ปลอมตัวเพื่อลบตัวตนของดาราที่มีชื่อเสียงความใกล้ชิดที่เพิ่มขึ้นเมื่อธารตะวันและโรสเจอกันที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กกำพร้า โรสในคราบของหญิงสาวธรรมดาที่ชื่อ "ริน" ทำให้ธารตะวันไม่สามารถจำเธอได้ ทั้งสองคนเริ่มสนิทสนมกันจากการทำกิจกรรมร่วมกันกับเด็ก ๆ ธารตะวันถูกดึงดูดโดยความอ่อนโยนและความมุ่งมั่นของริน ขณะที่โรสรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและการสนับสนุนที่ธารตะวันมอบให้ ทั้งสองเริ่มมีความรู้สึกพิเศษต่อกันอย่างช้า ๆ โดยธารตะวันไม่รู้เลยว่า ริน ที่เขารู้จักจริง ๆ แล้วคือ โรส ดาราสาวที่โด่งดังความสัมพันธ์ของทั้งคู่เจริญขึ้นไปเรื่อย ๆ ผ่านความจริงใจและการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน จนกระทั่งความรู้สึกเริ่มเข้มข้นขึ้นเป็นความรัก
หญิง-หญิง,ดราม่า,รัก,ครอบครัว,GL,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ปลายทางรักปลอมตัวเพื่อลบตัวตนของดาราที่มีชื่อเสียงความใกล้ชิดที่เพิ่มขึ้นเมื่อธารตะวันและโรสเจอกันที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กกำพร้า โรสในคราบของหญิงสาวธรรมดาที่ชื่อ "ริน" ทำให้ธารตะวันไม่สามารถจำเธอได้ ทั้งสองคนเริ่มสนิทสนมกันจากการทำกิจกรรมร่วมกันกับเด็ก ๆ ธารตะวันถูกดึงดูดโดยความอ่อนโยนและความมุ่งมั่นของริน ขณะที่โรสรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและการสนับสนุนที่ธารตะวันมอบให้ ทั้งสองเริ่มมีความรู้สึกพิเศษต่อกันอย่างช้า ๆ โดยธารตะวันไม่รู้เลยว่า ริน ที่เขารู้จักจริง ๆ แล้วคือ โรส ดาราสาวที่โด่งดังความสัมพันธ์ของทั้งคู่เจริญขึ้นไปเรื่อย ๆ ผ่านความจริงใจและการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน จนกระทั่งความรู้สึกเริ่มเข้มข้นขึ้นเป็นความรัก
ตัดมาที่โรส หลังจากที่เธอไล่ธารตะวันไปด้วยคำพูดที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและฝืนใจ เธอก็ไม่สามารถจดจ่อกับการทำงานได้เหมือนเดิม ทุกครั้งที่เธอเข้าฉากหรือต้องทำงานที่เคยรัก มันกลับรู้สึกว่างเปล่า ไม่มีพลังในการทำเหมือนเคย ภาพของธารตะวันยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ เสียงของคนรักที่เคยอ่อนโยน แต่ตอนนี้กลายเป็นเพียงความเจ็บปวดที่เธอสร้างขึ้นเอง
การถ่ายทำในวันนี้ไม่ราบรื่น โรสแสดงไม่ได้ตามที่ทีมต้องการจนโปรดิวเซอร์เริ่มไม่พอใจ เขาตะโกนใส่เธอด้วยความโมโห
"โรส! นี่มันอะไรกัน? เธอทำได้ดีกว่านี้! เธอเป็นดารามืออาชีพไม่ใช่เหรอ? หรือจะต้องให้เราหาคนมาแทน!"
