‘ฉินอวี่’ ทะลุมิติมาพร้อมกับภารกิจสุดปวดหัว เดิมทีเขาคิดจะทิ้งภารกิจแล้วรอไปเกิดใหม่ แต่ระบบเฮงซวยดันบอกว่าหากภารกิจล้มเหลววิญญาณจะแตกดับ [ฉินอวี่ : แล้วฉันเลือกอะไรได้บ้าง!!]

ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่ - ตอนที่ 23 เธอรู้จักฉัน อาอวี่ โดย Ferylin @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ยุคปัจจุบัน,ข้ามเวลา,แฟนตาซี,แฟนตาซี,โรแมนติก,นิยายวาย,yaoi,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ยุคปัจจุบัน,ข้ามเวลา,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,โรแมนติก,นิยายวาย,yaoi,ทะลุมิติ

รายละเอียด

ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่ โดย Ferylin @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

‘ฉินอวี่’ ทะลุมิติมาพร้อมกับภารกิจสุดปวดหัว เดิมทีเขาคิดจะทิ้งภารกิจแล้วรอไปเกิดใหม่ แต่ระบบเฮงซวยดันบอกว่าหากภารกิจล้มเหลววิญญาณจะแตกดับ [ฉินอวี่ : แล้วฉันเลือกอะไรได้บ้าง!!]

ผู้แต่ง

Ferylin

เรื่องย่อ

ฉินอวี่ ทะลุมิติมาเข้าร่างของหนุ่มน้อยที่มีหน้าและชื่อคล้ายตัวเอง ต่างกันตรงที่ร่างนี้เป็นเงือกและตายไปเพราะรักคนผิด

เขาเลยต้องมารับช่วงต่อพร้อมกับได้ภารกิจจัดการคนเฮงซวยที่เป็นต้นเหตุให้เจ้าของร่างต้องตาย 

เขาไม่ใช่คนชอบสู้รบกับใครเสียด้วยสิ 

ในขณะที่คิดว่าจะปล่อยให้ภารกิจล้มเหลวแล้วรอไปเกิดใหม่ ระบบเฮงซวยดันดักคอเสียก่อน 

[ระบบ : หากตายครั้งนี้จะเท่ากับวิญาณแตกสลาย ไม่มีทางได้ไปผุดไปเกิดอีกตลอดกาล]

“ฉิบ”

โอเค ไอ้ระบบนี่ตัดทางรอดเขาจนหมดแล้วเรียบร้อย

สารบัญ

ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-บทนำ เรื่องราวหลังการตาย,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 1 ภารกิจเอาตัวรอด ทำก็ตาย ไม่ทำก็ตาย,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 2 ไม่ชอบอะไรมักได้อย่างนั้น,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 3 เผลอไผล,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 4 หลงตัวเอง,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 5 ท่านเลวี่คนดัง,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 6 ข้อมูลใหม่,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 7 รับจ้างตามใจ,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 8 ลองทายสิ,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 9 ได้โปรดมาโปรยเงินที่ช่องผมบ่อย ๆ นะครับ!,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 10 กลายเป็นคนดังแบบงง ๆ,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 11 ไข่มุกเงือก,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 12 ร้องไห้,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 13 ทดลองผลงาน,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 14 ท่ามกลางคนมากมาย ยังมีเขาที่คอยเป็นห่วง,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 15 คนเราต้องใช้หน้าตาให้เป็นประโยชน์,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 16 ใบหน้าภายใต้หมวก,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 17 อมนุษย์ผู้งดงาม,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 18 เปลี่ยนแปลง,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 19 ทำอาหาร,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 20 ลีเจีย,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่- ตอนที่ 21 WARNING,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 22 ยังมีชีวิต,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 23 เธอรู้จักฉัน อาอวี่,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 24 นายจะให้ฉันไปตายหรือไง,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 25 ทำไมไม่มองฉันเลย,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 26 นับจากนี้ไปขอให้เธอมีแต่ความสุข,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 27 แวมไพร์ตนนี้จะทำงานไวเกินไปแล้ว,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 28 แผนในใจของแต่ละคน,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 29 ของคู่กัน

เนื้อหา

ตอนที่ 23 เธอรู้จักฉัน อาอวี่

 

 

นักข่าวเอ่ยคำถามที่ใครหลายคนอยากรู้ออกมาอย่างไม่มีการอ้อมค้อม

[คุณพอจะรู้มั้ยคะว่าลูกค้าที่โดนทำร้ายเป็นใคร]

[ไม่ทราบค่ะ พนักงานในร้านถูกกันออกไปก่อน]

