ระหว่าง “ผี” กับ “ปราญยศ” อะไรน่ากลัวกว่ากัน? ...ได้ยินมาว่า 'โชคอนันต์' ถูกคนทำเสน่ห์ใส่ล่ะ แถมคุณผู้จัดการหน้าดุก็ชอบทำตัวแปลก ๆ
ชาย-ชาย,รัก,ลึกลับ,อาชญากรรม,ดาร์ค,แซ่บ,นายเอกมึน,พระเอกโหด,พระเอกคลั่งรัก,พระเอกหล่อ,พระเอกหื่น,พระเอกรวย,พระเอกร้าย,พระเอกยันเดเระ,พระเอกขี้หึง,พระเอกขี้หวง,พระเอกครั่งรัก,โหด,รุนแรง,ระทึกขวัญ,20+,18+,อีโรติก,โรมานซ์,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ปราญอาถรรพ์ [END]ระหว่าง “ผี” กับ “ปราญยศ” อะไรน่ากลัวกว่ากัน? ...ได้ยินมาว่า 'โชคอนันต์' ถูกคนทำเสน่ห์ใส่ล่ะ แถมคุณผู้จัดการหน้าดุก็ชอบทำตัวแปลก ๆ
X เนื้อหารุนแรงมาก โปรดอ่านคำเตือนโดยละเอียด X
- ปราญอาถรรพ์ -
โชคอนันต์ผู้ที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายมาเกือบสามสิบปี จู่ ๆ ก็โดนผีตามรังควาน ถึงขั้นถูกทักว่า "โดนของ"
ชีวิตก็บัดซบพออยู่แล้วแท้ ๆ แต่ทำไมเดี๋ยวนี้ผู้จัดการฝ่ายอย่าง 'ปราญยศ' ที่โชคนั้นหลบเลี่ยงและเกรงกลัวนักหนา ถึงได้มาวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ สร้างความกดดันตลอดเวลา แถมยังล่วงรู้เรื่องที่โชคนั้นเห็นผีอีก ทว่าอีกฝ่ายกลับทำให้เหล่าผีร้ายพวกนั้นหลบเลี่ยงอย่างหวาดกลัว
หนทางแห่งแสงสว่างได้ปรากฏ ปราญยศจะทำให้โชคไม่ต้องเห็นผีอีกต่อไป โชคอนันต์ต้องยอมร้องขอความช่วยเหลือจากปราญยศ ผู้ซึ่งน่ากลัวกว่าผีเสียอีก!
"ผู้จัดการช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ" - โชคอนันต์
"ผมจะได้อะไร?"
"ตามที่ผู้จัดการต้องการครับ"
โชคมองรอยยิ้มมุมปากที่ไม่ทราบเหตุผลของปราญยศ...มันดูเจ้าเล่ห์หรือเปล่านะ?
--------------------------------
"...ผมจะไม่มาทำโอทีในวันพรุ่งนี้ครับ" - โชคอนันต์
"บอกเหตุผลที่ดีมาสักข้อ"
"ผะ ผมจะไปแก้ของครับ"
--------------------------------
"คุณปราญยศ เมื่อคืนคุณไปไหนมา?" - โชคอนันต์
"ผมก็อยู่กับคุณไง"
"โกหก..." - โชคอนันต์
"ถ้าไม่อยู่บ้าน ผมจะอยู่ไหนกันนะ?"
"สายตาของคุณ เหมือนมันมีคำตอบอยู่แล้วเลย..."
"คุณคิดว่าผมเป็นฆาตกรด้วยหรือเปล่า หืม?"
- ปราญยศ -
เรื่อง : ปราญอาถรรพ์
ผู้เขียน : จูฮาราห์ (Juharah)
สำเร็จเมื่อ : 24/12/2023
สถานะ : จบแล้ว 15/03/2024
Chapter 12 "ที่พึ่งของผู้ตกยาก"
Warning ⚠️ :: "เนื้อหาในตอนนี้มีส่วนค่อนข้างละเอียดอ่อน ในเชิงลบหลู่ความเชื่อ ความศรัทธาและศาสนา โปรดใช้วิจารณญาณและอยู่ในฐานของเรื่องที่แต่งขึ้นมา" ...Juharah
CHAPTER 12 "ที่พึ่งของผู้ตกยาก"
"พอ...หยุด"
โชคยืนเอามือค้ำกำแพงก้มหน้า เขามองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น แต่เดาได้ว่าตอนนี้น้ำตาของเขากำลังหยดลงพื้นหยดแล้วหยดเล่า ช่องทางด้านหลังของเขาถูกมันใช้นิ้วเย็นยะเยือกดึงเข้าออกไม่หยุด และทวีความเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ลำคอของโชคถูกซุกไซ้ ซ้ำยังถูกขบกัดจนรู้สึกเจ็บในบางจุดที่มันเลื่อนผ่านเพราะฟันแหลมคมเย็นเยียบนั้น จนกระทั่งสัมผัสได้ถึงความแข็งเย็นที่จ่อกับนิ้วที่รูดรั้งในช่องทาง
"ไม่นะ..."
