เมื่อความรักระหว่างมนุษย์กับแวมไพร์มันเป็นอะไรที่ยุ่งยาก ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็พร้อมที่จะฟันฝ่าและรอคอย การรอคอยกันและกันอย่างไม่มีวันรู้ได้ พวกเขาจะสุขหรือสมหวังหรือไม่ หรือจะกี่ร้อยพันปี ก็ไม่มีใครรู้ !! เมื่อเรื่องราวแห่งการแตกดับและสูญสลาย สุดท้ายต้องวนเวียนกลับมาเจอกันอีกครั้ง รักแรก และรักสุดท้ายของพวกเขาจะลงเอยเช่นไร …. นิยายเรื่องนี้เป็นโรมานซ์ กึ่งแฟนตาซีนะคะ อิพี่หิวเก่งมากค่ะ ^^
ชาย-หญิง,แฟนตาซี,รัก,ดราม่า,ผู้ใหญ่,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
The Vampire เจ้าชายรัตติกาลเมื่อความรักระหว่างมนุษย์กับแวมไพร์มันเป็นอะไรที่ยุ่งยาก ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็พร้อมที่จะฟันฝ่าและรอคอย การรอคอยกันและกันอย่างไม่มีวันรู้ได้ พวกเขาจะสุขหรือสมหวังหรือไม่ หรือจะกี่ร้อยพันปี ก็ไม่มีใครรู้ !! เมื่อเรื่องราวแห่งการแตกดับและสูญสลาย สุดท้ายต้องวนเวียนกลับมาเจอกันอีกครั้ง รักแรก และรักสุดท้ายของพวกเขาจะลงเอยเช่นไร …. นิยายเรื่องนี้เป็นโรมานซ์ กึ่งแฟนตาซีนะคะ อิพี่หิวเก่งมากค่ะ ^^
ณ. สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า Icon of the sea เรือสำราญขนาดมหึมาที่ได้ชื่อว่า ใหญ่ที่สุดในโลก
ฟาซิน่า เด็กหญิงลูกครึ่งไทย สเปน อายุ23 ปี เธอโตมาท่ามกลางความกดดันและขัดสน ครอบครัวที่แตกแยก อุปสรรคทำให้ต้องดิ้นรน ผันตัวมาเป็นดีลเลอร์ เด็กจ่ายไพ่ประจำคาสิโน บนเรือลำนี้
ลูคัส เจ้าพ่อมาเฟียแห่งโมนาโก ผู้ที่ได้ชื่อว่ารวยติดอันดับท็อปของโลก เจ้าของอสังหาจากทั่วทุกมุมโลก ผู้ที่ไม่เคยเปิดเผยตัวตน ทว่าผู้คนต่างเห็นเขาเป็นเพียง ชายหนุ่มผู้ร่ำรวยแถมเจ้าสำราญเป็นที่สุด
แวมไพร์หนุ่มผู้มีอายุยืนยาวมากกว่า1400ปี กับรักแรกและรักสุดท้ายของเขา เรื่องราวที่ต้องพบเจออุปสรรคต่างๆนาๆ ท่ามกลางการรอคอยที่ไร้จุดหมาย เรื่องราวระหว่างทางนั้นมันช่างแสนสาหัส และจุดจบของพวกเขาจะเป็นอย่างไรนั้นก็ไม่มีใครคาดการณ์ได้
หลังจากการช่วยเหลือแอนนี่ ฟาซิน่าและลูคัสก็เริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้น ทั้งคู่เริ่มเปิดใจและเปิดเผยเรื่องราวบางส่วนให้กันและกันฟัง ลูคัสเล่าถึงการที่เขาเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและผ่านประสบการณ์มากมาย แต่ถึงอย่างไร เขาก็ยังไม่ใช่ผู้ชายที่แสนเพอร์เฟ็คอะไร
คนตัวเล็กรับฟังเขาด้วยความสนใจ ตั้งใจ เธอเผลอตัวจ้องตาเขา เมื่อเขาสบตาเธอกลับ เจ้าหล่อนถึงกับกลืนน้ำลายอย่างฝืดเผือด แม้เธอจะยังไม่เข้าใจในชีวิตของเขามากนัก แต่การสบตาเขาครั้งนี้ก็ทำเอาเจ้าหล่อนถึงกับประหม่า
“ชีวิตของคุณฟังดูซับซ้อนจังนะคะ” พูดพร้อมยิ้มให้เขาน้อยๆ
เขายิ้มตอบก่อนจะตอบเธอว่า
