ปรายลดา หญิงสาวธรรมดาๆคนหนึ่ง เป็นตัวของตัวเอง รักแรกของเธอ ก็เจอคนเห็นแก่ตัวเสียแล้ว เอายังไงกับรักแรกดี ให้อภัยดีไหม แต่เขาก็ร้ายเหลือเกิน
รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ไทย,อื่นๆ,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
รักของปรายลดา(อ่านฟรีจนจบ)ปรายลดา หญิงสาวธรรมดาๆคนหนึ่ง เป็นตัวของตัวเอง รักแรกของเธอ ก็เจอคนเห็นแก่ตัวเสียแล้ว เอายังไงกับรักแรกดี ให้อภัยดีไหม แต่เขาก็ร้ายเหลือเกิน
“ผ้าใกล้หมดหรือยังปราย อยากเปลี่ยนบรรยากาศถ่ายรูปไหม ก้อยกำลังจะขึ้นดอย จำได้ไหมที่ก้อยเคยเล่าให้ฟัง สนใจไหม ถ้ายังไม่อยากลงใต้ ลองขึ้นดอยกัน เราหารทุกอย่างกันคนละครึ่ง ก้อยคิดถึงเด็กๆ ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง พวกเขาคงรอก้อย ถ้าปรายสนใจ ก้อยจะได้ไม่ต้องให้พี่เอกขึ้นไปส่ง ก้อยมีของไปฝากน้องๆ เยอะเลย ทั้งที่ได้รับบริจาค และที่เก็บสะสมไว้ คิดอยู่ว่าจะขนขึ้นไปยังไง ถ้าพี่เอกไม่ว่างไปส่ง”
“ได้ซิ หญิงสาวตอบโดยไม่ต้องคิด ปรายอยากไป คิดไว้นานแล้วเหมือนกัน จริงๆ ผ้าปรายยังไม่หมด แต่ไม่เป็นปัญหา ไปได้เสมอ ดีเหมือนกันนะ ปรายจะได้อยู่ที่นี่จนหมดหนาว ก้อยคิดว่าจะอยู่นานขนาดไหน”
“ก้อยแพลนไว้หกเดือน ขอพ่อกับแม่ไว้แล้ว ไหนๆ ท่านก็ไม่อยากให้ไปทำงานที่อื่น ให้ช่วยที่บ้าน ก่อนที่จะทำงานก็ขอเที่ยว และทำประโยชน์สักหน่อย เห็นเพื่อนก้อยบอกว่า ครูขาดหนึ่งคน เราไปช่วยกันสอนน้อง ๆดีไหม ก่อนที่ครูคนใหม่จะมา คงมีประโยชน์บ้าง”
“ดีงามมากเลยก้อย อยู่กับเด็กๆ สนุกดี งั้นก้อยไม่ต้องกวนพี่เอกหรอก เอารถปรายไปกัน เราจะไปเมื่อไหร่ดี ปรายจะได้บอกคืนห้องเช่า”
“อีกสักสามวันไหมปราย ก้อยขอจัดการพวกของที่จะต้องขนขึ้นไปก่อน จะคุยกับที่บ้านด้วย งั้นก้อยเตรียมของเสร็จวันไหน แล้วเดี๋ยวโทรบอกปรายนะ”
“ได้เลย ปรายก็จะได้เตรียมของไว้ เตรียมรถ คิดแล้วก็สบายใจจังเลยนะก้อย”
สองสาวนั่งคุยกันที่ร้านกาแฟ อากาศเริ่มหนาวแล้ว ปิ่นอนงค์ เลิศอนันต์ หรือก้อย เป็นเพื่อนของปรายลดาสมัยเรียนมัธยม เดิมอยู่นครนายกด้วยกัน ภายหลังครอบครัวย้ายมาอยู่เหนือ เลยทำให้ทั้งสองห่างกัน เมื่อคราวที่ปรายลดามาฝึกงาน ก็ได้มาอาศัยอยู่ที่บ้านของก้อย พ่อกันแม่ก้อยเอ็นดูหญิงสาวไม่น้อย เธอขอร้องท่านทั้งสองว่า ไม่ต้องส่งข่าวให้ที่บ้านรู้ ซึ่งครอบครัวก้อยก็ยินดี ไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว
นิสัยก้อยค่อนข้างคล้ายปรายลดา ที่บ้านฐานะค่อนข้างดี ไม่ลำบาก เป็นลูกสาวคนเดียว ก้อยกับพี่เอกคบกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ทั้งสองรักกันมาก แต่ยังไม่มีแพลนว่าจะแต่ง เพราะอยากใช้ชีวิตโสดให้เต็มที่ก่อน หมือนปราย ทั้งสองเลยคุยกันถูกคอ จริงๆ ก้อยต้องไปต่อปริญญาโท ที่อเมริกา แต่ที่บ้านไม่มีคนสืบทอดกิจการ ทำให้ต้องตัดสินใจไม่ไป ช่วยกิจการที่บ้านดีกว่า แต่อย่างที่บอกว่าก่อนที่จะทำงาน และแต่งงาน ขอเที่ยว และใช้ชีวิตให้เต็มที่ก่อน ทางครอบครับของเธอก็ไม่มีปัญหา
สองสาวเดินทางขึ้นดอยกันเพียงลำพังกันสองคน มีของฝากสำหรับเด็กๆ แน่นรถ
“ใจดีขึ้นบ้างหรือยังล่ะปราย เล่าให้ฟังหน่อย เผื่อก้อยเจอเหตุการณ์แบบนี้ จะได้ตั้งรับถูก”
“ยังหรอกก้อย คงต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย แต่ปรายคิดว่าไม่ยากหรอก”
เกือบห้าเดือนแล้วที่หญิงสาวใช้ชีวิตอิสระในจังหวัดนี้ ปิ่นอนงค์มาพักด้วยบ้าง บางคืนเธอก็ไปพักที่บ้านเพื่อน ปรายลดามีความสามารถเรื่องภาษา ซึ่งเธอก็ไม่เคยเล่าให้ใครฟัง แม้กระทั่งกับกานดารา เธอมาอยู่ที่จังหวัดนี้ เมืองนี้ รับแปลงาน รายได้ค่อนข้างดีทีเดียว อยู่ได้แบบไม่ลำบากเลย ว่างเธอก็ขายผ้าของเธอไป ซึ่งผลตอบรับก็ดีมากๆ ขอให้มีของเถอะ ขายได้ตลอด งานทั้งสองอย่างไปได้ดีมาก จนบางวันเธอไม่มีเวลาออกไปถ่ายรูปชุดเลย มีโนตบุคและอินเตอร์เนต เธอก็อยู่ได้แล้ว มีเงินเข้าบัญชีเรื่อยๆ ถึงแม้ไม่มาก แต่ก็อยู่ได้สบายๆ
ปรายลดาเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบให้ปิ่นอนงค์ฟัง เธอเริ่มใจไม่เต้นแล้ว แรกๆ คิคถึงเรื่องนี้มาทีไร ใจเธอเต้นแรง ทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ ความน้อยเนื้อต่ำใจ หลายๆอย่าง ส่งผลให้เธอมาอยู่ที่นี่ตอนนี้
“ก้อยเข้าใจปรายนะ ปรายยังทำใจไม่ได้ ไม่อยากเห็นหน้าเขา ไม่อยากเจอ ปรายจำ รู้ว่ามันไม่ดี แต่มันทำใจยากมาก ปรายพยายามแล้ว ว่าจะไม่โกรธไม่คิด แต่ปรายก็ทำไม่ได้ ขอเวลา อีกสักหน่อย ปรายอยากกลับไปอยู่บ้าน แบบว่าเห็นหน้าเขาแล้วปรายไม่มีความรู้สึกอะไร เพราะถ้าปรายยังยอมรับไม่ได้ ปรายก็จะทุกข์ ไม่อยากเป็นแบบนั้น ใจปรายอยากให้เขามีคนใหม่ไปเลย จริงๆ ที่ปรายออกมา เพราะปรายไม่อยากเกลียดเขาไปมากกว่านี้ ก้อยเข้าใจไหม ทั้งรักทั้งเกลียด แต่ถ้าคนที่ปรายรักเห็นแก่ตัว ปรายก็ขออยู่ตัวคนเดียวดีกว่า”
