โคบา อีลีฟ ถูกจับคู่กับ ลูทวิช มุลเลอร์ เพื่อล่าตัว"ฮิตเลอร์"ผู้นำสังหารหมู่ที่หนีความตายโดยการสิงสู่ผู้คนไปเรื่อยๆ ฉากหลังการล่าอาชญากรระดับ A-list ทำให้ความสนิทสนมถลำลึกไปถึงเตียงนอนอย่างช่วยไม่ได้

Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง - Chapter11 เรื่องเพ้อเจอ โดย Di-N(ดิเอ็น) @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อาชญากรรม,ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,ชาย-ชาย,ไทย,สืบสวนสอบสวน,ผี,วาย,วายแฟนตาซี,yaoi ,อาชญากรรม,อาถรรพ์,18+,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

อาชญากรรม,ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,ชาย-ชาย,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

สืบสวนสอบสวน,ผี,วาย,วายแฟนตาซี,yaoi ,อาชญากรรม,อาถรรพ์,18+

รายละเอียด

Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง โดย Di-N(ดิเอ็น) @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

โคบา อีลีฟ ถูกจับคู่กับ ลูทวิช มุลเลอร์ เพื่อล่าตัว"ฮิตเลอร์"ผู้นำสังหารหมู่ที่หนีความตายโดยการสิงสู่ผู้คนไปเรื่อยๆ ฉากหลังการล่าอาชญากรระดับ A-list ทำให้ความสนิทสนมถลำลึกไปถึงเตียงนอนอย่างช่วยไม่ได้

ผู้แต่ง

Di-N(ดิเอ็น)

เรื่องย่อ

ผมเกิดเป็นหมารับใช้ ทั้งชีวิตทำได้อยู่สองอย่าง

เห่ายามว่างและกระโดดงับภารกิจ ต้องทำให้มันสำเร็จไม่ว่าจะด้วยวิธีอะไร

จะเป็นผู้ล่าหรือผู้ถูกล่าก็เก็บสถานะของคุณไว้ให้ดี จงอย่าเปิดเผยตัวตนต่อหน้าศัตรูเป็นอันขาด

สวัสดีค้ามาเปิดเรื่องใหม่อีกแล้ว เรื่องนี้ร่วมกิจกรรมกับนักเขียนรถแห่นะคะ #รถแห่ชวนเขียนVol.5

โดยเลือกจากคีย์เวิร์ด 3ใน4 สงคราม / break the 4th wall / สังหารหมู่ / ตัวเอกเป็นหมา

นิยายเรื่องนี้เราเลือก สงคราม / break the 4th wall / สังหารหมู่ ค่ะ

ตอนแรกคิดว่ารอบนี้จะไม่ร่วมแล้ว เนื่องจากคีย์เวิร์ดโคตรยาก แต่จู่ๆ พล็อตแล่นมาพอดีไม่ทันตั้งตัว

เป็นเรื่องสั้น(แสนคำ) 10 ตอนจบเหมือนเดิมค่ะ จำนวนคำน่าจะ 3 หมื่นพอๆ กับเรื่องซาวด์นะคะ

เรื่องนี้เดิมที Location ประเทศไทยค่ะ แต่เนื่องด้วยอาชีพของพระเอกมันหมิ่นเหม่ไปหน่อย เราเลยเปลี่ยนเป็นประเทศสมมุติชื่อว่า 'Riche (ริเช)' แต่ยังคงความเป็นชื่อไทยเอาไว้ เพื่ออรรถรสและบอกความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติของนายเอกค่ะ'

เรื่องนี้เป็นการชิมลาง Yaoi เรื่องแรกนะคะ แต่กลิ่นอายเรื่องไม่ได้ชูเรื่องนี้ชัดเจน เลยเอามาลงหมวกสืบสวนดีกว่าซึ่งเป็นธีมหลักของเรื่องค่ะ หวังว่าทุกคนจะชอบนะค้าาาา

