ตัวเราคือ 'ปีศาจร้าย' ที่ถูกพระเจ้าทอดทิ้ง หวังเพียงจะมีชีวิตบนโลกดำมืด ทางเดียวคือล่อลวง 'ของขวัญอันแสนบริสุทธิ์ของพระเจ้า' ให้แปดเปื้อน และดำดิ่งสู่ห้วงนรกจวบจนชั่วนิรันดร์

(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล - - 03 โดย ssin_sz @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ดราม่า,ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,ตะวันตก,โรแมนติกแฟนตาซี,โรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ดราม่า,ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,ตะวันตก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

โรแมนติกแฟนตาซี,โรแมนติก

รายละเอียด

ตัวเราคือ 'ปีศาจร้าย' ที่ถูกพระเจ้าทอดทิ้ง หวังเพียงจะมีชีวิตบนโลกดำมืด ทางเดียวคือล่อลวง 'ของขวัญอันแสนบริสุทธิ์ของพระเจ้า' ให้แปดเปื้อน และดำดิ่งสู่ห้วงนรกจวบจนชั่วนิรันดร์

ผู้แต่ง

ssin_sz

เรื่องย่อ

 (Lucien x Cyrene)

 

คุณเคยร้องขออะไรกับพระเจ้าหรือเปล่า? 

แล้วคุณเชื่อในพระเจ้ามากแค่ไหนกัน?

สำหรับปีศาจร้ายอย่าง ซีลีน นั้น ได้สูญเสียศรัทธาที่มีต่อพระเจ้าไปนานแล้ว

หากแต่ว่าวันหนึ่งพระองค์กลับได้มอบหนทางในการเป็นมนุษย์ให้กับเหล่าปีศาจทั้งหลาย

ลูเซียน เพื่อนร่วมคลาสคนใหม่ หนุ่มแว่นแสนเนิร์ดหลังห้องคนนั้นคือ ของขวัญที่พระเจ้าสร้างขึ้นจากแสงสว่างบริสุทธิ์ และทางเดียวที่จะได้รับพลังนั่นมาคือ การสมสู่ในกามารมณ์ กับมนุษย์ผู้นั้นด้วยความรัก

"คุณซีลีน..."

"ทำให้เราพอใจสิลูเซียน แล้วเราจะให้อภัยนายทั้งคืนเลยล่ะ"

เราตามหาของขวัญชิ้นนี้มาทั้งชีวิต เมื่อได้พบแล้วก็อย่าหวังว่าจะมีใครมาแย่งไปได้ 

เพราะแม้แต่พระเจ้าผู้สูงส่ง เราก็จะไม่คืนเขาให้เด็ดขาด

เราสาบาน

 

 

เปิดเรื่อง : 19 เมษายน 2566

จบบริบูรณ์ : 12 มิถุนายน 2566

 

คำเตือน

นิยายเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้เขียน เหมาะกับผู้อ่านอายุ 18 ปีขึ้นไป อาจมีเหตุการณ์ไม่เหมาะสมที่ตัวละครในเรื่องได้กระทำ มีการบรรยายถึงความเชื่อศาสนา โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

หากไม่ชอบสามารถกดออกได้เลยค่ะ รบกวนไม่คอมเมนท์บั่นทอนจิตใจนักเขียนนะคะ ขอบคุณค่ะ

 

— Trigger Warning —

Dirty talk, Blood, Depiction of sex scene, Demon, Submission, Supernatural

 

— Twitter —

https://twitter.com/ssinszxx

— Page —

https://www.facebook.com/profile.php?id=61566029091647

 

สารบัญ

(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 01,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 02,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 03,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 04,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 05,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 06,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 07,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 08,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 09,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 10,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 📍E-Book มาแล้วค่ะ!!,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 11,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 12,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 13,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 14,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 15,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 16

เนื้อหา

- 03

03

“ว้าว รถสวยจัง”

