ปรายลดา หญิงสาวธรรมดาๆคนหนึ่ง เป็นตัวของตัวเอง รักแรกของเธอ ก็เจอคนเห็นแก่ตัวเสียแล้ว เอายังไงกับรักแรกดี ให้อภัยดีไหม แต่เขาก็ร้ายเหลือเกิน
รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ไทย,อื่นๆ,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)ปรายลดา หญิงสาวธรรมดาๆคนหนึ่ง เป็นตัวของตัวเอง รักแรกของเธอ ก็เจอคนเห็นแก่ตัวเสียแล้ว เอายังไงกับรักแรกดี ให้อภัยดีไหม แต่เขาก็ร้ายเหลือเกิน
"กินน้ำเต้าหู้แล้วคิดถึงที่บ้านปรายเนาะ ที่เราออกไปช่วยลุงกับป้าขายน้ำเต้าหู้ กานว่าที่บ้านปรายอร่อยกว่าเยอะเลยนะ หรือเราชินทางโน้น กานว่าจะซื้อของไปฝากป้ากับลุงสักหน่อย แต่คิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรดี"
" ปรายซื้อผ้าถุงมาฝากป้า กางเกงเลมาฝากลุง จริงๆ กานไม่ต้องซื้อหรอก หรือแล้วแต่กานล่ะกัน เผื่ออยากให้ ไว้เราค่อยหาดูพรุ่งนี้ก็ได้ หลังจากกลับจากโรงงาน"
"ทุกคนครับ เดี๋ยวภาษจะเข้ามานะครับ เขาเข้ามาธุระเรื่องกาแฟที่กรุงเทพฯ ผมเลยชวนเขามาพักบ้านเรา พอดีเลยจะได้กลับพร้อมกันวันมะรืน เราก็จะได้คืนรถภาษด้วย ดีเหมือนกันนะครับ แม่ ผมจะได้ดูแบบบ้านกับเขาเลย เดี๋ยวให้ภาษนอนห้องเดียวผมเลยล่ะกันนะครับ"
"แล้วพี่ภาษมารถอะไรคะพี่ตะวัน" ปรายลดาถามชายหนุ่ม
"มากับเพื่อนครับ เขาเห็นว่าเราจะกลับบ้านกันวันมะรืนก็เลยจะกลับด้วย ผมรบกวนแม่เตรียมที่นอนให้ภาษด้วยนะครับ พวกชุดเครื่องนอน ผ้าเช็ดตัว"
"เดี๋ยวกานไปเตรียมให้ก็ได้ค่ะ จะได้ไม่ลำบากแม่ขึ้นลง ปรายไปช่วยกานหน่อยนะ "
สองสาวขึ้นไปข้างบนอีกครั้ง เพื่อเตรียมที่นอนให้ประภาษ
"เดี๋ยวเราไปเอาผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม หมอน ผ้าเช็ดตัวก่อนนะ ตู้เก็บผ้าอยู่ที่ห้องอีกห้อง สงสัยผู้ชายเขาคงอยากคุยกัน จริงๆให้พี่ภาษนอนห้องรับแขกก็ได้ แต่ช่างเถอะ นอนไหนก็เหมือนกัน" กานดาราพูดเบาๆ
สองสาวขนผ้าเข้าไปในห้องตะวัน ไม่น่าเชื่อว่าห้องผู้ชายทำไมกว้างขวางจัง ใหญ่กว่าห้องกานดาราอีก "ทำไมห้องพี่ตะวันมีสองเตียงอ่ะกาน" หญิงสาวเห็นมีเตียงใหญ่ 1 เตียง มุมห้องฝั่งเดียวกัน มีเตียงขนาดเล็กอีก 1 เตียง