โรสยืนนิ่ง เธอรู้สึกเหมือนถูกตะโกนใส่เป็นพันครั้งแต่ไม่สามารถพูดอะไรกลับไปได้ น้ำเสียงนั้นกดดันเธอจนแทบหายใจไม่ออก เธอรู้ตัวว่ากำลังทำได้ไม่ดี และรู้ดีว่าสาเหตุมาจากการที่เธอไม่สามารถจัดการกับความรู้สึกที่มีต่อธารตะวันได้
หลังจากการถ่ายทำที่ไม่เป็นไปตามคาด ดา ผู้จัดการส่วนตัวของโรส ที่คอยดูแลเธอมาตลอดก็เดินเข้ามาหา โรสมองไปที่ดาด้วยสายตาเหนื่อยล้าและอ่อนแรง
"โรส มาคุยกันหน่อย" ดาบอกพร้อมกับพาเธอไปที่มุมเงียบ ๆ ของสตูดิโอ ดามองโรสด้วยสายตาที่จริงจังและหนักแน่น
"โรส เธอต้องตั้งสติหน่อยนะ ฉันเข้าใจว่าตอนนี้เธอมีปัญหาส่วนตัว แต่งานคืองาน ถ้าเธอปล่อยให้ความรู้สึกมากวนใจแบบนี้ เธอจะไม่สามารถทำงานได้ และฉันบอกตรง ๆ นะ ถ้าแม่เธอรู้ว่าเธอทำงานพลาดแบบนี้ เขาจะเข้ามายุ่งอีก และครั้งนี้ฉันช่วยเธอไม่ได้แล้ว"
โรสฟังคำพูดของดา เธอรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าด้วยความจริง แม้ว่าความรู้สึกที่มีต่อธารตะวันจะหนักหนา แต่เธอไม่สามารถปล่อยให้มันทำลายงานที่เธอรักได้ การเป็นดาราคืองานที่เธอทุ่มเททั้งชีวิต แต่ตอนนี้มันกำลังจะหลุดมือไปเพราะความอ่อนแอของเธอเอง
"ฉันรู้ว่ามันยากนะโรส แต่เธอเป็นมืออาชีพ ต้องแยกแยะให้ได้ ถ้าเธอไม่ทำงานให้เต็มที่ เธอจะไม่เหลืออะไรเลยนะ"
ดาพูดด้วยน้ำเสียงเข้มแข็ง แต่แฝงไปด้วยความห่วงใย โรสรู้ว่าดาหมายความอย่างนั้นจริง ๆ และเธอไม่สามารถปล่อยให้ตัวเองล้มเหลวได้ ไม่ใช่แค่เพราะงาน แต่เพราะถ้าเธอปล่อยให้ความรู้สึกครอบงำ ชีวิตของเธออาจจะพังทลายลงเรื่อย ๆ
โรสสูดหายใจลึกและตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า แต่ก็พยายามรวบรวมความเข้มแข็ง
"ดา... ฉันขอโทษ ฉันจะพยายาม ฉันไม่อยากทำให้ใครผิดหวัง และฉันรู้ว่าฉันต้องทำงานให้เต็มที่"
ดาพยักหน้าเบา ๆ "ดีแล้วโรส ฉันอยู่ข้างเธอเสมอ แต่อย่าลืมว่าเธอต้อง professional กับงานนี้ ถ้าเธอไม่อยากให้แม่ของเธอเข้ามาควบคุมทุกอย่าง เธอต้องแสดงให้เขาเห็นว่าเธอจัดการตัวเองได้"
โรสพยักหน้า ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความทุกข์ใจ แต่เธอก็รู้ดีว่าเธอต้องทำอย่างที่ดาบอก แม้ว่าในใจจะยังคงเจ็บปวดกับเรื่องของธารตะวัน แต่เธอต้องฝืนใจทำงานให้ได้ เพื่อที่จะปกป้องตัวเองและชีวิตที่เธอพยายามสร้างขึ้นมา
เมื่อโรสกลับมาถึงบ้าน ภายในบ้านก็เงียบเหงาเหมือนทุกครั้ง ไฟในบ้านสลัว ๆ ให้ความรู้สึกเย็นชาและว่างเปล่า โรสรู้สึกว่าแม่ของเธอน่าจะออกไปงานเลี้ยงนักธุรกิจตามปกติ เหมือนที่ทำมาตลอดตั้งแต่เธอยังเด็ก บ้านที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความอบอุ่น กลับกลายเป็นที่ที่เงียบสงัด มีเพียงความรู้สึกโดดเดี่ยวที่ยิ่งใหญ่เข้ามาแทนที่
