โคบา อีลีฟ ถูกจับคู่กับ ลูทวิช มุลเลอร์ เพื่อล่าตัว"ฮิตเลอร์"ผู้นำสังหารหมู่ที่หนีความตายโดยการสิงสู่ผู้คนไปเรื่อยๆ ฉากหลังการล่าอาชญากรระดับ A-list ทำให้ความสนิทสนมถลำลึกไปถึงเตียงนอนอย่างช่วยไม่ได้

Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง - Chapter9 รุกฆาต โดย Di-N(ดิเอ็น) @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อาชญากรรม,ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,ชาย-ชาย,ไทย,สืบสวนสอบสวน,ผี,วาย,วายแฟนตาซี,yaoi ,อาชญากรรม,อาถรรพ์,18+,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

อาชญากรรม,ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,ชาย-ชาย,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

สืบสวนสอบสวน,ผี,วาย,วายแฟนตาซี,yaoi ,อาชญากรรม,อาถรรพ์,18+

รายละเอียด

Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง โดย Di-N(ดิเอ็น) @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

โคบา อีลีฟ ถูกจับคู่กับ ลูทวิช มุลเลอร์ เพื่อล่าตัว"ฮิตเลอร์"ผู้นำสังหารหมู่ที่หนีความตายโดยการสิงสู่ผู้คนไปเรื่อยๆ ฉากหลังการล่าอาชญากรระดับ A-list ทำให้ความสนิทสนมถลำลึกไปถึงเตียงนอนอย่างช่วยไม่ได้

ผู้แต่ง

Di-N(ดิเอ็น)

เรื่องย่อ

ผมเกิดเป็นหมารับใช้ ทั้งชีวิตทำได้อยู่สองอย่าง

เห่ายามว่างและกระโดดงับภารกิจ ต้องทำให้มันสำเร็จไม่ว่าจะด้วยวิธีอะไร

จะเป็นผู้ล่าหรือผู้ถูกล่าก็เก็บสถานะของคุณไว้ให้ดี จงอย่าเปิดเผยตัวตนต่อหน้าศัตรูเป็นอันขาด

สวัสดีค้ามาเปิดเรื่องใหม่อีกแล้ว เรื่องนี้ร่วมกิจกรรมกับนักเขียนรถแห่นะคะ #รถแห่ชวนเขียนVol.5

โดยเลือกจากคีย์เวิร์ด 3ใน4 สงคราม / break the 4th wall / สังหารหมู่ / ตัวเอกเป็นหมา

นิยายเรื่องนี้เราเลือก สงคราม / break the 4th wall / สังหารหมู่ ค่ะ

ตอนแรกคิดว่ารอบนี้จะไม่ร่วมแล้ว เนื่องจากคีย์เวิร์ดโคตรยาก แต่จู่ๆ พล็อตแล่นมาพอดีไม่ทันตั้งตัว

เป็นเรื่องสั้น(แสนคำ) 10 ตอนจบเหมือนเดิมค่ะ จำนวนคำน่าจะ 3 หมื่นพอๆ กับเรื่องซาวด์นะคะ

เรื่องนี้เดิมที Location ประเทศไทยค่ะ แต่เนื่องด้วยอาชีพของพระเอกมันหมิ่นเหม่ไปหน่อย เราเลยเปลี่ยนเป็นประเทศสมมุติชื่อว่า 'Riche (ริเช)' แต่ยังคงความเป็นชื่อไทยเอาไว้ เพื่ออรรถรสและบอกความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติของนายเอกค่ะ'

เรื่องนี้เป็นการชิมลาง Yaoi เรื่องแรกนะคะ แต่กลิ่นอายเรื่องไม่ได้ชูเรื่องนี้ชัดเจน เลยเอามาลงหมวกสืบสวนดีกว่าซึ่งเป็นธีมหลักของเรื่องค่ะ หวังว่าทุกคนจะชอบนะค้าาาา