"เตียงเล็กเป็นเตียงสมัยพี่ตะวันยังเด็กๆ แต่พอโตขึ้น เลยซื้อเตียงใหญ่ แต่เราไม่รู้จะเอาเตียงเล็กไปไว้ไหน เลยยังอยู่ในห้องนี้ บางทีพี่ตะวันก็สลับนอน เมื่อก่อนห้องกานก็มี แต่ห้องกานมีตู้เสื้อผ้าเยอะ เลยต้องเอาเตียงเล็กออกไปไว้ที่ห้องรับแขก"
"สมัยวัยรุ่นเพื่อนพี่ตะวันก็จะมานอนกันในห้องนี้ หลังๆ พี่ตะวันก็เลยทำเป็นที่วางของบ้าง สรุปคือใช้สองเตียง เห็นไหมว่ามีทั้ง หนังสือ กีตาร์ งานของพี่ตะวัน อยู่บนเตียงเล็กเต็มไปหมด ปกติแม่กับป้านวลจะเป็นคนทำ แต่ป้านวลคงนอนแล้ว กานไม่อยากให้แม่ขึ้นลง เดี๋ยวนี้กานก็สามารถทำอะไรได้ด้วยตัวเองหลายอย่างแล้วนะปราย ดีใจมากเลย ถ้ากานไม่รู้จักปราย กานคงยังเป็นลูกแหง่ของแม่เหมือนเดิม ไม่กล้าทำอะไร ขอบมากเลยนะ ปรายเข้ามาในบ้านเรา มีแต่สิ่งดีๆ เกิดขึ้น พี่ตะวันก็เปลี่ยนไป แม่ก็มีความสุขมากขึ้น"
"ปรายดีใจกับกานด้วยนะ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลง ปรายยินดีช่วยทุกอย่างเลย ถ้าช่วยได้"
"เดี๋ยวเราเปลี่ยนให้พี่ตะวันด้วย เปลี่ยนเครื่องนอนทั้งชุด สองสาวช่วยกันไม่นานก็เสร็จเรียบร้อย ไม่ต้องดูดฝุ่น เพราะเมื่อวานป้านวลขึ้นมาทำให้แล้ว เสร็จเรียบร้อย ป่านนี้พี่ภาษคงใกล้มาแล้ว " กานดาราจูงมือปรายลดาลงมาข้างล่าง
"ภาษยังมาไม่ถึง เห็นบอกว่ารถติด คุณแม่เลยขึ้นไปพักผ่อนแล้ว เดี๋ยวพี่จะออกไปซื้อเครื่องดื่มสักหน่อย จะออกไปด้วยกันไหม พี่นัดภาษไว้ที่ร้านสะดวกซื้อ ปากซอย"
"ไปค่ะ" สองสาวตอบพร้อมกัน คนชวนหันมายิ้มอย่างเอ็นดู
"งั้นก็ไปกันได้เลย ทำอะไรกันอยู่ทำไมขึ้นไปกันนานจัง ตะวันถามสองสาว"
"กานกับปรายช่วยกันเปลี่ยนผ้าปูที่นอนเตียงพี่ตะวันด้วยค่ะ มัวแต่เก็บของออกจากเตียงเล็ก เลยช้า อยากให้พี่ตะวันนอนสบายๆ กานดาราตอบคำถามของพี่ชาย ตั้งแต่พี่ตะวันไปใต้ ยังไม่ได้เปลี่ยนเลย แต่ป้านวลขึ้นไปดูดฝุ่นให้แล้ว"
"พี่ขอบคุณทั้งสองคนเลย นะครับ เดี๋ยวพี่มีรางวัลให้" คนพูดเจาะจงยิ้มให้กับคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า สายตาเขาไม่ละไปจากใบหน้าสวยของปรายลดาเลย
"ไปๆ เดี๋ยวจะดึก" ตะวันเดินนำหน้าสองเสาไปขึ้นรถ ตะวันตั้งใจซื้อเครื่องดื่มรอประภาษ คืนนี้เขามีเรื่องจะคุยกับประภาษเยอะแยะไปหมด ประภาษน่าจะให้คำปรึกษากับเขาได้ดีทีเดียว
