3 เผลอไผล,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 4 หลงตัวเอง,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 5 ท่านเลวี่คนดัง,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 6 ข้อมูลใหม่,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 7 รับจ้างตามใจ,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 8 ลองทายสิ,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 9 ได้โปรดมาโปรยเงินที่ช่องผมบ่อย ๆ นะครับ!,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 10 กลายเป็นคนดังแบบงง ๆ,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 11 ไข่มุกเงือก,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 12 ร้องไห้,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 13 ทดลองผลงาน,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 14 ท่ามกลางคนมากมาย ยังมีเขาที่คอยเป็นห่วง,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 15 คนเราต้องใช้หน้าตาให้เป็นประโยชน์,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 16 ใบหน้าภายใต้หมวก,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 17 อมนุษย์ผู้งดงาม,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 18 เปลี่ยนแปลง,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 19 ทำอาหาร,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 20 ลีเจีย,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่- ตอนที่ 21 WARNING,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 22 ยังมีชีวิต,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 23 เธอรู้จักฉัน อาอวี่,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 24 นายจะให้ฉันไปตายหรือไง,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 25 ทำไมไม่มองฉันเลย,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 26 นับจากนี้ไปขอให้เธอมีแต่ความสุข,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 27 แวมไพร์ตนนี้จะทำงานไวเกินไปแล้ว,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 28 แผนในใจของแต่ละคน,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 29 ของคู่กัน

เนื้อหา

ตอนที่ 14 ท่ามกลางคนมากมาย ยังมีเขาที่คอยเป็นห่วง

 

 

“ฮึก”

วันหยุดสุดสัปดาห์วนมาอีกครั้ง เงือกผมทองผู้มีใบหน้างดงามกำลังนั่งก้มหน้าร้องไห้อยู่เงียบ ๆ คนเดียวภายในห้อง ดวงตาที่เคยสดใสเปล่งประกายบัดนี้กลับหม่นหมองลงจนดูเศร้าสร้อย หางตาแดงก่ำ จมูกแดงระเรื่อ ช่างเป็นภาพที่ทั้งงดงามและน่าสงสารจับใจ หากใครได้มาเห็นต่อให้เป็นคนที่ใจแข็งเหมือนหินผาก็จะต้องรู้สึกสะเทือนใจกับภาพนี้แน่นอน

แต่ในความเป็นจริงนั้น...

 

“โอ๊ย แสบตาฉิบ!”

ฉินอวี่บ่นเสียงดัง มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาขยี้ตาจนมันแดงช้ำไปมากกว่าเดิม

ใช่แล้ว เพราะเมื่อคืนรับออเดอร์มาเยอะเกินไป วันนี้เขาก็เลยต้องมาชดใช้กรรมด้วยการบีบน้ำตาอยู่แบบนี้ยังไงล่ะ!

ในขณะที่กำลังตีอกชกหัวตัวเองอยู่คนเดียวภายในห้อง จู่ ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา

“ใครมาแต่เช้ากัน?”

ฉินอวี่ขมวดคิ้ว มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้สั่งของแน่ ๆ

ถ้าจะบอกว่าเป็นคุณลุงข้างห้อง นั่นก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่ เพราะถึงแม้ลุงเหอจะเอ็นดูร่างเดิมแต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยมาเคาะห้องหรือชวนคุยเกินความจำเป็นเลยสักครั้ง

และเพราะเป็นห้องพักราคาถูกมันก็เลยไม่มีตาแมวที่เอาไว้ส่องคนข้างนอก ฉินอวี่เปิดแง้มประตูเล็กน้อยเพื่อมองออกไปด้วยท่าทางระแวดระวัง

พนักงานเดลิเวอรี่?