โชคดิ้นพล่าน นิ้วเย็นนั้นดึงออกไปแล้ว แต่ช่องทางด้านหลังของโชคถูกจ่อด้วยบางสิ่งที่ทั้งแข็งและเย็น ถูกแตะเล็กน้อย โชคก็นึกถึงภาพที่เหล่าภูตผีหลีกหนีหวาดกลัวต่อเสียงและสายตาของปราญยศ ทั้งจากที่โชคเห็นในห้องน้ำคาราโอเกะหรือแม้แต่ที่ห้องทำงานวันนี้
"ผู้จัดการ...ฮึก"
"..."
"คุณปราญยศ.." โชคเรียกชื่อคนที่เขากำลังคิดถึงเสียงสะอื้น ราวกับว่าถ้าเรียกแล้วอีกฝ่ายจะมาอยู่ตรงนี้แล้วไล่มันให้เขา ซึ่งมันไม่มีทางเป็นไปได้
แต่ทว่า ราวกับได้ผล...
โชคชะงักไปพร้อมกับสิ่งที่อยู่ด้านหลัง มันหยุดการกระทำของตนเองราวกับตกใจที่เขาเอ่ยชื่อผู้จัดการฝ่าย โชคใจเต้นระส่ำราวกับค้นพบทางรอด
"คุณปราญยศ"
'...'
"คุณปราญยศช่วยด้วย"
'หึ'
"..."
'แม่ง!'
โชคได้ยินเสียงสบถบวกกับพ่นลมหายใจหัวเราะ แต่เป็นเสียงหัวเราะที่หงุดหงิดไม่น้อย โชคเองที่ราวกับดวงตาเพิ่งปรับตัวกับความมืดได้ เขาเริ่มมองเห็นห้องน้ำเลือนราง ไม่นานก็สามารถมองเห็นแสงสว่างจากไฟนีออนได้อย่างปกติ
โชคยืนนิ่งใจเต้นแรงอยู่หลายนาทีจนเขาสัมผัสได้ว่ามันเงียบแปลก ๆ โชคจึงค่อยหันหน้าไปมองด้านหลัง
ว่างเปล่า...
เหลือเพียงความรู้สึกที่ช่องทางด้านหลังของโชคมันวูบไหวเล็กน้อย เพราะถูกสัมผัสก่อนหน้านี้ ถึงจะแค่แตะก็ตาม...
เกือบไปแล้ว
คราวนี้โชคหันกลับไปทั้งตัว พอได้สติเขารีบวิ่งออกจากห้องน้ำด้วยสภาพเปลือยเปล่า
"น้อง"
"..."
"น้องตื่น! ไปทำงาน"
โชคผวาเฮือกลุกขึ้นจากเสื่อที่ซื้อมาปูพื้นนอน เขาหันมองไปยังชายวัยกลางที่หน้าตาไปก่อนอายุจากการทำงานตากแดดตากลม รปภ.ผละมือออกจากหัวไหล่ของโชค
"กี่โมงแล้วครับ" โชคถามงัวเงีย
"ตีห้าครึ่ง"
โชคพยักหน้าหงึกหงัก เขาลุกขึ้นหอบเสื่อและหมอนมาถือไว้
"ไม่รู้ว่าเจออะไรมานะ แต่ไปนอนวัดเถอะน้อง"
ปัง!
