ปรายลดา หญิงสาวธรรมดาๆคนหนึ่ง เป็นตัวของตัวเอง รักแรกของเธอ ก็เจอคนเห็นแก่ตัวเสียแล้ว เอายังไงกับรักแรกดี ให้อภัยดีไหม แต่เขาก็ร้ายเหลือเกิน
รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ไทย,อื่นๆ,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)ปรายลดา หญิงสาวธรรมดาๆคนหนึ่ง เป็นตัวของตัวเอง รักแรกของเธอ ก็เจอคนเห็นแก่ตัวเสียแล้ว เอายังไงกับรักแรกดี ให้อภัยดีไหม แต่เขาก็ร้ายเหลือเกิน
“วันนี้เราไปวิ่งกันเถอะนะกาน ตั้งแต่ไปเขาใหญ่ไม่ได้ออกกำลังกายเลย ปรายว่ากานใส่รองเท้าปรายได้นะ ลองดู คู่นี้มันสั้นไปหน่อย ปรายซื้อมายังไม่เคยใส่เลย เจ้ารองเท้าคู่นี้มันน่าจะเจอเจ้าของแล้ว ไปกันเถอะเดี๋ยวค่ำ เผื่อวิ่งเสร็จเร็วจะได้ไปช่วยคุณป้ากับแม่ทำอาหาร ”
สองสาวใส่ชุดออกกำลังกาย ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นของปรายลดา หญิงสาวชอบชุดออกกำลังกายมาก ซื้อทีก็หลายสี วันนี้สองสาวเลือกใส่เป็นกางเกงขาสั้น เสื้อแขนสั้น ปกติปรายลดาจะไม่ใส่แบบขาสั้น แต่วันนี้มีเพื่อนใส่ทำให้มั่นใจ ไม่ค่อยเขินเท่าไร หญิงสาวเห็นว่าวิ่งกันแค่สองคน เกือบค่ำแล้วและไม่มีคน ที่สำคัญวันนี้พี่ชายกานดาราไม่มาวิ่ง เพราะเธอเห็นเขาทำงาน น่าจะยุ่งๆ ถ้ามีคนอื่นเธอก็ไม่กล้าใส่ขาสั้น แขนกุดเพราะชุดมันแนบเนื้อมาก เผยให้เห็นรูปร่าง “ พี่ตะวันไม่มาวิ่งแน่นะกาน”
“ไม่มาหรอก พี่ตะวันติดงาน ทำงานตั้งแต่เช้าแล้ว ช่วงนี้ใกล้สินเดือน ยุ่งแบบนี้ทุกเดือน ทำไมปรายเขินเหรือ”
“ใช่ซิ ปรายไม่ค่อยใส่ชุดสั้นแบบนี้ต่อหน้าใคร ส่วนมากที่ใส่ก็คือเป็นเสื้อแขนยาว ขายาว ชุดสั้นมัดรัดรูปเกินไป แต่ถ้าออกกำลังกายในห้อง ก็กล้าใส่ ใส่ไปยิมก็ไม่กล้า อาย ”
“แต่กานคิดว่ามันปกตินะ ไม่รู้สึกเขินอายอะไร เพราะคนอื่นเขาก็ใส่กัน”
ไไม่รู้คนอื่น แต่ปรายเขิน แล้วก็ไม่อยากให้ใครเห็นรูปร่างด้วย นี่ถ้าไม่ได้วิ่งกับกานและวิ่งในไร่ปลายก็ไม่กล้าใส่หรอก ป่ะ.....ไปกันเถอะ เดี๋ยวค่ำ" สองสาวออกวิ่งจากบ้านเล็กของปรายลดา วิ่งเข้าไปในไร่ วนออกมาปากทางเข้าไร่ รวมระยะทางไปกลับ 10 กิโลเมตร ปรายลดาชินเสียแล้วเพราะเธอวิ่งบ่อย แต่สำหรับกานดาราเพื่งมาเรื่มวิ่ง เริ่มออกกำลังกาย ทำให้วิ่งช้า ปรายลดาก็เดินบ้างวิ่งบ้างเป็นเพื่อนกัน