“มาส่งอาหารครับ” พนักงานส่งอาหารพูดเสียงดังจนฝุ่นบนผนังแทบจะร่วงลงมา

“ไม่ได้สั่งนะครับ” แม้ปากตอบกลับ ทว่าตัวยังคงอยู่หลังบานประตู มือเรียวกำลูกบิดแน่น โผล่ออกไปเพียงแค่ดวงตาข้างเดียวเท่านั้น

“คุณลูกค้าใช่ ‘อาอวี่’ ไหมครับ”

“?” ฉินอวี่ชะงัก ยิ่งระแวงมากกว่าเดิมเสียอีก

คนที่รู้ชื่อนี้มีแต่ผู้ชมในเว็บใต้ดินเท่านั้น รู้ชื่อก็แล้วไปเถอะ แต่ถึงขั้นรู้ที่อยู่ด้วยนี่มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ ไหนว่าเว็บรักษาความปลอดภัยเอาไว้เป็นอย่างดีไม่ใช่หรือไง

เมื่อเห็นว่าลูกค้ายังคงไม่ยอมออกมารับของ พนักงานหนุ่มจึงเอ่ยชื่อคนสั่งขึ้นมา “คนที่สั่งให้มาส่งคือคุณเอลครับ”

“คุณเอล?”

แน่นอนว่าบุคคลที่ใช้ชื่อนี้ฉินอวี่ย่อมรู้จัก แต่คุณเอลไปเอาที่อยู่เขามาจากไหนกัน 

หัวคิ้วได้รูปขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด ทว่าไม่นานก็นึกออก เหมือนว่าตอนส่งสร้อยไปให้อีกฝ่ายเขาจะเขียนที่อยู่ผู้ส่งไปด้วย

แบบนี้บลัดก็รู้ที่อยู่เขาไปด้วยสิเนี่ย!

ปัญหานี้ทำให้ฉินอวี่ฉุกคิดขึ้นมา หากว่าในจำนวนลูกค้าใหม่เมื่อคืนมีคนที่ไม่หวังดีอยู่ด้วย แบบนั้นเขาอาจจะแย่แน่ ๆ ดูท่าหลังจากนี้คงต้องระวังเรื่องการใส่ที่อยู่ผู้ส่งแล้วล่ะ

เมื่อเห็นลูกค้าเงียบไปพนักงานเดลิเวอรี่ที่ยืนจนขาแข็งจึงส่งเสียงอีกครั้ง “ช่วยรับอาหารด้วยครับ”

ถึงงานนี้จะได้ทิปมาเยอะ แต่ผมยังมีงานต้องไปทำต่อนะ ถ้าจะไม่รับก็ช่วยรีบ ๆ พูดมาสิครับ!

“คะ ครับ” ฉินอวี่สะดุ้งเล็กน้อย มือดึงประตูเปิดกว้างก่อนจะเดินออกไปด้านนอกทันที

“...!!”

ทว่าหนนี้คนที่ชะงักค้างกลับเป็นพนักงานหนุ่มผู้น่าสงสารแทน มือที่ถือถุงอาหารเอาไว้กำแน่น ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

คนคนนี้สวยมาก!

ไม่สิ อีกฝ่ายเป็นผู้ชายก็ต้องใช้คำว่าหล่อ แต่ก็พูดได้ไม่เต็มปาก มันเป็นความกลมกลืนระหว่างสองเพศจนอธิบายไม่ถูกเลยจริง ๆ!

อีกทั้งหางตาแดงช้ำน่าสงสารเหมือนเพิ่งผ่านการร้องไห้มานี่มันอะไรกัน ไอ้บ้าที่ไหนมันกล้ารังแกเขาเนี่ย!

หรือจะเป็นคุณเอล ต้องใช่แน่ ๆ เพราะทำให้คนคนนี้เสียใจก็เลยส่งอาหารมาปลอบงั้นสินะ!

