ตัวเราคือ 'ปีศาจร้าย' ที่ถูกพระเจ้าทอดทิ้ง หวังเพียงจะมีชีวิตบนโลกดำมืด ทางเดียวคือล่อลวง 'ของขวัญอันแสนบริสุทธิ์ของพระเจ้า' ให้แปดเปื้อน และดำดิ่งสู่ห้วงนรกจวบจนชั่วนิรันดร์

(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล - - 02 โดย ssin_sz @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ดราม่า,ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,ตะวันตก,โรแมนติกแฟนตาซี,โรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ดราม่า,ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,ตะวันตก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

โรแมนติกแฟนตาซี,โรแมนติก

รายละเอียด

(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล โดย ssin_sz @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ตัวเราคือ 'ปีศาจร้าย' ที่ถูกพระเจ้าทอดทิ้ง หวังเพียงจะมีชีวิตบนโลกดำมืด ทางเดียวคือล่อลวง 'ของขวัญอันแสนบริสุทธิ์ของพระเจ้า' ให้แปดเปื้อน และดำดิ่งสู่ห้วงนรกจวบจนชั่วนิรันดร์

ผู้แต่ง

ssin_sz

เรื่องย่อ

 (Lucien x Cyrene)

 

คุณเคยร้องขออะไรกับพระเจ้าหรือเปล่า? 

แล้วคุณเชื่อในพระเจ้ามากแค่ไหนกัน?

สำหรับปีศาจร้ายอย่าง ซีลีน นั้น ได้สูญเสียศรัทธาที่มีต่อพระเจ้าไปนานแล้ว

หากแต่ว่าวันหนึ่งพระองค์กลับได้มอบหนทางในการเป็นมนุษย์ให้กับเหล่าปีศาจทั้งหลาย

ลูเซียน เพื่อนร่วมคลาสคนใหม่ หนุ่มแว่นแสนเนิร์ดหลังห้องคนนั้นคือ ของขวัญที่พระเจ้าสร้างขึ้นจากแสงสว่างบริสุทธิ์ และทางเดียวที่จะได้รับพลังนั่นมาคือ การสมสู่ในกามารมณ์ กับมนุษย์ผู้นั้นด้วยความรัก

"คุณซีลีน..."

"ทำให้เราพอใจสิลูเซียน แล้วเราจะให้อภัยนายทั้งคืนเลยล่ะ"

เราตามหาของขวัญชิ้นนี้มาทั้งชีวิต เมื่อได้พบแล้วก็อย่าหวังว่าจะมีใครมาแย่งไปได้ 

เพราะแม้แต่พระเจ้าผู้สูงส่ง เราก็จะไม่คืนเขาให้เด็ดขาด

เราสาบาน

 

 

เปิดเรื่อง : 19 เมษายน 2566

จบบริบูรณ์ : 12 มิถุนายน 2566

 

คำเตือน

นิยายเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้เขียน เหมาะกับผู้อ่านอายุ 18 ปีขึ้นไป อาจมีเหตุการณ์ไม่เหมาะสมที่ตัวละครในเรื่องได้กระทำ มีการบรรยายถึงความเชื่อศาสนา โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

หากไม่ชอบสามารถกดออกได้เลยค่ะ รบกวนไม่คอมเมนท์บั่นทอนจิตใจนักเขียนนะคะ ขอบคุณค่ะ

 

— Trigger Warning —

Dirty talk, Blood, Depiction of sex scene, Demon, Submission, Supernatural

 

— Twitter —

https://twitter.com/ssinszxx

— Page —

https://www.facebook.com/profile.php?id=61566029091647

 

สารบัญ

(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 01,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 02,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 03,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 04,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 05,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 06,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 07,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 08,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 09,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 10,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 📍E-Book มาแล้วค่ะ!!,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 11,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 12,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 13,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 14,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 15,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 16

เนื้อหา

- 02

02

มนุษย์นั้นแสนโง่งม และมักจะเชื่อว่าพระเจ้ามอบทางเลือกให้กับชีวิตเราเสมอ

ซีลีนเองก็เคยเชื่อแบบนั้น ว่าพระเจ้ายังไม่ทอดทิ้งปีศาจร้ายเช่นเขาไป ถึงได้ส่งของขวัญลงมาเพื่อต่อชีวิต แต่สุดท้ายก็ได้รู้ว่ามันเป็นแค่คำหลอกลวง เพราะการแย่งชิงของขวัญจากพระเจ้าของเหล่าปีศาจนั้นคงจะเป็นการละเล่นที่แสนสนุกและเพลิดเพลินสำหรับพระเจ้ามากเหลือเกิน