วันนี้วันดีของเขาจริงๆ เลย มีอะไรหลายอย่างที่เกี่ยวกับปรายลดาที่เขายังไม่รู้ เขารู้อยู่แล้วว่าสองสาวจะออกไปวิ่ง ตะวันเป็นคนบอกน้องสาวเขาเองว่าวันนี้จะไม่ออกกำลังกาย เพราะมีงานใกล้สิ้นเดือนแล้ว ที่บริษัทเขาก็จะยุ่งๆ กัน บังเอิญว่าเขาเคลียร์งานเสร็จเร็ว เลยเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวออกวิ่ง เขาเดินวอร์มร่างกาย จากบ้านที่เขาพัก ลัดเลาะมาทางบ้านหลังเล็กของปรายลดา ที่วันๆ เป็นที่อยู่ของสองสาว ผู้หญิงนี่เขาคุยอะไรกันนักหนา มีเรื่องให้คุยกันได้ตลอด เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลย เขาต้องเสียมารยาทอีกรอบ หยุดฟังสองสาวคุยกัน นึกอยากจะแกล้งคนเล่น
ปรายลดารูปร่างดีมาก เขาไม่เคยเห็นเธอใส่ชุดรัดรูปบ่อยมากนัก แขนขายาวเรียว มีหน้าอก เอวขอด สะโพกผาย หน้าตาก็สวยมาก แต่เขาก็คิดว่าบางทีหญิงสาวก็รู้ว่าตัวเองเป็นคนหน้าตาดี ไม่แต่ก็สวย ถ้าได้แต่งหน้าแต่งตัวครบเครื่องคงจะสวยมากๆ จริงที่ว่าผู้ชายบางคนไปยิมเพราะอยากเห็นผู้หญิงใส่ชุดออกกำลังกาย แต่ก็ไม่บางคนเสมอไป สำหรับเขาตั้งใจไปออกกำลังกายจริงๆ มีผู้หญิงมากมาย แต่เขาไม่ได้ชอบแบบนั้น นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่เขามีโรงยิมที่บ้าน เขาตั้งใจออกกำลังกายจริงๆ
ตะวันวิ่งตามหลังสองสาวใกล้เข้าเรื่อยๆ คนข้างหน้าตั้งใจวิ่งมาก สมาธิดีจริงๆ เขาดีใจมากที่น้องสาวเขายอมออกกำลังกาย เป็นเรื่องที่ดี ไม่ใช่แค่น้องสาวเขา แม่เขาก็เดินออกกำลังทุกวันกับคุณน้า พูดคุยกันสนิทสนม ช่วยกันทำอาหาร
“อ้าวพี่ตะวัน มาได้ยังไงคะ ไหนว่าทำงานด่วน กานคิดว่าพี่ตะวันทำงานอยู่ที่ห้องเสียอีกค่ะ ”กานดาราทักทายพี่ชาย เมื่อได้ยินเสียงคนวิ่งตามหลังมา หันหลังมากลายเป็นพี่ชายเธอ วิ่งมาซะเหงื่อท่วมตัวเลย กี่รอบแล้วคะพี่ตะวัน
“นี่รอบที่สองแล้ว พี่วิ่งตามหลังเราสองคนมานานแล้ว เห็นวิ่งเห็นเดินกัน ได้เหงื่อกันบ้างไหมนี่” ปากเขาก็ถามน้องสาว สายตามองไปที่อีกคน
ได้ผลเขาเห็นหน้าสวยนั้นงอง้ำ ปากขมุบขมิบ ทำเอาเขาอมยิ้มขี้นมาทันที กานดาราไม่ทันได้สังเกตพี่ชายตัวเอง “ไงครับ....น้องปราย เหนื่อยไหมครับ ไม่เห็นมีเหงื่อกันเลย นี่จะวิ่งกันกี่รอบ”
