ปรายลดา หญิงสาวธรรมดาๆคนหนึ่ง เป็นตัวของตัวเอง รักแรกของเธอ ก็เจอคนเห็นแก่ตัวเสียแล้ว เอายังไงกับรักแรกดี ให้อภัยดีไหม แต่เขาก็ร้ายเหลือเกิน

รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ) - 24 ดูตัว ข่าวดี โดย พรรณพสา2 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ไทย,อื่นๆ,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ไทย,อื่นๆ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

ปรายลดา หญิงสาวธรรมดาๆคนหนึ่ง เป็นตัวของตัวเอง รักแรกของเธอ ก็เจอคนเห็นแก่ตัวเสียแล้ว เอายังไงกับรักแรกดี ให้อภัยดีไหม แต่เขาก็ร้ายเหลือเกิน

ผู้แต่ง

พรรณพสา2

เรื่องย่อ

ปรายลดา เด็กสาวชาวบ้านธรรมดาๆ ที่มีความเป็นตัวของตัวเอง นิสัยดื้อเงียบ รักใครรักจริง เป็นคนที่เก็บความลับได้ดีมาก ชอบงานวินเทจทุกอย่าง แต่งตัวตามใจตัวเอง ความคิดก็เป็นของตัวเองมากเช่นกัน ไม่ชอบยุ่งกับใคร เพื่อนน้อย ชอบเมา ลุย 

โชคชะตาบังเอิญให้มาเจอกับผู้ชาย หน้านิ่ง เธอไม่ชอบขี้หน้าเขาเลย ไปๆมาๆกลับรักเขา พอเริ่มจะรัก ก็อกหักซ่ะงั้น จะทำยังไงกับหัวใจตัวเองดี ต้องปรับตัวเองตั้งแต่ยังสาว หรือจะรอให้แก่ตัวก่่อนดี ไม่ได้อยากคิด แต่มันต้องคิด ชาติหน้าเธอคิดว่าเธอจะไม่เกิดแล้ว ไม่ชอบตัวเองที่เวลาเกลียดใครแล้วเกลียดจริงๆ ถ้าเธอลดอคติลงได้ เธอคงมีความสุขมาก แต่....เมื่อไหร่

สารบัญ

รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-1 ลูกสาวคนเล็ก,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-2 ถูกปฏิเสธตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-3 เด็กส่งผักและผลไม้ปลอดสาร,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-4 มีความเป็นห่วงน้อง,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-5 สอบใกล้เสร็จแล้ว,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-ู6 ครอบครัว,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-7 สอบเสร็จแล้วจ้า เตรียมตัวกลับบ้าน,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-8 เห็นหน้านิ่งๆเครียดๆก็ใจดีอยู่นะ,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-9 เตรียมบ้านรอเพื่อน,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-10 ขนมอร่อย ที่ร้านกาแฟ,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-11 บ้านใหญ่บ้านเล็ก,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-12 สองครอบครัว รับประทานอาหารร่วมกัน,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-13 ความสุขที่มีอยู่รอบตัว,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-14 พี่เลี้ยงไม่ปกติ,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-15 เรียนรู้ฝึกฝน แบ่งปัน,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-16 ไปเที่ยวมรดกโลก,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-17 ค่ำคืนที่เขาใหญ่,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-18 เขาใหญ่,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-19 เช้าที่สดใส พร้อมอาการที่เปลี่ยนไปของใครบางคน,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-20 บางสิ่งบางอย่างที่ฟังมา กับส่ิ่งที่เห็นกับตา ใช่ว่าจะเหมือนกัน,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-21 เริ่มรู้ใจตัวเอง,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-22 พลาดอีกแล้ว,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-23 คนสวย,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-24 ดูตัว ข่าวดี,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-25 ไปเที่ยว และได้ใกล้ชิดกัน,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-26 บางสิ่งบางอย่างได้ก่อเกิดขึ้นในหัวใจ,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-27 ไปคัดผ้ามือสองที่ตลาดโรงเกลือ,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-28 ในความสุขก็ยังมีความทุกข์แอบแฝง,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-29 ตามติดพิชิตใจ,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-30 เก็บข้อมูล,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-31 พี่เลี้ยง,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-32 ไปเยือนภาคใต้,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-33 แสนห่วง,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-34 ข่าวดี,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-35 คิดถึงคนในป่า,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-36 ภัยอันตรายในป่าใหญ่,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-37 ปลอดภัยแล้ว,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-38 โล่งใจและดีใจที่สุด,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-39 สับสน,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-40 เกิดเหตุร้ายขึ้นจริงๆ,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-41 ฝึกงานเสร็จแล้วจ้า,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-42 แขกไม่ได้รับเชิญ,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-43 ความรัก ทำให้คนเปลี่ยนไป,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-44 ใกล้ยังไงเหมือนใกล้,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-45 คำสัญญาคือใจ ไม่ใช่คำพูด,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-46 นักวางแผน,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-47 ใครกันที่ใจโลเล,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-48 เซ็นส์ของผู้หญิงมันแรง,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-49 จากไปไกล เพื่อให้ใจแข็งแรง,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-50 คนใจร้าย เห็นแก่ตัว,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-51 หมดศรัทธา,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-52 ยอมรับผิด,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-53 เที่ยวดอย สอยความหนาว,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-54 คิิดถึงมาก,รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)-55 ไม่มีอะไร แค่เบื่อปกปิด

