เซี่ยเฟยได้รับน้ำยาปรับสภาพยีนที่ไม่ได้ติดฉลากมาโดยบังเอิญและเรื่องราวอันน่าสนใจของเขาก็ได้เริ่มขึ้นนับจากจุดนี้เป็นต้นไป…
ผจญภัย,แฟนตาซี,แอคชั่น,นิยายแปล,พระเอกเก่ง,นักฆ่า,ปรุงยา,เจ้าแผนการ,บ้าฝึกฝน,ไม่ฮาเร็ม,พลังพิเศษ,ผจญภัย,อวกาศ,จับสัตว์,จากจนไปรวย,จากอ่อนไปเก่ง,จากวัยรุ่นเป็นผู้ใหญ่,นางเอกคนเดียว,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ทันทีที่เซี่ยเฟยตอบ ‘ตกลง’ เขาก็กระโดดขึ้นไปบนลานประลองพร้อมกับยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามห่างจากเฉินตงประมาณ 30 เมตร
เฉินตงยังคงสวมกางเกงขาสั้นรัดรูปตัวเก่งอยู่เหมือนเดิม แต่คราวนี้สีกางเกงของเขาได้เปลี่ยนเป็นสีกรมท่าซึ่งเผยให้เห็นกล้ามเนื้อแน่น ๆ และแผลเป็นบนร่างกายได้อย่างชัดเจน
เมื่อพิจารณาอย่างละเอียดจะเห็นว่าบาดแผลบนร่างของเฉินตงเป็นรอยแผลเป็นที่ซ้อนทับรอยแผลเป็นเป็นชั้น ๆ และมันก็คงจะไม่มีใครรู้ว่ารอยแผลเป็นบนร่างของชายคนนี้มีจำนวนมากแค่ไหน
อารยธรรมในจักรวาลได้พัฒนาไปไกลกว่าอารยธรรมในดาวโลกมาก มันจึงมีวิธีการในการจัดการกับรอยแผลเป็นเหล่านี้หลายสิบวิธี แต่เฉินตงก็ไม่คิดที่จะลบรอยแผลเป็นของตัวเองออกไปราวกับแผลเป็นเหล่านี้คือเหรียญตราแห่งเกียรติยศที่เขาได้รับมาจากการต่อสู้
ขณะเดียวกันชายหนุ่มร่างกำยำก็สวมใส่รองเท้าบูทสีดำเก่า ๆ ที่ใกล้จะเสื่อมสภาพ แต่เมื่อพิจารณาจากวัตถุดิบที่นำมาสร้างรองเท้าแล้วหากรองเท้าคู่นี้ไม่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจริง ๆ มันก็คงจะไม่มีทางขาดรุ่งริ่งเหมือนอย่างปัจจุบันได้
นอกจากนี้เฉินตงยังมีความสูงมากกว่า 190 เซนติเมตรและมีน้ำหนักมากกว่า 150 กิโลกรัม ส่วนใบหน้าของเขานั้นก็เต็มไปด้วยความแน่วแน่
ฟิ้ว~
เมื่อนักสู้ทั้งสองฝ่ายได้ขึ้นสู่สังเวียนเรียบร้อยแล้ว ม่านพลังงานของสนามประลองก็เริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ ทำให้คนนอกเห็นเหมือนฝาครอบกระจกครึ่งวงกลมได้ครอบคลุมสนามประลองของเซี่ยเฟยและเฉินตงเอาไว้
บริเวณด้านบนเซียวไห่ลี่ยังคงกล่าวสุนทรพจน์อย่างตื่นเต้นและเขาก็รู้สึกได้รับเกียรติอย่างมากที่ถูกรับเลือกให้เป็นหัวหน้าคณะกรรมการของการประเมินในครั้งนี้ แต่สำหรับเซี่ยเฟยและเฉินตงแล้วคำพูดเหล่านั้นไม่ได้เข้าหูของพวกเขาเลย เพราะพวกเขาต่างก็จับจ้องมองกันและกันพร้อมกับเริ่มรวบรวมพลังงานในร่างกายอย่างรวดเร็ว
เซี่ยเฟยสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนเลยว่าอุณหภูมิบริเวณโดยรอบลดลงจากเดิมอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเพียงแค่ไม่กี่วินาทีความเย็นจัดก็เริ่มกัดกินร่างกายของเขาแล้ว ซึ่งมันเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเฉินตงพร้อมที่จะจู่โจมได้ทุกเมื่อ
“นายพร้อมแล้วหรือยัง!?” เฉินตงกล่าวถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น จากนั้นเขาก็ยื่นแขนทั้งสองออกไปด้านหน้าในท่าที่พร้อมจะโจมตี
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับเบา ๆ พร้อมกับสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างจริงจังโดยดวงตาของเขายังคงจับจ้องมองไปยังเฉินตงแต่ขาของเขาค่อย ๆ ขยับไปทางขวา
"ถ้าอย่างนั้นเราก็มาเริ่มกันเลย!"
