“เมื่อ ‘ปราชญ์’ ถูกจับคลุมถุงชนกับ ‘จิรัช’ ชายหนุ่มที่ทั้งหยิ่งและไม่ยอมใคร ปราชญ์หวังหนีงานแต่ง แต่ทุกเส้นทางกลับมาบีบคั้นให้เขาต้องจำใจแต่งงานกับคนที่ใจไม่รัก คำพูดทำร้ายกันกลายเป็นเกมอันเจ็บปวด แต่ไฟที่ลุกโชนในใจของปราชญ์กับระเบิดอันทรงพลังของจิรัชจะนำพาพวกเขาไปสู่การเผชิญหน้าและค้นพบความรักที่ยิ่งใหญ่ แม้ในความเกลียดชัง จะมีรักซ่อนอยู่ในหัวใจหรือไม่? ร่วมติดตามการเดินทางของทั้งสองในนิยายที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความเข้มข้นนี้…”

อกเกือบหักตกหลุมรักเมียแต่ง |BOZHAN - 3 ผมต้องการข้าวเที่ยง โดย ศิษย์ก้นกุฏิเซียวเซียนเซิง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ดราม่า,รัก,สะท้อนปัญหาสังคม,ครอบครัว,ปากร้าย,พล็อตสร้างกระแส,พระเอกโบ้,ชาย-ชาย,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

อกเกือบหักตกหลุมรักเมียแต่ง |BOZHAN

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ดราม่า,รัก,สะท้อนปัญหาสังคม,ครอบครัว

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ปากร้าย,พล็อตสร้างกระแส,พระเอกโบ้,ชาย-ชาย,ดราม่า

รายละเอียด

“เมื่อ ‘ปราชญ์’ ถูกจับคลุมถุงชนกับ ‘จิรัช’ ชายหนุ่มที่ทั้งหยิ่งและไม่ยอมใคร ปราชญ์หวังหนีงานแต่ง แต่ทุกเส้นทางกลับมาบีบคั้นให้เขาต้องจำใจแต่งงานกับคนที่ใจไม่รัก คำพูดทำร้ายกันกลายเป็นเกมอันเจ็บปวด แต่ไฟที่ลุกโชนในใจของปราชญ์กับระเบิดอันทรงพลังของจิรัชจะนำพาพวกเขาไปสู่การเผชิญหน้าและค้นพบความรักที่ยิ่งใหญ่ แม้ในความเกลียดชัง จะมีรักซ่อนอยู่ในหัวใจหรือไม่? ร่วมติดตามการเดินทางของทั้งสองในนิยายที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความเข้มข้นนี้…”

ผู้แต่ง

ศิษย์ก้นกุฏิเซียวเซียนเซิง

เรื่องย่อ


เมื่อตระกูลใหญ่อย่าง กิตติเมธานนท์ และตระกูล บรมราชันย์วัฒนา 2 ขั้วมหาอำนาจอันเนื่องเป็นพันธมิตรกันมามากกว่า 99 ปี 2 ตระกูลเก่าแก่และเป็นที่น่านับถือ


แล้ววันนี้ก็ครบรอบ10ทศวรรษ ที่ 2 ตระกูลนั้นยังแน่นแฟ้นดั่งพี่น้องเช่นเคย วันนี้เป็นที่ดีอีกวัน ที่ทั้งสองตระกูลได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน ทองเป็นนี้ยาวนานถึง100ปี ....




แต่แล้วลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูล บรมราชันย์วัฒนา อย่าง ปราชญ์หายหัวไปจากงานแต่งนานกว่าครึ่งชั่วโมง นักข่าวเริ่มฮือฮา ว่าเจ้าบ่าวหนีงานแต่ง ส่วนเจ้าสาวอย่าง จิรัช ที่เกือบเป็นหม้ายขันหมาก คนตัวเล็กนั่งนิ่งเพื่อรอพิธีต่อไปอย่างใจเย็น