เนื้อหา

24 ดูตัว ข่าวดี

“น้องปรายน้องกานว่างไหมลูก ออกไปรับคุณอาเกริก อายุรี ตาภาษให้แม่หน่อย รู้สึกว่าจะมีของมาเยอะเลยลูก” นางกรกนก บอกสองสาว 

"ได้เลยค่ะแม่ เดี๋ยวปรายกับกานไปรับเองค่ะ ป่ะ...กานไปช่วยคุณอากับพี่ภาษถือของกัน "

“สวัสดีค่ะอาเกริก อายุรี พี่ภาษ พอดีแม่กับคุณป้าติดพันเตรียมอาหารค่ะ ปรายกับกานเลยออกมารับ เห็นว่ามีของมาเยอะ ส่งมาค่ะปรายกับกานช่วยถิอ”

“สวัสดีลูกน้องปราย แหม....ไม่เจอกันนานสวยขึ้นมากเลยนะลูก อ้าวแล้วนี่ใครล่ะ อานึกว่าเป็นน้องปราณเสียอีกหน้าตาสวยจริง” นางยุรีทักทายสองสาว 

“อ้อ...ปรายลืมไปค่ะกานดารา นี่คุณอาเกริก อายุรี คุณพ่อและคุณแม่ของพี่ภาษ กานเป็นลูกสาวคุณป้าดุจเดือน เป็นเพื่อนสนิทของแม่กับพ่อ สมัยกาลนานค่ะอา ส่วนพี่ภาษรู้จักกันแล้วเนาะ ”

“สวัสดีค่ะคุณอาเกริก คุณอายุรี ”กานดารา ยกมือไหว้ทั้งสามคน อย่างอ่อนน้อม  ยิ้มเลยไปให้คนตัวใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างๆ นายเกริกและนางยุรี

" น้องกานสบายดีนะครับ" ประภาษทักทายกานดาราด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม

“สบายดีค่ะพี่ภาษ ส่งของมาค่ะ เดี๋ยวกานกับปรายช่วยถือ” หญิงสาวรับของจากชายหนุ่ม ดูเขาถือของรุงรังเต็มไม้เต็มมือไปหมดๆ

“โห...กาน เราได้กินขนมที่อร่อยที่สุดในโลกแล้ว แถมมีเครื่องดื่มมาด้วย ไปกันเอาไปเก็บดีกว่า”

“ไปค่ะคุณอา เข้าบ้านก่อน ป่านนี้พ่อคงลงมาแล้ว” สองสาวเดินนำหน้าครอบครัวประภาษเข้าบ้าน 

เด็กสาวคนนี้หน้าตาดีมาก ไม่สวยเท่ากับปรายลดา  ไม่แต่งหน้ากิริยามารยาทเรียบร้อย นางยุรีเริ่มสงสัยแล้วว่า ที่ลูกชายขยั้นขยอ ให้มาทานข้าวบ้านเพื่อน เพราะอะไร ดูท่าลูกชายนางน่าจะติดใจเด็กคนนี้เสียแล้ว คนเป็นแม่ดูไม่ผิดหรอก ประภาษแสดงออกขนาดนั้น แต่จะขนาดไหนนั้นนางไม่รู้ เพราะดูเด็กสาวยังไม่น่าจะรู้สึกตัว 

