‘ฉินอวี่’ ทะลุมิติมาพร้อมกับภารกิจสุดปวดหัว เดิมทีเขาคิดจะทิ้งภารกิจแล้วรอไปเกิดใหม่ แต่ระบบเฮงซวยดันบอกว่าหากภารกิจล้มเหลววิญญาณจะแตกดับ [ฉินอวี่ : แล้วฉันเลือกอะไรได้บ้าง!!]

ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่ - ตอนที่ 29 ของคู่กัน โดย Ferylin @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ยุคปัจจุบัน,ข้ามเวลา,แฟนตาซี,แฟนตาซี,โรแมนติก,นิยายวาย,yaoi,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ยุคปัจจุบัน,ข้ามเวลา,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,โรแมนติก,นิยายวาย,yaoi,ทะลุมิติ

รายละเอียด

ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่ โดย Ferylin @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

‘ฉินอวี่’ ทะลุมิติมาพร้อมกับภารกิจสุดปวดหัว เดิมทีเขาคิดจะทิ้งภารกิจแล้วรอไปเกิดใหม่ แต่ระบบเฮงซวยดันบอกว่าหากภารกิจล้มเหลววิญญาณจะแตกดับ [ฉินอวี่ : แล้วฉันเลือกอะไรได้บ้าง!!]

ผู้แต่ง

Ferylin

เรื่องย่อ

ฉินอวี่ ทะลุมิติมาเข้าร่างของหนุ่มน้อยที่มีหน้าและชื่อคล้ายตัวเอง ต่างกันตรงที่ร่างนี้เป็นเงือกและตายไปเพราะรักคนผิด

เขาเลยต้องมารับช่วงต่อพร้อมกับได้ภารกิจจัดการคนเฮงซวยที่เป็นต้นเหตุให้เจ้าของร่างต้องตาย 

เขาไม่ใช่คนชอบสู้รบกับใครเสียด้วยสิ 

ในขณะที่คิดว่าจะปล่อยให้ภารกิจล้มเหลวแล้วรอไปเกิดใหม่ ระบบเฮงซวยดันดักคอเสียก่อน 

[ระบบ : หากตายครั้งนี้จะเท่ากับวิญาณแตกสลาย ไม่มีทางได้ไปผุดไปเกิดอีกตลอดกาล]

“ฉิบ”

โอเค ไอ้ระบบนี่ตัดทางรอดเขาจนหมดแล้วเรียบร้อย

สารบัญ

ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-บทนำ เรื่องราวหลังการตาย,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 1 ภารกิจเอาตัวรอด ทำก็ตาย ไม่ทำก็ตาย,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 2 ไม่ชอบอะไรมักได้อย่างนั้น,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 3 เผลอไผล,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 4 หลงตัวเอง,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 5 ท่านเลวี่คนดัง,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 6 ข้อมูลใหม่,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 7 รับจ้างตามใจ,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 8 ลองทายสิ,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 9 ได้โปรดมาโปรยเงินที่ช่องผมบ่อย ๆ นะครับ!,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 10 กลายเป็นคนดังแบบงง ๆ,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 11 ไข่มุกเงือก,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 12 ร้องไห้,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 13 ทดลองผลงาน,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 14 ท่ามกลางคนมากมาย ยังมีเขาที่คอยเป็นห่วง,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 15 คนเราต้องใช้หน้าตาให้เป็นประโยชน์,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 16 ใบหน้าภายใต้หมวก,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 17 อมนุษย์ผู้งดงาม,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 18 เปลี่ยนแปลง,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 19 ทำอาหาร,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 20 ลีเจีย,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่- ตอนที่ 21 WARNING,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 22 ยังมีชีวิต,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 23 เธอรู้จักฉัน อาอวี่,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 24 นายจะให้ฉันไปตายหรือไง,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 25 ทำไมไม่มองฉันเลย,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 26 นับจากนี้ไปขอให้เธอมีแต่ความสุข,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 27 แวมไพร์ตนนี้จะทำงานไวเกินไปแล้ว,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 28 แผนในใจของแต่ละคน,ภารกิจเอาตัวรอดของเงือกมือใหม่-ตอนที่ 29 ของคู่กัน