ปรายลดาทำตามองบน หันมาทางเพื่อนรัก ซึ่งอาการนั้นก็ไม่รอดพ้นสายตาของตะวัน ก่อนตอบคำถามพี่ชายเพื่อน “วิ่งบ้างเดินบ้างคะพี่ตะวัน พี่ตะวันมาก็ดีแล้วค่ะ วิ่งเป็นเพื่อนกานด้วยนะคะ ปรายขอวิ่งให้เหงื่อออกเยอะๆ สักหน่อย แล้วเจอกันที่บ้านเล็กของเรานะกาน”
“โอเค งั้นเดี๋ยวกานวิ่งต่ออีกหน่อย แล้วไปรอปรายที่บ้านเล็กเลยนะ”
หญิงสาวออกวิ่งไปอย่างรวดเร็ว อีตาลุงบ้านี่มาได้ยังไง ก็ไหนว่าทำงาน เธอตกใจไม่น้อย และไม่อยากให้เขาเห็นเธอในชุดออกกำลังแบบนี้ เธอตาฝาดรึเปล่า ที่เห็นเขายิ้มแบบขำๆ เหมือนทำหน้าล้อเลียนเธอ ไม่นะ เธออาจตาลายก็ได้ คนอย่างเขายิ้มเป็นด้วยเหรอ ยิ่งจะมาทำหน้าตาล้อเลียนอีก ไม่น่าเป็นไปได้ ช่างเถอะ....รีบวิ่งดีกว่า เธอเชื่อว่าเขาคงวิ่งไปพร้อมกานดารา คงพากันขึ้นบ้านเลย วิ่งไปก็ขุ่นเคืองในใจไป
“น้องปรายรอพี่ด้วยครับ ขอพี่วิ่งด้วยคน น้องกานกลับบ้านไปแล้ว น่าจะเหนื่อยไม่ได้วิ่งหลายวัน เราจะวิ่งกันกี่รอบดีครับน้องปราย พี่ว่าสักอีกสามรอบดีไหมครับ”
คนที่เคยหน้านิ่งๆ ทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ ปรายลดาตกใจเธอกำลังวิ่งเพลินๆอย่างสบายใจ กำลังได้ที่เลย โอ้ย...กานก็ไม่อยู่แล้วด้วย นี่เขาทำไมไม่เลิกวิ่งนะ จะมาวิ่งกับฉันทำไมเนี้ย ทำไงล่ะทีนี่ เธอไม่ชินหรอก อยู่ๆ จะมาใส่ชุดออกกำลังกายเข้ารูปสั้นๆ มาวิ่งกับผู้ชายที่ไม่ใช่ญาติพี่น้อง ปรายลดาหน้าแดงร้อนวูบวาบ ไม่รู้หรอกว่าเป็นอาการของอะไร รู้แค่ว่าตอนนี้เธออยากกลับบ้านแล้ว ไม่อยากอยู่ต่อหน้าเขา
จะวิ่งหนีก็คงไปไม่ได้แล้ว เขาวิ่งเร็วซะขนาดนั้น อีกตั้งเกือบรอบถึงจะถึงบ้าน หญิงสาวหยุดวิ่ง สลับเป็นเดินเร็วแทน “ปรายคิดว่าพี่ตะวันกลับบ้านพร้อมกานแล้วค่ะ ไม่คิดว่าพี่จะมาวิ่งต่อ” หญิงสาวพูดกับเขาแต่ก็ไม่ได้หันไปมองหน้า ด้วยรู้สึกไม่มั่นใจ เพราะตัวเองใส่ชุดกีฬาเข้ารูป ถึงเสื้อจะยาวแต่ก็เน้นรูปร่างอยู่ดี ไหนจะกางเกงขาสั้นแนบติดตัวอีก ปรายลดารู้ว่าตัวเองเป็นคนที่รูปร่างดี ผอมแต่มีทรวดทรง ไม่บ่อยนักที่ใครๆจะได้เห็นเธอแต่งตัวเปิดเผยเนื้อตัว
เขารู้ว่าหญิงสาวประหม่า ไม่มั่นใจ แต่จะทำไงได้ เขาก็มาแล้ว และก็รู้สึกอารมณ์ดีมากๆ เขาเชื่อว่าไม่ค่อยมีใครได้เห็นปลายลดา แต่งตัวเปิดเผยแบบนี้บ่อยนัก เขาโชคดีซินะ ใช่...ตะวันโชคดี