1.เรื่องนี้ไม่เหมาะสำหรับสายสุขนิยมค่ะ

2.มีความสัมพันธ์ระหว่าง ชายxชาย ดำเนินเรื่อง

3.ไม่ใช่แนวรักจ๋า

4.หากไม่ชอบเรื่องไม่ถูกจริตสามารถกด x ได้เลยนะคะ

5.ไม่ด่าเสียๆ หายๆ หากคู่โผลไม่ตรงใจ สามารถกด x ได้เช่นกันค่ะ

6.เรื่องนี้มันเข้ามากระทันหัน ทำให้เรารีบปั่นให้ทันสิ้นเดือน เราจะปล่อย 3 ตอน หลังจากนั้นจะหยุดไปทำงานหลักสักแป๊บ แล้วจะกลับมาอัปอีกที วันที่ 6 นะคะ

7.อ่านคำเตือนอีกทีนะคะ ทำใจก่อนอ่าน 5555+

สารบัญ

Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter Prologue,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter1 ชายปริศนา,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter2 GKI ในบาร์,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter3 สัมพันธ์ร้อน(NC),Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter4 รายชื่อต้องสงสัยกับนิ้วร้อนในซอกตึก,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter5 คู่หู,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter6 รสรัก (NC),Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter7 รายชื่อสุดท้าย,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter8 ลูทวิช มุลเลอร์,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter9 รุกฆาต,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter10 คณะดาบเงิน,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter11 เรื่องเพ้อเจอ,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter12 ปิดเคส,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter13 อุดมการณ์รักไม่หักแล้วนะครับ NC (END)

เนื้อหา

Chapter9 รุกฆาต

ผมไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ตัวเองเจอกับอะไร ดูเหมือนว่าหลังจากเซ็กซ์วันนั้น โคบาจะห่างหายไปโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย

หรือการถามถึงที่ไปที่มาของเขามันจะไม่ควรกันแน่นนะ ไอ้เราก็อุตส่าห์ลืมประเด็นนี้ไปแล้วแท้ๆ แต่เขากลับทำตัวลับๆ ล่อๆ ให้น่าสงสัยมากกว่าเดิม

ผมมานั่งทบทวนดูแล้วการทำงานของโคบามันก็ดูแปลกๆ ในหลายครั้ง เขาถูกเลือกให้เป็นหัวหน้าภารกิจแต่การเดินทางเข้ามาออฟฟิศไม่ได้บ่อยเหมือนคนอื่น

ยกตัวอย่างเช่น พวกเราเข้างานตามเวลาราชการแต่เขาจะมาทีหลังเสมอ บางวันก็โผล่มาตอนเย็นโดยให้เหตุผลว่าไปติดต่อประสานงานกับหน่วยอื่น ตรงนี้ผม50/50 แฮะ ไม่กล้าคิดว่าเขามีอะไรปิดบัง เพราะทุกครั้งที่กลับมาก็มักมีข้อมูลติดตัวมาด้วยเสมอ

แต่เมื่อเพื่อนทีมอื่นมาสะกิดต่อมเสือกของผม ไอ้การกระทำที่ว่ามาทั้งหมดมันก็ชวนสงสัยขึ้นมาเสียดื้อๆ

ในขณะนี้ผมนั่งมองนิ้วชี้ตัวเองที่เคาะลงบนโต๊ะอย่างเชื่องช้า ท่ามกลางแสงไฟสีส้มอบอุ่นที่ต้นกำเนิดมันมาจากไฟระย้าที่ห้อยหรูหราอยู่เหนือหัว

“ลูทด์ จะนั่งอีกนานมั้ยลูก ไม่ลุกไปเอนจอยกับงานหน่อยเหรอ” แม่พูดขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นยังสะกิดผมจากอาการเหม่อลอยอีกด้วย

ผมติดตามเธอมายังงานเลี้ยงเสมอ สาเหตุนั้นก็เพราะว่าพ่อป่วยจึงออกไปไหนมาไหนไม่ค่อยสะดวก อีกทั้งวันนี้มันก็ยังเป็นวันเกิดของคุณลุงอีกด้วยไม่มีทางหรอกที่แม่จะพลาด

ในเมื่อโดนไล่แบบนี้แล้ว ผมก็เลยลุกเดินทั่วงานตามคำขอ หยิบอาหารบ้างคุยกับคนอื่นบ้างตามประสา ซึ่งก็ดีเหมือนกันนะทำให้ลืมเรื่องโคบาไปได้บ้าง แม้จะแค่ไม่กี่นาทีก็ตาม

