ปรายลดา หญิงสาวธรรมดาๆคนหนึ่ง เป็นตัวของตัวเอง รักแรกของเธอ ก็เจอคนเห็นแก่ตัวเสียแล้ว เอายังไงกับรักแรกดี ให้อภัยดีไหม แต่เขาก็ร้ายเหลือเกิน
รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ไทย,อื่นๆ,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)ปรายลดา หญิงสาวธรรมดาๆคนหนึ่ง เป็นตัวของตัวเอง รักแรกของเธอ ก็เจอคนเห็นแก่ตัวเสียแล้ว เอายังไงกับรักแรกดี ให้อภัยดีไหม แต่เขาก็ร้ายเหลือเกิน
“น้องปราย ลองหาดูหน่อยว่ามีรีสอร์ทไหม โรงแรมก็ได้ เอาที่สะดวก สะอาด ปลอดภัย พี่ว่าเราต้องค้างคืนแล้วล่ะ ถ้าทุกคนอยากเดินดูทุกที่ ตะวันกับน้องกานเคยมาที่นี่ไหมครับ” ประภาษเอ่ยถามสองพี่น้อง
“ยังไม่เคยเลยครับ เอาจริงๆ ภาคตะวันออกนี่อยู่ใกล้กรุงเทพฯแค่นี้เอง ผมไม่ค่อยเคยมาเลย ที่ไปบ่อยคือ ระยอง ไม่ก็จันทบุรี แต่ก็ไม่บ่อยมาก หนึ่งปีไปครั้ง ยิ่งช่วงพ่อเสีย พวกเรายิ่งไม่ได้ไหนกันเลย” ตะวันพูดและหันมองผ่านกระจกเลยไปหาคนนั่งข้างหลัง ที่กำลังก้มหน้าดูโทรศัพท์ เพื่อหาดูที่พักสำหรับคืนนี้
“น้องปรายเจอหรือยัง รึว่าเราจะเข้าไปเดินดูของก่อน แล้วค่อยออกมาหาที่พักทีหลัง”
“ไม่เอาดีกว่าพี่ภาษ หาเลยดีกว่า เพราะถ้าเราไปเดินก่อน กว่าจะออกมาเดี๋ยวค่ำ เราจะไม่มีเวลาดูห้องพักนะคะ เวลาเดินดูแล้วต้องเดินให้สุดค่ะ ปรายว่าปรายจะหาดูชุดเดรสฮาวายมือสอง ที่นี่มีเยอะมาก ช่วงนี้ลูกค้าชอบชุดฮาวายกัน ปรายจะเอาไปขายในเพจค่ะ”
“แหม....ที่มาเนี้ย มีจุดประสงค์นี่เอง พี่ว่าแล้วทำไมถึงเลือกรถกระบะ จะมาขนของไปขายนี่เอง”
ประภาษแซวหญิงสาว เขาชอบที่ปรายลดาเป็นแบบนี้ ชอบค้าขาย ฐานะที่บ้านของเธอไม่ต้องทำอะไรก็ได้ แต่ปรายลดา ชอบทำชอบขาย ขยัน อยู่ไม่นิ่งเหมือนน้ากรกนก
สมัยหญิงสาวยังเด็กๆ น่าจะประถม ปิดเทอมเธอขอไปทำงานที่ร้านกาแฟของเขา ได้กินขนมอร่อย ได้ทำงาน แค่นี้เด็กสาวก็มีความสุขมาก ปรายลดาก็เหมือนน้องสาวของเขา
“แหม..พี่ภาษ มันก็มีบ้าง ไหนๆ จะมาแล้ว ก็ต้องมีอะไรติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง”
“ชุดฮาวายนี่เป็นแบบไหนเหรอปราย” กานดาราสงสัย ที่สองพี่น้องคุยกัน
“ว่าแล้ว...กานต้องไม่รู้จักแน่ๆ” หญิงสาวเปิดรูปชุดฮาวายให้เพื่อนดู “นี่ไงกาน สวยไหม ของปรายมีเก็บไว้หลายชุด เดี๋ยวกลับไป ปรายพาไปดูที่ห้องปรายบนบ้านใหญ่ เอาไว้ใส่ไปเที่ยว จริงๆ ใส่ไปไหนก็ได้นะ สีมันสดดีปรายชอบมาก”
“โห....นี่ระบาย สีสันขนาดนี้เลยเหรอ ระบายหลายชั้นเลย สวยดีอ่ะ นี่ปรายชอบใส่แบบนี้เหรอ”