ถ้าว่าเป็นปรายลดา ไม่น่าจะใช่ เพราะบ้านนางสนิทสนมกันมานาน เด็กๆ รักนับถือกันเหมือนพี่น้อง ร้อยวันพันปีลูกชายนางไม่เคยรบเร้าให้ไปไหนด้วย นางและสามีผิดสีงเกตุตั้งแต่ที่ลูกชายเล่าเรื่องเพื่อนใหม่ให้ฟังแล้ว ปกติเขาจะไม่ค่อยสนใจใคร 

“สวัสดีครับพี่ทั้งสอง โห....นานมากแล้วนะครับที่บ้านเราไม่ได้เจอกัน นี่ถ้าตาภาษไม่รบเร้าให้มา เราคงไม่ได้เจอกัน มาๆทุกคนมานั่งที่โต๊ะอาหารเถอะครับ"นายอลงกตเอ่ยทักทายนายเกริกและนางยุรี 

"พวกเราก็ดีใจนะคะ นานๆ ได้มากินข้าวด้วยกัน เสียดายน้องปราณไม่อยู่ แต่ไม่เป็นไรหรอก อีกไม่นานเดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้ว” นางกรกนกดูตื่นแต้นไม่แพ้สามี 

“เกริก ยุรี นี่พี่ดุจเดือนนะ เป็นเพื่อนรุ่นพี่สมัยนานมากแล้ว ตั้งแต่แฟนพี่ดุจเดือนเสีย เราก็ไม่ค่อยได้เจอกันเลย แล้วนี่ตะวันลูกชายคนโตพี่ดุจเดือน น่าจะรุ่นเดียวกับตาภาษ และสุดท้ายกานดารา ลูกสาวคนเล็ก น้องกานเขารุ่นเดียวกันกับน้องปราย สองสาวนี่เขาสนิทกันมาก ตะวัน น้องกาน ตาภาษ รู้จักกันแล้ว น้องกานกับน้องปรายเรียนปีสุดท้าย เขาไปเที่ยวเขาใหญ่กันมาแล้ว ดีแล้วเด็กๆ รู้จักกันไว้” นายอลงกตแนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกัน

“สวัสดีครับคุณอาเกริก คุณอายุรี” ตะวันยกมือไหว้พ่อและแม่ของประภาษ

"ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะพี่ดุจเดือน"สองสามีภรรยาไหว้ทักทายนางดุจเดือน

"พ่อตะวัน รุ่นเดียวกับตาภาษหรอกหรือ หน้าตาคมคาย หนูกานก็น่าตาสวย ดีจังเลยค่ะ มีลูกสองคนครบเลยชายและหญิง น่าชื่นใจนะคะ ลูกๆโตกันหมดแล้ว เหลือแต่จะรอเลี้ยงหลานนี่ล่ะค่ะ  แต่ก็ยังไร้วี่แววเลย" นางยุรีพูดขึ้น 

“ เหมือนกันค่ะ มีสองคนก็ใช่จะไม่เหงานะคะ ลูกไปทำงาน ไปเรียน เราอยู่บ้านก็เหงามากอาศัยได้ทำโน้นทำนี่ ทำอาหารรอลูกค่ะ แต่ยังไงก็ยังเหงาเหมือนเดิม เข้าใจเลยค่ะสมัยก่อนว่า  พ่อแม่เรามีความรู้สึกยังไง  สุดท้ายก็อยากเลี้ยงหลานพอได้แก้เหงา” นางดุจเดือนเอ่ยขึ้น

“สรุปว่าพวกเราแก่กันแล้วใช่ไหมคะเนี้ย” 

นางกรกนกพูดแล้วหัวเราะ ทำให้ทุกคนบนโต๊ะอาหารหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน บรรยากาศครึกครื้นขึ้นมาทันที เมื่อเหล่าผู้ชายเริ่มมีเครื่องดื่ม

