ดาวร้ายอันดับหนึ่งของวงการอย่างเขาต้องมาแต่งงานลับๆกับพระเอกแห่งชาติ แต่ใครจะไปคิดว่าสามีเขาปากร้ายอย่างกับหมา! แถมอ่อยเท่าไรก็ไม่เคยสนใจ นี่สามีเขาไร้ความรู้สึกไปแล้วหรือไงกัน!

(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย - - 06 โดย ssin_sz @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดราม่า,ชาย-ชาย,รัก,ผู้ใหญ่,ไทย,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,โรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,ชาย-ชาย,รัก,ผู้ใหญ่,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,โรแมนติก

รายละเอียด

ดาวร้ายอันดับหนึ่งของวงการอย่างเขาต้องมาแต่งงานลับๆกับพระเอกแห่งชาติ แต่ใครจะไปคิดว่าสามีเขาปากร้ายอย่างกับหมา! แถมอ่อยเท่าไรก็ไม่เคยสนใจ นี่สามีเขาไร้ความรู้สึกไปแล้วหรือไงกัน!

ผู้แต่ง

ssin_sz

เรื่องย่อ

 

 

ลัดฟ้า คือดาวร้ายอันดับหนึ่งของวงการที่ต้องมาแต่งงานลับๆ กับ ราชา พระเอกที่ได้ฉายาว่าเป็นสามีแห่งชาติของสาวๆ ทั้งประเทศ

แต่ใครจะไปคิดว่าภาพลักษณ์ราวกับเทพบุตรพวกนั้นล้วนหลอกลวงทั้งสิ้น สามีแห่งชาติบ้าอะไรกัน นี่มันปากหมาแห่งชาติสิไม่ว่า!

เขาอุตส่าห์งัดทุกกลเม็ดมาอ่อยจนสุดตัว แต่ไอ้สามีเวรนั่นกลับมองเขาแค่หางตาก่อนจะพ่นคำพูดสมควรตายออกมาว่า

"เมื่อไรจะหยุดขยิบตา แล้วนั่นกัดปากทำไม หิวจนไม่มีอะไรกินเหรอ"

"..."

"อ่อ แล้วก็หยุดบิดเอวสักทีด้วย เห็นแล้วมันเมื่อยแทน"

ให้ตายสิ! ราชาหยิบไม้เรียวขึ้นมาจะตีก้นเขาอีกแล้ว!

นอกจากจะได้สามีเป็นคนไร้ความรู้สึก นี่เขายังได้ครูฝ่ายปกครองแถมมาด้วยอย่างนั้นเหรอ!?

 

 

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายออริเรื่องแรกของเรา ฝากทุกคนเอ็นดูเรื่องนี้ด้วยนะคะ

เปิดเรื่อง : 14 เมษายน 2565

จบบริบูรณ์ : 18 กันยายน 2565

 

คำเตือน

นิยายเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้เขียน อาจมีเหตุการณ์ไม่เหมาะสมที่ตัวละครในเรื่องได้กระทำ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

หากไม่ชอบสามารถกดออกได้เลยค่ะ รบกวนไม่คอมเมนท์บั่นทอนจิตใจนักเขียนนะคะ ขอบคุณค่ะ

— Trigger Warning —

Dirty talk, Toxic relationship, Demestic Violence (ตัวละครหลักไม่ได้กระทำ)

 

— Twitter —

https://twitter.com/ssinszxx

— Page —

https://www.facebook.com/profile.php?id=61566029091647

สารบัญ

(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 01,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 02,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 03,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 04,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 05,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 06,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 07,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 08,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 09,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 10,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 11,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 12,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 13,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 14,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 15,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 16,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 17,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 18,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 19,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 20,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 21,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 22,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 23,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 24,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 25,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 26,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 27,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- Epilogue ,(E-Book)(mpreg) you're loser — #ราชาพ่าย-- 📍E-Book มาแล้วค่ะ!!

