ระหว่าง “ผี” กับ “ปราญยศ” อะไรน่ากลัวกว่ากัน? ...ได้ยินมาว่า 'โชคอนันต์' ถูกคนทำเสน่ห์ใส่ล่ะ แถมคุณผู้จัดการหน้าดุก็ชอบทำตัวแปลก ๆ
ชาย-ชาย,รัก,ลึกลับ,อาชญากรรม,ดาร์ค,แซ่บ,นายเอกมึน,พระเอกโหด,พระเอกคลั่งรัก,พระเอกหล่อ,พระเอกหื่น,พระเอกรวย,พระเอกร้าย,พระเอกยันเดเระ,พระเอกขี้หึง,พระเอกขี้หวง,พระเอกครั่งรัก,โหด,รุนแรง,ระทึกขวัญ,20+,18+,อีโรติก,โรมานซ์,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ปราญอาถรรพ์ [END]ระหว่าง “ผี” กับ “ปราญยศ” อะไรน่ากลัวกว่ากัน? ...ได้ยินมาว่า 'โชคอนันต์' ถูกคนทำเสน่ห์ใส่ล่ะ แถมคุณผู้จัดการหน้าดุก็ชอบทำตัวแปลก ๆ
X เนื้อหารุนแรงมาก โปรดอ่านคำเตือนโดยละเอียด X
- ปราญอาถรรพ์ -
โชคอนันต์ผู้ที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายมาเกือบสามสิบปี จู่ ๆ ก็โดนผีตามรังควาน ถึงขั้นถูกทักว่า "โดนของ"
ชีวิตก็บัดซบพออยู่แล้วแท้ ๆ แต่ทำไมเดี๋ยวนี้ผู้จัดการฝ่ายอย่าง 'ปราญยศ' ที่โชคนั้นหลบเลี่ยงและเกรงกลัวนักหนา ถึงได้มาวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ สร้างความกดดันตลอดเวลา แถมยังล่วงรู้เรื่องที่โชคนั้นเห็นผีอีก ทว่าอีกฝ่ายกลับทำให้เหล่าผีร้ายพวกนั้นหลบเลี่ยงอย่างหวาดกลัว
หนทางแห่งแสงสว่างได้ปรากฏ ปราญยศจะทำให้โชคไม่ต้องเห็นผีอีกต่อไป โชคอนันต์ต้องยอมร้องขอความช่วยเหลือจากปราญยศ ผู้ซึ่งน่ากลัวกว่าผีเสียอีก!
"ผู้จัดการช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ" - โชคอนันต์
"ผมจะได้อะไร?"
"ตามที่ผู้จัดการต้องการครับ"
โชคมองรอยยิ้มมุมปากที่ไม่ทราบเหตุผลของปราญยศ...มันดูเจ้าเล่ห์หรือเปล่านะ?
--------------------------------
"...ผมจะไม่มาทำโอทีในวันพรุ่งนี้ครับ" - โชคอนันต์
"บอกเหตุผลที่ดีมาสักข้อ"
"ผะ ผมจะไปแก้ของครับ"
--------------------------------
"คุณปราญยศ เมื่อคืนคุณไปไหนมา?" - โชคอนันต์
"ผมก็อยู่กับคุณไง"
"โกหก..." - โชคอนันต์
"ถ้าไม่อยู่บ้าน ผมจะอยู่ไหนกันนะ?"
"สายตาของคุณ เหมือนมันมีคำตอบอยู่แล้วเลย..."
"คุณคิดว่าผมเป็นฆาตกรด้วยหรือเปล่า หืม?"
- ปราญยศ -
เรื่อง : ปราญอาถรรพ์
ผู้เขียน : จูฮาราห์ (Juharah)
สำเร็จเมื่อ : 24/12/2023
สถานะ : จบแล้ว 15/03/2024
Chapter 4 "ห้องแม่บ้าน"
โชคตื่นขึ้นมาอีกครั้งตอนที่เสียงนาฬิกาปลุกดังในตอนหกโมงเช้า
หลังเอื้อมมือไปกดปิด เขาก็แน่นิ่งอยู่หลายนาที
ตากลมเปิดขึ้นช้า ๆ ความรู้สึกเกียจคร้านอยากจะลาออกก็ประเดประดังเข้ามาเหมือนทุก ๆ เช้า แต่แน่นอนจิตสำนึกมันคอยบอกว่าทำไม่ได้
กิจวัตรที่เป็นไปดังเช่นทุกวันได้เริ่มต้นขึ้น แต่คราวนี้มีสิ่งที่ผิดสังเกตไป
"หือ?"
