โคบา อีลีฟ ถูกจับคู่กับ ลูทวิช มุลเลอร์ เพื่อล่าตัว"ฮิตเลอร์"ผู้นำสังหารหมู่ที่หนีความตายโดยการสิงสู่ผู้คนไปเรื่อยๆ ฉากหลังการล่าอาชญากรระดับ A-list ทำให้ความสนิทสนมถลำลึกไปถึงเตียงนอนอย่างช่วยไม่ได้

Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง - Chapter1 ชายปริศนา โดย Di-N(ดิเอ็น) @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อาชญากรรม,ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,ชาย-ชาย,ไทย,สืบสวนสอบสวน,ผี,วาย,วายแฟนตาซี,yaoi ,อาชญากรรม,อาถรรพ์,18+,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

อาชญากรรม,ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,ชาย-ชาย,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

สืบสวนสอบสวน,ผี,วาย,วายแฟนตาซี,yaoi ,อาชญากรรม,อาถรรพ์,18+

รายละเอียด

Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง โดย Di-N(ดิเอ็น) @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

โคบา อีลีฟ ถูกจับคู่กับ ลูทวิช มุลเลอร์ เพื่อล่าตัว"ฮิตเลอร์"ผู้นำสังหารหมู่ที่หนีความตายโดยการสิงสู่ผู้คนไปเรื่อยๆ ฉากหลังการล่าอาชญากรระดับ A-list ทำให้ความสนิทสนมถลำลึกไปถึงเตียงนอนอย่างช่วยไม่ได้

ผู้แต่ง

Di-N(ดิเอ็น)

เรื่องย่อ

ผมเกิดเป็นหมารับใช้ ทั้งชีวิตทำได้อยู่สองอย่าง

เห่ายามว่างและกระโดดงับภารกิจ ต้องทำให้มันสำเร็จไม่ว่าจะด้วยวิธีอะไร

จะเป็นผู้ล่าหรือผู้ถูกล่าก็เก็บสถานะของคุณไว้ให้ดี จงอย่าเปิดเผยตัวตนต่อหน้าศัตรูเป็นอันขาด

สวัสดีค้ามาเปิดเรื่องใหม่อีกแล้ว เรื่องนี้ร่วมกิจกรรมกับนักเขียนรถแห่นะคะ #รถแห่ชวนเขียนVol.5

โดยเลือกจากคีย์เวิร์ด 3ใน4 สงคราม / break the 4th wall / สังหารหมู่ / ตัวเอกเป็นหมา

นิยายเรื่องนี้เราเลือก สงคราม / break the 4th wall / สังหารหมู่ ค่ะ

ตอนแรกคิดว่ารอบนี้จะไม่ร่วมแล้ว เนื่องจากคีย์เวิร์ดโคตรยาก แต่จู่ๆ พล็อตแล่นมาพอดีไม่ทันตั้งตัว

เป็นเรื่องสั้น(แสนคำ) 10 ตอนจบเหมือนเดิมค่ะ จำนวนคำน่าจะ 3 หมื่นพอๆ กับเรื่องซาวด์นะคะ

เรื่องนี้เดิมที Location ประเทศไทยค่ะ แต่เนื่องด้วยอาชีพของพระเอกมันหมิ่นเหม่ไปหน่อย เราเลยเปลี่ยนเป็นประเทศสมมุติชื่อว่า 'Riche (ริเช)' แต่ยังคงความเป็นชื่อไทยเอาไว้ เพื่ออรรถรสและบอกความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติของนายเอกค่ะ'

เรื่องนี้เป็นการชิมลาง Yaoi เรื่องแรกนะคะ แต่กลิ่นอายเรื่องไม่ได้ชูเรื่องนี้ชัดเจน เลยเอามาลงหมวกสืบสวนดีกว่าซึ่งเป็นธีมหลักของเรื่องค่ะ หวังว่าทุกคนจะชอบนะค้าาาา