เนื้อหา

ตอนที่ 29 ของคู่กัน

 

 

“อย่าบอกนะว่าคุณก็จะซื้อพวกนั้นให้ผม”

เอลเลียสพยักหน้า “อืม”

“...” ฉินอวี่พูดไม่ออก รั้งแขนตัวเองเอาไว้สุดชีวิต “ไม่เอาครับ คุณจะมาซื้อให้ผมทำไม”

พนักงานสาวสองคนยกมือปิดปากหัวเราะคิกคัก ส่วนฟินน์กับองครักษ์นั้นหมุนตัวเดินไปนั่งที่โซฟาอย่างว่าง่าย ทำท่าทางประมาณว่า เชิญตามสบายเลยครับเรื่องนี้พวกผมไม่ยุ่ง อะไรประมาณนั้น

นี่พวกนายจะไม่ตกใจเลยหรือไงกัน!

เอลเลียสขมวดคิ้ว “เธอไม่อยากได้เหรอ”

ฉินอวี่ตอบทันควัน “ไม่ครับ”

แล้วทำไมต้องอยากได้ด้วยล่ะ

ถึงพวกเขาจะรู้จักกันมาสักพักแล้ว ฐานะตอนนี้ก็น่าจะอยู่ในระดับเพื่อน แต่มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาซื้อของแพง ๆ ให้แบบนี้เลย

ลำพังแค่ค่าเสื้อผ้าที่หมดไปเป็นล้านเขาก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว

“ทำไม” หัวคิ้วคมเข้มกดลึกกว่าเดิมอย่างข้องใจ

ฉินอวี่ “ผมสิต้องถามว่าคุณจะซื้อให้ทำไม”

เอลเลียส “ก็ฉันอยากซื้อให้”

ชายหนุ่มสองคนยื้อยุดกันไปมาอยู่ในร้านเครื่องประดับอย่างไม่มีใครยอมใคร ท่ามกลางสายตาคนทั้งร้านรวมถึงลูกค้าคนอื่นที่มองมา ราวกับคู่รักงอนง้อกันยังไงยังงั้น

พนักงานสาวเอ่ยขึ้นด้วยความลำบากใจ “เอ่อ ถ้าท่านเอลเลียสกับคุณชายท่านนี้ยังตกลงกันไม่ได้ ดิฉันจะขอตัวไปดูแลลูกค้าท่านอื่นก่อนนะคะ”

ทั้งคู่หันมามองหน้าพนักงานพร้อมกัน เอลเลียสรีบพูด “เห็นไหมว่าเขาต้องมารอพวกเรา เพราะเธอดื้อไง”

“ความผิดผมเหรอ” ฉินอวี่เริ่มฉุนขึ้นมา เตรียมจะสะบัดหน้าหนี ทว่าประโยคถัดมาของคุณเอลกลับทำเอาเขาใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

“ฉันอยากซื้อให้เธอจริงๆ นะ อยากให้เธอใส่ของที่ฉันซื้อให้”

เงือกมือใหม่ประสานตากับชายหนุ่มตรงหน้า นัยน์ตาสีม่วงมีแต่ความจริงจังไม่มีวี่แววของการล้อเล่นแม้แต่น้อย แก้มขาวเกิดอาการเห่อร้อนขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

“กะ ก็ได้ ถ้าคุณว่าแบบนั้น”

“ก็แค่นี้” เอลเลียสยิ้ม ฉุดมือเงือกน้อยให้เดินตามไปเลือกเครื่องประดับด้วยกัน

บรรยากาศอ่อนโยนแผ่ออกมาจากเจ้าชายอย่างปิดไม่มิด พาให้คนทั้งร้านมองกันตาค้าง

“ไม่คิดว่าท่านเอลเลียสจะเป็นแบบนี้ไปได้” โจ องครักษ์ผู้มีผมและตาสีดำสนิทกระซิบเสียงเบากับอีกสองคน

เบรคซึ่งเป็นองครักษ์อีกคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับคำพูดนี้