โชคชะโงกหน้าเข้าใกล้กระจกบานใหญ่ พลันขมวดคิ้วมองร่องรอยจ้ำแดงจาง ๆ บริเวณไหล่ตนเอง เขาใช้นิ้วลูบมันเบา ๆ แต่กลับไม่พบว่ามันคัน ถึงยังไงก็ไม่คิดโทษสิ่งอื่นนอกจากแมลง เหลือบไรบนที่นอน
สงสัยวันหยุดโชคจะต้องซักผ้านวมบ้างแล้ว...
โชคนั่งห่อเหี่ยวที่โต๊ะทำงานสภาพอ่อนล้า ใต้ตาดำคล้ำจนไม่สามารถปกปิดได้มิด ปากที่เคยดูสุขภาพดีเริ่มอมซีดและแห้งแตกเป็นร่อง โชคแอบสัปหงกหลายรอบจนกลัวว่าหัวหน้าจะผ่านมาเห็น
นิ่มที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไปไม่ไกล เหลือบมองเป็นระยะ ก่อนจะตัดสินใจเดินมาหาแล้วลากไปที่ห้องแพนทรีประจำออฟฟิศ
โชคมองนิ่มงง ๆ สลับมองไปรอบห้องด้วยความหวาดระแวง หลังจากเจอประสบการณ์ที่ไม่ดีเมื่อวานที่ผ่านมา
"สภาพหน้าแย่กว่าเมื่อวานอีก" นิ่มกล่าวเสียงเรียบ ประโยคนั้นทำชายตัวขาวชะงัก
"บอกว่าเราไม่หล่อยังเจ็บน้อยกว่านี้"
"ไม่ต้องมาทำเป็นตลกเลย ดูขอบตาสิเนี่ย ดำมาก! หน้าก็แห้ง เราบอกแล้วไงให้ใช้สกินแคร์ แล้วดูปากสิ แตกยับ!"
นิ้วเล็กจิ้มไปตามหน้าของเขา โชคยิ้มบางมองหญิงสาวตัวเล็ก ใจชื้นเมื่อคนตรงหน้าแสดงความเป็นห่วง
ใคร ๆ ก็รู้
ว่าโชคชอบนิ่ม...
"เดี๋ยวเราทาลิปมันให้ อ้าปาก"
โชคเผยอปากเล็กน้อย มองนิ่มที่กำลังใช้นิ้ววนลิปมันบนกระปุกกลม รอคอยให้นิ้วเล็กนั้นมาสัมผัสริมฝีปากของตนเอง
"คุณนุชนาถ"
!
นิ่มและโชคชะงักในตอนที่ปลายนิ้วเรียวจะสัมผัสริมฝีปากของโชค ทั้งคู่หันตามเสียงไปที่หน้าประตู
ปราญยศยืนอยู่ที่จุดเดิมอีกครั้ง ที่หน้าประตู...
แต่ในมือของเขาถือกระเป๋า คล้ายว่าเพิ่งมาถึงบริษัท
ดวงตาเรียบนิ่งมองปลายนิ้วแต่งแต้มด้วยน้ำยาทาเล็บสีอ่อนที่เกือบจะจรดกับริมฝีปากแห้งผากของชายร่างโปร่งผิวขาว
ทั้งสองรีบแยกออกจากกันเมื่อรับรู้ว่าปราญยศจ้องอยู่ นิ่มรีบเดินมาหยุดตรงหน้าคนตัวสูงใหญ่ เธอยิ้มเจื่อน ขณะที่อีกคนยืนกุมมือก้มหน้าหลบตาคมกริบ สีหน้าหวาดระแวงปิดไม่มิด ปราญยศคิ้วกระตุกเล็ก ๆ เมื่อเห็นเช่นนั้น
น่าขัดใจ...
"คะ? ผู้จัดการ"
"ช่วยส่งข้อมูลอ้างอิงของสไลด์เมื่อวานมาให้ผมที ก่อนเริ่มประชุม"
"คะ? เอ่อ แต่ผู้จัดการจะประชุมในอีกครึ่งชั่วโมง"
"แล้วยังไง?"
