ระหว่าง “ผี” กับ “ปราญยศ” อะไรน่ากลัวกว่ากัน? ...ได้ยินมาว่า 'โชคอนันต์' ถูกคนทำเสน่ห์ใส่ล่ะ แถมคุณผู้จัดการหน้าดุก็ชอบทำตัวแปลก ๆ
ชาย-ชาย,รัก,ลึกลับ,อาชญากรรม,ดาร์ค,แซ่บ,นายเอกมึน,พระเอกโหด,พระเอกคลั่งรัก,พระเอกหล่อ,พระเอกหื่น,พระเอกรวย,พระเอกร้าย,พระเอกยันเดเระ,พระเอกขี้หึง,พระเอกขี้หวง,พระเอกครั่งรัก,โหด,รุนแรง,ระทึกขวัญ,20+,18+,อีโรติก,โรมานซ์,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ปราญอาถรรพ์ [END]ระหว่าง “ผี” กับ “ปราญยศ” อะไรน่ากลัวกว่ากัน? ...ได้ยินมาว่า 'โชคอนันต์' ถูกคนทำเสน่ห์ใส่ล่ะ แถมคุณผู้จัดการหน้าดุก็ชอบทำตัวแปลก ๆ
X เนื้อหารุนแรงมาก โปรดอ่านคำเตือนโดยละเอียด X
- ปราญอาถรรพ์ -
โชคอนันต์ผู้ที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายมาเกือบสามสิบปี จู่ ๆ ก็โดนผีตามรังควาน ถึงขั้นถูกทักว่า "โดนของ"
ชีวิตก็บัดซบพออยู่แล้วแท้ ๆ แต่ทำไมเดี๋ยวนี้ผู้จัดการฝ่ายอย่าง 'ปราญยศ' ที่โชคนั้นหลบเลี่ยงและเกรงกลัวนักหนา ถึงได้มาวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ สร้างความกดดันตลอดเวลา แถมยังล่วงรู้เรื่องที่โชคนั้นเห็นผีอีก ทว่าอีกฝ่ายกลับทำให้เหล่าผีร้ายพวกนั้นหลบเลี่ยงอย่างหวาดกลัว
หนทางแห่งแสงสว่างได้ปรากฏ ปราญยศจะทำให้โชคไม่ต้องเห็นผีอีกต่อไป โชคอนันต์ต้องยอมร้องขอความช่วยเหลือจากปราญยศ ผู้ซึ่งน่ากลัวกว่าผีเสียอีก!
"ผู้จัดการช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ" - โชคอนันต์
"ผมจะได้อะไร?"
"ตามที่ผู้จัดการต้องการครับ"
โชคมองรอยยิ้มมุมปากที่ไม่ทราบเหตุผลของปราญยศ...มันดูเจ้าเล่ห์หรือเปล่านะ?
--------------------------------
"...ผมจะไม่มาทำโอทีในวันพรุ่งนี้ครับ" - โชคอนันต์
"บอกเหตุผลที่ดีมาสักข้อ"
"ผะ ผมจะไปแก้ของครับ"
--------------------------------
"คุณปราญยศ เมื่อคืนคุณไปไหนมา?" - โชคอนันต์
"ผมก็อยู่กับคุณไง"
"โกหก..." - โชคอนันต์
"ถ้าไม่อยู่บ้าน ผมจะอยู่ไหนกันนะ?"
"สายตาของคุณ เหมือนมันมีคำตอบอยู่แล้วเลย..."
"คุณคิดว่าผมเป็นฆาตกรด้วยหรือเปล่า หืม?"
- ปราญยศ -
เรื่อง : ปราญอาถรรพ์
ผู้เขียน : จูฮาราห์ (Juharah)
สำเร็จเมื่อ : 24/12/2023
สถานะ : จบแล้ว 15/03/2024
Chapter 10 "1313"
กริ๊งงง
เสียงคุ้นหูดังขึ้นตามเวลาเดิมในตอนหกโมงเช้า ถึงแม้ว่าวันนี้จะเป็นวันเสาร์ก็ตาม
โชคลืมตาขึ้นในทันที สีหน้ามีอาการตกใจราวกับเพิ่งตื่นจากฝันร้าย เสียงถอนหายใจดังลั่นที่พบว่าเหตุการณ์วาบหวิวกับคนที่เขากลัวมันเป็นเพียงแค่ฝันเท่านั้น
แต่เดี๋ยวก่อน...