1.เรื่องนี้ไม่เหมาะสำหรับสายสุขนิยมค่ะ

2.มีความสัมพันธ์ระหว่าง ชายxชาย ดำเนินเรื่อง

3.ไม่ใช่แนวรักจ๋า

4.หากไม่ชอบเรื่องไม่ถูกจริตสามารถกด x ได้เลยนะคะ

5.ไม่ด่าเสียๆ หายๆ หากคู่โผลไม่ตรงใจ สามารถกด x ได้เช่นกันค่ะ

6.เรื่องนี้มันเข้ามากระทันหัน ทำให้เรารีบปั่นให้ทันสิ้นเดือน เราจะปล่อย 3 ตอน หลังจากนั้นจะหยุดไปทำงานหลักสักแป๊บ แล้วจะกลับมาอัปอีกที วันที่ 6 นะคะ

7.อ่านคำเตือนอีกทีนะคะ ทำใจก่อนอ่าน 5555+

สารบัญ

Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter Prologue,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter1 ชายปริศนา,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter2 GKI ในบาร์,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter3 สัมพันธ์ร้อน(NC),Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter4 รายชื่อต้องสงสัยกับนิ้วร้อนในซอกตึก,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter5 คู่หู,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter6 รสรัก (NC),Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter7 รายชื่อสุดท้าย,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter8 ลูทวิช มุลเลอร์,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter9 รุกฆาต,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter10 คณะดาบเงิน,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter11 เรื่องเพ้อเจอ,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter12 ปิดเคส,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter13 อุดมการณ์รักไม่หักแล้วนะครับ NC (END)

เนื้อหา

Chapter1 ชายปริศนา

กระจกตั้งตรงในห้องสลัวทำให้ผมเพิ่งรู้ตัวว่าการแต่งองค์ทรงเครื่องโดยแสงที่ริบหรี่แบบนี้ มันแทบไม่เห็นดีเทลอะไรเลย เพราะความขี้ลืมของผมแท้ๆ ทุกคนเคยเป็นไหมทำอะไรเพลินจนลืมสิ่งสำคัญที่สุด

แล้วผมก็ดันถลึงตามองเสื้อผ้าหน้าผมตัวเองอยู่นานกว่าจะรู้ตัว ดังนั้นแล้วการเคลื่อนไหวต่อจากนี้คือการเดินไปเปิดสวิตช์ไฟตัวอื่นๆ ในห้องด้วย และในเวลานั้นเองที่บุคคลอันคุ้นหน้าคุ้นตาของผมก็เดินเข้ามา

“ไหน มาให้แม่ดูความเรียบร้อยหน่อย” แม่ของผมเป็นชาวริเนกไทโดยกำเนิด เธอจึงมีความเป็นพ่อแม่แบบเอเชี่ยนอยู่เต็มสายเลือด ถึงแม้ผมจะเติบโตขึ้นมามากแล้ว แต่การจู้จี้ความเรียบร้อยของเสื้อผ้านั้นคุณแม่ยังทำมันอยู่เสมอ ไม่รู้ว่าบ้านทุกท่านเป็นเหมือนผมไหม และไม่นานนักตำแหน่งคู่กัดประจำบ้านของแม่ก็ปรากฏตัวขึ้น ซึ่งเขาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน

“เฮ ยูเลิกเจ้ากี้เจ้าการกับลูกซักที มันโตมากแล้วนะ”

“คุณไปนอนเถอะค่ะ” ก่อนที่จะปะทะคารมไปมากกว่านี้ แม่ของผมหันมาจัดระเบียบเนกไทตัดความรำคาญ

เอาเถอะความจริงมันก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นะครับทุกท่าน แม่ของผมน่ะเธอเกิดในตระกูลที่มีอันจะกินพอสมควร การที่เธอมีนิสัยเจ้ากี้เจ้าการ และอยากทำให้ภาพลักษณ์ดูดีอยู่ตลอดเวลาไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ส่วนพ่อผมเป็นชาวตะวันตกที่มีลูกตอนอายุ 40 สมัยนั้นนับว่ามากพอสมควร และพ่อผมก็เหมือนฝรั่งทั่วไปอะนะ หาสาวเอเชี่ยนสักคนมาแต่งงานเพื่อดูแลตัวเองตอนแก่

ก็ไม่รู้แม่ผมไปหลงคารมอะไรจากพ่อถึงได้มาลงเอยกันได้ ไม่นานเราก็ย้ายกลับมาที่ริเชซึ่งตอนนั้นผมอายุได้ประมาณ 6-7 ขวบเองมั้ง