“นี่อาหารน่าตาน่าทานมากเลยนะคะ ต้องชิมซะแล้วล่ะ อร่อยมากแน่ๆ เลยพี่กรทำเองเหรอคะ”

“ไม่หรอกพี่เป็นผู้ช่วยมากกว่า พี่ดุจเดือนเป็นคนทำน่ะ ทำเป็นทุกอย่างและอร่อยมากด้วย”

“วันนี้เราต้องเจริญอาหารมากแน่ๆ เลยค่ะพี่เกริก ภาษเป็นไงลูก อาหารถูกปากไหม มัวแต่นั่งยิ้มอยู่นั่นแหละ กินบ้างเถอะลูกรองท้องก่อน นี่ขนไวน์มาเป็นลังเลยนะคะเนี้ย กะจะไม่นอนรึไงลูก” 

“เยี่ยมเลยครับแม่ รสอาหารเหมือนที่แม่ทำเลย คืนนี้ถ้าไม่เมาผมว่าจะไม่กลับ เราค้างที่นี่ดี” ประภาษหันไปหาพ่อกับแม่ นานๆ ได้ออกนอกบ้านเอาให้คุ้ม

“ได้เลยนะ คืนนี้อากาศดีมาก บ้านเราห้องว่างเยอะแยะไป นอนเสียที่นี่เลยล่ะกันเกริก ยุรี จะได้ไม่ต้องกังวลเวลาเดินทางกลับ พี่กับกร จะได้สบายใจด้วย ”

“เอาไงเอากันครับพี่กต พี่กร ไหนๆก็มาแล้ว บรรยากาศแบบนี้คิดถึงสมัยเป็นหนุ่มเป็นสาวกันนะครับ มิตรภาพเราไม่เสื่อมคลายเลยจริงๆ” 

“ว่าแต่ว่าพ่อตะวันยังไม่มีครอบครัวเหรอลูก อาขอโทษนะที่ถาม เห็นว่ารุ่นเดียวกับตาภาษ รายนี้อาก็รออยู่ ไม่เคยพาใครมาไหว้เลย อายุก็ไม่ใช่น้อยแล้ว มีการมีงานทำเป็นหลักแหล่ง แต่ยังไม่เจอคนถูกใจสักที อาก็รออุ้มหลาน คิดว่าคงจะรอต่อไป ต้องแล้วแต่เขา ว่าจะพร้อมเมื่อไหร่”

“ครับคุณอา ผมยังไม่มีครอบครัวครับ ช่วงพ่อเสียผมทุ่มเทกับงาน กลัวว่าจะพลาดครับ ห่วงแม่กับน้องด้วย เรามีกันแค่นี้ อยากให้ครอบครัวสบายก่อน เลยยังไม่ได้มองใครเป็นพิเศษ แต่หลังจากนี้คงต้องเริ่มหาแล้วครับ กลัวว่าจะมีลูกไม่ทันใช้ แต่สำหรับคนที่จะเข้ามาก็ต้องดูให้ดีครับ ต้องเข้ากับแม่และน้องกานได้ดี” 

“จริงๆ ลูก ผู้หญิงมีเยอะ แต่คนที่จะมาเป็นคู่ครองและอยู่กับเราต้องดูดีๆ เอาเถอะน่า คนจะเป็นคู่กันอยู่ตรงไหนก็ต้องได้มาเจอกัน เคยดูไหม บุพเพสันนิวาส” นายเกริกพูดขึ้นมาและหัวเราะเสียงดัง ทำให้ทุกคนบนโต๊ะอาหารพลอยหัวเราะไปด้วย 

สองสาวที่เข้าไปในครัวเพื่อนำเครื่องดื่มและขนมต่างๆ ไปเก็บเดินออกมาพอดี

“เก็บเรียบร้อยแล้วใช่ไหมลูก มาๆ มานั่งกินข้าวกัน” นายอลงกต เรียกสองสาวเข้ามานั่งร่วมกันที่โต๊ะอาหาร “น้องปราย หนูกาน มานั่งเลยลูก นี่ตั้งแต่ครอบครัวพี่ดุจเดือนมาอยู่ที่นี่ บางทีผมยังคิดว่าหนูกานกับตะวัน เป็นลูกผมอีกคนแล้วนะครับ ถ้ากลับกรุงเทพกันพวกเราคงเหงามาก ผมไม่เท่าไหร ภรรยาผมนี่ซิคงหน้าแห้งไปเลย ไม่มีเพื่อน พี่ดุจเดือนมาอยู่ที่นี่กรกนกยังได้พักบ้าง ผมไม่อยากให้ทำงานแล้ว แค่ทำอาหาร งานบ้านนี่ก็พอ”

