ระหว่าง “ผี” กับ “ปราญยศ” อะไรน่ากลัวกว่ากัน? ...ได้ยินมาว่า 'โชคอนันต์' ถูกคนทำเสน่ห์ใส่ล่ะ แถมคุณผู้จัดการหน้าดุก็ชอบทำตัวแปลก ๆ
ชาย-ชาย,รัก,ลึกลับ,อาชญากรรม,ดาร์ค,แซ่บ,นายเอกมึน,พระเอกโหด,พระเอกคลั่งรัก,พระเอกหล่อ,พระเอกหื่น,พระเอกรวย,พระเอกร้าย,พระเอกยันเดเระ,พระเอกขี้หึง,พระเอกขี้หวง,พระเอกครั่งรัก,โหด,รุนแรง,ระทึกขวัญ,20+,18+,อีโรติก,โรมานซ์,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ปราญอาถรรพ์ [END]ระหว่าง “ผี” กับ “ปราญยศ” อะไรน่ากลัวกว่ากัน? ...ได้ยินมาว่า 'โชคอนันต์' ถูกคนทำเสน่ห์ใส่ล่ะ แถมคุณผู้จัดการหน้าดุก็ชอบทำตัวแปลก ๆ
X เนื้อหารุนแรงมาก โปรดอ่านคำเตือนโดยละเอียด X
- ปราญอาถรรพ์ -
โชคอนันต์ผู้ที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายมาเกือบสามสิบปี จู่ ๆ ก็โดนผีตามรังควาน ถึงขั้นถูกทักว่า "โดนของ"
ชีวิตก็บัดซบพออยู่แล้วแท้ ๆ แต่ทำไมเดี๋ยวนี้ผู้จัดการฝ่ายอย่าง 'ปราญยศ' ที่โชคนั้นหลบเลี่ยงและเกรงกลัวนักหนา ถึงได้มาวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ สร้างความกดดันตลอดเวลา แถมยังล่วงรู้เรื่องที่โชคนั้นเห็นผีอีก ทว่าอีกฝ่ายกลับทำให้เหล่าผีร้ายพวกนั้นหลบเลี่ยงอย่างหวาดกลัว
หนทางแห่งแสงสว่างได้ปรากฏ ปราญยศจะทำให้โชคไม่ต้องเห็นผีอีกต่อไป โชคอนันต์ต้องยอมร้องขอความช่วยเหลือจากปราญยศ ผู้ซึ่งน่ากลัวกว่าผีเสียอีก!
"ผู้จัดการช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ" - โชคอนันต์
"ผมจะได้อะไร?"
"ตามที่ผู้จัดการต้องการครับ"
โชคมองรอยยิ้มมุมปากที่ไม่ทราบเหตุผลของปราญยศ...มันดูเจ้าเล่ห์หรือเปล่านะ?
--------------------------------
"...ผมจะไม่มาทำโอทีในวันพรุ่งนี้ครับ" - โชคอนันต์
"บอกเหตุผลที่ดีมาสักข้อ"
"ผะ ผมจะไปแก้ของครับ"
--------------------------------
"คุณปราญยศ เมื่อคืนคุณไปไหนมา?" - โชคอนันต์
"ผมก็อยู่กับคุณไง"
"โกหก..." - โชคอนันต์
"ถ้าไม่อยู่บ้าน ผมจะอยู่ไหนกันนะ?"
"สายตาของคุณ เหมือนมันมีคำตอบอยู่แล้วเลย..."
"คุณคิดว่าผมเป็นฆาตกรด้วยหรือเปล่า หืม?"