ฟินน์นั่งกอดอก ดวงตาหลังเลนส์แว่นมองเจ้านายและเงือกนิ่ง ๆ “หลังจากนี้ก็คงจะเปลี่ยนไปมากกว่านี้อีก”

ทั้งที่ทุกคนคิดว่าท่านเอลเลียสจะไม่มีวันกลับมายิ้มได้อีกแล้ว ใครจะคิดว่าโชคชะตาดันส่งเงือกตนหนึ่งมาเติมส่วนที่หายไปนี้ให้กลับมาได้

หนึ่งเจ้าชายหนึ่งเงือกเลือกสร้อยกันอยู่นานมาก สุดท้ายฉินอวี่ก็ได้สร้อยคอเส้นเล็กสีเงินประดับด้วยจี้ขนาดเล็ก ตัวจี้ทำจากเพชรทั้งชิ้นแกะสลักเป็นรูปเปลือกหอย เมื่อส่องกระทบกับแสงไฟจะเกิดเป็นประกายแวววาวราวกับหมู่ดาวที่แสนงดงาม

ฉินอวี่ไม่มีความรู้เรื่องเพชรพลอย เขาเพียงแค่เห็นว่ามันสวยและรูปทรงถูกใจเท่านั้น ส่วนราคา...

เขาไม่อยากรู้หรอก กลัวจะนอนไม่หลับเอา

เอลเลียสพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “เลือกได้ดี เหมาะกับเธอมาก”

แน่นอนว่าคนกระเป๋าหนักอย่างเจ้าชายลำดับหนึ่งย่อมไม่สนใจราคาเช่นกัน บัตรเครดิตสีดำขอบทองถูกยื่นไปให้พนักงานสาวที่ยิ้มหน้าบานรออยู่แล้ว

หญิงสาวยื่นสองมือไปรับบัตรมา ก่อนจะเสนออย่างเอาใจ เนื่องจากเห็นว่าลูกค้าทั้งสองคนนี้น่าจะมีความสัมพันธ์บางอย่างกัน

“คุณลูกค้าจะไม่รับเพิ่มอีกสักชิ้นเหรอคะ” พนักงานสาวผายมือไปด้านข้างพลางรีบอธิบาย “ดิฉันขอแนะนำเพิ่มเติมนะคะ สร้อยเพชรเปลือกหอยจริง ๆ แล้วมีคู่ของมันด้วยค่ะ ทั่วทั้งโลกนี้มีเพียงแค่ชิ้นเดียวเท่านั้น”

ที่พนักงานแนะนำคือกำไลสีเงินขนาดเล็ก ประดับด้วยจี้เปลือกหอยแบบเดียวกับสร้อยของฉินอวี่ ตัวจี้แกะสลักจากเพชรทั้งชิ้นเช่นกัน แต่ขนาดจี้นั้นเล็กกว่าของสร้อยคอเล็กน้อย

เอลเลียสพยักหน้าอย่างไม่คิดเยอะ “เอาอันนี้ด้วย”

“ขอบพระคุณมากนะคะ เดี๋ยวเชิญท่านทั้งสองมาวัดขนาดทางด้านนี้เลยค่ะ”

หลังจากวัดขนาดเสร็จ พนักงานสาวก็รีบไปหลังร้านเพื่อแก้ความยาวของสร้อยกับกำไลให้พอดีกับลูกค้า ไม่นานเธอก็เดินถือถาดออกมา

“จะใส่ไปเลยหรือจะให้ดิฉันใส่กล่องดีคะ”

ฉินอวี่ “ใส่กล่องก็ได้ครับ”

เอลเลียส “ใส่เลย”

ฉินอวี่หันขวับมองคนจ่ายเงินอย่างพูดไม่ออก “...”

