ดาวร้ายอันดับหนึ่งของวงการอย่างเขาต้องมาแต่งงานลับๆกับพระเอกแห่งชาติ แต่ใครจะไปคิดว่าสามีเขาปากร้ายอย่างกับหมา! แถมอ่อยเท่าไรก็ไม่เคยสนใจ นี่สามีเขาไร้ความรู้สึกไปแล้วหรือไงกัน!

(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย - - 04 โดย ssin_sz @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดราม่า,ชาย-ชาย,รัก,ผู้ใหญ่,ไทย,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,โรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,ชาย-ชาย,รัก,ผู้ใหญ่,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,โรแมนติก

รายละเอียด

ดาวร้ายอันดับหนึ่งของวงการอย่างเขาต้องมาแต่งงานลับๆกับพระเอกแห่งชาติ แต่ใครจะไปคิดว่าสามีเขาปากร้ายอย่างกับหมา! แถมอ่อยเท่าไรก็ไม่เคยสนใจ นี่สามีเขาไร้ความรู้สึกไปแล้วหรือไงกัน!

ผู้แต่ง

ssin_sz

เรื่องย่อ

 

 

ลัดฟ้า คือดาวร้ายอันดับหนึ่งของวงการที่ต้องมาแต่งงานลับๆ กับ ราชา พระเอกที่ได้ฉายาว่าเป็นสามีแห่งชาติของสาวๆ ทั้งประเทศ

แต่ใครจะไปคิดว่าภาพลักษณ์ราวกับเทพบุตรพวกนั้นล้วนหลอกลวงทั้งสิ้น สามีแห่งชาติบ้าอะไรกัน นี่มันปากหมาแห่งชาติสิไม่ว่า!

เขาอุตส่าห์งัดทุกกลเม็ดมาอ่อยจนสุดตัว แต่ไอ้สามีเวรนั่นกลับมองเขาแค่หางตาก่อนจะพ่นคำพูดสมควรตายออกมาว่า

"เมื่อไรจะหยุดขยิบตา แล้วนั่นกัดปากทำไม หิวจนไม่มีอะไรกินเหรอ"

"..."

"อ่อ แล้วก็หยุดบิดเอวสักทีด้วย เห็นแล้วมันเมื่อยแทน"

ให้ตายสิ! ราชาหยิบไม้เรียวขึ้นมาจะตีก้นเขาอีกแล้ว!

นอกจากจะได้สามีเป็นคนไร้ความรู้สึก นี่เขายังได้ครูฝ่ายปกครองแถมมาด้วยอย่างนั้นเหรอ!?

 

 

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายออริเรื่องแรกของเรา ฝากทุกคนเอ็นดูเรื่องนี้ด้วยนะคะ

เปิดเรื่อง : 14 เมษายน 2565

จบบริบูรณ์ : 18 กันยายน 2565

 

คำเตือน

นิยายเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้เขียน อาจมีเหตุการณ์ไม่เหมาะสมที่ตัวละครในเรื่องได้กระทำ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

หากไม่ชอบสามารถกดออกได้เลยค่ะ รบกวนไม่คอมเมนท์บั่นทอนจิตใจนักเขียนนะคะ ขอบคุณค่ะ

— Trigger Warning —

Dirty talk, Toxic relationship, Demestic Violence (ตัวละครหลักไม่ได้กระทำ)

 

— Twitter —

https://twitter.com/ssinszxx

— Page —

https://www.facebook.com/profile.php?id=61566029091647

สารบัญ

(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 01,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 02,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 03,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 04,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 05,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 06,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 07,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 08,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 09,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 10,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 11,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 12,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 13,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 14,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 15,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 16,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 17,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 18,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 19,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 20,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 21,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 22,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 23,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 24,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 25,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 26,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 27,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- Epilogue ,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 📍E-Book มาแล้วค่ะ!!

เนื้อหา

- 04



 

 

04

 

'ลัดฟ้า กีรติพาณิชย์' ดาวร้ายอันดับหนึ่งของวงการ และลูกชายคนที่สองของตระกูลกีรติพาณิชย์ ดั้งเดิมแล้วตระกูลกีรติพาณิชย์มีชื่อเสียงในแวดวงการเมืองเสียมากกว่า แต่ไม่กี่ปีให้หลังมานี้ผู้นำตระกูลหรือบิดาของลัดฟ้าก็หันมาจับธุรกิจวงการเพลงแทน

KN Entertainment จึงเป็นที่รู้จักในนามของค่ายเพลงอันดับหนึ่งของไทย ไม่เพียงแต่ผลิตผลงานเพลงดี ๆ ออกมาเท่านั้น นักร้องในค่ายก็ถูกผลักดันไปจนถึงระดับโลกหลายต่อหลายคนแล้ว และในเมื่อบิดาของเขาทำงานในวงการบันเทิงมาก่อน ลัดฟ้าที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักแสดงจึงเข้าวงการมาตั้งแต่อายุสิบห้าปี

ชีวิตของนักแสดงนั้นต้องสวยหรู มีคนมากมายชื่นชอบและให้ความรัก แต่นั่นก็เป็นเพียงความเพ้อฝันของเด็กอายุสิบห้าคนหนึ่งเท่านั้น เพราะในตอนนี้ลัดฟ้ารู้ดีว่าทั้งหมดนั่นมันคือความจอมปลอม

อาจเป็นเพราะเขาไม่ได้ใช้ชีวิตตามครรลองของการเป็นดาราที่น่าชื่นชมมากนัก แต่เขาก็ไม่เคยทำอะไรเสียหายหรือทำให้ใครเดือดร้อน ไม่รู้ว่าทำไมพวกนักข่าวถึงได้จ้องเล่นงานเขาได้ทุกวี่ทุกวันแบบนี้

