“เซเลส”ได้พลีชีพปกป้องกาแล็กซี่ แต่เขากลับตื่นขึ้นมาในโลกใบใหม่ การกลายพันธ์ุ/วิวัฒนการ การใช้ชีวิตหลังเกษียณเขาก็ต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดอีกหรอ ร่ายกายที่ปวกเปียกนี้คืออะไร กล้ามเขาหายไปไหนหมด!!

ชีวิตหลังเกษียณที่แสนจะสงบสุข...ก็บ้าละ! - ตอนที่2 2 โดย Girl obsess @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,แอคชั่น,ไซไฟ,เลือดสาด,ตะวันตก,เอาขีวิตรอด,เกิดใหม่ ,นายเอกเก่ง,วันสิ้นโลก,ซอมบี้,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ชีวิตหลังเกษียณที่แสนจะสงบสุข...ก็บ้าละ!

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,แอคชั่น,ไซไฟ,เลือดสาด,ตะวันตก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เอาขีวิตรอด,เกิดใหม่ ,นายเอกเก่ง,วันสิ้นโลก,ซอมบี้

รายละเอียด

“เซเลส”ได้พลีชีพปกป้องกาแล็กซี่ แต่เขากลับตื่นขึ้นมาในโลกใบใหม่ การกลายพันธ์ุ/วิวัฒนการ การใช้ชีวิตหลังเกษียณเขาก็ต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดอีกหรอ ร่ายกายที่ปวกเปียกนี้คืออะไร กล้ามเขาหายไปไหนหมด!!

ผู้แต่ง

Girl obsess

เรื่องย่อ

#ชีวิตหลังเกษียณที่แสนจะสงบสุข....ก็บ้าละ!


...


แนะนำเรื่อง




เซเลส จอมพลผู้ยิ่งใหญ่ในวัยเก้าสิบห้าปีที่อยู่ในระหว่างการทำภารกิจครั้งสุดท้ายก่อนปลดเกษียณไปใช้ชีวิตที่สงบสุข กลับต้องมาพลีชีพทำลายดาวฤกษ์ที่พร้อมจะกลายเป็นหลุมดำเขมือบทั้งกาแล็กซี


แต่มันจบแค่นั้นก็ดีสิ! เขาดันกระเด็นมาอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยการกลายพันธุ์และได้ร่างใหม่เป็นเผ่าพันธุ์ที่แสนจะอ่อนแอ โดยที่ไม่รู้เลยว่าการมาของเขานั้นทำให้โลกทั้งใบตกอยู่ในมหันตภัยครั้งใหญ่ เซเลสตื่นขึ้นมาหลังจากหลับใหลไปนานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ คำถามแรกคือ อาวุธของเขาอยู่ไหน?


//////////


เซเลสเดินตรงเข้าไปหาผู้ควบคุมอันดับหนึ่ง"นี่ ขออาวุธฉันคืนได้รึเปล่า? พอดีฉันทำมันหล่น "


ถึงแม้คนตรงหน้าจะไม่ได้อ้าปากพูดสักประโยค แต่เสียงของอีกฝ่ายกลับดังก้องอยู่ภายในหัวของผู้ควบคุมอันดับหนึ่ง


ผู้ควบคุมอันดับหนึ่ง ก้มลงมองคนตรงหน้าที่มีส่วนสูงเท่าหน้าอกของเขาเท่านั้น


เขาตบกระเป๋ากางเกงเบาๆ


"อืม ผมน่าจะลืมมันไว้บนห้อง"


"..." เซเลส


"..." อาวุธ






คำเตือน


เนื้อหามีความรุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ


....