หญิงสาวหลบตานักข่าว เนื่องจากเรื่องที่พูดออกไปมีความจริงเพียงครึ่งเดียว ส่วนอีกครึ่งก็คือเมื่อคืนเธอเห็นว่าท่านผู้นั้นอุ้มคนบาดเจ็บออกมาด้วยตัวเอง อีกทั้งยังแสดงออกว่าเป็นห่วงมาก ไม่ต้องบอกก็พอจะเดาได้ว่าพวกเขารู้จักกัน

ถึงจะเป็นเพียงพนักงานต้อนรับที่เรียนไม่สูง แต่เธอกลับรู้ว่าอะไรควรพูดอะไรไม่ควรพูด

แน่นอนว่าพฤติกรรมหลบตานี้ นักข่าวที่ผ่านการออกภาคสนามมาอย่างโชกโชนย่อมดูออก เมื่อคืนได้ยินว่าท่านเอลเลียสผู้นั้นมาด้วยตัวเอง คาดว่าคงมีบางเรื่องที่ไม่ควรพูด นักข่าวสาวค่อนข้างมีไหวพริบจึงเปลี่ยนคำถาม

[คุณพอจะจำใบหน้าของแวมไพร์ตนนั้นได้ไหมคะ เขามีหน้าตาเป็นยังไง]

[หน้าตาดี ขาว สูง เหมือนนายแบบเลยค่ะ] พนักงานร้านอาหารตอบทันที

คำถามนี้ตอบง่ายมาก เนื่องจากลูกค้าสองท่านค่อนข้างหน้าตาดีจริง ๆ คนหนึ่งหล่อเหลา ส่วนอีกคนที่ตัวเล็กกว่าก็มีใบหน้างดงาม เครื่องหน้าอ่อนละมุน ราวกับดาราหรือไอดอลหลุดออกมาจากโทรทัศน์

พนักงานหญิงแทบทั้งร้านเรียกได้ว่าพากันมองพวกเขาจนตาแทบหลุด

หลังจากผ่านการสัมภาษณ์ไปก็เป็นคลิปเหตุการณ์ภายในห้องอาหารเมื่อคืนที่ผ่านการเช็กและตัดช่วงที่เห็นเอลเลียสออกไป

ในคลิปเริ่มจากช่วงที่ฉินอวี่วิ่งไปที่ประตูแต่กลับโดนแวมไพร์มาดัก เขาวิ่งกลับไปที่โต๊ะแล้วหยิบมีดมาป้องกันตัวแต่ก็สู้แรงอมนุษย์ที่ตัวใหญ่กว่าไม่ได้

กระทั่งถึงช่วงท้ายที่โดนจับเหวี่ยงอีกครั้งจนตัวปลิว ผู้เสียหายตัวจริงที่กำลังนั่งดูข่าวก็ร้องซี้ดพลางลูบเอวตัวเองไปมา

“ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ตายเนี่ย”

หลังจากนั้นจึงเป็นการสัมภาษณ์หน่วยปราบปรามและเจ้าหน้าที่ของรัฐอีกหลายคนเกี่ยวกับการล้อมจับแวมไพร์และเบาะแสต่าง ๆ ฉินอวี่ดูอย่างตั้งใจทว่ากลับไม่เห็นอะไรที่เป็นประโยชน์เลยสักอย่าง พอกดเปลี่ยนช่องก็มีแต่ข่าวนี้รายงานเต็มไปหมด มาถึงตรงนี้เขาก็หาวหวอดออกมาอย่างเบื่อหน่าย

ทีวีถูกปิดลง ห้องกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง ครั้นจะลุกออกไปเดินสำรวจสถานที่ก็ติดที่ร่างกายไม่อำนวย เมื่อไม่มีอะไรทำเขาจึงเคลิ้มหลับไปโดยไม่รู้ตัว

จากนั้นฉินอวี่ก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู เขาปรือตาขยับลุกขึ้นมานั่งนิ่ง ๆ สมองมึนงงสับสนอยู่พักหนึ่ง พร้อมกับที่จาคอปยกถาดอาหารเข้ามาเสิร์ฟถึงเตียงนอน

ยิ่งกว่าผู้ป่วยติดเตียงอีก!

“อาหารเย็นครับคุณชายอวี่”

“กี่โมงแล้วครับ” ฉินอวี่ขยี้ตา ยื่นมือไปรับผ้าเย็นมาเช็ดหน้าตัวเองลวก ๆ “ที่จริงไม่ต้องเอามาให้ที่เตียงก็ได้นะครับ ผมเดินไปกินที่โต๊ะเอาก็ได้”

พ่อบ้านชราส่ายหน้า ขยับโต๊ะมาวางข้างเตียงก่อนจะวางถาดอาหารลงไป กล่าวอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ “ร่างกายคุณช้ำมาก อย่างน้อยสองสามวันนี้ต้องอยู่แบบนี้ไปก่อนนะครับ”

“...”