ไม่มีความสุข

นั่นจึงเป็นคำเดียวที่เขาสามารถนิยามให้กับชีวิตของตนเองได้ในเวลานี้ เพราะสิ่งที่เคยฝันไม่ใช่ความสุขอีกต่อไป และมันก็โคตรจะน่าสมเพชถ้าต้องให้เขาระบายความรู้สึกนี้ให้ใครสักคนฟัง มีเพียงรอยยิ้มเปลือกนอกที่สามารถห่อหุ้มความรู้สึกข้างในเอาไว้ได้ก็เท่านั้น

ชีวิตของ ลัดฟ้า กีรติพาณิชย์ มันก็เป็นแบบนี้แหละ เขาไม่ได้ต้องการความสงสารจากใคร เขาไม่ได้ต้องการคำปลอบใจสวยหรู

และเขาก็จะไม่กลับไปเป็นลัดฟ้าคนเก่าที่มีแต่ความโสมมนั่นอีกแล้ว

“สวัสดีค่ะคุณลัดฟ้า”

สตาฟหญิงคนหนึ่งกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหาทันทีที่ลัดฟ้าเหยียบเข้ามาในสตูดิโอ ร่างบางยิ้มรับก่อนจะเอ่ยทักทายกลับอย่างมีมารยาท สตาฟหญิงคนนั้นอธิบายคอนเซปต์งานคร่าว ๆ ในวันนี้ให้เขาฟังอีกครั้ง และเธอก็เดินนำลัดฟ้าไปยังห้องแต่งตัว

งานวันนี้เป็นการถ่ายแบบของห้องเสื้อตะวันฉาย ซึ่งเจ้าของแบรนด์นี้ก็คือพี่ชายคนละแม่ของเขานั่นเอง ถึงแม้ว่าตัวของตะวันจะยังทำงานอยู่ที่ต่างประเทศแต่คนเป็นพี่ก็มักจะโทรหาและส่งข้อความมาหาเขาอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุดก็คะยั้นคะยอให้เขาเคลียร์ตารางงานให้ว่างเพื่อรับงานนี้โดยเฉพาะ แลกกับการที่ตะวันจะกลับมาพักผ่อนที่เมืองไทยให้หายคิดถึง

อันที่จริงแล้วลัดฟ้าไม่สนิทกับพ่อตนเองมากเท่าไรนัก เขาตามติดตะวันมาตั้งแต่เด็กแล้ว ตะวันมักจะดูแลและช่วยเหลือเขาในทุก ๆ เรื่อง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมลัดฟ้าถึงยอมทิ้งงานรายได้หลักล้านเพื่อมาเป็นนายแบบให้กับห้องเสื้อตะวันฉาย

ก็พี่ชายของเขาน่ะแสนดีเกินกว่าเขาจะใจร้ายด้วยจริง ๆ

แกร๊ก

เสียงประตูห้องแต่งตัวถูกเปิดออกอีกครั้ง ในขณะที่ลัดฟ้ากำลังส่องกระจกดูความเรียบร้อยของเครื่องสำอางและชุดที่กำลังสวมใส่อยู่ เขาเหลือบมองผู้มาใหม่เล็กน้อยและเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นใคร เขาก็เลิกสนใจในทันที

ลืมไปได้อย่างไรกันนะว่านายแบบที่ถ่ายคู่กับเขาในวันนี้ก็คือ อินทัช หรือเพื่อนสนิทคนแรกในวงการที่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นศัตรูคู่แค้นกันแล้ว!

ดวงตาคู่สวยกลอกไปมาเมื่อรู้สึกถึงสายตามาดร้ายจากอินทัชที่กำลังนั่งลงที่เก้าอี้หน้ากระจกข้างกัน อีกฝ่ายถลึงตามองเขาจนแทบถลนเหมือนทุกครั้ง ลัดฟ้าเหลือบมองบนก่อนจะถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย

เขาเลิกสนใจสายตาทิ่มแทงจากอินทัชและหันมาสำรวจชุดของตนเองอีกครั้ง ดีไซน์ของชุดในวันนี้เป็นแนวใหม่ที่ลัดฟ้าไม่ค่อยได้เห็นจากห้องเสื้อตะวันฉายมาก่อน มันเป็นชุดเซตสีฟ้าอ่อนแบบ unisex สามารถใส่ได้ทั้งชายและหญิง ตัวชุดใช้ผ้าบางพลิ้วระบายอากาศได้ดีกับผ้าลูกไม้ลายสวย ลัดฟ้าปลดกระดุมออกสองเม็ดพอให้เห็นลำคอและแผงอกขาวของตน ก่อนจะดึงเสื้อตัวบางลงเล็กน้อยโชว์เนินไหล่ขาวนวล

ใบหน้าเกลี้ยงเกลายิ้มอย่างชอบใจ เห็นทีเขาคงจะต้องมีชุดนี้ติดตู้ไว้เสียแล้ว โทรไปขอพี่ชายไว้เลยได้ไหมนะ

“ถ้ามีสร้อยคอด้วยก็คงจะดีกว่านี้นะ” เขาพึมพำกับตนเอง เตรียมจะหันหลังออกไปบอกสตาฟด้านนอกเพื่อให้เตรียมเครื่องประดับมาให้ หากแต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวออกไปกลับได้ยินเสียงอินทัชเอ่ยขึ้นมาเสียก่อน

“พวกชอบโชว์”

น้ำเสียงค่อนขอดทำให้เรียวคิ้วสวยกระตุกยิก ลัดฟ้าพ่นลมหายใจก่อนจะหันหน้าเข้ากระจกดังเดิม กะว่าจะไม่สนใจแล้วเชียว แต่อินทัชก็ไม่ปล่อยให้เขาอยู่สงบ ๆ จนได้

“ก็ดีกว่าคนบางคน ภาพลักษณ์อ่อนหวานแต่ข้างในเน่าเฟะ”

“ลัดฟ้า!”