“ก่อนอื่นพี่ต้องขอบใจอลงกต กับกรกนกมาก ๆนะ ที่ต้อนรับเราอย่างดีเลย วันนี้เลยอยากจะบอกข่าวดีกับทุกคนค่ะ พี่กับตะวันคุยกันแล้วว่า ตกลงจะหาซื้อที่แถวนี้ไว้ปลูกบ้าน ถ้าได้มากหน่อยก็จะ เหลือไว้ทำสวนนิดๆหน่อยๆค่ะ เลยอยากจะถามทุกคนว่าพอมีที่ทางแถวนี้เขาบอกขายบ้างไหม ไม่รีบนะคะ แต่ถ้าได้เร็วๆก็คงดี” นางดุจเดือนพูดและยิ้ม

“จริงครับคุณอา คุณน้า ผมคุยกับแม่สักพักแล้ว แม่กับน้องกานชอบที่นี่ ผมก็ชอบด้วย อยากได้ที่ดินสักผืนครับ ที่นี่ดีใกล้กรุงเทพ อย่างผมนี่สามารถไป กลับได้เลย พอมาได้มาอยู่ที่นี่นานๆ บอกตรง ๆไม่อยากกลับบ้านเลยครับ” ปากก็พูดไป แต่สายตาไม่ได้ห่างไปจากคนตรงข้ามเลย แต่รู้สึกเหมือนว่า คนสวยตรงข้ามจะไม่ได้สนใจอะไรเลย นอกจากหันไปหาน้องสาวเขา แล้วจับมือกันเขย่า ส่งเสียงคิกคักกระซิบกระซาบ แบบถูกใจมากๆ กันสองคน 

“ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับพวกเราเลยนะคะพี่ดุจเดือน เรื่องที่ทางไม่ต้องห่วงนะคะ พวกเราพอมีแนะนำได้ค่ะ”

“จริงๆ ไม่ต้องซื้อเลยก็ยังได้ ที่ผมก็มีถมเถ ยังไม่ได้ปลูกสร้างอะไรเลยก็มี ถ้าอยากได้จริงๆ ก็เลยเอาเลยครับพี่ดุจเดือน ไม่ต้องเกรงใจเลยครับ ข่าวดีจริงๆ วันนี้เราต้องฉลองกันแล้วล่ะครับ”

“อย่าเลยค่ะ ให้เราซื้อดีกว่า ตอนนี้พวกเราสามคนแม่ลูกก็ไม่ได้ลำบากเหมือนสมัยก่อนแล้ว พอมีกำลังค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องแล้วแต่ตะวันนะลูก” นางดุจเดือนหันไปมองหน้าลูกชาย

“เป็นยังไงครับน้องกานดีใจไหม เห็นบอกชอบที่นี่มากเลย” ประภาษหันไปหากานดารา

“ดีใจที่สุดเลยค่ะพี่ภาษ เซอร์ไพรส์มากเลยค่ะ ดีใจที่สุดเลย ขอบคุณแม่และพี่ตะวันมากเลยนะคะ ถือเป็นของขวัญก่อนเรียนจบสำหรับกานเลย” กานดาราหน้าตาเปี่ยมสุข ดวงตาเป็นประกายวิบวับ

“ดีใจด้วยนะกานทีนี้ล่ะเราจะได้อยู่ใกล้ๆกันทำอะไรก็สะดวก” สองสาวดีใจที่สุดแทบอยากจะร้องตะโกนกรี้ดดัง ๆ 

“พี่ก็ทำเพื่อแม่กับน้องกานนั่นแหละ ครอบครัวเรามีความสุข พี่ก็ดีใจ” ตะวันพูดกับแม่และน้อง

