ดาวร้ายอันดับหนึ่งของวงการอย่างเขาต้องมาแต่งงานลับๆกับพระเอกแห่งชาติ แต่ใครจะไปคิดว่าสามีเขาปากร้ายอย่างกับหมา! แถมอ่อยเท่าไรก็ไม่เคยสนใจ นี่สามีเขาไร้ความรู้สึกไปแล้วหรือไงกัน!
ดราม่า,ชาย-ชาย,รัก,ผู้ใหญ่,ไทย,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,โรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่ายดาวร้ายอันดับหนึ่งของวงการอย่างเขาต้องมาแต่งงานลับๆกับพระเอกแห่งชาติ แต่ใครจะไปคิดว่าสามีเขาปากร้ายอย่างกับหมา! แถมอ่อยเท่าไรก็ไม่เคยสนใจ นี่สามีเขาไร้ความรู้สึกไปแล้วหรือไงกัน!
♛
ลัดฟ้า คือดาวร้ายอันดับหนึ่งของวงการที่ต้องมาแต่งงานลับๆ กับ ราชา พระเอกที่ได้ฉายาว่าเป็นสามีแห่งชาติของสาวๆ ทั้งประเทศ
แต่ใครจะไปคิดว่าภาพลักษณ์ราวกับเทพบุตรพวกนั้นล้วนหลอกลวงทั้งสิ้น สามีแห่งชาติบ้าอะไรกัน นี่มันปากหมาแห่งชาติสิไม่ว่า!
เขาอุตส่าห์งัดทุกกลเม็ดมาอ่อยจนสุดตัว แต่ไอ้สามีเวรนั่นกลับมองเขาแค่หางตาก่อนจะพ่นคำพูดสมควรตายออกมาว่า
"เมื่อไรจะหยุดขยิบตา แล้วนั่นกัดปากทำไม หิวจนไม่มีอะไรกินเหรอ"
"..."
"อ่อ แล้วก็หยุดบิดเอวสักทีด้วย เห็นแล้วมันเมื่อยแทน"
ให้ตายสิ! ราชาหยิบไม้เรียวขึ้นมาจะตีก้นเขาอีกแล้ว!
นอกจากจะได้สามีเป็นคนไร้ความรู้สึก นี่เขายังได้ครูฝ่ายปกครองแถมมาด้วยอย่างนั้นเหรอ!?
♛
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายออริเรื่องแรกของเรา ฝากทุกคนเอ็นดูเรื่องนี้ด้วยนะคะ
เปิดเรื่อง : 14 เมษายน 2565
จบบริบูรณ์ : 18 กันยายน 2565
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้เขียน อาจมีเหตุการณ์ไม่เหมาะสมที่ตัวละครในเรื่องได้กระทำ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
หากไม่ชอบสามารถกดออกได้เลยค่ะ รบกวนไม่คอมเมนท์บั่นทอนจิตใจนักเขียนนะคะ ขอบคุณค่ะ
— Trigger Warning —
Dirty talk, Toxic relationship, Demestic Violence (ตัวละครหลักไม่ได้กระทำ)
— Twitter —
— Page —
—
03
'ราชา วีระกิตธาดา' พระเอกดาวรุ่งแห่งวงการและลูกชายคนเดียวของวีระกิตธาดากรุ๊ป บริษัทผลิตสื่อยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ชีวิตของเขาสมบูรณ์แบบมาตั้งแต่เด็กจนโต ใคร ๆ ต่างก็บอกว่าเขาประสบความสำเร็จในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน หรือแม้กระทั่งรูปร่างหน้าตาก็ตาม
แต่ใครเล่าจะรู้ว่า ในด้านความรักและชีวิตคู่ของเขานั้นกลับไม่สมปรารถนาดังใจหวัง ราชาไม่เคยคิดเลยว่าชั่วชีวิตหนึ่งของตนจะถูกคลุมถุงชนเช่นนี้ เขาแสดงละครมามากมาย ยิ่งละครน้ำเน่าที่พระเอกต้องถูกครอบครัวจับคลุมถุงชนกับคนที่ไม่ได้รักก็มีตั้งหลายเรื่อง จากที่ยังไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของตัวละครเหล่านั้นอย่างถ่องแท้ มาในวันนี้ราชารู้ซึ้งแล้วว่าตัวละครพวกนั้นรู้สึกอย่างไร