อินทัชผุดขึ้นจากเก้าอี้ ใบหน้าคมคายแต่ดูสวยหวานเกรี้ยวกราดขึ้นมาทันที ลัดฟ้าแค่นหัวเราะในลำคอ ภาพลักษณ์อ่อนหวานที่อินทัชได้มาก็เพราะว่าเจ้าตัวมีใบหน้าสวย อีกทั้งยังเล่นบทนายเอกในซีรีส์วายหลายต่อหลายเรื่อง คงจะมีแต่ลัดฟ้าคนเดียวนี่แหละที่รู้ตัวตนจริง ๆ ของอินทัช

ก็ไอ้บ้านี่มันเป็นรุกยังไงล่ะ!

หน้าสวย ๆ ของอินทัชไว้ใจได้เสียที่ไหนกัน อันที่จริงลัดฟ้าก็ไม่อยากจะรื้อฟื้นเท่าไรนักหรอก แต่ความสัมพันธ์ของเขากับอินทัชต้องแตกหักกันก็เพราะคนที่อีกฝ่ายชอบกลับมาชอบเขาเสียอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่เขาก็ปฏิเสธไปแล้วว่าไม่ได้คิดอะไรกับคนที่อินทัชชอบเลยสักนิด แต่อินทัชก็ไม่ฟังคำเขาแม้แต่นิดเดียว

ก็แล้วจะให้เขาคิดเกินเลยกับคน ๆ นั้นได้อย่างไร ในเมื่อคนที่อินทัชชอบก็เป็นฝ่ายรับเหมือนกันกับเขา! ไอ้บ้านั่นมันโคตรจะสมองกลวงเลยให้ตายสิ ตั้งแต่นั้นมาอินทัชก็จงเกลียดจงชัง พูดจาถากถางหาเรื่องเขามาตลอด

ไม่น่าเชื่อเลยว่าไอ้บ้าอินทัชมันจะไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยที่ต้องหาคำพูดมาเหน็บแนมเขาทุกวันแบบนี้

“จุ๊ ๆ ไม่เอานะเพื่อนรัก อย่าเสียงดังสิ” ลัดฟ้าเท้าสะโพกกับโต๊ะเครื่องแป้ง ร่างเล็กกอดอกมองคนที่อยู่ยืนอยู่ตรงหน้า

“ใครเพื่อนรักนาย” อินทัชถลึงตาใส่เขาอีกครั้ง ร่างสูงของอดีตเพื่อนสนิทขยับเข้ามาใกล้จนคนตัวเล็กกว่าเริ่มไม่ไว้ใจขึ้นมา

ไอ้บ้านี่นอกจากจะหน้าสวยแล้วมันยังแรงเยอะเป็นบ้าเลย ช่างขัดกับภาพลักษณ์อ่อนหวานของมันจริง ๆ

“เฮ้อ” สุดท้ายแล้วลัดฟ้าก็ถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจ “เมื่อไรนายจะเลิกเขม่นฉันสักทีเนี่ย จะต้องให้พูดอีกกี่ครั้งว่าเรื่องตอนนั้นนายเข้าใจผิดไปเอง”

“ก็ถ้านายไม่ไปอ่อยมีน เขาก็คงจะชอบฉันไปแล้ว”

“โว้ย ฉันไม่ได้อ่อย แล้วก็ไม่เคยยุ่งกับมีนเลยด้วย” ลัดฟ้าตะโกนเน้นย้ำทีละคำใส่หน้าของอีกฝ่าย “หลบไปเลยไป นายพูดไม่รู้เรื่องแล้ว”

ลัดฟ้าผลักอกแกร่งของอดีตเพื่อนรักให้ถอยห่างออกไป แต่อินทัชกลับไม่ยอมขยับเขยื้อนเลยสักนิดเดียว อีกทั้งยังเอื้อมมือมาบีบข้อมือของเขาไว้แน่น ก่อนจะดันไปด้านหลังจนเขาแทบจะเกยขึ้นไปนั่งบนโต๊ะเครื่องแป้งอยู่รอมร่อ

อินทัชตามมาคร่อมตัวไว้ด้านบน ดวงตาสีเฮเซลนัตทอดมองร่างบางข้างใต้อย่างไม่สบอารมณ์

“ปล่อยเลยนะอินทัช” ร่างบางกัดฟันกรอด “เกิดใครเปิดประตูเข้ามาจะทำยังไง! แค่นี้ข่าวเกาเหลาของเราสองคนยังไม่พอใจนายอีกหรือไงห๊ะ!?”

“หุบปาก” เสียงทุ้มแข็งกร้าวคล้ายออกคำสั่ง มือหนาอีกข้างเอื้อมมาบีบคางของคนตัวเล็กกว่าเอาไว้จนลัดฟ้าต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ

แรงควายจริง ๆ เลย!

“อย่ามาแก้ตัวต่อหน้าฉันอีก” ใบหน้าสวยของอินทัชก้มลงใกล้กว่าเดิม “นายทำให้ฉันไม่ได้รักกับมีน ฉันไม่ปล่อยนายไปแน่ลัดฟ้า”

ดวงตาคู่สวยกลอกกลิ้งไปมา ให้ตายสิ อินทัชคิดว่าตัวเองกำลังเล่นละครอยู่หรือไงกัน คำพูดคำจาที่พ่นออกมาก็เหมือนอินบทเสียเหลือเกิน อย่างกับนายเอกตัวเท่าหมีควายกำลังทะเลาะกับตัวร้ายตัวเท่าเมี่ยงเนี่ย!

ไอ้บ้านี่มันลืมหรือไงว่าเขาตัวเล็กกว่ามันตั้งมากโข ข้อมือของเขาเจ็บไปหมดแล้ว!

ก๊อก ๆ แกร๊ก

ทั้งคู่เบิกตากว้างเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น ยังไม่ทันที่จะผละออกจากกันบานประตูก็เปิดออกมาเสียก่อน ปรากฏให้เห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาในห้องนี้

ใบหน้าหล่อเหลาของผู้มาใหม่เรียบเฉยเมื่อเห็นท่าทางล่อแหลมของลัดฟ้ากับอินทัช แต่เรียวคิ้วกลับเลิกขึ้นด้วยความสงสัย ลัดฟ้าถอนหายใจยาวเหยียด

ทำไมราชาถึงมาที่นี่ได้วะเนี่ย

อินทัชลนลานรีบปล่อยมือเขาออก ก่อนจะหันไปผงกหัวทักทายดารารุ่นพี่อย่างราชาแล้วกระแทกตัวนั่งลงที่เก้าอี้ของตนด้วยอารมณ์ที่ยังไม่คงที่นัก

ร่างบางเขยิบตัวลุกจากโต๊ะเครื่องแป้งก่อนจะจัดเสื้อผ้ายับยู่ให้เรียบร้อย เนื้อผ้าตัวบางที่เลิกขึ้นจนเห็นหน้าท้องขาวเนียนถูกดึงปิดลงหมิ่นเหม่ ใบหน้าสวยหันไปมองราชาที่ยังคงยืนทอดสายตามาทางเขาอยู่

“คุณลืมของไว้ที่ร้านกาแฟ” ราชายื่นกระเป๋าสตางค์หนังเนื้อดีมาให้เขา

ลัดฟ้าปรับสีหน้าหงุดหงิดเมื่อครู่นี้ให้หายไป คนตัวเล็กเอื้อมมือไปรับมาก่อนจะเอ่ยขอบคุณพร้อมรอยยิ้ม

“ขอบคุณนะครับ”

ราชาไม่ได้ตอบอะไรกลับ แต่สายตาเรียบนิ่งยังคงมองเขาสลับกับอินทัชไปมา ร่างสูงหมุนตัวเตรียมเดินออกไปจากห้อง เป็นจังหวะเดียวกับที่ช่างแต่งหน้าประจำตัวของอินทัชเดินเข้ามาพอดี ริมฝีปากหนาหยัดยิ้มทักทายช่างแต่งหน้าพอเป็นพิธีก่อนจะหันมามองเขาด้วยแววตาเรียบเฉยเป็นครั้งสุดท้าย

เชื่อเถอะว่าคุณสามีสุดที่รักกำลังด่าเขาอยู่ในใจเป็นแน่

ติ๊ง

เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ของลัดฟ้าดังขึ้นหลังจากที่ราชาเดินออกจากห้องไปแล้ว ลัดฟ้าหยิบมันขึ้นมาดูก่อนจะเห็นว่าชื่อผู้ส่งคือคนที่เพิ่งเดินออกไปเมื่อครู่นี้

'มันไม่ไหวขนาดนั้นเลย?'

ไอ้บ้านี่…

'จะทำอะไรก็ไปทำที่โรงแรม เกิดคนที่เข้ามาไม่ใช่ผมจะทำยังไง'

'รักษาชื่อเสียงของตัวเองเสียบ้างคุณฟ้า'

'ผมเตือนด้วยความหวังดี'

นี่คงเป็นครั้งแรกที่ราชาส่งข้อความมาหาเขายาวเหยียด และเมื่ออ่านประโยคสุดท้ายจบ ริมฝีปากอิ่มก็เบะลงอย่างนึกหมั่นไส้สามีของตนเอง ที่รีบส่งข้อความมาเตือนเขาแบบนี้คงเพราะกลัวว่าเขาจะทำอะไรเสียหายแล้วส่งผลกระทบถึงตัวเองอยู่ละสิท่า

แต่ก็เอาเถอะ จะให้เสียน้ำใจได้ยังไงกัน ก็ในเมื่อคุณสามีหวังดีกับเขาเสียขนาดนี้

ลัดฟ้าส่งข้อความกลับไปแทบจะทันที

'รับทราบครับคุณสามี'

'แต่ว่าถ้าจะให้ผมทำกับใครเนี่ย นอกจากสามีแล้วผมก็ไม่เคยคิดถึงคนอื่นเลยนะ'

หน้าจอปรากฏให้เห็นว่าอีกฝ่ายอ่านแล้วแต่ไม่มีข้อความตอบกลับมา เชื่อเถอะว่าใบหน้าเรียบเฉยนั่นต้องกำลังขมวดคิ้วเป็นยักษ์ปักหลั่นเพราะโมโหเขาอยู่แน่ ๆ ลัดฟ้ากดส่งสติกเกอร์แมวน่ารักไปอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ คลี่ยิ้มอย่างลืมตัว

จะว่าไปแล้ว คุณสามีของเขาเนี่ย ช่างน่ารักเสียจริงเชียว

*

การถ่ายแบบในวันนี้เป็นไปด้วยดี ถึงแม้ว่าลัดฟ้าจะไม่ถูกกับอินทัชมากแค่ไหน แต่ทั้งสองคนก็มีความเป็นมืออาชีพด้วยกันทั้งคู่ พวกเขาสามารถแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานออกจากกันได้

นายแบบทั้งสองคนเปลี่ยนท่าทางตามที่ตากล้องบอก จะแย่หน่อยก็ตรงที่คอนเซปต์วันนี้มันทำให้ลัดฟ้าต้องใกล้ชิดกับอินทัชมากกว่าที่ผ่านมา ไหนจะต้องแกล้งจ้องตากันหวานซึ้งอีก ลัดฟ้าแทบอยากจะอาเจียนออกมาอยู่รอมร่อ

“อย่ามาใกล้” น้ำเสียงของคนตัวสูงกว่าเอ่ยกระซิบแกมรำคาญข้างใบหู ในขณะที่ริมฝีปากอิ่มยังคงวาดรอยยิ้มให้กล้องตรงหน้า

เชื่อเขาเลย เสแสร้งสุด ๆ

“ฉันต่างหากมั้งที่ต้องพูดคำนั้นน่ะ”

ว่าแล้วก็ก้มมองมือหนาที่รัดเอวของเขาเอาไว้ ทั้งยังดึงตัวเขาไปแทบจะเกยตักอีก ลัดฟ้าไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด เพียงแค่เอามือจับไหล่ของอินทัชไว้แล้วหันมายิ้มให้กล้องก็เท่านั้น หลักฐานเห็นอยู่ทนโท่ว่าดึงเขาเข้าหาเองแล้วยังจะพูดหน้าด้าน ๆ แบบนั้นอีก!