สารบัญ

ชีวิตหลังเกษียณที่แสนจะสงบสุข...ก็บ้าละ!-ตอนที่1 1,ชีวิตหลังเกษียณที่แสนจะสงบสุข...ก็บ้าละ!-ตอนที่2 2,ชีวิตหลังเกษียณที่แสนจะสงบสุข...ก็บ้าละ!-ตอนที่3 3,ชีวิตหลังเกษียณที่แสนจะสงบสุข...ก็บ้าละ!-ตอนที่4 4,ชีวิตหลังเกษียณที่แสนจะสงบสุข...ก็บ้าละ!-ตอนที่5 5,ชีวิตหลังเกษียณที่แสนจะสงบสุข...ก็บ้าละ!-ตอนที่6 6

เนื้อหา

ตอนที่2 2


เซเลสลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่เขาเห็นคือเพดานที่มีรูขนาดเท่าลูกฟุตบอล มองออกไปอีกคือต้นไม้และท้องฟ้า เขาค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งมองสำรวจรอบๆ แต่ก็ต้องชะงัก


ห่างออกไปจากท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ที่เขาอยู่ ในมุมที่แสงส่องเข้าไปไม่ถึงมีดวงตานับร้อยกำลังจ้องมองมายังเขา พวกมันนิ่งมากและ


พยายามฝังตัวเองเข้ากับกำแพงให้มากที่สุด


ลักษณะของพวกมันเหมือนมนุษย์และเหมือนมดในเวลาเดียวกัน ผอมแห้ง ปากมีฟันที่แหลมคม ตาของพวกมันเปล่งประกายมากในมุมมืด มีขนาดตัวไม่ถึงเอวเขาด้วยซ้ำ


แต่ตัวที่อยู่ด้านหลังของพวกตัวเล็กนั่นออกไปอีก น่าจะเป็นราชินีเพราะมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่า และเหมือนพวกมันพึ่งสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังชีวิตของเขา ทำให้พวกมันกลัวและไม่กล้าเข้ามาใกล้ แต่ถึงมันจะกลัวก็ไม่ได้ถอยออกไปอย่างใด


เหมือนกับว่าพวกมันกำลังรออะไรบางอย่างอยู่


ตอนนั้นเองเซเลสได้ยินเสียงลมหายใจรวยรินดังมาจากด้านหลังของเขา


เซเลสหันไปมองก็พบว่าด้านหลังเป็นเนินสูง มีศพประมาณห้าถึงหกคน สภาพแขนขาขาด ใบหน้าเละ ใส่เสื้อผ้าสีดำล้วนถ้าไม่สังเกตดีๆ คงไม่เห็น เดาว่าคนพวกนี้คงหนีตายจากสิ่งมีชีวิตด้านนอกนั้น ดูจากลักษณะน่าจะพึ่งตายได้ไม่นานและหนึ่งในนั้นยังมีชีวิตอยู่


เขาเลือกที่จะเมินสิ่งรอบตัว และเริ่มสำรวจบริเวณรอบๆ แทน ที่นี่เป็นท่อระบายน้ำทรงสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ขนาดใหญ่ มีพืชสีเขียวขนาดเล็กเต็มไปหมด


ในนี้ค่อนข้างมืดมีเพียงแสงที่ส่องลงมาจากด้านบนเล็กน้อยเท่านั้น แต่ไม่ได้ส่งผลต่อการมองเห็นของเขาสักเท่าไหร่ ส่วนบริเวณที่เขานอนอยู่ก็เต็มไปด้วยคริสตัลสีเขียวจำนวนมากและแน่นอนเขารู้ว่ามันคืออะไร


มันคือคริสตัลเลือด


ถ้าเลือดเขามีอุณหภูมิที่สูงมากๆ เมื่อเย็นตัวลงจะกลายเป็นคริสตัลที่มีค่าความแข็งสูง และผนึกหัวใจของเขาเอาไว้ด้านใน เขาค้นพบมันด้วยความบังเอิญตอนเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ในสงครามหนึ่ง


นั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อยที่จะทำภารกิจเสี่ยงตาย


ดูเหมือนว่าเลือดจากศพด้านหลังจะไหลลงมาโดนคริสตัลเลือดของเขาพอดี แต่ดูจากลักษณะร่างกายใหม่ของเขาแล้วค่อนข้างเป็นเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอมากเลยทีเดียว


เซเลสลุกขึ้นเดินแต่ก็ต้องคิ้วขมวด เขารู้สึกเจ็บเท้าเมื่อเหยียบลงบนหินจึงเลือกที่จะเดินเลี่ยงไปบริเวณที่มีหญ้าแทนและเดินตรงไปที่แอ่งน้ำขนาดใหญ่


แอ่งน้ำบนพื้นสะท้อนเงาของเขาได้อย่างชัดเจน เส้นผมยาวสีดำ ตาสีฟ้าใส ดวงตาเฉี่ยวคม ริมฝีปากบาง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย หน้าตาเขาตอนนี้ดูไร้อารมณ์สุดๆ ผิวของเขาค่อนข้างซีด ส่วนสูงประมาณร้อยแปดสิบเซนติเมตร หน้าตาร่างใหม่ไม่ได้ต่างจากร่างเก่ามาก มีแค่ส่วนสูงและกล้ามเนื้อที่ลดลงไปเท่านั้น แต่ก็ยังดีที่กล้ามหน้าท้องของเขายังคงอยู่


ลักษณะเผ่าพันธุ์แบบนี้น่าจะเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่เขาไม่ได้รู้ลึกเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์มนุษย์มากนักเพราะทั้งชีวิตเขายังไม่เคยเห็นตัวเป็นๆ เพียงแค่อ่านผ่านๆ จากหนังสือบันทึกการเดินทางของพ่อเขาเท่านั้นเอง


เซเลสเดินไปรอบๆ ก็เห็นกระเป๋าเดินทางหลายใบตกอยู่ในกระเป๋ามีของหลายอย่างมากซึ่งเขาไม่รู้วิธีใช้ เขาเลือกที่จะหยิบออกมาแค่เสื้อผ้าที่เหมือนกับศพบนเนินนั้น กระเป๋าเป้ใบเล็ก มีดยาวหนึ่งเล่มสั้นเล่มหนึ่ง และไฟฉาย


ในขณะเดียวกับสิ่งมีชีวิตประหลาดที่เซเลสตื่นขึ้นมาเจอ ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนนี้พวกมันก็ยังคงค้างอยู่ท่าเดิม แต่ถ้าลองสังเกตดีๆ ก็จะเห็นเม็ดเหงื่อตามขมับ พวกมันจะเกิดอาการสั่นกลัวทุกครั้งที่มนุษย์นั่นมองมาและยังสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามที่รุนแรง แต่ยังดีที่ภัยคุกคามนั้นไม่ได้ส่งมายังพวกมันโดยตรง ได้แต่คิดในใจว่า...ออกไปไกลๆ จากเหยื่อของพวกมันสักทีเถอะ!!


ทันทีที่เซเลสเปิดการรับรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวคลื่นมหาศาลก็พุ่งเข้ามาในสมอง เขาต้องใช้เวลาพอสมควรในการปรับตัว ในขณะนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงเลนน็อทซ์ [1] อาวุธเพียงชิ้นเดียวของเขา มันอยู่ในที่ที่ห่างไกลมากๆ


มันกำลังเรียกหาเขาอยู่


ไม่รู้ว่าหลังจากเหตุการณ์นั้นเขาจะกระเด็นออกมาไกลขนาดไหน แต่ยังไงซะเขาได้ทำหน้าที่ก่อนปลดเกษียณเรียบร้อย ต่อจากนี้ขอใช้ชีวิตหลังเกษียณเลยก็แล้วกัน


เซเลสทำการปกปิดคลื่นพลังชีวิตของตัวเองเพราะอาจจะทำให้ใช้ชีวิตลำบากและเดินไปหยิบคริสตัสขนาดเล็กขึ้นมาใส่กระเป๋าเอาไว้ชิ้นหนึ่งเพราะมันจะช่วยไล่สัตว์พวกนี้ได้และเริ่มออกเดินทาง เซเลสเดินไปตามท่อระบายน้ำทรงกลม ขนาดใหญ่ ข้างในมืดมาก มีสัตว์ประหลาดอาศัยอยู่จำนวนไม่น้อย


