โคบา อีลีฟ ถูกจับคู่กับ ลูทวิช มุลเลอร์ เพื่อล่าตัว"ฮิตเลอร์"ผู้นำสังหารหมู่ที่หนีความตายโดยการสิงสู่ผู้คนไปเรื่อยๆ ฉากหลังการล่าอาชญากรระดับ A-list ทำให้ความสนิทสนมถลำลึกไปถึงเตียงนอนอย่างช่วยไม่ได้
อาชญากรรม,ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,ชาย-ชาย,ไทย,สืบสวนสอบสวน,ผี,วาย,วายแฟนตาซี,yaoi ,อาชญากรรม,อาถรรพ์,18+,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
โคบา อีลีฟ ถูกจับคู่กับ ลูทวิช มุลเลอร์ เพื่อล่าตัว"ฮิตเลอร์"ผู้นำสังหารหมู่ที่หนีความตายโดยการสิงสู่ผู้คนไปเรื่อยๆ ฉากหลังการล่าอาชญากรระดับ A-list ทำให้ความสนิทสนมถลำลึกไปถึงเตียงนอนอย่างช่วยไม่ได้
ผู้แต่ง
Di-N(ดิเอ็น)
เรื่องย่อ
ผมเกิดเป็นหมารับใช้ ทั้งชีวิตทำได้อยู่สองอย่าง
เห่ายามว่างและกระโดดงับภารกิจ ต้องทำให้มันสำเร็จไม่ว่าจะด้วยวิธีอะไร
จะเป็นผู้ล่าหรือผู้ถูกล่าก็เก็บสถานะของคุณไว้ให้ดี จงอย่าเปิดเผยตัวตนต่อหน้าศัตรูเป็นอันขาด
สวัสดีค้ามาเปิดเรื่องใหม่อีกแล้ว เรื่องนี้ร่วมกิจกรรมกับนักเขียนรถแห่นะคะ #รถแห่ชวนเขียนVol.5
โดยเลือกจากคีย์เวิร์ด 3ใน4 สงคราม / break the 4th wall / สังหารหมู่ / ตัวเอกเป็นหมา
นิยายเรื่องนี้เราเลือก สงคราม / break the 4th wall / สังหารหมู่ ค่ะ
ตอนแรกคิดว่ารอบนี้จะไม่ร่วมแล้ว เนื่องจากคีย์เวิร์ดโคตรยาก แต่จู่ๆ พล็อตแล่นมาพอดีไม่ทันตั้งตัว
เป็นเรื่องสั้น(แสนคำ) 10 ตอนจบเหมือนเดิมค่ะ จำนวนคำน่าจะ 3 หมื่นพอๆ กับเรื่องซาวด์นะคะ
เรื่องนี้เดิมที Location ประเทศไทยค่ะ แต่เนื่องด้วยอาชีพของพระเอกมันหมิ่นเหม่ไปหน่อย เราเลยเปลี่ยนเป็นประเทศสมมุติชื่อว่า 'Riche (ริเช)' แต่ยังคงความเป็นชื่อไทยเอาไว้ เพื่ออรรถรสและบอกความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติของนายเอกค่ะ'
เรื่องนี้เป็นการชิมลาง Yaoi เรื่องแรกนะคะ แต่กลิ่นอายเรื่องไม่ได้ชูเรื่องนี้ชัดเจน เลยเอามาลงหมวกสืบสวนดีกว่าซึ่งเป็นธีมหลักของเรื่องค่ะ หวังว่าทุกคนจะชอบนะค้าาาา
1.เรื่องนี้ไม่เหมาะสำหรับสายสุขนิยมค่ะ
2.มีความสัมพันธ์ระหว่าง ชายxชาย ดำเนินเรื่อง
3.ไม่ใช่แนวรักจ๋า
4.หากไม่ชอบเรื่องไม่ถูกจริตสามารถกด x ได้เลยนะคะ
5.ไม่ด่าเสียๆ หายๆ หากคู่โผลไม่ตรงใจ สามารถกด x ได้เช่นกันค่ะ
6.เรื่องนี้มันเข้ามากระทันหัน ทำให้เรารีบปั่นให้ทันสิ้นเดือน เราจะปล่อย 3 ตอน หลังจากนั้นจะหยุดไปทำงานหลักสักแป๊บ แล้วจะกลับมาอัปอีกที วันที่ 6 นะคะ