“เรียบร้อยครับ”

ตากล้องตะโกนบอกเมื่อกดชัตเตอร์ถ่ายภาพเซตสุดท้ายเสร็จเรียบร้อย ลัดฟ้าขืนตัวออกมาทันที วันนี้เขาออกจะเปลืองตัวกับอินทัชมากไปแล้วจริง ๆ นิ้วเรียวเกี่ยวขอบคอเสื้อที่ร่นไปถึงไหล่มนขึ้นมาก่อนจะหมุนตัวเพื่อเดินออกไปจากตรงนี้

กึก

เรียวคิ้วสวยขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยินเสียงคล้ายกับเหล็กกระทบกันเสียงดัง ใบหน้าหวานหันไปมองรอบ ๆ ดูเหมือนว่าทีมงานและสตาฟคนอื่น ๆ จะยุ่งวุ่นวายกับหน้าที่ของตนเองอยู่จึงไม่มีใครได้ยินเสียงนั้น

ลัดฟ้าเกือบจะเลิกสนใจไปแล้ว ถ้าขณะนั้นเขาไม่หันไปเห็นว่าขาตั้งสปอตไลต์ที่อยู่ข้างหลังอินทัชกำลังจะเอนล้มลงมาเสียก่อน

“ระวัง!”

ลัดฟ้าตะโกนลั่น ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปดึงอินทัชให้หลบทันที เสียงสปอตไลต์ล้มลงกระแทกพื้นดังสนั่น ทีมงานหลายคนร้องออกมาด้วยความตกใจกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ลัดฟ้าดึงอินทัชออกจากทิศทางของสปอตไลต์ได้สำเร็จ ก่อนที่พวกเขาทั้งคู่จะเสียหลักกลิ้งลงไปนอนกับพื้น

คนตัวสูงกว่านอนทับอยู่ด้านบนจนลัดฟ้าอดร้องออกมาด้วยความเจ็บไม่ได้ ทั้งยังรู้สึกแสบที่ข้อศอกกับหัวเข่าอีกด้วย ดูเหมือนว่ามันจะกระแทกกับพื้นเต็มแรงจนเกิดแผลแน่ ๆ

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของอดีตเพื่อนรักเบิกกว้างด้วยความตกใจ อินทัชยันพื้นเอาไว้ก่อนจะผงกหัวขึ้นมามองคนที่เขานอนทับอยู่ ใบหน้าของลัดฟ้าห่างจากปลายจมูกของเขาเพียงไม่กี่นิ้ว

ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาได้เห็นเครื่องหน้าสวยของอีกคนอย่างชัดเจน

มันชัดยิ่งกว่าตลอดหลายปีที่เคยเป็นทั้งเพื่อนและศัตรูกันมาเสียอีก

จู่ ๆ ใบหน้าคมคายหวานซึ้งก็รู้สึกร้อนผ่าวผิดปกติ ที่ข้างแก้มขึ้นสีแดงเป็นริ้วจาง ๆ ลืมสิ้นแล้วว่าเพิ่งจะเกิดเหตุการณ์เฉียดตายมาสด ๆ ร้อน ๆ ลืมแม้กระทั่งว่าตอนนี้ลัดฟ้ากำลังแยกเขี้ยวโมโหใส่เพราะเขาไม่ยอมลุกออกไปเสียที

“ลุก ออก ไป” น้ำเสียงหวานของลัดฟ้าก็คล้ายว่าจะน่าฟังมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก อินทัชส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะยันพื้นแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จากนั้นทีมงานหลาย ๆ คนก็วิ่งเข้ามาหาพวกเขาทันที

“ผมไม่เป็นไร ไปดูลัดฟ้าเถอะครับ”

อินทัชบอกกับผู้จัดการส่วนตัวของตนเองเพียงเท่านั้น มือหนาเสยผมอย่างหงุดหงิด เขาลูบใบหน้าสองสามทีพลางพ่นลมหายใจออกมา นัยน์ตาหวานหันไปมองลัดฟ้าที่ยังนั่งกองอยู่กับพื้นพร้อมบาดแผลที่ข้อศอกและหัวเข่า

คล้ายว่าริมฝีปากจะเอ่ยขอบคุณอีกฝ่ายไปแล้ว แต่จู่ ๆ สมองก็สั่งให้เขาเดินเลี่ยงออกมาจากตรงนั้น

พร้อมกับหัวใจที่เต้นโครมครามไม่หยุด

“แม่งเอ๊ย ลัดฟ้าทำอะไรกับกูวะเนี่ย”

ดูเหมือนที่เขาลือกันว่าอย่าสบตาตัวร้ายแห่งวงการน่าจะเป็นเรื่องจริง

เพราะตอนนี้อินทัชก็ตกหลุมพรางนั้นเข้าเต็มเปาเลย

*

“เสร็จเรียบร้อยแล้วครับคุณลัดฟ้า”

ลูกน้องคนสนิทของราชาเอ่ยขึ้นมาด้วยความสุภาพหลังจากขนเตียงและเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เข้ามาเรียบร้อยแล้ว ชายร่างสูงใหญ่สองคนนี้เป็นคนที่ราชาไว้ใจให้ทำงานด้วยมาตลอด ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัวว่าเรื่องที่พวกเขาแต่งงานกันจะแพร่งพรายออกไปถึงหูนักข่าวได้

“ทำความสะอาดหมดแล้วใช่ไหมครับ”

“ครับ”

ลัดฟ้าพยักหน้าก่อนจะเอ่ยขอบคุณกับพวกเขาทั้งคู่ จากนั้นลูกน้องคนสนิทของราชาก็ออกจากเพนต์เฮาส์ไป ร่างบางเดินไปยังห้องนอนของคุณสามี นัยน์ตาเรียวพิจารณามองไปรอบห้อง

