ปรายลดา หญิงสาวธรรมดาๆคนหนึ่ง เป็นตัวของตัวเอง รักแรกของเธอ ก็เจอคนเห็นแก่ตัวเสียแล้ว เอายังไงกับรักแรกดี ให้อภัยดีไหม แต่เขาก็ร้ายเหลือเกิน
รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ไทย,อื่นๆ,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)ปรายลดา หญิงสาวธรรมดาๆคนหนึ่ง เป็นตัวของตัวเอง รักแรกของเธอ ก็เจอคนเห็นแก่ตัวเสียแล้ว เอายังไงกับรักแรกดี ให้อภัยดีไหม แต่เขาก็ร้ายเหลือเกิน
เสียงโทรศัพท์นางกรกนกดังขึ้น โทรมาเวลามืดค่ำแบบนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากลูกสาวคนโตของนาง
"สวัสดีค่ะแม่ ปราณลดา หรือปราณ วีดีโอคอลมาหาแม่ พ่อไม่อยู่เหรอคะแม่"
"อยู่จ๊ะลูก พวกเรากำลังกินข้าวเย็น วันนี้มีป้าดุจเดือนลูกชาย และลูกสาว มาเยี่ยมเราที่บ้านจ๊ะ มาพร้อมน้องปรายเมื่อบ่ายนี้เอง สวัสดีป้าดุจเดือนหน่อยนะ" นางหันกล้องโทรศัพท์ไปทางนายอลงกต และนางดุจเดือน ไล่ไปจนถึงปรายลดา
"สวัสดีค่ะพ่อ คุณป้าดุจเดือน พี่ตะวัน น้องกาน สวัสดีทุกคนนะคะ" ปราณลดายกมือไหว้ทุกคน
"มีอะไรหรือเปล่าลูก วันนี้โทรมาแต่วันเลยปกติจะค่ำกว่านี้ ข่าวดีไหม" นางกรกนกพูดยิ้มๆ
"ค่ะแม่ เดือนหน้าหน้าพี่ธานินทร์ได้วันลาหลายวัน ตรงกับโรงเรียนปราณปิดเทอมพอดี เราคุยกันว่าจะขึ้นไปหาพ่อกับแม่ที่บ้านค่ะ พี่ธานินทร์ อยากได้ฤกษ์แต่งแล้วค่ะแม่" เสียงลูกสาวนางบอกมาอย่างมีความสุข ซึ่งทุกๆคนได้ยินกันหมด
"ไชโย.....พี่ปราณจะได้แต่งงานแล้ว พ่อขา แม่ขา ปรายจะได้อุ้มหลานแล้วใช่ไหมคะ" ปรายลดายกมือปิดปากตัวเอง เมื่อรู้สึกตัวว่า เสียงดังเกินไป เธอลืมไปว่ามีแขก "เอ่อ...ปรายขอโทษค่ะ" หญิงสาวยกมือไหว้ ก่อนที่จะหันไปหากานดารา แล้วยิ้มให้ กระซิบเบาๆว่า "ฉันลืมตัว"
"ได้เลยลูก แม่กับทุกคนรอลูกนะ มาวันไหน เวลาเท่าไหร่ก็แจ้งมา เดี๋ยวแม่ให้น้องปรายไปรับที่สนามบิน น้องมาอยู่หลายวันลูก เปิดเทอมโน้นถึงจะกลับไปทีเดียว" นางกรกนกปิดเสียงโทรศัพท์เลี่ยงไปคุยกับลูกสาวคนโต "ได้เลยยังไงแม่ก็ตามใจน้องอยู่แล้ว ปราณไม่ต้องห่วงนะ งั้นเท่านี้นะลูก แม่รักลูกนะ"
"แหม...เป็นข่าวดีที่สุดเลยค่ะพี่เดือน กรลุ้นนานมาก กว่ายายปราณจะตกลงแต่งงาน พ่อธานินทร์เขาก็อายุมากแล้ว อยากจะแต่งตั้งนาน ทางเราก็อยากเห็นหลาน ญาติทางผู้ชายเขาก็ลุ้น แต่ก็ไม่อยากบังคับลูกค่ะ ปล่อยให้เขาตัดสินใจกันเอง ยายปราณ 27 พ่อธานินทร์ก็ 35 เข้าไปแล้ว แต่งไปก็ต้องมีลูกเลย เดี๋ยวไม่ทันใช้ อีกอย่างยายกรกนกเนี้ย แก่ลงทุกวันเดี๋ยวจะไม่มีแรงเลี้ยงหลาน "
"แหม...แม่ก็ อย่างกับทางโน้นเขาจะยอมให้เรามาเลี้ยง ถ้าลูกแต่งงาน มีหลานจริงๆ ก็เป็นหลานคนแรกของทางโน้นเขาเหมือนกัน พ่อว่าอย่าเพิ่งหวังนะ เดี๋ยวจะผิดหวัง" นายอลงกตแซวภรรยา