โชคว่าเพดานห้องมันแปลกตาไป จากนั้นคำว่าฉิบหายก็ดังลั่นในหัวเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า นี่ราวกับละครหลังข่าวที่นางเอกเมาแล้วตื่นมาในห้องของพระเอก?
แต่ยังโชคดีที่ว่านี่ไม่ใช่ห้องของคนที่เขานึกกลัว มันคือห้องพักที่ทางร้านคาราโอเกะมีไว้บริการ โชคยังคงอยู่ในชุดทำงานหลุดลุ่ยของเมื่อวาน ทรงผมยุ่งเหยิงพอ ๆ กับสีหน้าของโชคในตอนนี้ เขายืนใช้ความคิดและความจำขั้นสูงในการนึกว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
เรื่องเมื่อคืนมันเลือนรางจนเขาแยกไม่ออกว่าฝันหรือไม่
โชคกุมขมับเรียบเรียงเหตุการณ์ทุกอย่างในตอนที่เขาปวดหัวแทบจะระเบิด เนื่องจากอาการเมาค้าง จนในที่สุดโชคก็จดจำทุกอย่างได้ อาจจะใช้เวลาสักหน่อยในการแยกแยะว่าสิ่งใดคือความฝันและสิ่งใดคือความจริง แต่นี่ไม่ใช่ละครที่เขาตื่นมาแล้วจะลืมทุกอย่าง
กลับกัน โชคจำได้ทุกอย่าง...
ทั้งเรื่องวาบหวิวที่ทำเอาโชคหน้าซีด
แม้กระทั่งเรื่องน่าสยดสยอง
โชคเปิดประตูเดินเข้าออฟฟิศมาด้วยสภาพราวกับซอมบี้ในตอน 10 โมงเช้า ภายในออฟฟิศเงียบสงัด ไร้เสียงพูดคุย มีเสียงแป้นพิมพ์เบา ๆ จากโต๊ะสองถึงสามโต๊ะเท่านั้น
มันคือวันเดียวกัน...ใช่ โชคมาทำโอทีวันเสาร์
"มาด้วยเหรอคุณโชค" นัทโผล่หัวออกมาจากโต๊ะตัวเองด้วยสภาพที่อิดโรยไม่ต่างกับโชค อาจจะหนักกว่าเสียด้วยซ้ำ
"ครับ มีงานต้องส่งวันจันทร์" โชคตอบยิ้มฝืน ๆ แค่ยกแก้มเพื่อยิ้มก็เหนื่อยแล้ว งานของโชคมันทำไปได้ประมาณ 80% เขาคิดว่าสักบ่ายโมงก็น่าจะเสร็จแล้ว โชคจะกลับไปนอนต่อแบบจุก ๆ
"ผมว่าจะกลับแล้วล่ะ ฝืนต่อไม่ไหว สู้ ๆ นะคุณโชค" นัทพาร่างอวบตัวเองลุกขึ้น เขาสะพายกระเป๋าเป้สีขาวแขวนตุ๊กตาน่ารักขัดกับเจ้าตัว แล้วเดินผ่านโชคออกจากห้องไปอย่างเลื่อนลอย โชคหันหัวมองตามนัทไปเรื่อย ๆ จนอีกฝ่ายออกจากห้องไปครู่ใหญ่แล้วโชคถึงค่อย ๆ หันมาแล้วพาร่างไปที่โต๊ะตัวเอง
แม้แต่โชคเองก็ยังเลื่อนลอย...
โชคนั่งลงบนเก้าอี้ที่ยังมีเบาะนุ่มวางอยู่ที่เดิมป้องกันอาการเจ็บก้นกบที่ยังเหลืออยู่ เอื้อมมือเรียวไปกดปุ่มเปิดคอมพิวเตอร์อย่างเกียจคร้าน เบาะรองนั่งที่พอมันนุ่มมาก ๆ จึงทำให้นั่งสบาย ทำเอาหนังตาโชคหนักอึ้งขึ้นมาหน่วง ๆ โชคหลับตาพริ้มและสติหายไปในทันที โดยที่คอมพิวเตอร์ยังเปิดไม่ทันเสร็จเลยด้วยซ้ำ
ความรู้สึกอุ่นวาบไปทั่วร่างราวกับถูกโอบกอดคือสิ่งที่โชคยังพอรู้สึกได้ มันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกสงสัยอย่างใด ซ้ำยังชอบ เพราะมันให้ความรู้สึกสบายในห้องเย็นฉ่ำ
"..ชค"
"คุณโชค!"