โรสเดินผ่านห้องนั่งเล่นไปยังห้องของตัวเอง แต่ก่อนที่เธอจะเปิดประตูห้อง ความทรงจำเก่า ๆ ที่เธอพยายามซ่อนมาตลอดก็หวนกลับมา เธอนึกถึงวันที่พ่อและพี่สาวของเธอยังอยู่ ครอบครัวของเธอเคยสมบูรณ์แบบ พ่อของเธอเป็นคนอบอุ่น และพี่สาวของเธอเป็นนักแสดงที่กำลังจะเฉิดฉาย เป็นแรงบันดาลใจให้โรสก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงตามพี่สาว
แต่แล้ววันนั้นก็มาถึง… วันที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปตลอดกาล วันนั้นเป็นวันที่ครอบครัวของเธอไปฉลองความสำเร็จของพี่สาว แต่กลับเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ขึ้น พ่อและพี่สาวของเธอเสียชีวิตในทันที ส่วนโรสและแม่รอดมาได้โดยบาดเจ็บเล็กน้อย เหตุการณ์นั้นไม่เพียงแค่พรากคนที่เธอรักไป แต่ยังเปลี่ยนแม่ของเธอไปตลอดกาล
แม่ของโรสกลายเป็นคนที่แข็งกร้าวและเย็นชา นับจากวันที่เธอสูญเสียคนสำคัญไป แม่หันมาทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้โรสก้าวขึ้นมาแทนที่พี่สาวในวงการบันเทิง เธอเคร่งครัดและควบคุมชีวิตของโรสอย่างแน่นหนา โดยเฉพาะเมื่อมันเกี่ยวกับการทำงาน ไม่มีพื้นที่สำหรับความผิดพลาดหรือความอ่อนแอ แม่บอกเสมอว่าโรสต้องทำให้ได้ เพราะเธอเหลือเพียงแค่โรสคนเดียว
โรสยืนอยู่หน้าประตูห้อง มองบ้านที่เคยเป็นสวรรค์ของครอบครัว แต่ตอนนี้มันเหมือนเป็นคุกที่แม่ของเธอสร้างขึ้นมา ความเงียบงันในบ้านทำให้เธอยิ่งรู้สึกโดดเดี่ยวและว่างเปล่ามากขึ้น น้ำตาที่เธอพยายามเก็บซ่อนมาตลอดวันไหลลงมาเงียบ ๆ
“ฉันไม่เหลือใครแล้ว...” โรสพึมพำกับตัวเอง
เธอรู้ดีว่าแม่ยังอยู่ แต่ความรักและความอบอุ่นที่เคยมีระหว่างพวกเขาหายไปนานแล้ว ตอนนี้เธอเป็นเพียงเครื่องมือที่แม่ใช้เพื่อเติมเต็มความฝันที่ไม่สมบูรณ์ของตัวเอง และแม้เธอจะพยายามทำให้ดีที่สุด แต่ความเจ็บปวดที่อยู่ลึก ๆ ในใจทำให้เธอรู้สึกว่าชีวิตของเธอไม่มีทางเป็นอิสระได้
โรสนั่งลงบนเตียง มองออกไปยังหน้าต่างที่มีแสงไฟของเมืองใหญ่ส่องสว่าง แต่ในใจของเธอกลับมืดมน เธอไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไรต่อไป ระหว่างหน้าที่ที่แม่ของเธอกำหนดให้ หรือความรักที่เธอสูญเสียไปจากธารตะวัน
--
ไม่กี่วันต่อมา ธารตะวันก็ตัดสินใจติดต่อคุณต้น CEO แบรนด์แฟชั่นชื่อดัง เพื่อพูดคุยเรื่องข้อตกลงของโปรเจคซัมเมอร์ซีซั่นที่เธอกำลังวางแผนอยู่ ทางคุณต้นเองตอบรับอย่างรวดเร็วและยินดีที่จะได้ร่วมงานกับธารตะวัน แสดงออกถึงความตื่นเต้นในการทำงานครั้งนี้