"คนเป็นพ่อ เป็นแม่ก็แบบนี้ล่ะค่ะ อยากเห็นลูกมีครอบครัว เป็นฝั่งเป็นฝา อยากอุ้มหลานเป็นเรื่องปกติ แต่เรื่องพวกนี้ก็ต้องแล้วแต่เขาค่ะ เราไปจัดการไม่ได้หรอก ต้องให้เขาคิดกันเอง แต่ยังไงพี่ก็ดีใจด้วยนะคะ ลูกสาวคนโตจะได้เป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว" นางดุจเดือนเอ่ยขึ้น
"ใช่ค่ะ เราคนเป็นพ่อแม่ ก็หวังว่าอย่างนั้น อยากให้ลูกมีครอบครัวที่ดี ได้คู่ชีวิตที่ดี"
ไพี่เดือนพักอยู่กับเรานานๆนะครับ กรมีเพื่อนจะได้พักบ้าง ที่ต้องออกไปทำงานเพราะเหงา รอน้องปรายเรียนจบ ค่อยว่ากันอีกทีนะ ว่าจะมาอยู่เป็นเพื่อนแม่ กับพ่อ หรือว่าจะไปทำงานก่อนสักระยะ" นายอลงกตมองไปที่ลูกสาวคนเล็ก "พ่อไม่ได้กดดันน้องปรายนะลูก" เขาพูดและหัวเราะเสียงดัง
ไม่รู้หรอกว่าจริงๆ พ่อกับแม่เธอหมายความว่ายังไง ตอนนี้เงียบไว้ดีที่สุด หญิงสาวก้มหน้าก้มตากินข้าว แกล้งคุยกันกานดารา เธอคิดถูกหรือคิดผิดนะที่อยากมาอยู่บ้านนานๆ ดีที่พี่สาวเธอจะแต่งงานแลัว เธอก็รอดไป
"ปรายแล้วเธอต้องไปฝึกงานกี่เดือน ต้องฝึกแบบไหนบ้าง กานอยากรู้"
"หลักๆ ก็ฝึกลาดตระเวน หนึ่งเดือน ไม่แน่อาจจะทองภาภูมิ ถึงแก่งกระจาน ฤดูฝน ตามกำหนดการ อีกสองเดือน ที่เหลือก็คงฝึกที่สำนักงาน แล้วก็ตามหน่วยย่อยทั่วไป คร่าวๆนะ " ปรายยังไม่แน่ใจยังไม่ชัวร์
"ตายแล้ว นี่เธอต้องไปกินนอนในป่า และเดินทางแบบนั้นเป็นเดือนเลยเหรอปราย"
"ใช่ซิ ช่วงที่ฉันเข้าป่า อาจจะหายไปเลยนะ เพราะไม่แน่ใจว่าในป่าจะมีสัญญาณโทรศัพท์ไหม"
"แล้วนี่คุณน้าทั้งสองรู้หรือยัง" กานดารากกระซิบถามพร้อมทำตาโต หน้าตาเคร่งเครียดขึ้นมาทันที
"รู้แล้ว ก็ไม่เห็นว่ายังไงนะ ไม่มีอะไรหรอกน่า มีทั้งผู้ชายผู้หญิง รุ่นพี่ก็น่ารักดีแถมหล่อด้วย อย่าคิดมากเลย แค่สามเดือนเร็วจะตาย นี่ฉันยังคิดว่าเขาน่าจะให้ฝึกสักหกเดือน" คนที่ต้องไปยังไม่เดือดร้อน หรือกลัวอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่คนที่ไม่ได้ไปเดือดร้อนแทนแล้ว
สองสาวคุยกัน คิดว่าไม่มีใครได้ยิน เพราะนั่งอยู่ไกลจากผู้ใหญ่มาก แต่สองสาวลืมไปแล้วว่าพี่ชายกานดารานั่งอยู่ไม่ไกลนัก และได้ยินที่สองสาวคุยกันทุกอย่าง
"แล้วตะวันเป็นยังไงบ้างล่ะลูก เรื่องงาน เรื่องธุรกิจที่ทำอยู่ สบายๆแล้วใช่ไหม" นายอลงกตหันไปถามชายหนุ่ม
"ครับคุณน้า ดีขึ้นมากไม่ค่อยปวดหัวเหมือนหลายปีที่ผ่านมาครับ ปล่อยได้บ้างแล้ว"