วิธีที่ง่ายที่สุดในการรับพลังบริสุทธิ์จากของขวัญชิ้นนั้น คือ การสมสู่ในกามารมณ์ร่วมกัน แต่นั่นมีข้อจำกัดคือทำได้เฉพาะปีศาจที่มีกายหยาบเป็นมนุษย์ หากเป็นพวกปีศาจชั้นต่ำที่ไม่มีร่างกายหรือเป็นแค่ดวงวิญญาณก็จะใช้วิธีดูดซับพลังจนของขวัญชิ้นนั้นตายไป และถ้าเป็นพวกปีศาจที่มีกายเนื้อแต่ไม่ใช่มนุษย์ จะใช้วิธีแสนสยดสยองด้วยการดื่มกินเลือดเนื้อจนหมดสิ้น

และการแก่งแย่งกันเอง คงเป็นภาพน่าดูสำหรับผู้ที่อยู่บนสรวงสวรรค์อย่างแน่นอน

เขาเป็นปีศาจที่ร่อนเร่มานานแสนนาน หลบหนีจากการตามล่าของนรกอนธการเพื่อใช้ชีวิตต่อไปอย่างสิ่งไร้ค่าในจักรวาลนี้ ในที่สุดการเฝ้ารอของเขาก็สัมฤทธิ์ผล และได้มาเกิดโดยใช้กายหยาบของมนุษย์เป็นภาชนะรองรับดวงจิตปีศาจของตนเองเอาไว้

และเพื่อที่จะหลีกหนีจากมันตลอดกาล ดังนั้นแล้ว เขาจะต้องกำจัดทุกสิ่งทุกอย่างที่ดำมืดด้วยพลังอันแสนบริสุทธิ์ที่หาได้ยากยิ่ง 

นั่นจึงเป็นหนทางเอาตัวรอดเดียวของสิ่งมีชีวิตที่ถูกพระเจ้าทอดทิ้ง ซึ่งในท้ายที่สุด ซีลีนก็เจอในสิ่งที่พระเจ้าสร้างแล้ว และแน่นอนว่าเขาจะไม่ให้ปีศาจตนไหนมาแย่งไปได้อย่างแน่นอน

“รู้จักเหรอซี?”

ซีลีนหลุดจากภวังค์ นายแว่นคนนั้นหลบสายตาไปแล้ว ใบหน้าธรรมดาของชายคนนั้นขึ้นสีแดงจาง ๆ และแน่นอนว่าซีลีนสังเกตเห็นมันได้ ชายหนุ่มผู้มาใหม่นั่งลงที่เก้าอี้หลังห้อง ไม่ได้พูดคุยกับใคร

“เปล่าหรอก แต่ก็อยากรู้จักน่ะ”

“โว้ว นี่เปลี่ยนรสนิยมแล้วสิ คนที่แล้ว ๆ มามีแต่ฮอต ๆ ทั้งนั้นเลยนะ”

ซีลีนไม่ได้ตอบกลับคำหยอกเย้าจากเพื่อนทั้งสอง เขาเพียงแค่ยักไหล่ก่อนจะหันหน้ากลับมาดังเดิมเมื่ออาจารย์ประจำคลาสมาถึงเสียที

แน่นอนว่าตลอดคาบนั้น ซีลีนไม่อาจจับใจความจากสิ่งที่อาจารย์พูดได้เลย นั่นเพราะหัวใจดวงน้อยยังคงเต้นถี่จากการสบตาเพียงครั้งเดียวเมื่อครู่นี้

เขาไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นแบบนี้มาก่อน เหมือนกับว่าแค่ได้สบตา พลังนั้นก็พร้อมที่จะทำให้เขาหลอมละลายในทันที

“เรามีธุระ พวกเธอกลับไปก่อนเลยนะ”

เมื่อจบคลาส ซีลีนที่หันไปมองเด็กใหม่ของสาขาก็เห็นว่าเขารีบร้อนเดินออกไป 

ช่วยไม่ได้ ร่างบางรีบกวาดของเก็บใส่กระเป๋าในทันที

“ให้ไปส่งไหม” เจคร้องถามก่อนที่ซีลีนจะเดินออกไป

“ไม่เป็นไร กลับกันดี ๆ ล่ะ”