ทันทีที่ได้เห็นรถยนต์สีดำสนิทตรงหน้า เสียงหวานก็เอ่ยขึ้นมาอย่างร่าเริง ซีลีนเหลือบมองปฏิกิริยาของเจ้าของรถคันหรู และเมื่อเห็นริ้วสีแดงที่ฉาบบนใบหน้าใต้กรอบแว่นก็เป็นที่พอใจ ปลายนิ้วเรียวลากไปตามพื้นผิวเหล็กของรถราคาแพง

รถก็ดูเท่ดี แต่ไม่เข้ากับคนขับเลยสักนิด

ซีลีนเปิดประตูรถตามคำเชิญของลูเซียน ก่อนที่คนทั้งคู่จะเข้าไปนั่งด้านใน

“รถคันนี้เป็นของแม่ผมน่ะครับ ไม่ใช่ของผมหรอก” ลูเซียนไขข้อสงสัย แต่ซีลีนไม่ได้สนใจฟังเท่าไรนัก เพราะท่าทางที่ดูคล่องแคล่วหลังพวงมาลัยรถของอีกฝ่ายนั้นดึงดูดสายตาคนมองได้ดีเช่นกัน

เพิ่งเห็นแฮะ มีเส้นเลือดที่หลังมือกับที่แขนด้วย ถึงภายนอกจะดูแต่งตัวเชยไปหน่อยแต่ร่างกายกลับดูแข็งแรงแล้วก็เซ็กซี่ดีจัง

ร่างบางเท้าคางกับประตูฝั่งคนขับแล้วจับจ้องกรอบหน้าด้านข้างของ

 ลูเซียนด้วยแววตาเป็นประกาย

“นายเท่จัง”

เอี๊ยด!

“ขอโทษครับ! เจ็บตรงไหนไหมครับคุณซีลีน ผม…ผม…”

“ไม่เป็นไร นายเขินแล้วตลกดีนะ” ซีลีนแสร้งขำทั้งที่เมื่อกี๊หัวของเขาโขกกับกระจกรถไปเต็ม ๆ 

ก็ไอ้บ้าแว่นนี่มันเขินจนขับรถต่อไม่ได้ ทั้งยังเบรกเอี๊ยดไปกับพื้นถนนจนเขาหน้าทิ่มไปเลยน่ะสิ

“แต่ผมได้ยินเสียงหัวคุณโขกกับประตู ขอผมดูหน่อยนะครับ!”

ยังไม่ทันที่ซีลีนจะได้อนุญาต ลูเซียนก็โน้มใบหน้าลงมาหาด้วยความลืมตัว จากนั้นจึงยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาเลิกผมหน้าม้าของคนตัวเล็กขึ้นไป นัยน์ตาสีน้ำตาลออกดำภายใต้กรอบแว่นสำรวจหารอยช้ำก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกที่คนสวยไม่เป็นอะไรจริง ๆ

“เป็นห่วงเราเหรอ”

“ใช่ครับ ผม…!”

คำพูดของลูเซียนถูกกลืนลงคอเมื่อเขาเพิ่งจะรู้ตัวว่าอยู่ใกล้กับซีลีนมากกว่าที่คิด ดวงหน้าหวานยั่วเย้าเกินต้านทาน ลูเซียนกลืนน้ำลายดังเอื้อกเมื่อมองตามริมฝีปากบางที่กำลังขยับพูด

ด้วยระยะใกล้เพียงนี้ ดวงตาสีเทาเป็นประกายของซีลีนช่างน่าค้นหาและงดงามจนน่าพิศวง

“ขอโทษนะครับ ผมแค่กลัวคุณเจ็บ”

ลูเซียนหลุบตาลง ในแววตาดูเศร้าจนหงอยลงไป ซีลีนอดเอ็นดูของขวัญชิ้นนี้ไม่ได้ มือบางเอื้อมไปจับมือหนาให้ยกขึ้นมาแตะที่หน้าผากของเขาอีกครั้ง

“นายไม่ได้ผิดสักหน่อย เราไม่เจ็บแล้ว จิ้มดูสิ”

ลูเซียนไม่กล้าแม้แต่จะจิ้มลงไปบนผิวเนียน เขาใช้นิ้วลูบเบา ๆ จนซีลีน อดแปลกใจไม่ได้ 