เนื้อหา

- 06

06

 

กลิ่นหอมกรุ่นของขนมปังเป็นสิ่งแรกที่ราชาสัมผัสได้เมื่อเขาเดินออกมาจากห้อง ลัดฟ้าที่ตื่นเช้ามากกว่าทุกวันหันมาส่งยิ้มหวานให้คนเป็นสามีหนึ่งที ก่อนจะหยิบขนมปังที่ปิ้งเสร็จแล้วใส่จานวางลงบนโต๊ะ

พวกเขาแต่งงานกันมาได้หนึ่งเดือนแล้ว จะว่าไปช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันสักเท่าไร เพราะต่างคนต่างก็ยุ่งอยู่กับงานของตัวเอง ถึงอย่างไรพวกเขาก็เป็นดาราดังด้วยกันทั้งคู่ จะเจอหน้ากันบ้างก็ตอนเช้าก่อนออกไปทำงาน และนั่นก็เป็นเวลาสุนทรีย์ของลัดฟ้าเชียวล่ะ เพราะการได้แกล้งหยอดคุณสามีตั้งแต่เช้านั้น ทำให้เขาอารมณ์ดีไปได้ทั้งวันเลยจริง ๆ

“วันนี้คุณไม่รีบไปทำงานเหรอ” ราชาเดินสวนภรรยาตัวเล็กที่ยื่นจานขนมปังมาให้เข้าไปในครัว เขาเหลือบมองขนมปังรูปหัวใจอย่างเอือมระอา ก่อนจะหันไปชงกาแฟของตน

“วันนี้ผมมีงานอีกทีตอนสองทุ่มน่ะครับ”

ลัดฟ้าตอบทั้งที่หน้ามุ่ย เมื่อเห็นว่าราชาไม่สนใจขนมปังที่เขาทำให้เลยสักนิด วันนี้เขาอุตส่าห์ตื่นเช้ามาเอาใจสามี แต่ดูเอาเถอะ ไอ้คนขี้เก๊กนั่นเมินกันเก่งเสียจริง

“ผมก็มีงานตอนค่ำเหมือนกัน อาจจะกลับดึก” ราชาตอบพลางจิบกาแฟ

“ผมก็คงเลิกดึก หรือไม่ก็อาจจะไม่ได้กลับนะ” ลัดฟ้าว่าก่อนจะหันไปหยิบขนมปังที่สามีไม่สนใจไยดีขึ้นมากัดคำโต

“ค้างกับเด็กในสังกัดคนไหนล่ะ” ร่างสูงเลิกคิ้ว เขาทอดมองลัดฟ้าแล้วแค่นหัวเราะ

ก็ไม่แปลกใจเท่าไรหรอก คนเจ้าชู้อย่างลัดฟ้าคงนอนไม่ติดเตียงที่บ้านอยู่แล้ว

“ก็ไม่รู้สิ ยังไม่ได้เลือกน่ะครับ พอดีมีหลายคนเลย” มุมปากบางโค้งวาดเป็นรอยยิ้มสวยราวกับไม่สะทกสะท้านกับประโยคที่ราชาเอ่ยถากถาง

ราชาเดาะลิ้นครั้งหนึ่ง เขามองรอยยิ้มเคลือบยาพิษจากคนตัวเล็กไม่วางตา ก่อนจะส่งเสียงอ้อในลำคอแล้วไม่ได้พูดอะไรต่อ จู่ ๆ ก็รู้สึกหงุดหงิดกับท่าทางอวดดีและหยิ่งยโสนั่นขึ้นมา ดูเหมือนว่าเช้านี้ลัดฟ้าจะทำสำเร็จอีกแล้ว

แมวพยศยั่วโมโหเขาอีกจนได้

เสียงหัวเราะหวานหูดังขึ้นบางเบา ลัดฟ้ากัดขนมปังคำสุดท้ายอย่างอ้อยอิ่งขณะที่ดวงตาคู่สวยยังคงวิบวับเป็นประกาย ก่อนที่จะหันหลังและปลดผ้ากันเปื้อนออกจากเอว

ตอนนั้นเอง ราชาถึงได้เห็นว่าเสื้อของอีกคนแหวกลึก อีกทั้งยังบางโปร่งแสงยั่วยวนยิ่งกว่าวันไหน

“แต่งตัวอะไรของคุณ”