โชคลืมตาพรึบ เขามองหญิงสาวหน้าตาสะสวย เธอก้มตัวเล็กน้อยเพื่อเอื้อมมือมาเขย่าแขนเขา โชคมองใบหน้าอีกฝ่ายงง ๆ
เขาเคยเห็นหน้า รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นพนักงานแผนกอื่นที่อยู่ในออฟฟิศเดียวกัน แต่ไม่รู้จักชื่อ โชคขยับตัวขึ้นนั่ง เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองนอนฟุบไปกับโต๊ะ รู้สึกเหมือนนอนไปแป๊บเดียวเท่านั้น
"จะบ่ายโมงแล้ว ไปกินข้าวกันไหม?"
"อ่า งั้นเหรอครับ"
ไม่แป๊บ...โชคนอนไปตั้ง 3 ชั่วโมง แต่กลับไม่รู้สึกสดชื่นเลยสักนิด โชคลูบหน้าตัวเองเรียกสติ แต่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองยังไม่ตอบคำถาม
"ไปไหม?" เธอถามซ้ำอย่างไม่มีความรู้สึกพิเศษอะไร
"ครับ ๆ" โชคพยักหน้าแล้วลุกขึ้นเดินตามเธอไป
ตอนนี้โชคกำลังนั่งกินข้าวกับเพื่อนร่วมออฟฟิศอย่างงง ๆ ที่เขารู้ทีหลังว่าเธอชื่อโบ เธอนั่งเคี้ยวข้าวจนแก้มตุ้ย พูดคุยกับเขาไปพลาง ๆ
"อิจฉาจัง มีผู้จัดการฝ่ายกระเป๋าหนัก แผนกโบนะ ไปเลี้ยงเคเอฟซีเฉย ๆ เอง"
"เอ่อ แหะ ก็ดีอยู่"
โชคยิ้มฝืน ๆ ทำไมช่วงนี้รอบตัวเขาถึงมีแต่คนพูดถึงผู้จัดการฝ่ายบ้าง ปราญยศบ้าง ยิ่งได้ยินโชคยิ่งใจเต้น ความหวั่นไหวก่อตัว...
หวั่นไหวว่าจะโดนไล่ออก...
ก็เขาไปทำงามหน้าไว้เยอะเลย
ราวกับภูเขาแห่งความกังวลอันแสนหนักอึ้งกำลังถล่มทับที่ตัวทันทีที่คิดถึงเรื่องนั้น
"แต่ก็อย่างว่าแหละ ผลงานโดดเด่นมาก ที่จ่ายไปคงแค่เศษเงินล่ะนะ"
"ดีมากจริง ๆ แหละครับ ดูจากกราฟแล้ว น่าจะบวกเกือบ 60% ในไตรมาสที่สอง" โชคนึกถึงกราฟที่ตัวเองนั่งทำแล้ววิเคราะห์กลางอากาศ โบมองโชคนิ่ง ๆ ขณะกินข้าวไปด้วย
"คุณโชคนี่ไม่ควรเป็นแค่พนักงานออฟฟิศเฉย ๆ นะคะ" โบพูดอย่างมีนัย เธอเห็นความคิดอันกว้างไกลและความช่างสังเกต เก็บข้อมูลละเอียดยิบของโชค
"ผมก็ไม่อยากเป็นเหมือนกันนั่นแหละครับ แหะ ๆ" โชคว่าพลางตักข้าวต้มแก้เมาค้างเข้าปาก
"หูยย รถสวยจัง" โบพูด ตาเป็นประกายมองข้ามหัวไหล่โชคไป
โชคมองตามสายตานั้นไปยังรถทรงสปอร์ตยี่ห้อห่วงสี่เส้นคล้องกัน ที่กำลังจอดติดไฟแดงอยู่ โชคไม่ได้มีความรู้เรื่องรถเท่าไหร่ แต่เขาก็พอรู้อยู่ว่าโลโก้นี้ราคาค่อนข้างสูง สักพักรถก็ออกตัวเมื่อไฟเขียว
โชคมองผ่านกระจกที่ไม่ได้ติดฟิล์มดำเท่าไหร่นักอย่างอยากรู้อยากเห็น เผื่อจะเป็นดาราสักคนที่อยู่แถวนี้ ทว่าโชคกลับสบตากับเจ้าของรถที่จ้องเขาอยู่ก่อนแล้ว
"อืมม 1313 เหรอ ทะเบียนคุ้น ๆ นะ คนในบริษัทเราหรือเปล่านะ อ้อ ใช่!"
ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ยังไงล่ะ
"คุณปราญยศ! ขับคันนี้เองเหรอเนี่ย ได้ยินแต่คนเขาลือว่าผู้จัดการฝ่าย ทะเบียนรถไม่เป็นมงคล ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ 1313 เนี่ยนะ?" โบพูดงึมงำ ๆ
แกร้ง!
ช้อนโชคตกลงบนชามข้าวต้ม เขาอ้าปากค้างเล็ก ๆ มองตามรถหรูเลี้ยวเข้าไปในบริษัท
เขามาทำอะไรที่บริษัทวันเสาร์!?
"คุณโชค เลอะหมดเลย!"
ระ หรือจะมายื่นซองขาวให้เขา!
โชคไม่สนใจโบที่ดึงทิชชูออกมาเช็ดโต๊ะ คำถามเต็มหัวโชคไปหมดว่าเพราะอะไรเขาถึงเห็นผู้จัดการฝ่ายของตัวเองเดินทางมาบริษัท ด้วยชุดทำงานเต็มยศในวันเสาร์ ที่ไม่มีผู้บริหารคนไหนมาสักคนเดียว หรือว่าโชคจะตาฝาด ขอให้เป็นแบบนั้นทีเถอะ!
"คุณโบ...จะกลับเข้าออฟฟิศไหมครับ?"
"ไม่ค่ะ งานโบเสร็จแล้ว เอ่อ คุณโชคกลับพร้อมกันไหม?" โบมองสีหน้าจะร้องไห้ของโชคอย่างฉงน
"ผม...ไม่ได้เอาของลงมาน่ะครับ"
และงานเขายังไม่เสร็จ
"โบรอข้างล่างได้นะคะ ให้ไปส่งไหม" เธอแกว่งกุญแจในมือ
"ไม่เป็นไรล่ะครับ พอดีผมต้องรีบเคลียร์งานต่อ"
"งั้นรีบกินข้าวเถอะค่ะ" โบมองชามข้าวต้มที่พร่องไปครึ่งเดียว ในขณะที่ของเธอเรียบร้อยแล้ว
"กินไม่ลงแล้วครับ เอ่อ คิดเงินเลยครับ"
โชคกลับขึ้นมาที่ออฟฟิศหลังจากไปส่งโบที่รถยนต์ของเธอเอง ตอนนี้ในออฟฟิศยังคงมีคนนั่งทำงานอยู่บ้าง แต่ไม่ถึงสิบคน เสียงแป้นพิมพ์ เสียงหน้ากระดาษและเครื่องพิมพ์ทำให้ไม่เงียบจนเกินไป โชคมานั่งที่โต๊ะ พลางเหลือบตามองไปยังห้องผู้จัดการฝ่ายที่อยู่เยื้องไป วันนี้อีกฝ่ายไม่ได้ปิดมู่ลี่สนิทเหมือนทุกที จึงทำให้โชคเห็นว่าปราญยศกำลังนั่งอ่านเอกสารด้วยสีหน้าจริงจัง
โชคถอนหายใจ ยกอเมริกาโน่ที่แวะซื้อขึ้นมาดูดความขมเข้าปากไปหลายอึก หันมาสนใจงานที่เหลือของตัวเอง เขาอยากรีบกลับห้องแล้ว...