สาวๆ เข้าร้านสะดวกซื้อเลือกซื้อขนม น้ำหวาน ของใช้ส่วนตัวตามประสาผู้หญิง
ตะวันเลือกซื้อเครื่องดื่ม และกับแกล้ม ปกติเขาไม่ค่อยสนิทกับใครง่ายๆ ด้วยเพราะหน้าที่การงานของ นอกจากเพื่อนรุ่นเดียวกัน ก็มีประภาษนี่แหละ นึกแล้วเขาก็อดขำตัวเองไม่ได้ แรกเลยที่เห็นประภาษเองเขาก็เคยเข้าใจผิด คิดว่าภาษชอบปรายลดา แต่พอได้พูดคุยกัน ทำให้เขารู้ว่าไม่ได้เป็นแบบที่เขาคิดเลย
"สวัสดีค่ะพี่ภาษ แหม....มาเร็วดีจังนะคะ เหาะมาเหรอคะพี่ภาษ เมื่อกี้ยังบอกว่าอยู่ตั้งไกล" ปรายลดายกมือไหว้ประภาษ และทักทายเขา
ไก็พี่ชินทางแล้ว นี่พี่นั่งวินมาเลยนะ เร็วดี รถติดมาก แท็กซี่ไม่ค่อยว่างเลย "
"สวัสดีค่ะพี่ภาษ" กานดารายกมือไหว้ประภาษ เธอไม่ค่อยกล้าคุยกับเขาเท่าไหร่ เขาเป็นผู้ใหญ่กว่าเธอมาก หลายครั้งที่ประภาษแวะมาที่บ้านเธอ ส่วนมากเขาจะคุยกับแม่ เอาแบบบ้านมาให้แม่กับเธอดู เวลาที่เขามาธุระที่กรุงเทพฯ ก็จะแวะมาทานข้าวที่บ้านเธอตลอด หรือไม่ก็เอาผลไม้จากสวนแวะมาฝาก ทั้งของที่ไร่เขา และไร่ของปรายลดา บางทีเขาก็อาสาไปส่งเธอที่ฝึกงาน ถ้ายังไม่กลับนครนายก เขาก็ชวนกินข้าวกลางวัน เธอก็จะพ่วงเพื่อนๆไปด้วยเสมอ
"สวัสดีครับน้องกาน เป็นไงบ้างฝึกงานเสร็จแล้วใช่ไหม อีกหน่อยก็รองานรับปริญญาซินะ พี่มีของฝากสาวๆ ทั้งสองคนด้วยนะ คิดว่าคงถูกใจแน่ๆ ตะวันไปไหนแล้วครับ"
"พี่ตะวันเข้าไปซื้อเครื่องดื่มเพิ่มค่ะ เห็นว่าไม่น่าจะพอ ขี้เกียจออกมาซื้ออีก " ปรายลดาตอบคำถามพี่ชาย
"สบายดีแต่ช่วงที่ปรายไม่อยู่พี่ขึ้นกรุงเทพฯ บ่อยหน่อย เหงาเหมือนกันนะ สาวๆไม่อยู่ ไม่รู้จะเลี้ยงน้ำใคร ต่อไปพี่คงไม่เหงาแล้ว โน้นตะวันมาแล้ว ไปกันเถอะ พี่หิวข้าวจะแย่แล้ว อุตสาห์หิ้วท้องเพื่อมากินข้าวบ้านน้องกานเลยนะ พี่มีลอดช่องเจ้าดังมาฝากด้วย"
"ดีงามมากเลยค่ะ พี่ภาษนี่รู้ใจน้องมากเลย ปรายลดารับถุงลอดช่องจากประภาษ เสร็จเราปรายจะกินคืนนี้แหละ ใช่ไหมกาน ยังเย็นๆอยู่เลย พี่ภาษนี่น่ารักตลอดเลย กลับบ้านครั้งนี้ พาพวกเราเที่ยวอีกนะคะ พี่ภาษยังค้างทริปพวกเราอีกหลายทริปเลย จำได้ไหมคะ"