โชคมองลุงยามที่ปิดประตูป้อมใส่หน้าเขาเสียงดังอย่างไม่พอใจ เพราะเขามาขออาศัยนอนด้วยสองคืนติดกันแล้ว
"โชค ผู้จัดการเรียก"
"ผู้จัดการคนไหน?" โชคหันไปถามนิ่มอย่างหวาด ๆ ช่วงนี้เขามีเรื่องกับผู้จัดการฝ่ายหลายเรื่อง หากเป็นเมื่อก่อนโชคคงไม่ถามกลับเช่นนี้
"ถามแปลก ก็ผู้จัดการโต้งไง" นิ่มขำเล็กน้อย มองหน้าซีดของโชคตัดกับขอบตาที่ดำคล้ำ โชคดูแปลกไปมาก ไหนจะเรื่องที่พักหลังมานี้ไม่ทักแชตมาคุยกับเธอเหมือนทุกที สงสัยงานเยอะ...
"โอเค" โชคพยักหน้ารับเพลีย ๆ
"แล้วนี่หอบเสื้อผ้าจะไปไหน" นิ่มถาม มองกระเป๋าลากขนาดกลางที่ตั้งอยู่ข้างโต๊ะ
"อ๋อ" โชคมองตามแล้วตอบเสียงเอื่อย
"เราจะไปนอนวัดน่ะ"
โชคเดินไปหาผู้จัดการที่โต๊ะ เพื่อรับคำสั่งด่วนให้ไปพรีเซนต์งานที่โชคพากเพียรนั่งทำอย่างตั้งใจ ถึงจะแอบมีคำถามในใจว่าทำไมผู้จัดการถึงต้องสั่งงานเขาด้วยท่าทางไม่พอใจ และทิ้งคำพูดมาดร้าย
'อย่าไปทำตัวเหลอหลาให้อับอายล่ะ และนำเสนองานให้ดี อย่าให้มีคำติเตียนมาถึงผม'
โชครับคำสั่งมาอย่างงง ๆ เขาเข้าห้องประชุม พบเจอเหล่าผู้จัดการจากฝ่ายต่าง ๆ รวมถึงปราญยศด้วย ทุกคนในห้องล้วนมีตำแหน่งที่สูงจนน่าอึดอัด ปราญยศไม่ได้ใส่ใจมองที่โชค และโชคก็ไม่ได้มีเวลามากพอในการสนใจอีกฝ่ายเช่นกัน เพราะเขาได้นำเสนอสรุปงานเป็นฝ่ายแรก
โชคเล่าสิ่งที่ตนเองเป็นคนสรุปกับมืออย่างราบรื่น นั่นด้วยเพราะว่าเขาเคยพูดให้ปราญยศฟังมาแล้ว และที่น่าแปลกใจก็คือเขาโดนคำถามมากมายจากฝ่ายอื่น แต่โชคก็ตอบได้อย่างสวยงามเพราะคำถามพวกนั้น ปราญยศก็เคยถามเขามาหมดแล้ว...ราวกับเกร็งข้อสอบให้ แถมแม่นอีกด้วย
"..ถ้าไม่มีคำถามอะไรแล้วผมขอจบการนำเสนอสรุปยอดฝ่ายขายเพียงเท่านี้ครับ"
เสียงปรบมือดังขึ้นเพื่อแสดงความยินดีกับยอดขายและผลงานที่โดดเด่น โชคแอบใจชื้นเล็ก ๆ เขาถอยตัวเองออกมานั่งเก้าอี้ที่อยู่ห่างไกลคนอื่น ๆ
"ลูกน้องของคุณปราญยศนี่สุดยอดเลยนะครับ ตอบคำถามได้ฉะฉานมากเลย"
"โชคเขาเป็นทีมงานที่สรุปยอดและแผนงานดีมากมาโดยตลอดครับ" ปราญยศพูดอย่างไม่เอาดีเข้าตัว ทั้งยังเลี่ยงการใช้คำว่าลูกน้อง แต่เป็นคำว่าทีมงานแทน
โชคลอบมองเสี้ยวหน้าหล่อเหลาพลางใจเต้นตึกตักอย่างปลาบปลื้ม อีกฝ่ายไม่เอาดีเข้าตัวเลยสักนิดทั้ง ๆ ที่เป็นคนฝึกซ้อมนำเสนอให้โชคแท้ ๆ และนี่เป็นครั้งแรกในรอบการทำงานมาตลอดห้าปีในบริษัทนี้ ที่โชคได้รับคำชมอย่างจริงใจ
"อย่างนั้นเหรอ คนนี้เองเหรอเนี่ย"
"แต่แลดูคุณปราญยศจะใช้งานลูกน้องหนักมากเลยนะครับ" เสียงคนแก่กระแนะกระแหน