ประโยคนั้นทำให้นิ่มหน้าซีด เธอผงกหัวรับทราบอย่างจำยอม ค้อมตัวเดินออกไปจากห้องแม่บ้าน โดยไม่ลืมที่จะแอบหันใบหน้าเศร้ามามองโชค
ขอโทษนะโชค!
ทันทีที่หญิงสาวเดินออกไป ปราญยศก็ย่างกายเข้ามาในห้องแคบ ๆ เขาเอื้อมมือไปจับบานประตูให้เลื่อนปิด
โชคที่อยากจะเดินตามนิ่มไปในตอนแรกได้แต่ชะงัก ยืนสั่นเล็กน้อย เหลือบมองเจ้าของดวงตาอันลุ่มลึกที่ก็ยังคงโฟกัสโชคไม่ไปไหน ใบหน้าแสนหล่อเหลาอันเต็มไปด้วยแรงดึงดูดนั้นไม่ได้ทำให้โชคใจสั่นแต่อย่างใด แม้ว่าโชคจะเคยมีประสบการณ์ชอบผู้ชายมาก่อนก็ตาม
ผู้จัดการฝ่ายคนนี้น่ากลัวจะตาย โชคเกลียดใบหน้านิ่งของคนตรงหน้าเป็นที่สุด น่าอึดอัดชะมัดเลย!
"สวัสดีครับ อ่า งั้นผมขอตัวก่อน..."
ร่างโปร่งเลี่ยงตัวไปด้านข้างเพื่อเดินผ่าน ทันใดนั้น ลำแขนกำยำก็ยกขึ้นมาขวางโดยยึดขอบซิงก์ล้างจานเอาไว้ แถมยังขยับตัวเข้ามาใกล้โชคมากกว่าเดิม
ร่างโปร่งผวาเดินถอยหลังอัตโนมัติ เงยหน้ามองปราญยศในทันใด
'ถึงห้องแพนทรีมันจะเล็ก แต่ก็ไม่ได้เล็กขนาดที่ต้องยืนเบียดกันนะ' โชคตำหนิในใจ
"คะ..ครับ"
แต่ความจริงเสียงที่ดังออกไปนั้นเต็มไปด้วยความยำเกรง...
"เมื่อวาน...กลับถึงห้องปลอดภัยไหม" ปราญยศถาม
"...ครับ" โชคก็ตอบด้วยความประหลาดใจ
"..."
"..."
เดดแอร์ที่เกิดขึ้นยิ่งทำให้โชคกระสับกระส่าย เจอกันมาก็ตั้งหลายครั้ง แต่ผู้จัดการคนนี้ไม่เคยยักที่จะพูดคุยสัพเพเหระกับโชคเลยสักครั้งเดียว
โชคต้องทำเช่นไรต่อในสถานการณ์แบบนี้?
"เอ่อ แล้วผู้จัดการฝ่าย...ปลอดภัยเช่นกันนะครับ"
"ปวดหลัง" ปราญยศตอบพลางสบตากลม เขายกมือขึ้นบีบไหล่กว้างของตนเอง "จู่ ๆ ก็ปวดน่ะ"
สิ้นคำตอบ ภาพเงาผีดำตาแดงที่เกาะหลังผู้จัดการฝ่ายเมื่อคืนก็แวบเข้ามาในหัวของโชค ทำเอาใบหน้าขาวซีดลง แผ่นหลังผวา
โชคชั่งใจไปครู่หนึ่ง จึงตัดสินใจเอ่ยแนะนำ "บางทีผู้จัดการควรไปทำบุญนะครับ"
"หึ"
โชคเงยหน้าทันทีที่ได้ยินเสียงพ่นขำทางจมูก มุมปากบางเฉียบยกขึ้นเล็กน้อย เมื่อสังเกตในระยะที่ใกล้ขนาดนี้จึงรู้ว่านัยน์ตาที่มักจะเรียบเฉยมีแววขบขันซ่อนอยู่ โชคอ้าปากค้างน้อย ๆ เพราะจากที่คอยแอบมอง (กลัว) มาเนิ่นนาน เขาไม่เคยเห็นมุมนี้มาก่อน
นัยน์ตาคมเลียบมองเครื่องทำกาแฟและแคปซูลเอสเพรสโซ "ผมขอกาแฟ"
ทำไมคุณผู้จัดการไม่ไปบอกเลขาล่ะครับ?
