“เมื่อ ‘ปราชญ์’ ถูกจับคลุมถุงชนกับ ‘จิรัช’ ชายหนุ่มที่ทั้งหยิ่งและไม่ยอมใคร ปราชญ์หวังหนีงานแต่ง แต่ทุกเส้นทางกลับมาบีบคั้นให้เขาต้องจำใจแต่งงานกับคนที่ใจไม่รัก คำพูดทำร้ายกันกลายเป็นเกมอันเจ็บปวด แต่ไฟที่ลุกโชนในใจของปราชญ์กับระเบิดอันทรงพลังของจิรัชจะนำพาพวกเขาไปสู่การเผชิญหน้าและค้นพบความรักที่ยิ่งใหญ่ แม้ในความเกลียดชัง จะมีรักซ่อนอยู่ในหัวใจหรือไม่? ร่วมติดตามการเดินทางของทั้งสองในนิยายที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความเข้มข้นนี้…”
ชาย-ชาย,ดราม่า,รัก,สะท้อนปัญหาสังคม,ครอบครัว,ปากร้าย,พล็อตสร้างกระแส,พระเอกโบ้,ชาย-ชาย,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
อกเกือบหักตกหลุมรักเมียแต่ง |BOZHAN“เมื่อ ‘ปราชญ์’ ถูกจับคลุมถุงชนกับ ‘จิรัช’ ชายหนุ่มที่ทั้งหยิ่งและไม่ยอมใคร ปราชญ์หวังหนีงานแต่ง แต่ทุกเส้นทางกลับมาบีบคั้นให้เขาต้องจำใจแต่งงานกับคนที่ใจไม่รัก คำพูดทำร้ายกันกลายเป็นเกมอันเจ็บปวด แต่ไฟที่ลุกโชนในใจของปราชญ์กับระเบิดอันทรงพลังของจิรัชจะนำพาพวกเขาไปสู่การเผชิญหน้าและค้นพบความรักที่ยิ่งใหญ่ แม้ในความเกลียดชัง จะมีรักซ่อนอยู่ในหัวใจหรือไม่? ร่วมติดตามการเดินทางของทั้งสองในนิยายที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความเข้มข้นนี้…”
เมื่อตระกูลใหญ่อย่าง กิตติเมธานนท์ และตระกูล บรมราชันย์วัฒนา 2 ขั้วมหาอำนาจอันเนื่องเป็นพันธมิตรกันมามากกว่า 99 ปี 2 ตระกูลเก่าแก่และเป็นที่น่านับถือ
แล้ววันนี้ก็ครบรอบ10ทศวรรษ ที่ 2 ตระกูลนั้นยังแน่นแฟ้นดั่งพี่น้องเช่นเคย วันนี้เป็นที่ดีอีกวัน ที่ทั้งสองตระกูลได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน ทองเป็นนี้ยาวนานถึง100ปี ....
แต่แล้วลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูล บรมราชันย์วัฒนา อย่าง ปราชญ์หายหัวไปจากงานแต่งนานกว่าครึ่งชั่วโมง นักข่าวเริ่มฮือฮา ว่าเจ้าบ่าวหนีงานแต่ง ส่วนเจ้าสาวอย่าง จิรัช ที่เกือบเป็นหม้ายขันหมาก คนตัวเล็กนั่งนิ่งเพื่อรอพิธีต่อไปอย่างใจเย็น
สุดท้ายแล้วทางญาติผู้ใหญ่ ก็ลากหัวของเจ้าบ่าวจำเป็นมาเข้าพิธีได้ ทุกอย่างเสร็จสมบรูณ์อย่างตามคาดการณ์ ข่าวนี้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ถึงกับขึ้นข่าวดังของช่องข่าวหลายช่องเลยทีเดียว
แนะนำตัวละครหลัก
ชื่อ ปรมัตถ์ บรมราชันย์วัฒนา
ชื่อเล่น ปราชญ์
อายุ 32 ปี
ผมไม่อยากรู้ที่ครอบครัวของคุณยัดเยียดคุณให้กับผมด้วยสัญญาร้อยปีอะไรนั่น ตอนนี้คุณควรรู้ใว้ว่า คุณก็เป็นแค่เมียบำเรอของผมแค่นั้นหล่ะ นอนกอดทะเบียนสมรสใว้เเน่นๆ ล่ะ อย่าหวังว่าจะได้ความรักจากผมเลย
ชื่อ เจนจิรา กิตติเมธานนท์
ชื่อเล่น จิรัช
อายุ 28 ปี
ถ้าคุณคิดว่าฉันมีค่าแค่เมียบำเรอ ฉันก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่หย่าหลังจากผมคลอดลูกให้คุณ การแต่งงานไม่ใช่แค่กระดาษที่กอดไว้ แต่คือความเคารพและคุณค่าที่คู่ควร ฉันไม่จำเป็นต้องรอความรักจากคนที่ไม่เห็นค่า
⚠️คำเตือน⚠️
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง ตัวละครและสถานที่ในเรื่องไม่มีอยู่จริง และไม่มีเจตนาในการทำให้อาชีพหรือบุคคลใดเสื่อมเสีย เนื้อเรื่องมีคำหยาบและศัพท์วัยรุ่นมากมาย อาจไม่เหมาะสมสำหรับผู้อ่านที่อายุต่ำกว่า 18 ปี กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เสียงช่างวางสายดังขึ้นเมื่อปลายสายถูกตัดขาดไปอย่างรวดเร็ว ปราชญ์ไม่ให้โอกาสจิรัชได้พูดอะไรต่อ ความเงียบที่ตามมาทำให้จิรัชรู้สึกถูกทอดทิ้งอีกครั้ง