1.เรื่องนี้ไม่เหมาะสำหรับสายสุขนิยมค่ะ

2.มีความสัมพันธ์ระหว่าง ชายxชาย ดำเนินเรื่อง

3.ไม่ใช่แนวรักจ๋า

4.หากไม่ชอบเรื่องไม่ถูกจริตสามารถกด x ได้เลยนะคะ

5.ไม่ด่าเสียๆ หายๆ หากคู่โผลไม่ตรงใจ สามารถกด x ได้เช่นกันค่ะ

6.เรื่องนี้มันเข้ามากระทันหัน ทำให้เรารีบปั่นให้ทันสิ้นเดือน เราจะปล่อย 3 ตอน หลังจากนั้นจะหยุดไปทำงานหลักสักแป๊บ แล้วจะกลับมาอัปอีกที วันที่ 6 นะคะ

7.อ่านคำเตือนอีกทีนะคะ ทำใจก่อนอ่าน 5555+

สารบัญ

Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter Prologue,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter1 ชายปริศนา,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter2 GKI ในบาร์,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter3 สัมพันธ์ร้อน(NC),Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter4 รายชื่อต้องสงสัยกับนิ้วร้อนในซอกตึก,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter5 คู่หู,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter6 รสรัก (NC),Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter7 รายชื่อสุดท้าย,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter8 ลูทวิช มุลเลอร์,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter9 รุกฆาต,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter10 คณะดาบเงิน,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter11 เรื่องเพ้อเจอ,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter12 ปิดเคส,Swastika Hunter อุดมการณ์รัก หักกันไปข้าง-Chapter13 อุดมการณ์รักไม่หักแล้วนะครับ NC (END)

เนื้อหา

Chapter11 เรื่องเพ้อเจอ

หลังจากฟื้นขึ้นมาผมก็พบว่าตัวเองอยู่ในสถานที่อันไม่คุ้นเคย พวกคุณเชื่อไหมความทรงจำครั้งสุดท้ายก็คือการที่โคบาเดินเข้ามาทุบท้ายทอยจนสลบ

จากนั้นก็เหมือนฝันอันเลือนราง ราวกับว่าตัวผมนั้นได้ต่อสู้กับอะไรบางอย่างที่มันชั่วร้ายมากๆ ทั้งเจ็บปวดและมืดมน ภายในห้วงจิตใจคิดแต่เรื่องติดลบอยู่ตลอดเวลา แล้วจู่ๆ ผมก็ฟื้นขึ้นมาในห้องแลบ ที่แต่งตัวด้วยชุดขาวและร่างกายหนักอึ้ง สภาพไม่ต่างจากคนไข้ที่การรักษาตัวมานาน

มองดูรอบตัว ที่นี่เหมือนโรงพยาบาล ทั้งจอมอนิเตอร์ข้างๆ ห้องขาวสะอาดตาเพียงแต่มันไม่มีสายน้ำเกลือโยงใยเหมือนในหนังเท่านั้นเอง อ้อ...ที่ชวนสงสัยอีกอย่าง ก็พวกอักขระแปลกๆ ซึ่งถูกเจิมติดกับอุปกรณ์ทุกชิ้นในห้อง

ยังไม่นับเวลาที่ผมหันมองไปด้านข้าง แล้วเจอกระจกหน้าต่างบานใหญ่กินพื้นที่เกือบครึ่งกำแพงนะ ข้างนอกนั้นเต็มไปด้วยผู้คนที่เดินกันวุ่น ใส่ชุดกาวน์หรือไม่ก็ขาวทั้งตัวจนปกปิดใบหน้าเหมือนกำลังป้องกันตัวเองจากเชื้อโรคร้าย บางคนก็ใส่ชุดสูทเหมือนพนักงานออฟฟิศธรรมดา ผมจึงไม่กล้าเรียกที่นี่ว่าโรงพยาบาล จึงได้แต่ถามตัวเองซ้ำๆ อยู่ในหัว “กูตายแล้วเหรอวะ”

แต่สิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ตายห่า ก็เพราะร่างสูงใหญ่ของคนที่คุ้นเคยเดินเข้ามานั่นแหละ

...โคบา เอส อีลีฟ...