ยิ่งคิดพนักงานเดลิเวอรี่ก็ยิ่งฟึดฟัด ในใจรู้สึกโกรธคนที่กล้าทำลายสิ่งสวยงามอย่างไม่เห็นค่าแบบนี้

“??” ฉินอวี่เอียงคอมองพนักงานส่งอาหารอย่างไม่เข้าใจ

หมอนี่เป็นอะไรไปอีกเนี่ย อยู่ ๆ ก็ยืนตาค้างเหมือนเจอผี สักพักก็ทำหน้าเหมือนโกรธใครมา ส่งอาหารจนหลอนหรือไงกัน 

มือขาวยกขึ้นโบกไปตรงหน้าพนักงานก่อนเรียกเสียงดัง “คุณครับ”

“อะ ครับ” พนักงานหนุ่มพลันได้สติ “นี่อาหารครับ ทานให้อร่อยนะครับ”

พนักงานเดลิเวอรี่ยัดของใส่มือลูกค้าเสร็จก็วิ่งฉิวลงจากตึกไปด้วยใบหน้าแดงก่ำที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าเขินอายหรือโกรธกันแน่

ชายหนุ่มควักโทรศัพท์สภาพหน้าจอแตกละเอียดออกมา ก่อนจะกดโทรหาเจ้าของออเดอร์นี้อย่างรวดเร็ว เขารู้ว่าการทำแบบนี้มันผิดกฎของบริษัท แต่เขาทนไม่ไหวจริง ๆ

หนุ่มน้อยผู้งดงามคนนั้นต้องได้รับความยุติธรรม!

และทันทีที่ปลายสายกดรับ ชายหนุ่มก็ตะโกนออกไปเสียงดังลั่น “คุณเอล คุณนี่มันเลวจริง ๆ เลยนะ กล้าทำเขาร้องไห้ได้ยังไง!”

“หา?”

***

“ใครโทรมา” น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเลขาคนสนิทเอาแต่ยืนมองโทรศัพท์อยู่นานสองนาน

“เหมือนจะเป็นคนส่งอาหารนะครับ” ฟินน์ตอบพลางขมวดคิ้วมองเบอร์ที่โทรเข้าเครื่องเจ้านายด้วยความสงสัย

ปกติเจ้านายของเขาเวลาทำงานจะค่อนข้างจริงจังมาก ไม่ยอมให้อะไรมารบกวนเด็ดขาด เพราะฉะนั้นหน้าที่ในการรับสายต่าง ๆ จึงเป็นของเลขาอย่างเขาแทน

ทว่าดูเหมือนพักนี้เจ้านายน่าจะกำลังสนใจอะไรบางอย่างอยู่ วันก่อนก็สั่งสร้อยแปลก ๆ มา วันนี้ยังสั่งเดลิเวอรี่ไปส่งให้คนอื่นอีกด้วย

“เขาว่าไง” เอลเลียสวางปากกาลง ใช้ดวงตาสีม่วงเข้มจ้องเลขาตัวเองด้วยท่าทางนิ่ง ๆ

“เอ่อ ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจ เขาพูดแล้วก็วางไปเลยน่ะครับ” เป็นเพราะเมื่อกี้อีกฝ่ายพูดรัวเร็วจนไม่ทันได้ตั้งตัว ฟินน์จึงจับใจความได้ไม่มากนัก “เหมือนจะบอกว่าใครร้องไห้นี่แหละ แถมยังด่าคุณว่า เอ่อ เลว”

“หืม?”

คนที่เพิ่งโดนพนักงานส่งอาหารด่าไม่มีทีท่าว่าจะโกรธ คิ้วคมเข้มเลิกขึ้นสูงอย่างแปลกใจ เอลเลียสไม่ได้สนใจว่าใครจะมาด่าตนเอง แต่ประโยคที่บอกว่าร้องไห้นั่นต่างหากที่ทำให้เขาไม่สบายใจ

เงือกน้อยเป็นอะไรไปนะ

***

ทางด้านเงือกที่ไม่รู้ว่ามีคนเป็นห่วงก็กำลังยืนมองพนักงานส่งอาหารวิ่งหายวับไปภายในห้าวิด้วยความงุนงง