"นั่นสิ ถึงว่าหน้าตาดูซีดเซียวเหมือนไม่ได้นอน สงสัยทำงานดึกใช่ไหม"
"..." ปราญยศเงียบ เขาหันหน้าไปสบตากับโชคที่สะดุ้งเพราะถูกพาดพิงโดยตรง อย่างรอให้โชคเป็นฝ่ายตอบข้อเข้าใจผิดนั้นด้วยตนเอง
"เปล่าครับ ช่วงนี้ผมติดซีรีส์ไปหน่อยครับ" โชคกล่าวเสียงเอื่อย ส่งยิ้มการเมืองไปให้
เปล่าสักหน่อย นั่นไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริง
โชคโดนผีหลอกต่างหาก
"แหม ไม่ต้องตอบเอาใจเจ้านายหรอก"
บทสนทนาเกี่ยวกับโชคจบเพียงเท่านั้น แล้วทุกคนก็หันไปสนใจเรื่องการประชุมต่อ โชคจึงขอตัวออกมาจากห้องเพราะจบหน้าที่ของเขาแล้ว
"โชค ไปนอนกับเราก่อนได้นะ"
โชคยืนช็อกมองหน้านิ่มที่พูดประโยคนั้นออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง เธอมองกระเป๋าลากของโชคติดเครียด เธอมารั้งโชคในตอนเลิกงาน ก่อนที่อีกฝ่ายจะรีบร้อนออกจากออฟฟิศ ได้ยินว่าวัดที่จะไปนอนนั้นอยู่ไกลพอสมควร
"บะ บ้าเหรอนิ่ม เราเป็นผู้ชายนะ จะให้ไปนอนด้วยได้ไง" โชคพูดกระเสียงลิ้นพัน หน้าติดแดงเพราะเขินอาย "อีกอย่างนิ่มอยู่กับพ่อแม่ไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวพ่อก็คิดมากหรอก"
"ไม่หรอกโชค ใช่ว่านิ่มจะให้อยู่นานสักหน่อย"
"เราไม่สะดวกใจจริง ๆ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ" โชคปฏิเสธน้ำเสียงจริงจังและเกรงใจ
"งั้นเดี๋ยวนิ่มไปคุยกับตรีให้ ว่าโชคขอไปค้างด้วยสักคืนสองคืน"
"อย่า ๆ เราไม่เป็นไรจริง ๆ คือเราไม่อยากรบกวนใครเลย คือเราคิดว่าอาจจะอยู่หลายคืนเลยล่ะ"
จะให้โชคไปบอกเหตุผลว่า ขอนอนด้วยเพราะโดนผีบ้ากามจ้องจะทำอนาจารทุกคืนมันก็แปลก ๆ
นิ่มมองสีหน้าจริงจังของโชคพลางถอนหายใจ "โอเค แต่ถ้ามีอะไรรีบโทรมาหาเลยนะ"
"ได้ ขอบใจจริง ๆ"
"นอนที่ศาลาก่อนก็ได้โยม แต่ถู ๆ หน่อยนะ อุปกรณ์อยู่ในตู้"
"ขอบคุณครับหลวงตา" โชคค้อมตัวไหว้อย่างนอบน้อมให้กับนักบุญห่มผ้าเหลืองวัยไม่ต่ำกว่าห้าสิบปี
ในตอนหนึ่งทุ่มครึ่ง โชคและเด็กวัดผิวคล้ำคนหนึ่งกำลังปัดกวาดเช็ดถูศาลา ที่ตอนกลางวันมักเป็นสถานที่ที่ใช้ในการทำพิธีกับเหล่าประชาชนที่มาทำบุญ โชคปูเสื่อจัดแจงสถานที่สำหรับนอนพัก
เขาอาศัยห้องน้ำวัดในการอาบน้ำชำระล้างร่างกาย โชคมองรอบทิศอย่างหวาด ๆ วัดในตอนกลางคืนมันน่ากลัวกว่าที่ห้องเขาเสียอีก
"พี่! เร็ว ๆ ยุงกัด"
เสียงเด็กวัดที่เขาขอให้มาเฝ้าหน้าห้องน้ำตะโกนเร่ง พร้อมเสียงแปะตามร่างกายคล้ายคนตบยุง
"แป๊บ!"