แกร็ก!
โมเลกุลของน้ำในอากาศเริ่มควบแน่นกลายเป็นน้ำแข็งบนร่างของเฉินตงด้วยความรวดเร็วก่อให้เกิดเป็นชุดเกราะน้ำแข็งที่สวยงาม
ขณะเดียวกันน้ำแข็งตรงบริเวณแขนทั้งสองข้างของเขาก็กลายเป็นดาบยาวคู่หนึ่ง โดยดาบแต่ละเล่มมีความยาวมากกว่า 2 เมตรและพวกมันก็ปล่อยกลิ่นอายออกมาอย่างแหลมคม
“ย๊าก!”
เฉินตงส่งเสียงตะโกนพร้อมกับพุ่งเข้าหาเซี่ยเฟยโดยใช้ดาบน้ำแข็งทั้งสองเล่มชูไขว้ไว้ตรงบริเวณหน้าอกเหมือนกับกรรไกร
เมื่อรวมกับชุดเกราะน้ำแข็งบนร่างมันก็ทำให้เฉินตงมีรูปร่างที่ใหญ่โตมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมและแรงกระแทกจากการวิ่งเพื่อทำการจู่โจมของเขาก็ทำให้แม้แต่สนามประลองผสมไทเทเนียมก็ยังเกิดอาการสั่นคลอน
เซี่ยเฟยไม่ได้คิดที่จะหลบเลี่ยงและพุ่งเข้าหาเฉินตงเพื่อเผชิญหน้าแบบซึ่ง ๆ หน้า เมื่อระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายลดลงมาเหลือน้อยกว่า 5 เมตร นักรบในชุดเกราะน้ำแข็งก็เริ่มจู่โจมจนก่อให้เกิดแสงสว่างอันเย็นวาบพุ่งตรงไปที่เอวของนักรบสายความเร็ว
แต่ทันทีที่ดาบน้ำแข็งเคลื่อนมาถึง ร่างกายของเซี่ยเฟยกลับให้ความรู้สึกเหมือนหดสั้นลง เพราะเขาโน้มกายไปด้านหน้าอย่างสุดกำลัง ทำให้ใบดาบน้ำแข็งปาดผ่านแผ่นหลังของเขาไปด้วยความรวดเร็ว
การหลบเลี่ยงในครั้งนี้มีเว้นระยะห่างเอาไว้เพียงแค่ไม่กี่เซนติเมตรและการจู่โจมของเฉินตงก็เกือบจะตัดเส้นขนบนแผ่นหลังของเซี่ยเฟยไปได้!
ขณะเดียวกันการกระโดดไปข้างหน้าอย่างรุนแรงทำให้ร่างกายของเซี่ยเฟยเสียการทรงตัวจึงทำให้หัวของเขากระแทกเข้าไปที่หน้าอกของนักรบน้ำแข็งตรงหน้า แต่ก่อนที่เฉินตงจะคว้าร่างกายของเซี่ยเฟยเอาไว้ได้ การเคลื่อนไหวของนักรบสายความเร็วกลับเปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน
จู่ ๆ เท้าของเซี่ยเฟยก็กางออกไปด้านข้างก่อนที่จะเตะขึ้นไปในอากาศอย่างสุดกำลัง
ปัก!