- ปราญยศ -
เรื่อง : ปราญอาถรรพ์
ผู้เขียน : จูฮาราห์ (Juharah)
สำเร็จเมื่อ : 24/12/2023
สถานะ : จบแล้ว 15/03/2024
Chapter 8 "งานเลี้ยง"
ในช่วงสายของวันถัดมา โชคและพนักงานคนอื่น ๆ ในแผนกรวมแล้วเกือบสามสิบคน มายืนเกาะกลุ่มที่มุมหนึ่งของออฟฟิศ เนื่องจากผู้จัดการโต้งแจ้งในไลน์กลุ่มแต่เช้าว่ามีเรื่องสำคัญจะแจ้ง
ระหว่างยืนรอ โชคก็คุยกับเพื่อนร่วมงานไปพลาง ๆ ซึ่งเพื่อนร่วมงานคนนี้ทำให้โชคยืนขมวดคิ้วมุ่นหลายรอบเนื่องจากไม่ถูกชะตา
"เมื่อวานไม่ได้คุยกันเลย งานเยอะ" ตรีเอ่ยยิ้ม ๆ
"เวลางานก็คงต้องทำงานแหละ" โชคตอบเสียงนิ่ง
"จะว่าไปคุณตรีย้ายมาจากหน่วยงานไอทีใช่ไหมคะ" นิ่มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ โชคเอ่ยถามเสียงใสอย่างอัธยาศัยดี
"ใช่ครับ ดูระบบดาต้า เอกสารราว ๆ นี้น่ะครับ" ตรีตอบยิ้ม ๆ
"อ๋อ งั้นที่ได้ยินว่าแผนกเราจะปรับปรุงเรื่องระบบเอกสารนี่ ก็เป็นคุณตรีใช่ไหมคะ"
"ใช่แล้วครับ เหมือนย้ายมาเป็นไอทีประจำแผนกนี้เลย ดีไหมครับ"
"ดีมากเลยค่ะ เพราะไอทีที่นี่ติดต่อยากมาก" นิ่มไม่พูดเฉย เธอยังใส่อารมณ์ความรู้สึกผ่านสีหน้าแววตา เรียกเสียงหัวเราะได้
โชคพ่นลมหายใจ กวักมือให้คนที่ตัวสูงกว่าก้มลงมาเล็กน้อยเพื่อกระซิบ
"สาว ๆ กลุ่มนั้นดูอยากจะคุยกับนายนะ" โชคกระซิบเสียงเบาแทบชิดใบหู
ขณะฟังตรีรู้สึกถึงสายตาที่กำลังจดจ้องเขามาจากมุมหนึ่ง เป็นปราญยศที่ยืนล้วงกระเป๋าจ้องมองไม่วางตา ตรียกยิ้มก่อนจะมองไปตามทิศที่โชคบอก
"นั่นรุ่นป้าฉันเลยนะ นายกล้าเรียกว่าสาว ๆ ได้ยังไง?"
"ปากเสีย" โชคตีเข้าที่ลำแขนล่ำ ตรีพูดออกมาเสียงดังฟังชัด จนสาววัยกลางกลุ่มนั้นได้ยินแล้วพากันสะบัดหน้าหนีไม่พอใจ
"โชคกับคุณตรีดูสนิทกันจังเลย" นิ่มพูดเสียงใสยิ้มตาหยีตามสไตล์เจ้าตัว
"เปล่า.." โชคกำลังจะปฏิเสธ จะสนิทกันได้ยังไง เพิ่งคุยกันเมื่อวันก่อนเอง แต่ไม่ทันพูดจบโชคก็สะดุดตากับหัวหน้าใหญ่ที่ก้าวขายาวด้วยท่วงท่าดูดี เขาตรงมายังกลุ่มพนักงานหลายสิบคน
"ผมกับโชคเราสนิทกันมากครับ แถมโชคเนี่ยสเปกผมเลย" พูดกันอยู่สามคน แต่เหมือนตรีตั้งใจจะพูดให้บางคนได้ยินด้วยมากกว่า
"อุ๊ย!" นิ่มปิดปากอมยิ้มแซว เธอรู้อยู่แล้วว่าตรีกำลังแกล้งโชค
แปะ!