“นายด้วยนะ”

ซีลีนพยักหน้ารับก่อนจะสาวเท้าเดินออกจากห้องไปด้วยความรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยของเพื่อนสนิททั้งสองคน

ร่างระหงเดินสวนผู้คนมากมายตามทางเดินในคณะ มีหลายคนที่พยายามจะเข้ามาทักแต่ก็ไม่อาจหยุดฝีเท้าของซีลีนได้ ในที่สุดซีลีนก็หาของขวัญชิ้นนั้นเจอที่หน้าประตูทางเดิน 

“เหอะ หาตัวยากชะมัด” ร่างบางเดาะลิ้นอย่างไม่สบอารมณ์นัก ฝีเท้าเริ่มผ่อนลง เว้นระยะห่างเดินตามหลังนายแว่นคนนั้นไปเรื่อย ๆ

ดูเหมือนว่าของขวัญจากพระเจ้าชิ้นนี้จะไม่เหมือนกับสิ่งที่พระเจ้าสร้างอยู่บ่อย ๆ เท่าใดนัก เพราะท่านผู้นั้นชื่นชอบความยิ่งใหญ่และเจิดจรัส พวกทูตที่ตกสวรรค์ที่เคยรับใช้พระเจ้ามาทุกตนถึงได้หล่อเหลา มีเสน่ห์ และเย้ายวนอยู่ตลอดเวลา

ต่างกับของขวัญชิ้นนี้…ให้ตายสิ ต่างมากจริง ๆ

รูปลักษณ์ภายนอกช่างแสนธรรมดา กรอบแว่นหนาเตอะ ผมยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง การแต่งตัวก็เชยแสนเชย ไหนจะท่าทางการเดินที่แปลกประหลาดนั่นอีก ชอบทำตัวลีบติดไปกับผนังราวกับไร้ตัวตน ใบหน้าก็มักจะก้มงุดอยู่ตลอดเวลา แล้วยังจะเดินเร็วเหมือนวิ่งหนีวัวกระทิงอีกด้วย

ซีลีนถอนหายใจอย่างปลงตก ทำไมพระเจ้าถึงสร้างออกมาได้ผิดพลาดแบบนี้กันนะ แล้วทำไมเขาจะต้องมาทำอะไรบ้า ๆ อย่างการเดินตามหมอนี่ด้วยเนี่ย

ตุ้บ!

“โอ๊ย”

อืม พระเจ้าคงจะผิดพลาดจริง ๆ นั่นแหละ ของขวัญที่ควรจะสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าใครทั้งหมดกลับสะดุดขาตัวเองล้มหน้าคะมำลงไปกับพื้นเสียได้ โชคดีแค่ไหนที่เป็นหน้าประตูแคมปัส และคนไม่เยอะจนจะเหยียบกันได้แบบทางเดินคณะน่ะ!

ปีศาจตัวน้อยกลอกตาไปมา หวังจะใช้จังหวะนี้ในการเข้าไปทำความรู้จักกับอีกฝ่าย แต่กลับมีใครคนหนึ่งช่วยชายคนนั้นไว้เสียก่อน

แต่ว่า…ดูเหมือนจะไม่ใช่การช่วยล่ะมั้ง ก็คน ๆ นั้นเล่นกระชากคอเสื้อของนายแว่นขึ้นมาแล้วเหวี่ยงลงพื้นไปอีกรอบน่ะสิ

“ไอ้บ้านี่เป็นใครเนี่ย” ซีลีนสบถกับตนเองเสียงเบา แล้วรีบถอยมาหลบที่เสาด้านหนึ่งทันที

“ทำไมถึงมาช้าขนาดนี้วะ! แกคิดว่าให้ฉันรอแล้วจะทำอะไรก็ได้หรือไง!”