สุดท้ายแล้วทางญาติผู้ใหญ่ ก็ลากหัวของเจ้าบ่าวจำเป็นมาเข้าพิธีได้ ทุกอย่างเสร็จสมบรูณ์อย่างตามคาดการณ์ ข่าวนี้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ถึงกับขึ้นข่าวดังของช่องข่าวหลายช่องเลยทีเดียว






แนะนำตัวละครหลัก




ชื่อ ปรมัตถ์ บรมราชันย์วัฒนา

ชื่อเล่น ปราชญ์                      

อายุ 32 ปี                              



ผมไม่อยากรู้ที่ครอบครัวของคุณยัดเยียดคุณให้กับผมด้วยสัญญาร้อยปีอะไรนั่น ตอนนี้คุณควรรู้ใว้ว่า คุณก็เป็นแค่เมียบำเรอของผมแค่นั้นหล่ะ นอนกอดทะเบียนสมรสใว้เเน่นๆ ล่ะ อย่าหวังว่าจะได้ความรักจากผมเลย









ชื่อ เจนจิรา กิตติเมธานนท์

ชื่อเล่น จิรัช                        

อายุ 28 ปี                              



ถ้าคุณคิดว่าฉันมีค่าแค่เมียบำเรอ ฉันก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่หย่าหลังจากผมคลอดลูกให้คุณ การแต่งงานไม่ใช่แค่กระดาษที่กอดไว้ แต่คือความเคารพและคุณค่าที่คู่ควร ฉันไม่จำเป็นต้องรอความรักจากคนที่ไม่เห็นค่า







⚠️คำเตือน⚠️

นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง ตัวละครและสถานที่ในเรื่องไม่มีอยู่จริง และไม่มีเจตนาในการทำให้อาชีพหรือบุคคลใดเสื่อมเสีย เนื้อเรื่องมีคำหยาบและศัพท์วัยรุ่นมากมาย อาจไม่เหมาะสมสำหรับผู้อ่านที่อายุต่ำกว่า 18 ปี กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่าน






สารบัญ

อกเกือบหักตกหลุมรักเมียแต่ง |BOZHAN-1 เข้าหอ,อกเกือบหักตกหลุมรักเมียแต่ง |BOZHAN-2 หายไปไหนแต่เช้า?,อกเกือบหักตกหลุมรักเมียแต่ง |BOZHAN-3 ผมต้องการข้าวเที่ยง,อกเกือบหักตกหลุมรักเมียแต่ง |BOZHAN-4 เธอ เขา เรา ฉัน?,อกเกือบหักตกหลุมรักเมียแต่ง |BOZHAN-5 ฮันนีมูน

เนื้อหา

3 ผมต้องการข้าวเที่ยง


ปราชญ์มุ่งหน้าไปทำงานในเช้าวันนั้นพร้อมกับความหิวที่ยังคงตามหลอกหลอน เขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าแม้แต่กาแฟก็ยังไม่ได้ตกถึงท้อง เพราะมัวแต่รีบร้อนไปทำงาน เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็เริ่มหัวเสียมากขึ้นเพราะเลขาของเขาลาหยุดในวันนี้ ถ้าเขาจะออกไปหาอะไรกินระหว่างเวลางาน คงเสียหน้าประธานบริษัทอย่างเขาอย่างแน่นอน ทางเลือกเดียวคืออดทนรอจนถึงมื้อเที่ยง


มื้อเที่ยงนี้จะหามาจากไหน? แน่นอนว่าคนที่ต้องจัดเตรียมให้ย่อมต้องเป็นจิรัช เขาคิดพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรไปหาภรรยา


"ยังไม่ได้ทานข้าวเช้าเลย แล้วเที่ยงนี้ฉันต้องกินอะไรล่ะ? เธอจัดการให้หน่อย ฉันต้องการข้าวเที่ยงวันนี้ที่บริษัท" ปราชญ์บ่นออกไปด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ จิรัชอีกฝั่งหนึ่งของสายทำงานอยู่ที่ร้านขนมหวาน มีลูกค้าเข้ามาอย่างไม่ขาดสายจนเขาแทบไม่มีเวลาจะพัก


"วันนี้ที่ร้านยุ่งมาก ไม่มีทางที่ฉันจะออกไปส่งข้าวได้ คุณสั่งเดลิเวอรี่เอาเถอะ" จิรัชตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เบื่อหน่าย ความวุ่นวายในร้านทำให้เขาไม่อยากจะเสวนากับปราชญ์มากนัก


แต่ปราชญ์ก็ไม่ยอม "ไม่ เดลิเวอรี่อะไรทั้งนั้น เธอเป็นภรรยาฉัน ยังไงเธอก็ต้องเป็นคนส่งข้าวมาให้ฉันกินตอนเที่ยงนี้!"