"...ครับ" โชคตอบต่างจากสิ่งที่คิดในใจอีกครั้ง
"อีก 20 นาทีผมมีประชุม"
"จะทำให้เดี๋ยวนี้ครับ"
ลำแขนที่ขวางทางไว้ยอมเอาลงกลับข้างลำตัวดูดี ประตูเปิดออกแล้วร่างสูงก็เดินออกไป
โชคลอบมองแผ่นหลังกว้างที่กำลังเดินกลับไปห้องตนเอง ระหว่างนั้นปราญยศผงกหัวเล็ก ๆ รับไหว้จากบรรดาพนักงานในออฟฟิศ ร่างใหญ่มีแวะเดินไปที่โต๊ะของผู้จัดการแผนกเพื่อให้คำปรึกษาเรื่องงาน ร่างสูงก้มตัวมองหน้าจอคอมพิวเตอร์เล็กน้อยก่อนจะตวัดตามองโชคที่เอาแต่แอบจ้องทุกการกระทำของตนเอง
"!" โชคสะดุ้ง ลุกลี้ลุกลนเดินไปหยิบแคปซูลเอสเพรสโซใส่เข้าเครื่องทำกาแฟ นำแก้วมารองน้ำกาแฟที่จะกรองผ่านลงมา
กลิ่นกาแฟหอม ๆ โชยเข้าจมูกยามที่มันไหลลงแก้วจนขึ้นฟองขาวน่าดื่ม โชคนำถ้วยกาแฟมาวางบนจานรอง จากนั้นยกกระปุกน้ำตาลขึ้นมา...
เอ๊ะ ต้องใส่ไหมนะ?
โชคลังเล เพราะปกติตัวโชคเองกินกาแฟใส่น้ำตาลครึ่งช้อนชา
'ไม่ต้องใส่'
"งั้นเหรอ" โชคตอบรับเสียงที่ดังแว่วมาจากด้านหลัง "แล้วครีมเทียมล่ะ"
'...ไม่'
โอเค เอสเพรสโซเพียว ๆ ขมน่าดูเลยแฮะ... โชคคิดในใจ แล้วถือจานเตรียมหันหลังไปขอบคุณผู้ที่ช่วยตอบข้อสงสัย
"ขอบใจ..."
โชคเบิกตาค้างอีกรอบเมื่อด้านหลังเขาไม่มีใครยืนอยู่สักคน...
คนในออฟฟิศต่างพากันนั่งเคร่งเครียดหน้าจอคอม บางคนวิ่งวุ่นอยู่กับการถ่ายเอกสาร ไม่มีใครเลยที่จะมาสนใจโชค
บ่าแคบสั่นพานทำให้กาแฟในมือไหวตามไปด้วย โชครีบย่ำเท้าออกจากห้องที่สร้างประสบการณ์ย่ำแย่ให้เขาเป็นรอบที่สองตั้งแต่ย้ายมาออฟฟิศนี้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
โชคเคาะเป็นการเตือนคนด้านใน ไม่ได้ขออนุญาตแต่อย่างใด เขาเปิดประตูเข้าไปพร้อมกาแฟ พบว่าปราญยศกำลังยืนคุยโทรศัพท์ขณะที่มองบอร์ดเขียนงานไปด้วย โชคจับใจความได้ว่าเป็นหัวข้อที่กำลังเริ่มประชุม
โชควางกาแฟไว้บนโต๊ะทำงานอย่างเบามือ ขณะที่ลอบมองเอกสารกองพะเนินบนโต๊ะและกระดาษที่เหมือนว่าคุณผู้จัดการมากความสามารถคนนี้จะคอยแจกแจงจดอยู่ตลอด ทั้งยังเป็นภาษาอังกฤษล้วน ถือว่าเติบโตในหน้าที่ด้วยความสามารถจริง ๆ จนโชคที่คอยแต่กลัวยังอดปลื้มไม่ได้ที่มีหัวหน้าเก่งกาจอายุน้อย
ชายหนุ่มมากเสน่ห์เหล่ตามองโชคครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเป็นพิเศษ เพียงแค่เดินมาหยิบกาแฟแล้วยกขึ้นดื่ม
โชคถอยหลังกรูดจากการเข้าถึงตัวอย่างรวดเร็วกะทันหัน ท่าทีนั้นสร้างรอยย่นที่หัวคิ้วของปราญยศ
ร่างโปร่งค้อมหัวกำลังจะขอตัวออกไป แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าเนกไทลายทางที่คอเสื้อของปราญยศมันเบี้ยวและคลายออกจนดูไม่เรียบร้อย
ปราญยศเพียบพร้อมในทุกเรื่องแม้กระทั่งการแต่งกาย คงจะยุ่งมากจนละเลยไป