การจู่โจมก่อให้เกิดเสียงดังขึ้นมากลางอากาศพร้อมกับร่างของเซี่ยเฟยที่ขยับออกไปทางซ้ายอย่างรวดเร็วและการเตะในครั้งนี้ยังช่วยให้ชายหนุ่มหลบหนีไปจากการคว้าจับของเฉินตงได้อีกด้วย!
ในเวลาเดียวกันการเคลื่อนไหวของเชสซิ่งไลท์ก็ก่อให้เกิดเส้นแสงที่สวยงามกระแทกเข้าไปตรงบริเวณซี่โครงของชุดเกราะน้ำแข็ง
เป้ง! เป้ง! เป้ง!
จู่โจม 3 ครั้ง!
ในเวลาเพียงแค่ไม่ถึงวินาทีเซี่ยเฟยสามารถจู่โจมออกไปถึงสามครั้งติดต่อกันและการจู่โจมแต่ละครั้งก็มีตำแหน่งการตกกระทบไปยังจุด ๆ เดียวคือตำแหน่งใต้ซี่โครงซ้ายซึ่งเป็นตำแหน่งที่มุ่งเป้าไปที่หัวใจ!
การจู่โจมทั้งสามครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะส่งผลร้ายต่อศัตรูเท่านั้นแต่เซี่ยเฟยยังใช้แรงสะท้อนของการโจมตีเพื่อปรับสมดุลย์ของร่างกายให้เขากลับไปอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด
ฟุบ!
เซี่ยเฟยใช้ความเร็วเว้นระยะห่างออกมาจากเฉินตงมากกว่า 50 เมตรและถึงแม้ว่าการจู่โจมของเขาในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี แต่เกราะน้ำแข็งของอีกฝ่ายก็มีความแข็งเป็นอย่างมากจนทำให้แขนขวาของเขารู้สึกเจ็บจนชาอย่างรุนแรง!
ขณะเดียวกันเฉินตงก็ออกแรงกระโจนเพื่อจู่โจมเซี่ยเฟยแรงเกินไปเล็กน้อย ร่างของเขาจึงกระแทกเข้ากับม่านพลังงานโปร่งใสเช่นกัน
ตู้ม!
แรงกระแทกในครั้งนี้ทำให้ม่านพลังมีรูปร่างที่บิดเบี้ยวพร้อมกับเกิดระลอกคลื่นกระจายตัวออกไปด้วยความรวดเร็วคล้ายกับคลื่นน้ำที่เกิดขึ้นจากก้อนหินที่ตกลงไปบนทะเลสาบอันเงียบสงบ
ด้วยความช่วยเหลือจากม่านพลังงานที่ช่วยกระจายแรงกระแทก เฉินตงจึงกลับมาทรงตัวได้อีกครั้งก่อนที่เขาจะหันไปมองเซี่ยเฟยและหัวเราะออกมาเสียงดัง จากนั้นเขาก็กล่าวออกมาว่า
“ไม่เลว! ฉันเคยได้ยินมาว่าผู้มีพลังสายความเร็วเป็นผู้ที่มีปฏิกิริยาการตอบสนองที่รวดเร็วที่สุดและมีร่างกายที่ยืดหยุ่นที่สุดในจักรวาล หลังจากที่ฉันได้เห็นการเคลื่อนไหวของนาย ในที่สุดฉันก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่ฉันได้ยินมามันเป็นเรื่องจริง”
ขณะเดียวกันใบหน้าของเซี่ยเฟยก็ยังคงเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมและเขาก็ไม่ได้รู้สึกมีความสุขเลยแม้แต่นิดเดียว
แม้ว่าเขาจะสามารถจู่โจมเฉินตงได้ 3 ครั้งแต่เขาก็สามารถทำได้เพียงแค่ทิ้งรอยขีดข่วนเล็ก ๆ เอาไว้บนชุดเกราะน้ำแข็งเท่านั้น หากเขายังคงจู่โจมแบบนี้ต่อไปมันอย่าว่าแต่การทำร้ายร่างกายของเฉินตงเลย เพราะเขาคงไม่สามารถเจาะทะลุการป้องกันของชุดเกราะน้ำแข็งเข้าไปได้ด้วยซ้ำ
การจู่โจมทั้งสามครั้งนั้นถือได้ว่าเป็นการจู่โจมที่สมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว ไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงว่าดาบกลเชสซิ่งไลท์ของเขายังเป็นอาวุธระดับลีเจนด์ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่สามารถฝ่าการป้องกันของชุดเกราะน้ำแข็งชุดนั้นเข้าไปได้
เขาจะต่อสู้กับคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง? การต่อสู้ในครั้งนี้มันจะยังเรียกว่าการต่อสู้ได้อยู่อีกรึเปล่า?!