“เป็นอะไรของเขา” ฉินอวี่เกาศีรษะอย่างไม่เข้าใจ พลางหมุนตัวเข้าห้อง

กล่องอาหารสุดหรูจากร้านดังถูกหยิบออกมาวางลงบนโต๊ะเพียงหนึ่งเดียวภายในห้องพัก ราวกับคนสั่งกลัวว่าเขาจะไม่อิ่ม จำนวนอาหารที่ส่งมาให้จึงมีเกือบสิบอย่าง เรียกได้ว่าแทบจะเหมาหมดทุกเมนูในร้านเลยมั้ง

“รวยจริง ๆ” ฉินอวี่อมยิ้ม ระดับความรู้สึกดีที่มีต่อคนคนนี้เพิ่มสูงขึ้นไปอีกขั้นอย่างไม่รู้ตัว

เนื่องจากเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอาการปวดหัวจึงเริ่มตีขึ้นอีกครั้ง ฉินอวี่ฝืนกินอาหารหมดไปหนึ่งกล่องแล้วนำที่เหลือไปแช่ตู้เย็นเอาไว้ ก่อนจะรีบกลับไปทำงานที่ค้างอยู่เพื่อให้เสร็จภายในวันนี้

แม้การทำสร้อยโชคดีขั้นตอนมันจะไม่ได้ยากเย็นอะไร แต่ด้วยความที่มันต้องใช้น้ำตาของเขารวมทั้งต้องออกแรงบดไข่มุกให้เป็นผง ทำให้กว่าจะเสร็จก็แทบหมดแรงกันเลยทีเดียว

ครั้งนี้ฉินอวี่รับออเดอร์มาราว ๆ 20 ชิ้น ได้เงินค่าสินค้ามาถึงสองแสน และเมื่อลองคำนวณหักกับค่าส่งที่คิดตามระยะทางแล้ว เงินค่าสินค้าล็อตนี้ก็จะเหลืออยู่ประมาณแสนต้น ๆ รวมกับเงินจากค่าโดเนทและค่าสินค้าเมื่อวานที่คุณเอลจ่าย ทำให้ตอนนี้เขามีเงินสองแสนกว่ากันเลยทีเดียว

“เก่งจังคนอะไร” ฉินอวี่ยิ้มพลางมองยอดตัวเลขด้วยหัวใจเปี่ยมสุข

ถ้าชาติที่แล้วหาเงินได้แบบนี้เขาก็ไม่จำเป็นต้องไปนั่งทำงานเป็นกรรมกรออฟฟิศจนตายหรอก

เพราะฉะนั้นหลังจบภารกิจนี้ เขาจะไม่ทำงานหนักอีกแล้ว!

 

หัวค่ำเป็นเวลาที่ฉินอวี่จะต้องไลฟ์ ทว่าด้วยความที่วันนี้เขาร้องไห้อยู่นานมากกว่าจะได้ไข่มุกครบจำนวน อาการปวดหัวจึงทวีความรุนแรงมากกว่าวันก่อนหลายเท่า

แม้เขาจะกินยาดักไปตั้งไปแต่เช้าแล้วแต่ดูเหมือนว่ามันแทบจะไม่ได้ผลเลย

ฉินอวี่เข้าไปหน้าบัญชีของตัวเอง เว็บใต้ดินนี้ทำระบบเหมือนโซเชียลทั่วไปที่สามารถอัพสถานะหรือพิมพ์ข้อความหน้าไทม์ไลน์ของตัวเองได้

 

อาอวี่ : วันนี้ขออนุญาตงดไลฟ์หนึ่งวัน เจอกันพรุ่งนี้นะครับ 

 

หลังจากโพสต์ข้อความเสร็จ ดวงตาพลันเหลือบไปเห็นตรงกล่องข้อความที่แสดงว่ามีคนทักเข้ามา เมื่อคลิกเข้าไป คนที่ส่งมาคือคุณเอลนั่นเอง