“เออแล้วนี่หนูกานเรียนอะไรอยู่ล่ะลูก จบแล้วอยากจะทำอะไรล่ะลูก อ่อ....อีกอย่าง แล้วสวยขนาดนี้มีแฟนหรือยังเนี้ย ”นางยุรี เอ่ยปากถามกานดาราด้วยน้ำเสียงเอ็นดู " 

นางรู้สึกถูกชะตากับลูกสาวพี่ดุจเดือนคนนี้จังเลย กิริยา มารยาทเรียบร้อย ดูไม่มีพิษมีภัยกับใคร นางรู้ว่าลูกชายนางอยากรู้ 

กานดาราหันไปมองหน้าผู้เป็นแม่และพี่ชาย ก่อนตอบคำถาม คุณอายุรี “กานเรียนบัญชีค่ะคุณอา จบแล้วคิดว่าอยากทำงานช่วยพี่ตะวัน แต่บางทีก็ไม่แน่ค่ะ อยากหาประสบการณ์การทำงานที่อื่นก่อน ต้องดูก่อนค่ะว่า จบแล้วจะหางานได้ง่ายไหม ส่วนเรื่องแฟนกานยังไม่มีค่ะ คุยกับแม่และพี่ตะวันไว้แล้วค่ะ ยังไม่อยากคิด ไว้เรียนจบมีงานทำก่อน แต่คนชอบก็มีบ้างค่ะ แต่ไม่นับว่าเป็นแฟน เป็นเพื่อนกันมากกว่า” ตอบเสร็จก็หันไปหาแม่ พี่ชาย และปรายลดา

คนตัวใหญ่ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามยิ้มไม่หุบ ตาเป็นประกายอย่างคนที่มีความสุข ใช่วันนี้ประภาษมีความสุขมากจริงๆ

“เยี่ยมเลยเพื่อน รอให้เรียนจบก่อนนะ ปรายลดาตบหลังเพื่อนเบาๆ” แล้วก็หัวเราะคิกคักกันสองคน สองสาวมีความสุขมาก “วันนี้เราต้องกินให้อิ่มนะกาน จะได้นอนหลับสนิทมีความสุข พรุ่งนี้เราจะได้ไปเที่ยวกันให้ฉ่ำปอดเลย ลุยยยย”

“เอ่อ..แล้วน้องปรายล่ะลูก ถามแล้วก็ต้องถามให้ครบน่ะ มีกันแค่สองสาวนี่ จะมีใครตาดีหลงเข้ามาหาหลานสาวคนสวยของอามากไหมเนี่ย” นางยุรีพูดขึ้น 

“โอ้ย....อายุรีขา มีถมเถไปค่ะ แต่ปรายไม่สนใจเอง รอให้เรียนจบก่อนค่ะ ปรายแค่ 22 เอง ไม่รีบค่ะอา ปรายอยากทำงานแล้วก็เที่ยวก่อนจะได้อยู่เป็นเพื่อนพ่อกับแม่นานๆ อยู่เป็นเพื่อนกกานด้วย ใช่ไหมกาน ทีนี้แหละฉันจะพาเธอไปเที่ยว ไหนๆบ้านเราก็มาอยู่ใกล้กันแล้ว”

“เธอขอคุณป้ากับพี่เธอรึยัง ที่เราจะไปกันพรุ่งนี้” ปรายลดาถามเพื่อนสาว เมื่อทั้งสองอยู่ในครัวกันสองคน เพิื่อมาเอาไวน์ และกับแกล้มไปเติม

“ยังเลย ไม่กล้าขอ” กานตาราตอบเพื่อนสาว ก็เธอไม่กล้าจริงๆนี่นา 

“อะไรเนี้ย....แล้วจะได้ไปไหมอ่ะ เหลืออีกไม่กี่วันปรายก็จะไปใต้แล้วนะ ถ้าไม่ไปตอนนี้แล้วจะไปตอนไหน ของปรายไม่มีปัญหาหรอก ยังไงพ่อกับแม่ก็ให้ไปอยู่แล้ว ปรายว่าคุณป้าก็คงไม่ว่าอะไร ติดที่พี่ชายเธอนั่นแหละ หวงจริงหวงจัง นี่อีกไม่กี่เดือนก็จะเรียนจบแล้วนะ ไม่ใช่เด็กแล้ว แค่ปราจีนเอง ไม่ได้ไปเหนือ หรือไปใต้สักหน่อย” หญิงสาวบ่นเพื่อนเลยไปถึงพี่ชายเพื่อน 