“ใช่ ชีวิตของผมมีเรื่องราวมากมาย แต่คุณก็ทำให้ผมรู้สึกถึงความอบอุ่นและความเป็นมนุษย์อีกครั้ง”
อึก! ฟาซิน่ากลืนน้ำลายลงคออย่างฝืด
“ความเป็นมนุษย์?” เธอหน้านิ่วคิ้วขมวด แม่จะยังคงสงสัยในใจว่าลูคัสไม่ใช่มนุษย์งั้นหรือ เจ้าหล่อนพึมพำในใจ
ก่อนที่ร่างโตจะหัวเราะหึหึ เพราะอาการตื่นตกใจของเธอ คนตัวเล็กที่เริ่มจะรู้ตัวว่ามีความรู้สึกพิเศษกับเขา มันเป็นอะไรที่บอกตัวเองไม่ถูกเหมือนกัน หรือเพราะปกติแล้วเธอไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกับผู้ชายอื่นๆ นอกจากบิดาของเธอที่เสียไปแล้วก็มีแค่คุณอาที่ใจดีที่ช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความตายเมื่อ 13 ปีก่อน เธอก็ไม่เคยจะให้ชายใดเข้าใกล้อีกเลย
แม้เธอจะยังคงสงสัยในบางสิ่ง แต่ก็เก็บงำมันเอาไว้ ไม่กล้าที่จะเอ่ยถามเขาออกไป
“คุณคิดว่าเรื่องราวที่ผ่านมา มันจบแล้วหรือยังคะ? คุณว่าจะมีคนตามทำร้ายพวกเราอยู่อีกไหม?”
คำถามมากมายที่เธอถามเขา เป็นเพราะในใจลึกๆ แล้ว เธอกลัวตัวเองและเพื่อนจะเป็นอันตราย หรือในใจลึกๆ แอบเป็นห่วงเขากันแน่
“คุณไม่ต้องกังวลไป ผมจะไม่ให้คนพวกนี้ หรือเรื่องพวกนี้มารบกวน หรือมาทำให้คุณกับเพื่อนอยู่ในอันตราย ผมสัญญา” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
ลูคัสมองที่นัยน์ตาฟาซิน่า แววตาที่มองเธอนั้นมันช่างละมุน อบอุ่นใจ เขารู้สึกคุ้นชินกับเธออย่างบอกไม่ถูก
กับอีกด้านของคนตัวเล็ก… “บ้าไปแล้ว!! ยัยฟา เธอเป็นบ้าอะไรของเธอเนี่ย” ร่างน้อยเอาแต่บ่นตัวเองในใจ เขาแค่มองแค่นี้ ทำไมต้องรู้สึกเหวงๆ แทบอยากกระอักอย่างบอกไม่ถูก
คนตัวเล็กที่ถูกเขาจ้องเอาๆ เธอก็ฝืนยิ้มตอบตาหยีเหมือนเสี้ยวพระจันทร์ มุมปากมีลักยิ้มน้อยๆ กับหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโตที่แสนน่ารัก ก็ทำเอาฝ่ายตรงข้ามแทบไม่ละสายตาด้วยเช่นกัน
ใช่ว่าเขาจะไม่เคยเจอผู้หญิงหรือเรื่องอะไรเทือกนี้ซะเมื่อไหร่ แต่ไม่ว่าอย่างไร พ่อแวมไพร์ก็ยังสงวนท่าทีอยู่ดี เขาผ่านโลกมามาก ฉะนั้นจะอ่อนไหวกับอะไรง่ายๆ ก็คงไม่ใช่ หรือเป็นเพราะเขาไม่รู้สึกอะไรกับหญิงสาวมานานแล้วนะ หรือว่าสาวน้อยคนนี้แตกต่างจากคนอื่นอย่างนั้นหรือ
เขาก็พยายามคิดหาคำตอบในใจ
….. ค่ำคืนวันต่อมา …..
ราตรีนี้ท้องฟ้าโปร่ง มองเห็นหมู่ดาวน้อยใหญ่ ผู้คนทั้งหลายต่างออกมาเดินเล่นชมดาวบนดาดฟ้าเรือ
ลูคัสนั่งจิบแชมเปญที่เลาจ์บนดาดฟ้าเรือหรู เขาแอบมองฟาซิน่ากับเพื่อนสนิทของเธอ โดยที่เจ้าหล่อนไม่รู้ตัว
คนที่กำลังงุ่มง่ามถ่ายวิวสวยจากด้านนอก เธอช่างเป็นตัวเอง
ร่าเริง ไม่สร้างภาพอะไร
ฟาซิน่าและแอนนี่เดินมาถึงเลาจ์ ทั้งสองนั่งสนทนากันอย่างออกรสออกชาติ ทันใดนั้นเองสายตาของร่างบางก็เหลือบไปเห็นลูคัสที่กำลังนั่งดื่มอยู่คนเดียว ว่าจะหลบสายตาสักหน่อยแต่เขาดันหันมามองเธอพอดีซะนี่!!