[เอล : ฉันสั่งอาหารไปให้ ไม่รู้ว่าเธอกินอะไรได้บ้างเลยสั่งไปหมดทุกเมนู อันไหนไม่ชอบก็ทิ้งได้เลยนะ] 11:23

[เอล : อาอวี่ หรือว่าเธอจะไม่สบาย?] 11:40

ฉินอวี่ยิ้มบาง หัวใจรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา ท่ามกลางโลกใหม่ที่เขาไม่รู้จักใครเลยสักคน อย่างน้อยก็ยังมีคุณเอลคนนี้ที่เป็นเหมือนเพื่อนคอยห่วงใย นี่ทำให้เขารู้สึกดีมากจริง ๆ

เวลาที่ข้อความส่งมาคือช่วงหลังจากพนักงานมาส่งอาหาร แล้วทำไมคุณเอลถึงรู้ว่าเขาไม่สบายล่ะ?

หรือพนักงานส่งอาหารคนนั้นจะเห็นดวงตาแดงช้ำของเขาเลยเข้าใจผิด แล้วโทรไปแจ้งอีกฝ่าย?

ฉินอวี่เพ่งดวงตาที่เริ่มพร่าเลือนก่อนพิมพ์ตอบกลับไป “ปวดหัวนิดหน่อยครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็หาย ขอบคุณอีกครั้งสำหรับอาหาร ผมจะกินให้หมดเลย”

“...”

“คุณดีกับผมขนาดนี้ ผมไม่รู้จะตอบแทนยังไงเลย”

ฉินอวี่พิมพ์ไปอย่างที่ใจคิด แต่ไม่คิดว่าอีกฝั่งจะตอบกลับมาทันทีที่ข้อความถูกส่งไป ราวกับรอข้อความจากเขาอยู่นานแล้วยังไงยังงั้น

[เอล : ฉันไม่อยากได้อะไรจากเธอหรอก แต่ถ้าอยากตอบแทนจริง ๆ ช่วงปีใหม่เรามาเจอกันไหม]

ปีใหม่...

ฉินอวี่ครุ่นคิด ตอนนี้เป็นช่วงปลายเดือนสิบเอ็ด ระยะเวลาภารกิจคือสี่สิบวัน หมายความว่าวันสุดท้ายของภารกิจเอาตัวรอดคือช่วงสิ้นเดือนธันวา หากเขาทำสำเร็จย่อมต้องไปเจอคุณเอลได้แน่นอน

แต่ถ้าทำไม่สำเร็จล่ะ?

“ทำไมต้องปีใหม่ครับ”

[เอล : ช่วงนี้ฉันงานยุ่งมาก กำลังจัดการหลาย ๆ อย่าง ช่วงหลังปีใหม่คงพอมีเวลาว่างบ้าง]

ฉินอวี่รู้สึกขำอีกฝ่ายเล็กน้อย นี่ขนาดงานยุ่งก็ยังอุตส่าห์มานั่งดูไลฟ์ยันเที่ยงคืนทุกวันเลยนะ

“ครับ ปีใหม่ก็ได้”

ฉินอวี่ไม่ได้บอกปัดคุณเอลไป เพราะใจจริงเขาก็อยากเจอนายทุนใหญ่คนนี้เหมือนกัน และเพื่อการนั้นแล้ว เขาจะต้องทำให้สำเร็จให้ได้!

หลังจากพูดคุยกันอีกไม่กี่ประโยคฉินอวี่ก็ขอตัวไปนอนพัก ในขณะที่กำลังจะเคลิ้มหลับแล้ว จู่ ๆ ดวงตาพลันลืมพรึบเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้

เวรล่ะ! พรุ่งนี้วันอาทิตย์เรามีนัดกับบลัดนี่หว่า แล้วก็อีกนัดที่ลืมไปซะสนิท 

ท่านเลวี่คนนั้นก็นัดวันพรุ่งนี้!!