จิรัชที่เหนื่อยล้าจากการทำงานและการเถียงกับสามีขี้เอาแต่ใจ จึงตัดใจยอม "ก็ได้ ๆ ฉันจะทำอาหารแล้วส่งไปให้ แต่ขอให้มันจบแค่นี้นะ"


หลังจากวางสาย จิรัชตั้งใจทำอาหารอย่างขะมักเขม้น เขาตัดสินใจทำข้าวผัดอเมริกันและพิซซ่าฮาวายเอี้ยนง่ายๆ แต่ตั้งใจให้มันอร่อยที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการของปราชญ์ เขาห่ออาหารลงกล่องอย่างประณีต และรีบขับรถไปที่บริษัทของสามี


เมื่อจิรัชมาถึงสำนักงาน เขาเดินตรงไปยังห้องผู้บริหาร แต่เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไป เขากลับพบกับภาพที่ทำให้หัวใจเขาตกลงไปในตาตุ่ม ปราชญ์นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน พร้อมกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ชื่อว่าเชอรี่ คู่ขาเก่าของเขา ทั้งสองนั่งทานซูชิระดับพรีเมียมและหัวเราะกันอย่างมีความสุข เสียงหัวเราะเบาๆ ของเชอรี่ผสมกับคำพูดหยอกเย้าของปราชญ์สร้างความรู้สึกขมขื่นในใจของจิรัชขึ้นมา


จิรัชหยุดก้าวเดินทันที เขาไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปในห้องนั้น ภาพนั้นทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองไม่ควรอยู่ในสถานการณ์นี้ เขาหันหลังและเดินถอยออกมาอย่างเงียบๆ ก่อนที่จะเจอพนักงานคนหนึ่งที่เดินผ่านมา


“คุณมาที่นี่ได้ยังไงคะ?” พนักงานคนนั้นถามด้วยความสงสัย จิรัชพยายามระงับอารมณ์และตอบกลับเบาๆ ว่า “ผมแค่คนส่งของครับ ผมมาส่งอาหารให้ท่านประธาน” จากนั้นเขาก็ขอร้องให้พนักงานคนนั้นนำกล่องอาหารไปให้ปราชญ์แทนเขา


เมื่อเขากลับมาถึงร้านขนมหวาน เขาคิดว่าทุกอย่างคงจบแล้ว แต่ปราชญ์กลับโทรมาต่อว่าเขาด้วยน้ำเสียงโมโห “ทำไมเธอไม่เอาข้าวมาให้ฉันเอง ทำไมต้องส่งให้คนอื่นเอาไปส่งทอดๆ แบบนี้!”


จิรัชระบายลมหายใจยาว ก่อนตอบเสียงเย็นๆ “ฉันไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของคุณ แค่นั้นเอง” ปราชญ์นิ่งเงียบไปสักพัก แต่แล้วเขาก็พูดบางอย่างออกมาที่ทำให้จิรัชรู้สึกสะเทือนใจ


“คืนนี้ฉันจะไม่กลับบ้านนะ ไม่ต้องรอ ไม่ต้องทำข้าวไว้ด้วย ฉันจะไปนอนที่อื่นกับเพื่อน”


เสียงวางสายดังขึ้นทันทีหลังจากนั้น ปราชญ์ไม่ได้ให้โอกาสจิรัชตอบอะไรอีกแม้แต่น้อย จิรัชยืนเงียบอยู่กับโทรศัพท์ในมือ ความรู้สึกของเขา

ถูกทิ้งไว้ในความว่างเปล่า