เขายกแก้วขึ้น พร้อมทำมือชูนิ้วกระดิกเข้าหาตัว ราวกับว่าเป็นการเชิญชวนให้เธอและเพื่อนไปจอยด้วยกันที่นั่น และผายมือว่าที่นั่งข้างๆ ยังว่างอยู่
ยังไม่ทันที่ฟาซิน่าจะเอ่ยถามแอนนี่ตัวแสบ เจ้าเพื่อนร้ายก็ดึงทึ้งมือเรียวเล็กของเธอไปที่โต๊ะของเขาซะแล้ว
“นั่งสิ พวกคุณอยากดื่มอะไร? เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง”
แอนนี่: “ได้หมดค่ะ”
ฟาซิน่า: “ไม่ดื่มค่ะ!!”
ทั้งคู่ตอบพร้อมกัน แต่คนละประโยค สิ้นเสียงของสองสาวก็ทำเอาคนทั้งสามต่างหัวเราะ
“แล้วผมควรจะเชื่อใครครับเนี่ย!!”
ลูคัสยิ้ม เขายังคงเป็นผู้ชายยิ้มน้อยๆ แต่ดูอบอุ่น ปกติแล้วเขาแทบจะไม่คุยกับผู้หญิง ยกเว้นก็ตั้งแต่เจอแม่สาวน้อยคนนี้ นี่เขาเป็นเสือผู้หญิงจริงหรอเนี่ย ดูท่าทางไม่ใช่เลย มันช่างขัดกับสิ่งที่เธอได้ยินได้ฟังมา และแล้วปากหนาก็พูดขึ้น
“งั้นผมสั่งให้ละกัน”
เมื่อคนตัวโตสั่งเครื่องดื่มเบาๆให้กับหญิงสาวทั้งคู่ คนทั้งสามก็นั่งคุยกัน หัวเราะคุยออกอกรสอย่างมีความสุข แลกเปลี่ยนมุมมองชีวิตซึ่งกันและกัน แอนนี่สังเกตเห็นความเคอะเขินของเพื่อนรักกับคนตัวใหญ่ ทั้งคู่ดูเก้ๆ กังๆ เล็กน้อย เธอรู้ว่าฟาซิน่าไม่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับผู้ชาย นอกจากงานและคุณยาย เธอแทบจะไม่รู้จักผู้ชายคนไหนเสียด้วยซ้ำ ถึงอย่างนั้นแอนนี่ก็ยังอยากให้เพื่อนได้รู้จักผู้ชายบ้าง
แม้ลูคัสจะมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในทางที่ไม่ค่อยดีก็ตาม
คนตัวสูงหัวเราะเบา ๆ ขณะแอบอ่านใจแอนนี่ นั่นยิ่งทำให้เธอคิ้วขมวดก่อนจะคิดในใจ “รู้ว่าฉันคิดอะไรหรือยังไง?”
เวลาผ่านไปได้สักพักแอนนี่ก็ขอตัวไปหาแฟนหนุ่ม เพราะเธอมีนัดกับเขา และตอนนี้เองที่ฟาซิน่าก็ต้องจำยอมนั่งอยู่กับพ่อเทพบุตรสุดหล่อกันสองคน ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในแผนร้ายของแอนนี่ตัวแสบด้วยเช่นกัน เธอต้องการให้เพื่อนรักได้รู้จักกับลูคัสมากขึ้น
“สบายๆ นะครับ ไม่ต้องเกร็ง ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก” ลูคัสพูดขณะมองฟาซิน่าที่เอาแต่นั่งตัวเกร็ง มือเรียวเล็กที่เขาลอบมองอยู่นั้นเจ้าหล่อนแอบบีบมือตัวเองเบาๆ
“จริงๆ แล้วคุณจะเรียกฉันว่าฟาก็ได้นะคะ” คนตัวเล็กที่พยายามหาเรื่องคุยเพื่อไม่ให้บรรยากาศมันเงียบจนเกินไป
“ได้สิครับคุณฟา” เขาพยักหน้าตอบ
“แล้วคืนนี้คุณมีธุระที่ไหนไหม?”