ทำไมต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นกัน 

อืม เป็นพวกอ่อนไหวง่ายอย่างนั้นเหรอ

“ขับรถได้แล้ว เร็วเข้า” 

ซีลีนร้องบอกเสียงอ่อน ก่อนที่ลูเซียนจะรู้ตัวว่าความใกล้ชิดนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ร่างสูงหันกลับไปนั่งที่เดิมแล้วตั้งใจขับรถต่อ

“เอ่อ จะเป็นอะไรไหมครับ ถ้าผมขอแวะที่หนึ่งก่อนไปส่งคุณ”

“ที่ไหนเหรอ”

“โบสถ์ข้าง ๆ แคมปัสน่ะครับ”

“โบสถ์?” ร่างเล็กขมวดคิ้วมุ่น

“พอดีผมมาสวดภาวนาที่นี่ทุกวันศุกร์น่ะครับ แล้ววันนี้ก็วันศุกร์พอดี แต่ถ้าคุณซีลีนไม่สะดวก ผมจะไปส่งคุณก่อน…”

“เอาสิ” ซีลีนไม่ปฏิเสธ อีกทั้งยังระบายยิ้มกว้างออกไป “เราจะไปกับนายด้วย”

เพราะถูกสร้างมาจากพระเจ้า ก็เลยต้องไปที่นั่นเหมือนคนโง่งมสินะ

จะว่าไป เขาเองก็ไม่ได้ไปสถานที่ของพระเจ้านานมากแล้วเช่นกัน ฉะนั้น วันนี้เราจึงอยากจะให้ท่านได้เห็นว่าเราตามหาของขวัญที่ท่านตั้งใจสรรค์สร้างเจอแล้วจริง ๆ

ใช้เวลาไม่นาน รถยนต์คันหรูก็มาจอดหน้าโบสถ์หลังใหญ่ มันเป็นโบสถ์แห่งเดียวที่อยู่ในย่านนี้ สีขาวสะดุดตาทั้งหลัง ต้องแสงอาทิตย์ดูเรืองรองราวกับอยู่บนสวรรค์

“เข้าไปด้วยกันไหมครับ” ลูเซียนเอ่ยถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไร แต่ซีลีนกลับพยักหน้าตกลง นั่นจึงทำให้เขาเบาใจลงไปได้

นัยน์ตาของปีศาจร้ายมองผ่านประตูโบสถ์เข้าไป เห็นทั้งรูปปั้นและภาพวาดอันศักดิ์สิทธิ์ 

และในขณะที่กำลังจะก้าวขาผ่านประตูเข้าไปนั้น

“โอ๊ย!”

“เป็นอะไรไปครับคุณซีลีน” 

ซีลีนรีบถอยห่างจากลูเซียนที่หันกลับประคองเขาเอาไว้ ใบหน้าเล็กส่ายไปมาก่อนจะซ่อนฝ่ามือที่ถูกแสงบริสุทธิ์จากพระเจ้าแผดเผาจนเผยให้เห็นผิวหนังดำเกรียมของร่างเดิมไว้ด้านหลัง

“นายไปเถอะ เราจะรออยู่ตรงนี้”

“ผมจะรีบออกมานะครับ”

ตอนแรกลูเซียนไม่แน่ใจว่าซีลีนปกติดีจริง ๆ แต่พอได้เห็นคนตัวเล็กส่งยิ้มมาให้ เขาก็วางใจและหันหลังกลับเข้าโบสถ์ไป

ฝ่ามือที่ถูกแสงศักดิ์สิทธิ์แผดเผาเมื่อครู่นี้ค่อย ๆ กลับมาเป็นผิวหนังของมนุษย์อีกครั้ง ซีลีนข่มความโกรธไว้ข้างในใจ นัยน์ตาแดงก่ำจ้องมองผ่านประตูโบสถ์เข้าไปอีกครั้ง

ทั้งที่เขามีกายเนื้อของมนุษย์แล้ว แต่พระเจ้าก็ยังไม่ต้อนรับอีกงั้นเหรอ

เหอะ ลำเอียง ช่างแสนลำเอียงจริง ๆ 

“เราก็ไม่ได้อยากเข้าไปในที่ของท่านนักหรอก”