“ขอโทษครับพี่ อาจารย์เพิ่งปล่อยเมื่อสิบนาทีที่แล้วเองครับ ผมก็รีบวิ่…”

“หยุดพูดมากแล้วเอาเงินที่แม่แบ่งให้แกเดือนนี้มาให้ฉันได้แล้ว”

ปีศาจตัวบางกอดอกมองดูสีหน้าหวาดหวั่นของนายแว่นกับชายร่างท้วมที่ดูเหมือนจะเป็นพี่ชายตรงหน้า ของขวัญของเขาลนลานรีบหยิบเงินออกมาจากกระเป๋ากางเกงเมื่อคนเป็นพี่ชายยกมือขึ้นมาตบเข้าที่หัวอย่างไม่พอใจ

“รีบ ๆ เอามาได้แล้ว ฉันจะเอาไปจ่ายค่าห้อง”

“แล้วที่แม่ให้พี่มาล่ะครับ…”

“ไม่ต้องเสือกได้ไหมไอ้เวรนี่” ชายร่างท้วมจิ๊ปากแล้วเร่งรัดน้องชายอีกครั้ง

ซีลีนแค่นหัวเราะกับตนเอง ดูเหมือนว่าของขวัญจากพระเจ้าชิ้นนี้จะใช้ชีวิตมาอย่างยากลำบากเลยสินะ 

“ผมก็ต้องเอาไว้ใช้ด้วย ผมให้พี่ได้แค่นี้…”

พลั่ก!

ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะพูดจบดี คนเป็นพี่ก็หวดหมัดลงมาที่ใบหน้าเฉิ่ม ๆ นั่นเต็มแรงจนชายคนนั้นล้มลงไปกองกับพื้น ซีลีนที่เห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความหงุดหงิดขึ้นมาทันควัน

ไอ้บ้านั่น มันแตะต้องของขวัญของเขา

“ไอ้เวรนี่พูดไม่รู้เรื่องหรือไงวะ! กูต้องรอมึงเป็นชั่วโมงเพื่อเงินแค่นี้น่ะเหรอ! ถุย!”

พี่ชายของนายแว่นถ่มน้ำลายลงพื้นแสนน่ารังเกียจ ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปหาน้องชายที่ตัวสั่นหัวหดอย่างคนขี้แพ้ หมายจะดึงขึ้นมาต่อยอีกหมัด แต่กลับได้ยินเสียงของใครบางคนเข้าเสียก่อน

“รังแกน้องชายตัวเองนี่สนุกมากไหม”

พี่ชายของนายแว่นเงยหน้าขึ้นมามองร่างบางอย่างหัวเสีย 

“นี่มันเรื่องฉัน คนนอกอย่าเข้ามาแส่” ชายร่างท้วมวางมาด ชี้หน้าคนตัวเล็กที่เข้าไปพยุงน้องชายตนเองขึ้นมา

“เราไม่ใช่คนนอกสักหน่อย” ซีลีนยิ้ม หากแต่นัยน์ตากลับแข็งกร้าวชวนให้คนมองไม่สบอารมณ์ “เขาเป็นเพื่อนเรา เราช่วยเขาจากคนเลว ๆ อย่างนายนี่ผิดตรงไหนกัน”

“เหอะ!” พี่ชายของนายแว่นได้ยินดังนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงดัง 

 “ลูเซียน คนอย่างแกมีเพื่อนด้วยหรือไงวะ แล้วดูเพื่อนแกสิ สวยออกขนาดนี้ แกไม่ดูสารรูปตัวเองเลยหรือไง…”

“เราว่านายหุบปากไปจะดีกว่านะ”

“นี่แก!”

ซีลีนไม่สนใจคำสบถไร้มารยาทนั่น ร่างบางประคองลูเซียนไว้ด้วยสองมือ และนั่นก็ทำให้ซีลีนได้รู้ว่าลูเซียนสูงกว่าเขามาก แผงอกกับลาดไหล่ก็กว้างแลดูแข็งแรง รวมไปถึงพลังแสนบริสุทธิ์ที่ใกล้เพียงลมหายใจคั่นก็หอมหวานเสียจนน่าลิ้มลอง

รอยยิ้มใจดีปรากฏบนใบหน้าสวย กลีบปากบางก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูของคนตัวสูงกว่า

“เราจะช่วยนายเองนะ”

“ขะ…ขอบคุณครับ”

เสียงหัวเราะสดใสที่ดังขึ้นเบา ๆ ในลำคอของปีศาจตัวน้อย และนั่นก็ทำให้ลูเซียนก้มหน้างุดอย่างเก้อเขิน ซีลีนมองท่าทางนั้นอย่างนึกสนุก 

ของขวัญชิ้นนี้น่าเล่นด้วยมากจริง ๆ ฉะนั้น ไม่ว่าผู้ใดก็ห้ามแตะต้องของของเขาเด็ดขาด

“ถ้ายังไม่หยุดรังแกคนอื่นในที่สาธารณะอีก เราจะแจ้งตำรวจ อย่าคิดว่าเราไม่กล้าทำล่ะ”

“แม่งเอ๊ย! ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้พวกเวร!”