ชีวิตของเขาเหมือนละครก็ไม่ปาน พระเอกในละครน้ำเน่านั้นต้องรวยหลายร้อยล้าน ต้องหล่อเหลาเป็นที่หมายปองของใครหลายคน ซึ่งนั่นก็เป็นคุณสมบัติที่เขามีครบถ้วน รวมไปถึงสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือพระเอกต้องเกลียดเจ้าสาวของตนเอง แต่ที่สุดแล้วก็ตกหลุมรักและอยู่ครองคู่กันอย่างมีความสุขในตอนจบ
ราชาอยากจะหัวเราะให้ฟันร่วง ถึงแม้ว่าเขาจะเหมือนในตัวละครมากขนาดไหน แต่นี่มันชีวิตจริงต่างหาก ให้ตายสิ พระเอกก็ต้องคู่กับนางเอกแสนดี แต่ทำไมเจ้าสาวของเขากลับเป็นตัวร้ายที่กวนประสาทได้ทุกวี่ทุกวันแบบนี้กันล่ะ
อย่าได้ฝันเลยว่าเขาจะตกหลุมรักลัดฟ้าเหมือนในละคร ทุกวันนี้ให้อยู่กันอย่างสงบสุขยังยากกว่าเลยด้วยซ้ำ
ตัวร้ายก็เป็นตัวร้ายอยู่วันยังค่ำ จะมาคู่กับพระเอกแบบเขาได้อย่างไรกัน
“ละครเรื่องใหม่ที่กูบอก มึงตัดสินใจได้หรือยัง” ธีระ เพื่อนสนิทและเจ้าของบริษัทดูแลนักแสดงที่ราชาสังกัดอยู่เอ่ยถาม อันที่จริงแล้วราชาเองก็เป็นหุ้นส่วนในบริษัทของธีระเช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นละคร ภาพยนตร์ หรือโครงการใด ๆ ก็แล้วแต่ ธีระย่อมนำมาปรึกษาเขาคนแรกเสมอ
“ของพี่โจ้ใช่ไหม” ราชาถามกลับ ขณะที่พนักงานร้านกาแฟหน้าบริษัทมาเสิร์ฟน้ำให้พวกเขาพอดี
“ใช่ พี่โจ้วางตัวมึงเป็นพระเอกตั้งแต่เขียนบทเลยนะ”
ราชาพอจะนึกออกบ้างแล้ว ละครพีเรียดของผู้กำกับมากความสามารถที่ไม่ว่านักแสดงคนไหนก็อยากจะร่วมงานด้วย ซึ่งทางทีมงานติดต่อผู้จัดการของเขามาและเสนอบทพระเอกให้กับเขา และถ้าเขาตอบตกลงเมื่อไร ธีระก็จะเป็นสปอนเซอร์ให้กับละครเรื่องนี้ทันที
“แล้วนายเอกล่ะ”
นอกจากราชาจะรับเล่นละครชายหญิงทั่วไปแล้ว เขายังรับเล่นซีรีส์วายหรือชายรักชายอีกด้วย และทุกคนในวงการรู้ดีว่าราชาไม่ปิดกั้นเรื่องเพศ อีกทั้งยังสนับสนุนความเท่าเทียมของความหลากหลายทางเพศในสังคมอยู่เสมอ ดังนั้นแล้วไม่ว่าชายหรือหญิงต่างก็ใฝ่ฝันที่จะเข้ามาทำความรู้จักกับราชากันทั้งนั้น
“เห็นว่าพี่โจ้มอง ๆ อินทัชไว้นะ แต่ยังไม่ได้ติดต่อไป”
ราชาพยักหน้าพลางยกแก้วกาแฟขึ้นมาจิบ เขาใช้ความคิดเล็กน้อยเมื่อนึกถึง อินทัช นักแสดงมากฝีมือคนหนึ่งที่โด่งดังในตอนนี้ อินทัชเป็นผู้ชายที่มีใบหน้าสวยหวานยิ่งกว่าผู้หญิงบางคนเสียอีก ภาพลักษณ์ของเขาน่าทะนุถนอมและไร้เดียงสา แม้ว่าจะมีรูปร่างสูงโปร่งกว่าลัดฟ้าก็ตาม
จะว่าไปแล้ว ลัดฟ้าก็ออกจะเอวบางไปหน่อย ถึงแม้ว่าสะโพกกลมกลึงได้รูปนั่นจะดึงดูดสายตาได้ดีแค่ไหนก็ตาม หากเพิ่มน้ำหนักอีกนิด เอวนุ่ม ๆ คงจะน่าบีบให้เต็มมือ…
เดี๋ยวสิ แล้วนี่เขาจะไปคิดถึงลัดฟ้าทำไมวะ
“เฮ้ย! นี่มึงได้ยินกูไหมเนี่ย” ธีระโพล่งใส่เขาเสียงดัง ราชาหลุดออกจากภวังค์ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนสนิทที่เลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย
“มึงจะเสียงดังทำไม”
“ก็แล้วมึงเงียบทำไมล่ะ ถามก็ไม่ตอบ” ธีระกอดอก “ตกลงยังไง กูจะได้คุยกับพี่โจ้เขา”
“เอาดิ กูก็ไม่ได้ถ่ายละครมาสักพักแล้วด้วย”
“ก็แค่นี้ อ่อ แต่กูบอกไว้ก่อนนะว่ามีเวิร์กช็อปเรียนรำดาบด้วย”
“กูเวิร์กช็อปขับเครื่องบินมาแล้ว แค่รำดาบจะไปยากอะไร”
ราชาไหวไหล่ ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขาที่กำลังฉายอยู่ในโรงภาพยนตร์ตอนนี้เกี่ยวกับนักบิน ซึ่งราชาเองก็ชอบที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ อยู่แล้ว เขาไม่ใช้สตันท์แมนเลยสักฉาก นอกจากนั้นเขาก็ยังเรียนการขับเครื่องบินเองอีกด้วย
“เออครับพ่อคนเก่ง ยังไงถ้าวางตัวนักแสดงครบทุกคนแล้ว กูจะให้ผู้จัดการมึงบอกอีกทีแล้วกัน”
ราชาพยักหน้ารับด้วยความเข้าใจ พอดีกับที่เสียงโทรศัพท์ของธีระดังขึ้น เพื่อนสนิทของเขานั่งคุยงานไปด้วย ส่วนเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กบ้าง ปลายนิ้วขยับเลื่อนไปยังแอปพลิเคชันโซเชียลต่าง ๆ เขาพิมพ์ตอบคอมเมนต์ของแฟนคลับสองสามคน จากนั้นก็ตอบกลับข้อความของผู้จัดการตนเองที่ค้างไว้ตั้งแต่เช้า ก่อนจะกดเปิดแอปรูปภาพในโทรศัพท์ขึ้นมา
ใบหน้าน่ารักของชายคนหนึ่งปรากฏขึ้นบนหน้าจอ รอยยิ้มอ่อนโยนที่ไม่ว่าเขาจะมองเมื่อไรก็มักจะทำให้ยิ้มตามได้เสมอ ปลายนิ้วโป้งลูบภาพบนหน้าจออย่างแสนรัก เหมือนกับว่าการดูรูปของชายคนนี้เป็นสิ่งที่เขาทำเป็นประจำทุกวันไปแล้ว
เพราะเพียงแค่ได้เห็นหน้า ราชาก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง หัวใจของเขาถูกปลอบประโลมด้วยรอยยิ้มอบอุ่นนั้นเสมอมา
“แต่งงานแล้วยังจะดูรูปคนอื่นอยู่อีก” ธีระเงยหน้าขึ้นมาหลังจากวางสายแล้ว เพื่อนสนิทตัวสูงเอ่ยทักอย่างไม่จริงจังนัก
ราชาหลุบตาต่ำลง เขาเก็บมือถือเข้ากระเป๋าดังเดิมแม้ว่าอยากจะนั่งดูรูปชายคนนั้นต่ออีกสักหน่อยก็ตาม ร่างสูงพ่นลมหายใจออกมาอย่างอึดอัดใจ
“มึงก็รู้ว่ากูชอบพี่เขามานานแค่ไหนแล้ว”
“เออกูรู้ แต่พี่ตะวันเขามีสามีแล้วนะเว้ย”
“เลิกแล้ว”
“ห๊ะ”
“พี่ตะวันเลิกกับสามีมาเกือบปีแล้ว”
ธีระไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เขาชำเลืองมองสีหน้าดูราวกับมีความหวังของราชาเล็กน้อย เพื่อนสนิทของเขาแอบชอบตะวันหรือรุ่นพี่สมัยเรียนมัธยมมาหลายปีแล้ว ในตอนนั้นทั้งเขาและราชาต่างก็เป็นรุ่นน้องในชมรมวาดภาพของตะวันทั้งคู่ ตะวันเป็นคนน่ารัก ยิ้มง่าย อยู่ด้วยแล้วสบายใจ อีกทั้งยังพูดจาอ่อนหวานเรียบร้อย ไม่แปลกที่ราชาจะแอบชอบมาหลายปีดีดัก
เห็นราชาเป็นหนุ่มฮอตแบบนี้ แต่เจ้าตัวกลับมีสเป็กที่ชอบอย่างที่ใคร ๆ ก็คาดไม่ถึง ราชาชอบคนเรียบร้อย ยิ่งเรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้ก็ยิ่งดี หากแต่ธีระคิดว่าที่สเป็กของราชาเป็นแบบนี้ไม่ได้มาจากความชอบส่วนตัวสักเท่าไรหรอก คงจะมาจากนิสัยของตะวันเสียมากกว่า