 ริมฝีปากแค่นยิ้ม ดวงตาเย็นเยียบจนแข็งกระด้าง 

“หากจะโกรธ ก็โกรธที่ท่านปล่อยของขวัญของตนเองให้ออกมาเดินเพ่นพ่านจนมาพบเราเถิด และอย่าหวังว่าเราจะคืนเขาให้กับท่าน ไม่มีวันเสียหรอก”

นั่นเพราะความหวังของผู้ที่ร้องขอต่อท่านคงเป็นเพียงเรื่องราวอันแสนสนุกบนสรวงสวรรค์ และในเมื่อเราเป็นผู้ชนะในการละเล่นครั้งนี้ของท่านแล้ว เราจะไม่แอบอยู่ในมุมมืดและหวั่นเกรงต่อท่านอีกต่อไป

สักวันหนึ่ง ความเป็นปีศาจของเราต้องดับสูญ และเราจะเข้าไปเหยียบในสถานที่ของท่านด้วยความเย่อหยิ่งให้จงได้ 

เราสาบาน

“สบายดีใช่ไหมล่ะลูเซียน”

ร่างบอบบางที่นั่งรออยู่ที่ม้านั่งด้านนอกหันไปมองเมื่อได้ยินบทสนทนาดังขึ้นที่หน้าประตูโบสถ์ เป็นลูเซียนที่เดินออกมา ก่อนที่เขาจะหยุดคุยกับบาทหลวงผู้หนึ่งที่เดินสวนกัน

ฟังจากบทสนทนานี้ ลูเซียนคงจะเป็นผู้รับใช้ที่ดีของท่านจริง ๆ มาบ่อยเสียจนสนิทสนมกับบาทหลวงผู้ดูแลโบสถ์แห่งนี้ไปเสียแล้ว

“ลูกสบายดีครับ คุณพ่อหายป่วยแล้วใช่ไหมครับ” ใบหน้าคมใต้กรอบแว่นดูมีความกังวลจนซีลีนรู้สึกได้

“หายแล้วล่ะลูก นี่เข้าไปสวดภาวนาแล้วอย่างนั้นหรือ”

“ครับคุณพ่อ กำลังจะกลับแล้วน่ะครับ”

“ถ้าเช่นนั้นพ่อขอให้พระเจ้าคุ้มครองลูกอยู่เสมอ”

“ขอบคุณครับ”

ลูเซียนยิ้มแล้วโค้งตัวให้บาทหลวงที่เดินผ่านเข้าไปด้านใน ซีลีนกลอกตาไปมาอย่างนึกหงุดหงิดใจ เมื่อไรจะเดินมาถึงรถกันนะ แล้วนั่น ยังจะมีหมาที่ไหนวิ่งรุดเข้าไปพันแข้งพันขาลูเซียนด้วยความออดอ้อนอีก

เจ้ากูส” ลูเซียนร้องเรียกมันด้วยน้ำเสียงสดใส ซีลีนถึงกับเบ้ปาก อืม ชื่อดูโง่ดีจริง ๆ “มาหาอะไรกินแถวนี้อีกแล้วล่ะสิ”

ปีศาจแสนสวยลุกขึ้นจากม้านั่ง เขายืนกอดอกมองภาพที่เจ้าหมาตัวโตในร่างคนกำลังลูบหัวเจ้าหมาสีดำตัวเล็กเล่น นั่นดูไม่เห็นจะต่างกันตรงไหน 

ไอ้เจ้าหมาสีดำตัวนั้นก็ช่างน่ารำคาญเสียจริง มายุ่งวุ่นวายกับของขวัญของเราอยู่ได้!

