ตัวเราคือ 'ปีศาจร้าย' ที่ถูกพระเจ้าทอดทิ้ง หวังเพียงจะมีชีวิตบนโลกดำมืด ทางเดียวคือล่อลวง 'ของขวัญอันแสนบริสุทธิ์ของพระเจ้า' ให้แปดเปื้อน และดำดิ่งสู่ห้วงนรกจวบจนชั่วนิรันดร์
แฟนตาซี,ดราม่า,ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,ตะวันตก,โรแมนติกแฟนตาซี,โรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาลตัวเราคือ 'ปีศาจร้าย' ที่ถูกพระเจ้าทอดทิ้ง หวังเพียงจะมีชีวิตบนโลกดำมืด ทางเดียวคือล่อลวง 'ของขวัญอันแสนบริสุทธิ์ของพระเจ้า' ให้แปดเปื้อน และดำดิ่งสู่ห้วงนรกจวบจนชั่วนิรันดร์
(Lucien x Cyrene)
♛
คุณเคยร้องขออะไรกับพระเจ้าหรือเปล่า?
แล้วคุณเชื่อในพระเจ้ามากแค่ไหนกัน?
สำหรับปีศาจร้ายอย่าง ซีลีน นั้น ได้สูญเสียศรัทธาที่มีต่อพระเจ้าไปนานแล้ว
หากแต่ว่าวันหนึ่งพระองค์กลับได้มอบหนทางในการเป็นมนุษย์ให้กับเหล่าปีศาจทั้งหลาย
ลูเซียน เพื่อนร่วมคลาสคนใหม่ หนุ่มแว่นแสนเนิร์ดหลังห้องคนนั้นคือ ของขวัญที่พระเจ้าสร้างขึ้นจากแสงสว่างบริสุทธิ์ และทางเดียวที่จะได้รับพลังนั่นมาคือ การสมสู่ในกามารมณ์ กับมนุษย์ผู้นั้นด้วยความรัก
"คุณซีลีน..."
"ทำให้เราพอใจสิลูเซียน แล้วเราจะให้อภัยนายทั้งคืนเลยล่ะ"
เราตามหาของขวัญชิ้นนี้มาทั้งชีวิต เมื่อได้พบแล้วก็อย่าหวังว่าจะมีใครมาแย่งไปได้
เพราะแม้แต่พระเจ้าผู้สูงส่ง เราก็จะไม่คืนเขาให้เด็ดขาด
เราสาบาน
♛
เปิดเรื่อง : 19 เมษายน 2566
จบบริบูรณ์ : 12 มิถุนายน 2566
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้เขียน เหมาะกับผู้อ่านอายุ 18 ปีขึ้นไป อาจมีเหตุการณ์ไม่เหมาะสมที่ตัวละครในเรื่องได้กระทำ มีการบรรยายถึงความเชื่อศาสนา โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
หากไม่ชอบสามารถกดออกได้เลยค่ะ รบกวนไม่คอมเมนท์บั่นทอนจิตใจนักเขียนนะคะ ขอบคุณค่ะ
— Trigger Warning —
Dirty talk, Blood, Depiction of sex scene, Demon, Submission, Supernatural
— Twitter —
— Page —
https://www.facebook.com/profile.php?id=61566029091647
03
“ว้าว รถสวยจัง”
ทันทีที่ได้เห็นรถยนต์สีดำสนิทตรงหน้า เสียงหวานก็เอ่ยขึ้นมาอย่างร่าเริง ซีลีนเหลือบมองปฏิกิริยาของเจ้าของรถคันหรู และเมื่อเห็นริ้วสีแดงที่ฉาบบนใบหน้าใต้กรอบแว่นก็เป็นที่พอใจ ปลายนิ้วเรียวลากไปตามพื้นผิวเหล็กของรถราคาแพง
รถก็ดูเท่ดี แต่ไม่เข้ากับคนขับเลยสักนิด
ซีลีนเปิดประตูรถตามคำเชิญของลูเซียน ก่อนที่คนทั้งคู่จะเข้าไปนั่งด้านใน
“รถคันนี้เป็นของแม่ผมน่ะครับ ไม่ใช่ของผมหรอก” ลูเซียนไขข้อสงสัย แต่ซีลีนไม่ได้สนใจฟังเท่าไรนัก เพราะท่าทางที่ดูคล่องแคล่วหลังพวงมาลัยรถของอีกฝ่ายนั้นดึงดูดสายตาคนมองได้ดีเช่นกัน
เพิ่งเห็นแฮะ มีเส้นเลือดที่หลังมือกับที่แขนด้วย ถึงภายนอกจะดูแต่งตัวเชยไปหน่อยแต่ร่างกายกลับดูแข็งแรงแล้วก็เซ็กซี่ดีจัง
ร่างบางเท้าคางกับประตูฝั่งคนขับแล้วจับจ้องกรอบหน้าด้านข้างของ
ลูเซียนด้วยแววตาเป็นประกาย
“นายเท่จัง”
เอี๊ยด!