สุดท้ายพวกเขาก็สลับกันสวมให้อีกฝ่าย เอลเลียสยืนด้านหลังของเงือกน้อย มือหนารวบปลายผมสีอ่อนปัดไปไว้ข้างหน้า สร้อยเส้นเล็กกางออกแนบกับลำคอระหง

ฉินอวี่ก้มลงมองสร้อยคอเย็นเฉียบ ผิวด้านหลังคอสัมผัสได้ถึงปลายนิ้วอุ่นร้อนของอีกคนที่ปัดป่ายไปมาก่อให้เกิดความรู้สึกวูบวาบในอก ซึ่งพาให้เขาไม่รู้ว่าจะทำหน้ายังไงดี

“เสร็จแล้ว ตาเธอใส่ให้ฉันบ้าง” เอลเลียสปัดปลายผมของเงือกน้อยให้กลับคืนเข้าที่ ขาเรียวยาวก้าวมาข้างหน้าก่อนจะหยิบกำไลจากบนถาดมายื่นให้

“ครับ”

ฉินอวี่รับคำพลางก้มหน้าก้มตาใส่กำไลให้อีกฝ่าย ไม่กล้าเงยหน้ามองคุณเอลแม้แต่นิดเดียว ด้วยกลัวว่าฝ่ายนั้นจะเห็นถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น

เมื่อใส่เรียบร้อย เขาก็รีบหมุนตัวออกไปนอกร้านทันที “กลับกันเถอะครับ นี่ก็จะเย็นแล้ว”

วันนี้พวกเขาใช้เวลาทั้งวันไปกับการช็อปปิ้ง เรียกได้ว่าซื้อเพลินจนลืมดูเวลากันเลยทีเดียว

ทว่าแค่นี้มันก็น่าจะพอแล้ว…

ฉินอวี่ปรายตามองผู้คนรอบด้าน มีหลายคนที่กำลังทำท่ายกโทรศัพท์ขึ้นมาเนียน ๆ เพื่อแอบถ่ายพวกเขา เห็นได้ชัดว่าภาพกิจกรรมของวันนี้น่าจะถูกถ่ายเก็บเอาไว้หมดแล้ว

เงือกหนุ่มพรูลมหายใจ หวังว่าฉีเฟิงจะเห็นนะ

ระหว่างที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ ที่ด้านหลังพลันมีน้ำเสียงขุ่นมัวดังขึ้นมา “เธอเป็นอะไร ไม่อยากได้จริง ๆ เหรอ ถึงได้เดินหนีแบบนี้”

ฉินอวี่สะดุ้งรีบหันไปมองชายหนุ่มด้านหลัง เขาไม่ต้องการให้เอลเลียสคิดมากจึงได้ยอมบอกความจริงออกไปด้วยน้ำเสียงเบาหวิว “ถูกคนจ้องตอนสวมสร้อยเยอะขนาดนั้น ผมก็อายนะครับ”

เมฆหมอกที่อยู่ในแววตาสีม่วงสลายหายไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น เอลเลียสส่ายศีรษะ “อายอะไรกัน”

ดีเสียอีก เขาอยากเปิดให้ทุกคนรู้ไปเลย ยิ่งรู้เยอะยิ่งดี

พวกเขาทั้งคู่มีความคิดไปในทางเดียวกัน นั่นก็คืออยากให้เรื่องในวันนี้กลายเป็นที่จับตามอง ทว่าความหมายกลับไปกันคนละทิศละทางอย่างสิ้นเชิง

คนหนึ่งเพื่อปกป้อง ส่วนอีกคนก็เพื่อภารกิจ…

หลังเป้าหมายเสร็จสิ้น ทั้งคณะของเจ้าชายก็ตรงดิ่งกลับบ้านอย่างรวดเร็ว หนนี้ฉินอวี่หลับคอพับไปอีกครั้ง เขามีประสบการณ์จากขามาแล้ว และเพื่อไม่ให้ตัวเองไปทำชุดของคุณเอลยับอีกจึงเอนหัวไปทางกระจกแทน

ดวงตาสีม่วงราวกับอเมทิสต์เหลือบมองเงือกน้อยเงียบ ๆ มือแข็งแกร่งยื่นไปช้อนศีรษะเล็กให้มาพิงไหล่ตัวเอง ก่อนจะวางมือไว้บนไหล่อีกฝ่ายในท่าโอบ แล้วหลับตาลงไปด้วยอีกคน

ฟินน์เหลือบมองผ่านกระจกหลัง ดวงตาสีดำเบนไปสบเข้ากับเบรคที่ทำหน้าที่ขับรถ ไม่มีประโยคใดหลุดออกมาจากปาก แต่พวกเขากลับใจตรงกันอย่างน่าอัศจรรย์

เสียดายที่โจไม่ได้เห็น!