“หือ?” ลัดฟ้าหันมาเลิกคิ้วสงสัย

“เสื้อน่ะ ทำไมมันแหวกขนาดนั้น” เรียวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ราชาพิงสะโพกกับเคาน์เตอร์ในครัว ในมือยังคงถือแก้วกาแฟอยู่ ส่วนสายตาก็จับจ้องอยู่ที่ลัดฟ้า

วันนี้กะจะอ่อยเหยื่อกี่คนกันแน่ ถึงได้แต่งตัวแหวกหน้าแหวกหลังเสียขนาดนี้

“ผมก็แต่งแบบนี้ปกตินะ ทำไมล่ะ หรือว่าคุณหึงเหรอ” ร่างบางอมยิ้ม กอดอกเอียงคอมองราชาหวานซึ้ง

“อย่าเพ้อเจ้อ ผมรำคาญลูกตาต่างหาก”

“คุณสามีเนี่ยนะ ปากดีชะมัดเลย” ลัดฟ้าเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าสามีของตน คนตัวเล็กยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้แล้วย่นจมูกใส่ ท่าทางราวกับแมวขู่ “งั้นผมจะใส่แบบนี้ทุกวันเลย”

ราชาพ่นลมหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เขากลอกตามองไปทางอื่นก่อนที่มือหนาจะผลักไหล่เล็กออกไปเบา ๆ

ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือของลัดฟ้าก็ดังขึ้น ร่างบางหยิบขึ้นมารับสาย และราชาก็ทันได้เห็นว่าชื่อที่แสดงอยู่บนหน้าจอสี่เหลี่ยมนั้นคือใคร

“ฮัลโหลธันวา”

อืม ก็คู่ควงคนล่าสุดที่เป็นข่าวกับลัดฟ้าอยู่ตอนนี้ยังไงล่ะ

ราชาเบือนหน้าหนีไปอีกทาง เลิกสนใจลัดฟ้าที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับปลายสายในโทรศัพท์

(เมื่อไรจะมาเนี่ยพี่ฟ้า ผมถึงนานแล้วนะ)

“ใจเย็นสิ รู้หรอกว่าคิดถึงพี่”

น้ำเสียงหวานเคลือบน้ำตาลเอ่ยตอบปลายสายแล้วเหลือบมองราชาที่กำลังดื่มกาแฟโดยไม่สนใจเขา ร่างเล็กขยับเข้าไปยืนตรงหน้าคุณสามีแสนเย็นชา

ปลายเท้าเขย่งขึ้นเล็กน้อย ลัดฟ้าอมยิ้มก่อนจะยื่นนิ้วไปเช็ดคราบกาแฟที่เลอะมุมปากคนตัวสูง

หมับ!

ราชาชะงักไปชั่วขณะ เขาเอียงใบหน้าหลบ ก่อนที่จะจับข้อมือบางเอาไว้ทันที ลัดฟ้ายังคงส่งยิ้มกวนอารมณ์ไม่เลิก ริมฝีปากก็เอื้อนเอ่ยตอบคนในสายไปด้วย นัยน์ตาคมปลาบวาวโรจน์เมื่อลัดฟ้าก้มลงมาดูดนิ้วที่เลอะคราบกาแฟต่อหน้าเขา

(พี่เป็นไรปะเนี่ย ไม่สบายหรือเปล่า คิดถึงอะไรกัน ขนลุกนะ)

ธันวาตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ อันที่จริงแล้วเขากับธันวาไม่ได้มีความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาวแม้แต่น้อย อีกอย่างเจ้าเด็กคนนี้ก็มีคนที่ชอบอยู่แล้วด้วย

ลัดฟ้าหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แสร้งทำท่าทีขัดเขินกับสิ่งที่ปลายสายพูด หากแต่ข้อมือที่ถูกราชายึดเอาไว้หลวม ๆ นั้น ค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามกรอบหน้าคมคายหล่อเหลา

“เดี๋ยวพี่จะรีบไปนะ พี่ก็คิดถึงธันวาจะแย่แล้วเหมือนกัน”

(ยังไม่เลิกเล่นอีก ครับ ๆ คิดถึงก็คิดถึง งั้นไว้เจอกันพี่)