7.อ่านคำเตือนอีกทีนะคะ ทำใจก่อนอ่าน 5555+
ไม่มีอะไรที่ผมทำไม่ได้ แม้กระทั่งการสร้างความสัมพันธ์จอมปลอมเพื่อภารกิจ มันอาจจะฟังดูเลวร้ายแต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อสิ่งนี้คือธรรมชาติของสายลับ
กูลศรีพญาเป็นตระกูลใหญ่ มีสมาชิกที่โดดเด่นอยู่ไม่กี่คน ผมเคยได้ยินมาว่าท่ามกลางทรัพย์สมบัติมากมายทำให้พี่น้องต้องห้ำหั่นกันอย่างหนักหน่วง เพื่อสร้างตัวตนในสังคมไฮโซเพราะนั่นคือการโชว์ศักยภาพด่านแรกให้พ่อแม่ของพวกเห็น ผลที่ตามมาคือมรดกมหาศาลสำหรับคนที่สร้างกำไรและชื่อเสียงเพื่อวงศ์ตระกูล
และแทบไม่ต้องเดาเลยว่า ลูกผู้ชายได้รับความสนใจและมีโอกาสพัฒนาตัวเองมากกว่า ซึ่งมันสร้างความลำบากให้ลูกผู้หญิงเป็นอย่างมาก
...โดยเฉพาะน้องคนเล็กอย่าง ‘ภาอร ศรีพญา’ ...
ที่แทบไม่มีพื้นที่เฉิดฉายตัวตนเหมือนพี่คนอื่นๆ แม้จะทำธุรกิจหรือเกาะกระแสประเด็นสังคมรายวันแสงก็ยังส่องไม่สว่างมากพอ
จนกระทั่งเธอตัดสินใจแต่งงานกับ ‘มันเฟรท มุลเลอร์’ เอกข้าราชทูตเยอรมันประจำริเช ผู้เป็นพ่อม่ายมีลูกมาก่อนแล้ว 3 คน
ตอนนั้นเองที่ชื่อเสียงและสถานะทางสังคมของเธอได้พุ่งแซงหน้าพี่ๆ ไม่นานก็ให้กำเนิดลูกชายหนึ่งคน หลังจากนั้นมันเฟรทก็ลาออกและพาครอบครัวไปอยู่ที่ประเทศเกิด
แต่ไม่รู้ทำไมหลังจากนั้นอีกไม่กี่ปีก็ย้ายกลับมาที่ริเช และปักหลักอยู่จนถึงทุกวันนี้ อาจจะเพราะว่าค่าครองชีพของริเชมันถูกกว่าล่ะมั้ง คงง่ายต่อการบริหารเงิน
... ‘ลูทวิช มุลเลอร์’ แทบจะเป็นแก้วตาดวงใจของคุณหญิง...
เมื่อสารมาถึงมือผมว่าด้วยเรื่องการมีชีวิตอยู่ของฮิตเลอร์ กรมของผมจึงไม่รีรอที่จะจับตามองครอบครัวที่มีชาวต่างชาติของคุณหญิงทันที
ทีมของผมประกอบไปด้วยสมาชิกเพียงไม่กี่คน มีนาตาลีรับเป็นหัวหน้าภารกิจ มีฝ่าย IT คนและผมผู้มีสัมผัสพิเศษมองเห็นวิญญาณได้
ผมจึงเสนอว่างานเลี้ยงต้อนรับเจ้าหน้าที่ใหม่ของ GKI น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะในนั้นเต็มไปด้วยผู้มีอิทธิพล และคิดว่าคุณหญิงภาอรไม่น่าจะพลาดงานนี้
และเมื่อเดินเข้าไปในงาน สอดส่องความเป็นไปก็ดันไปเจอกลุ่มควันสีเทาที่ลอยฟุ้งอยู่ไกลๆ ซึ่งงานที่คนเยอะเช่นนั้น ทำให้ผมจับสังเกตได้ยากลำบากพอสมควร และกว่าจะเดินหาชายคนนั้นเจอก็เล่นเอาหอบไปเลยทีเดียว
“สวัสดีครับ คุณลูทวิช” คือคำทักทายแรกที่ผมส่งไปให้ พร้อมการร่ายประวัติครอบครัวของเขายาวเหยียด เพื่อเรียกร้องความสนใจจากลูทด์ และเป็นสิ่งจำเป็นมากหากผมอยากสนิทกับเขาโดยไว