สาบานสิว่าคนคนนี้เป็นคนใช้ เข้มงวดยิ่งกว่าแม่ของเขาในชาติก่อนอีก!

ฉินอวี่นั่งกินอาหารท่ามกลางสายตาจับจ้องของพ่อบ้านชรา กระทั่งกินยาเรียบร้อยอีกฝ่ายก็จากไปแบบไม่เห็นฝุ่น

หน้าต่างห้องถูกผ้าม่านบดบังเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถรับรู้เวลาได้ เขาเอื้อมไปเปิดโทรศัพท์เพื่อดูเวลา ถึงได้รู้ว่าตอนนี้หกโมงเย็นแล้ว ฉินอวี่ขยับตัวยุกยิกไปมาด้วยความไม่สบายตัว

เขา อยาก เข้า ห้องน้ำ!!

วันนี้ทั้งวันยังไม่ได้เข้าห้องน้ำสักรอบ อีกทั้งเมื่อคืนก็ผ่านเรื่องมามากมาย ตอนนี้เขาเลยรู้สึกเหนียวเหนอะไปทั้งตัว

ในเมื่อตาลุงพ่อบ้านนั่นไม่อยู่เฝ้า ฉินอวี่จึงฝืนขยับร่างที่ปวดร้าวเดินกุมเอวเกาะผนังไปทางห้องน้ำด้วยความเร็วที่ช้ายิ่งกว่าเต่า

ผ่านไปห้านาทีในที่สุดเขาก็มาถึงห้องน้ำในสภาพเหงื่อเปียกชุ่ม

“ให้ตายเหอะ ห้องจะกว้างไปไหนเนี่ย” ฉินอวี่บ่นงึมงำ เริ่มรู้สึกคิดถึงห้องรูหนูที่เพียงห้าก้าวก็เดินทั่วทั้งห้องขึ้นมา

มาถึงไม่พูดพร่ำทำเพลงฉินอวี่รีบจัดการเปลื้องผ้าตัวเองจนเกลี้ยงก่อนจะเดินไปหย่อนตัวลงในอ่างอาบน้ำขนาดไหนด้วยสีหน้าที่เก็บความตื่นเต้นเอาไว้ไม่มิด

นี่เป็นครั้งแรกที่ได้อาบน้ำในอ่างใหญ่ขนาดนี้ ต่อให้มีคนลงมาเพิ่มอีกสองสามคนก็ยังไม่อึดอัดเลยด้วยซ้ำ!

น้ำถูกเติมจนเต็ม เงือกที่ยังอยู่ในร่างมนุษย์ไม่รอช้า ดำผุดดำว่ายไปมาอย่างสนุกสนานจนลืมแม้แต่ความเจ็บตรงช่วงเอว สายน้ำเย็นสบายชำระล้างความเหนื่อยล้าทั้งหมดออกไป เส้นผมสีทองแผ่กระจายอยู่ใต้น้ำขยับไหวไปมาราวกับมีชีวิต

ในขณะที่กำลังจมอยู่ในห้วงความสุข จู่ ๆ เขาก็ถูกดึงขึ้นมาเหนือผิวน้ำกะทันหัน

น้ำเสียงเข้มเอ่ยด้วยความหวาดวิตก “ทำอะไรของเธอ!”

“ครับ?” ฉินอวี่หน้าเหวอ ดวงตาสีน้ำทะเลมองชายหนุ่มหน้าตาดีตรงหน้าอย่างตกตะลึง ลืมแม้กระทั่งขยับตัวหนี

ใครอีกเนี่ย?

แววตางุนงงที่มองมาของเงือกทำให้ชายหนุ่มในชุดสูทราคาแพงได้สติขึ้นมา กระทั่งดวงตาเผลอเหลือบมองแผงอกขาวนวลที่มีหยดน้ำเกาะพราวเขาก็รีบดึงสายตากลับมามองใบหน้างดงาม ก่อนกล่าวเสียงทุ้ม “เมื่อกี้เธอกำลังทำอะไร”

“ผม?” นิ้วเรียวชี้เข้ามาหาตัวเองอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะชี้ลงด้านล่าง “ผมก็อาบน้ำ”

ใบหน้าหล่อเหลากระตุกไปวูบหนึ่ง “ฉันหมายถึงทำไมถึงมุดน้ำแบบนั้น มันอันตรายนะ”

ฉินอวี่อึ้งงัน “แล้วทำไมถึงอันตรายล่ะครับ”

ทันใดนั้น ดวงตาสีม่วงพลันเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยอย่างคนนึกอะไรขึ้นมาได้

“...”