ผนังสีขาวตัดกับพรมสีน้ำเงินเข้มที่พื้น เฟอร์นิเจอร์และเตียงต่างก็เป็นสีน้ำเงินสลับขาวทั้งสิ้น ก็ดูเข้ากับราชาอยู่หรอก ผู้ชายที่แสนจะเย็นชาและปากร้ายแบบนั้นชอบโทนสีเข้มอย่างที่เขาคิดไว้เลยจริง ๆ

ขาเรียวก้าวเข้าไปด้านในห้องพลางตรวจความเรียบร้อยอีกครั้งตามที่สามีตัวดีของเขาฝากให้ดูแล ลัดฟ้าเปิดตู้เสื้อผ้าออกก่อนที่กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากเนื้อผ้าจะลอยมาแตะจมูก มือบางไล้ไปตามเครื่องแต่งกายของสามีภายในตู้

“หอมจัง”

ลัดฟ้าพึมพำกับตนเอง ก่อนจะหัวเราะออกมาน้อย ๆ เมื่อนึกได้ว่าการกระทำของเขาในตอนนี้เหมือนโรคจิตเข้าไปทุกที ร่างเล็กตรวจเช็กจำนวนและของใช้ส่วนตัวของราชาทั้งหมดเพื่อไม่ให้ปะปนหรือหลงเหลืออยู่ในห้องเดิมอีก และเมื่อตรวจเช็กจนพอใจแล้ว เขาก็เข้าครัวเพื่อเตรียมอาหารเย็นในทันที

อันที่จริงลัดฟ้ามีงานอดิเรกอีกอย่างที่ชอบมากคือการทำอาหาร อาจเพราะครั้งยังเป็นเด็กเขาต้องคอยทำอะไรด้วยตนเองมาตลอด ดังนั้นการทำอาหารจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไรขนาดนั้น

ร่างบางจัดเตรียมวัตถุดิบ จับอุปกรณ์ภายในครัวอย่างคล่องแคล่ว ใบหน้าหวานยกยิ้มบางเบาอย่างเผลอไผล

รู้สึกแปลกใหม่อยู่บ้างที่ต่อจากนี้อาจจะมีเพื่อนทานข้าวเพิ่มมาหนึ่งคน

นานเท่าไรแล้วที่เขาไม่ได้ทำอาหารให้ใครแบบนี้

นานเท่าไรแล้วกับการที่ต้องอยู่คนเดียวมาตลอด

แม้จะมีคนมากมายรายล้อม คอยชวนเขาไปไหนต่อไหนไม่ขาด มีเพื่อนเที่ยว มีเพื่อนคุย แต่พอความบันเทิงพวกนั้นหายไป เขาก็กลับมานั่งโง่ ๆ ในห้องนอนว่างเปล่าอีกครั้ง

บางทีลัดฟ้าก็คิดว่าตนเองเป็นคนที่ปรับตัวกับชีวิตได้ดี ใคร ๆ ต่างก็บอกว่าเขาจัดการกับความรู้สึกได้เก่ง เขาไม่ใช่คนที่จะจมปลักกับอะไรที่ทำให้ตนเองรู้สึกแย่ แต่มันก็อดยอมรับไม่ได้ว่าจริง ๆ แล้วเขาก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง

มนุษย์ที่ไม่อาจยอมรับได้ว่าตนเองกำลังรู้สึกเหงา

จะว่าไปการอยู่กับราชามันก็ไม่แย่นัก พวกเขาไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่คนรัก หากแต่อยู่ด้วยกันเพราะสัญญาทางกฎหมาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่ามันก็ดีกว่าที่ลัดฟ้าคิดเอาไว้มาก อีกทั้งการกลั่นแกล้งอีกฝ่ายก็ดูเหมือนว่าจะทำให้เขาอารมณ์ดีได้ทุกวันด้วย

แต่ถึงอย่างไรมันก็แค่ระยะเวลาหนึ่งปีเท่านั้น พอทุกอย่างจบสิ้นพวกเขาก็จะกลายเป็นคนที่ไม่รู้จักกันดังเดิม ลัดฟ้าจึงคอยบอกตนเองอยู่เสมอว่าอย่าให้ความรู้สึกเคยชินเข้ามาแทนที่เป็นอันขาด เพราะหากวันใดที่ต้องกลับมาอยู่คนเดียวอีกครั้ง ความเหงาที่ไม่เคยทำร้ายเขาได้ก็อาจจะแผลงฤทธิ์ขึ้นมา

คิด ๆ แล้วก็น่าเสียดายนิดหน่อย ราชาเองก็เป็นคนนิสัยดีคนหนึ่ง จะเสียก็ตรงเป็นคนพูดจาขวานผ่าซากก็เท่านั้น ถ้าหากได้เป็นเพื่อนกันไว้ก็คงดีไม่น้อย แต่ก็นั่นแหละ คนอย่างราชาคงไม่อยากนับเขาเป็นเพื่อนนักหรอก

เอาเถอะ อย่างไรลัดฟ้าเองก็ไม่คิดที่จะอ้อนวอนให้ราชามาญาติดีกับเขาอยู่แล้ว แต่อย่างน้อยถ้าเขาได้ข่วนปากหมา ๆ กับใบหน้าหล่อเหลาน่าหมั่นไส้นั่นสักครั้งก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วล่ะ

แกร๊ก

ประตูเพนต์เฮาส์ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงที่อยู่ในความคิด ราชากลับมาจากทำงานแล้ว กลิ่นน้ำหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของชายหนุ่มกำจายไปทั่วทั้งห้อง นั่นจึงทำให้ร่างเล็กที่กำลังตั้งโต๊ะสำหรับมื้อเย็นเงยหน้าขึ้นมาทักทาย