“ไงหลานชาย” คำพูดของคนชายคนหนึ่งที่ทำให้ผมหันมอง แต่ทว่าเขาดันไม่ใช่ญาติฝั่งแม่ที่เป็นเจ้ามือในการจัดปาร์ตี้นี้

“อ้าว คุณอาอันทอน มาที่ริเชเมื่อไหร่ครับ”

“เพิ่งจะบินถึงเมื่อเย็นนี้”

“แบบนี้ก็เหนื่อยแย่สิครับ แม่ขอให้มาแน่เลย”

“ไม่เหนื่อยนักหรอก อีกอย่างมันก็งานสังสรรค์ถึงจะถูกขอมา มันก็ไม่ลำบากอะไรเท่าไหร่”

คุณอาบินไปกลับเยอรมันกับริเชเสมอ เพื่อมาดูแลพ่อ มันอาจจะแปลกสำหรับคนยุโรปที่อายุปูนนี้แล้วพี่น้องยังต้องประคับประคองกันอยู่เสมอราวกับเด็กไม่โต แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของผม ใครอยากทำอะไรก็ช่างเถอะเพราะตอนนี้เรื่องของโคบามันส่งผลกับอารมณ์ของผมมากจนไม่มีเวลาอยากไปใส่ใจเรื่องของคนอื่น

“แล้วคุณอาจะอยู่กี่วันครับ”

“ประมาณหนึ่งอาทิตย์อย่างที่เคยนั่นแหละ” อาอันทอนตอบผมก่อนจะทำสีหน้าครุ่นคิดออกมา “อืม...หลานรักช่วงนี้มีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นรึเปล่า”

มีสิ! ก็ไอ้บ้าโคบาไง แต่ผมจะตอบแบบนี้ไปก็ไม่ใช่เรื่องปะ?ในเมื่อคุณอาไม่ได้รู้จักเขา

“ไม่มีนี่ครับปกติดี”

“เหรอ...เช่น อาการเจ็บปวดตามร่างกาย หรือ..มุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับชีวิตอะไรทำนองนี้”

“อาการเจ็บปวดผมมีบ้างครับ ว่าจะไปหาหมออยู่เหมือนกัน ส่วนประเด็นเกี่ยวกับชีวิตอะไรเนี่ย ก็ไม่นะครับผมก็ปกติดี”

ทุกท่านครับ ความจริงผมไม่เข้าใจคำถามไอ้เรื่องมุมมองที่ว่าของคุณอาเท่าไหร่ จึงเลือกตอบออกไปแบบนั้น

“อ้อ...งั้นเหรอ”

“มีอะไรรึเปล่าครับ”

“ไม่มีหรอก อาก็แค่เป็นห่ว...”

กรี๊ดดดดดดดดดดดด!

อาอันทอนยังพูดไม่จบก็มีเสียงกรี๊ดดังขึ้นมาจากไหนสักที่ ก่อนจะตามด้วยเสียงแก้วและจานชามที่ใส่อาหารกระแทกลงบนพื้น

โครม!!

ไม่เพียงเท่านั้นโคมไฟระย้าที่เคยสวยงามก็หล่นตามมาติดๆ ส่งผลให้ในห้องโถงรับรองนี้เกิดบรรยากาศสลัวขึ้นมาทันตา

ผมกับคุณอาพยายามหาต้นตอของมัน แต่ก็มีบางอย่างดังแทรกขึ้นมาอีกครั้งและมันทำให้เราสองคนต้องก้มลงโดยอัตโนมัติ

ปัง!!!!

เสียงปืน! สิ่งที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในงานสังสรรค์ระดับนี้ อะไรกัน? การรักษาความปลอดภัยไม่มีเลยเหรอ

“เกิดอะไรขึ้นครับคุณอา!?”