พี่ชายของลูเซียนยกมือชี้หน้าคนทั้งสอง เขาเตะกระเป๋าใบขาด ๆ ของลูเซียนที่อยู่บนพื้นด้วยความโมโหก่อนจะจากไป

ซีลีนที่ยังคงประคองแผ่นหลังกว้างของอีกคนไว้ก็หันมาถามด้วยน้ำเสียงที่แสร้งเป็นห่วงเป็นใย

“เป็นอะไรมากไหม”

“มะ…ไม่ครับ” ลูเซียนตอบกลับเสียงตะกุกตะกัก ไม่ยอมแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนที่พูดด้วย “เอ่อ ผมยืนเองได้แล้วครับ ขอบคุณมากนะครับ”

ซีลีนไม่ได้ยื้อต่อ ร่างบางเพียงยิ้มกริ่มแล้วปล่อยมือออกจากแผ่นหลังของอีกฝ่ายอย่างอ้อยอิ่ง

“เราชื่อซีลีนนะ นายชื่อลูเซียนใช่ไหม” ซีลีนต่อบทสนทนาอย่างไหลลื่น ก่อนจะก้มลงช่วยอีกคนเก็บของที่กระจัดกระจายตามพื้นใส่กระเป๋า

และแน่นอนว่าปีศาจตัวน้อยก็ตั้งใจที่จะให้ปลายนิ้วมือของพวกเขาเฉียดกัน ซีลีนแอบขำในใจเมื่อเห็นชายหนุ่มตัวสูงหน้าแดงขึ้นมาอีกครั้ง

ดูท่าแล้ว คราวนี้ก็คงจะได้มาไม่ยากเหมือนกับพวกทูตตกสวรรค์สินะ

“คะ…ครับ ผมชื่อลูเซียนครับ” ลูเซียนพยักหน้ารับแล้วตอบเสียงเบา เขารีบดึงมือของตนเองออกมาเมื่อเผลอไปแตะมือของซีลีนเข้าโดยบังเอิญ ชายหนุ่มพึมพำขอโทษในลำคอจนซีลีนอดรู้สึกเอ็นดูไม่ได้

ดู ๆ ไปแล้วก็เหมือนหมาตัวโตที่ขี้อายมากจริง ๆ

“ลูเซียนที่แปลว่าพบเจอแสงสว่างน่ะเหรอ” ซีลีนยื่นสมุดเล่มสุดท้ายให้คนตรงหน้า ก่อนที่ลูเซียนจะเก็บมันเข้ากระเป๋าและทั้งคู่ก็ยืนขึ้น

“ครับ แม่ผมชอบชื่อนี้ก็เลยตั้งให้…”

“แล้วนายเคยพบแสงสว่างของตนเองจริง ๆ หรือเปล่า” คำถามนั้นมาพร้อมรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์ หากแต่ลูเซียนก้มหน้าอยู่จึงไม่ได้สังเกตเห็นมัน

“ไม่…ไม่รู้เหมือนกันครับ”

“งั้นเหรอ น่าเสียดายจัง แต่ว่าเราน่ะ เจอแสงสว่างที่เป็นของเราแล้วนะ”

ใช่ เขาเจอแล้ว และแสงสว่างที่มอบชีวิตให้เขาได้ก็กำลังยืนอยู่ตรงหน้านี้เอง

“นายไม่ชอบเราเหรอ หรือว่าเราน่าเกลียดจนนายไม่อยากมองหน้าเราหรือเปล่า”

“ไม่ใช่นะครับ!”

ลูเซียนโพล่งปฏิเสธขึ้นมาทันควัน คนตัวสูงลนลานรีบเงยหน้าขึ้นมาหา ก่อนจะพบว่าใบหน้าสวยกำลังยิ้มขำอยู่ หัวใจดวงใหญ่กระตุกวูบไหว แม้จะพบเจอใครต่อใครมามาก แต่ลูเซียนก็เพิ่งเคยเห็นความงดงามที่เย้ายวนแบบนี้เป็นครั้งแรกเลยจริง ๆ

“เราหยอกเล่น แต่เราก็เสียใจเหมือนกันนะ ก็นายเล่นไม่ยอมมองหน้าเราเลย” ซีลีนตีหน้าเศร้า กลีบปากบางเม้มเข้าหากันจนคนมองกลัวว่ามันจะช้ำ “เราน่าเกลียดจริง ๆ เหรอ”