แม้ว่าความเร็วและกลอุบายของเซี่ยเฟยจะช่วยให้เขาสามารถหลบหลีกและโจมตีเข้าใส่เฉินตงได้ แต่ถ้าหากว่าเขาไม่สามารถทำร้ายอีกฝ่ายได้จริง ๆ มันก็หมายความว่าการต่อสู้ในครั้งนี้เป็นการต่อสู้ที่เขาไม่มีวันได้รับชัยชนะ!
ขณะเดียวกันเมื่อเย่เสี่ยวหานเห็นเฉินตงจู่โจมเข้าใส่เซี่ยเฟย เธอก็รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเริ่มเต้นเร็วและเริ่มมีอาการเหงื่อออกจากความตื่นเต้น แต่เมื่อเซี่ยเฟยสามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของเฉินตงและจู่โจมสวนกลับไป มันก็ทำให้เธอถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
วันนี้เธอรู้สึกแปลกมากเพราะอารมณ์ของเธอแปรปรวนเหมือนกับกำลังขึ้นรถไฟเหาะ
‘ทำไมฉันถึงต้องมากังวลเรื่องของคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฉันด้วย?’
—
ในสถานที่ห่างไกลแอวริลก็กำลังใช้แขนเสื้อปาดเหงื่อที่หน้าผากพร้อมกับส่งเสียงถอนหายใจออกมายาว ๆ
‘เกือบไปแล้ว’
ปัจจุบันตุ๊กตากระต่ายหูยาวภายในมือของเธอถูกฉีกหูโยนไปไว้บนพรมที่พื้นทั้งสองข้างแล้ว แต่เด็กสาวก็ยังคงไม่หยุดและเริ่มฉีกขาของตุ๊กตากระต่ายที่โชคร้ายตัวนี้อีกครั้ง
“คุณหนู..ถ้าคุณหนูไม่ไปเรียนวิชาศิลปะคุณหนูจะโดนคุณท่านบ่นเอาได้นะคะ” แม่บ้านสูงอายุยังคงพูดจาเกลี้ยกล่อมอยู่ที่ประตูเพื่อกระตุ้นให้แอวริลไปเรียนวิชาศิลปะ
เมื่อได้ยินคำขู่เด็กสาวก็เอามือทั้งสองข้างมาปิดหูพร้อมกับส่ายหัวไปมาอย่างรุนแรง จากนั้นเธอก็ตะโกนกล่าวตอบกลับไปว่า
“ไม่ไป! ไม่ไป!! หนูจะไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าจะดูการต่อสู้ของเซี่ยเฟยจนจบ!”