ปลายสายวางไปแล้ว และราชาก็ดันคนตัวเล็กออกไปทันที ร่างสูงขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ ดูเหมือนว่าจะหงุดหงิดภรรยาตัวน้อยเต็มทนแล้ว

“คุณหยุดทำตัวน่ารำคาญแบบนี้ได้แล้วคุณฟ้า”

“ผมทำอะไรล่ะ”

“ก็ที่คุณกวนประสาทผมอยู่ทุกวันนี่ไง”

“ไม่สนุกเหรอ ผมว่ามันก็สนุกดีนะ” ลัดฟ้ายิ้มกว้างจนตาหยี ราชาขบกรามแน่น ใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึงลงหลายส่วน

“คุณจะทำอะไรมันก็เรื่องของคุณ แต่อย่ามายุ่งกับผม”

“เฮ้อ ก็ได้ ๆ จะโกรธอะไรขนาดนั้นล่ะ”

ริมฝีปากบางยู่เข้าหากัน ลัดฟ้ายกมือทำราวกับยอมแพ้ในสงครามประสาทของเช้านี้แล้ว ราชาพ่นลมหายใจเสียงดังก่อนจะหันไปล้างแก้วกาแฟที่เพิ่งดื่มหมดไป

“งั้นผมไปแล้วนะ อย่าเพิ่งคิดถึงกันล่ะคุณสามี”

“จะไปไหนของคุณก็เชิญ ไม่ต้องกลับมาเลยยิ่งดี”

เสียงหัวเราะของลัดฟ้าดังขึ้นก่อนจะค่อย ๆ เงียบลงไปเมื่อคนตัวเล็กออกจากเพนต์เฮาส์ไปแล้ว ราชาเดินมานั่งที่โซฟากลางห้องพร้อมกับอารมณ์หงุดหงิดที่ยังไม่หายไป มือหนาปลดกระดุมเสื้อเม็ดบนออกเมื่อรู้สึกว่าอาการหัวเสียยิ่งทำให้เขาร้อนขึ้นเป็นเท่าตัว สาบานได้เลยว่าไม่เคยมีใครทำเขาอารมณ์เสียได้เท่าลัดฟ้ามาก่อนแล้ว

ตั้งแต่แต่งงานกันมา เพิ่งจะผ่านมาแค่เดือนเดียวแต่ลัดฟ้ากลับปั่นหัวเขาไม่หยุดหย่อน ไหนจะมือเรียวที่เหมือนปลาหมึกคอยแตะคอยสัมผัสเขาอยู่เรื่อย อีกทั้งน้ำเสียงหวานหูที่ชอบเอ่ยคำพูดชวนเลี่ยนนั่นด้วย เขาไม่เคยเจอคนแบบลัดฟ้ามาก่อนเลยจริง ๆ

*

ปอร์เช่คันสีขาวเคลื่อนตัวมาด้วยความเร็วก่อนจะจอดสนิทที่หน้าบ้านสองชั้นแห่งหนึ่ง ป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนว่า 'บ้านพิมพ์ใจ' ติดอยู่ตรงประตูรั้วทางเข้า มันขึ้นสนิมจนตัวหนังสือเลือนรางแต่ก็ยังพออ่านได้ ตัวบ้านสองชั้นที่ทำจากไม้ทั้งหลังก็ดูเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา

ลัดฟ้าก้าวลงจากรถแล้วมองไปรอบ ๆ ด้วยความคิดถึง ก่อนจะต้องกางแขนอ้ารับเด็กชายเด็กหญิงตัวน้อย ๆ ที่วิ่งเข้ามาหาเขาด้วยความดีใจ

“คิดถึงพี่ฟ้าจังเลย” เด็กชายตัวป้อมคนหนึ่งกอดเอวลัดฟ้าแน่น เผยรอยยิ้มแป้นสดใสจนลัดฟ้าอดที่จะหยิกแก้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้