"สวัสดีครับ คุณธารตะวัน" คุณต้นทักทายด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง เมื่อเขามาถึงที่ออฟฟิศของธารตะวัน พร้อมช่อดอกไม้เล็ก ๆ ในมือเป็นของขวัญ
"สวัสดีค่ะ คุณต้น ขอบคุณนะคะที่มาพบกันวันนี้" ธารตะวันตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม แม้ว่าภายในใจเธอจะยังมีความคิดเรื่องโรสวนเวียนอยู่บ้าง แต่โปรเจคนี้เป็นโอกาสที่เธอต้องคว้าไว้
หลังจากการทักทายและการพูดคุยเล็กน้อย ทั้งสองนั่งลงเพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดของโปรเจค
"ผมต้องบอกตรง ๆ ว่า ผมดีใจมากที่ได้ร่วมงานกับคุณ" คุณต้นพูดอย่างจริงใจ "การที่ได้ทำงานกับนักออกแบบที่มีฝีมืออย่างคุณ และแนวคิดที่คุณวางแผนไว้สำหรับคอลเลคชั่นซัมเมอร์ซีซั่นนี้ มันเป็นอะไรที่น่าสนใจและท้าทายมาก ผมเห็นถึงศักยภาพในการดึงดูดความสนใจของผู้คนได้อย่างแน่นอน"
ธารตะวันยิ้มเล็กน้อย รู้สึกโล่งใจที่คุณต้นตื่นเต้นและยอมรับแนวคิดของเธอ "ขอบคุณค่ะ ทางเราก็ยินดีที่ได้ร่วมงานกับคุณต้นเช่นกัน แนวคิดคอลเลคชั่นนี้ เราจะดึงเอาความสดใสของซัมเมอร์มาสื่อผ่านเสื้อผ้าที่เราดีไซน์ และการเชิญดารานางแบบชื่อดังมาร่วมเดินแฟชั่นโชว์นี้ จะเป็นไฮไลท์ที่ทำให้คอลเลคชั่นนี้โดดเด่นขึ้นไปอีก"
คุณต้นพยักหน้า "ใช่ครับ ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง การที่ดาราชื่อดังมาร่วมงาน จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจ และผมเชื่อว่ามันจะสร้างความสำเร็จได้อย่างแน่นอน"
ธารตะวันและคุณต้นพูดคุยกันอย่างราบรื่น ข้อตกลงต่าง ๆ ถูกวางแผนไว้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงบประมาณ การตลาด และการจัดงาน ทั้งสองฝ่ายมีความเข้าใจตรงกันและพร้อมที่จะเดินหน้าโปรเจคนี้อย่างเต็มที่
เมื่อการประชุมสิ้นสุดลง คุณต้นยืนขึ้นพร้อมจับมือกับธารตะวันด้วยความมั่นใจ "ผมตั้งตารอที่จะได้เห็นผลงานของคุณ และมั่นใจว่าเราจะทำให้โปรเจคนี้เป็นที่จดจำในวงการแฟชั่นอย่างแน่นอน"
"ฉันก็เช่นกันค่ะ คุณต้น ขอบคุณมากที่ให้ความร่วมมือและไว้วางใจ" ธารตะวันตอบกลับด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นทางการ
หลังจากที่คุณต้นเดินออกไป ธารตะวันมองออกไปนอกหน้าต่าง สายตาของเธอเต็มไปด้วยความตั้งใจ เธอรู้ว่าการร่วมมือกับคุณต้นครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญสำหรับเธอ แต่ขณะเดียวกัน เธอก็ไม่ลืมภารกิจหลักที่ตั้งใจจะช่วยโรสให้หลุดพ้นจากการควบคุมของแม่ เธอต้องทำงานนี้ให้สำเร็จ เพื่อที่สักวันหนึ่งเธอจะได้มีโอกาสนำโรสกลับมาสู่ชีวิตที่เป็นอิสระ