ถึงแม้ระหว่างทางที่เขาเดินผ่านจะไม่มีสัตว์ประหลาดสักตัวแต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าพวกมันซ่อนตัวจากเขาอยู่ เดินเท้าได้สักพักเส้นทางข้างหน้ากลับมีท่อระบายน้ำแยกอีกตั้งสามทางแล้ว


เขาต้องไปทางไหนละเนี่ย




เมือง A


สถานการณ์ด้านบนเต็มไปด้วยมิวแทนท์ [2] นับพันกำลังวิ่งตามรถกระบะคันหนึ่งอยู่ พวกมันมีลักษณะลำตัวยาว สี่ขา มีหางยาวคล้ายแส้และมีดวงตาขนาดเล็ก ขนาดตัวเทียบกับจักรยานยนต์ได้เลย ครีบบริเวณแก้มกางออกเมื่ออ้าปากกว้างและปล่อยคลื่นส่งผ่านอากาศเพื่อสื่อสารระหว่างพวกมันเอง


ปังๆ ปังๆๆๆๆ!!


“แจ็คพวกมันมีจำนวนเยอะเกินไป!!! กระสุนเราจะหมดแล้ว!!”


เสียงตะโกนของเอรินผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่มดังขึ้น ในขณะที่มีผู้ชายอีกสองคนช่วยยิงสกัดพวกมิวแทนท์


“ฉันแปลกใจตั้งแต่เริ่มเข้าเมืองมาแล้ว ที่นี่มันเงียบเกินไป ไร้วี่แววของมิวแทนท์ ที่แท้พวกมันแค่ซุ่มรอเวลาให้เราเข้ามาในตัวเมืองก่อนแล้วค่อยเริ่มออกล่าพวกเรา” แจ็คพูดพลางขับรถหลบสิ่งกีดขวางต่างๆ บนถนน


“จิ!! ตอนพวกหน้าเหม็นนั่นบอกสถานที่ค้นหาเสบียง ฉันบอกนายเเล้วแจ็ค ว่าอย่าตอบรับ เมืองAหรือ? ฆ่าตัวตายชัดๆ” เบลคยิงสกัดมิวเเทนท์อย่างต่อเนื่อง


“ดูจากจำนวนแล้วพวกมันขยายพันธุ์เร็วมากอีกไม่นานคงเต็มเมืองไปหมด” อเล็กซ์หลังจากยิงสกัดพวกมันเสร็จเขากลับเข้ามานั่งและรีโหลดกระสุน


พวกเขาคือกลุ่มผู้รอดชีวิตที่อาศัยห่างจากเมืองA ไม่ไกลนัก ในฐานของพวกเขาต้องผลัดเปลี่ยนกันออกไปหาเสบียงและอาหารเสมอแล้วคราวนี้ก็เป็นพวกเขาที่ต้องออกมา


“ยังไงก็ตามพวกเราต้องหาที่ปลอดภัย–” แจ็ค


โครม!!!


จู่ ๆ ก็มีมิวแทนท์กระโดดตัดหน้ารถของพวกเขา ทำให้รถเสียหลักชนกับซากรถข้างทาง


“บ้าเอ๊ย!!” แจ็คสบถเสียงดัง เขาพยายามสตาร์ทรถอีกครั้งแต่ไม่ว่าเขาจะพยายามสตาร์ทรถกี่ครั้งมันก็ไม่ติดเลยสักนิด


“เราต้องลงจากรถเดี๋ยวนี้! พวกมันล้อมเราไว้หมดแล้ว!!”


แต่เหมือนพวกเขาจะช้าเกินไปพวกมิวแทนท์ไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันตัวกำลังตีวงล้อมพวกเขาเอาไว้ ทุกคนรีบปีนขึ้นไปบนรถกระบะพยายามยิงพวกมันทุกทิศทาง


ปัง ปัง ๆๆๆๆ!!