“จะไปรู้เหรอ อาก็งงเหมือนเธอเนี่ย”

ผมกับอาอันทอนมุดอยู่ที่ใต้โต๊ะ ในขณะที่เสียงปืนยังคงดังลั่น ให้ตายเถอะ! ผมไม่ได้เอาปืนมาซะด้วย ไม่อย่างนั้นคงชักขึ้นมาป้องกันตัวแล้วยืดคอดูสถานการณ์คร่าวๆ ได้แล้ว ซึ่งตอนนี้มีทั้งเสียงดังลั่นและเสียงแก้วที่แตกดังเปรี๊ยะไปเรื่อยๆ รวมถึงฝีเท้าของผู้คนที่วิ่งกันจ้าละหวั่น

“ลูทด์ ลูทด์! อยู่ที่ไหนน่ะลูก”

ผมได้ยินเสียงของแม่แทรกเข้ามาเป็นระยะ ก็ได้แต่ภาวนาให้เธออย่าวิ่งพล่านไปทั่วก็แล้วกัน เพราะทำแบบนั้นมีสิทธิ์ที่จะโดนกระสุนได้สูง

“คุณอาอยู่ตรงนี้นะครับ อย่าพยายามเคลื่อนไหวตัวไปไหน”

“หลานจะไปไหน!?” อาอันทอนพยายามรั้งตัวผมไว้

“ไม่ต้องห่วงผมหรอกครับผมเอาตัวรอดได้”

บอกเพียงเท่านั้นก็คลานไปยังใต้โต๊ะตัวอื่น เพื่อที่ผมจะอาศัยจังหวะอันน้อยนิดสอดส่องสถานการณ์ที่แว็บเข้ามายามเปลี่ยนผ่านจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง แม้มันจะไม่ได้ช่วยอะไรมาก แต่ก็ยังดีกว่าอยู่เฉยๆ รอวันกระสุนเจาะเข้าร่างกาย

ตอนนี้มีหลายคนแตกตื่นและวิ่งหนี บางคนก็ใช้วิธีการหลบเหมือนผม ส่วนคุณแม่ ถ้าให้เดาเธอคงวิ่งพล่านเหมือนที่กลัวแน่ๆ อีกอย่างผมเห็นกลุ่มคนสูทดำเดินเข้ามากันเป็นโขยงได้ ซึ่งบางคนในนั้นกำลังยิงสวนไปที่ไหนสักที และบางคนเดินดุ่มๆ เหมือนตามหาอะไรสักอย่าง

“วางปืนดีกว่านะคะคุณสักกะ”

‘สักกะ ศรีพญา’ คือลุงของผม เขาเป็นญาติฝั่งแม่และเป็นเจ้าของงานเลี้ยงนี้ ซึ่งตอนนี้กำลังถูกสั่งโดยใครบางคนอยู่

ผมจึงใช้โอกาสที่นั่งนิ่งอยู่ใต้โต๊ะชะโงกหัวขึ้นมาดูสถานการณ์ พบว่าเป็นคุณลุงที่ถือปืนประชันกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูทะมัดทะแมงอยู่

...อะไรวะ!? ...

ไม่รู้มาก่อนว่าคุณลุงยิงปืนเป็น แต่ผมก็สะบัดความคิดนั้นออกไปอย่างรวดเร็วเพราะมันไม่ใช่เวลาจะมานั่งสงสัยอะไรไร้สาระในเวลานี้

เมื่อดูลาดเลาตรงหน้าก็พบว่าตำแหน่งของผมอยู่ข้างหลังของผู้หญิงคนนี้ ถ้ามีท่าทีจะยิงคุณลุง ผมภาวนาให้ตัวเองวิ่งไปล็อกตัวของเธอได้ทันท่วงที

“ไม่เคยมีมารยาทตั้งแต่รุ่นพี่ยันรุ่นน้องเลยนะ”

“แหม รู้จักรุ่นพี่พวกเราด้วยเหรอคะ หรือคุณเคยทำอะไรผิดมาก่อน”

“หุบปาก! ถึงพวกคุณจะมีสิทธิ์เหนือหน่วยงานอื่น แต่ไม่ใช่ว่าจะทำอะไรไร้มารยาทแบบนี้ได้ ถ้าผมดีลกับท่านสำเร็จรู้ใช่มั้ยว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

“คิดว่ารอบนี้จะเหมือนครั้งที่ผ่านๆ มาเหรอคะ”

“หมายความว่าไงวะ!”