เจ้าหล่อนเผลอตอบอย่างรวดเร็ว
“ไม่มีค่ะ” แต่แล้วเธอก็รู้ตัวว่าตัวเองพูดไปโดยไม่คิดและเริ่มรู้สึกบ่นตัวเองในใจ จะปากเร็วเกินไปละนะ บ้าจริง!!
“งั้นดีเลย คืนนี้เดี๋ยวผมจ้างคุณมาเป็นผู้ช่วย”
“ คะ? ผู้ช่วย?”
ยังไม่ทันที่คนตัวเล็กจะได้ถามต่อ ลูคัสก็ดึงมือเธอไปยังอีกฝั่งของเรือ สถานที่ตรงนี้มีวิวสวยมาก สามารถมองออกไปยังมหาสมุทรแบบ 360 องศาเลยก็ว่าได้
“มีมุมแบบนี้บนเรือด้วยหรอคะ?” เธอตะลึงและทึ่งกับความงามและความโอ่อ่า
ขณะร่างน้อยกำลังสำรวจเรืออย่างตื่นเต้น ความงามจากภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้เธอไม่ทันระวัง และเผลอเดินชนกับอกกว้างของลูคัสเข้า
“ อุ๊ย!!”
ทันทีที่ร่างบางชนเข้ากับอกหนา เขาก็จับเอวบางคอดของเธอไว้ และจ้องตาคนตัวเล็กอย่างนิ่งเงียบ
“ คือ… ฉัน !”
“งานอะไรคะที่จะให้ฉันช่วย?” ก่อนที่เธอจะถามเสียงอ่อยเพื่อเลี่ยงมือหนาและการสบตาของเขานั่น
“เดินชมเรือ อยู่เป็นเพื่อนผม…”
“ หา!! อะไรนะคะ ? งานเดินชมเรือ? ”
ซึ่งมันก็แค่ชมเรือจริงๆนั่นแหละ ทั้งคู่ที่ได้เริ่มทำความรู้จักกันมากยิ่งขึ้น ก่อนที่คืนนี้ร่างเล็กต้องขอตัวเพราะมันค่อนข้างดึกมากแล้ว
วันต่อมา
ท่าเรือ Santa Monica Pier สหรัฐอเมริกา
เรือจอดให้ผู้โดยสารขึ้นฝั่งเป็นเวลา 10 วัน ทำให้ลูคัสแทบไม่ได้เจอฟาซิน่าอีกเลย เขาใจจดใจจ่อที่จะได้เจอเธออีกครั้ง
ขณะทำธุระในเมือง พายุหิมะตกหนัก ทำให้ถนนหลายสายถูกปิด รถหลายคันชนกันระเนระนาด ลูคัสที่กำลังนั่งอยู่บนรถยนต์คันหรู โรลส์-รอยซ์ สีดำเงา จู่ๆเขาสังเกตเห็นร่างของใครบางคนนอนจมกองหิมะ
“หยุดรถ!!” เขาตะโกนสั่งคนขับเสียงดังลั่น ก่อนรีบวิ่งไปอุ้มฟาซิน่าที่ยังนอนแน่นิ่งไม่รู้สึกตัวขึ้นมาจากกองหิมะ
อามัสไม่แปลกใจที่นายจะรู้ได้ว่านี่คือเธอ ก็เขาทำงานรับใช้นายมาหลายร้อยปีแล้วเช่นกัน
คนตัวโตจัดแจงให้เธอนั่งบนตักและพยายามให้ความอบอุ่นกับเธออย่างที่สุดระหว่างทางไปโรงพยาบาล
Bluvazs Hospital ขณะนั้นลูคัสรู้สึกถึงอารมณ์ที่ไม่คงทนและสิ่งที่คาดคิดก็เกิดขึ้น เนื่องจากตัวนิ่มนุ่มของเจ้าหล่อนที่มาแตะต้องน้องชายของเขา ทำให้คนตัวโตต้องฝืนและพยายามควบคุมลมหายใจเพื่อสงบสติอารมณ์ ก็ก้นนุ่มของเจ้าหล่อนที่มาถูไถในระหว่างที่รถโยกย้าย มันก็ทำเอาเจ้าแก่นกายชายแท้ถึงกับต้องขึงขัง
“ บ้าจริง !!”
จากนั้นเขาก็ค่อยวางฟาซิน่าไว้ข้างๆ และพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองก่อนจะถึงโรงพยาบาล…