"ขอ..ขออนุญาตนะ..ครับ" โชคเสียงสั่น เขาขยับเข้าใกล้เอื้อมมือไปจับเนกไทของคนตัวสูงปรับให้มันเข้าที่เข้าทาง ดูเรียบร้อย
ถึงโชคจะกลัวปราญยศยังไง แต่อีกฝ่ายก็เป็นภาพลักษณ์และผู้ขับเคลื่อนหน่วยงานอันดีงาม อย่าให้มีมลทินเลยดีกว่า แม้แต่เรื่องความเรียบร้อย
กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่เงยหน้าขึ้นไปแล้วเห็นว่าปราญยศหยุดพูด ถือโทรศัพท์ค้างคาหู ใบหน้าก้มมองโชคค้างราวกับมึนงง โชคจึงถอยกรูดออกมาอีกครั้ง ก้มหัวเคารพแล้วจ้ำอ้าวเดินออกจากห้องทำงานปิดประตูเสียงดัง
คนตัวใหญ่ก้มมองพื้น เอามือกุมใบหน้าปดปิดบางอย่างด้วยท่าทีเชื่องช้า ก่อนจะตอบรับปลายสาย โดยที่ไม่รู้ว่าก่อนหน้าอีกฝ่ายพูดอะไรมาบ้าง เพราะเขานั้นเสียอาการ
"แค่นี้ก่อน ผมต้องเข้าประชุมแล้ว"
โชคพรวดพราดมานั่งเก้าอี้ของตนเอง เขาดึงทิชชูมาซับเหงื่อที่ซึมออกเพราะความเครียด
เขาเสียมารยาทมากี่ครั้งแล้ว...
โชคจะถูกสั่งย้ายไหม!
"ป้าขอกวาดหน่อยนะลูก"
โชคหันขวับไปมองป้าแม่บ้านที่กำลังกวาดเศษขนมที่หล่นเต็มพื้น
"หนุ่มคนเมื่อกี้เดินสะดุดเลยทำขนมหกอยู่โต๊ะพ่อหนุ่มพอดี จริง ๆ เลย โตขนาดนี้ยังซุ่มซ่าม" ป้าบ่นตามประสาคนสูงวัย
โชคจ้องป้าอย่างพินิจไปหลายนาที ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้เข้าไปใกล้สาวแก่ แล้วกระซิบถามเสียงเบา
"ป้า ๆ ผมมีเรื่องจะถาม"
ท่าทางคล้ายจะเม้าท์มอยนั้น ทำให้ป้าหูผึ่งรอฟังต่ออย่างตั้งใจ
"ห้องแพนทรี ...ห้องแม่บ้านอะป้า มันมีอะไรไหม?"
"อะไรที่ว่าน่ะ อะไร?"
"กะ..ก็ ผะ ผีอะป้า" แค่พูดแล้วเหลือบตามองห้องนั้นพลันเสียงสั่น
"..." ป้าเงียบ
"..." โชคก็เงียบ
"หนุ่ม เอาพาราไหมลูก?"
"...?"
"ป้าเข้าออกห้องนั้นวันละสิบรอบมาจะยี่สิบปีแล้ว ไม่เห็นเคยเจออะไร"
"งะ งั้นเหรอครับ" โชคผ่อนลมหายใจโล่งอก เรื่องเมื่อคืนและวันนี้ คงเพราะโชคทำงานหนัก พักผ่อนน้อย จิตปรุงแต่ง คิดไปเองสินะ
"แต่หนุ่มเพิ่งย้ายมาใช่ไหม?"
"ครับ? ใช่ครับ ผมเพิ่งย้ายมาออฟฟิศนี้ได้ครึ่งปี"
ป้าแม่บ้านยืนนิ่งไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะทำหน้าเข้มพูดกับโชคเสียงเบา
"...ห้องนั้นน่ะไม่มีอะไรหรอก แต่ออฟฟิศนี้นะ ป้าเคยได้ยินว่า...คนที่ทำโอทีดึก ๆ เขาเจอกันมาถ้วนหน้า เห็นเป็นเงาดำ ๆ บ้าง เสียงคนคุยกันทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครบ้าง หรือแม้แต่เห็นเพื่อนร่วมงานนั่งอยู่ที่โต๊ะ ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้ว คนคนนั้นน่ะเขากลับไปแล้ว"
ป้าพูดสนุกปาก แล้วก็เดินจากไป ทิ้งให้โชคนั่งหน้าซีดปากเหวอ
สรุปมีเหรอ...