ตัวเขาก็เหมือนมองเห็นอนาคตนะพ่อผมเนี่ย ตอนที่ผมอายุ 22-23 พ่อก็เริ่มเลอะเลือนจำอะไรไม่ค่อยได้ ปัจจุบันอายุได้ 65 ปีแล้ว เขาเหมือนคนที่เป็นอัลไซเมอร์ในบางครั้ง ซึ่งครอบครัวของเราก็หาสาเหตุไม่ได้ว่าพ่อเป็นโรคนี้จริงๆ หรือไม่ เพราะอาการเป็นๆ หายๆ

เอาล่ะผมเล่าเกี่ยวกับตัวเองให้ทุกท่านทราบแค่นี้ก็แล้วกัน เพราะตอนนี้ผมนั่งอยู่ในรถพร้อมกับศอกที่ชันไว้กับขอบหน้าต่าง สายตามองทะลุออกไปหน้ากระจกเพื่อมองทิวทัศน์ของเมืองหลวงอย่างเพลิดเพลิน

โชคดีจริงๆ ที่วันนี้ฝนไม่ตก เพราะเมื่อวานสภาพการจราจรเข้าขั้นวินาศสันตะโร กว่าผมจะกลับถึงบ้านก็นั่งมองสัญญาณไฟแดงไม่รู้กี่ตลบ

อ้อ ทุกท่านคงสงสัยล่ะสิว่าผมไปไหน อืม...มันก็ไม่เชิงเป็นปาร์ตี้ของเหล่าผู้มีอันจะกินหรอกนะ มันเป็นการเลี้ยงฉลองที่รัฐบาลจัดขึ้นน่ะ

เพื่อต้อนรับสมาชิกที่สอบเข้าหน่วยสืบสวนคดีพิเศษได้ ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนมีพ่อแม่ฐานะดี หรือไม่ได้ก็สืบเชื้อสายจากตระกูลเก่าแก่

Greyknight Investigation (หน่วยสืบสวนเกร์ยไนท์) หรือคนทั่วไปรู้จักในนามตัวย่อ GKI

GKI รับทำคดีที่ตำรวจปิดไม่ได้ และมีอำนาจสืบสวนทั่วประเทศ ซึ่งมีความคล่องตัวกว่าตำรวจที่มักติดปัญหาเรื่องอาณาเขต และมันจะตามมาด้วยคำพูดยอดฮิตเสมอ “ข้ามเขตไม่ได้” จะไปตำหนิเขาก็ไม่ถูกเท่าไหร่นะครับทุกท่าน ก็เบื้องบนดันเซตระบบมาแบบนี้เอง

ผมเดินตามหลังแม่เข้างาน ซึ่งแม่ผมเนี้ยช่ำชองเกี่ยวกับงานสังคมจริงๆ แม้จะอายุมากแล้วแต่ท่านก็ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ชุดเกาะอกประดับไปด้วยคริสตัลระยิบระยับทั้งตัว พร้อมขนเฟอร์ที่ปาดด้านหลังและตวัดเกี่ยวแขนทั้งสองข้างทิ้งปลายสยายยาวลงมาพร้อมกับชุดเดรสหางเงือก มันช่างดูเป็นชนชั้นสูงจริงๆ ก็ไม่แปลกใจที่พ่อผมรักและหลงแม่ขนาดนี้

ภายในสมกับเป็นงานของรัฐบาล ผู้ซึ่งเก็บภาษีของคนทุกชนชั้นมากองอยู่ที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ไม่ได้มีแต่ความอร่อยอย่างเดียว แต่ถูกแกะสลักอย่างสวยงามให้ผู้ที่เดินผ่านได้เหลียวมองอย่างเพลิดเพลิน ผมจึงแวะหยิบจานและไม้จิ้มอันเล็กจัดการมันลงกระเพาะ

เอ่อ...ผมไม่ได้หิวจนตัวสั่นถึงขนาดที่เข้างานปุ๊บกินปับหรอกนะครับ มันก็แค่สวยสมลายแกะสลักก็เลยอยากชิมเท่านั้นเอง

ภายใต้ห้องโถงขนาดใหญ่มีโคมไฟระย้าห้อยโตงเตงอยู่บนหัว ต้องยอมรับว่ามันตัวชูโรงสร้างความหรูหราให้กับงานเลี้ยงได้มากเลยทีเดียว