"หนีผีมาพึ่งวัด ใช่ว่าวัดจะไม่มีผีนะพี่!"
"เสร็จแล้ว! เงียบไปเลย!" โชครีบใส่เสื้อผ้าทั้ง ๆ ที่ตัวยังเปียก เขายังล้างสบู่ไม่หมดเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะเจ้าเด็กนี่พูดจาทำโชคกลัวต่างหาก "ขอบใจ"
"20" มือเล็กแบมาตรงหน้า สีหน้าจริงจังไม่มีท่าทีติดเล่น
"เออ ๆ เดี๋ยวให้" โชคแปะมือตัวเองกับมือเล็ก เชิง ๆ ติดไว้ก่อน "คืนนี้จุกนอนเป็นเพื่อนพี่ด้วยนะ"
"ไม่เอาหรอก จะไปนอนกับหลวงตา"
"อ้าว ทำไมอะ"
"กลัวผีที่ตามพี่มาอะดิ" พูดจบจุกก็วิ่งหัวเราะร่ากลับไปทันที ปล่อยให้ชายร่างโปร่งยืนถือขันใส่อุปกรณ์อาบน้ำอยู่หน้าห้องน้ำวัดมีสีหน้าอึ้งตะลึงงัน
มันพูดจริง ๆ หรือเขาโดนเด็กแกล้งกันแน่
โชคภาวนาให้เป็นอย่างหลัง...
นับว่าเป็นจำนวนสามคืนแล้ว และคืนนี้จะเป็นคืนที่สี่ที่โชคมาอาศัยนอนที่วัด หลังเลิกงานโชคจะรีบตรงไปขึ้นรถสาธารณะทันที เพราะวัดที่เขามาขออาศัยอยู่ค่อนข้างไกล กว่าจะถึงก็เกือบหนึ่งทุ่มแล้ว หากวันใดที่จำเป็นต้องมีโอที โชคก็ต้องตัดสินใจเอามาทำที่วัด และทุก ๆ วันเขาจะต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่เพื่อมาเก็บที่นอนและเตรียมตัวไปทำงาน ตอนอยู่บริษัทเขาก็หลีกเลี่ยงที่จะเจอกับปราญยศ ทั้งเสนอตัวไปช่วยเหลืองานผู้ช่วยผู้จัดการอีกห้องหนึ่งบวกกับว่าตอนนี้ทางคณะจัดการก็พากันยุ่งกับเรื่องสรุปยอดไตรมาสแรกของปี โชคจึงได้หายใจหายคอสะดวกขึ้น
แรก ๆ ที่อยู่วัดโชคมีกลัวอยู่บ้าง มีเห็นบางอย่างแวบไปมาที่หางตา แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเข้ามารบกวนเขาเลย นับว่าโชคคิดถูกจริง ๆ ที่มานอนวัดตามคำที่พี่ยามแนะนำ อีกทั้งหลวงตาก็ไม่เคยไล่เขาไปไหนเลย
"สงสัยต้องขายคอนโดทิ้งแล้วล่ะมั้ง" โชคพึมพำอย่างคิดไม่ตก แต่พอจบประโยค เส้นขนหลังคอก็พากันตั้งพรึบจนต้องเอามือลูบเบา ๆ เขาหันไปมองเด็กวัดวัยสิบขวบแล้วชวนคุย
"จุก วันนั้นจุกหลอกพี่ใช่ไหม" โชคเอ่ยถามขณะใช้มือแกะของในสังฆทานแยกของใช้กับของกินออกจากกัน เขากำลังช่วยเด็กวัดทำงานทั้ง ๆ ที่ตัวเองยังไม่ไปอาบน้ำ
ถ้าไอ้จุกทำงานไม่เสร็จ มันก็จะไม่ไปเฝ้าโชคอาบน้ำน่ะสิ
"อะไรอะพี่โชค" เด็กสิบขวบหน้ากวนถามงง ๆ จู่ ๆ ก็ถามอะไรไม่มีปี่มีขลุ่ย
"ที่บอกมีผีตามพี่มาไง"
จุกทำหน้านึกก่อนจะหัวเราะลั่น "ไม่บอก เอามา 20"
"แปะไว้ก่อน"
"ไม่ต้องเลย คราวที่แล้วพี่ยังไม่ให้เลย!" เด็กวัดโวยวาย โชคเค้นเขี้ยวหมั่นไส้
"สรุปคือแกล้งใช่ไหม เฮ้อ" โชคถอนหายใจโล่งอก ถ้ามันตามเขามาถึงในวัด ก็จะเกินไป...