เด็กคนอื่น ๆ ที่อยากให้ลัดฟ้าเล่นด้วยต่างก็กอดแขนกอดขาออดอ้อนไม่แพ้กัน

บ้านพิมพ์ใจ หรือก็คือสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่แถบชานเมือง เด็ก ๆ ที่นี่อยู่ในความดูแลของแม่พิมพ์ใจ หญิงชราวัยหกสิบสองปีผู้ใจดี ลัดฟ้ามักจะมาบริจาคของรวมถึงเงินทุนเพื่อช่วยเหลือสถานรับเลี้ยงเด็กแห่งนี้อยู่บ่อยครั้ง อันที่จริงเขาเองก็คุ้นเคยกับพิมพ์ใจมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว

เมื่อก่อนบ้านของเขาก็เคยอยู่แถวนี้ เกือบทุกเย็นหลังกลับจากโรงเรียนและทำการบ้านเสร็จ ลัดฟ้าก็มักจะขอแม่มาช่วยงานพิมพ์ใจและเล่นกับเด็กคนอื่น ๆ ที่นี่เสมอ

“มาแล้วหรือลูก” ใบหน้าของหญิงชราแย้มยิ้มเหมือนเช่นเคย เธอก้าวลงจากบันไดหน้าบ้านเดินตรงมาหาลัดฟ้า ท่าทางทะมัดทะแมงไม่เหมือนคนอายุหกสิบสองเลยสักนิด

“ครับ คนอื่น ๆ อยู่ข้างในแล้วใช่ไหมครับแม่พิมพ์”

“จ้ะ แม่ได้ยินเสียงรถของฟ้าก็เลยเดินออกมารับก่อน” เธอว่าก่อนจะหันไปพูดกับเด็ก ๆ “เด็ก ๆ ปล่อยพี่ฟ้าก่อนนะลูก พี่ฟ้าเขาเพิ่งมาเหนื่อย ๆ ไปเล่นรอก่อนก็ได้”

เด็กน้อยพยักหน้าอย่างเชื่อฟังก่อนจะพากันวิ่งไปยังสนามเด็กเล่นข้างบ้าน ลัดฟ้ามองตามด้วยความเอ็นดู สนามเด็กเล่นและเครื่องเล่นตรงนั้นก็สร้างขึ้นจากเงินบริจาคเมื่อปีที่แล้วของเขาเช่นกัน

ลัดฟ้ารักที่นี่เหมือนบ้าน เมื่อเขาโตขึ้นและมีกำลังมากพอจึงกลับมาดูแลที่นี่ให้ดี

“แม่ช่วยขนของนะ”

“ไม่เป็นไรครับ แค่นี้เอง ฟ้าสบายมาก!”

ร่างบางคลี่ยิ้มสดใสจนพิมพ์ใจหัวเราะ ทั้งสองพากันเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกับข้าวของมากมายที่ลัดฟ้าถือมาด้วย ในถุงใบใหญ่มีทั้งสมุด หนังสือเรียน เครื่องเขียนรวมถึงเสื้อผ้าและของใช้สำหรับเด็ก ๆ มากมาย

ในห้องนั่งเล่นกว้างขวางที่ใช้สำหรับรับแขกมีเพื่อน ๆ ของลัดฟ้านั่งรออยู่ก่อนแล้ว ธันวาที่โทรตามเขาก่อนหน้านี้โบกมือทักทาย ข้างกันมีกวินหรือเพื่อนสนิทของเขากำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่

“ผมกับพี่กวินนั่งรอพี่ตั้งนาน” ธันวาบ่น

“โทษที ๆ พอดีรถติดน่ะ” ลัดฟ้ายิ้มแหย จะให้บอกได้อย่างไรว่ามัวแต่แกล้งสามีตัวเองอยู่ถึงได้ออกมาช้าแบบนี้ “แล้วพี่ปริมล่ะ”

“ไปคุยโทรศัพท์น่ะ นั่นไง เดินมาพอดี” กวินตอบก่อนจะชี้ไปยังผู้จัดการส่วนตัวของลัดฟ้าที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง

“ชุดที่ฟ้าต้องใส่ออกงานคืนนี้มีแก้นิดหน่อย แต่พี่จัดการให้แล้ว ไม่ต้องห่วง”