บอกตรงๆ นะนั่นคือชื่อจริงรึเปล่าก็ไม่รู้ เขาเดินมานั่งข้างๆ กินพื้นที่ของผมจนต้องขยับหนีเกือบตกเตียงตาย

“คุณสลบไปตั้งสองวัน” เขาพูด พร้อมกับเป่าควันบุหรี่ออกมาจนควันโขมงลอยขึ้นบนอากาศ

“หวังว่าคุณคงไม่ได้แอบทำมิดีมิร้ายกับผมหรอกนะ” มันเป็นมุกน่ะครับ เพราะผมไม่รู้จะตอบอะไรเขาไป ลำพังตัวเองยังจับต้นชนปลายไม่ถูกเลย

“ผมจะทำไปทำไม แค่ขอคุณก็ให้แล้ว”

“นั่นมันอดีต ตอนนี้อย่าหวังเลย”

“ดูท่าทางคุณจะโกรธผมมาก”

“ผมไม่รู้หรอกนะว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่คุณหลอกฟันผมแน่นอน ด้วยจุดประสงค์อะไรบางอย่าง”

“ผมเป็นหมารับใช้วันๆ ทำได้แค่เห่ากับงับภารกิจ ผมต้องทำให้มันสำเร็จไม่ว่าจะด้วยวิธีใด”

“วิธีที่ว่าก็คือมาเย็...ผมงั้นเหรอ!?”

“เย็...แม่คุณผมก็ทำได้ ถ้านั้นมันทำให้ภารกิจสำเร็จ คุณก็น่าจะเข้าใจ ไหนๆ ก็เป็นสายสืบเหมือนกัน”

พวกคุณว่าผมจะนั่งยิ้มและทำตัวคล้อยตามเขามั้ยครับ มันก็ต้องไม่อยู่แล้ว แม่งบ้าปะ! พูดออกมาได้ไง

“กระดากปากบ้างมั้ย” ผมถึงกับลุกถามแต่คุณชายเขาก็ยังพ่นควันออกจากปากอย่างไม่สะทกสะท้าน

ปึก!

ผมหมั่นไส้ว่ะ ใช้เท้าถีบหลังแม่ง การกระทำนี้ของผมทำให้โคบาลุกขึ้นและคีบบุหรี่ออกจากปากเพื่อมองหน้าผมด้วยสายตาเรียบเฉย

“ซักม้วนมั้ย?”

“คงมีอารมณ์หรอก”

“แน่ล่ะ คุณมีอารมณ์ก็ต่อเมื่อถ่างขาให้ผมเท่า”

“อย่ามาหลงตัวเอง นั้นมันตอนที่ผมไม่รู้ว่าคุณมันระยำแค่ไหน”

 

ผลัวะ!

ผมเหลืออดเลยกระโจนต่อยเขาจนมือชา โคบาแทบไม่ทันตั้งตัวเขาเซเล็กน้อยพร้อมจับที่มุมปากและสะบัดหัวตัวเองให้หายมึน

และก็เป็นผมเองที่โดนศรย้อนตัว เมื่อโคบาไม่ได้คิดจะทำให้ตัวเองโดนกระทำฝ่ายเดียว เขาพุ่งตัวมาชนผมเพื่อเอาคืน

แต่ทว่า!

“เฮ้!คุณจะทำอะไรน่ะ!”

มันดันไม่ใช่การทำร้ายให้ร่างกายเสียหาย เขาแค่ผลักให้ผมไปนอนหงายพาดกับเตียง และจับแขนผมตรึงกับที่นอน!

“แข็งแรงแบบนี้ แสดงว่ามวลวิญญาณคงออกไปหมดแล้ว”

“ห๊ะ...” เขาพูดในสิ่งที่ผมไม่เข้าใจ แต่เมื่อจะอ้าปากถามปลายจมูกโด่งก็เขาก็เข้ามาชนจมูกผม จนคำถามหลายอย่างมันกลืนหายลงไปในคอ

ผมรู้....ผมรู้ตัวดีกับสัมผัสเช่นนี้ แม้ข้อแขนมันจะถูกล็อกไว้เหนือหัวทั้งสองข้างก็เถอะ แต่มันไม่ได้ถูกกระทำด้วยความรุนแรง อีกทั้งเขายังเลื่อนปลายจมูกมาถูกไถที่แก้มผมอีกด้วย

...คิดว่าผมจะเคลิ้มงั้นสิ!...