"พูดอะไรวะ" โชคกระซิบเสียงลอดไรฟันหลังจากฟาดมือลงบนแขนอีกฝ่ายที่ยืนหัวเราะร่วน
"ว่าแต่โชคขยับตัวคล่องขึ้นนะ" นิ่มสังเกต
"สะโพกเราหายเจ็บไปเยอะมากเลย แปลกใจเหมือนกัน สงสัยยาหมอเขาคงแรง" โชคว่าพลางลูบบริเวณกระดูกก้นกบที่เคยเจ็บมากเมื่อวานนี้แท้ ๆ แต่พอเขาตื่นเช้ามาวันนี้ อาการมันเหลือเพียงปวดเล็กน้อยและมีเพียงรอยช้ำเลือดเป็นวง หมอแจ้งอยู่ว่าการหายช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับบุคคล แต่ก็ไม่คิดว่าจะเร็วโดยที่ยังไม่ทันข้ามวันเช่นนี้
"หึ ยาแรงหรือของแรง"
"ว่าไงนะ?" โชคถามตรีที่พึมพำ
"เปล่า หายก็ดีแล้ว" ตรีไหวไหล่ รอยยิ้มหายไปเกือบหมด
"อะแฮ่ม ขอโทษทุกคนด้วยที่ให้รอ"
โชคมองเสี้ยวคนที่เหมือนจะรู้อะไร พอตรีเลิกสนใจโชค เขาจึงหันไปมองผู้จัดการโต้งที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กับผู้จัดการฝ่ายอย่างปราญยศ ร่างท้วมเงยหน้ามองปราญยศเล็ก ๆ ก่อนจะเริ่มพูดเนื้อหาที่นัดกะทันหัน
"เดือนนี้ก็จะสิ้นสุดไตรมาสแรกของบริษัทเราแล้ว ขอบคุณพวกคุณทุกคนในแผนกขายมาก ๆ ที่ทำงานกันอย่างหนักหน่วงมาโดยตลอด ซึ่งยอดขายไตรมาสนี้ของเราโตขึ้นถึง 38%"
พอจบประโยคแรกทุกคนก็ฮือฮาด้วยความตื่นเต้นราวกับรู้แล้วว่าเจ้านายจะมาพูดเรื่องอะไร ส่วนเรื่องตัวเลขการเติบโตพวกเขารู้กันอยู่แล้ว แต่รอฟังสิ่งที่ผู้จัดการแผนกจะพูดต่อจากนี้ต่างหาก
ทุกคนพยายามจะโฟกัสหัวหน้าร่างท้วม แต่หลายครั้งก็ไม่สามารถละสายตาหรือแอบลอบมองรูปหน้าคนตัวใหญ่ที่ยืนนิ่ง ๆ ได้เลย และพาลทำหน้าแดงกันไปเป็นแถบเพราะความหล่อเหลาแบบไม่ปรุงแต่งของปราญยศ
"ทางคุณปราญยศจึงขอแสดงความขอบคุณด้วยการเลี้ยงฉลองผลงานไตรมาสนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ให้ตรีไปเก็บข้อมูลกับทุกคนแล้ว เรียนเชิญทุกท่านกินเลี้ยงร่วมกันที่ร้านxxx พรุ่งนี้หลังเลิกงาน เลขาผมทำการจองห้องคาราโอเกะวีไอพีไว้ให้แล้วสองห้อง พวกคุณก็ไปจับกลุ่มกันเอาเองเลยนะ" ผู้จัดการพูดยิ้ม ๆ
เสียงฮือฮาดังขึ้นกว่าเดิม ทุกคนต่างกล่าวขอบคุณปราญยศกันยกใหญ่เมื่อทราบแล้วว่าสถานที่จัดเลี้ยงคือที่ไหน และพวกเขาก็พอใจกันเป็นอย่างมาก เพราะเป็นร้านที่ค่อนข้างเลื่องชื่อในย่านอโศก ต่างพากันรู้สึกขอบคุณผู้จัดการฝ่ายกระเป๋าหนักคนนี้อย่างสุดซึ้ง
โชคแอบมองเสี้ยวหน้าเรียบเฉยผ่านกลุ่มคน อีกฝ่ายไม่ได้ยินดียินร้ายกับคำกล่าวขอบคุณ เขาเพียงแค่พยักหน้าให้กับบางคนเล็กน้อย
ก็ใจกว้างเหมือนกันนะ นึกว่าจะเคี่ยวเสียอีก...โชคคิดในใจ
"ยังมีอีกเรื่อง ที่พวกคุณน่าจะลืมกันไปแล้ว"
ทุกคนพากันเงียบอีกรอบอย่างลุ้นระทึก เพราะสิ่งที่พวกเขาคิดไว้มันมีเพียงเรื่องเดียวที่ผู้จัดการเพิ่งกล่าวจบ
"ผมทราบดีว่าปีนี้แผนกเรารวมถึงทั้งบริษัทต้องทำงานกันหนักมาก เพื่อตอบรับกลยุทธ์ที่ถูกปรับเปลี่ยน จึงละเลยและไม่ได้พูดถึงทริปเที่ยวประจำซัมเมอร์ จนมันล่วงเลยมาจะเข้าหน้าฝนแล้ว"
เหล่าพนักงานยืนฟังเงียบ ๆ พวกเขาตัดใจเรื่องนี้ไปแล้วเพราะมันเงียบมาก ทั้ง ๆ ที่แผนกอื่นเขาไปกันหมดแล้ว
"ผมจะให้ทางเลขาไปทำแบบสอบถามว่าซัมเมอร์นี้พวกคุณต้องการจะไปไหนกัน แล้วเดี๋ยวเรามาสรุปกันอีกที แต่แพลนทริปจะจัดขึ้นภายในเดือนหน้าแน่นอน"
"เย้!!!"