ผู้คนไม่แตกต่างจากผมมาก ก็เป็นลูกแหง่พ่อแม่รวยเหมือนกันทั้งนั้น ยืนยิ้มตั้งหน้ารับเมื่อผู้ใหญ่บางท่านเดินเข้ามาทักทาย และต้องเจียมเนื้อเจียมตัวอย่างยิ่ง เมื่อแนะนำตัวเองกับนายตำรวจยศใหญ่ หัวงี้ก้มจนไม่รู้จะก้มยังไงแล้ว อีกนิดเดียวก็แตะพื้นเย็นเฉียบกันพอดี แต่สิ่งพวกนี้ไม่เกิดขึ้นกับผม

ทำไมน่ะเหรอ?

ก็บอกแล้วไง ว่าแม่ผมมาจากตระกูลมีอันจะกิน ไอ้ความมีอันจะกินที่ว่ามันมีส่วนประกอบสำคัญอยู่หนึ่งอย่าง เช่น...มีอิทธิพล ซึ่งมันใหญ่กว่ายศนายตำรวจบางคนน่ะสิ

แต่ด้วยมารยาท ผมก็ต้องแสดงบทบาทผู้เจียมตัวเอาไว้บ้าง ยังไงซะวลี “ฝากตัวรับใช้นาย” มันเป็นคาถาให้ผมเอาตัวรอดในดงเสือสิงห์กระทิงจ้องแทงข้างหลังได้เสมอ ก็นะ...งานแบบนี้มันผลตอบแทนมหาศาลมีอะไรงัดมาสู้ก็ต้องเจอกันหน่อย

แต่มันก็น่าเบื่ออยู่บ้างนะครับทุกท่าน ผมสอดส่องหาเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันเพื่อตีสนิท แต่ไม่ถูกชะตาสักคน จึงปลีกตัวออกมาจากคุณแม่ที่ยืนอยู่ในวงสนทนาของเหล่าแม่บ้าน และออกรสออกชาติกับเรื่องส่วนตัวของคนอื่นอยู่

แชมเปญที่เดินผ่านหน้าแก้วแล้วแก้วเล่า จากพนักงานที่เดินตัวตรงเหมือนหุ่นยนต์มันทำให้ผมต้องยกมือเรียกเพื่อหยิบมาหยอดลงกระเพาะบ้าง เสียดายแย่หากไม่ได้ลิ้มรสอาหารเครื่องดื่มเกรดดีขนาดนี้

และทันใดนั้นเองได้มีผู้ใหญ่คนหนึ่งเข้ามาทักทายผม

“ไงได้หลานชาย”

“สวัสดีครับท่าน”

มันเป็นใครวะ?เป็นสิ่งเดียวที่ผมคิดในตอนที่ยื่นมือไปจับชายร่างท้วมตรงหน้า และถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้จักเขา แต่ในงานแบบนี้คงไม่มีกุลีที่ไหนเข้ามาร่วมได้หรอก คงจะเป็นชายฐานะดีสักคนหรือผู้บัญชาการสักหน่วยนั่นแหละ

“ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ ที่ลูกอดีตเอกข้าราชทูตเยอรมันได้เข้าหน่วย GKI”

นอกจากผมจะไม่รู้ว่ามันเป็นใครแล้วเนี่ย คำพูดของมันยังไม่เข้าหูผมอีกต่างหาก หมายความว่าไงวะคำพูดที่พ่นออกมาน่ะ จะบอกว่าผมไม่ใช่ความสามารถงั้นสิ ผมขึ้นเลยนะทุกคนเริ่มแล้วร้อนทีละนิดแล้วครับ

“การเป็นท่านทูตประจำริเชของพ่อผมมันจบไปนานแล้วนะครับ อีกอย่างท่านก็มีอาการป่วยทุกคนรู้ดี คอนเนคชั่นก็ไม่ค่อยมี แต่ถ้าบอกว่าอิทธิพลจากแม่ผม อันนั้นก็คงเถียงไม่ออก”

“....”

