"ไม่อยากได้เงินคืนอยากให้-เอา-คืนครับ"

คนใจร้ายคนนี้...ของเธอ - 1 แรกเจอ โดย สีชาเย็น @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

คนใจร้ายคนนี้...ของเธอ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

"ไม่อยากได้เงินคืนอยากให้-เอา-คืนครับ"

ผู้แต่ง

สีชาเย็น

เรื่องย่อ

สาวน้อยแสนซื่อถูกส่งมาฝึกงานที่ไร่ชาแห่งแรกของภาคใต้

งานเหมือนจะง่ายแต่เธอกลับต้องมาเจอเจ้านายแสนโหดและเย็นชา

เธอจะมีชีวิตครบ 32 กลับไปรับปริญญาที่กรุงเทพไหม

หรือจะโดนหมกเป็นปุ๋ยบำรุงดินใต้ต้นชาเสียก่อน

 

สารบัญ

คนใจร้ายคนนี้...ของเธอ-1 แรกเจอ,คนใจร้ายคนนี้...ของเธอ-2 ปากร้าย

เนื้อหา

1 แรกเจอ

    ฉันบุหลันนักศึกษาปี 4 มหาลัยชื่อดังคณะทรัพยากรธรรมชาติ เนื่องจากฉันเป็นนักศึกษาได้ทุนเรียนดีอาจารย์เลยแนะนำไม่สิเรียกว่าชักจูงจะดีกว่า ให้ลงมาฝึกงานที่ไร่ชาแห่งแรกของจังหวัดพัทลุง ซึ่งอาจารย์แม่หรือชื่อเต็มว่ารองศาสตราจารย์ ดร.กัลยาณี อรุณอักษร ชื่อก็บ่งบอกแล้วว่าท่านพูดเพราะขนาดไหน ฉันถึงยอมตกลงรับปากท่านแล้วนั่งรถทัวร์มาเป็นเวลา 12 ชั่วโมง ฉันยืนเหม่ออยู่ไม่นานก็มีรถกระบะคันเก่าเข้ามาจอดใกล้ ๆ ผู้ชายที่ขับมาก็ชะโงกหน้ามาด้านฝั่งคนนั่งข้างที่กระจกเปิดอยู่ก่อนแล้ว เขามองมาที่ฉันด้วยสายตาเหมือนไม่สบอารมณ์

"เธอ...นักศึกษาฝึกงานใช่ไหม"

"ค่ะ"

"งั้นก็ขึ้นรถ"

"อ๋อ...ค่ะ"

    ก่อนฉันจะตอบรับฉันแอบมองป้ายทะเบียนรถแล้วตรงกับที่อาจารย์แม่ส่งมา เพียงแต่คนขับรถไม่ตรงปกเท่าไหร่เพราะอาจารย์แม่บอกว่าจะเป็นคุณลุงแก่ ๆ ตัวผอมไม่สูงมากชื่อลุงบุญ แต่ที่ฉันเห็นอยู่น่าจะอายุ 30 ได้เนื้อตัวดูเหมือนเพิ่งไปคลุกดินมาก่อนจะขับรถมารับฉัน ผิวสีน้ำผึ้งแต่ก็เนียนใช้ได้เสียอย่างเดียวดุไปหน่อยสำหรับการเจอกันครั้งแรก

"ขอบคุณนะคะพี่ที่มารับ"

"อืม"

"อาจารย์บอกว่าลุงบุญจะมารับทำไมเป็นพี่ละคะ"

"ลุงบุญรถล้มฉันเลยมาแทน"

"อ๋อ...แบบนี้นี่เอง"

"แอร์เสียนะต้องเปิดกระจก"

"ค่ะ"

    ความเงียบเข้ามาปกคลุมตลอดเวลาที่นั่งรถไปไร่เกือบ 1 ชั่วโมง บรรยากาศรอบตัวดีเหลือเกินต้นไม้สีเขียวกลิ่นอายธรรมชาติแท้ ๆ ทำให้ฉันเผลอตัวยื่นหน้าออกไปสูดอากาศนอกหน้าต่าง พอรู้ตัวก็รีบหันไปมองเขาแต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เส้นทางเป็นทางลาดขึ้นเขาแต่ไม่ได้ชันมาก บางช่วงไม่มีสัญญาณมือถือฉันเลยตัดใจเก็บมือถือใส่กระเป๋า ยังดีที่ตอนลงรถฉันได้ส่งข้อความไปบอกอาจารย์แม่ไว้แล้ว เพราะเดี๋ยวถ้าท่านโทรมาไม่ติดอาจจะเป็นห่วงมากก็ได้ รถกำลังชะลอความเร็วแล้วเลี้ยวเข้าทางส่วนบุคคลที่มีป้ายไม้เขียนว่า ไร่ชาเจษฎาง ประตูไม้ใหญ่ถูกเปิดกว้างไว้อยู่แล้วเหมือนรอต้อนรับใครก็ตามที่จะที่นี่ก็สามารถเข้ามาได้เลย