“กลับมาแล้วหรือครับ”

ราชาเหลือบมองลัดฟ้าที่ยืนอยู่ตรงโต๊ะทานข้าวเล็กน้อย ดูแปลกตาไปบ้างเมื่อเห็นว่าภรรยาตัวดีของเขาอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนคาดเอวสีสดใส ใบหน้าเกลี้ยงเกลามีเหงื่อผุดประปรายจากความร้อนในการเข้าครัว แต่ถึงกระนั้นก็ยังยืนฉีกยิ้มกวนอารมณ์มาให้อยู่ดี

ร่างสูงปลดกระดุมที่คอเสื้อกับข้อมือลงสองสามเม็ด ก่อนจะพยักหน้าตอบให้กับภรรยาที่เอ่ยถาม

“ผมจัดการให้หมดแล้วนะ แม่บ้านก็ย้ายของของคุณไปอีกห้องเรียบร้อยแล้ว”

“ขอบคุณ ผมขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ถ้าคุณหิวก็ทานไปก่อนเลยไม่ต้องรอ”

“ภรรยาที่ดีก็ต้องทานพร้อมสามีสิครับ เร็ว ๆ นะ ผมรอ”

คนเป็นสามีทอดถอนหายใจกับประโยคเย้าหยอกของภรรยาเหมือนอย่างเคย และมันก็เรียกรอยยิ้มกว้างจนตาหยีจากลัดฟ้าได้ ร่างบางมองตามคนตัวสูงที่เดินเข้าห้องนอนไปก่อนที่ตัวเขาจะถอดผ้ากันเปื้อนออกแล้วนั่งลงในที่ของตนเอง

ลัดฟ้าก้มลงดูแผลที่ข้อศอกกับหัวเข่าเมื่อรู้สึกว่าเริ่มแสบขึ้นมาบ้าง ปลาสเตอร์ปิดแผลสีขาวมีรอยเลือดซึมออกมาเล็กน้อยเนื่องจากตอนที่ทำอาหารเขาคงจะขยับตัวมากเกินไป

“เจ็บชะมัดเลย”

คนตัวเล็กเบ้ปากด้วยความเจ็บ นึกแล้วก็อดโมโหขึ้นมาไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เขาอุตส่าห์ช่วยอินทัชไว้แท้ ๆ แต่อีกคนกลับไม่แม้แต่จะเอ่ยขอบคุณกันสักคำ

ลัดฟ้าเลิกสนใจแผลของตนเอง คิดเอาไว้ว่าหลังจากอาบน้ำเรียบร้อยแล้วค่อยทำแผลใหม่อีกครั้ง ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกับที่ราชาเดินออกมาจากห้องนอนพอดี

ร่างสูงอยู่ในชุดลำลองแล้ว เส้นผมสีดำสนิทที่เซตไว้ปรกลงบนใบหน้าคมจนทำให้ดูอ่อนเยาว์กว่าที่ควร กางเกงผ้าขายาวกับเสื้อยืดคอกลมสีดำสนิทแสนธรรมดาก็ดูพิเศษขึ้นมาเมื่อราชาเป็นคนสวมใส่มัน ลัดฟ้าจำได้ว่าเขาเคยอ่านนิตยสารเล่มหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ คอลัมน์หนึ่งในนั้นเขียนว่าราชาเปรียบเสมือนไม้แขวนเสื้อชั้นดีสำหรับดีไซเนอร์หลาย ๆ คน แบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องประดับระดับโลกหลายแบรนด์ต่างก็แย่งตัวพระเอกชื่อดังคนนี้ไปเป็น Brand Ambassador ของตนเองกันทั้งนั้น

โชคดีอะไรเช่นนี้ สามีของเขานี่หล่อเลือกได้เลยจริง ๆ

“น้ำลายหกหมดแล้วคุณฟ้า” ราชาส่ายหัวให้กับท่าทางของลัดฟ้าที่จ้องมองเขาอย่างเปิดเผย ริมฝีปากบางเผยออ้าอย่างลืมตัว ราชาเดินไปหยุดตรงหน้าอีกฝ่ายแล้วใช้มือหนาดันปลายคางให้ปากสวยปิดลง “น่าเกลียด”

“น้ำลายไม่หกสักหน่อย” ร่างบางเบะปากลงอย่างที่ชอบทำ “ก็ใครใช้ให้คุณสามีหล่อขนาดนี้ล่ะ ผมอดใจไม่ไหวแล้วเนี่ย”

ว่าแล้วก็ส่งมือไปลูบไล้แขนของอีกคนเบา ๆ

“เพ้อเจ้อ ผมจะกินข้าวแล้ว” ราชาปัดมือเรียวสวยออกก่อนจะนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม

กลิ่นของซุปและสเต๊กเนื้อปลาแซลมอนที่ตั้งอยู่ตรงหน้าโชยเข้ามาแตะจมูกจนความหิวในร่างกายเริ่มประท้วง ราชาลงมือทานทันทีแม้ว่าจะยังรู้สึกถึงสายตาจับจ้องจากคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม

“อร่อยไหมคุณ”

“ก็พอใช้ได้”

ราชาเอ่ยตอบ แล้วส่งเนื้อปลาหอมกรุ่นเข้าปากเป็นคำที่สอง ก่อนจะเหลือบไปเห็นอีกฝ่ายทำหน้ามุ่ยอย่างไม่พอใจในคำตอบของเขา ราชากลอกตาไปมาอย่างนึกรำคาญ เขาเคี้ยวเนื้อปลาในปากจนหมดก่อนจะเอ่ยใหม่อีกครั้ง

“อร่อยแล้ว”

ราชาก็แค่เอ่ยตัดความรำคาญไปให้จบ ๆ ใครจะไปสนใจความรู้สึกของลัดฟ้ากันล่ะ

แต่ดูเหมือนว่าคำตอบของเขาในครั้งนี้ทำให้พ่อครัวตัวเล็กยิ้มแฉ่งจนได้ จากนั้นลัดฟ้าก็เริ่มลงมือจัดการอาหารตรงหน้าของตนเองบ้าง