“นี่เราน่าสนใจน้อยกว่าหมาแล้วเหรอ” ซีลีนเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าลูเซียน ชายหนุ่มตัวสูงลนลานรีบวางเจ้าหมาสีดำลงกับพื้น เจ้าตัวเล็กแลบลิ้นหอบคล้ายกับจะออดอ้อนอีกครั้งแต่เมื่อหันมาเจอสายตาดุดันจากใครอีกคนก็ร้องหงิงแล้วนั่งเรียบร้อยในทันที

ลูเซียนลูบหัวมันอีกครั้ง กระซิบบอกกับมันเบา ๆ 

“อย่าทำตัวเป็นปัญหาตอนอยู่ที่โบสถ์ล่ะ ไปได้แล้ว” หลังจากประโยคของลูเซียนจบลง ราวกับว่ามันฟังคำพูดของเขาออก ถึงได้หันหลังรีบวิ่งหางจุกตูดไปไกล

ลูเซียนหันมายิ้มแหยแล้วยกมือลูบหลังคอตนเอง แม้บนใบหน้าหวานล้ำของซีลีนจะมีรอยยิ้ม และคำพูดดูทีเล่นทีจริง แต่แววตากลับไม่ใช่แบบนั้นเลย

เขาดันทำตัวน่าหงุดหงิดต่อหน้าคนที่แอบชอบมานานเสียได้ 

ใช่ ลูเซียนน่ะแอบชอบซีลีนมานานแล้ว แม้จะเคยเห็นจากที่ไกล ๆ แต่นั่นเป็นครั้งแรกที่หัวใจของเขาเต้นแรงมากขนาดนี้ ไม่เคยมีใครรู้ว่าเขาชอบซีลีน นั่นเพราะไม่มีใครสนใจเขา แต่มันก็ดีแล้ว เพียงแค่ได้แอบชอบ ไม่ได้หวังว่าจะได้ความรักจากซีลีนผู้สูงส่งเลยสักนิดเดียว 

และถึงแม้ใจจะไม่ได้ใฝ่หา หากแต่สุดท้ายก็มีเหตุให้ได้ใกล้ชิดกัน เหมือนอย่างในตอนนี้ ซีลีนยืนอยู่ตรงหน้าเขา และมันก็ไม่ได้ห่างไกลจนเกินเอื้อมอีกต่อไป

“ขอโทษครับ พอดีมันเป็นหมาที่อยู่ที่นี่น่ะครับ ผมมาเล่นกับมันบ่อย ๆ” เมื่อได้ยินน้ำเสียงหงอย ๆ ของคนตัวสูง ร่างบางก็ถอนหายใจออกมาโดยที่อีกคนไม่ทันได้สังเกต

ซื่อบื้อจริง ๆ เลย

“เราล้อเล่น แต่ว่าลูเซียนสนใจหมามากกว่าเราจริง ๆ ด้วยสิ” แต่แล้วก็อดที่จะเอ่ยหยอกเย้าไปอีกครั้งไม่ได้

“เปล่านะครับ ผมก็แค่…”

ซีลีนเลิกคิ้วขึ้นคล้ายกับรอฟัง ก่อนที่เจ้าของร่างสูงจะหันหน้าหลบสายตาไปอีกทางแล้วยกมือขึ้นมาถูจมูกตนเองเบา ๆ ด้วยใบหน้าแดงก่ำ

“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงล่ะครับ ผมก็ต้องสนใจคุณซีลีนมากกว่าอยู่แล้ว”

ลูเซียนทิ้งหางเสียงเบาบางจนคล้ายเสียงกระซิบแล้วก้มหน้าลงราวกับทำตัวไม่ถูก ซีลีนหัวเราะออกมาเสียงหวาน นี่เหมือนว่าเขากำลังกลั่นแกล้ง

 ลูเซียนอยู่หรือเปล่านะ

“เราเข้าใจแล้ว” 

เสียงหัวเราะที่มาพร้อมกับรอยยิ้มทำให้ลูเซียนติดอยู่ในภวังค์อย่างเลี่ยงไม่ได้ 

“เราเองก็สนใจลูเซียนเหมือนกันนะ”

สายลมพัดมาวูบหนึ่ง เส้นผมยาวรุงรังที่ปรกใบหน้าของลูเซียนปลิวไสว เผยให้เห็นใบหน้าคมที่แดงระเรื่อ และนัยน์ตาที่เบิกกว้างด้วยความตกใจกับคำพูดของคนตรงหน้า