เพราะหลังจากราชาชอบตะวันแล้ว ราชาก็ไม่มองคนเรียบร้อยคนอื่นอีกเลย
แต่ถึงอย่างนั้นตะวันก็ไม่ได้แสดงออกกับราชาในเชิงชู้สาวแต่อย่างใด พวกเขาเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่ดีต่อกันเสมอมา อีกทั้งราชาในตอนนั้นก็ป๊อดเกินกว่าจะไปจีบรุ่นพี่คนน่ารัก จนสุดท้ายเรียนจบแล้วก็แยกย้ายกันไป ตะวันย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัยที่อเมริกา และเมื่อสามปีก่อนตะวันก็แต่งงานกับหนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวคนหนึ่ง ธีระกับราชาเองก็ได้ไปร่วมงานแต่งงานนั้นด้วย แม้ราชาจะเสียใจมากแค่ไหนแต่ก็ยังยิ้มแสดงความยินดี เก็บความขมขื่นไว้ในใจจนธีระอดสงสารเพื่อนสนิทไม่ได้
และในครั้งนั้นก็ทำให้พวกเขาทั้งคู่รู้ความจริงบางอย่างเข้า ลัดฟ้าอยู่ที่งานนั้นด้วย ในฐานะน้องชายฝ่ายเจ้าสาว
สำหรับธีระแล้วมันน่าตกใจอยู่ไม่น้อย ที่ดาราตัวร้ายอันดับหนึ่งของวงการเป็นถึงน้องชายของรุ่นพี่คนสนิทแต่เขากลับไม่เคยรู้เลย หากแต่ราชาไม่ได้สนใจด้วยซ้ำ เขาไม่เคยรู้จักกับลัดฟ้ามาก่อน แม้จะเคยเห็นอีกคนผ่านตาในทีวีมาบ้างแต่ก็ไม่ได้รู้อะไรไปมากกว่านั้น
จนมาในวันนี้ เหมือนโชคชะตาเล่นตลก ลัดฟ้ากลับกลายมาเป็นเจ้าสาวของเขาไปเสียแล้ว
“ยังไงมึงก็รอหย่ากับน้องฟ้าก่อนแล้วกัน ค่อยเดินหน้าเรื่องพี่ตะวันต่อ”
“กูรู้ว่าอะไรควรไม่ควร” ราชาเอนหลังพิงกับเก้าอี้อย่างเหนื่อยหน่าย “ดูก็แต่เจ้าสาวกูเถอะ อาทิตย์หนึ่งควงอย่างต่ำสองคนมั้ง”
“ก็เกินไปน่า พวกนักข่าวมันก็ใส่สีตีไข่ไปเรื่อย” ธีระเอ่ยปรามพลางกลั้วหัวเราะ ลัดฟ้าเองก็เป็นหนึ่งในนักแสดงที่บริษัทของเขาดูแลอยู่เหมือนกัน
ลัดฟ้าเป็นรุ่นน้องคณะเดียวกันกับเขา แม้ภาพลักษณ์ของลัดฟ้าจะดูร้ายกาจเหมือนกับบทบาทที่เจ้าตัวมักได้รับ แต่จริง ๆ แล้วกลับเป็นเด็กน่ารักและขี้อ้อนอยู่เสมอ เสน่ห์ของลัดฟ้าเป็นที่พูดถึงมาตั้งแต่ก่อนเข้าวงการแล้ว มันเหมือนกับสารเสพติด หากได้ลุ่มหลงก็ยากจะถอนตัวขึ้นมาง่าย ๆ
“ไม่ต้องมาปกป้องน้องรักของมึงต่อหน้ากูเลย”
ธีระยิ้มขำเมื่อเห็นว่าบทสนทนาที่เกี่ยวกับลัดฟ้านั้นทำให้ความสุขุมบนใบหน้าของเพื่อนสนิทตนค่อย ๆ หายไป สีหน้าหงุดหงิดจากราชานั้นไม่ค่อยได้เห็นง่าย ๆ นัก สงสัยลัดฟ้าตัวแสบคงจะเอาเรื่องน่าดูเชียวล่ะ
ยังไม่ทันที่พวกเขาจะพูดคุยกันต่อ รถสปอร์ตสีดำคันหรูคันหนึ่งก็ขับมาจอดที่ริมฟุตพาทหน้าร้านกาแฟ ราชาเหลือบมองอย่างไม่ใส่ใจนัก หากแต่คนที่ก้าวลงมาจากฝั่งข้างคนขับคือคนที่พวกเขากำลังพูดถึงอยู่พอดี
ลัดฟ้ายิ้มหวานก่อนจะโบกมือลานักแสดงรุ่นน้องที่มาส่ง จากนั้นรถยนต์ก็เคลื่อนตัวออกไป
“พูดถึงก็มาพอดีเลยนั่น”