พนักงานพากันกู่ร้อง กระโดดโลดเต้นอย่างดีใจที่ได้รับข่าวดีถึงสองต่อ สร้างความอิจฉาให้แผนกอื่นที่อยู่ในออฟฟิศเดียวกันไม่น้อย
"บุคคลสำคัญที่เราจะลืมไม่ได้ ผมและทุกคนต้องขอบคุณผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์อย่างสุดซึ้งที่มาปรับปรุงหน่วยงานให้ไปในทิศทางที่ดีขึ้นแบบก้าวกระโดด ขอบคุณมากจริง ๆ ครับ"
"ขอบคุณค่า/ครับ"
ปราญยศยกมือสะบัดเบา ๆ ราวกับเป็นเรื่องเล็กน้อย เขากล่าวกับพนักงานเพียง 2-3 ประโยคก่อนจะขอตัวกลับไปทำงานต่อ
โชคพอทราบมาจากคนอื่น ๆ ว่าปราญยศขึ้นมาเป็นระดับผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ได้เพียงไม่กี่ปี จากแรก ๆ ที่แผนกตลาดและขายไม่เคยทำยอดได้เกิน 5 % แต่พอปราญยศมาประจำและเข้ามาปรับกลยุทธ์ ยอดขายก็โตขึ้นหลายเท่าตัวสร้างความตื่นตระหนก เรียกเสียงฮือฮาไปทั่วทั้งบริษัทและเป็นกระแสในข่าวเศรษฐกิจ มีรูปอีกฝ่ายปรากฏขึ้นในหนังสือพิมพ์และออนไลน์ไปหลายเดือน นั่นด้วยเพราะปราญยศเป็นผู้บริหารอายุน้อยและหน้าตาดีแบบไม่ต้องพึ่งมีดหมอ แทบสามารถเทียบกับพระเอกแนวหน้าของเมืองไทยได้เลยก็ว่าได้ ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ไม่ใช่แค่ในแวดวงธุรกิจ
ทั้งหล่อ ทั้งเก่ง ครบครันจริง ๆ
โชคชะงักเมื่อเขาเผลอคิดชื่นชมอีกฝ่ายในใจ…
โชคกำลังเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ โดยทำท่าจะจ้ำอ้าวให้ผ่านหน้าห้องปราญยศโดยไว แค่เดินผ่านก็ขนลุกแล้ว ทั้งยังโชคร้ายที่โต๊ะของโชคอยู่เยื้องไปจากห้องอีกฝ่ายไม่กี่บล็อก โชคก้าวขาไม่ถึงสามเก้าด้วยซ้ำก็ถูกรั้งแขนเอาไว้
"รอบนี้โชคต้องไปนะ ไปกินน้ำอัดลมเฉย ๆ ก็ได้ ไม่มีใครบังคับกินเหล้าหรอก" นิ่มเขย่าแขนเขาอย่างคะยั้นคะยอ
“ไปร้านเหล้า ไม่กินเหล้า ไม่มีจริง” โชคกล่าว
“ต่อให้โชคเมา ก็มีห้องพักให้อยู่แล้ว ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลยด้วย ไปเถอะน้าาา”
ที่จริงโชคตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ไปงานสังสรรค์ เพราะเขาไม่ใคร่ดื่มและไม่ช่ำชอง ไม่อยากไปให้โดนคนแซว จะเขินเสียเปล่า
"ไม่ต้องกลัวคุณปราญยศเขาหรอก ปกติคุณเขาไม่เคยไปงานเลี้ยงเลย เขาจ่ายจบอย่างเดียว" นิ่มกระซิบเสียงเบา
นั่นก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผล นิ่มรู้ว่าโชคค่อนข้างเกรงกลัวความเข้มงวดของปราญยศ และอีกฝ่ายก็มีท่าทีที่ไม่ชอบพอโชคในหลาย ๆ ครั้ง เขากลัวว่าถ้าไปเจออีกฝ่ายในงานสังสรรค์ เขาจะไปสร้างประวัติการณ์ที่ไม่ดีเอาน่ะสิ แต่พอนิ่มบอกมาอย่างนี้แล้วเขาก็เริ่มสนใจขึ้นมา