ไม่รู้ว่าเป็นการตอกหน้ารึเปล่านะแต่แม่งเงียบเลยแฮะ จะว่าไงดีล่ะ...มึงอยากทับถมกูแต่เข้าผิดประตูไงไอ้อ้วน! พ่อกูจะมีปัญญาอะไรนอกจากนอนพะงาบอยู่กับอาการหลงๆ ลืมๆ แทนที่จะพุ่งเป้าหาแม่กู

“แหมะ! เป็นเด็กหนุ่มที่ตอบชัดถ้อยชัดคำดีนะครับ แต่น่าจะหลบหลีกเรื่องการใช้เส้นหน่อย คุณพูดประเจิดประเจ้อเกินไป”

“ไม่มีส่วนไหนที่ผมยอมรับเลยนะครับว่าใช้เส้น แค่บอกว่าท่านอาจจะเข้าใจผิดเรื่องพ่อผมมีอิทธิพลซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ใช่”

“หนักแน่นมั่นคงสมที่ได้เข้าหน่วย GKI”

“ผมสอบผ่านครับ” ผมย้ำอีกครั้งว่าเข้ามาได้ด้วยการสอบ

“โถ่ ท่าทางคุณปฏิเสธผมชัดเจนจังเลยนะครับ”

“ท่านครับนี่งานสังสรรค์นะครับ ผมว่าเราเลิกคุยเรื่องงานดีกว่า”

“ไม่เอาน่าหลานชายใครๆ ก็รู้เบื้องหลังงานสังสรรค์มันเต็มไปด้วยดีลลับ ยืนฟังคนแก่บ่นมันไม่เท่าไหร่หร๊อกเดี๋ยวก็มีฟ้าประทานผู้ช่วยมาให้ เช่นคนขัดจังหวะ อะไรทำนองนี้ผมเจอบ่อยทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ”

“สวัสดีครับคุณลูทวิช”

สิ้นคำพูดของไอ้แก่ที่ไหนไม่รู้ คำว่า “สมพรปาก” ที่แม่ผมมักจะใช้อุทานเวลาสถานการณ์บางอย่างมันถูกจังหวะ ก็ดังขึ้นมาทันทีในหัวทันที เล่นเอาไอ้แก่บ้าน้ำลายพาไขมันเด้งดึ๋งเดินหนีไปฉับพลัน

“อะไรกัน คงไม่ได้เหม็นขี้หน้าผมหรอกนะ”

หนุ่มปริศนาที่อายุไล่เลี่ยกับผมเอ่ยขึ้น ตอนที่สายตามองตามไอ้อ้วนคนนั้น มันทำให้ผมอดป้องปากหัวเราะออกมาไม่ได้ จะว่าไงดีล่ะหน้าเขาเหลอหลาใช้ได้เลยว่ะ เหมือนกลัวโดนคนใหญ่คนโตเหม็นขี้หน้า

“ไม่หรอกน่า ขอบคุณนะครับมาช่วยชีวิตผมได้พอดี”

“ช่วย?” เจ้านี่ทวนคำพูดผมพร้อมยกคิ้วสงสัยเล็กน้อย

“ผมกำลังโดนไล่บี้น่ะ เรื่องที่ไปที่มาของหารเป็นสมาชิกหน่วย”

“อ๋อ....ความจริงไม่น่าเกทับกันเรื่องนี้เลยนะครับ ใครๆ ก็รู้หน่วยงานของรัฐมันเหมือนหมาเยี่ยวจองตำแหน่ง อีกอย่างระดับผู้บัญชาการตำรวจไม่น่าจะคิดเรื่องนี้นะครับ ผมว่าเขาอยากทำความรู้สึกคุณมากกว่า เพราะลูกชายท่านก็ได้เข้าหน่วยนี้ แบบว่า...สานคอนเนกชั่นให้ลูกน่ะครับ แต่ผมได้ยินมาว่าท่านพูดจาไม่ค่อยมีหูรูดเท่าไหร่”

ผมอ้าปากค้างเลยครับทุกท่าน ชายคนนี้มันพูดเสียยืดยาว บางประโยคผมก็ขมวดคิ้วแต่บางครั้งก็ทำหน้าตาถึงบ้างอ้อกับข้อเท็จจริงที่เขาสาธยายออกมา มิน่าล่ะถึงได้ดูเสียเซลฟ์ราวกับตัวเองโดนเหม็นขี้หน้า เพราะไอ้อ้วนนั่นมีตำแหน่งใหญ่นี่เอง ถ้าเข้าใจว่าคนระดับนั้นเดินหนีเพราะไม่ชอบตัวเอง เจ้าหน้าที่รัฐตำแหน่งต๊อกต๋อยจะกลัวก็ไม่แปลก...แต่ประเด็นหมาเยี่ยวจองที่เนี่ย มันด่าผมทางอ้อมเปล่าวะทุกท่าน?