“ใช่ซิ ปรายมีหลายชุด หลายสี แบบเวอร์วังอลังการมาก ถ้าวันนี้ได้ของ ปรายจะเอาไปซักก่อน และถ่ายรูปลงขายในเพจ ดีล่ะ ให้กานใส่เป็นแบบให้ดีกว่า หุ่นดี ใส่อะไรก็สวย นะๆๆๆ เป็นแบบให้ปรายหน่อย ไม่ต้องเห็นหน้าก็ได้ ถ่ายแค่ชุด ปรายจะถ่ายแบบไม่ให้เห็นหน้า เอาแค่หุ่นและชุดก็พอ”
“พี่ตะวันคะ ปรายขออนุญาตให้กานเป็นแบบใส่ชุดถ่ายรูปให้ได้ไหมคะ” หญิงสาวถามคนข้างหน้า ต้องขอเขาก่อน “แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะคะ เดี๋ยวปรายใส่ถ่ายเองก็ได้” หญิงสาวพูดไปเรื่อยๆ
“อนุญาตเถอะตะวัน รีบเลยเพราะเดี๋ยวนายจะได้เป็นตากล้องให้ พี่ขอบายนะน้องปรายเข็ดแล้วกว่าจะถ่ายหมด เหนื่อยมาก ถ่ายให้ไม่พอยังบังคับให้ใส่อีก” ประภาษพูดไปหัวเราะไป
“ได้เลยครับ แต่พี่ขอดูชุดก่อนนะครับว่าประมาณไหน”
ขอบคุณค่ะพี่ตะวัน ไม่ต้องห่วงเลยค่ะว่าจะโป๊ มิดชิดทุกชุดค่ะ แต่สีจะสดนิดหนึ่ง ปรายก็ยังไม่แน่ใจนะคะวันวันนี้จะมีของไหม ไม่ได้มานานแล้วด้วย แต่ถ้าได้ก็ดี พี่ตะวันดูรูปในนี้ไปก่อนนะคะ ชุดจะประมาณนี้ ลองไล่ดูไปเรื่อยๆ ค่ะ แต่ว่าเป็นชุดมือสองนะคะ ไม่ใช่มือหนึ่ง หญิงสาวส่งโทรศัพท์ของตัวเองให้ชายหนุ่มดูรูปที่เคยถ่ายไว้
ไม่น่าเชื่อว่าปรายลดาจะใส่ชุดแบบนี้สวยมาก เขาเคยเห็นมาบ้างในหนังฝรั่ง เป็นชุดของคนผิวดำใส่ซะส่วนมาก สีสันสวยทีเดียว แบบก็แต่ละชุดก็อลังการมาก เขาไม่คิดว่าจะเป็นที่นิยมในประเทศไทย และเพิ่งรู้ว่า ราคาแรงทีเดียว สำหรับคนที่ชอบ ราคาเท่าไรก็ซื้อ แล้วคนใส่แต่ละชุดก็สวยมาก ชุดแบบนี้ยิ่งคนหุ่นดีๆใส่ยิ่งสวย อก เอว สะโพก ได้หมดเลย เขาไล่ดูรูปเพลินๆ สวยมากทุกรูป ยิ่งรูปที่หญิงสาวแต่งหน้ายิ่งสวยไปอีกแบบ เขาชอบทั้งสองแบบ ไม่แต่งหน้าก็สวย
เจ้าของโทรศัพท์หันกลับไปคุยกับเพื่อน เหมือนกับลืมไปแล้วว่าโทรศัพท์ตัวเองอยู่กับคนหน้านิ่ง ใจเธอตอนนี้ลอยไปถึงตลาดโรงเกลือแล้ว สมัยก่อนคราวที่ปิดเทอมใหญ่ เธอมาบ่อย จนสนิทกับแม่ค้า มีผ้าเข้ามาเมื่อไหร่ เขาก็จะโทรบอกเธอ บางทีเขาก็คัดให้เลย แต่หญิงสาวชอบมาเองมากกว่า ได้เลือกผ้าเอง มีอยู่ช่วงหนึ่งเธอได้กำไรจากการขายผ้ามือสอง ได้เป็นเงินเก็บพอสมควร และนับตั้งแต่นั้นมา เธอก็ทำเป็นงานอดิเรกตลอด
ทั้งหมดถึงโรงแรมที่จองไว้ ไม่ไกลจากตลาดโรงเกลือมากนัก แต่ก็ดูว่าปลอดภัย และสะอาด วันนี้คงไม่ทันแลัว ไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยออกไปเดินชมตลาดดีกว่า
เช้านี้ปรายลดาเธอคิดไว้ในใจว่าจะพากานดาราไปดูผ้ากันสองคน ปล่อยให้หนุ่มๆ เดินเที่ยวดูสินค้าตามลำพังผู้ชาย
ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มทั้งสองจะตื่น สองสาวก็เตรียมพร้อมแล้ว โรงแรมที่ทั้งหมดพักอยู่ในเมืองอรัญประเทศ สะดวกต่อการเดินทาง เรียกรถ หรือเช่ารถก็ได้
“ปราย เราบอกพี่ๆ ก่อนดีไหม เดี๋ยวมีปัญหา” กานดาราสะกิดหญิงสาว
ปรายลดาหันหน้ามามองเพื่อนก่อนจะทำหน้างอ
“อุตสาห์ตื่นแต่เช้าเพื่อจะหนีไปสองคน ยังจะให้บอกก่อนไปอีก โอ้ย...กานนี่ เป็นเด็กดีจริงๆเลย” หญิงสาวต่อว่าเพื่อนเบาๆ และยิ้มให้ในความเป็นเด็กดีของกานดารา
งั้นกานไปปลุกบอกพวกคุณชายทั้งสองเองนะ ปรายไม่ไปหรอก ไม่อยากเห็นหน้าคุณชายหน้านิ่ง หญิงสาวล้มตัวลงนอนดูรูปในโทรศัทพ์ต่อ คิดว่าจะปล่อยให้กานดาราไปบอกสองหนุ่ม ซึ่งพักอยู่ห้องถัดไปคนเดียว
“กาน...เดี๋ยวก่อน ไปด้วยกันก็ได้ ปรายไม่ได้รังเกียจอะไรพี่ตะวันนะ เอาเป็นว่าปรายไม่ได้พูดเมื่อตะกี้ ปรายขอโทษ เสียงอ้อนมาก ปรายก็พูดไปงั้นแหละ ไม่ได้รังเกียจพี่ตะวันเลยจริงๆ” หญิงสาวย้ำอีกรอบเธอไม่อยากให้เพื่อนไม่สบายใจ เห็นหน้ากานดาราเจื่อนๆ หญิงสาวก็รู้สึกว่าตัวเองพูดมากและแรงเกินไป รู้สึกผิดต่อเพื่อนมากที่ไปว่าพี่ชายเขาต่อหน้า
กานดาราถึงยิ้มออกมาได้ “งั้นเราออกไปพร้อมกันเลย ถ้าพี่ๆ เขาจะไปด้วย เราก็รอเขาสักหน่อยนะปราย คงไม่นานหรอก กานสงสารพี่ตะวัน” เด็กสาวพูดทำหน้าละห้อย นั่นยิ่งทำให้ปรายลดายิ่งรู้สึกผิดมากที่เธอเผลอพูดไปเมื่อกี้
หารู้ไม่ว่าสองหนุ่มมายืนรออยู่หน้าห้องสักพักแล้ว และได้ยินที่สองสาวคุยกันทั้งหมด ประภาษและตะวันมองหน้ากันยิ้ม นึกถึงหน้าคนในห้องตอนออกมาเจอ อยากเห็นว่าจะทำหน้ายังไง
จริงอย่างที่คิดไว้ อีกแล้วเหรอปรายลดา นี่เธอพูดอะไรไม่ได้คิดหน้าคิดหลังเลย เขาได้ยินหมดแล้ว ห้องแค่นี้พูดอะไร ทำอะไรก็ได้ยินถึงกันหมด อยากจะเอาปี๊ปคลุมหัว “พี่ภาษ พี่ตะวัน ได้ยินหมดแล้วใช่ไหมคะ”
“พี่ตะวันคะ ปรายขอโทษนะคะ ขอโทษๆๆๆ จริงๆนะคะ ปรายปากไม่ดีพูดเร็วไปหน่อย แต่จริงๆ ปรายไม่ได้รังเกียจ หรือคิดไม่ดีกับพี่ตะวันเลยนะคะ”
หญิงสาวระร่ำระลักพูดขอโทษขอโพย คนหน้านิ่งที่ยืนอยู่หน้าห้อง หน้าเขานิ่งอยู่แล้ว ยิ่งนิ่งเงียบขรึมไปกันใหญ่ เหมือนเขาไม่ได้ฟังเธอขอโทษเลย เดินไปโน้นแล้ว
“พี่ภาษ กาน ทำไงดีคะ พี่ตะวันไปโน้นแล้ว โอ้ย...ปรายนี่แย่จัง ไม่น่าเลย พี่ภาษช่วยหน่อยซิคะ”