"ป้าแกแกล้งนายน่ะ"
เสียงทุ้มเข้มติดยียวนดังขึ้น โชคหันไปมองคนที่ยืนเกาะแนวกั้นโต๊ะของเขา เป็นชายตัวสูงใหญ่กว่าโชคระดับหนึ่ง มีกล้ามเนื้อเป็นมัดชัดเจน ผมสีดำสนิท ดวงตาน้ำตาลติดแดงสนิมเหมือนใส่คอนแทกต์เลนส์ ผิวออกคล้ำแทน แขนเสื้อถลกขึ้นจนถึงข้อศอกเห็นรอยสักเขียว ๆ คล้ายยันต์ แต่โดยรวมอีกฝ่ายก็ดูดีไม่น้อย รวมถึงหน้าตาที่ค่อนข้างหล่อออกไปทางเข้ม
"นายเป็นใคร?" โชคถาม
"ฉันตรี เพิ่งย้ายมาแผนกนี้ ก่อนหน้านี้ฉันอยู่ออฟฟิศข้าง ๆ"
"เอ่อ...ฉันโชค"
"ชื่อ...น่ารักดี"
น่ารัก...แต่ทำท่ากลั้นขำ? โชคคิ้วกระตุกพร้อมกับเท้า
"อย่าไปฟังป้าแกมาก ฉันอยู่มาหลายปี เลิกดึกเกือบทุกวัน ไม่เห็นเจออะไร"
แต่ป้าอยู่มา 20 ปี...
"อะ อืม" โชคตอบรับ เขาลอบมองรอยสักที่แขนล่ำสันและที่โผล่ออกมาจากคอเสื้อเชิ้ต ไหนจะตะกรุดที่ลำคอหนา
มือใหญ่คล้ำเอื้อมมาจับคางโชคให้เงยขึ้นราวกับไม่อยากให้สงสัยอะไรมากนัก เขาจับหน้าเรียวบิดไปมาซ้ายขวา แววตาจ้องมองทะเล้น มุมปาก ยกยิ้มนึกสนุกแล้วเอ่ยเสียงเข้ม
"หน้าหมองนะ"
"ปล่อย" โชคปัดมือแข็งแรงออก
"พักผ่อนเยอะ ๆ" ตรีไม่สนใจปฏิกิริยานั้น เขายอมปล่อยมือแล้วกล่าวยิ้ม ๆ "โทษที"
"อืม..." โชคตอบปัด
"รู้สึกเหมือนคนโดนของน่ะ"
พูดจบ ตรีก็ผิวปากหวิวเดินไปกวนโต๊ะอื่นต่อ แต่ไม่วายส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้โชค ทำเอาใจคนตัวขาวไม่สู้ดีเสียเลย
ถัดไปในมุมมืด มีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องเหตุการณ์นั้นตั้งแต่ต้นด้วยความแข็งกร้าวผ่านซี่หน้าต่างมู่ลี่ในห้องมืด เขามองชายผิวคล้ำไม่วางตาแม้ว่าเจ้าตัวจะเดินไปที่อื่นแล้ว แต่ดูเหมือนการจับจ้องนั้นจะทำให้ตรีรู้สึกได้ จึงมองหาที่มา แต่พอไม่พบอะไร เจ้าตัวก็ไหวไหล่ไม่สนใจ
โดนป้าช็อตฟีลแสนล้านโวลต์
สวัสดีปีใหม่ 2024 นะคะ ขอให้ผู้อ่านเจอแต่เรื่องดีๆ คิดหวังสิ่งใดก็สมปรารถนา รวยๆเฮงๆ ค่าาา
เดี๋ยวจะมาอัปเพิ่มอีกตอนนะคะ เป็นของขวัญปีใหม่~ ขอคนละเม้นต์ได้ไหมน้าา สติ๊กเกอร์ก็ได้งับ
Twitter X: จูฮาราห์ @juha_rah
Page FB: Juharah