จุกทำหน้าไม่เข้าใจคนแก่ (กว่าตัวเอง) ตรงหน้า จุกไม่ทันเฉลยเลยว่าแกล้งหรือเปล่า โมเมทั้งนั้น! จุกแกะเอาสบู่ในสังฆทานออกมารวมไว้ สายตาเบนออกข้างมองข้ามหัวโชคไปทางด้านหลัง
กลุ่มเงาดำสูงใหญ่สองตนกำลังยืนจ้องมาทางพวกเขานิ่ง ๆ แต่จุดประสงค์ของพวกมันคงเป็นชายในเสื้อเชิ้ตที่นั่งช่วยจุกทำงานอยู่ จุกเห็นพวกนี้ตั้งแต่วันแรกที่โชคเดินหน้าซีดลากกระเป๋าเดินทางเข้ามาขออาศัยนอนวัดด้วยความหวังอย่างสุดท้ายที่ตนเองมี มันวนเวียนอยู่รอบตัวโชคเสมอ แต่อยู่ห่างออกไปหลายเมตรไม่ทำอะไร ราวกับมาเฝ้าดูอยู่เฉย ๆ
แต่คราวนี้กลับแปลกไป เพราะมีเพิ่มมาอีกตน...
จุกเบนสายตาไปเยื้อง ๆ ผีสองตนนั้นออกไป คราวนี้พวกมันมาพร้อมเงาทมิฬตัวใหญ่ราวกับผู้ชายสมัยโบราณอกสามศอก มันยืนอยู่กลางศาลาวัดไม่หวั่นเกรงต่อพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ตั้งตระหง่าน ดูก็รู้ว่าฤทธิ์เดชของมันร้ายไม่เบา จุกมองดวงตาก่ำแดงของวิญญาณร้ายตนนั้นที่สบตากับตัวเอง จุกพลันขนลุกชันหวาดกลัวรีบเบือนหน้าหนี แต่ไม่นานวิญญาณตนนั้นที่จุกได้เห็นเป็นครั้งแรกก็เลือนหายไป
สุดท้ายมันก็ทำอะไรไม่ได้ ก็เพราะอยู่ในวัดแหละนะ
มั้ง...
"โยมโชค"
โชคหันมองหลวงตาที่เดินเชื่องช้ามาเรียกโชคยิ้ม ๆ "ครับหลวงตา"
"เดี๋ยวมาคุยกับอาตมาสักครู่หนึ่ง" ว่าจบท่านก็เดินไปนั่งลงที่พื้นตรงหน้าพระพุทธรูปองค์ใหญ่ โชคคุกเข่าคลานไปตรงหน้าอย่างสำรวม
"มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ"
"ไม่มีหรอก โยมทำงานมาเหนื่อย ๆ น้ำท่ายังไม่อาบ ยังจะไปช่วยเจ้าจุกมันแยกสังฆทานอีก"
"ผมเต็มใจครับ ทั้งเกรงใจที่มาขออาศัยนอน"
"วัดเป็นที่พึ่งให้คนตกยากเสมอ เพราะงั้นไม่ต้องเครียดไป"
"ครับ"
"บ้านโยมอยู่ที่ไหนล่ะ"
"ผมเป็นคนเชียงใหม่ครับ แต่มาทำงานอยู่กรุงเทพฯ คนเดียวตั้งแต่เรียนจบครับ"
"เหงาแย่ล่ะสิ บ้านอยู่ตั้งไกล แถมญาติโกโหติกาอยู่ที่นี่ก็ไม่มี"
"มีเหงาบ้างครับ แต่แถวนั้นก็ไม่มีงานที่เงินดี ๆ ก็เลยต้องอาศัยกลับบ้านช่วงเทศกาลปีละสองถึงสามหนครับ"
พระท่านพยักหน้าฟังยิ้ม ๆ เว้นจังหวะเงียบไปพักหนึ่ง ท่านจึงกล่าวอีกครั้ง ซ้ำยังมองไปหน้าวัดสายตาแปลก ๆ
"อย่างนั้นหรือ โยมเป็นคนดีนะ เลยดึงดูดแต่คนดี ๆ ถ้าไม่ดี...ก็ชั่วไปเลย"