“น้องปรายคิดว่าถ้าน้องกานอยู่ที่นี่บ่อยๆ หรือตลอดไปอาการที่ไม่ค่อยแข็งแรงจะดีขึ้นไหม” ต้องชวนคุยแล้วล่ะ อีกหลายกิโลกว่าจะถึงบ้าน ไม่งั้นคนสวย มีหวังวิ่งหน้าตั้งไม่ได้พูดคุยกันพอดี
“ว่ายังไงนะคะพี่ตะวัน ปรายได้ยินไม่ค่อยถนัด”
ได้ผลแฮะ หน้าสวยนั่นเวลาเหนื่อยเหงื่อไหล น่าดูจังเลย
“คือพี่บอกว่าถ้าน้องกานได้มาอยู่ที่นี่บ่อยๆ หรืออาจมาอยู่แถวนี้ถาวร อาการที่ไม่ค่อยแข็งแรงไม่ค่อยสดชื่น จะดีขึ้นไหมครับ”
หญิงสาวเดินช้าลงเพื่อคุยกับเขา ถ้าเดินเร็วกว่านี้เธอคงหอบ “พี่ตะวันพูดเหมือนกับว่า ถ้ากานอยากอยู่ที่นี่ ก็จะได้อยู่เหรอคะ ก็ดีซิคะถ้าเป็นไปได้ การบ่นกับปรายว่าไม่อยากกลับบ้านเลย ปรายว่าคุณป้าก็คงชอบด้วยแน่ๆ เลยค่ะ ดูคุณป้ากับกานมีความสุขมาก กานแข็งแรงขึ้นมากเลยนะคะ จากวันแรกที่เดินมากกว่าวิ่ง เดี๋ยวนี้กานวิ่งยาวและนานกว่าวันแรกเยอะมาก คุณป้าก็ดูแข็งแรง แม่ปรายพลอยได้ออกกำลังด้วยค่ะ ปกติแม่ทำแต่งานตลอด ไม่มีเวลาผ่อนคลายเลย”
“นี่แค่มาไม่กี่วันนะครับ ถ้าอนาคตน้องกานเรียนจบยังไม่มีงานทำ พี่คงต้องส่งน้องกานมาอยู่ที่นี่แน่ๆ เลย คงไม่ใช่น้องกานคนเดียว คุณแม่พี่คงตามมาด้วย มีหวังพี่คงต้องอยู่บ้านคนเดียวแน่ๆ”
“แต่พี่ตะวันก็สามารถทำงานได้ทุกที่นี่คะ ไม่น่ามีปัญหา นครนายก กรุงเทพฯ ใกล้กันนิดเดียวเอง”
“พี่ตะวันไม่ต้องเกรงใจปรายนะคะ ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับกาน ปรายยินดีค่ะ ปรายดีใจที่มีเพื่อน นอกจากกาน พี่ภาษ ปรายก็ไม่ค่อยมีเพื่อนสนิทหรอกค่ะ ถ้ากานได้มาอยู่จริงๆ ก็ดีซิคะ” หญิงสาวหันมายิ้มหวานให้เขา ลืมไปเลยว่าก่อนหน้านี้อารมณ์ตัวเองเป็นยังไง
“เรารีบกลับเถอะค่ะพี่ตะวัน เรื่มมืดแล้ว ปรายว่าพี่ภาษกับคุณอาคงใกล้จะมาแล้ว ปรายจะได้ไปช่วยคุณป้ากับแม่เตรียมอาหารด้วยค่ะ”
“ครับน้องปรายไปกันเลย” สองหนุ่มสาวออกวิ่งพร้อมกัน ต่างคนต่างความคิด ปรายลดาคิดแต่ว่ากานดาราอาจจะได้มาพักกับเธอบ่อยมากขึ้น พี่ตะวันคงดีใจที่เห็นแม่และน้องมีความสุข จริงๆ เขาก็เป็นคนใจดีเหมือนกัน เสียแต่ว่าเธอไม่ค่อยถูกใจเขาสักเท่าไหร่ สาเหตุอะไรเธอก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน ช่างเถอะขี้เกียจคิดหาเหตุผล