“เอาล่ะ ก้อยเข้าใจแล้ว กับพี่เอกก้อยก็ไม่หวังอะไรหรอกนะ ห้าสิบห้าสิบ ก้อยก็กลัวเหมือนกัน ช่วงที่เราไม่อยู่ เขาอาจจะมีคนอื่น หรือไม่มีเราก็ไม่รู้ แค่โทรศัทพ์คุยกัน ไม่ได้อยู่ด้วยแบบใกล้ชิดตลอดเวลา แต่ก้อยก็เผื่อใจไว้แล้ว อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ได้ฟังเรื่องของปรายก็ดี ทำให้ก้อยไม่ต้องฝันหวานกับเรื่องความรักมากนัก เรามาจับมือกัน ต่อไปนี้เราจะตั้งใจทำในสิ่งที่เราอยากทำ และทำมันให้ดีที่สุด เดี๋ยวระหว่างอยู่บนดอย ก้อยเป็นตากล้องให้ เราจะใส่ชุดฮาวายสีสดใส ถ่ายรูปกัน เรื่องวันข้างหน้าอย่าเพิ่งคิดอะไร เอาแค่พรุ่งนี้เราตื่นก็พอ”
“ความคิดเข้าท่าดีนะก้อย ตามนั้นเลย เดี๋ยวคืนนี้ปรายจะเอารูปชุดที่ถ่ายลงเพจสักหน่อย ถ้าจบทริปนี้ปรายจะลงใต้กันนะ ถ้าก้อยอยากไปต่อก็ไปด้วยกันได้ ปรายจะค่อยๆ ไปที่ละจังหวัด เป้าหมายมาเลย์ ปรายจะข้ามไปดูผ้า หาที่ทำงานที่โน้นสักพัก ปรายมีเพื่อนอยู่ที่โน้น แต่จะไม่ไปกวนเพื่อนหรอก ปรายจะไปหาที่อยู่เอง ”
“น่าสนใจนะ ก้อยคิดว่าเราอาจไม่ต้องอยู่บนดอยถึงหกเดือนก็ได้ ก้อยไม่อยากอยู่นาน ยิ่งอยู่นานยิ่งผูกพัน เวลากลับลงมาข้างล่างแล้วคิดถึงเด็กๆ เอาสักสามเดือนพอ เพราะช่วงนั้นครูคนใหม่น่าจะมาแล้ว โอเคงั้นตามนี้”
“ปรายนี่ขับรถเก่งมากเลยนะ ก้อยอยู่ที่นี่ก้อยยังไม่ค่อยกล้าขับเท่าไร เสียวมาก”
“ไม่เก่งหรอก ปรายขับบ่อยมั้ง เวลาขับขึ้นดอยแบบนี้ คิดถึงสมัยที่มาเที่ยวกับเพื่อน สมัยนั้นไม่ได้ขับเองหรอก โคตรเสียว ขึ้นดอยแม่สะลอง ทางคดเคี้ยวมาก ยิ่งบางช่วงแคบอยู่ในหมู่บ้าน กำแพงบ้านคนก็ติดถนน ถนนก็แคบ แถมคดเคี้ยวสูงต่ำ โอ้ยเสียวมาก วันหลังเราไปเที่ยวกิ่วแม่ปานกันนะ ปรายว่าช่วงวันธรรมดาที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวคงดีมาก สมัยที่ปรายเคยไปกับเพื่อนๆ โคตรหนาว ลมแรง แต่มีความสุขมาก มันเงียบสงบดี ปรายชอบ”
“ได้เลย แต่แค่ที่ดอยที่เรากำลังไป วิวก็โคตรดี ธรรมชาติสุดๆ ไว้เราพาเด็กลงมาเที่ยวข้างล่างบ้างเนาะ ก้อยอยากให้พวกเขาได้ลงมาเห็น อยากให้เขาได้รู้ น้องๆไม่ค่อยมีโอกาสลงมาข้างล่างเท่าไร ก้อยอยากพาน้องๆ ไปกินไก่เคเอฟซี ก้อยเคยซื้อไปฝากพวกเขา เขาชอบกันมาก และอยากพาไปห้องสมุดประชาชน อยากพาไปหลายที่เลย”
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา เรามีรถเราเองสะดวกจะตาย จะไปที่ไหนก็ได้ ปรายพาไปเอง”
สองสาวคุยกันไปตลอดทาง ทำให้ปรายลดาลืมๆ บางสิ่งบางอย่างไปได้บ้าง ถึงแม้ว่าจะไม่ทั้งหมด แต่การได้เดินทางทำให้ใจเธอเริ่มนิ่งขึ้นบ้าง ป่านนี้คนที่บ้านคงคิดถึงแล้ว เธอคิดถึงกานดารา คิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อกับแม่ อีกไม่นานหรอก เธอจะกลับไป