ทันใดนั้นเองเด็กสาวก็ไอเดียใหม่โดยการหยิบหูฟังกันเสียงขึ้นมาจากโต๊ะ ทำให้ในตอนนี้นอกจากเสียงในทีวีแล้วเธอก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นใดอีกเลย
ในที่สุดโลกทั้งใบก็เงียบสงัดลงอีกครั้งเด็กสาวจึงส่งเสียงหัวเราะก่อนที่จะเริ่มกลับมาฉีกตุ๊กตากระต่ายภายในมือของเธอ
—
ชั่วพริบตาบนสนามประลองหมายเลข 21 ก็เกิดการปะทะกันขึ้นมาแล้วถึง 4 ครั้ง โดยในแต่ละครั้งเฉินตงจะเป็นฝ่ายเริ่มจู่โจมเข้าใส่เซี่ยเฟยก่อน แต่ทุกครั้งนักสู้จากดาวโลกจะใช้ความเร็วและกลวิธีในการหลบหนีก่อนที่จะทำการจู่โจมโต้ตอบกลับไป
จนถึงตอนนี้เฉินตงถูกเซี่ยเฟยจู่โจมเข้าไปแล้วถึง 9 ครั้ง ขณะที่เซี่ยเฟยยังไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว
อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็กำลังรู้สึกกระวนกระวายใจมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ เพราะถึงแม้ว่าเขาจะสามารถจู่โจมเข้าใส่เฉินตงได้สำเร็จ แต่เขาก็รู้ดีว่าการจู่โจมของเขาในแต่ละครั้งแทบที่จะไม่ส่งผลกระทบต่ออีกฝ่ายเลย
ทุกครั้งที่เขาหลบเลี่ยงการโจมตีจากเฉินตงเขาจะสามารถเว้นระยะห่างออกไปได้เพียงแค่เล็กน้อย คล้ายกับการเต้นระบำอยู่บนคมดาบและเอาชีวิตไปแขวนไว้บนเส้นด้าย ดังนั้นถ้าหากว่ามันเกิดความผิดพลาดขึ้นมาแม้แต่นิดเดียวการต่อสู้ในครั้งนี้ก็จะถูกยุติลงในทันที
เทคนิคเล่ห์กายาที่เขาเพิ่งได้เรียนรู้มาสามารถทำให้เขาเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนไหวได้อย่างไม่รู้จบ แต่ในขณะเดียวกันเทคนิคนี้ก็มีอัตราการบริโภคพลังงานที่สูงมากเช่นกัน เพราะการเคลื่อนไหวทุกครั้งจำเป็นจะต้องระเบิดพลังเพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการเคลื่อนไหวอย่างฉับพลัน ดังนั้นทันทีที่เขาหมดแรงเขาก็จะไม่สามารถหลบหนีการโจมตีจากเฉินตงได้อีกต่อไป
เมื่อเปรียบเทียบว่าถึงแม้เขาจะสามารถจู่โจมเข้าใส่เฉินตงได้ถึงเก้าครั้งแต่มันกลับไม่สามารถทำร้ายอีกฝ่ายได้เลยแม้แต่น้อย แต่ตราบใดที่เขาเคลื่อนไหวผิดพลาดแม้แต่เพียงครั้งเดียว มันก็อาจจะเป็นอันตรายที่ร้ายแรงจนส่งผลกระทบถึงชีวิต
“การเคลื่อนไหวของนายยืดหยุ่นดีจริง ๆ มันดูดีกว่านักสู้สายความเร็วคนอื่น ๆ ที่ฉันเคยเจอมาซะอีก การเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนไหวอย่างฉับพลันของนายเป็นการเคลื่อนไหวที่น่าเหลือเชื่อมาก ฉันว่าตอนนี้ถึงเวลาที่ฉันจะต้องแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงให้นายได้ดูบ้างแล้ว” เฉินตงชี้ใบดาบน้ำแข็งไปที่เซี่ยเฟยพร้อมกับกล่าวออกมาอย่างกล้าหาญ
ทันใดนั้นอุณหภูมิในอากาศก็ลดลงอีกครั้งและความหนาวเย็นที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ก็ทำให้ผู้คนสั่นสะท้านขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ!
พื้นดินเริ่มแข็งตัวด้วยความรวดเร็วและในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีพื้นผิวของสนามประลองก็ถูกเคลือบเอาไว้ด้วยน้ำแข็ง!
พื้นผิวน้ำแข็งที่เพิ่งเกิดขึ้นมานั้นมีความเรียบราวกับกระจก ถ้าหากว่าใครเคลื่อนไหวอย่างไม่ระมัดระวังก็อาจจะลื่นล้มได้อย่างง่ายดายและมันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องอธิบายเลยว่าการต่อสู้บนพื้นน้ำแข็งลื่น ๆ แบบนี้เป็นเรื่องที่มีความยากลำบากมากแค่ไหน
“หลังจากนี้พื้นที่ภายในม่านพลังงานจะกลายเป็นเขตแดนของฉัน หากนายต้องการที่จะท้าทายฉัน นายก็จะต้องทำตามกฎที่ฉันได้ตั้งเอาไว้” เฉินตงกล่าวออกไปอย่างเฉียบขาด
ผู้ใช้พลังสายธรรมชาติสามารถเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมให้กลายเป็นเหมือนกับเขตแดนของตัวเองได้และนี่ก็คือความน่ากลัวของผู้ที่สามารถใช้พลังของธรรมชาติ!