“ออกไปไกลๆ เลย!” ผมใช้แรงผลักเขาอย่างง่ายดาย และให้ใช้ข้อศอกชันตัวอย่างขึ้นมองอย่างคาดโทษ

ดูก็รู้ว่าอยาก เอาซี...ถ้าไม่ยอมซะอย่างคงทรมานไปนั่งชักว่าวในห้องทำงานจนน่าสงสารแน่ๆ แต่ผมก็แอบกลัวอยู่นะ เพราะเขากระชับเนกไทราวกับว่าจะทุ่มกำลังปราบพยศผมให้อยู่หมัด

แต่ก็โชคดีที่มันไม่เกิดขึ้น โคบาเดินเข้ามาช้าๆ รอยยิ้มยกมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ เพียงเท่านี้ก็รู้แล้วว่าเขาอยากเอาชนะผมให้ได้

จูบเหรอ?หรือเอากันสักยก โดยไม่สนสายตาคนข้างนอกที่ตอนนี้ก็จับตามองพวกเราอยู่เป็นนิจ

“อุ๊บ!” ผมเลยยกฝ่าเท้าปิดปากเขาเสียเลย เมื่อโคบาเดินเข้ามาใกล้และอยู่ในระยะพอดี

“เย็...ผมฟรีๆ มาเยอะแล้ว ครั้งนี้คุณต้องจ่ายกับความระยำที่ทำไว้ เอาเป็นว่าผมมัดจำด้วยส้นตีนก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวค่อยเปิดราคาอีกที ว่าจูบหนึ่งครั้งต้องจ่ายเท่าไหร่ แต่ถ้าอยากให้ผมแหกก็แพงหน่อยนะ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่คุณต้องทำใจ เพราะผมเป็นถึงคุณหนูลูทด์ ถ้าเปรียบผมเป็นกะหรี่มันนับว่าชั้นสูงพอตัว เคนะ”

ดูเหมือนการขยี้เรื่องหลอกใช้จะได้ผลแฮะ โคบาแทบหน้าถอดสีไปในทันที แววตาฉายชัดเจนว่ารู้สึกผิดอยู่บ้างและเขาก็จับข้อเท้าผมลดลงให้ปากตัวเองได้เป็นอิสระ

“มีเวลาคุยกับผมมั้ย”

“เรื่อง?”

“ไม่อยากรู้เหรอว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง”

เอ่อ...ก็จริงแฮะผมมัวแต่สู้รบตบมือกับเขา โดยที่ลืมต้นตอของเรื่องทั้งหมดไปเลย ดังนั้นเราจึงสงบศึกและมานั่งคุยกันที่โซฟาในห้อง

“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับผมล่ะ”

“ก็ไม่ได้เกิดอะไรมาก คุณแค่โดนผีสิง”

“ตลก!” เอาจริงดิเหตุผลนี้จริงเหรอ ใครจะเชื่อวะ

“คุณมีอาการเจ็บปวดหลังมีเซ็กซ์กับผม หรือความคิดบางอย่างส่งผลกับร่างกายบ้างไหมล่ะ”

รู้ได้ไงวะ นั่นคือคำถามที่ผุดขึ้นมาในใจของผม มันก็ถูกผมรู้สึกแบบนั้น แต่มันคงไม่เกี่ยวกับเรื่องเพ้อเจ้อพวกนี้หรอก

“ก็มีบ้าง แต่ไปหาหมอก็หาย”

“มันไม่มีทางหายหรอก จนกว่าเขาจะครอบครองร่างของคุณได้สำเร็จ”

“พูดเป็นตุเป็นตะขนาดนี้ ผีตัวไหนมาเข้าสิงผมเหรอ ห๊ะ?”

“ฮิตเลอร์ไง”

“บ้า!?”