เมื่อก่อน เวลาที่เจ้าชายเอลเลียสออกไปข้างนอกมักจะมีลูกน้องไปด้วยสามคนเสมอ ทุกครั้งจะอาศัยไปด้วยกันในรถหนึ่งคัน แต่พอมีฉินอวี่เข้ามา เพื่อที่ฟินน์จะได้ไม่ต้องไปนั่งเบียดกับเจ้านายสองคนทางด้านหลัง หนึ่งในองครักษ์จึงต้องไปขับรถอีกคันตามหลังแทน และคนที่ต้องแยกตัวออกไปครั้งนี้ก็คือโจผู้เป็นหัวหน้า อีกฝ่ายจึงไม่มีโอกาสได้เห็นภาพหายากภาพนี้!

เนื่องจากใช้พลังไปกับการเดินช็อปปิ้งทั้งวัน รวมทั้งกินมื้อเย็นจนหนังท้องตึง การนั่งรถขากลับจึงทำให้ฉินอวี่หลับลึกมาก ลึกขนาดที่ว่ามาถึงคฤหาสน์แล้วเขาก็ยังไม่ยอมตื่น

ฟินน์รีบเปิดประตูลงไปจากรถ ทำท่าจะเข้าไปช่วยปลุกฉินอวี่ ทว่ากลับโดนเจ้านายยกมือห้าม “ให้เขานอนเถอะ”

เอลเลียสขยับกายออกจากรถอย่างเงียบเชียบ ก้มลงอุ้มเงือกขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน จากนั้นก็เดินตรงเข้าบ้านไป

ฟินน์มองตามหลังเจ้านายไปเงียบ ๆ ก่อนจะรีบหันมาพูดกับคนที่เหลือ “พวกเราก็รีบขนของเถอะครับ”

 

เป็นเพราะหลับไปตั้งแต่หัวค่ำ ฉินอวี่จึงตื่นขึ้นมาอีกครั้งตอนกลางดึก ทั้งห้องมืดสนิทจนมองอะไรไม่เห็น มือเรียวยื่นไปกดเปิดโคมไฟก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดดูเวลา

ตีสองครึ่ง…

เขาอ้าปากหาวหวอด หยาดน้ำเม็ดกลมใสเอ่อคลอหางตาเล็กน้อย ยกมือขึ้นเกาศีรษะไปมา

“ตื่นตอนนี้แล้วจะได้นอนอีกทีตอนไหนเนี่ย!”

ชุดที่ใส่ยังคงเป็นชุดเดิมกับเมื่อเช้า ฉินอวี่รีบลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำทันที

น้ำอุ่นถูกเติมจนเต็มอ่าง ในขณะที่กำลังแหวกว่ายไปมาด้วยสองขา จู่ ๆ เขาก็ฉุกคิดขึ้นมาว่าตนเองไม่ได้แปลงเป็นเงือกนานมากแล้ว

“อยากลงทะเลอะ!”

ไม่ได้การล่ะ พรุ่งนี้ยังไงเขาก็ต้องลงทะเลให้ได้ ไม่งั้นในเร็ว ๆ นี้ อาจจะมีศพเงือกตากแห้งเพราะขาดใจตายก็เป็นได้!

หลังอาบน้ำเสร็จ ฉินอวี่เดินไปนั่งจุ้มปุ๊กอยู่หน้าโน้ตบุ๊กด้วยดวงตาใสแจ๋ว

ปลายนิ้วกดเปิดแพลตฟอร์มบนดินที่พวกมนุษย์นิยมเล่นกัน ด้านบนมีแฮชแท็กยอดฮิตอยู่หลายอัน โดยลำดับบน ๆ ถูกเหมาไปโดยฉินอวี่และเอลเลียสอย่างที่คาด

 

#เจ้าชายเอลเลียสยิ้ม

#เจ้าชายลำดับหนึ่งมาเดินห้าง

#หนุ่มน้อยรูปงามข้างกายเจ้าชายคือใครกันแน่!?