ซึ่งตอนนั้นเขาดูหงุดหงิดนิดหน่อย ผมเดาว่าคงเป็นการพูดคุยกับท่านผู้ผู้บัญชาการตำรวจสูงสุดแน่นอน เพราะนอกจากท่านจะคุยไม่เก่งแล้วปากยังไม่ค่อยดีอีกต่างหาก มักจะทำให้ผู้คนอารมณ์เสียอยู่เรื่อยเวลาพูดคุย และผมก็จบอีเวนต์นั้นด้วยการดื่มแชมเปญและเดินจากมาโดยไม่แนะนำตัว
คือ...ผมไม่ได้เล่นตัวหรือหยิ่งอะไรนะ แค่รำคาญเสียงอึกทึกเฉยๆ อีกอย่างก็รู้แน่แล้วว่าใครถูกสิงจะอยู่ให้เสียเวลาทำไม
...แล้วจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่าลูทด์ถูกใครสิง...
มันก็ไม่ได้ยากอะไรมากนักหรอก ผมทำงานอยู่กับกรมผีๆ สางๆ เราวิจัยเรื่องพวกนี้อยู่เรื่อยๆ ก็แค่ศึกษาเรียนรู้พฤติกรรมของวิญญาณเป้าหมาย ว่าเขาเป็นคนอย่างไรเท่านั้นเอง
แต่ผมคิดผิด เพราะมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น พวกคุณเชื่อไหมผมนั่งอ่านประวัติศาสตร์โลกเป็นเดือนกว่าจะวิเคราะห์พฤติกรรมฮิตเลอร์ได้ และต้องใช้สมาธิสูงเพื่อจินตนาการว่าหากเขาเป็นคนหนุ่มสาวในยุคปัจจุบันจะมีทัศนคติเช่นไร
ซึ่งก็หนีไม่พ้น ชาวยุโรปผิวขาว จากการผูกใจเจ็บจนต้องฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว มีความเป็นไปได้ว่าเขาจะเป็นคนเหยียดเพศเหยียดสีผิว และอนุรักษนิยมสูง
แต่เนื่องจากลูทด์มีมวลวิญญาณที่อ่อน นิสัยแบบนั้นยังไม่เด่นชัด แต่ความคิดของเขามีเปลี่ยนไปบ้าง เช่นการเห็นดีเห็นงามกับการกีดกันพูดอพยพที่ลี้ภัยทางสงคราม ผมบอกเลยนะหากไม่รีบกำจัดวิญญาณโดยไว คนที่มีสถานะสังคมสูงพร้อมมีสะพานถอดยาวให้ไปเล่นการเมืองได้ง่ายอย่างลูทด์ มีเปอร์เซ็นต์สูงมากที่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จะเกิดขึ้นอีกครั้ง
ผมจึงได้สืบสาแหรกฝั่งพ่อของเขาต่อ ว่าแต่ละคนมีนิสัยเช่นไร ก็เลยได้เจอข้อมูลใหม่ๆ ว่าแท้จริงแล้วมันเฟรทพ่อของลูทด์มีนิสัยชอบเหยียดไปทั่ว แต่มันดันมีอีกคนที่ทำให้ผมต้องลังเลน่ะสิ นั่นคือน้องของคุณมันเฟรท ซึ่งนิสัยเหมือนกันเปี๊ยบ
แถมยังชอบบินไปกลับระหว่างริเชและเยอรมันบ่อยๆ และเมื่อผมสืบลึกลงไปก็พบว่า...มันเฟรดป่วยเป็นมะเร็ง
แต่เรื่องนี้ไม่ได้เป็นที่รับรู้อย่างแพร่หลายนัก ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณหญิงภาอรถึงปิดบังเรื่องนี้คนเป็นมะเร็งมีเป็นล้านไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรขนาดนั้น หรือเพราะความเป็นไฮโซของเธอทำหน้าบางกันแน่นะ ความไม่สมบูรณ์แบบเพียงหนึ่งเรื่องก็ทำให้ชีวิตมีราคีอะไรทำนองนั้น?ไม่รู้สิผมก็เดาไปเรื่อย
สิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจ 50% ว่าลูทด์คือฮิตเลอร์ เพราะในประวัติของเขามีการย้ายคณะจากศิลปะมาเรียนรัฐศาสตร์แทน ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้มีความชอบมาก่อน ผมจำได้ว่าฮิตเลอร์ก็เคยมีประวัติการเรียนแบบนี้ เขาอยากเรียนศิลปะแต่สอบเข้าไม่สำเร็จจึงเบนสายไปเรียนทหาร นี่คือการผูกใจเจ็บและรังเกียจวิชาศิลปะไปในตัวรึเปล่านะ
ปัจจุบันลูทด์อายุ 23 เขาเปลี่ยนคณะเรียนตอนอายุ 20 เป็นไปได้ไหมว่าจะโดนสิงช่วงนั้นทำให้ส่งผลกระทบต่อความคิด
แต่มันก็มีข้อมูลขัดแย้งก็ขึ้นมาอีกหนึ่งอย่าง นั้นก็คือรสนิยมของลูทด์ อย่างที่ทุกท่านทราบว่ามันเป็นเช่นไรจากการที่เขามีเซ็กซ์กับผมอยู่บ่อยครั้ง
ซึ่งจิตวิญญาณของฮิตเลอร์ไม่น่าจะชอบร่างแบบนี้ ปริศนานี้ทำให้ทีมของผมต้องกากบาทเอาไว้เป็นหัวข้อใหญ่เลยครับว่าต้องไขให้ได้
ผมจึงเสนอข้อพิสูจน์ นั่นคือเอาตัวเข้าไปพัวพันกับลูทด์ และลองมีสัมพันธ์ทางกายกับเขา แน่นอนว่าโดนหัวเราะเยาะลั่นห้องทำงาน
...ผมรู้ว่ามันเป็นความคิดที่บ้าบอ...
แต่คุณลองคิดดูสิ พวกเหยียดเพศเหยียดผิวจะรับได้ไหมหากชีวิตต้องมาเจอกับประสบการณ์แบบนี้
...ซึ่งผมก็คิดถูก...
เพียงแค่เซ็กซ์แรกของเรากลุ่มมวลพลังงานสีดำก็ค่อยๆ ลอยออกมาจากร่างของลูทด์ สัมผัสวิญญาณชัดเจนมากว่านี่คือฮิตเลอร์
และมันยังเป็นข้อมูลใหม่สำหรับผมด้วย ซึ่งไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าวิญญาณลอยออกจากร่างได้ในยามที่ร่างต้นกำลังสนองความชอบที่ขัดแย้ง
แต่มันลอยไปไหนล่ะ สิ่งนี้ผมยังหาคำตอบไม่ได้ ผมทดลองซ้ำๆ จนพักหลังแยกไม่ออกเลยว่ามันคือภารกิจหรือความต้องการของตัวผมเอง
จึงเป็นที่มาของ 5 เดือนที่เอื่อยเฉื่อยจนนาตาลีต้องออกโรงมาทวงถามงานที่ไม่ค่อยเป็นรูปเป็นร่างนัก อีกทั้งยังเสียงต่อการถูกเบื้องบนหยุมหัวอีกด้วย
ทำให้ต่อจากนี้ผมไม่อาจเสพสมกับร่างกายรสหวานของลูดท์ได้อีกแล้ว
ข้อมูลทั้งหมดที่ผมมีเราต้องนำไปไขปริศนาลำดับต่อไป ซึ่งมันยังค้างคาอยู่หลายประเด็น เช่น วิญญาณหายไปไหน และเป็นไปได้ไหมว่าการเปลี่ยนถ่ายภาชนะมายังลูทด์จะกะทันหันเกินไป
เพราะมันไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่วิญญาณอนุรักษนิยมราวกับโวลเดอมอร์คลั่งเลือดบริสุทธิ์จะมาสิงอยู่ในคนที่มีรสนิยมอย่างลูทด์ และ...
มีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องพวกนี้อีกหรือไม่...?