     ขับเข้ามาเพียง 200-300 เมตรรถกระบะสีส้มคันเก่าที่พาฉันมาถึงที่นี่ก็จอดสนิทและดับเครื่องลง ฉันก็เลยรีบเปิดประตูรถเอาตัวเองลงมาแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าที่หลังท้ายกระบะ เขายืนหันหลังสูบบุหรี่อยู่ไม่ไกลมาก ฉันเองก็ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนเลยรอให้เขาสูบบุหรี่ให้เสร็จก่อน แล้วว่าจะถามเขาว่าออฟฟิศของที่นี่อยู่ไหน ใช่บ้านเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านหน้าของฉันไหม แต่เพราะหน้าตาแสนร้ายของเขาทำให้ฉันกลัวจนเผลอแทนตัวเองว่าหนู เวลาฉันตระหนกฉันจะพูดผิด ๆ ถูก ๆ ใช่คำบ้าน ๆ แทนเสมอ 

"พี่ค่ะ...หนูต้องไปเจอผู้จัดการไร่ที่ชื่อคุณนนท์"

"อยู่ข้างในเข้าไปสิ"

"เอ่อ...ขอบคุณนะคะที่ไปรับ"

"อืม"

    ถามคำตอบคำแต่ก็ยังดีที่ยังตอบ ฉันไม่รู้จะพูดอะไรต่อเลยได้แต่ยิ้มให้เขาก่อนจะเดินตรงไปที่ออฟฟิศของไร่ เปิดเข้าไปมีผู้ชายผิวเหมือนพี่คนขับรถแต่ตัวบางกว่า เขาหันมาเจอฉันแล้วก็ยิ้มให้พร้อมกับลุกขึ้นเดินมาต้อนรับฉัน รอยยิ้มเขาทำให้ฉันค่อยหายเกร็งจากเสียงดุ ๆ ของพี่คนนั้น ฉันยกมือขึ้นสวัสดีคนตรงหน้า

"สวัสดีค่ะดิฉันจันทร์ญาดานักศึกษาที่อาจารย์กัลยาณีส่งมา"

"สวัสดีครับผมนนท์เรียกพี่นนท์ก็ได้นะ"

"ค่ะพี่นนท์"

"เดี๋ยวพี่พาไปส่งที่บ้านพักแล้วจะพาชมไร่ก่อนจะได้รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนแบบคร่าว ๆ งานเดี๋ยวค่อยมาเริ่มพรุ่งนี้ที่นี่นะ"

"ได้ค่ะ"

    พี่นนท์เป็นคนยิ้มเก่งพูดไปก็ยิ้มไป บ้านพักของฉันอยู่ไม่ไกลเป็นส่วนหนึ่งของโฮมสเตย์ ที่นี่เป็นบ้านยกสูงมีแค่ห้องนอนกับห้องน้ำ ไม่ได้มีส่วนอื่นให้ใช้สอย แต่นี่ก็ถือว่าสบายมากแล้วฉันเองก็อยู่ได้เพราะบ้านที่ต่างจังหวัดของฉันก็แบบนี้ หลังจากพี่นนท์ส่งฉันเสร็จเขาก็บอกให้ฉันพักผ่อนก่อนอีกสักชั่วโมงค่อยเดินไปหาเขา เดี๋ยวเขาจะเตรียมรอมอเตอไซค์พาไปกินข้าวที่ครัวกลางแล้วค่อยไปทำเรื่องอื่น

     น่าแปลกที่ฉันแอบนึกถึงหน้าตาแสนร้ายของพี่คนขับรถคนนั้น แม้ว่าจะดูไม่รับต้อนรับแขกแบบฉันแต่ฉันก็ยอมรับนะว่า ส่วนสูงและบางอย่างทำให้รู้สึกว่าเขาไม่ควรมาเป็นคนขับรถเลย แต่ก็ช่างเถอะฉันจะไปคิดถึงเขาทำไมมีเวลา 3 เดือนที่ฉันต้องฝึกงานแล้วก็เขียนงานส่งอาจารย์แม่  ไม่มีเวลาสนใจใครหรืออะไรทั้งนั้น ฉันยกมือถือขึ้นดูว่ามีสัญญาณแล้วเลยโทรหาปู่กับย่า แจ้งว่าฉันถึงแล้วเพื่อไม่ให้ท่านเป็นห่วง ฉันรับปากว่าจะโทรหาท่านทุกวัน หลังจากนั้นก็เก็บเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางจนเรียบร้อย ฉันจัดการอาบน้ำแต่งตัวแล้วก็เดินลงไปจากบ้านเพื่อไปออฟฟิศ เสียงประตูที่เปิดออกพร้อมกันกับฉันคือหลังข้าง ๆ ที่ห่างกันไม่เยอะ เป็นเขาที่ตอนนี้ก็ดูเหมือนจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปื้อนดินตอนไปรับฉัน 

"จ้องทำไม"

"ปะ เปล่าค่ะ...ก็แค่มอง"

 

 

 

"ฮึ"

"..."

"จะไปออฟฟิศก็รีบสิยืนบื้ออยู่ได้"

"เอ้า"

"ยัยบื้อ...ฮึ"