“ขอบคุณครับ พี่ปริมเก่งที่สุดเลยนะเนี่ย” ลัดฟ้าเอ่ยก่อนจะเข้าไปถูไถแก้มของตนกับไหล่ของหญิงสาวอย่างออดอ้อน ธันวากับกวินกลอกตาไปมาด้วยความเคยชินเมื่อเห็นท่าทางแบบนั้น มีก็แต่พิมพ์ใจที่หัวเราะชอบใจกับลูกอ้อนของลัดฟ้าอยู่เสมอ

“ไป ๆ ไปเตรียมของกันดีกว่าลูก จะได้ทันกินข้าวเที่ยงกัน”

หญิงชราเดินนำเข้าไปในบ้านด้วยรอยยิ้ม พวกเขาที่เหลือจึงช่วยกันขนของตามเข้าไป ลัดฟ้าและธันวารับหน้าที่ช่วยพิมพ์ใจทำมื้อเที่ยงให้เด็ก ๆ ในวันนี้ ส่วนกวินและปริมก็ช่วยกันจัดของที่จะมอบให้เด็ก ๆ อยู่ด้านนอก

“เดี๋ยวแม่ไปดูเด็ก ๆ ก่อนนะลูก ถ้าต้มจืดเดือดแล้ว ฟ้าก็ปิดเตาแล้วยกลงเลยก็ได้จ้ะ”

“ได้ครับแม่พิมพ์ เดี๋ยวทางนี้ฟ้าจัดการเองครับ” ลัดฟ้าที่กำลังหั่นผักหันไปตอบพิมพ์ใจ ก่อนที่หญิงชราจะเดินออกไปจากห้องครัว

“พี่มาที่นี่บ่อยเหรอ” ธันวาที่เพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรกเอ่ยถามขึ้น อันที่จริงเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาที่นี่สักเท่าไรหรอก แต่เพราะกำลังตามจีบกวินเพื่อนสนิทของลัดฟ้าต่างหาก เขาจึงถือโอกาสนี้ตามมาด้วย

“ก็เกือบทุกเดือนนะ แต่ถ้าไม่ว่างจริง ๆ ก็จะโอนเงินมาให้แทน อ่อ กวินมันก็มากับพี่ทุกครั้งเหมือนกัน” ลัดฟ้าเอ่ยเย้าหยอกรุ่นน้อง ร่างบางยิ้มกริ่มเมื่อเห็นท่าทางเขินอายของรุ่นน้องตัวโต

“บอกว่าอย่าแซวผมไง” ธันวาขมวดคิ้วทำเหมือนอารมณ์เสีย หากแต่ใบหูแดงก่ำ “ไว้ถ้ามาอีก พี่ชวนผมด้วยนะ”

“อยากมาช่วยพี่หรือจะมาทำคะแนนกับไอ้กวินมันล่ะ”

“อย่าถามอะไรที่พี่ก็รู้คำตอบสิครับ” ธันวายักคิ้วหลิ่วตากวนอวัยวะเบื้องล่างจนลัดฟ้าหันมาแยกเขี้ยวใส่ “หยอกครับ ๆ”

“เอ้อ เห็นข่าวแล้วใช่มั้ย” ลัดฟ้าเอ่ยถามเมื่อนึกขึ้นได้ ดูเหมือนว่าข่าวระหว่างเขากับธันวาจะถูกพูดถึงไม่หยุดทั้งที่ก็ผ่านมาหลายสัปดาห์แล้ว และเขาก็ยังไม่มีโอกาสได้คุยกับธันวาเรื่องนี้เสียที “พี่ขอโทษนะ ทำเอานายซวยไปด้วยเลย”

“เฮ้ย ไม่เป็นไรเลยพี่ ดีเสียอีกได้เป็นข่าวกับคนดังของวงการ”

“ตลกละ” ลัดฟ้าหัวเราะ ก่อนจะยกกำปั้นเคาะไหล่รุ่นน้องตัวสูงเบา ๆ “แต่ไม่ต้องห่วงนะพี่ให้พี่ปริมจัดการให้แล้ว ไม่กี่เดือนเดี๋ยวเรื่องก็เงียบ แรก ๆ ใครที่มารู้จักกับพี่ก็โดนปล่อยข่าวแบบนี้หมดแหละ”