“ขอโทษครับ! เจ็บตรงไหนไหมครับคุณซีลีน ผม…ผม…”
“ไม่เป็นไร นายเขินแล้วตลกดีนะ” ซีลีนแสร้งขำทั้งที่เมื่อกี๊หัวของเขาโขกกับกระจกรถไปเต็ม ๆ
ก็ไอ้บ้าแว่นนี่มันเขินจนขับรถต่อไม่ได้ ทั้งยังเบรกเอี๊ยดไปกับพื้นถนนจนเขาหน้าทิ่มไปเลยน่ะสิ
“แต่ผมได้ยินเสียงหัวคุณโขกกับประตู ขอผมดูหน่อยนะครับ!”
ยังไม่ทันที่ซีลีนจะได้อนุญาต ลูเซียนก็โน้มใบหน้าลงมาหาด้วยความลืมตัว จากนั้นจึงยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาเลิกผมหน้าม้าของคนตัวเล็กขึ้นไป นัยน์ตาสีน้ำตาลออกดำภายใต้กรอบแว่นสำรวจหารอยช้ำก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกที่คนสวยไม่เป็นอะไรจริง ๆ
“เป็นห่วงเราเหรอ”
“ใช่ครับ ผม…!”
คำพูดของลูเซียนถูกกลืนลงคอเมื่อเขาเพิ่งจะรู้ตัวว่าอยู่ใกล้กับซีลีนมากกว่าที่คิด ดวงหน้าหวานยั่วเย้าเกินต้านทาน ลูเซียนกลืนน้ำลายดังเอื้อกเมื่อมองตามริมฝีปากบางที่กำลังขยับพูด
ด้วยระยะใกล้เพียงนี้ ดวงตาสีเทาเป็นประกายของซีลีนช่างน่าค้นหาและงดงามจนน่าพิศวง
“ขอโทษนะครับ ผมแค่กลัวคุณเจ็บ”
ลูเซียนหลุบตาลง ในแววตาดูเศร้าจนหงอยลงไป ซีลีนอดเอ็นดูของขวัญชิ้นนี้ไม่ได้ มือบางเอื้อมไปจับมือหนาให้ยกขึ้นมาแตะที่หน้าผากของเขาอีกครั้ง
“นายไม่ได้ผิดสักหน่อย เราไม่เจ็บแล้ว จิ้มดูสิ”
ลูเซียนไม่กล้าแม้แต่จะจิ้มลงไปบนผิวเนียน เขาใช้นิ้วลูบเบา ๆ จนซีลีน อดแปลกใจไม่ได้
ทำไมต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นกัน
อืม เป็นพวกอ่อนไหวง่ายอย่างนั้นเหรอ
“ขับรถได้แล้ว เร็วเข้า”
ซีลีนร้องบอกเสียงอ่อน ก่อนที่ลูเซียนจะรู้ตัวว่าความใกล้ชิดนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ร่างสูงหันกลับไปนั่งที่เดิมแล้วตั้งใจขับรถต่อ
“เอ่อ จะเป็นอะไรไหมครับ ถ้าผมขอแวะที่หนึ่งก่อนไปส่งคุณ”
“ที่ไหนเหรอ”
“โบสถ์ข้าง ๆ แคมปัสน่ะครับ”
“โบสถ์?” ร่างเล็กขมวดคิ้วมุ่น
“พอดีผมมาสวดภาวนาที่นี่ทุกวันศุกร์น่ะครับ แล้ววันนี้ก็วันศุกร์พอดี แต่ถ้าคุณซีลีนไม่สะดวก ผมจะไปส่งคุณก่อน…”
“เอาสิ” ซีลีนไม่ปฏิเสธ อีกทั้งยังระบายยิ้มกว้างออกไป “เราจะไปกับนายด้วย”
เพราะถูกสร้างมาจากพระเจ้า ก็เลยต้องไปที่นั่นเหมือนคนโง่งมสินะ
จะว่าไป เขาเองก็ไม่ได้ไปสถานที่ของพระเจ้านานมากแล้วเช่นกัน ฉะนั้น วันนี้เราจึงอยากจะให้ท่านได้เห็นว่าเราตามหาของขวัญที่ท่านตั้งใจสรรค์สร้างเจอแล้วจริง ๆ
ใช้เวลาไม่นาน รถยนต์คันหรูก็มาจอดหน้าโบสถ์หลังใหญ่ มันเป็นโบสถ์แห่งเดียวที่อยู่ในย่านนี้ สีขาวสะดุดตาทั้งหลัง ต้องแสงอาทิตย์ดูเรืองรองราวกับอยู่บนสวรรค์
“เข้าไปด้วยกันไหมครับ” ลูเซียนเอ่ยถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไร แต่ซีลีนกลับพยักหน้าตกลง นั่นจึงทำให้เขาเบาใจลงไปได้
นัยน์ตาของปีศาจร้ายมองผ่านประตูโบสถ์เข้าไป เห็นทั้งรูปปั้นและภาพวาดอันศักดิ์สิทธิ์
และในขณะที่กำลังจะก้าวขาผ่านประตูเข้าไปนั้น
“โอ๊ย!”
“เป็นอะไรไปครับคุณซีลีน”
ซีลีนรีบถอยห่างจากลูเซียนที่หันกลับประคองเขาเอาไว้ ใบหน้าเล็กส่ายไปมาก่อนจะซ่อนฝ่ามือที่ถูกแสงบริสุทธิ์จากพระเจ้าแผดเผาจนเผยให้เห็นผิวหนังดำเกรียมของร่างเดิมไว้ด้านหลัง
“นายไปเถอะ เราจะรออยู่ตรงนี้”
“ผมจะรีบออกมานะครับ”
ตอนแรกลูเซียนไม่แน่ใจว่าซีลีนปกติดีจริง ๆ แต่พอได้เห็นคนตัวเล็กส่งยิ้มมาให้ เขาก็วางใจและหันหลังกลับเข้าโบสถ์ไป
ฝ่ามือที่ถูกแสงศักดิ์สิทธิ์แผดเผาเมื่อครู่นี้ค่อย ๆ กลับมาเป็นผิวหนังของมนุษย์อีกครั้ง ซีลีนข่มความโกรธไว้ข้างในใจ นัยน์ตาแดงก่ำจ้องมองผ่านประตูโบสถ์เข้าไปอีกครั้ง
ทั้งที่เขามีกายเนื้อของมนุษย์แล้ว แต่พระเจ้าก็ยังไม่ต้อนรับอีกงั้นเหรอ
เหอะ ลำเอียง ช่างแสนลำเอียงจริง ๆ
“เราก็ไม่ได้อยากเข้าไปในที่ของท่านนักหรอก”
ริมฝีปากแค่นยิ้ม ดวงตาเย็นเยียบจนแข็งกระด้าง
“หากจะโกรธ ก็โกรธที่ท่านปล่อยของขวัญของตนเองให้ออกมาเดินเพ่นพ่านจนมาพบเราเถิด และอย่าหวังว่าเราจะคืนเขาให้กับท่าน ไม่มีวันเสียหรอก”
นั่นเพราะความหวังของผู้ที่ร้องขอต่อท่านคงเป็นเพียงเรื่องราวอันแสนสนุกบนสรวงสวรรค์ และในเมื่อเราเป็นผู้ชนะในการละเล่นครั้งนี้ของท่านแล้ว เราจะไม่แอบอยู่ในมุมมืดและหวั่นเกรงต่อท่านอีกต่อไป
สักวันหนึ่ง ความเป็นปีศาจของเราต้องดับสูญ และเราจะเข้าไปเหยียบในสถานที่ของท่านด้วยความเย่อหยิ่งให้จงได้
เราสาบาน
“สบายดีใช่ไหมล่ะลูเซียน”
ร่างบอบบางที่นั่งรออยู่ที่ม้านั่งด้านนอกหันไปมองเมื่อได้ยินบทสนทนาดังขึ้นที่หน้าประตูโบสถ์ เป็นลูเซียนที่เดินออกมา ก่อนที่เขาจะหยุดคุยกับบาทหลวงผู้หนึ่งที่เดินสวนกัน
ฟังจากบทสนทนานี้ ลูเซียนคงจะเป็นผู้รับใช้ที่ดีของท่านจริง ๆ มาบ่อยเสียจนสนิทสนมกับบาทหลวงผู้ดูแลโบสถ์แห่งนี้ไปเสียแล้ว
“ลูกสบายดีครับ คุณพ่อหายป่วยแล้วใช่ไหมครับ” ใบหน้าคมใต้กรอบแว่นดูมีความกังวลจนซีลีนรู้สึกได้
“หายแล้วล่ะลูก นี่เข้าไปสวดภาวนาแล้วอย่างนั้นหรือ”
“ครับคุณพ่อ กำลังจะกลับแล้วน่ะครับ”
“ถ้าเช่นนั้นพ่อขอให้พระเจ้าคุ้มครองลูกอยู่เสมอ”
“ขอบคุณครับ”
ลูเซียนยิ้มแล้วโค้งตัวให้บาทหลวงที่เดินผ่านเข้าไปด้านใน ซีลีนกลอกตาไปมาอย่างนึกหงุดหงิดใจ เมื่อไรจะเดินมาถึงรถกันนะ แล้วนั่น ยังจะมีหมาที่ไหนวิ่งรุดเข้าไปพันแข้งพันขาลูเซียนด้วยความออดอ้อนอีก
“เจ้ากูส” ลูเซียนร้องเรียกมันด้วยน้ำเสียงสดใส ซีลีนถึงกับเบ้ปาก อืม ชื่อดูโง่ดีจริง ๆ “มาหาอะไรกินแถวนี้อีกแล้วล่ะสิ”
ปีศาจแสนสวยลุกขึ้นจากม้านั่ง เขายืนกอดอกมองภาพที่เจ้าหมาตัวโตในร่างคนกำลังลูบหัวเจ้าหมาสีดำตัวเล็กเล่น นั่นดูไม่เห็นจะต่างกันตรงไหน
ไอ้เจ้าหมาสีดำตัวนั้นก็ช่างน่ารำคาญเสียจริง มายุ่งวุ่นวายกับของขวัญของเราอยู่ได้!
“นี่เราน่าสนใจน้อยกว่าหมาแล้วเหรอ” ซีลีนเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าลูเซียน ชายหนุ่มตัวสูงลนลานรีบวางเจ้าหมาสีดำลงกับพื้น เจ้าตัวเล็กแลบลิ้นหอบคล้ายกับจะออดอ้อนอีกครั้งแต่เมื่อหันมาเจอสายตาดุดันจากใครอีกคนก็ร้องหงิงแล้วนั่งเรียบร้อยในทันที
ลูเซียนลูบหัวมันอีกครั้ง กระซิบบอกกับมันเบา ๆ
“อย่าทำตัวเป็นปัญหาตอนอยู่ที่โบสถ์ล่ะ ไปได้แล้ว” หลังจากประโยคของลูเซียนจบลง ราวกับว่ามันฟังคำพูดของเขาออก ถึงได้หันหลังรีบวิ่งหางจุกตูดไปไกล
ลูเซียนหันมายิ้มแหยแล้วยกมือลูบหลังคอตนเอง แม้บนใบหน้าหวานล้ำของซีลีนจะมีรอยยิ้ม และคำพูดดูทีเล่นทีจริง แต่แววตากลับไม่ใช่แบบนั้นเลย
เขาดันทำตัวน่าหงุดหงิดต่อหน้าคนที่แอบชอบมานานเสียได้
ใช่ ลูเซียนน่ะแอบชอบซีลีนมานานแล้ว แม้จะเคยเห็นจากที่ไกล ๆ แต่นั่นเป็นครั้งแรกที่หัวใจของเขาเต้นแรงมากขนาดนี้ ไม่เคยมีใครรู้ว่าเขาชอบซีลีน นั่นเพราะไม่มีใครสนใจเขา แต่มันก็ดีแล้ว เพียงแค่ได้แอบชอบ ไม่ได้หวังว่าจะได้ความรักจากซีลีนผู้สูงส่งเลยสักนิดเดียว
และถึงแม้ใจจะไม่ได้ใฝ่หา หากแต่สุดท้ายก็มีเหตุให้ได้ใกล้ชิดกัน เหมือนอย่างในตอนนี้ ซีลีนยืนอยู่ตรงหน้าเขา และมันก็ไม่ได้ห่างไกลจนเกินเอื้อมอีกต่อไป
“ขอโทษครับ พอดีมันเป็นหมาที่อยู่ที่นี่น่ะครับ ผมมาเล่นกับมันบ่อย ๆ” เมื่อได้ยินน้ำเสียงหงอย ๆ ของคนตัวสูง ร่างบางก็ถอนหายใจออกมาโดยที่อีกคนไม่ทันได้สังเกต
ซื่อบื้อจริง ๆ เลย
“เราล้อเล่น แต่ว่าลูเซียนสนใจหมามากกว่าเราจริง ๆ ด้วยสิ” แต่แล้วก็อดที่จะเอ่ยหยอกเย้าไปอีกครั้งไม่ได้
“เปล่านะครับ ผมก็แค่…”
ซีลีนเลิกคิ้วขึ้นคล้ายกับรอฟัง ก่อนที่เจ้าของร่างสูงจะหันหน้าหลบสายตาไปอีกทางแล้วยกมือขึ้นมาถูจมูกตนเองเบา ๆ ด้วยใบหน้าแดงก่ำ
“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงล่ะครับ ผมก็ต้องสนใจคุณซีลีนมากกว่าอยู่แล้ว”
ลูเซียนทิ้งหางเสียงเบาบางจนคล้ายเสียงกระซิบแล้วก้มหน้าลงราวกับทำตัวไม่ถูก ซีลีนหัวเราะออกมาเสียงหวาน นี่เหมือนว่าเขากำลังกลั่นแกล้ง
ลูเซียนอยู่หรือเปล่านะ
“เราเข้าใจแล้ว”
เสียงหัวเราะที่มาพร้อมกับรอยยิ้มทำให้ลูเซียนติดอยู่ในภวังค์อย่างเลี่ยงไม่ได้
“เราเองก็สนใจลูเซียนเหมือนกันนะ”
สายลมพัดมาวูบหนึ่ง เส้นผมยาวรุงรังที่ปรกใบหน้าของลูเซียนปลิวไสว เผยให้เห็นใบหน้าคมที่แดงระเรื่อ และนัยน์ตาที่เบิกกว้างด้วยความตกใจกับคำพูดของคนตรงหน้า
รอยยิ้มของซีลีนยังคงงดงามทุกครั้งที่ได้จ้องมอง ร่างบางกระหยิ่มยิ้มย่องในใจเพราะทุกอย่างง่ายดายกว่าที่คิด แต่ในจังหวะนั้นเอง ปลายหางตาคนสวยกลับเลื่อนไปเห็นเหล่าปีศาจตนอื่นมากมายที่กำลังจ้องมองพวกเขาอยู่
ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าพวกมันตามพลังบริสุทธิ์ของลูเซียนมา และปีศาจพวกนั้นก็จ้องจะแย่งของขวัญชิ้นนี้ไปจากเขา
ให้ตายสิ มีเยอะขนาดนี้เลยหรือไงนะ แล้วที่ผ่านมาลูเซียนรอดพ้นสายตาพวกมันมาได้ยังไงกัน
ตรงนี้ไม่ปลอดภัยสำหรับลูเซียนอีกต่อไปแล้ว และสิ่งเดียวที่จะทำให้ปีศาจตนอื่นไม่อาจแย่งลูเซียนไปได้คือ ตีตราจองด้วยพลังของเขาเอง
ไม่ทันให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว ซีลีนยื่นมือไปจับมือหนาของคนตัวสูงเอาไว้แล้วประสานนิ้วกันแน่น
“ไปกันเถอะ รีบไปส่งเราได้แล้ว ใกล้มืดแล้วนะ”
ลูเซียนกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความงุนงง ไออุ่นที่แผ่ซ่านออกมาจากฝ่ามือของซีลีนมันอุ่นร้อนอย่างแปลกประหลาดและเหมือนว่าไออุ่นนั้นกำลังไหลเข้ามาที่ฝ่ามือของเขา แต่เพียงแค่เสี้ยววินาทีมันก็จางไป ทิ้งไว้เพียงความอบอุ่นที่แสนหอมหวาน
“เดี๋ยวก่อนครับคุณซีลีน” และในขณะที่ซีลีนกำลังจะดึงอีกฝ่ายให้เดินไปพร้อมกันก็ถูกยื้อเอาไว้เสียก่อน
ใบหน้าหวานหันมาหาด้วยความสงสัย ลูเซียนยกมืออีกข้างที่ไม่ได้ถูกกอบกุมขึ้นมาเกาแก้มเบา ๆ อย่างเก้อเขิน
“วันนี้…ขอบคุณที่ช่วยผมนะครับ ถ้าคุณไม่มาช่วย ผมคงไม่มีวันที่จะได้คุยกับคุณ…”
“นายพูดว่าอะไรนะ” ซีลีนถามซ้ำเมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายของ
ลูเซียนไม่ชัดเจนนัก
“เปล่าครับ แค่อยากจะขอบคุณที่ช่วยผมไว้ ทั้งที่เราไม่รู้จักกันน่ะครับ”
ดวงตาเรียวคู่สวยฉายแววขบขัน มือบางกระชับมือหนาแน่นขึ้นแล้วรั้งให้อีกฝ่ายเข้ามาใกล้ชิดจนใบหน้าห่างกันไม่ถึงคืบ
“ตอนนี้เราก็รู้จักกันแล้วไง และนายก็จะต้องตอบแทนที่ฉันช่วยไว้ด้วยนะ”
“ตะ…ตอบแทน? ตอบแทนอะไรเหรอครับ” ริมฝีปากของปีศาจแสนงดงามขยับตอบเชื่องช้า ปลายนิ้วเรียวลากไปตามแผงอกกว้าง
“ไม่รู้สิ คงเป็นนายล่ะมั้ง”
“ครับ?”
เฮ้อ ของขวัญของเขาช่างไร้เดียงสาเสียจริง
“ไว้เราจะบอกนายวันหลัง”
ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดที่ข้างแก้มของลูเซียนแผ่วเบาจนหัวใจสั่นไหว
“นายก็…ช่วยอยู่ข้าง ๆ เราจนถึงวันนั้นด้วยนะ”