"จริงใช่ไหม"
"จริง ปกติคุณเขาจะไปกินเปิดงานสองสามแก้ว จากนั้นก็กลับ ผู้จัดการระดับฝ่ายอย่างเขา ไม่มาคลุกคลีกับเราหรอกโชค"
โชคยืนคิดพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้า "โอเค"
อีกฝั่งของห้องที่มีเพียงกำแพงกั้น ร่างสูงยืนล้วงกระเป๋าพิงไหล่อยู่ข้างหน้าต่างภายในห้อง เขายืนฟังทุกอย่างเงียบ ๆ สีหน้าเรียบเฉยไม่มีอาการโกรธเคืองแต่อย่างใด เมื่อบทสนทนาจบลงเขาก็ปิดหน้าต่างที่แง้มไว้และปิดมู่ลี่ลงตามเดิม
พรุ่งนี้ที่ว่ามาถึงไวกว่าที่คิด รู้ตัวอีกทีโชคกับนิ่มก็นั่งอยู่ในห้องคาราโอเกะทั้งชุดทำงาน เพราะวันนี้โชคกับนิ่มและส่วนหนึ่งเลิกเลทไปเกือบชั่วโมง พอเสร็จงานพวกเขาก็ตรงดิ่งมาร้านเหล้าแถวอโศกโดยทันที หลาย ๆ คนที่สะดวกก็กลับบ้านไปเปลี่ยนชุดแต่งหน้าแต่งตามากันค่อนข้างเต็ม โดยเฉพาะสาว ๆ บางคนที่มาในชุดวาบหวิวทำผู้ชายซู๊ดปาก
เนื่องด้วยมาสาย โชคจึงได้นั่งอยู่ในห้องใหญ่ที่มีเหล่าเจ้านายนั่งอยู่ด้วย แน่นอนว่ารวมถึง "เขา"
เวลาผ่านไประยะหนึ่ง จากที่ทุกคนต่างพากันเกร็ง ๆ ตอนนี้ได้ละลายพฤติกรรมกันจนสิ้น ระหว่างที่นั่งกินอาหารอยู่โชคก็พูดคุยเฮฮากับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ที่แวะเวียนมาหาและขอชนแก้ว
แก้วแล้วแก้วเล่า
อย่างที่โชคบอก มาร้านเหล้า ไม่มีทาง ไม่กินเหล้า นิ่มที่ร้องขอให้เขามาเป็นเพื่อน แต่เจ้าตัวนั่งอยู่กับโชครวม ๆ แล้วไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ เจ้าแม่เฟรนด์ลี่อย่างเธอ ไม่มีทางนั่งติดโต๊ะอยู่แล้ว
โน่น ถือไมค์ร้องเพลงอยู่ด้านหน้า
โชคเป็นหนึ่งในส่วนน้อยที่นั่งอยู่กับที่ เขากินไปหลายแก้ว แต่แน่นอนว่าไม่เท่ากับคนอื่น เน้นนั่งโยกและกินกับแกล้ม เขานั่งฟังเพื่อนร่วมงานสามสี่คนในโต๊ะเดียวกันตะโกนคุยแข่งกับเสียงร้องเพลงดัง ๆ พวกเขาพูดเรื่องงานที่เนื้อหาตึงเครียดแต่กลับพากันขำอย่างไม่เข้ากัน นินทาเจ้านาย ทั้ง ๆ ที่เจ้านายที่ว่านั่งอยู่โต๊ะด้านหลัง
อย่างว่า...พวกนี้เมากว่าโชคไปไกลเลยล่ะ
"ผมนะ นั่งทำงานงก..งก เลิกสี่ห้าทุ่มเกือบทุกวันมาสิบ..ไม่ เก้าปี" น้ำเสียงยานคางพูดพลางนับนิ้ว
"ไม่จริงน่า...เอิ้ก"
"จิ๊งงง ไม่เชื่อถามโชคเลย ผมกับเขาเนี่ย เอิ้ก หัวอกเดียวกัน ใช่ไหม!"