ขณะที่นั่งทำงาน โชคได้รับอีเมลแจ้งเตือนพร้อมไฟล์แนบคุ้นตา เพราะมันเป็นไฟล์สรุปงานที่โชคทำเอง
'กรุณาแก้ไขไฟล์ตามที่คอมเมนต์
...ปราญยศ'
โชคนั่งนิ่งไปครู่ใหญ่ เขามองเข้าไปในห้องเจ้าของอีเมลที่นั่งหน้านิ่งจริงจัง ปกติเขาจะได้รับงานจากผู้จัดการแผนก เขาไม่เคยได้รับอีเมลโดยตรงจากปราญยศมาก่อน เพราะความที่ตำแหน่งต่ำกว่าหลายขั้น
เมื่อเปิดเข้าไปยังไฟล์ที่ปราญยศคอมเมนต์ ก็ทำเอาโชคใจแป้ว
โชคคิดมาตลอดว่าตนเองทำงานค่อนข้างละเอียดและเรียบร้อย แต่ปราญยศนั้นยิ่งกว่าหลายเท่า คนตัวใหญ่ติเรื่องการใช้คำ เพิ่มบทสรุปที่ลงตัวให้เข้าใจง่าย หรือแม้กระทั่งเฉดสีที่เขาแจ้งมาว่ามันทำให้อ่านแล้วรู้สึกไม่เอนจอย
Perfectionist ตัวพ่อเลยนี่นา...(คนที่เสพติดความสมบูรณ์)
โชครีบเร่งจัดการแก้ไขงานของปราญยศที่ส่งมาก่อนด้วยความรวดเร็วภายในหนึ่งชั่วโมง เขาทบทวนไฟล์อีกสองสามรอบเพื่อให้มั่นใจ ว่าไม่มีส่วนใดผิดพลาดอีก โชคตอบกลับอีเมลเดิมพร้อมแนบไฟล์ฉบับใหม่ส่งไปให้
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง
เสียงโทรศัพท์ประจำโต๊ะดังลั่นออฟฟิศ โชคจึงรีบเอื้อมมือไปยกหูขึ้นรับ
"สวัสดีครับ"
"มาหาผมที่ห้อง"
โชคชะงัก เขาหันไปมองปราญยศในห้อง อีกฝ่ายกำลังต่อสายตรงถึงเขาผ่านโทรศัพท์สำนักงาน
"...ครับ"
โชควางหูแล้วเดินตรงไปทางห้องทำงานดังกล่าว พอเข้าไปในห้องผิวกายก็สัมผัสได้ถึงแอร์ที่เย็นเฉียบกว่าด้านนอกหลายองศา โชคมองปราญยศที่ยืนหันหลังให้เขาอยู่ด้านหน้าโต๊ะตัวเอง อีกฝ่ายเดินไปปิดหน้าต่างมู่ลี่ไม่ให้คนด้านนอกมองเข้ามา โชคจึงรักษาระยะห่างอย่างจงใจ เขายังคงยืนเกือบชิดประตู
จอทีวีหลายสิบนิ้วกำลังฉายสไลด์งานที่เขาเพิ่งส่งให้อีกฝ่ายไป ปราญยศหันไปมองที่จอโดยไม่สนใจโชค นั่นยิ่งทำให้โชคหวั่นใจกับท่าทีเมินเฉยราวกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมันเป็นเรื่องปกติที่ไม่แปลกอะไร
"คุณช่วยอธิบายให้ผมฟังที"
น้ำเสียงทุ้มเย็นกล่าว พร้อมยื่นรีโมทบูทูธสำหรับเปลี่ยนสไลด์มาให้
โชคเอื้อมแขนยาวไปหยิบมัน แอบสบถในใจเพราะมือเขาสั่นยิ่งกว่าอะไร แล้วโชคก็ก้าวขากลับไปอยู่จุดเดิม
"พรีเซนต์อันนี้คือสรุป..."
"ขยับเข้ามาอีก ผมไม่ได้ยิน"
โชคนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะขยับตามคำสั่ง
"มายืนตรงนี้"
นิ้วเรียวยาวชี้ไปยังหน้าทีวีที่ห่างกับเจ้าของร่างสูงไม่ถึงเมตร
"..." โชคยังคงนิ่ง ใจเขาอยากเถียงว่า ห้องก็เล็กแค่นี้ จะไม่ได้ยินได้อย่างไร อีกฝ่ายกำลังแกล้งโชคอยู่หรือเปล่า...
"จะมัวกลัวอะไร..." ปราญยศกล่าวเสียงเรียบ เขาสบตากับคนตัวสั่นราวกับจะมองให้เข้าไปถึงความคิด "เมื่อคืนคุณยังไม่กลัว ในตอนที่กระชากคอเสื้อผมลงไป.."