"ได้เลยยินดีมาก เคลียร์งานตัวเองให้ได้ก่อนเถอะน้องปราย ผ้าเรายังกองอยู่หลายกระสอบ ได้ข่าวว่าได้มาอีกใช่ไหม ชุดฮาวายทั้งหลายแหล่ของเราน่ะ"
"พี่ภาษรู้ได้ไง กานยังเพิ่งรู้เลย คุยกับพี่ตะวันเหรอคะ" ปรายลดางงนิดหน่อย
"ก็ใช่ไง พี่ก็คุยกับตะวันบ่อยๆ ไม่เห็นเป็นไรเลย เป็นเพื่อนกันก็ต้องคุยกันเป็นธรรมดา น้องปรายยังคุยกับน้องกานทุกวันเลย ไม่เห็นแปลก อย่าถามนักเลย รีบไปบ้านเถอะพี่หิวจะแย่แล้ว"
"ไงตะวัน ได้อะไรบ้าง โอ้โห...นี่ดื่มหมดลังนี่ พรุ่งนี้ผมต้องขอนอนที่บ้านอีกคืนนะ" ปากเขาคุยกับตะวัน แต่สายตาเขามองหน้าคนที่นั่งเบาะหลัง ผู้หญิงนี่เขามีเรื่องให้คุยกันตลอดเวลาซินะ ตั้งแต่ขึ้นรถจนถึงบ้านสองสาวก็ยังคุยกันไม่หยุด แถมแย่งกันพูดบางเวลา
"เดี๋ยวปรายไปเตรียม จาน ช้อน ให้นะคะพี่ตะวันไ
"ขอบคุณมากครับน้องปราย พี่ขอแก้วด้วยนะครับ หรือถ้าสาวๆ อยากจะชิม ก็เตรียมแก้วมา ดื่มที่บ้านเราไม่อันตราย เมาแล้วก็นอนได้เลยไ
ทั้งตะวันและประภาษ นั่งดื่มกันสองคน พูดคุยสัพเพเหระ สองคนคุยถูกคอกันดีมาก ปกติตะวันจะเป็นคนที่เงียบขรึม ไม่ค่อยพูด แต่กับประภาษเขาคุยได้ตลอด คุยได้ทุกเรื่อง
"เป็นไงบ้างปราย ลอดช่องอร่อยไหม" กานดาราถามเพื่อนสาว
"ก็อร่อยดีนะ ตัวเล็กหวานเจี๊ยบ แต่ปรายติดแถวบ้านมากกว่า ปรายชอบตัวอ้วนๆใหญ่ๆ น้ำกะทิมันๆ หวานกำลังดี เดี๋ยวถ้ากลับบ้านปรายจะพากานไป เที่ยวตลาดสดในเมือง ที่นั่นมีของกินแปลกๆ ที่ชาวบ้านเขาเอามาขาย อร่อยมาก"
" กาน ปรายมีอะไรจะเล่าให้ฟัง" หญิงสาวพูดเบาๆ กับกานดารา
"อะไรเหรอปราย" กานดาเสียงเบาตามปรายลดา สองสาวหันหน้าเข้าหากัน
"นี่ไง ดูซิ ไปรายลดาเอาโทรศัพท์ให้กานดาราดู
กานดาราตาโต ยกมือปิดปาก "จริงเหรอปราย เป็นไปได้ไง ไม่อยากจะเชื่อเลย นี่พี่เขาทักมาเองเหรอ ไหนๆ ขอดูชัดๆ หน่อย"
กานดารา รับโทรศัพท์ของปรายมาดูชัดๆ "กานไม่อยากจะเชื่อเลย" หญิงสาวดูข้อความในโทรศัพท์แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
"ทีแรกปรายคิดว่าไม่ใช่ คุยไปคุยมา น่าจะตัวจริง ปรายเข้าไปดูในไอจีพี่เขาด้วยแหละ ใช่เลย ปลื้มอ่ะ ปรายไม่รู้ว่าพี่เขาเอาเบอร์มาจากไหน เพราะเบอร์ปรายใช้เป็นไลน์ด้วย ทีแรกปรายเข้าใจว่าเป็นลูกค้า เลยกดรับเพื่อน แต่พอพี่เขาทักมา นี่คือตัวจริง มากดถูกใจเพจปรายด้วยนะ"