“โห...มีตำแหน่งใหญ่ขนาดนั้นเชี่ยว ผมเผลอทำเสียมารยาทไปตั้งหลายรอบ”

“ไม่เป็นไรมั้งครับ ท่านเพิ่งได้รับการแต่งตั้งยังไม่ประกาศออกสื่อเลย หาโอกาสขอโทษทีหลังก็ได้”

“งั้น...ผมขอถามได้มั้ยว่าท่านเป็นคนยังไง ดูคุณรู้เรื่องเยอะ”

“ฮะๆ เขินเลยนะครับเนี่ยรู้เรื่องเยอะกับชอบเสือกไปซะทุกเรื่องมันแค่เส้นบ้างๆ กั้นอยู่”

“ผมไม่ได้คิดว่าคุณเป็นคนชอบสาระแนเลยนะครับ” เฮ้ย! จริงๆ นะทุกท่านผมไม่ได้คิดประเด็นนี้เลยเจ้าตัวแม่งจินตนาการไปก่อนแล้วอะ

“โอเคๆ ผมเข้าใจแล้วครับ เขาเป็นพวกเลือดบริสุทธิ์น่ะครับไม่ค่อยชอบใจพวกมีเลือดครึ่งตัวเท่าไหร่”

“แต่มาคุยกับลูกครึ่งเยอรมันอย่างผมอะนะ?”

“แต่ฐานะฝั่งแม่ของคุณดีนี่ครับ ไม่ชอบยังไงก็ต้องกัดฟันล่ะนะ”

“ที่พูดก็มีเหตุผลนะครับ อ้อ...ผมลูทวิช มุลเลอร์ เรียกผมว่าลูทด์ก็พอครับ”

“ผมรู้จักคุณครับลูกคนที่สองของคุณหญิง ภาอร ศรีพญา แต่เป็นลูกคนที่ 4 ของอดีตราชทูตเยอรมันประจำริเช”

สิ้นเสียงแหบขึ้นจมูกนั้น ผมมองไปที่ใบหน้าเขาจึงสังเกตได้ว่าชายคนนี้มีตาสองสี...จะเรียกแบบนั้นได้ไหมนะเขาทำให้ผมนึกถึงเดวิด โบวี่ ที่มีตาดำแต่ละข้างไม่เท่ากันทำให้มองเผินๆ เหมือนมีตาสองสี ซึ่งสิ่งนั้นมันดึงดูดให้ผมเข้าสู่หลุมดำแห่งห้วงอวกาศ ปกติแล้วผมมักจะค้นหาหาบุคลิกจากแววตาของคู่สนทนา แต่ชายคนนี้ผมไม่สามารถอ่านอะไรเขาได้เลย

....แปลกมากครับทุกท่าน....

“อ้อ...ครับ” อ่าหะ...ไม่ร่ายโคตรเหง้าศักราชฉันไปเลยล่ะ ไหนๆ ก็พูดมาขนาดนี้แล้ว แล้วไงต่อวะนายคนนี้มันเป็นใคร ผมรู้สึกสนใจเขานะแต่ก็หงุดหงิดพอสมควรที่ไม่สามารถเดานิสัยใจคอของเขาได้เลย

เรายกเครื่องดื่มในมือซดกันทั้งคู่ แต่ไอ้นี่มันใส่อึกเดียวราวกับอยากกระอักน้ำตาย จากนั้นก็วางแก้วลงดัง ‘ปึก’ โดยไม่สนใจว่ามือหนักของตัวเองจะส่งผลให้ภาชนะโปร่งใสแตกหรือไม่ ผมลดมือลงแทบไม่ทันจวนจะสำลักตามไปอีกคน เมื่อร่างสูงของเขาเดินหายลับไปกับฝูงชนชนิดที่ไม่เห็นปอยผมหางม้าที่รวบไว้ด้านหลัง คิดไว้ว่าจะถามชื่อสักหน่อยหลังแชมเปญหยดสุดท้ายลงคอ...

“สรุปแล้วมันเป็นใครวะ”