"ครับ! มาแล้วครับ" โชคตอบรับรวดเร็วไม่รอให้คนเป็นบอสพูดจบ อีกอย่างโชคไม่ได้กระชากคอเสื้ออีกฝ่ายสักหน่อย
เนกไทต่างหาก...
"งั้นผมขอเริ่มอธิบาย..."
โชคไม่ปล่อยให้มีช่องว่างในการเกิดคำถามเรื่องเมื่อคืน เขาร่ายคำพูดขณะอ่านสไลด์ที่ตนเองทำ มีบางช่วงสะดุดไปบ้างเพราะเขาโดนคำถามจากปราญยศที่ค่อนข้างลึกและใช้การวิเคราะห์ขั้นสูง มีบ้างที่โชคตอบไม่ได้ แต่สุดท้ายแล้วปราญยศก็จะไกด์ไลน์คำตอบให้โชคได้รู้ โชคใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงกว่าจะบรรยายจบ ทำเอาเขาคอแห้งเสียงเปลี่ยนไปเล็กน้อย
"อืม สไลด์ที่ต้องนำขึ้นประชุมในวันจันทร์ ช่วยทำให้ดีด้วย"
ปราญยศหมายถึงงานที่ทำให้โชคต้องมาทำโอทีให้ได้ในวันนี้ ซึ่งดูเหมือนว่าโชคน่าจะได้กลับบ้านหนึ่งทุ่ม เพราะคงต้องปรับแก้ไขเยอะทีเดียว
"ครั..อะแฮ่ม ครับ" โชคกระแอมเพราะคอของเขามันเหนียวจนเสียงที่เปล่งไปแหบพร่า
ปราญยศเอื้อมไปหยิบขวดน้ำที่ตั้งอยู่บนโต๊ะส่งให้โชค โดยที่อีกฝ่ายยื่นแขนออกมาเพียงสั้น ๆ เท่านั้น และปราญยศยืนพิงโต๊ะรอโชคเข้าไปหา
โชคชะงักค้างมองที่ขวดนั้นไม่เดินเข้าไปรับ เขาจะไม่ปฏิเสธเลย หากมันไม่ใช่ขวดที่เปิดดื่มแล้ว
"ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณ"
"คุณรังเกียจ?"
น้ำเสียงทุ้มติดจะดุของปราญยศทำให้โชคหวั่นผวาไม่ทราบสาเหตุ เขาจะปฏิเสธอีกรอบก็ได้ มันไม่ใช่เรื่องแปลก แต่กลายเป็นว่าโชคกลับเดินเข้าไปหาแล้วรับขวดน้ำมาไว้
ด้วยระยะห่างที่เหลือน้อยทำให้โชคสังเกตเห็นได้ว่า ที่ริมฝีปากล่างของปราญยศมันแตกจนเป็นจ้ำเลือดแดง เหตุการณ์เมื่อคืนที่โชคพยายามกัดปากอีกฝ่ายเพราะความนุ่มนิ่มคล้ายขนมที่ชอบ ปราญยศรู้ตัวและหลบออก...แต่ดูเหมือนจะไม่ทันเท่าไหร่
โชคหน้าแดงจนรู้สึกได้ เขารีบเปิดขวดและยกดื่มเสียงดังอึกอย่างกลบเกลื่อน พลันเอะใจเมื่อรสชาติน้ำมันค่อนข้างแปลก
สงสัยเป็นกลิ่นพลาสติกหรือไม่ก็เป็นรสของน้ำแร่...
ปราญยศจับจ้องริมฝีปากอิ่มที่ดูอวบขึ้นมาเล็กน้อยจากการโดนใช้งานหนัก... ตาคมมองหยดน้ำทุกหยดที่ไหลลงคอขาว สังเกตจากลูกกระเดือกที่เคลื่อนไหวขึ้นลงเป็นจังหวะ จนกระทั่งหยดสุดท้ายถูกกลืนกินลงไป
"หมดแล้วครับ" โชคกล่าวพร้อมชูขวดให้ปราญยศดู ท่าทางคล้ายนักเรียนประถมที่กลัวโดนคุณครูดุว่ากินข้าวไม่หมด ถึงแม้ว่ารสชาติจะไม่ถูกใจเขาเสียเลย
โชคทำท่าจะเดินถอยออกไป แต่เขากลับถูกคว้าเอวไว้โดยอีกคน โชคมีท่าทางตกใจและขัดขืนในทันทีกับท่าทางที่เหมือนถูกโอบกอดโดยผู้ชายตัวใหญ่เหมือนหมีขาว (?)