ปัง!

ผมฟังคุณลุงโต้เถียงกับผู้หญิงคนนั้นในหัวข้อที่ตัวเองไม่ได้เข้าใจเท่าไหร่ รู้เพียงว่าเขาโกรธมากจนต้องยิงปืนขึ้นฟ้า และนั้นก็ทำให้ผมได้รู้ต้นตอของโคมไฟระย้าที่หล่นลงมา ก็คงเป็นคุณลุงนี่ล่ะมั้งที่ยิงขู่

“การแอบอ้างก็มีจุดสิ้นสุดนะคะ ถ้ายังไม่วางปืนลงดิฉันพร้อมส่งคุณไปหลับในโลงทันที”

ผมไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้น และกลุ่มคนที่มาบุกคือใครแต่ถ้าให้ผมเดาคงเป็นหน่วยงานของรัฐพอๆ กับผม และไม่ว่าใครจะถูกจะยิง ผมก็เลือกคุณลุงไว้ก่อนเพราะการที่เจ้าหน้าที่รัฐพูดว่าจะฆ่าคนธรรมดาออกมาได้ง่ายๆ มันอุกอาจและไร้จรรยาบรรณเกินไป

ดังนั้นผมจึงคลานออกมาจากใต้โต๊ะ และค่อยๆ ยืดตัวเพื่อย่องเข้าด้านหลังไปล็อกตัวเธอ ทำให้จังหวะนั้นคุณลุงได้เห็นผมพอดี ซึ่งท่านไม่ได้แสดงสีหน้าดีใจให้กระโตกกระตากออกมา นับว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้อง

แต่ทันใดนั้นเอง! สมาธิของคุณลุงก็พังพินาศอย่างที่ผมไม่อาจเข้าใจ

“เจ้าลูทด์ระวัง!”

ปึก!

และกว่าผมจะรู้ตัว ท้ายทอยก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่หนักหน่วง มันกระทบเข้ามาพร้อมทำให้สายตาของผมหนักอึ้งอย่างรวดเร็ว มันราวกับว่าผมกำลังโดนยาสลบซึ่งทำให้สภาพแวดล้อมรอบตัวเหมือนแผ่นดินไหว เพราะเริ่มโงนเงนและหมุนติ้วไปในทุกขณะ

เมื่อสัมผัสถึงความเยือกเย็นของที่มาพร้อมความเจ็บปวดของร่างกาย ก็รู้ตัวได้ในทันทีว่าผมกำลังร่วงหล่นบนพื้น

สายตามันพร่ามัวจนไม่รู้ว่าคุณลุงเป็นอย่างไรแล้ว และพยายามมองบุคคลที่มาพร้อมกับเสียงฝีเท้าหนัก

...เพียงเท่านั้นผมก็เบิกตาโพลง...

“โคบา...” ผมเอ่ยออกไปอย่างแผ่วเบา พร้อมกับสติที่กำลังเลือนราง

มันเกิดอะไรขึ้น’

เป็นไปได้ยังไง’

สองความสงสัยท่ามกลางคำถามนับล้านที่วิ่งอยู่ในหัวมันเด่นขึ้นมา ผมพยายามฝืนตัวเองไม่ให้สลบหวังกระชากคอเสื้อเขาเข้ามาถาม แต่ก็เป็นเจ้าตัวนั่นเองที่ลงมานั่งยองเพื่อก้มดูสภาพใกล้ร่อแร่ของผม พร้อมคำพูดบางเบาราวกับเสียงแว่วที่ปาฏิหาริย์ยังสั่งให้สติผมได้รับรู้

“ผมรออยู่ตั้งนาน ว่าเมื่อไหร่คุณจะออกมาจากใต้โต๊ะโง่ๆ นั่นสักที”

ผมไม่มีแรงตอบกลับเลย ได้แต่มองเขาทั้งที่เปลืองตาเริ่มปิดกั้นการมองเห็น มันเป็นสีดำสลับภาพขุ่นมัว และแสงสว่างสุดท้ายที่มันแยงเข้ามาในตาของผม คือตราเข็มกลัดดาบไขว้เป็นกากบาท

...คณะดาบเงินงั้นเหรอ...