“นี้มันบ้ามากพวกเราไม่รอดแน่!!” เบลคหันมาตะโกนพร้อมใช้ขวานฟันเข้าที่ศีรษะของมิวแทนท์


“โอ๊ยย!! ไม่ ไม่!! ช่วยด้วย!!!”


ในระหว่างนั้นก็มีมิวแทนท์ตัวหนึ่งพุ่งกัดเขาที่ขาของเบลค มันทำการลากเขาลงจากรถอย่างรวดเร็ว


“ไม่นะ เบลค!!!!” เอรินพยายามที่จะดึงเบลคออกมาแต่ก็ไม่ทันพวกมันลากเบลคลงไปที่พื้นและรุมฉีกเขาเป็นชิ้นๆ เอรินเห็นภาพข้างหน้าในระยะประชิดมันทำให้เธอกลัวเป็นอย่างมาก เธอเหนี่ยวไกปืนยิงพวกมันแบบไม่ยั้ง


ตอนนั้นเองท่าทางของพวกมิวแทนท์ก็เปลี่ยนไป พวกมันมีพฤติกรรมที่แปลกมาก เริ่มตัวสั่น หันซ้ายหันขวาเหมือนหาอะไรสักอย่าง ต่อมาก็มองลงพื้น ในขณะเดียวกันครีบข้างแก้มที่เคยกางออกและส่งคลื่นตลอดเวลากลับหุบลง


หลังจากนั้นไม่นานพวกมันก็วิ่งออกจากบริเวณนี้จนหมด ทิ้งไว้เพียงกลุ่มของแจ็คที่กำลังงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นพวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ดูเหมือนว่าพวกมันกำลังกลัวและหนีบางสิ่ง


นั่นทำให้พวกเขายิ่งตื่นตัวมากขึ้น


“แจ็ค เบลคเขา–” เอริน


“เขาตายแล้วเธอก็เห็น เราช่วยเขาไม่ได้” แจ็ครีบเก็บของออกจากรถ


“ทุกคนไปเก็บของทั้งหมดออกจากรถ เราจะเข้าไปหลบที่ตึกด้านหน้าก่อนกลางแจ้งอันตรายเกินไป” แจ็คสะพายกระเป๋าและเดินนำหน้าไปทันที


“เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นพวกมันหนีอะไร?” เอรินที่เดินตามอเล็กซ์พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอยังตัวสั่นกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้


“ฉันไม่รู้แต่ที่แน่ๆ ทำให้มิวแทนท์ทั้งฝูงวิ่งหนีหางจุกตูดแบบนี้ได้คงไม่ธรรมดาแน่นอน” อเล็กซ์




อีกด้านหนึ่ง


ภายในซอกตึกที่ไม่ไกลจากบริเวณที่กลุ่มของแจ็คอยู่มากนัก จู่ ๆ ฝาท่อระบายน้ำก็ค่อยๆ เปิดออก


“ให้ตายสิ เหม็นเป็นบ้าเลย” เซเลส พูดออกมาอย่างหัวเสีย





[1] เลนน็อทซ์ คือ อาวุธที่เซเลสสร้างขึ้นมาเอง จากแร่ธาตุที่ดีที่สุดในดวงดาว และตั้งชื่อจากนามสกุลของตัวเอง




[2] สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์หรือมิวแทนท์ (mutant) คือสิ่งมีชีวิตที่มีความเฉพาะเจาะจงของลักษณะทางพันธุกรรม มีอวัยวะพิเศษ หรือมียีนส์ที่แปลกไป บุคลิกใหม่ ๆ ที่กลายพันธุ์มาอาจจะยังเป็นปกติหรือไม่ปกติก็ได้ อาจจะไม่ส่งผลเชิงบวกหรือส่งผลในแง่ดี แต่มักจะส่งผลให้เกิดความผิดปกติทางพันธุกรรมเสียมากกว่า