ความยุติธรรม?
หากต้องเผชิญหน้ากับธรรมชาติมันจะมีใครสามารถร้องเรียกความยุติธรรมให้กับเรื่องนี้ได้!
ขณะเดียวกันเซี่ยเฟยก็จ้องมองไปที่เท้าและทำการกดปุ่มบนรองเท้าทั้งสองข้างอย่างใจเย็น
ฟึบ!
วินาทีต่อมาแท่งโลหะแหลมก็โผล่ออกมาจากพื้นรองเท้าเป็นจำนวนมากและนี่ก็คือความสามารถของอุปกรณ์ในชุดวินด์ชาโดว์มาร์คโฟร์
แท่งโลหะแหลมที่พื้นรองเท้าถูกจัดเรียงโดยคำนวณเอาไว้เป็นอย่างดีเพื่อแก้ปัญหาให้ผู้ใช้พลังสายความเร็วสามารถต่อสู้บนพื้นน้ำแข็งได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ
ความยาวของแท่งโลหะแต่ละแท่งถูกออกแบบมาอย่างประณีต เพราะถ้าหากว่าพวกมันสั้นมากจนเกินไปมันก็จะส่งผลต่ออัตราการยึดเกาะ แต่ถ้าหากว่าแท่งโลหะมีความยาวมากจนเกินไปมันก็จะก่อให้เกิดปัญหาเมื่อผู้ใช้เริ่มเร่งความเร็ว
ด้วยเหตุนี้แท่งโลหะแต่ละแท่งจึงถูกออกแบบให้สามารถยืดหดความยาวได้โดยอัตโนมัติโดยปรับตามการเคลื่อนไหวของผู้ใช้
มันปฎิเสธไม่ได้เลยว่าชุดต่อสู้วินด์ชาโดว์มาร์คโฟร์มีราคาที่สูงมาก แต่ราคาที่สูงขนาดนี้ก็แลกมากับฟังก์ชั่นที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน เพราะท้ายที่สุดชุดต่อสู้วินด์ชาโดว์ก็ถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้พลังสายความเร็วโดยเฉพาะและมันยังเป็นชุดต่อสู้ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถต่อสู้ในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่นมากที่สุดอีกด้วย
“ดูเหมือนว่านายจะเตรียมตัวมาดีนี่ แต่ไม่ว่าอุปกรณ์ของนายจะดีแค่ไหนมันก็ไม่สามารถทำให้นายต่อสู้ได้เหมือนเดิมอยู่ดี ท้ายที่สุดฉันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องลดความเร็วในการเคลื่อนที่ของนายมากมายนัก เพราะถ้าหากความเร็วของนายลดลงไปซัก 10% แค่นั้นมันก็เพียงพอแล้ว” เฉินตงกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
ท้ายที่สุดในทุก ๆ การโจมตี เซี่ยเฟยก็สามารถที่จะหลบเลี่ยงไปได้เพียงแค่ไม่กี่เซนติเมตรเท่านั้น ตราบใดที่ความเร็วในการเคลื่อนที่ของเซี่ยเฟยลดลงไปเพียงแค่ 10% เขาก็น่าจะสามารถจู่โจมเข้าใส่เซี่ยเฟยได้!
“นอกจากนี้ฉันก็ยังมีไอ้นี่อยู่ด้วย!” เฉินตงตะโกนเสียงดังพร้อมกับดวงตาที่ลุกโชน
ทันทีที่เฉินตงได้กล่าวจบรองเท้าของเขาก็เปลี่ยนไป
ขณะเดียวกันรูม่านตาของเซี่ยเฟยก็ขยายขึ้นอย่างฉับพลันและหัวใจของเขาก็กำลังเต้นแรงราวกับว่ามันจะกระโดดออกมาจากหน้าอก
นับตั้งแต่ที่การประลองได้เริ่มต้นขึ้นในตอนนี้การต่อสู้เพิ่งดำเนินไปเป็นเวลา 5 นาที 17 วินาที