ต้องโทษที่เขาตกใจมากเกินไปจริง ๆ หลังกลับมาจากทำธุระข้างนอก เขาก็รีบเร่งมาหาอาอวี่อย่างอดรนทนไม่ไหว ใครจะไปคิดว่าอีกฝ่ายดันไม่ได้อยู่บนเตียงอย่างที่พ่อบ้านรายงาน พอเดินหาจนทั่วห้องกลับมาพบอีกฝ่ายจมอยู่ในน้ำแบบนี้

นาทีนั้นราวกับหัวใจตกไปอยู่ที่เท้า เอลเลียสลืมแม้กระทั่งว่าอีกฝ่ายเป็นเงือก รีบพุ่งไปคว้าตัวคนขึ้นมาด้วยความตกใจ

มาตอนนี้เขารู้สึกอับอายจนต้องเบนสายตาไปทางอื่น ใบหูขึ้นสีแดง “ฉันจะไปรอข้างนอก ส่วนชุดของนายเดี๋ยวฉันเอามาวางให้อีกที”

คนแปลกหน้าที่หน้าตาโคตรดีพูดรัวเร็วจากนั้นก็ผละออกไป ฉินอวี่รีบถาม “คุณเป็นใครครับ”

ชายแปลกหน้าชะงัก “เธอรู้จักฉัน อาอวี่”

ฉินอวี่ลองเดาด้วยความคาดหวัง “คุณเอล?”

“อืม” เอลเลียสพยักหน้าก่อนจะเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย

ดวงตาสีน้ำเงินเป็นประกายวาววับราวกับหมู่ดาว รอยยิ้มบางแต่งแต้มที่ขอบปาก จากนั้นก็ขำออกมาอย่างอดไม่อยู่ “น่ารักแฮะ”

แถมยังหล่อมากอีกด้วย

พอมีคนรออยู่ ฉินอวี่เลยไม่คิดจะเล่นน้ำต่อ ขาเรียวยาวค่อย ๆ ก้าวออกมาจากอ่างอย่างระมัดระวัง บนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ามีชุดถูกพับวางเอาไว้

เสื้อเชิ้ตสีขาวเนื้อดีเข้าคู่กับกางเกงขายาวสีดำขนาดพอดีตัว คิ้วสีอ่อนเลิกขึ้นเล็กน้อย ชุดที่เนื้อผ้าดีขนาดนี้ย่อมไม่ใช่ของเขาอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกะไซซ์เขาได้เป๊ะขนาดนี้ หลังจากสำรวจเสื้อผ้าตรงหน้าเสร็จ หางตาก็เหลือไปเห็นกล่องหนึ่งเข้า กระทั่งแกะออกมาดูจึงได้เห็นว่ามันคือ

กางเกงใน!

“นะ นี่”

คราวนี้แก้มขาวขึ้นเลือดฝาดอย่างห้ามไม่อยู่ มือกำชั้นในตัวจิ๋วจนแทบจะขาดคามือ

ถึงจะถูกเห็นร่างเปลือยไปแล้ว แต่การต้องถูกคนอื่นซื้อกางเกงในให้นี่เขารับไม่ไหวจริง ๆ

หลังกลั้นใจแต่งตัวไปด้วยอาการหน้าร้อนเสร็จ ฉินอวี่ก็ผลักประตูห้องน้ำออกไป แต่ใครจะคิดว่าคนหน้าไม่อายคนนั้นจะยืนเฝ้าอยู่ข้างประตูไม่ไปไหนเสียได้

ทันทีที่เห็นเงือกเดินออกมา เอลเลียสรีบขยับเข้าไปทำท่าจะอุ้มทันที

“ผมเดินเองได้ครับ” ฉินอวี่รีบบอกปัด ก่อนจะเปลี่ยนคำพูดเมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของอีกฝ่าย “รบกวนคุณช่วยพยุงผมทีนะครับ”

“อืม”

แววตาเรียบเฉยปรากฏร่องรอยยินดี มือหนาโอบไหล่ผอมเพรียวก่อนจะพยุงคนตัวเล็กกว่าให้เดินไปพร้อมกัน กระทั่งมาถึงเตียงหลังจัดแจงให้เงือกขึ้นมาเอนบนหมอนเรียบร้อย เอลเลียสก็นั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง

“...”