ไม่พูดเปล่า มืออวบตบไหล่เขาอย่างไม่ยั้งมือ โชคพยายามเอาตาเบลอ ๆ ของตัวเองมองหน้าคนพูด พอเดาได้ว่าเป็นใครโชคก็พยักหน้ารัว
"ใช่ ๆ คุณนัทกลับดึกเกือบทุกวัน ผมนะ..เคยแอบแข่งอยู่โอทีกับคุณนัทด้วย แต่ยอมแพ้ ๆ"
"ก๊ากก เชื่อแล้ว ๆ"
ทุกคนหัวเราะขำก๊ากหลังได้ยินคำตอบยืนยันของโชค พลันพากันยกแก้วมาชน โชคจิบไปสองสามอึกเล็ก ๆ เพราะแค่นี้เขาก็เมามากแล้ว
"แต่ทำไมตำแหน่งคุณถึงเป็นแค่ออฟฟิศเซอร์อยู่ล่ะ คุณนัท"
หากไม่เมา คำถามนี้อาจจะทำให้ทะเลาะกันได้เลยนะ...
"เหอะ ก็คงเหตุผลเดียวกับโชคอีกนั่นแหละ อะแฮ่ม ก็ไอ้ผู้จัดการน่ะ มันปรับคนจากความสามารถอะไร? จากงานหรือจากเต้า" ประโยคหลัง ๆ เขากระซิบให้ยินกันแค่ในกลุ่ม
"จริงค่ะพี่ อึก...ดานะ ก็ตั้งใจทำงาน แต่สุดท้ายหัวหน้าก็ไม่เห็นค่า เพราะดาไม่สวยเท่าเด็กเขา ฮึก..." หญิงแว่นหนาอยู่ ๆ ก็ร้องไห้ออกมา จนโชคควักทิชชูให้แทบไม่ทัน
"ยังดีที่พอคุณปราญยศมาบริหาร โบนัสปีที่แล้วเลยทำให้ฉันอารมณ์ดีขึ้นมานิดหนึ่ง"
ชื่อของบุคคลที่ทำให้โชคสะท้านดังขึ้นด้วยเสียงที่ไม่เบานัก เขาเหลือบตาไปมองโต๊ะฝั่งตรงข้ามที่ปราญยศกำลังนั่งดื่มเหล้าเพียว ๆ ด้วยท่าทีสบาย ๆ ไม่มีโงนเงน
นิ่มบอกปราญยศจะดื่มเพียงสองสามแก้วเท่านั้นแล้วจะไป ตอนนี้โต๊ะนั้นเปิดบรั่นดีไปหลายกลมแล้ว อีกฝ่ายก็ยังไม่ไปไหนเสียที
โชคเหม่อมองแม้กระทั่งเรียวนิ้วแต่ละนิ้วจับประคองปากแก้วกลมทรงสั้นสำหรับใส่บรั่นดี เนกไทที่มักจะอยู่ชิดคอเสมอ ตอนนี้เลื่อนลงมาถึงอกทำให้คอเสื้อเชิ้ตดำคลายออกพอเห็นกล้ามเนื้อด้านใน กางเกงพอดีตัวฟิตตึงเมื่อนั่ง จนเห็นความนูนเด่นที่กึ่งกลางชัดเจนแม้มองจากสายตาคนที่กำลังเมา โชคสะดุ้งเมื่อพอมองเลื่อนไปถึงใบหน้าหล่อเหลา
พบว่าตัวเองกำลังถูกจ้องกลับเช่นกัน สายตานั้นราวกับจะตรึงโชคไม่ให้ไปไหน เป็นสายตาที่ทำโชคขนลุกชันไปทั่วร่างด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด
โชคกลืนน้ำลายดังอึก ยกแก้วขึ้นดื่ม
อยู่ ๆ คอก็แห้ง ใจมันก็สั่น
แถมตัวยังร้อนแปลก ๆ
'เข้าห้องน้ำไหม'
โชคส่ายหัวช้า ๆ ให้กับเสียงกระซิบ สองมือเรียวลูบใบหน้าตัวเองเพิ่มความอุ่นเมื่อจู่ ๆ แอร์ในห้องก็เย็นขึ้นมา ซ้ำแล้วเขายังรู้สึกหูอื้ออึง เสียงดังภายในห้อง กับเสียงร้องเพลงเพี้ยน ๆ หายไป
'อยากเข้าห้องน้ำไม่ใช่เหรอ?'
งั้นเหรอ?
'ไปสิ'
ขี้เกียจจัง ห้องน้ำอยู่ตั้งไกล
'ปวดฉี่ไม่ใช่เหรอ?'
ไม่มีเพียงเสียงกระซิบ แต่ภายในกางเกงของโชคปวดหนึบ จนโชครู้สึกปวดปัสสาวะขึ้นมาจริง ๆ
''ปวดฉี่"
"อะไรนะ? ไปสิ"
เสียงเพลง พูดคุยในห้องที่เงียบอื้ออึงเมื่อครู่ก็กลับมาดังอีกครั้ง ตากลมมองนัทที่บอกให้เขาลุกไปเข้าห้องน้ำ โชคงงกับตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าแล้วลุกขึ้นฝ่ากลุ่มชนออกจากห้องไป
เขาเดินเซชนคนที่สวนไปมาจนโดนสบถด่าใส่หลายครั้ง
'เดินชิดกำแพงสิ'
"ขอบใจ" โชคพึมพำกับผู้หวังดีที่มาเป็นเพื่อนเขา
คนที่เดินสวนไปหันมองโชคงง ๆ
เมื่อกี้มันคุยกับใครวะ...? เขามองร่างที่เดินไถกับกำแพงอย่างสมเพชก่อนจะส่ายหัวแล้วกลับไปห้องคาราโอเกะของตนเอง
โชคเดินมาถึงห้องน้ำ ขนาดมันใหญ่มากพอที่จะรองรับนักท่องเที่ยวหลายสิบคน แต่ช่วงเวลานี้กลับไม่มีคนมาใช้บริการ
แปลกมากจริง ๆ
'แขวนป้ายสิ'
ป้ายอะไร?
สิ้นความคิด โชคก็หันไปมองป้ายทำความสะอาดที่อยู่ข้าง ๆ ประตูราวกับร่างกายเป็นไปเอง
'เมื่อครู่มันแขวนอยู่ แขวนมันกลับเสียสิ'
งั้นเหรอ...ในที่สุดโชคก็ทำตามอย่างว่าง่าย เขาหยิบมันมาแขวนไว้ที่หน้าประตูก่อนจะเดินเข้าไปด้านในห้องน้ำ
โชคทำตามคำพูดที่ได้ยินทุกอย่าง โดยที่ไม่ทราบที่มาของมันสักนิด
เพราะโชคอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีใครอยู่กับโชค...เลยสักคน
'กำลังทำความสะอาด โปรดใช้บริการชั้นอื่น'
โชคคคคค น้องไปกับใครลูกกกกก
รบกวนกดใจ คอมเม้นต์ กดเพิ่มเข้าชั้น กดติดตามเค้าหน่อยนะคะ เป็นกำลังใจให้หน่อยน้า