ธีระหัวเราะชอบใจในขณะที่สีหน้าของราชาดูจะเบื่อหน่ายยิ่งกว่าเดิม นัยน์ตาคู่สวยเป็นประกายของคนที่ยืนอยู่นอกร้านเลื่อนมาสบสายตากับสามีของตนเองพอดิบพอดี ริมฝีปากอิ่มกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนที่กายบางในชุดที่ออกจะโชว์เนื้อหนังมังสาเยอะจนเกินไปจะเดินเข้ามาร้านนี้
ราชามองอย่างหงุดหงิด เสื้อจะแหวกไปถึงไหนวะนั่น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร เพราะไม่ว่าลัดฟ้าจะแต่งตัวแบบไหนเขาก็ห้ามไม่ได้อยู่แล้ว มันเป็นสิทธิ์ของแต่ละคน
ดูเหมือนว่าวันนี้ลัดฟ้าจะแต่งหน้าต่างไปจากวันแต่งงานเล็กน้อย มันไม่ใช่โทนอ่อนหวานแบบเจ้าสาวแต่กลับดูเฉี่ยวคมมากกว่านั้น โดยเฉพาะดวงตาคู่สวยเจ้าเล่ห์ราวกับจิ้งจอกแสนเสน่ห์นั่น ราชาเลื่อนสายตาไปทางอื่นเมื่อรู้สึกได้ว่าตนเองพิจารณาใบหน้าของลัดฟ้ามากไปแล้ว
เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะมองใบหน้าสวยนั่นเสียหน่อย พอดีมองผ่าน ๆ มันก็เลยเห็นก็แค่นั้นเอง
“สวัสดีครับพี่ธีร์” ลัดฟ้านอบน้อมกับธีระอยู่เสมอ นั่นจึงทำให้เพื่อนสนิทของเขาเอ็นดูลัดฟ้าเป็นพิเศษ ธีระรับไหว้ก่อนจะเริ่มเอ่ยหยอกเย้า
“ช่วงนี้มีสารถีคนใหม่แล้วเหรอครับน้องฟ้า” ธีระพูดพลางหัวเราะไปด้วย นั่นจึงทำให้ลัดฟ้ายิ้มตาม
ร่างบางชำเลืองมองราชาที่กำลังจับจ้องบรรยากาศด้านนอกร้านกาแฟอยู่ สามีสุดที่รักทำทีว่าไม่สนใจเขาที่เดินมานั่งข้าง ๆ เลยแม้แต่น้อย ช่างเป็นสามีที่รักภรรยาเสียจริง
“พี่ธีร์ก็” ลัดฟ้าหัวเราะตาหยี “นั่นธันวาครับ นักแสดงหน้าใหม่ของช่องหกไง”
“อ๋อ คนนั้นนี่เอง กำลังดังเลยนี่ ไปรู้จักกันได้ไงล่ะ” ธีระถามพลางเงยหน้ามองเพื่อนสนิทของตนที่ทำหน้าเบื่อโลกอยู่ตรงหน้า
เหมือนจะเห็นอะไรสนุก ๆ เสียแล้วสิ ธีระยิ้มกริ่ม
“ฟ้าบังเอิญรู้จักกับธันวาตอนงานแฟชั่นวีกคราวก่อนน่ะครับ ก็เลยสนิทกัน”
“เชื่อตายล่ะ”
รอยยิ้มสดใสของลัดฟ้าค้างอยู่กลางอากาศเมื่อได้ยินประโยคถากถางจากคนที่นั่งเงียบอยู่นาน ใบหน้าสวยหันไปมองสามีปากหมาของตนที่นั่งอยู่ด้านข้าง ร่างบางเท้าคางมองคนเป็นสามี ก่อนจะเผยรอยยิ้มเคลือบยาพิษเหมือนอย่างเคย
คราวนี้คุณเริ่มก่อนเองนะคุณสามี
“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะครับคุณราชา”
ลัดฟ้ายิ้มกว้างขึ้นไปอีกจนราชาเริ่มหงุดหงิดกับรอยยิ้มนั่น คนตัวสูงพยายามไม่สนใจร่างบางที่เขยิบเข้ามาใกล้ โชคดีหน่อยที่แถวนี้ไม่มีนักข่าวหรือคนอื่น ๆ อยู่เลย ไม่อย่างนั้นข่าวฉาวของลัดฟ้าครั้งต่อไปก็คงจะมีชื่อเขาอยู่ด้วยแน่ ๆ
“แล้วคุณจะเขยิบเข้ามาใกล้ผมทำไมนัก”
“ก็ตอบมาก่อนสิครับ ที่พูดแบบนั้นเพราะคุณไม่เชื่อผมงั้นสิ” มือเรียวอีกข้างที่ไม่ได้เท้าคางไว้ก็เอื้อมไปลูบไล้ต้นขาของราชาที่อยู่ใต้โต๊ะช้า ๆ
อืม กล้ามเนื้อต้นขาแน่นแบบนี้ ตอนที่ใช้งานหนัก ๆ คงจะแรงดีไม่มีตกแน่ ๆ