"จริงอ่ะ หูย....ดีงาม อิ่มยัง เราขึ้นไปคุยกันที่ห้องกานเถอะ"
"อิ่มพอดี เราเก็บถ้วยขนมไปล้างก่อน ป่ะกานลุกเร็วๆ"
"พี่ๆ ค่ะ กานกับปรายขอตัวขึ้นไปนอนก่อนนะคะ พี่ๆ จะได้คุยกันตามสบาย เจอกันพรุ่งนี้เช้าค่ะ"
"มีอะไรกันสาวๆ นี่เพิ่งสองทุ่มกว่าเอง ทำไมรีบขึ้นกันจัง" ประภาษบ่นตามหลังไป
ตะวันจะไม่คิดอะไร ถ้าปรายลดาไม่ทำท่าตื่นเต้นดีใจขนาดนั้น เขารู้สึกได้ ทำไมต้องดีใจมากมาย แล้วมีอะไรในโทรศัพท์ของหญิงสาว ทำไมต้องรีบขึ้นไปคุยกันข้างบน แถมตอนนั่งอยู่ก็แอบซุบซิบกัน ตะวันสงสัยมาก เขายังไม่ชินกับการมาอยู่ที่บ้าน อยู่ใต้เขากับปรายลดาเห็นกันทั้งวัน อยู่ด้วยกันตลอดเวลา ถึงแม้บางครั้งจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ต่างคนต่างอยู่ แต่ก็อยู่กันสองคนในบ้าน ปรายลดาอยู่ในสายตาเขาตลอดเวลา เขาชินกับการเป็นอยู่แบบนั้นแล้ว
แต่พอกลับมาบ้าน หญิงสาวเจอน้องสาวเขา สองสาวคุยกันสนุกสนาน น้องปรายไม่สนใจเขาเลย หรือเขาคิดไปเอง แล้วเมื่อกี้ใครทักน้องปรายมา คงไม่ใช่ผู้หญิงหรอก เขาเดาเอาว่า ต้องเป็นคนที่น้องปรายปลื้มแน่ๆ น้องกานต้องรู้จัก ไม่งั้นสองสาวไม่แสดงอาการตื่นเต้นขนาดนั้น
"ตะวันคุณดูแบบบ้านหรือยัง หรือแล้วแต่คุณป้ากับน้องกาน ผมส่งแบบมาให้เลือกแล้ว ถ้าได้แบบ ผมจะได้ให้น้องเขียนแบบให้ กลับบ้านครั้งนี้ก็ถมที่ได้เลย ถ้าไม่ถมก็ไม่เป็นไรนะ ที่ก็สูงอยู่แล้ว ตรงนั้นสร้างบ้านเด่นมาก หน้าบ้านทำอะไรได้หลายอย่าง อยู่ได้อย่างสบายๆ "
"ผมเอาแบบที่แม่กับน้องผมเลือกไว้เลย ตามนั้น แต่ผมอยากให้หน้าบ้าน เป็นร้านกาแฟ หรือร้านอาหารเล็กๆ ทำเผื่อไว้ให้แม่กับน้องกาน เผื่อเขาอยากทำอะไรขายเล็กๆน้อยๆ แก้เหงา อยากปลูกบ้านลึกเข้าไปสักหน่อย เวลานอนหรือเวลาที่เราพักผ่อนอยู่บ้าน ผมไม่อยากได้ยินเสียงรถ หรือเสียงคน ที่ดังมาก อยากให้บ้านเป็นที่ๆเราพักผ่อนจริงๆ ไ
"แล้วก็ในบ้านผมอยากได้ห้องทำงาน ส่วนตัว และก็ห้องทำงานของน้องกานแต่ขอเป็นคนละฝั่งกับห้องทำงานของผมนะ อย่างที่บอกผมชอบเงียบๆ"