“รายชื่อทั้ง7 และชื่อสุดท้ายคือคุณ อ้อ...ถ้าจะพูดให้ถูก หกรายชื่อแรกมันก็แค่ตัวหลอก”

อึ้งครับ...พูดไม่ออก ความคิดของผมมันกำลังบินว่อนจนสับสนอีกครั้ง ใครหลอก ใครจริง?แล้วผมโดนผีเข้าตอนไหน

“โอเค...เล่ามาให้หมด”

“ภารกิจของผมคือตามหาวิญญาณฮิตเลอร์ มีรายชื่อมาให้ผมเจ็ดคน แต่โชคเข้าข้างเพราะผมดันเจอคุณก่อนใคร และเห็นได้ชัดว่าคุณโดนสิง”

“นี่ จากนักสืบตอนนี้คุณกลายมาเป็นหมอผีแล้วเหรอ”

“ใช่”

โคบาตอบด้วยสีหน้าจริงจัง ทำเอาผมที่ถามขำๆ หน้าถอดสีไปเลยแฮะ เพราะการกระทำนี้มันเหมือนดูถูกเขากลายๆ

“คงไม่ได้จะบอกผมว่า...คุณเป็นพวกผู้วิเศษมองเห็นวิญญาณได้หรอกนะ”

“ใช่ ผมเห็น”

“เห้ย คุณปฏิเสธบ้างก็ได้”

“พอได้แล้วลูทด์ ผมไม่มีเวลามานั่งชี้แจ้งคุณทุกประเด็นหรอกนะ มันยังมีปริศนาที่ผมไขไม่ออกอีกหลายข้อ คุณมีสภาวะความคิดที่เปลี่ยนไป ซึ่งคุณไม่รู้ตัว และทุกครั้งที่คุณแสดงความเป็นความตนออกมา ไม่ว่าการเห็นอกเห็นใจคนอื่น หรือแม้กระทั่งความชอบของตัวเอง เช่นการมีอะไรกับผม คุณจะเจ็บปวดร่างกาย เพราะสิ่งนั้นวิญญาณไม่ยอมรับ ผมขอบอกสั้นๆ เพียงเท่านั้น”

“สภาวะความคิดที่เปลี่ยนงั้นเหรอ?”

“คุณคิดเห็นยังไงกับผู้อพยพ”

“แน่นอนก็ต้องเปิดรับสิ ใช่มันมีปัญญามากมายอะไรขนาดนั้น ถ้าเราลงทุนปลุกปั้นทักษะให้พวกเขามาเป็นแรงงานของประเทศได้ ผมว่ามันก็ไม่น่ามีปัญหานะ”

“ก็ตามนั้น เมื่อก่อนคุณไม่ได้คิดแบบนี้ คุณต่อต้านพวกเขาและชอบใจกับความเห็นของแคนดี้ ซาร์ส”

“บ้าน่า ผมไม่ชอบเธอ เธอชอบเหยียดจะตาย เห็นผมแบบนี้ก็มีเพื่อนในวงการบันเทิงนะ ผมรู้ดี”

“ก็นั่นแหละความแตกต่าง คุณเป็นตัวของตัวเองจริงๆ ก็คือตอนที่มีเซ็กซ์กับผม และนี่คือข้อสงสัย”

“ข้อสงสัย?”

“ทุกครั้งที่มีอะไรกัน ผมจะเห็นกลุ่มควันลอยออกจากตัวคุณ แต่ผมไม่รู้ว่ามันไปที่ไหน”

“แล้วผมจะรู้มั้ยล่ะ ก็ถ้ามันลอยได้อิสระขนาดนั้น มั่นใจได้ไงว่ามันออกจากตัวผมไปหมดแล้ว”

“ถึงต้องไปชิงตัวคุณออกมานี่ไง ถ้าไม่ใช้ห้องแลบของกรมอารักขาพวกเราก็ไล่วิญญาณออกจากตัวคุณไม่ได้ เพราะกลัวมันจะลอยหายไปนี่แหละ”

“งั้นคุณเป็นต้นคิดถล่มงานลุงผมเหรอ?คุณนี่แม่งเหี้ยจริงๆ เลยนะ”

“ผมไม่ได้คิด ทีมผมคิด”

“มันต่างกันตรงไหนล่ะ”

“เอาเป็นว่าตอนแรกเราไม่ได้ตั้งธงว่าจะลักพาตัวคุณมา แค่จะจับตัวลุงของคุณมาทำข้อตกลง ส่วนจะเรื่องอะไรนั้นผมไม่ขอพูดถึง ไปถามเขาเอาเองก็แล้วกัน แต่บังเอิญได้ตัวคุณมาด้วย เราก็ไม่รีรอที่จะทำภารกิจให้มันสำเร็จ”

“แล้ว...มันมีจุดไหนที่คุณสงสัยอีกล่ะ”

“วิญญาณลอยได้อิสระขนาดนั้น แสดงว่ามีคนชักใยอยู่เบื้องหลัง”

“เอ่อ...เหมือนหมอผีเรียกวิญญาณกลับอย่างงั้นเหรอ”

“ใช่”

“แล้ว...?”