ไม่ได้ ๆ ถึงราชาจะหุ่นดีน่าเจี๊ยะแค่ไหนก็ต้องอดทนไว้ก่อน คนแบบนี้ต้องปราบให้อยู่ในกำมือแล้วค่อยละเลียดชิมช้า ๆ สิ
“คุณฟ้า” ราชากัดฟันกรอด คิ้วเข้มขมวดมุ่นเมื่อมือบางเริ่มเลื้อยขึ้นมาถึงขอบกางเกงช้า ๆ
“เอ หรือว่าคุณสามีจะหึงผมงั้นเหรอครับ”
จบประโยคนั้น ธีระที่นั่งกลั้นขำอยู่นานแล้วก็ระเบิดหัวเราะออกมาทันที เขาตบมือด้วยความชอบใจเป็นอย่างมาก ดูเหมือนว่าราชาจะเจอศึกหนักเสียแล้ว ไม่เกินคำพูดที่ว่าเกลียดอะไรก็ได้อย่างนั้นเลยจริง ๆ
“เออนั่นดิ หรือมึงหึงน้องวะราม”
“เพ้อเจ้อ”
ราชาถลึงตาใส่เพื่อนสนิทของตนอย่างหัวเสีย เขาไม่ได้สนใจบทสนทนาของลัดฟ้ากับธีระต่อจากนั้น ทั้งคู่พูดคุยหัวเราะต่อกระซิกกันจนเขารู้สึกรำคาญขึ้นมานิดหน่อยแล้ว ไม่นานเสียงโทรศัพท์ของธีระก็ดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่เพื่อนสนิทตัวสูงจะขอตัวกลับไปทำงานต่อ
ลัดฟ้าโบกมือลาอย่างสดใสจนธีระอดไม่ได้ที่จะขยี้กลุ่มผมนิ่มด้วยความมันเขี้ยว
“บ๊ายบายครับพี่ธีร์” ร่างบางตะโกนไล่หลังเพื่อนของเขาไป
และเมื่อพวกเขาได้อยู่กันตามลำพังอีกครั้ง ลัดฟ้าก็ไม่ปล่อยโอกาสที่จะได้กวนอารมณ์คุณสามีไปเฉย ๆ คนตัวเล็กเท้าคางเอียงคอมองคนตรงหน้าด้วยแววตาหวานซึ้ง
ราชาถอนหายใจแล้วกลอกตาไปมา ถ้ามีรางวัลสำหรับคนที่อดทนเก่งที่สุดในโลก เชื่อเถอะว่าเขาจะได้ที่หนึ่งทันที นั่นเพราะการอดทนเป็นสามีของลัดฟ้าที่ชอบทำตัวน่าโมโหนี่แม่งสาหัสสุด ๆ แล้ว
“เลิกมองผมตาเยิ้มสักที”
“คุณก็เลิกหล่อก่อนสิ”
ดวงตาหวานซึ้งคู่นั้นคงจะใช้หว่านเสน่ห์ไปหลายคนแล้วแน่ ๆ แต่ราชาไม่ใช่คนที่จะตกหลุมพรางของลัดฟ้าได้ง่าย ๆ หรอก แววตาออดอ้อนนั่นทำอะไรเขาไม่ได้เลยสักนิด
“โอเค้ ไม่แกล้งแล้วก็ได้ หลงกลยากจริง ๆ เลยนะคุณเนี่ย” ลัดฟ้ายู่ปากทำราวกับแง่งอนสามีของตน
ราชาส่ายหัวก่อนจะเอ่ยเปลี่ยนเรื่อง” มาทำอะไรที่บริษัท”
“ผมมีถ่ายงานที่สตูดิโอในบริษัทน่ะ” ลัดฟ้าตอบก่อนจะพิงเก้าอี้อย่างสบายใจ “แล้วคุณไม่ต้องเข้าประชุมกับพี่ธีร์ด้วยเหรอ คุณเป็นหุ้นส่วนนี่”
“วันนี้ประชุมเฉพาะฝ่าย ผมไม่เข้าก็ได้”
“อ่อ”
“แล้วเย็นนี้คุณจะกลับบ้านกี่โมง” ราชาเอ่ยถามขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจ หากแต่ลัดฟ้ากลับชะงักไปครู่หนึ่ง
คำว่า บ้าน มันสะกิดใจเขานิดหน่อย นิยามของคำว่าบ้านของลัดฟ้านั้นซับซ้อน เพราะมันไม่ใช่แค่ที่ซุกหัวนอน หากแต่คำว่าบ้านของลัดฟ้าต้องเต็มไปด้วยความรักและความสบายใจ
แต่สำหรับพวกเขาทั้งคู่แล้ว มันก็เป็นเพียงความสัมพันธ์ของคนแปลกหน้า เป็นคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน พวกเขาแค่แต่งงานและมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน ไร้ซึ่งความรักใด ๆ ทั้งสิ้นก็เท่านั้น