"ดีแล้วลูก ตะวันเป็นหลักให้แม่กับน้องได้ นี่ถ้าพ่อเขายังอยู่เขาจะต้องภูมิใจมาก แต่ถ้าอยากได้ที่ทางแถวนี้ก็ปรึกษาน้าได้นะ เผื่อเบื่อในเมือง อยากจะมาอยู่ต่างจังหวัดอากาศดีๆ ดูแล้วหนูกานจะชอบมากกว่าใครเลยนะนี่ อยู่หลายๆ นะวันลูก วันหลังถ้าแม่กับพี่เขาไม่มา น้องกานก็มากับน้องปรายได้นะลูก เดี๋ยวน้องปรายพาเที่ยว เจ้านี้เขาขาเที่ยว บอกมาเลยที่ไหนก็รู้หมด อย่าลืมจัดโปรแกรมล่ะน้องปราย พาหนูกานไปเที่ยว อากาศดีๆ"
"ได้เลยค่ะพ่อ ปรายคุยกับกานไว้แล้วค่ะ ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง อ่อ..พ่อแม่คะ พี่ภาษฝากขนมกับน้ำมาให้ด้วยนะคะ เมื่อบ่ายปรายแวะที่ร้านพี่ภาษ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าๆปรายจัดขึ้นโต๊ะให้นะคะ"
"อ้าวเหรอ....ดีมากเลย แม่คิดถึงชาไท ของเขาอร่อยเข้มขนดีจริง ๆ ขนมเขาก็อร่อยหลายอย่างนะ ดีละพรุ่งนี้เช้าเรามีเครื่องดื่มแล้ว แต่อาหารนี่ซิ ทุกคนอยากกินอะไรกัน บอกมาเลยจ๊ะ ถ้าน้าทำได้นะ แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็ไปหาซื้อเอาแถวนี้ กรไม่ค่อยถนัดเรื่องอาหารเท่าไหร่หรอกค่ะพี่เดือน ที่นี่ก็กินกันง่ายๆ เอาสะดวกมากกว่า" นางกรกนกยอมรับตรง ๆ เพราะเอาจริงๆนางก็ไม่ถนัดทำให้คนอื่นกิน นอกจากสามีและลูก
"แต่คุณแม่ทำอาหารอร่อยมากเลยค่ะคุณน้า ทำได้หลายอย่างมาก แถมอร่อยเสียด้วย ปรายก็เคยไปกินที่บ้านแล้วค่ะ อร่อยใช่ไหมปราย" กานดาราหันมาหาเพื่อน
"ใช่เลยค่ะแม่ คุณป้าทำกับข้าวอร่อยทุกอย่าง รสเดียวกับที่แม่ทำเลยค่ะ ปรายยืนยันว่าอร่อยจริงๆ"
"งั้นแม่ก็ได้เพื่อนแล้ว ไม่เหงาแล้วนะทีนี้ นายอลงกตพูดแทรกขึ้นมา" และยิ้มให้ภรรยาอย่างอบอุ่น
หลังอาหารมื้อเย็น ที่บ้านใหญ่ ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน น่าจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังไม่นอน อาจเป็นเพราะแปลกที่ แต่เขาก็เป็นคนนอนดึกอยู่แล้ว หรือเพราะเรื่องที่เขาได้ยินที่โต๊ะอาหารเมื่อเย็น มันกวนใจเขามาก
ตะวันตกใจมากที่ได้ยินเรื่องการไปฝึกงานของปรายลดา แล้วเขาก็เชื่อว่าคุณน้าทั้งสองก็คงต้องตามใจลูกสาวอยู่แล้ว ตามใจ เห็นดีเห็นงามกับลูกไปหมดทุกอย่าง นี่ถ้าปรายลดาเป็นผู้ชาย เขาไม่อยากจะคิดเลยว่า จะเป็นยังไง คงโลดโผนมากกว่านี้แน่นอน
ชีวิตปรายลดา แตกต่างกับน้องสาวเขามาก เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมจะต้องมาเปิดหา หลักสูตร วนศาสตร์ ว่าเขาเรียนกันยังไง การทำงาน ฝึกงาน เรียนจบแล้วต้องทำงานที่ไหน อีกหลายอย่างที่่เขาอยากรู้
จะยังไงก็ช่างเถอะ มันเรื่องของเด็กนั่น อย่ามาพาน้องสาวเขาทำเรื่องเหลวไหลล่ะกัน ชายหนุ่มเอนหลังลงนอนกับที่นอนนุ่ม หอมสะอาด แล้วก็เผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว