ตัวเราคือ 'ปีศาจร้าย' ที่ถูกพระเจ้าทอดทิ้ง หวังเพียงจะมีชีวิตบนโลกดำมืด ทางเดียวคือล่อลวง 'ของขวัญอันแสนบริสุทธิ์ของพระเจ้า' ให้แปดเปื้อน และดำดิ่งสู่ห้วงนรกจวบจนชั่วนิรันดร์

(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล - - 04 โดย ssin_sz @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ดราม่า,ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,ตะวันตก,โรแมนติกแฟนตาซี,โรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ดราม่า,ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,ตะวันตก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

โรแมนติกแฟนตาซี,โรแมนติก

รายละเอียด

(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล โดย ssin_sz @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ตัวเราคือ 'ปีศาจร้าย' ที่ถูกพระเจ้าทอดทิ้ง หวังเพียงจะมีชีวิตบนโลกดำมืด ทางเดียวคือล่อลวง 'ของขวัญอันแสนบริสุทธิ์ของพระเจ้า' ให้แปดเปื้อน และดำดิ่งสู่ห้วงนรกจวบจนชั่วนิรันดร์

ผู้แต่ง

ssin_sz

เรื่องย่อ

 (Lucien x Cyrene)

 

คุณเคยร้องขออะไรกับพระเจ้าหรือเปล่า? 

แล้วคุณเชื่อในพระเจ้ามากแค่ไหนกัน?

สำหรับปีศาจร้ายอย่าง ซีลีน นั้น ได้สูญเสียศรัทธาที่มีต่อพระเจ้าไปนานแล้ว

หากแต่ว่าวันหนึ่งพระองค์กลับได้มอบหนทางในการเป็นมนุษย์ให้กับเหล่าปีศาจทั้งหลาย

ลูเซียน เพื่อนร่วมคลาสคนใหม่ หนุ่มแว่นแสนเนิร์ดหลังห้องคนนั้นคือ ของขวัญที่พระเจ้าสร้างขึ้นจากแสงสว่างบริสุทธิ์ และทางเดียวที่จะได้รับพลังนั่นมาคือ การสมสู่ในกามารมณ์ กับมนุษย์ผู้นั้นด้วยความรัก

"คุณซีลีน..."

"ทำให้เราพอใจสิลูเซียน แล้วเราจะให้อภัยนายทั้งคืนเลยล่ะ"

เราตามหาของขวัญชิ้นนี้มาทั้งชีวิต เมื่อได้พบแล้วก็อย่าหวังว่าจะมีใครมาแย่งไปได้ 

เพราะแม้แต่พระเจ้าผู้สูงส่ง เราก็จะไม่คืนเขาให้เด็ดขาด

เราสาบาน

 

 

เปิดเรื่อง : 19 เมษายน 2566

จบบริบูรณ์ : 12 มิถุนายน 2566

 

คำเตือน

นิยายเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้เขียน เหมาะกับผู้อ่านอายุ 18 ปีขึ้นไป อาจมีเหตุการณ์ไม่เหมาะสมที่ตัวละครในเรื่องได้กระทำ มีการบรรยายถึงความเชื่อศาสนา โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

หากไม่ชอบสามารถกดออกได้เลยค่ะ รบกวนไม่คอมเมนท์บั่นทอนจิตใจนักเขียนนะคะ ขอบคุณค่ะ

 

— Trigger Warning —

Dirty talk, Blood, Depiction of sex scene, Demon, Submission, Supernatural

 

— Twitter —

https://twitter.com/ssinszxx

— Page —

https://www.facebook.com/profile.php?id=61566029091647

 

สารบัญ

(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 01,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 02,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 03,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 04,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 05,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 06,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 07,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 08,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 09,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 10,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 📍E-Book มาแล้วค่ะ!!,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 11,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 12,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 13,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 14,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 15,(E-Book) Black Wings — #ใต้ปีกรัตติกาล-- 16

เนื้อหา

- 04

04

เปลือกตาของคนที่กำลังหลับอยู่บนเตียงกระตุกสั่น เช่นเดียวกับร่างกายที่สั่นสะท้าน เสียงสวบสาบของผ้าปูที่นอนกับความรู้สึกชื้นแฉะจากส่วนล่างทำให้ลูเซียนต้องลืมตาขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้

ขณะที่สายตากำลังปรับโฟกัสให้คุ้นชินกับความมืดตรงหน้าและขยับตัวลุกขึ้น ฝ่ามือของใครบางคนก็ผลักเขาให้นอนลงไปกับเตียงอีกครั้งโดยไม่ทันตั้งตัว

“ใคร…” 

ในตอนนั้นเองลูเซียนถึงได้รู้ว่ากางเกงนอนของตนถูกร่นลงไปจนแก่นกายแข็งขืนโผล่ออกมาสัมผัสกับอากาศ ท่อนลำปวดหนึบและส่วนปลายก็เปียกเยิ้มด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน

เสียงทุ้มหายลงไปในลำคอ คนแปลกหน้าที่อยู่บนเตียงเดียวกันขึ้นคร่อมทับสะโพกสอบเอาไว้ มือหนาเอื้อมไปด้านหน้าหมายจะผลักออกแต่กลับต้องชะงักเมื่ออีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มยั่วเย้า

“คุณซีลีน…” 

ซีลีนระบายยิ้มตาเป็นประกายวาววาม แล้วบดเบียดสะโพกของตนลงไปกับหน้าขาของคนตัวสูง คนตัวเล็กสวมเพียงเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งและกางเกงชั้นในแบบบาง นั่นจึงทำให้แก้มก้นกลมกลึงใกล้ชิดกับแท่งเนื้อขนาดใหญ่จนแทบไม่มีช่องว่าง

“เราเองลูเซียน” 

น้ำเสียงหวานซึ้งที่เอ่ยออกมาราวกับยาเสน่ห์ชั้นดีที่ทำให้ลูเซียนไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไป ปลายนิ้วเรียวของมือข้างหนึ่งลากไปตามหน้าท้องแกร่ง ส่วนอีกข้างก็เอื้อมมาแหวกบั้นท้ายของตนเองแล้วบดขยี้รูฉ่ำแฉะลงไปกับท่อนลำร้อนผ่านกางเกงชั้นในตัวบาง

ใบหน้าคมเหยเกด้วยความเสียดเสียว ซีลีนส่ายร่อนสะโพกบดคลึงเข้าหาความแข็งขืนอย่างร้อนร่าน

“ซี้ด ฮ่า คุณ…คุณซีลีนครับ”  ร่างสูงสูดปากเสียงสั่นเครือ เขาแอ่นกายสวนกระแทกขึ้นไปจนส่วนปลายเกือบมุดเข้าไปในรูจีบแสนสวย

“อ๊ะ ลูเซียน” 

ความนุ่มหยุ่นและความเสียวซ่านจากรูรักที่กระตุกตอดรัดเพียงเสี้ยววินาทีทำให้หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ

คนที่อยู่ด้านบนหัวเราะคิกคักอย่างซุกซนแล้วจึงเขยิบกายถอยลงไปเล็กน้อย ก่อนจะยกขาขึ้นมาตั้งฉากกับเตียง จากนั้นจึงอ้าออกกว้าง เผยให้เห็นรูจีบสีสดที่เต้นตุบตอดรัดอากาศราวกับต้องการบางสิ่งเข้าไปเติมเต็ม

“อยากเข้ามาข้างในรูของเราเหรอ” 

ลูเซียนกลืนน้ำลายดังเอื้อก ความผิดชอบชั่วดีเหมือนจะหายวับไปกับตาเมื่อเห็นร่างนวลเนียนเปิดเปลือยอยู่ตรงหน้า

นิ้วเล็ก ๆ ของซีลีนแหวกบั้นท้ายออกมากกว่าเดิม โพรงสีสวยขมิบเร้าชัดเจนมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับขาเรียวที่แหกออกกว้าง เผยให้เห็นทุกสัดส่วนที่น่าลิ้มลอง

ใบหน้าคมแดงซ่านเมื่อเห็นท่าทางแสนลามกเร้าอารมณ์ของร่างบาง นิ้วสากของคนตัวใหญ่กว่าเอื้อมมือไปแตะที่รูรักช้า ๆ ราวกับต้องมนตร์

“อ๊า ฮ่ะ” 

ลูเซียนบดขยี้ปลายนิ้วรัวเร็ว จากเบากลายเป็นหนักขึ้นเมื่อเสียงร้องครวญครางของซีลีนดังก้องในโสตประสาท ริมฝีปากบางหวีดร้อง ต้นขาอวบแน่นอ้าออกส่ายร่อนบนตัวของลูเซียน รูเล็กขมิบตอดรัดปลายนิ้วใหญ่ราวกับว่าเป็นท่อนลำอันเขื่องที่ตั้งตรงอยู่ตรงหน้า

“พะ…พอก่อน อ๊า” 

มือบางเอื้อมมาจับข้อมือของลูเซียนให้หยุด ปลายนิ้วสากที่เผลอสอดเข้าไปด้านในรูจีบถูกดึงออกมาอย่างอ้อยอิ่งจนช่องทางวูบโหวง แข้งขาสั่นไหวคล้ายกับอยู่บนลู่วิ่งมานานนับชั่วโมง

ใบหน้าหวานชื้นเหงื่อโน้มลงมาใกล้ แล้วจึงกดจูบลงไปบนริมฝีปากหยักอย่างดูดดื่ม เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดกันพัลวัน สะโพกสวยยังคงทำหน้าที่ได้ดีตลอดเวลา ซีลีนแลบลิ้นเลียกลีบปากของคนด้านล่างก่อนขบกัดแล้วถอยร่นลงมาเรื่อย ๆ

จนกระทั่งริมฝีปากสีสวยหยุดอยู่ตรงหน้าแก่นกายที่กระตุกสั่น ไม่ทันที่ลูเซียนจะได้ตั้งตัว ร่างบางก็ครอบครองความแข็งขืนด้วยโพรงปากอุ่นร้อนทันที

เกลียวลิ้นตวัดเลียถี่ระรัว เริ่มตั้งแต่ส่วนหัวป้านฉ่ำเยิ้ม ขบเม้มและดูดดึงลงมาจนถึงส่วนโคน แก่นกายใหญ่เปียกแฉะยิ่งกว่าเดิม ริมฝีปากบางรูดรั้งด้วยจังหวะที่รวดเร็วขึ้นแล้วผละออกมาซบพวงแก้มกับท่อนลำอย่างปรารถนา

เช่นเดียวกับสองมือเล็กที่ทำหน้าที่ชักรูดไปพร้อมกัน ร่างเล็กปรนเปรออย่างช่ำชองเสียจนใบหน้าคมบิดเบี้ยวด้วยความหื่นกระหาย

ซีลีนผงกหัวขึ้นลงตามความยาว เผยอกลีบปากอมลึกจนคับปาก ก่อนจะแลบเลียลูกกลมด้านใต้ทั้งสองราวกับของหวานแสนอร่อย ลูเซียนหอบครางด้วยความวาบหวาม เผลอกระแทกสวนขึ้นไปจนคนตัวเล็กร้องประท้วง

“อ่า ผมเสียว ซี้ด คุณซีลีนอย่าดูดแบบนั้นครับ” 

แม้เสียงทุ้มจะเอ่ยบอกเช่นนั้น แต่อย่างไรซีลีนก็เป็นปีศาจจอมดื้อดึงอยู่วันยังค่ำ ปลายหัวแดงก่ำถูกเอาใจด้วยลิ้นร้อนที่เลียย้ำ ๆ ตรงส่วนของรูเล็กด้านบน และในจังหวะสุดท้ายที่ร่างสูงกระแทกเข้ามาในโพรงปากอุ่น กายก็กระตุกเกร็งสั่นไหว ปลดปล่อยน้ำคาวออกมาเต็มใบหน้าสวยและริมฝีปากบางทันที

กริ๊ง! กริ๊ง!

แต่แล้วความฝันแสนหอมหวานก็มลายหายไปจนหมดสิ้นเมื่อเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นจนปวดหู ลูเซียนลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ ร่างสูงหอบหายใจถี่ระรัว ความรู้สึกซาบซ่านจากภาพในฝันยังคงติดตรึงในความรู้สึก

ก่อนที่เขาจะพบว่าส่วนอ่อนไหวกลางลำตัวในเช้านี้กลับแข็งขืนขึ้นมาจนปวดหนึบ

ลูเซียนขยี้ผมตนเองอย่างหัวเสีย นี่ก็วันที่สามแล้วที่เขาฝันลามกและตื่นขึ้นมาพร้อมกับความกระสันในยามเช้า

“เวรเอ๊ย” 

เขาสบถเสียงดัง ยกมือลูบใบหน้าแดงก่ำของตนด้วยความอับอายที่ดันคิดสกปรกกับคนที่ชอบเอาเสียได้ หากแต่สุดท้ายก็เลื่อนมือลงไปด้านล่าง 

ร่างสูงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ พลางสอดมือเข้าไปใต้กางเกงชั้นในที่เปียกแฉะแล้วรูดรั้งด้วยแรงอารมณ์

ร่างกายที่เกือบจะเปลือยเปล่าของซีลีนในฝันปรากฎขึ้นในความคิดอีกครั้ง สะโพกกลมกลึงที่น่าบีบขยำ ส่ายร่อนให้เห็นรูรักแสนหวานที่น่าลิ้มลอง

“อ่า คุณซีลีนครับ ฮ๊า” 

ราวกับว่าความฝันเกิดขึ้นจริง ลูเซียนถึงได้รู้สึกว่าฝ่ามือของตนยามที่ปรนเปรอช่างแตกต่างกับความรู้สึกตอนที่ได้กระแทกกระทั้นเข้าไปในริมฝีปากสีสวยเสียเหลือเกิน แต่ถึงกระนั้นก็ยังพอช่วยได้บ้าง

ร่างสูงคำรามต่ำในลำคอ ท่อนลำขยายเต็มฝ่ามือที่เร่งจังหวะรูดรั้งเร็วขึ้น ความเสียวกระสันแล่นปราดไปทั่วร่าง 

และในที่สุด ลูเซียนเสร็จสมออกมาจนล้นทะลัก พร้อมกับภาพของซีลีนที่ชัดเจนในความคิด

“อ่า ซี้ด” 

ฝ่ามือขยับชักขึ้นลงอีกครั้งคล้ายกับจะรีดน้ำกามออกมาให้หมด ทั้งความรู้สึกจากการเสร็จสมและความรู้สึกผิดต่อซีลีนผสมปนเปกันจนแยกไม่ออก เมื่อตั้งสติได้จึงจัดการทำความสะอาดตนเองและผ้าปูเตียงในทันที

ปัง! ปัง!

แต่ในขณะที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่นั้น เสียงทุบประตูจากด้านนอกก็ดังขึ้นหลายครั้งพร้อมกับเสียงโวยวายที่ดังตามมาติด ๆ และแน่นอนว่าลูเซียนจำเสียงนั้นได้ดี ดวงหน้าคมไร้กรอบแว่นเรียบเฉย หากแต่ดวงตาเต็มไปด้วยความหงุดหงิด

“ไอ้เวรตะไลนี่” 

หัวคิ้วขมวดเข้าหากัน เขาสบถพร้อมกับเดาะลิ้นครั้งหนึ่งอย่างไม่สบอารมณ์

จะเป็นใครได้อีก ถ้าไม่ใช่พี่ชายต่างพ่อสารเลวคนนั้น

ลูเซียนพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่ เขาปรับสีหน้าและอารมณ์อีกครั้งแม้ว่าเสียงทุบประตูกับเสียงก่นด่าจะยังไม่หยุดก็ตาม มือหนาเอื้อมไปหยิบแว่นตามาใส่ก่อนจะเดินไปยังหน้าประตูห้องแล้วจับลูกบิดเอาไว้

แกร็ก! 

ผลัวะ!

ชายหนุ่มล้มลงตามแรงหมัดของคนเป็นพี่ชาย เขาแค่นหัวเราะกับตนเองเสียงเบา

ให้ตายสิ วันนี้ก็ต้องเหนื่อยแต่เช้าอีกจนได้สินะ

 

*

 

หลังจากวันนั้นที่ลูเซียนมาส่งเขาที่หอพัก นี่ก็วันที่สามแล้วที่พวกเขาไม่ได้เจอกัน แน่นอนว่าซีลีนใช้พลังของตนเองนิด ๆ หน่อย ๆ กับร่างกายแสนบริสุทธิ์ของอีกฝ่าย และเขาก็เลือกที่จะไม่ไปให้ลูเซียนเห็นหน้าเอง

ยิ่งห่างกัน ก็ยิ่งทำให้เกิดความปรารถนาไม่ใช่หรือ

และแน่นอนว่าด้วยกลิ่นอายแสนเสน่ห์ของปีศาจอย่างเขาแล้ว แม้ว่าลูเซียนจะเคยเจอเขาได้เพียงครั้งเดียว อย่างไรก็ไม่มีทางที่จะลืมซีลีนผู้นี้ไปจากความทรงจำได้

ซีลีนมั่นใจว่าลูเซียนจะต้องโหยหา แม้ในโลกความเป็นจริงไม่อาจแสดงออก แต่ในโลกแห่งความฝันคงจะปลดปล่อยอารมณ์นั้นออกมาอย่างเร่าร้อนแน่นอน

“น่ารำคาญชะมัดเลย วันลงทะเบียนเรียนฉันน่าจะตื่นเช้ากว่านี้ จะได้ไม่ต้องลงเรียนวิชานี้กับเบเนดิกซ์อีก!” มาร์แชลโอดครวญถึงอาจารย์ประจำวิชานี้หลังจากที่พวกเขาเดินออกจากห้องเรียนมา

“ใครใช้ให้เธอหลับเพลินจนไม่ฟังเสียงนาฬิกาปลุกล่ะ” เจคหัวเราะเบา ๆ จนถูกมาร์แชลตีเข้าที่แขน

“แล้วนี่มองอะไรอยู่น่ะซีลีน” 

มาร์แชลเอ่ยถามเมื่อเห็นซีลีนกำลังจ้องตาเขม็งไปยังโถงทางเดินที่ว่างเปล่าตรงหน้า ซีลีนกะพริบตาเล็กน้อยก่อนจะปรับสายตาเป็นปกติ

จะให้บอกได้อย่างไรว่าเขาจ้องมองปีศาจที่กำลังอยู่เพ่นพ่านแถวนี้น่ะ ให้ตายสิ ถึงพวกมันจะเข้ามาไม่ได้เพราะพลังของเขาแต่พวกมันก็ตามกลิ่นอายบริสุทธิ์ของลูเซียนมาถึงที่นี่อยู่ดี

เห็นที เขาจะมัวชักช้าไม่ได้แล้ว

“เปล่า ไม่มีอะไร” ซีลีนตอบเพียงเท่านั้น สาบานได้เลยว่าถ้าตรงนี้ไม่มีใครอยู่ เขาจะตรงเข้าไปหักคอปีศาจชั้นต่ำพวกนั้นแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นตัวที่คลานอยู่บนพื้น หรือตัวห้อยหัวอยู่บนเพดานก็ตาม

“ซีลีน!”

ในระหว่างที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่ ชื่อของคนตัวเล็กก็ถูกใครบางคนเอ่ยเรียกเสียงดัง ซีลีนหันไปมองที่ต้นเสียงก่อนจะเห็นชายหนุ่มรุ่นพี่ที่คุ้นเคยกำลังโบกมือให้

“พี่เมลิก” 

รุ่นพี่ปีสี่สาขาปรัชญาหรือหัวหน้าชมรมถ่ายภาพของเขาเดินมาหยุดตรงหน้าพร้อมรอยยิ้มแสนสุภาพ เมลิกนั้นตัวสูง ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาไปเสียทุกส่วน ประกอบกับรอยยิ้มและเสียงนุ่มทุ้มใจเย็น รวมไปถึงโปรไฟล์ที่สมบูรณ์แบบไปเสียทุกด้าน ราวกับเจ้าชายเดินดินที่ไม่ว่าใครก็ต้องเหลียวหลังมอง

และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้คนหันมาสนใจทางนี้ ก็นั่นน่ะเมลิกกับซีลีนเชียวนะ ตัวท็อปของสาขาปรัชญาและสาขาวรรณกรรมกำลังยืนข้างกันอย่างไรล่ะ

“พี่เมลิกมีอะไรหรือเปล่าครับ” ซีลีนเอ่ยถามพลางขยับเว้นระยะห่างเล็กน้อย

เขาเบื่อข่าวลือที่มาพร้อมความวุ่นวายเต็มทน ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าสายตาที่เมลิกมองมาที่เขานั้นเป็นเช่นไร แต่กับมนุษย์ที่ไม่ว่าจะหน้าตาสมบูรณ์แบบแค่ไหนก็ไม่อาจมอบพลังให้เขาได้อยู่ดี

“เปล่าหรอกครับ พี่บังเอิญมาทำธุระที่ตึกนี้พอดี อีกอย่างช่วงนี้พี่ไม่เห็นซีลีนที่ชมรมนานแล้วด้วยก็เลยเข้ามาทักทาย แล้วนี่เพิ่งเรียนกันเสร็จเหรอ” 

มาร์แชลกับเจคพยักหน้าตอบกลับไป ทั้งสองคนไม่ค่อยสนิทกับเมลิกมากนัก เนื่องด้วยอยู่กันคนละชมรม

“ใช่ครับ เรากำลังจะกลับหอพอดี” ซีลีนตอบอย่างไม่ใส่ใจเท่าไรนัก นั่นเพราะสายตาได้เหลือบไปเห็นคนที่กำลังรอมาตลอดสามวันเข้าเสียก่อน ร่างสูงของลูเซียนเดินเก้ ๆ กัง ๆ ออกมาจากลิฟต์ มุมปากบางยกขึ้นด้วยความดีใจ

“ถ้าอย่างนั้นให้พี่ไปส่ง…” 

“ไม่เป็นไรดีกว่าครับ ขอบคุณนะครับพี่เมลิก” 

ยังไม่ทันที่เมลิกจะพูดจบประโยคดี เสียงใสก็เอ่ยปฏิเสธขึ้นมาเสียก่อน ซีลีนหันไปบอกลาเพื่อนทั้งสองคนแล้วตรงไปหาของขวัญของเขาทันที

เมลิกเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ดวงตาคมมองตามแผ่นหลังบางไปก่อนจะพบว่าซีลีนหยุดอยู่ตรงหน้าคนผู้หนึ่ง และกำลังมอบรอยยิ้มหวานล้ำให้กับคน ๆ นั้น

“นั่นมัน…” 

“พี่เมลิกรู้จักเด็กเนิร์ดคนนั้นด้วยเหรอครับ” เจคหันมาถามเมื่อได้ยินเมลิกพึมพำขึ้นมา วินาทีต่อมารุ่นพี่ตัวสูงก็ส่ายหน้าเป็นคำตอบ

“ไม่รู้จักหรอกครับ ใครเหรอครับ” 

“ลูเซียน ซานเชส ปีสามที่ย้ายสาขามาน่ะครับ” 

“อ่า พี่ก็พอจะได้ยินเรื่องนี้มาบ้าง” เมลิกตอบรับ เขาจ้องมองทั้งสองคนจากทางด้านหลังเป็นครั้งสุดท้ายแล้วหันหลังกลับ “พี่ขอตัวก่อนแล้วกันนะครับ” 

เมลิกบอกลารุ่นน้องทั้งสองคนก่อนจะเดินออกมาจากบริเวณนั้น และเพียงเสี้ยววินาทีที่เขากำลังจะเดินเข้าลิฟต์ไป พลันสายตาก็สบเข้ากับลูเซียน เด็กเนิร์ดที่ว่านั่นเข้าเสียก่อน

เด็กนั่นไม่ได้หลบตา เช่นเดียวกับที่เขาจ้องเขม็งจนประตูลิฟต์ปิดลง

เมลิกมั่นใจว่าเขามาก่อน และคราวนี้ไม่ว่ามันจะมาจากที่ไหนหรือเป็นใคร เขาก็จะไม่มีทางปล่อยให้ซีลีนหลุดมือไปได้เหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว

*

“ลูเซียน!”

หนุ่มแว่นที่กำลังเดินตัวลีบไปกับทางเดินสะดุ้งตัวโยน ก่อนจะรู้สึกได้ถึงมือของใครคนหนึ่งที่สะกิดเขาเอาไว้พร้อมกับเสียงเรียกด้วยความสดใส

“คุณซีลีน…” ดวงตาคมปลาบกะพริบปริบ ๆ เขาพึมพำเรียกชื่อของซีลีนที่ยืนยิ้มอยู่ข้างกาย

จู่ ๆ ใบหน้าก็เห่อร้อนขึ้นมาอีกครั้งเมื่อนึกไปถึงความฝันที่ผ่านมาในช่วงนี้ ลูเซียนอยากจะเขกหัวตัวเองสักร้อยรอบ ซีลีนสูงส่งถึงเพียงนั้น เขาช่างไม่เจียมตัวเอาเสียเลย ฝันลามกยังไม่พอ ตอนตื่นมาก็ยังจะช่วยตัวเองเพราะใบหน้าเย้ายวนนั่นอีก

ปีศาจตัวน้อยอมยิ้มกับตัวเองเมื่อเห็นริ้วสีแดงพาดไปตามแก้มทั้งสองข้างของคนตรงหน้า

ดีจริง ติดกับเขาจนได้ สงสัยในฝันจะเร่าร้อนน่าดู ถึงได้ลืมตัวทำหน้าเหมือนจะมีอารมณ์ขึ้นมากลางโถงทางเดินแบบนี้

ให้ตาย พวกเนิร์ดแบบนี้เนี่ย ทำไมดูเร้าอารมณ์เขาจังนะ

“ไม่ยอมมองหน้ากันอีกแล้ว” 

“คือ…เอ่อ…” 

ฟึ่บ!

มือบางเอื้อมขึ้นไปประคองแก้มทั้งสองของคนสูงกว่าเอาไว้แล้วดันให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขา แน่นอนว่านั่นเป็นการกระทำที่ทำให้ลูเซียนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ รวมถึงคน ๆ อื่นที่ผ่านไปมาตรงโถงทางเดินอีกด้วย

ก็แหงล่ะ ซีลีนไม่ใช่พวกที่จะถึงเนื้อถึงตัวใครก่อนแบบนี้เสียหน่อย ที่ผ่านมาคู่ควงต้องเป็นฝ่ายวิ่งตามและเว้นระยะห่างพอเหมาะในที่สาธารณะแบบนี้แท้ ๆ แต่กับไอ้แว่นนี่…

อ่า ดูเหมือนรสนิยมของซีลีนจะต่ำลงแล้วสินะ

“ต่อไปถ้าคุยกันแล้วไม่มองหน้าเราอีก เราจะโกรธนาย แล้วก็จะทำโทษนายด้วย” 

ลูเซียนกลืนน้ำลายคอดังเอื้อก เขาพยายามจะไม่มองริมฝีปากสีชมพูนั่น เพราะยิ่งมองก็ยิ่งนึกถึงตอนที่ท่อนลำอันเขื่องของตนเองถูกริมฝีปากนั้นครอบครองและดูดเลียด้วยความหฤหรรษ์จนเสร็จสม…

“นี่ ได้ยินที่เราพูดหรือเปล่า หรือถ้านายไม่ชอบที่เราเข้ามายุ่งวุ่นวาย งั้นเรา…” 

“ไม่ครับ! ไม่ใช่แบบนั้นนะครับคุณซีลีน!”

ในขณะที่ซีลีนแสร้งตัดพ้อเสียงอ่อนและกำลังจะดึงมือออกไป มือหนาก็คว้าเอาไว้แนบแน่นก่อนจะปฏิเสธด้วยความรวดเร็วจนซีลีนอดแปลกใจไม่ได้

และนั่นก็ทำให้ร่างเล็กหัวเราะออกมา

อืม จะรู้ตัวบ้างไหมนะว่าตอนนี้กำลังจับมือของเขาอยู่น่ะ แล้วดูท่าจะไม่ปล่อยง่าย ๆ เสียด้วยสิ

“ผมแค่…” 

ลูเซียนไม่รู้จะตอบอย่างไรดี จะตอบว่าที่ไม่มองหน้าเพราะกลัวจะมีอารมณ์ขึ้นมาก็ไม่ได้ มีหวังโดนเกลียดแหง ๆ เจ้าหมาตัวโตคิดไม่ตกก่อนที่เขาจะหันไปเห็นสายตาของคนอื่น ๆ ที่มองมาถึงได้รู้ตัวว่าต้องปล่อยมือของซีลีนได้แล้ว

“ผมแค่กลัวว่าถ้าคุณซีลีนมาคุยกับผมแล้วจะถูกมองไม่ดีน่ะครับ” 

“ใครจะมองเราไม่ดีเหรอ” ซีลีนเอียงคอถาม แต่น้ำเสียงกลับแข็งกระด้างราวกับเริ่มไม่พอใจที่เขาพูดแบบนั้น

“เอ่อ ก็คนอื่น…” 

“แล้วนายสนใจคนอื่นมากกว่าเราเหรอ” ปีศาจตัวน้อยยังคงถามต่อ

“เปล่านะครับ” ลูเซียนปฏิเสธพัลวัน 

“ก็แค่นั้น เราไม่ได้สนใจคนอื่นเสียหน่อย” ซีลีนไหวไหล่แล้วคลี่ยิ้มส่งมา  “ไม่ต้องสนใจคนอื่นแล้วสนใจแค่เรานะ” 