บางทีลัดฟ้าคงจะคิดมากไป เพราะคำว่าบ้านสำหรับคนอื่นคงไม่ซับซ้อนเท่าเขาหรอก ร่างบางเลิกสนใจความคิดในหัวตนเอง ก่อนจะกลับมาวาดรอยยิ้มกริ่มแล้วเอ่ยเย้าแหย่คนตรงหน้าเช่นเดิม
“ทำไมล่ะ อยากให้ผมกลับบ้านเร็ว ๆ เหรอครับคุณสามี”
“อย่ากวนประสาทได้ไหม แค่ตอบผมมาก็พอ”
“ใจร้ายจัง” ลัดฟ้าย่นจมูกใส่คนตัวสูง “คงประมาณห้าโมงมั้ง ผมน่าจะถ่ายงานเสร็จตอนนั้นพอดี”
“งั้นตอนห้าโมงจะมีคนของผมไปส่งเตียงกับเฟอร์นิเจอร์ คุณช่วยดูให้ผมหน่อยแล้วกัน ผมคงกลับประมาณหกโมง”
“เตียง? ห้องเราก็มีเตียงนะคุณ” ลัดฟ้าเลิกคิ้วด้วยความสงสัย อันที่จริงเขาก็พอจะรู้อยู่แล้วว่าทำไมราชาถึงสั่งเตียงเพิ่ม
“แล้วใครบอกว่าผมจะนอนเตียงเดียวกับคุณล่ะ ผมจะแยกไปนอนอีกห้องหนึ่งต่างหาก”
นั่นไงล่ะ ลัดฟ้าเดาผิดเสียที่ไหนกัน แต่ถึงแม้ว่าราชาจะแยกไปอีกห้องหนึ่งก็ไม่เป็นอุปสรรคในการแกล้งคุณสามีของเขาหรอก
“ว้า แย่จังเลย แบบนี้ภรรยาก็อดกู้ดไนต์คิสคุณสามีทุกคืนน่ะสิ”
“คุณอยากให้ผมตีปากคุณตอนนี้จริง ๆ ใช่ไหม”
“เอะอะก็ตีเอะอะก็ฟาด ถ้าเป็นบนเตียงผมก็คงยอมให้หรอก”
ร่างบางยังคงเอ่ยหยอกเย้าไม่เลิก ริมฝีปากบางยกขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับนัยน์ตาเป็นประกายวิบวับ ราชาพ่นลมหายใจออกมาไม่รู้รอบที่เท่าไรของวันแล้ว เขายกมือนวดขมับตนเองเบา ๆ
“คุยกับคุณแล้วปวดหัวโคตร ๆ เลย”
ลัดฟ้ายิ้มขำที่แกล้งอีกคนได้สำเร็จ “แล้วเย็นนี้คุณจะกินอะไรไหม ผมจะได้ทำไว้ให้”
“ไม่รบกวนคุณหรอก ผมหาอะไรกินจากข้างนอกได้”
“รบกวนที่ไหนกันคุณ ไหน ๆ ก็อยู่บ้านเดียวกันแล้ว ไม่อยากจะโม้หรอกนะ แต่ผมน่ะทำอาหารอร่อยมาก”
ราชาเหลือบมองร่างบางที่เอ่ยอย่างภาคภูมิใจ คนอะไรยอตัวเองก็เป็นด้วย คิ้วเข้มเลิกขึ้นก่อนจะนึกขำ เอาเถอะ อย่างน้อยการแต่งงานครั้งนี้ก็ดูจะมีประโยชน์ขึ้นมาบ้าง มีคนคอยทำกับข้าวให้ก็คงจะดี
“ก็ได้ ถ้าคุณเสนอขนาดนั้นละก็นะ”
“รีเควสได้นะคุณ”
ราชากำลังจะตอบกลับไปว่าเอาตามที่อีกคนสะดวกเพราะเขาไม่ใช่คนเรื่องมากอยู่แล้ว หากแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรออกมา มือเรียวปลาหมึกนั่นก็เลื่อนมาแตะหลังมือของเขาอีกครั้ง
“คุณชอบแบบใส่แค่เสื้อเชิ้ตกับผ้ากันเปื้อน หรือว่าไม่ใส่อะไรเลยนอกจากผ้ากันเปื้อนตัวเดียวล่ะ…”
ยังไม่ทันที่ประโยคนั้นจะจบลงดี ราชาก็สะบัดมือออกก่อนจะตีเข้าหลังมือของลัดฟ้าอย่างไม่เต็มแรงนัก แต่กระนั้นก็ทำให้ลัดฟ้ารู้สึกแสบยิบ ๆ จนต้องร้องออกมาเสียงดัง
“แค่ล้อเล่นเอง ผมก็หมายถึงอาหารนั่นแหละน่า” ใบหน้าสวยง้ำงอก่อนจะหันมามองคนตัวสูงตรงหน้าตาขวาง ราชาหลุบตามองหลังมือของอีกคนเล็กน้อย
ตีเบา ๆ เองไม่ใช่เหรอวะ ทำไมผิวขาว ๆ ขึ้นรอยแดงขนาดนั้นได้
“เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง” ราชาส่ายหัวอย่างปลงตก “เอามือมาดู”