“แล้วพี่ไม่คิดจะออกมาพูดอะไรบ้างเหรอ”

“เคยพูดแล้ว แต่ก็ยังมีออกมาเรื่อย ๆ น่ะ คงเป็นที่ภาพลักษณ์ของพี่เป็นแบบนี้ด้วยมั้ง แต่พี่ก็ชินแล้วล่ะ”

“ไม่ได้ดิพี่ เรื่องแบบนี้จะชินได้ไง”

“ไม่รู้สิ บางทีพอเราโตขึ้น มันก็เหลือคนที่คอยรับฟังเราน้อยลงแล้ว”

ลัดฟ้าไหวไหล่แล้วถอนหายใจ ก่อนที่เขาจะหันมาฉีกยิ้มให้กับนักแสดงรุ่นน้องที่มองเขาอยู่ก่อนแล้ว

“ไม่ต้องทำหน้าเครียดหรอกน่า ไว้เดี๋ยวพี่หาคนมาเป็นข่าวด้วยใหม่ ข่าวของพี่กับนายก็จะหายไปเอง”

“ตลกเหอะพี่ฟ้า”

ลัดฟ้าขยิบตาใส่รุ่นน้องตัวสูงอย่างเย้าแหย่ ก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อธันวาเบือนหน้าหนี

“แต่ผมพูดจริงนะพี่ฟ้า ผมรู้ว่าพี่อาจจะชินกับมันแล้ว แต่ดาราก็คนเหมือนกัน ดูแลความรู้สึกของตัวเองบ้าง ไม่ต้องยิ้มรับกับปัญหาทุกเรื่องหรอก”

มือเรียวที่กำลังจับมีดหั่นผักอยู่ชะงักไป รอยยิ้มค่อย ๆ จางลง “พี่รู้ พี่ไม่ได้เก็บเอามาคิดทุกเรื่องหรอกน่า”

“มีอะไรให้ผมช่วยก็บอกแล้วกันนะ”

“โอเค…”

“แต่แลกกับนัดพี่กวินไปกินข้าวกับผมให้หน่อยสิ”

“ไอ้เด็กนี่”

เสียงหัวเราะของธันวาดังลั่นจนปริมโผล่หน้าเข้ามาดู ลัดฟ้าฟาดเข้าที่ไหล่ของรุ่นน้องคนสนิทเต็มแรงจนธันวาร้องเสียงหลงแล้ววิ่งออกไปด้านนอก

เหลือเพียงลัดฟ้าที่อยู่กับความเงียบภายในครัวแค่เพียงคนเดียว เขาจัดการทำอาหารตรงหน้าต่อ แม้ว่าในใจจะวูบโหวงกับคำพูดของธันวาเมื่อครู่นี้มากเหลือเกินก็ตาม

ใช้เวลาไม่นานอาหารทุกอย่างก็เสร็จสิ้น พวกเขาทั้งสี่คนช่วยกันจัดโต๊ะอาหารให้เด็ก ๆ ก่อนที่พิมพ์ใจจะพาทุกคนเข้ามา

ความไร้เดียงสาและความสดใสของเด็ก ๆ ทุกคนที่นี่ทำให้เขาลืมความรู้สึกไม่ดีเหล่านั้นไปชั่วขณะ หลังจากทานข้าวกันอิ่มแล้ว พวกเขาทั้งหมดก็พาเด็ก ๆ ทำกิจกรรมหลายอย่าง และสิ่งที่ลัดฟ้ามักจะทำบ่อยครั้งเมื่อมาที่นี่คือการเล่นเปียโนและร้องเพลงให้เด็ก ๆ ฟัง เสียงหัวเราะและรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าเยาว์วัยล้วนทำให้ลัดฟ้ามีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้เสียอีก

ลัดฟ้าใช้เวลาอยู่กับเด็ก ๆ และพิมพ์ใจที่บ้านเด็กกำพร้าจนถึงเย็น ร่างเล็กโบกมือลาทุกคนในบ้าน กวินและธันวาแยกกลับไปก่อนแล้ว เขาเอ่ยขอบคุณไล่หลังสองคนนั้นไปก่อนจะเดินมายังรถของตนเอง อันที่จริงเขาก็อยากจะอยู่ต่ออีกสักหน่อยถ้าคืนนี้ไม่ติดงานสำคัญเข้าเสียก่อน