"ได้เลยเดี๋ยวผมร่างแบบคร่าวๆมาให้ดู ทีแรกผมว่าจะให้น้องออกแบบให้ เดี๋ยวผมทำเองดีกว่า มีอะไรจะได้บอกและแก้กันได้เลย ผมก็จะได้รู้ความต้องการของทุกคนด้วย ว่าชอบแบบไหน"
"ตะวันผมถามอะไรหน่อย กับน้องปรายถึงไหนแล้ว บอกน้องไปรึยัง ว่าคุณรู้สึกยังไง"
"ผมบอกแล้ว ใจผมให้หมดเลย แต่น้องคุณนี่บางทีผมก็ดูไม่ออกเลย ว่าเขาคิดยังไง หรืออาจเป็นเพราะว่าเขายังเด็ก ยังไม่คิดอะไรแบบนี้ ภาษ"คุณเข้าใจผมไหม ผมนี่อยากแต่งเสียเร็วๆนี้เลย"
ตะวันพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและจริงจัง ตั้งแต่ถึงบ้านใจเขากระวนกระวายมาก แค่ไม่เห็นปรายลดา เขาก็หงุดหงิดแล้ว เขาอยากย้อนเวลา ตั้งแต่วันที่หญิงสาวออกมาจากป่าวันแรก ช่วงนั้นเขามีความสุขมาก ได้ดูแลหญิงสาวตลอดเวลา เธออยู่ในสายตาเขาตลอด
"ใจร้อนจังเลย รออีกสักหน่อยเถอะ ผมรับรองน้องปรายไม่มีใครหรอก เชื่อผม ต้องให้เวลาแกหน่อย น้องปรายเขาไม่เคยรักใคร แต่ไปอยู่ใต้ด้วยกัน ผมว่าแกก็รู้แหละ รอให้รับปริญญาเสร็จก่อน พ่อกับแม่เขาก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ทุกคนยอมรับคุณ เชื่อผมเถอะน่า"
"แล้วเมื่อกี้ที่เขาซุบซิบกันเดี๋ยวผมสืบให้ ไม่มีอะไรหรอก เด็กสาวๆก็แบบนี้แหละ มาดื่มๆ พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว ค่อยว่ากัน จะได้นอนหลับดี ผมเข้าใจและเอาใจช่วยคุณตลอดนะตะวัน เชื่อผมน้องปรายไม่มีใคร คุณลองคิดดูตอนที่อยู่ใต้ น้องปรายเคยมีแบบนี้ไหม เคยโทรหาคนอื่น หรือคนอื่นเคยโทรหาน้องปรายไหม ก็มีแต่คุณคนเดียวที่อยู่กับเขา น่าใจเย็นๆ ผมรับรองไม่มีใครหรอก"
ถึงจะได้ยินคำรับรองจากประภาษแล้วเขาก็เบาใจไปหน่อยนึง จริงอยากที่ประภาษพูด นี่เขาเป็นเอามาก ผิดวิสัยเขาจริงๆ จากที่เคยเป็นคนนิ่งๆ พอมารู้จักปรายลดา ใจเขานิ่งไม่ได้เลย คนที่เขาคิดถึงจะรู้สึกตัวไหมนะ เขาอยากรู้ว่าเธอจะคิดถึงเขาบ้างไหม ใช้เวลาใกล้ชิดกันตั้งหลายวัน ถ้าปรายลดาไม่คิดอะไรเลย นี่ถือว่าแปลกมากๆ แต่เวลาที่เธออยู่กับเขา หญิงสาวก็ทำตัวน่ารักมาก คิดอีกทีก็ดีมากแล้ว ที่ยังได้อยู่บ้านเดียวกัน ถึงจะนอนคนละห้อง ก็ยังรู้ว่าอยู่บ้านเดียวกัน เขาไม่อยากเก็บความรู้สึกไว้คนเดียว เขาอยากให้เธอรู้ด้วยว่าเขารู้สึกยังไง และอยากแต่งงานกับเธอมากขนาดไหน