ร่างสูงอดนึกขำในใจไม่ได้ ท่าทางของลัดฟ้าเมื่อครู่นี้เหมือนกับเด็กโดนแย่งของเล่นก็ไม่ปาน ภรรยาของเขาช่างเดานิสัยได้ยากเสียเหลือเกิน บางวันก็เจ้าเล่ห์เหลือแสน บางวันก็ทำราวกับเด็กไม่รู้จักโต บางวันก็ขี้ยั่วเกินบรรยาย เขาเองก็ตามอีกคนไม่ค่อยจะทันนัก

“บอกแล้วว่าผมทำอาหารอร่อย” ร่างบางเอ่ยพร้อมกับยักคิ้วให้สองสามทีเมื่อพวกเขาทั้งคู่ทานมื้อเย็นหมดแล้ว

“ก็ถือว่าคุณยังมีดีอยู่บ้าง”

“นั่นปากหรือคุณ”

ราชาแค่นหัวเราะในลำคอเสียงเบาเมื่อเห็นลัดฟ้าแยกเขี้ยวใส่เขาราวกับแมวพยศ

“อยู่กับผมแล้วยิ้มออกแบบนี้เนี่ย หลงเสน่ห์ผมแล้วละสิ”

“นี่คุณฟ้า ผมไม่ได้ชอบใครไปทั่วแบบคุณหรอกนะ แล้วคุณก็ไม่ใช่สเป็กผมด้วย”

“ใจร้ายจังเลยคุณสามี” รอยยิ้มซุกซนปรากฏขึ้นสวนทางกับคำพูดแสนตัดพ้อ “แต่จะทำยังไงดีล่ะ ผมเริ่มรู้สึกชอบคุณขึ้นมาแล้วสิ”

“บอกชอบคนอื่นแบบนี้ไปกี่คนแล้วล่ะ” ราชาถากถางด้วยคำพูดเจ็บแสบแต่ปฏิกิริยาของลัดฟ้ากลับกวนประสาทเขามากขึ้นกว่าเดิม

“ผมพูดแบบนี้กับคุณคนแรกเลยนะ เพราะที่ผ่านมามีแต่คนบอกชอบผมทั้งนั้น”

“หลงตัวเอง”

“ก็อยากจะให้คุณหลงด้วยเหมือนกัน” ร่างบางกัดริมฝีปากแดงระเรื่ออย่างยั่วยวน หากแต่ราชากลับเลิกคิ้วมองอย่างเบื่อหน่าย

กัดปากตัวเองจนแดงเถือกแบบนั้น ไม่ทราบว่าที่กินข้าวเมื่อครู่นี้ไม่อิ่มหรือไงกัน ถึงได้ทำเหมือนจะกินปากตัวเองอยู่รอมร่อ

“เลิกพยายามเถอะ”

“กลัวแพ้ผมละสิ”

นัยน์ตาหวานเชื่อมยียวนและท้าทาย ราชาปรายตามองนิ่งเฉย รู้ว่าไม่ควรตกหลุมพรางกับคำพูดของเด็กอย่างลัดฟ้า แต่ในใจลึก ๆ กลับไม่อยากให้อีกคนได้ใจมากจนเกินไป

“เข้าใจแล้ว ที่แท้คุณสามีก็กลัว…”

ถ้อยคำของประโยคขาดหายไป พร้อมกับดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นเมื่อราชาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะค้อมตัวมาหาเขาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยความรวดเร็ว ฝ่ามือหนาเลื่อนมาจับใบหน้างดงามเอาไว้โดยที่อีกคนไม่ทันตั้งตัว

ปลายนิ้วสากลูบไล้ตั้งแต่ข้างแก้มไปจนถึงต้นคอจนร่างเล็กรู้สึกวูบวาบในท้อง นัยน์ตาดุดันแสนเสน่ห์ก็เหมือนจะมีประกายวิบวับอยู่ข้างในนั้น ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมาจนลมหายใจร้อนผะผ่าวกระทบผิวแก้ม จมูกโด่งเขี่ยปลายจมูกเล็กอย่างหยอกล้อ

ราวกับว่าลัดฟ้ากำลังตกอยู่ในภวังค์ที่ราชาสร้างขึ้นโดยไม่รู้ตัว ลืมสิ้นแล้วว่าจะเอ่ยวาจากวนประสาทอีกคนต่อไปอย่างไร

ความเงียบที่เกิดขึ้นเพียงชั่วขณะค่อย ๆ หายไปเมื่อคนตัวสูงจุดยิ้มที่มุมปาก พร้อมกับเสียงหัวเราะนุ่มทุ้มในลำคอชวนน่าฟัง

“แน่ใจเหรอว่าจะแข่งกับผมน่ะคุณฟ้า”

“…”

“แค่ผมจ้องตาคุณแบบนี้ คุณก็สั่นไปทั้งตัวแล้ว”

คนเป็นสามีพูดจบก่อนจะผละสัมผัสร้อนผ่าวที่ต้นคอออกแล้วเดินออกไป ทิ้งไว้เพียงภรรยาตัวน้อยที่อึ้งงันกับความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว

สายตาของราชาเมื่อครู่นี้ทำเอาตายได้เลยจริง ๆ ร้ายกาจ! ร้ายที่สุดเลย!

ใบหน้าสวยซับสีแดงก่ำ กระทืบเท้าดีดดิ้นอยู่ที่โต๊ะอาหารเพียงลำพังพร้อมกับใจดวงน้อยที่เต้นไม่เป็นจังหวะ

ก็ใครใช้ให้อีกคนหล่อขนาดนั้นกันล่ะ

ที่เขาตัวสั่นแบบนี้ก็เพราะโรคภูมิแพ้คนหล่อมันกำเริบขึ้นมาอีกแล้วน่ะสิ!

 

 

;

TBC.