“อะไรกันจะมาให้คนนั้นคนนี้ช่วย ทีเวลาพูดไม่เห็นต้องให้ใครช่วยพูดเลย นึกอยากจะพูดอะไรก็พูดออกมา ไม่คิดถึงจิตใจคนที่ได้ยินบ้าง พี่ช่วยไม่ได้หรอก น้องกานก็คงช่วยไม่ได้ ไปง้อเขาเอาเองล่ะกัน ไปๆ รีบไป” ทางนี้เดี๋ยวพี่ช่วยน้องกานขนของไปที่รถเอง แล้วเดี๋ยวจะตามไปที่ห้องอาหาร
ปรายลดา เดินตามตะวันมาทันที่หน้าห้องอาหารของโรงแรม เขานั่งลงที่โต๊ะอาหารสบายๆ เอาจริงๆ เขาก็ไม่โกรธหญิงสาวมากนัก แต่ก็น้อยใจนิดหนึ่ง ที่เธอไม่เคยมองเขาในแง่ดีเลย จะรอดูว่าจะขอโทษยังไงอีก เขารู้ว่าปรายลดาต้องตามเขามาแน่ๆ
หญิงสาวเติมตามเขามาที่ห้องอาหาร แวะไปตักอาหาร กาแฟสำหรับตะวัน และสำหรับตัวเอง “พี่ตะวันคะ” คนพูดหน้าสำนึกผิดสุดๆ
“เอ่อ...ปรายขอโทษพี่ตะวันนะคะ ที่พูดถึงพี่ตะวันไม่ดี ปรายไม่ควรพูดเลยค่ะ ปรายยอมรับผิดทุกอย่าง พี่ตะวันยกโทษให้ปรายนะคะ ปรายพูดไปด้วยความคะนอง แต่จริงๆ แล้วปรายไม่ได้รับเกียจหรือ ไม่ชอบพี่ตะวันเลยนะคะ ไม่มีเลยจริงๆ” หญิงสาวยกมือไหว้เขา
“ต่อไปปรายจะคิดก่อนพูดค่ะ” หน้าหญิงสาวตอนนี้ทุกข์มาก เธอรู้สึกผิดมากจริงๆ หลายครั้งที่พูดไม่ดีลับหลังเขา “ปรายรู้ค่ะว่าพี่ตะวันไม่ได้แย่อย่างที่ปรายเข้าใจ พี่ตะวันตามใจคุณป้า และกาน ยอมให้กานมาที่บ้านกับปราย ยอมให้ไปเที่ยวไหนต่อไหน ปรายคิดได้และรู้ค่ะ แต่ปรายก็ไม่เข้าใจตัวเองเลยว่า ทำไมยังมีอคติกับพี่ ทั้งๆที่พี่เป็นผู้ใหญ่มากกว่าปรายตั้งเยอะ” หญิงสาวพูดด้วยความสำนึกผิดในความคึกคะนองของตัวเอง
“ให้พี่ทำยังไงครับน้องปราย แล้วจะรับประกันได้ยังไงว่าต่อไปจะไม่พูดถึงพี่ในทางที่ตัวเองคิดฝ่ายเดียว ที่ผ่านมาพี่ก็บังเอิญได้ยินหลายครั้ง พี่ไม่ได้ถือสาอะไร แต่พี่ก็น้อยใจนะ ที่น้องปรายไม่เข้าใจพี่สักที” เขาบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงแคร์คำพูดของเด็กคนนี้มาก มากจนบางทีเขาก็เก็บไปคิดตลอดเวลา บางทีก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
“ปรายยอมรับผิดทุกอย่าง ไม่สัญญาไม่สาบาน แต่ปรายจะพยายามไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกนะคะพี่ตะวัน พี่ตะวันอย่าโกรธเลยนะคะ”
น่าจะสำนึกผิดจริงๆ อย่างที่ปากพูด สงสารก็สงสาร ใบหน้าสวยนั้นเหลือนิดเดียวจริงๆ เขาหายน้อยใจตั้งแต่ที่ได้ยินหญิงสาวบอกว่าไม่ได้รังเกียจเขาแล้วล่ะ แต่อยากแกล้งคนปากดีเล่นๆ ต่อไปเขาต้องยิ้มให้มากซินะ หญิงสาวจะได้ไม่เรียกเขาว่าคุณพี่หน้านิ่งอีก