“ไม่ครับ คุณซีลีน…คุณซีลีนสวยจนผมไม่กล้ามอง”

คิ้วเรียวเลิกขึ้นด้วยความแปลกใจ นึกไม่ถึงว่าพอแหย่เข้าหน่อย เด็กเนิร์ดตรงหน้าจะกล้าพูดความในใจออกมาเสียอย่างนั้น ร่างเล็กหัวเราะพรืด

“ถ้านายบอกว่าเราสวย นายก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเราสิ”

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคำเชื้อเชิญที่ไม่อาจปฏิเสธได้หรือเสน่ห์พร่างพราวของคนตัวเล็กตรงหน้ากันแน่ ลูเซียนถึงได้ยอมหันมาสบสายตาเข้ากับสีเทาเป็นประกายในดวงตาของอีกคน

ราวกับตกอยู่ในภวังค์ของการลุ่มหลงไปชั่วขณะ เมื่อซีลีนวาดรอยยิ้มและเขยิบปลายเท้าเข้ามาใกล้มากยิ่งขึ้น

“ดวงตาของคุณซีลีน…” คล้ายกับมีมนต์สะกด ช่างเป็นดวงตาที่สวยที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา “สีของมันสวยมากเลยครับ”

“ถ้าสวย ก็มองนาน ๆ เลยสิ”

แม้จะรู้ว่ามันเป็นแค่เพียงเสี้ยววินาที แต่ราวกับว่าประกายสีดำเทาที่ดึงดูดความปรารถนานั้นยาวนานชั่วนิจนิรันดร์

ลูเซียนเป็นฝ่ายหลบสายตาไปก่อน เสน่ห์ของตัวท็อปสาขาวรรณกรรมนั้นเหลือร้ายอย่างที่ใคร ๆ ว่าไว้จริง ๆ

“ขอบคุณที่ช่วยผมไว้นะครับ” ลูเซียนเอ่ยคำขอบคุณอีกครั้ง เจ้าลูกหมาตัวโตของซีลีนกลับไปเป็นคนขี้อายที่ก้มหน้างุดเช่นเดิม

“แล้วนี่นายกลับทางไหนเหรอ”

“หอพักผมอยู่ถัดจากแคมปัสไปสี่บล็อกครับ”

“พอดีเลย งั้นเราเดินกลับไปด้วยกันไหม” ซีลีนยังคงใช้น้ำเสียงหวานเชิญชวนไม่ลดละ

“คือ…ผมเอารถมาน่ะครับ” ลูเซียนตอบเสียงอ้อมแอ้มแล้วยกมือลูบหลังคอตนเองอย่างทำตัวไม่ถูก

“อ่า งั้นเหรอ น่าเสียดายจัง นึกว่าจะมีเพื่อนเดินไปด้วยกันซะแล้ว หอเราถัดไปสามบล็อกนี่เอง” 

ในประโยคที่ซีลีนเอ่ยมีความจริงความจริงแค่เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น 

ความจริงก็คือซีลีนไม่มีรถและปกติก็เดินไปกลับอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ไม่ใช่ความจริงคือเขาไม่ค่อยเดินกลับเองเท่าไรนัก ก็นะ พวกผู้ชายหลาย ๆ คนต่างก็แย่งที่จะไปส่งเขาถึงห้องกันทั้งนั้น

และเขาเองก็เพิ่งจะปฏิเสธทูตตกสวรรค์คนหนึ่งไปเมื่อสิบนาทีที่แล้วเพื่อมาหาเจ้านี่ ดูเอาเถอะ เขาทำเพื่อของขวัญชิ้นนี้มากขนาดไหนกัน 

“งั้นไว้เจอกันในคลาสนะลูเซียน เราต้องเดินกลับหอแล้วล่ะ ไม่งั้นคงจะค่ำไปเสียก่อน”

“เดี๋ยวครับ!”

ซีลีนยิ้มกับตนเองอย่างพอใจ ร่างเล็กหันกลับไปหาคนตัวสูงที่เพิ่งจะเอ่ยรั้งเขาไว้

“ถ้าไม่รังเกียจ ให้ผมไปส่งนะครับคุณซีลีน”

บิงโก! ต้องแบบนี้สิของขวัญที่รักของเรา