ราชาเอ่ยกับภรรยาตัวเล็ก เขาไม่ได้รอคำอนุญาตจากอีกฝ่ายแต่กลับเอื้อมไปคว้ามือของลัดฟ้าขึ้นมาทันที
“ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลังผมเลย” ลัดฟ้าตวัดสายตามองราวกับแมวขู่ก่อนจะชักมือออกจากการกอบกุมไป ร่างสูงแอบขำท่าทางที่เหมือนเด็กของอีกฝ่าย
“ก็ตามใจแล้วกัน”
อาจจะเป็นเพราะลัดฟ้าเป็นคนอารมณ์ขัน อีกทั้งเจ้าตัวเองก็มีเสน่ห์ทั้งหน้าตาและบุคลิกอยู่แล้ว ถึงได้มีคนตามติดเป็นพรวนแบบนั้น แต่ตราบใดที่อีกคนไม่ทำให้เขารำคาญหรือกวนประสาทไปมากกว่านี้ เขาก็ย่อมอยู่ร่วมกับลัดฟ้าได้อย่างสันติ อย่างน้อยลัดฟ้าก็ไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไรนัก
“สรุปเย็นนี้ผมจะทำข้าวเย็นนะ กลับมากินด้วยล่ะ ผมไม่อยากเททิ้งเหมือนเมื่อวานตอนเช้าแล้ว” คนตัวเล็กกว่ากระชากเสียงใส่ราชาอย่างแง่งอน ร่างสูงที่กำลังยกแก้วกาแฟขึ้นมาจิบชะงักไปเล็กน้อย เขาเหลือบมองคนตรงหน้าก่อนจะกระแอมไอขึ้นมา
จู่ ๆ ก็รู้สึกผิดขึ้นมาเสียอย่างนั้น ทั้งที่เขาได้ยินแล้วว่าข้าวต้มกุ้งชามนั้นลัดฟ้าทำให้เขา แต่ก็ดันโมโหกับท่าทางกวนประสาทของอีกคนมากไปหน่อยจึงไม่ได้สนใจข้าวต้มชามนั้นแม้แต่น้อย
ให้ตายสิ แล้วลัดฟ้าก็เททิ้งเพื่อให้เขารู้สึกผิดอย่างนั้นหรือ
“อืม ผมจะกลับไปกิน”
“แบบนี้สิถึงจะเป็นสามีที่ดี”
“คุณเลิกกวนอารมณ์ผมสักสิบนาทีจะได้ไหม” ราชาจิ๊ปากก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างหงุดหงิด
ร่างบางที่ทำหน้าบูดบึ้งเมื่อครู่นี้กลับยิ้มออกในทันที ดูเหมือนว่าราชาจะไม่ชอบคำว่าคุณสามีจากปากของเขาสักเท่าไร แต่แล้วยังไงล่ะ เขาจะเรียกราชาด้วยคำนี้บ่อย ๆ เอาให้อีกฝ่ายหงุดหงิดจนอกแตกตายไปเลย
“งั้นผมเข้าบริษัทไปก่อนแล้วกันนะ จะได้ไม่เป็นที่สงสัย”
“เชิญ” ราชากระแทกเสียงใส่ก่อนจะวางแก้วกาแฟที่ดื่มหมดแล้วเต็มแรง
ลัดฟ้าอมยิ้มกับตนเองอีกครั้งเมื่อคิดอะไรดี ๆ ออก เขาผินมองไปรอบ ๆ และเมื่อเห็นว่าโต๊ะที่พวกเขานั่งอยู่ใกล้กับมุมอับของร้าน อีกทั้งเวลานี้ก็ไม่มีคนพลุกพล่านมากนัก เขาจึงขยับเข้าไปหาราชาด้วยความรวดเร็ว
ก่อนที่จะจรดจมูกและริมฝีปากแดงระเรื่อลงบนแก้มของราชาบางเบา
จุ๊บ
“ไว้เจอกันตอนเย็นนะครับคุณสามี”
ราชานิ่งค้างไปแล้วแต่พอได้สติก็ผุดลุกขึ้นหมายจะดึงแขนร่างบางเอาไว้ หากแต่ลัดฟ้าเร็วกว่านั้น คนตัวเล็กวิ่งออกมาจากร้านในทันที เขายิ้มขำเมื่อนึกถึงใบหน้าเหลอหลาของราชาเมื่อครู่นี้ ขาเรียวก้าวเข้าประตูบริษัทไปอย่างไม่รีบร้อน ส่วนปากก็ฮัมเพลงไปด้วย
จะว่าไปแล้ว แก้มของสามีแห่งชาตินี่หอมมากจริง ๆ แถมยังนุ่มมากอีกด้วย ถ้าสาว ๆ ทั้งประเทศรู้ว่าแก้มของพระเอกที่พวกเธอชื่นชอบเคยถูกเขาหอมมาหลายครั้งแล้วจะเป็นยังไงกันนะ ให้ตายสิ เขานี่โชคดีน่าดูเลยว่าไหม
เห็นทีว่าวันนี้เขาคงจะทำงานอย่างมีความสุขไปทั้งวันแล้วละสิ
;
TBC.
#ราชาพ่าย