ฉินอวี่พูดไม่ออกกับการกระทำที่ทำเหมือนเขาเป็นคนพิการแบบนี้ แต่จะให้หักน้ำใจอีกฝ่ายเขาก็ทำไม่ลง จึงได้แต่เลยตามเลย

ทั้งที่คิดว่าอยากเจอหน้าสักครั้ง แต่พอต้องมาเจอกันจริง ๆ ทั้งคู่กลับไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ฉินอวี่ทนไม่ไหวจึงเปิดปากก่อน

“เมื่อคืนคุณมาช่วยผมเหรอครับ”

“ใช่”

“...”

“...”

แค่นี้? ไม่มีอะไรต่อแล้วเหรอ 

คำตอบนี้สั้นมาก ฉินอวี่เงียบไปอย่างรอให้อีกฝ่ายพูดต่อ สีหน้าของเขาแสดงออกว่าต้องการคำอธิบาย เอลเลียสที่ปกติพูดน้อยจึงเรียบเรียงคำพูดแล้วกล่าวออกมาราวกับนักเรียนตอบคำถามคุณครู

“ขอโทษนะที่ไม่ได้ไปหาเธอ ฉันคิดว่าพอเคลียร์งานเสร็จแล้วจะรีบไปหา ใครจะไปคิดว่าเรื่องที่ต้องจัดการมันมีมากจนแทบปลีกตัวไม่ได้เลย”

ฉินอวี่พยักหน้าอย่างเข้าใจ “แล้วทำไมเมื่อคืนคุณมากับหน่วยปราบปรามได้ล่ะครับ”

ชายหนุ่มผมดำกล่าวต่ออย่างไม่ปิดบัง “นั่นเป็นหน่วยย่อยที่ขึ้นตรงต่อฉัน คนที่ออกคำสั่งได้มีเพียงแค่ฉัน เมื่อวานฉันมีธุระที่นั่นพอดี อันที่จริงก็เห็นเธอตั้งแต่ตอนเข้าร้านมาแล้วแหละ แต่ไม่แน่ใจว่าใช่ไหมเลยไม่กล้าเข้าไปรบกวน”

“ก็เลยมาได้ทันเวลาพอดีสินะ” ฉินอวี่พยักหน้าอีกครั้ง

“อืม”

หน่วยปราบปรามนี้เส้นสายภายในสลับซับซ้อน กลุ่มของเอลเลียสก็เป็นเพียงหนึ่งในกลุ่มย่อยที่ขึ้นตรงต่อเขา และมันก็เป็นเพียงแค่ชื่อเรียกภายนอกเท่านั้น ความจริงแล้วหลังจากเข้ามาทำงานให้ชายหนุ่ม คนพวกนี้ก็ไม่ต่างไปจากองครักษ์ส่วนตัว เปลือกนอกคือเจ้าหน้าที่รัฐแต่เบื้องหลังคอยทำงานลับ ๆ ให้เจ้านาย

แน่นอนว่าหน่วยปราบปรามไม่ได้มีเพียงแค่คนของเอลเลียส แต่มีเจ้าหน้าที่ที่ขึ้นตรงต่อประเทศอยู่อีกมากมาย

ดวงตาคู่สวยหรี่ลงอย่างสงสัย “คุณดูมีอำนาจมากเลยนะ”

นี่เขาโดนขาใหญ่เปย์มาตลอดเลยเหรอเนี่ย!

“ก็ไม่เท่าไหร่หรอก” เอลเลียสยิ้มขำ ยังไงในอนาคตเขาก็อยากจะบอกทุกเรื่องให้เงือกน้อยตรงหน้ารู้เหมือนกัน

ถ้าอีกฝ่ายอยากรู้น่ะนะ

ฉินอวี่ถามสิ่งที่อยากรู้ทันที “แล้วเรื่องของฉีเฟิง เอ่อ แวมไพร์ตนนั้นเป็นยังไงบ้างครับ”

“ยังจับไม่ได้ หมอนั่นฉลาดมากแถมยังหลบเก่งสุด ๆ”

พูดถึงเรื่องนี้เอลเลียสก็ถอนหายใจ ใครจะไปคิดว่าคนที่มากับอาอวี่ดันสร้างเรื่องใหญ่โตเสียได้ ตอนนี้เงือกน้อยของเขาเลยกลายเป็นผู้ต้องสงสัยไปด้วยอีกคน

หากไม่ใช่เพราะเขาออกหน้าเอง ป่านนี้อาอวี่คงได้ไปนอนในคุกรอไต่สวนไปแล้ว

ตัวต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดนั่งเม้มปากเงียบ ๆ “...”

ขอโทษนะครับ เหมือนว่านั่นจะเป็นความผิดผม...