 

ริมฝีปากบางสีแดงสดอมยิ้มออกมา กำลังจะเลื่อนเมาส์คลิกไปแฮชแท็กที่สาม ทว่ากลับไปสะดุดตาเข้ากลับแฮชแท็กด้านล่างอีกอันที่กำลังไต่ระดับความฮิตขึ้นมาเรื่อย ๆ

 

#คนรักของเจ้าชายเอลเลียส

 

แฮชแท็กนี้ทำเอาใบหน้าที่กำลังยิ้มของฉินอวี่แข็งค้าง มือหยุดนิ่งราวกับโดนสตาฟ

แท็กนี่มันขึ้นมาได้จังหวะพอดีกับวันที่พวกเขาไปเดินห้างกัน หากจะบอกว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับคนอื่นฉินอวี่ก็คิดไม่ออกว่าหมายถึงใคร

คงไม่ใช่...

ทันทีที่คลิกเข้าไป เขาก็ถูกภาพในโพสต์แรกกระแทกหน้าจนปากอ้าค้าง

มันคือภาพตอนที่อยู่ในร้านจิวเวลรี่ ภาพแรก ฝ่ายเจ้าชายกำลังสวมสร้อยให้ชายหนุ่มผมทองด้วยสีหน้าอ่อนโยน ส่วนคนที่ตัวเล็กกว่าก็ก้มหน้าใบหูแดงก่ำแฉความรู้สึกออกมาจนหมดเปลือก

ภาพที่สอง เป็นจังหวะที่ชายหนุ่มผมทองก้มหน้าก้มตาใส่สร้อยข้อมือให้เจ้าชาย แม้จะไม่เห็นสีหน้าของเขาเพราะก้มอยู่ แต่ภาพนี้กลับถ่ายแววตาที่เจ้าชายลำดับหนึ่งมองคนผมทองออกมาได้อย่างชัดเจน

มันเป็นแววตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหล…

“…”

 

[กรี๊ด! อีกฝ่ายเป็นใครเนี่ย หญิงสาวทั่วประเทศแหลกสลายกันหมดแล้ว (กัดผ้าเช็ดหน้า) ] 

[ถึงจะเจ็บใจ แต่ต้องยอมรับเลยว่าคนคนนี้หน้าตาดีมากจริง ๆ] 

[หล่อมากค่ะ ฮือ อีกคนก็สวยมาก แงงง อิจฉาจนตาลุกเป็นไฟ] 

[ในใจฉันก็อยากแสดงอาการโกรธเกรี้ยวออกมา แต่พอเห็นสายตาที่ท่านเอลเลียสมองคนผมทองแล้ว ฉันก็พูดไม่ออก มันละมุนมาก! ถ้ามีคนมามองฉันด้วยสายตาแบบนี้ฉันจะยอมถวายตัวให้เลย อ๊ะ! แต่ต้องหล่อนะ] 

[อยากรู้จังว่าเขาเป็นใคร หน้าตาตรงไทป์ฉันมาก ถึงจะรักท่านเอลเลียส แต่หนุ่มน้อยผมทองก็ทำเอาใจสั่นขึ้นมาเฉยเลย] 

[ฮือ เจ้าชายผู้เย็นชามีเจ้าของหัวใจซะแล้ว] 

 

ฉินอวี่อ่านโพสต์ไปก็กัดปากไปจนแทบขาด ใบหน้าเห่อร้อนจนแทบไหม้

ทั้งที่คิดเอาไว้ว่าน่าจะโดนคนทั้งประเทศรุมสาป แต่กระแสกลับไปในทางบวกมากกว่าที่คิด เห็นได้ชัดเลยว่าแม้ประเทศนี้จะแบนอมนุษย์ ทว่าเรื่องอื่น ๆ พวกเขาก็เปิดกว้างมากทีเดียว

แต่ตอนนี้ช่างหัวเรื่องนั้นก่อนเถอะ!

เขาอุตส่าห์ก้มหน้าหลบเพราะไม่อยากให้คุณเอลเห็นแล้ว ใครจะไปคิดว่าดันถูกถ่ายช็อตนี้เอาไว้ได้ ให้ตายสิ!