“โธ่...ปรายเธอก็รู้ ถ้าเกิดพี่ตะวันไม่ให้ไป ฉันก็ต้องไม่ไป เอาไว้วันหลังก็ได้ พี่ตะวันตามใจฉันมากแล้ว อีกอย่างวันนี้มีข่าวดีเรื่องคุณแม่กับพี่ตะวันจะซื้อที่ดิน แค่นี้ก็มีความสุขมากๆ ไม่ต้องไปเที่ยวก็ได้”

“อ้าว....ได้ไงอ่ะ คุยกันเสียดิบดี ไหงเป็นแบบนี้ ”

“อยากไปก็อยากไปแหละ แต่กานกลัวว่าจะกวนใจพี่ตะวันมากเกินไป เอาแค่พอดีนะปราย ถ้าไปกันสองคนพี่ตะวันไม่ให้ไปแน่ๆ แต่ถ้าพี่ชายฉันไปด้วยอาจได้ไป” เสียงกานดาราน่าสงสารมาก หญิงสาวก็เป็นแบบนี้ ขี้เกรงใจ ไม่ค่อยกล้า ไม่เหมือนปรายลดา 

“โถ...แม่คุณ คนดีของพี่ตะวัน ตามใจๆ ไม่ไปก็ไม่ไป ไว้วันหลังก็ได้เนาะ อยู่ใกล้ๆแค่นี้เอง อ่างเก็บน้ำไม่หนีหายไปหรอก ไปเมื่อไรก็ได้ ไม่ต้องคิดมากนะเธอ ปรายแค่อยากพากานไปเปิดหูเปิดตาแค่นั้นแหละ ป่ะ...เราออกไปข้างนอกกันเถอะ หายมานานแล้ว” 

“โอ๊ะ....มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะนี่ พี่ตะวันพี่ภาษ” สองสาวร้องออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ เมื่อหันมาเห็นตะวันและประภาษยืนขวางอยู่ที่ประตูห้องครัว 

สองหนุ่มหัวเราะเสียงดัง เมื่อเห็นหน้าตาของสองสาวตาตื่น เหมือนคนทำผิดแล้วถูกจับได้

“นี่พี่ๆ ได้ยินหมดแล้วเหรอคะ” ปรายลดา หน้าเหวอไม่กล้าสบตา พี่ชายเพื่อน

“พี่ได้ยินหมดแหละ และเชื่อไหม พี่ได้ยินแทบทุกครั้งที่นินทาพี่เลย นี่ปรึกษากันยังไม่เนียนเลยนะ เสียงดังขนาดนี้ใครบ้างจะไม่ได้ยิน ไม่รู้เหรอว่าตัวเราเสียงดังขนาดไหน ป่านนี้พวกป้า น้า อา ข้างนอกได้ยินกันหมดแล้วมั้ง ตะวันพูดขึ้น”

“ตายโหง....ได้ยินจริงๆ เหรอคะ” 

“ปราย....อะไรกันพูดจา สงวนปากสงวนคำหน่อยเรา เป็นผู้หญิง” ประภาษแกล้งดุหญิงสาว

“พี่ภาษ...อะไรกันนี่ นี่พี่ภาษไม่รักน้องแล้วเหรอ เมื่อก่อนไม่เห็นพี่ภาษเป็นแบบนี้เลย ได้เพื่อนใหม่แล้วลืมน้องเหรอคะ อะไรกัน ไม่เป็นไรหรอกก็ต้องตามนั้น ก็เรามันคนละรุ่น เด็กกับผู้ใหญ่ยังไงก็คิดไม่เหมือนกันหรอก” หญิงสาวบ่นก้มหน้างุด

“นี่ยังไม่สำนึกอีกเหรอปราย ขอโทษพี่ตะวันเขาเลย พี่เขาเป็นผู้ใหญ่กว่าปรายตั้งเยอะ ยังไงเขาก็เป็นพี่ เราเป็นเด็กมาพูดว่าเขาลับหลังมันก็ไม่ดีนะ ไม่น่ารักเลย ปกติปรายไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะ เดี๋ยวนี้เป็นอะไรไป” ประภาษพูดจริงจังกับหญิงสาว