“เอาล่ะๆ ไม่ต้องคิดมากแล้วนะครับคนสวย กินข้าวได้แล้ว พี่ไม่ได้โกรธน้องปรายเลย แค่แอบน้อยใจ แล้วตอนนี้ก็ไม่น้อยใจแล้วครับ พี่เป็นผู้ใหญ่แล้วนี่ถึงขนาดจะร้องไห้เลยเหรอ” เขาตกใจที่เห็นน้ำตาของอีกฝ่ายไหล รีบหยิบทิชชู่ให้หญิงสาวก้มหน้านิ่ง เขาเองก็ทำอะไรไม่ถูก ไม่คิดว่าเรื่องแค่นี้จะทำให้หญิงสาวร้องไห้ออกมา
ปรายลดารับทิชชู่มาจากมือเขา รีบซับน้ำตาตัวเอง ก็เธอรู้สึกผิดจริงๆ ไม่เสแสร้งเลย
“ขอบคุณค่ะพี่ตะวัน กินข้าวกันเถอะค่ะ กาแฟพี่ตะวันจะเย็นหมดแล้ว ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวปรายไปชงให้ใหม่ นี่พี่ภาษกับกานยังไม่มาอีก ไปไหนกันเสียแล้ว หญิงสาวมองหาประภาษและกานดารา”
บทจะเปลี่ยนอารมณ์ก็เปลี่ยนเร็วจัง เมื่อกี้ยังร้องไห้เสียใจอยู่เลยจู่ๆ ก็กลับมาเป็นปกติซะงั้น “ไม่ต้องห่วงสองคนนั้นหรอกครับ นั่งอยู่ฝั่งโน้น น่าจะกำลังกินข้าวกัน คงเห็นว่าเราหน้าตาเคร่งเครียดด้วยกันทั้งคู่ เลยไม่กล้าเข้ามาขัดจังหวะ น้องปรายกินข้าวเถอะครับ เดี๋ยวเราจะได้ออกไปดูผ้ากัน ไม่ต้องเศร้าแล้ว โอเคไหม คนดีของพี่”....เสียงเขานุ่มอบอุ่นจังเลย คนพูดเองก็แปลกใจกับคำพูดของตัวเองเหมือนกัน กับน้องสาวเขาก็ไม่เคยพูดแบบนี้เลย
“ได้เลยค่ะพี่ตะวัน เมื้อกี้ตอนที่ลงมาที่ห้องอาหาร ปรายเห็นคนใส่ชุดฮาวายด้วยค่ะ สวยมากๆ ต้องรีบไปที่ร้านแล้วล่ะ เห็นคนใส่แบบนี้ ของน่าจะมี โล่งใจจังเลยค่ะ นี่ค่ะกุ้งปรายแบ่งให้ พี่ตะวันจะได้มีแรงช่วยปรายแบกผ้า” หญิงสาวตักกุ้งในถ้วยของตัวเองแบ่งให้เขา ท่าทางแจ่มใสขึ้นมาทันที ต่อไปนี้เธอจะมีสติให้มากๆ จะคิดก่อนพูดเสมอ หญิงสาวตั้งปณิธานไว้ในใจ และมองหน้าเขานิ่งยิ้มหวานให้คนตรงหน้าอย่างดีใจ
“เป็นไงอิ่มกันแล้วใช่ไหม” ประภาษและกานดาราเดินเข้ามาหาทั้งสองคน
“เห็นว่าเคร่งเครียดกันเลยไม่เข้ามาหา เรียบร้อยแล้วใช่ไหม ไปกันได้แล้ว เดี๋ยวแดดจะร้อน สงสารคนคัดผ้า” ประภาษพูดแล้วก็ยิ้ม เขายังจำได้สมัยก่อนที่มาเป็นเพื่อนปรายลดา เวลาเธอคัดผ้า เขาแสนจะเซ็ง นั่งรอนั่งเฝ้าเป็นนานสองนานกว่าจะเสร็จ กว่าจะได้ของครบ คราวนี้เขาเดาเอาว่า มีคนเฝ้าแทนเขาแล้ว ประภาษคิดในใจและยิ้มอย่างอารมณ์ดี
กานดาราเข้ามาโอบไหล่เพื่อน “เป็นไงเธอ สบายใจได้แล้ว เราไปคัดผ้ากันเถอะ ฉันอยากเห็นชุดฮาวายแล้วล่ะ อยากใส่ อยากเป็นนางแบบแล้ว”
กานดาราเอ่ยขึ้น พร้อมตบหลังปรายลดาเบาๆ ให้กำลังใจเพื่อนสาว
“ขอบใจนะกาน ปรายพร้อมแล้ว วันนี้ต้องโชคดีแน่ๆ” หญิงสาวรู้สึกสบายใจและโล่งใจจริงๆ