"เป็นไงบ้าง?"
"รบกวนปล่อยก่อนครั..."
"ผมถามว่าเป็นไงบ้าง?"
โชคตื่นกลัวกับน้ำเสียงดุดันนั้นจนแทบร้องไห้ เขาหยุดนิ่งมองไปยังเนกไทลายทางไม่สบตากับอีกคนอย่างจงใจหลบเลี่ยง ใจขณะที่พยายามงัดมือที่ยึดช่วงบั้นเอวเขาไว้
"หมายถึง..."
"หายแฮงค์หรือยัง?"
ไม่พูดเปล่า เหมือนมือใหญ่แข็งแรงพยายามจะดึงตัวโชคเข้าไปชิดกว่าเดิมจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ปะทะใบหูทำเอาขนลุกขนชัน
"เหลือป..ปวดหัวนิดหน่อย เดี๋ยวครับ!" โชคดันอกอีกฝ่ายให้ถอยห่าง เมื่อครู่จมูกเขาแทบจมอกแน่นของปราญยศแล้ว กลิ่นหอมของโคโลญจน์ไม่ได้ทำให้เขาเคลิ้มเลยสักนิด
"ไม่รู้ตัวเลยเหรอ"
"?" โชคงงกับข้อความที่อีกฝ่ายกระซิบบอก แต่ปราญยศโอบเขาให้ขยับตัวเล็กน้อย โชคจึงมองเห็นเงาสะท้อนของตนเองผ่านกระจกตู้แฟ้มเอกสารอย่างเลี่ยงไม่ได้
โชคตัวแข็งค้าง เขามองบางสิ่งที่อยู่ด้านหลังเขาผ่านภาพสะท้อน เงาดำทมิฬที่เคยเห็นในฝันร้ายที่สุดในชีวิตของโชค มันยืนอยู่ด้านหลังเขานิ่ง ๆ ห่างออกไปประมาณหนึ่ง ร่างกายของมันแกร่งกำยำ แม้ว่าจะมองไม่ชัดแต่มันก็ดูแข็งแรงแกร่งกล้าไม่น้อย ด้านหลังมันพ่วงไปด้วยเงาดำอีกสองตนที่เหมือนลูกกระจ๊อก โชคไม่อาจมองนานได้ เขาเบือนหน้าหนีอย่างรวดเร็วและเป็นฝ่ายขยับเข้าหาปราญยศจนแนบชิด บังคับให้อีกฝ่ายทิ้งตัวพิงขอบโต๊ะอย่างห้ามไม่ได้ ถ้าสิงได้โชคสิงแล้ว
ภาพที่โชคเห็นเมื่อกี้ พวกผีสมุนมันยืนห่างเขามาก ๆ แถมยังตัวสั่นน้อย ๆ ราวกับกลัวบางอย่าง
มันกลัวปราญยศ...
"ทำไมไม่ตอบ?" น้ำเสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหู ไม่มีท่าทีหวาดกลัวใด ๆ
"..."
"หรือเรื่องของผมมันทำให้คุณไม่สังเกตถึงพวกมันเลย?"
*เคาะราคาประมูลป้ายทะเบียนอิพี่มันกันค่ะ เริ่ม!
(1) ขอยาดขำนะคะ มันต้องแมวเด็กปลอบหมาใหญ่อะป่าว อนาคตนี้หมาตัวโตๆเลยนะ หมาแบบหม๊าาาาา 55555
(2) ฉันคุยคนเดียวใน X เก่งมาก เหมียนเด็กหัดรีวิวนิยาย แต่นิยายตัวเอง เจอกันสถานีถัดไป ต๊อกต๊อก (tiktok)
รบกวนกดใจ คอมเม้นต์ กดเพิ่มเข้าชั้น กดติดตามเค้าหน่อยนะคะ เป็นกำลังใจให้หน่อยน้า