“ปรายใจเย็น ๆนะ กานดาราจับแขนเพื่อนแล้วกระซิบเบาๆ”

หญิงสาวหันมามองหน้าเพื่อน เห็นหน้าตากานดารา แล้วก็สงสาร น้ำตาจะร่วงแล้ว

“ก็ได้ค่ะ ปรายขอโทษพี่ตะวันนะคะ ที่เคยนินทา แต่ปรายไม่ได้มีอะไรนะคะ แค่อยากพากานไปเที่ยวแค่นั้นเอง ถ้าปรายพูดจาไม่ดี ปรายขอโทษนะคะ” ไม่พูดเปล่าหญิงสาวเข้าไปกราบตะวันที่หน้าอกของเขา “ปรายขอโทษจริงๆ นะคะ ทีหลังปรายจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว มีอะไรจะพูดตรงๆค่ะ พี่ตะวันยกโทษให้ปรายนะคะ หญิงสาวจับแขนเขาทั้งสองข้างเขย่า นะคะพี่ตะวัน อย่าโกรธปรายเลยนะคะ”

คนที่โดนขอโทษตกใจที่หญิงสาวทำแบบนั้น ประภาษกับกานดารา ก็ตกใจเช่นกัน ทั้งสองตาโตไม่คิดว่าปรายลดาจะเข้าไปกราบขอโทษที่หน้าอกของตะวันแบบนั้น

“เอ่อ...ครับๆ พี่ไม่ได้โกรธน้องปรายเลย” ตะวันจับมือที่พนมไหว้เขาลง และเขาจับที่ต้นแขนของปรายลดาทั้งสองข้าง “ที่น้องปรายพูดมันก็ถูก พี่เข้มงวดกับน้องกานเกินไป ถ้าน้องปรายไม่พูดพี่ก็ไม่รู้ตัว แต่น้องปรายกับน้องกานรู้ไว้นะครับว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่ทำ เพราะพี่เป็นห่วง พี่มีน้องคนเดียว แถมเป็นผู้หญิงด้วย ก็ต้องห่วงมากเป็นธรรมดาแต่พี่ดีใจนะ ที่น้องสาวของพี่เป็นเด็กดี ไม่ดื้อรั้น เชื่อฟังแม่กับพี่มาตลอด พี่ก็ต้องขอบใจน้องกานด้วย ”

“สำหรับน้องปรายพี่ขอบใจที่เป็นที่ปรึกษาและเป็นเพื่อนที่ดีของน้องสาวพี่ คอยบอก คอยแนะนำแต่สิ่งดีๆให้ ที่พี่ตัดสินใจจะซื้อที่ดินที่นี่สำหรับปลูกบ้าน เพราะเหตุผลนี้แหละ แม่กับน้องจะได้อยู่กันอย่างมีความสุข สำหรับพี่อยู่ที่ไหนก็ได้ ไม่มีปัญหาเลย” 

ปากเขาก็พูดแต่ทั้งสองมือเขาก็ไม่ยอมปล่อยจากหัวไหล่ของหญิงสาว 

"พี่กลับต้องขอบใจน้องปรายเสียด้วยซ้ำ ไม่ต้องโทษตัวเองนะครับ เข้าใจไหม" เสียงเขาอบอุ่นยิ่งนัก จนหญิงสาวรู้สึกแปลกๆ

“เอาล่ะๆ เข้าใจกันก็ดีแล้ว นี่พวกพี่รอไวน์กันตั้งนาน จนต้องเดินตามเข้ามา ป่านนี้ข้างนอกเขาคงบ่นกันแล้ว ไปเถอะครับ ออกไปข้างนอกกันดีกว่า” ประภาษบอกกับทุกคน

ตะวันปล่อยมือจากหัวไหล่ปรายลดา ดูหน้าหญิงสาวตอนสำนึกผิดแบบนี้ ถ้าอยู่กันสองคนเพียงลำพังเขาคงโอบปลอบใจแล้ว