รอยยิ้มของซีลีนยังคงงดงามทุกครั้งที่ได้จ้องมอง ร่างบางกระหยิ่มยิ้มย่องในใจเพราะทุกอย่างง่ายดายกว่าที่คิด แต่ในจังหวะนั้นเอง ปลายหางตาคนสวยกลับเลื่อนไปเห็นเหล่าปีศาจตนอื่นมากมายที่กำลังจ้องมองพวกเขาอยู่

ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าพวกมันตามพลังบริสุทธิ์ของลูเซียนมา และปีศาจพวกนั้นก็จ้องจะแย่งของขวัญชิ้นนี้ไปจากเขา

ให้ตายสิ มีเยอะขนาดนี้เลยหรือไงนะ แล้วที่ผ่านมาลูเซียนรอดพ้นสายตาพวกมันมาได้ยังไงกัน

ตรงนี้ไม่ปลอดภัยสำหรับลูเซียนอีกต่อไปแล้ว และสิ่งเดียวที่จะทำให้ปีศาจตนอื่นไม่อาจแย่งลูเซียนไปได้คือ ตีตราจองด้วยพลังของเขาเอง

ไม่ทันให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว ซีลีนยื่นมือไปจับมือหนาของคนตัวสูงเอาไว้แล้วประสานนิ้วกันแน่น 

“ไปกันเถอะ รีบไปส่งเราได้แล้ว ใกล้มืดแล้วนะ”

ลูเซียนกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความงุนงง ไออุ่นที่แผ่ซ่านออกมาจากฝ่ามือของซีลีนมันอุ่นร้อนอย่างแปลกประหลาดและเหมือนว่าไออุ่นนั้นกำลังไหลเข้ามาที่ฝ่ามือของเขา แต่เพียงแค่เสี้ยววินาทีมันก็จางไป ทิ้งไว้เพียงความอบอุ่นที่แสนหอมหวาน

“เดี๋ยวก่อนครับคุณซีลีน” และในขณะที่ซีลีนกำลังจะดึงอีกฝ่ายให้เดินไปพร้อมกันก็ถูกยื้อเอาไว้เสียก่อน

ใบหน้าหวานหันมาหาด้วยความสงสัย ลูเซียนยกมืออีกข้างที่ไม่ได้ถูกกอบกุมขึ้นมาเกาแก้มเบา ๆ อย่างเก้อเขิน

“วันนี้…ขอบคุณที่ช่วยผมนะครับ ถ้าคุณไม่มาช่วย ผมคงไม่มีวันที่จะได้คุยกับคุณ…”

“นายพูดว่าอะไรนะ” ซีลีนถามซ้ำเมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายของ

 ลูเซียนไม่ชัดเจนนัก

“เปล่าครับ แค่อยากจะขอบคุณที่ช่วยผมไว้ ทั้งที่เราไม่รู้จักกันน่ะครับ”

ดวงตาเรียวคู่สวยฉายแววขบขัน มือบางกระชับมือหนาแน่นขึ้นแล้วรั้งให้อีกฝ่ายเข้ามาใกล้ชิดจนใบหน้าห่างกันไม่ถึงคืบ

“ตอนนี้เราก็รู้จักกันแล้วไง และนายก็จะต้องตอบแทนที่ฉันช่วยไว้ด้วยนะ”

“ตะ…ตอบแทน? ตอบแทนอะไรเหรอครับ” ริมฝีปากของปีศาจแสนงดงามขยับตอบเชื่องช้า ปลายนิ้วเรียวลากไปตามแผงอกกว้าง 

“ไม่รู้สิ คงเป็นนายล่ะมั้ง”

“ครับ?”

เฮ้อ ของขวัญของเขาช่างไร้เดียงสาเสียจริง

“ไว้เราจะบอกนายวันหลัง”

ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดที่ข้างแก้มของลูเซียนแผ่วเบาจนหัวใจสั่นไหว

“นายก็…ช่วยอยู่ข้าง ๆ เราจนถึงวันนั้นด้วยนะ”