“ยังมีเวลาเหลืออยู่นะ จะไปหาป้าเดือนก่อนไหม” ปริมเอ่ยขณะที่เดินอยู่ข้างกัน

นิ้วเรียวที่กำลังควงกุญแจรถเล่นหยุดชะงักไปเมื่อได้ยินสิ่งที่ปริมถาม ลัดฟ้าหลับตาลงครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจออกมา

ดวงเดือน หรือป้าเดือนที่ปริมพูดถึงก็คือแม่แท้ ๆ ของเขาเอง บ้านของเธออยู่ไม่ไกลจากบ้านเด็กกำพร้านัก มันเป็นบ้านในย่านสลัมเก่าที่ทำจากสังกะสีขึ้นสนิมผุพัง และลัดฟ้าก็เคยอยู่ที่นั่นเมื่อนานมาแล้ว

“ไม่อะพี่ปริม ไว้ค่อยไปทีหลัง” ร่างเล็กตอบก่อนจะกดปลดล็อกรถ เขาเม้มริมฝีปากที่กำลังสั่นจนรู้สึกเจ็บ

“ตามใจฟ้าแล้วกัน ระวังคุณลุงจับได้ล่ะ”

“อื้อ” เขาตอบเพียงเท่านั้นก่อนจะขึ้นรถไป

ลัดฟ้าไม่ได้มีความทรงจำดี ๆ กับมารดาสักเท่าไร ทั้งที่แม่รักเขามากแต่ลัดฟ้ากลับไม่รู้สึกผูกพันเลยสักนิดเดียว และเมื่อเขาได้มาอยู่กับพ่อแล้ว พ่อก็สั่งให้เขาตัดขาดจากแม่ทันที แต่ถึงอย่างไรคำว่ากตัญญูก็ยังค้ำคอเขาอยู่ ลัดฟ้าจึงแอบมาหาดวงเดือนบ้าง ไม่ก็แอบส่งเงินมาให้บ้าง

แต่น่าแปลก ทั้งที่สิ่งที่เขาทำอยู่คือการทดแทนบุญคุณมารดาผู้ให้กำเนิด แต่ทำไมกลับรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน

ติ๊ด ๆ

เสียงข้อความในโทรศัพท์ดังขึ้น ลัดฟ้าหยิบมันขึ้นมาอ่านทั้งที่ในใจก็พอจะเดาได้ว่าเวลาแบบนี้คนที่ส่งข้อความมาหาเขาคือใคร

'From: แม่

วันนี้ฟ้ามาบ้านพิมพ์ใจเหรอลูก มาหาแม่ที่บ้านไหม แม่คิดถึงฟ้านะ แต่ถ้าฟ้างานยุ่งก็ไม่เป็นไร ค่อยมาวันอื่นก็ได้ แต่แม่ขอฟ้าสักสองหมื่นก่อนได้ไหมลูก พอดีแม่มีเรื่องต้องใช้เงินจริง ๆ แม่จะรอฟ้านะ รักลูกจ้ะ'

เมื่ออ่านข้อความนั้นจบ เขาก็โยนมือถือส่ง ๆ ไปบนเบาะข้างคนขับ สายตาเหม่อมองออกไปด้านนอกรถที่ค่อย ๆ มืดลง เขาไม่แน่ใจสักเท่าไรว่าคำว่าคิดถึงของแม่นั้นเชื่อได้แค่ไหน ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าแม่คิดถึงเขาหรือเงินของเขากันแน่

ลัดฟ้าเคยเชื่อว่าแม่รักเขามากที่สุด จนกระทั่งวันที่แม่ไม่ได้เลือกเขาอีกต่อไป

มันเป็นวัยเด็กที่แสนขมปร่า เป็นความทรงจำที่แสนโสมม เพราะทุกช่วงเวลาเหล่านั้นเขาอยากจะลืมมันไปจวบจนชั่วชีวิต

 

 

 

;

TBC.