เขายืนมองโทรศัพท์ในมือด้วยความรู้สึกปวดร้าว หัวใจของเขาเหมือนถูกทิ้งไว้ในความว่างเปล่า ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับปราชญ์ที่เคยมีนั้นดูเหมือนจะค่อยๆ เลือนหายไปอย่างช้าๆ
หลังจากวันนั้น ปราชญ์แทบจะไม่กลับบ้านเลย แต่ละครั้งเขาจะอ้างว่าติดประชุมด่วนหรือมีงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อน จิรัชพยายามทำใจและหันไปโฟกัสกับงานที่ร้านขนมหวานของตัวเอง แต่ในใจก็เริ่มเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมของสามีตัวเอง ความรู้สึกเหนื่อยล้าสะสมเพิ่มขึ้นทุกวัน
เขารู้ว่าการมีชีวิตคู่ที่เต็มไปด้วยความเฉยชาคงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะยากขนาดนี้
สองสัปดาห์ผ่านไป จิรัชได้รับโทรศัพท์จากแม่สามี เชิญเขาและปราชญ์ไปทานข้าวเย็นที่บ้านใหญ่ ซึ่งเป็นโอกาสที่เขาจะได้เจอหน้าปราชญ์อีกครั้งในรอบสองสัปดาห์ แต่เมื่อได้เจอกันที่บ้านใหญ่
ความเงียบกลับยิ่งทำให้จิรัชรู้สึกห่างเหินมากขึ้น ปราชญ์แทบไม่พูดคุยอะไรกับเขาเลย ทั้งสองทำเหมือนคืนวันเข้าหอไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ราวกับว่าเขาเป็นแค่คนแปลกหน้าที่บังเอิญมาใช้ชีวิตร่วมกัน
จิรัชพยายามไม่ใส่ใจกับท่าทีของปราชญ์ แต่ความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ภายในไม่อาจปกปิดได้ และแล้ววันหนึ่งเชอรี่ คู่ขาเก่าของปราชญ์ ก็ปรากฏตัวขึ้นที่เรือนหอที่จิรัชและปราชญ์อาศัยอยู่ร่วมกัน
เชอรี่นั่งรอปราชญ์อยู่ในบ้านราวกับเป็นเจ้าของบ้านคนหนึ่ง ทำให้จิรัชรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก แต่เขากลับเลือกที่จะไม่พูดอะไร เขาไม่อยากทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก
เชอรี่ยังมีความกล้าขอให้จิรัชไปพักที่โรงแรมคนเดียวในคืนนี้ เพราะเธอต้องการพักผ่อนกับปราชญ์ที่บ้านหลังนี้สองคน ความอึดอัดที่สะสมมานานระเบิดออกมาทันที เมื่อเชอรี่ยัดเงินห้าใบแบงค์เทาใส่มือเขา
เหมือนกับใช้เงินฟาดหัวเพื่อให้เขายอมถอยออกไป ความรู้สึกที่ถูกดูหมิ่นอย่างหนักทำให้จิรัชต้องพูดออกมาตรงๆ ว่าเขาไม่สบายใจกับการกระทำของเชอรี่
แต่ถึงอย่างนั้น ปราชญ์ก็ยังนิ่งเงียบ ไม่พูดอะไรหรือแสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย จิรัชมองใบหน้าของสามีด้วยความสงสัยว่าเขาคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่เคยแสดงออกถึงความรู้สึกของตัวเองเลย
สถานการณ์นี้ดำเนินมาแล้วสามวันเต็มๆ เชอรี่ใช้ชีวิตอยู่ในเรือนหออย่างสบายใจ ทั้งกิน ทั้งนอน และทำกิจกรรมกับปราชญ์ราวกับว่าบ้านหลังนี้เป็นของเธอโดยสมบูรณ์ จิรัชรู้สึกเหมือนเป็นคนนอกในบ้านของตัวเอง
เขาเริ่มสับสนว่าควรทำอย่างไรต่อไป ควรเผชิญหน้ากับเชอรี่อย่างตรงไปตรงมา หรือควรเป็นฝ่ายที่ถอยออกจากชีวิตของปราชญ์เสียเอง
ความคิดนี้หมุนวนในใจของจิรัชอยู่ตลอดเวลา เขารู้ว่าความสัมพันธ์นี้อาจจะไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว แต่เขายังไม่อยากยอมแพ้ในทันที ทว่าเมื่อมองเห็นท่าทีของปราชญ์ที่ไม่สนใจเขาเลย
จิรัชก็เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า ความรักครั้งนี้มันคุ้มค่าที่จะต่อสู้หรือไม่ หรือว่ามันถึงเวลาที่เขาควรจะต้องตัดสินใจอะไรสักอย่างเพื่ออนาคของตัวเอง...