“แล้วมันก็ต้องเกี่ยวกับคุณแน่นอนยังไงล่ะลูทด์ พ่อคุณ แม่คุณ และญาติๆ ของคุณล้วนน่าสงสัยทั้งนั้น”

“พ่อผมตัดออกไปได้เลย ป่วยขนาดนั้น”

“เสียใจด้วยนะ ถ้าผมจะบอกว่าพ่อของคุณคือภาชนะคนก่อนของฮิตเลอร์”

“อะไรนะ!?”

“เราไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่การเปลี่ยนถ่ายมายังคุณเห็นได้ชัดว่าเร่งรีบ เพราะคุณสมบัติของคุณมันขัดแย้งกับวิญญาณสูงมาก คุณเป็นเด็กหัวสมัยใหม่ความคิดและทัศนคติค่อนข้างเสรีนิยม ซึ่งมันแทบจะขั้วตรงข้ามกับฮิตเลอร์ นั่นเป็นเหตุให้คุณเจ็บปวดตามร่างกาย ตัวร้อนหรือเป็นไข้ เพราะวิญญาณพยายามเข้าแทรกจิตโดยฉับพลัน ขัดขว้างตัวตนที่แท้จริงของคุณเกือบทุกวินาที”

“อย่าบอกนะ ว่านี้คือสาเหตุที่คุณต้องจิ้มกับผมบ่อยๆ”

“มันเป็นวิธีที่โคตรบ้า แต่เสือกใช้ได้ผลซะงั้น ไม่งั้นก็ไม่รู้หรอกว่ามันมีเบื้องหลังทับซ้อนอยู่”

“เหอะ คุณเอาไปใส่ในชีวประวัติซะนะ ว่าครั้งหนึ่งเคยเย็...ฮิตเลอร์”

“ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ”

เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเขาหัวเราะจนน้ำตาเล็ดขนาดนั้น ผมงี้หน้าเหวอเลย สงสัยว่าพูดอะไรผิด

“ขำเพื่อ หรือไม่จริง?”

“มุขนี้ใช้ได้นะ เดี๋ยวผมจะเอาไปคิดดู”

“แล้ว...มันเคยมีเคสที่คนต่อต้านวิญญาณบ้างมั้ย”

“มี ซึ่งเป็นวิธีที่โหดร้ายที่สุด และได้กำจัดวิญญาณได้แทบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะมีสองความคิดวิ่งตีกันในหัวและจบด้วยการเป็นโรคทางจิตเวช แล้วคุณคิดว่า...กลุ่มคนที่อยู่กับความเศร้าหมองนานๆ เขามีทางออกยังไง”

“ฆ่าตัวตาย...”

“ใช่”

“แล้วคุณคิดว่าใครอยู่เบื้องหลัง”

“ไม่รู้ว่าใคร แต่เป็นคนรอบตัวคุณแน่ๆ เราต้องการให้คุณช่วยแลกกับการล้างประวัติที่ขึ้นบัญชีดำของคุณ ซึ่งโดยปกติแล้วใช้เวลาสอบสวนเป็นเดือน”

“คนใกล้ตัว…ผมต้องท่องคติประจำใจของคุณด้วยรึเปล่า”

“....”

โคบาไม่พูดอะไรออกมาเลย นั้นมันก็ชัดเจนแล้วสำหรับคำตอบ และในหัวผมก็จดคำพูดของเขาได้เป็นอย่างดี...แม้มันจะโหดร้ายเพียงใดก็ตาม

เห่ายามว่างและกระโดดงับภารกิจ ต้องทำให้มันสำเร็จไม่ว่าจะด้วยวิธีอะไร