ลูเซียนตอบรับคำราวกับโดนมนตร์สะกด แล้วแบบนี้เขาจะปฏิเสธคนสวยลงได้อย่างไรกัน

“เอ๊ะ นี่นายมีแผลที่ปากนี่ แก้มตรงนี้ก็ช้ำด้วย” ซีลีนร้องถามเมื่อเห็นรอยช้ำบนใบหน้าของอีกคน ไหนจะรอยแผลที่มีเลือดแห้งกรังติดตรงมุมปากอีก

เจ้าหมาตัวโตนี่ไปฟัดกับหมาที่ไหนมาอีกเนี่ย

“อ่า คือ…พอดีเมื่อเช้าผมหกล้มน่ะครับ” 

“เราไม่ได้โง่นะ นี่โดนต่อยมาชัด ๆ เลย” ซีลีนใช้ปลายนิ้วลูบที่แผลของอีกคนเบา ๆ จนลูเซียนสะดุ้งเพราะใจสั่นไหว “พี่ชายนายอีกแล้วใช่ไหม” 

“ครับ” ลูเซียนตอบเสียงอ่อน เขาก้มหน้าราวกับสำนึกผิดทั้งที่ไม่รู้ว่าตนมีความผิดอะไรกันด้วยซ้ำ

ซีลีนมองสภาพที่ดูไม่ได้ของคนตรงหน้าก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ท่ามกลางสายตาของผู้คนที่ยังสนใจเรื่องของพวกเขา ปีศาจตัวเล็กก็คว้ามือหนาไว้แล้วรั้งให้เดินตามไปในทันที

“จะ…จะไปไหนเหรอครับคุณซีลีน” 

“เราจะพานายไปทำแผลก่อน ทำไมถึงได้มาเรียนโดยที่ไม่ทำแผลกันนะ” 

“คือมันใกล้จะเริ่มคลาสแล้ว ผมก็เลย…” 

“เงียบไปเลย ไม่ต้องพูดแล้ว” คราวนี้ซีลีนโมโหจริง ๆ ขาเรียวก้าวไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็วจนคนตัวสูงด้านหลังเกือบก้าวตามไม่ทัน

คนบ้าอะไรห่วงเรียนแต่กลับไม่ห่วงตัวเองเสียอย่างนั้น มีชีวิตรอดมาถึงทุกวันนี้ได้ไงกันเนี่ย

ลูเซียนเดินตามโดยไม่ปริปากถามสิ่งใดอีก ใบหน้าหวานที่ดูเหมือนจะโกรธขึ้นมาทำให้เขาสำนึกผิดมากกว่าเดิม แม้จะไม่เข้าใจเหตุผลที่ซีลีนลากเขามาทำแผลเช่นนี้ แต่สุดท้ายแล้วก็เดินตามอีกฝ่ายราวกับหมาที่ถูกเจ้าของจูงไปมา

ในที่สุดร่างเล็กก็พาเขาเข้ามาที่ห้อง ๆ หนึ่ง มันดูเหมือนห้องนั่งเล่นรวม และมีโต๊ะสำหรับประชุมกันที่กลางห้องด้วย

“ที่นี่ห้องชมรมเราเอง เป็นที่เดียวที่เรานึกออกว่ามีอุปกรณ์ทำแผล” 

“ที่จริงผมเป็นคนนอก ไม่ต้องพาผมเข้ามาที่นี่ก็ได้นะครับ” 

“หรือจะไปทำแผลที่ห้องเราล่ะ ที่ห้องเราก็มีอุปกรณ์ทำแผลเหมือนกัน” 

ลูเซียนหลบสายตาแสนแสน่ห์กับคำพูดแสนกำกวมนั่น ก่อนจะยืนตัวตรงทำตัวเรียบร้อยไม่พูดอะไรอีกต่อไป

“งั้นไปนั่งรอเราที่โซฟาแป๊บนึงนะ เราไปหยิบกล่องพยาบาลมาก่อน” 

ซีลีนปล่อยมือจากอีกฝ่าย และลูเซียนก็เดินไปนั่งรอที่โซฟาตามที่เขาบอก

เก่งมากที่รัก จงเชื่อฟังเราต่อไป อย่าได้ละสายตาไปจากเราเด็ดขาด

ปีศาจแสนสวยกระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจ เขาเหลือบมองใบหน้าคมซื่อบื้อของลูเซียนอีกครั้ง ก่อนที่จะปิดประตูห้องชมรมและลงกลอนในทันที