"ครับ?" โชคขมวดคิ้วงง จะถามซ้ำ
"พนมมือเสียนะ เดี๋ยวหลวงตาพรมน้ำมนต์ให้"
โชคมองผู้มากบุญตรงหน้างง ๆ แต่ก็ยอมทำตามแต่โดยดี โชคตั้งนะโมสามจบตามที่ท่านสั่งและฟังท่านสวดมนต์ให้ฟังพร้อมมองเทียนที่หยดลงขันน้ำสีเงิน จากนั้นน้ำธรรมดาที่กลายเป็นน้ำมนต์ก็พรมลงบนศีรษะทุยจนโชคสัมผัสได้ถึงความเย็นของน้ำที่กระจายเป็นหย่อม ๆ บนหัว
"รับนี่ไปเสียนะ"
โชคยื่นมือไปรับพระองค์เล็กมาไว้ในมือ
"หาสร้อยมาใส่เองนะโยม หรือถึงโยมจะไม่ชอบใส่สร้อย แต่อย่างน้อยพกติดตัวไว้ตลอดนะ"
"...ครับ" โชคตอบรับอย่างไม่เข้าใจ หลวงตารู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ชอบใส่เครื่องประดับ
"หมั่นทำใจให้คิดดีไว้นะโยม ต่อให้เจอเรื่องแย่ ๆ สักเท่าไหร่ ก็อย่าคิดแค้นเคืองโกรธไปเลย เดี๋ยวมันก็ผ่านไป"
โชคแปลความหมายที่หลวงตาสื่อด้วยสีหน้ากังวล แต่สุดท้ายก็กล่าวขอบคุณ "ครับหลวงตา ขอบคุณครับ"
"ถ้ามีโอกาสก็แวะมาเยี่ยมเจ้าจุกบ้างนะ ในวัดนี้มันเด็กสุด โยมโชคไม่อยู่มันคงเหงา"
โชคฟังอย่างไม่เข้าใจ หรือเขากำลังถูกไล่ให้กลับไปนอนคอนโดแล้ว
"คือจะเป็นไรไหม ถ้าผมขอนอนอีกสักสองสามคืนครับ"
"หลวงตาไม่ได้ไล่โยมกลับ แต่มีคนมารับโยมแล้วต่างหาก"
หลวงตาว่าจบก็มองข้ามหัวโชคไปด้านหลังพลางยิ้มอ่อน
"โชค"
เจ้าของชื่อสะดุ้งกับเสียงเย็น เขาหันมองไปทางด้านหลัง เห็นชายหนุ่มรูปงามร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อเชิ้ตขาวกางเกงสีดำตัดกัน ปราญยศยืนตัวตรงห่างจากโชคไปไม่ไกลในชุดที่ดูก็รู้ว่าเพิ่งเลิกงาน ซ้ำยังไม่ถอดรองเท้าก่อนขึ้นศาลาวัด ใบหน้าหล่อคมจ้องมาที่โชคไร้แววตา ไม่มีท่าทีสนใจหรือเคารพนักบุญที่อยู่ด้วย
"มาทำอะไรที่นี่" เสียงทุ้มลึกถามโชคที่มัวอ้ำอึ้งเพราะเห็นเขา
"เอ่อ..." ถ้าบอกมานอนวัดโชคจะดูแปลกไหม แต่ก็ไม่รู้จะสรรหาเหตุผลไหนแล้ว "ช่วงนี้ผมมาพักผ่อนสงบจิตใจที่วัดครับ สามคืนแล้ว"
"กลับ"
"ฮะ?" โชคทำหน้าเอ๋อกลับคำพูดที่เหมือนคำสั่งนั้น
"ไปเก็บของ ผมให้เวลาสามนาที" ไม่พูดเปล่า แววตานั้นแฝงไปด้วยความหงุดหงิดจนโชคเสียววาบกลัวอีกฝ่ายจะองค์ลง
"งะ งั้นผมกราบลานะครับหลวงตา" โชคก้มกราบ
"ไปดีมาดีนะโยม หมั่นทำดี สิ่งที่ชั่วร้ายจะได้หลุดพ้น" ประโยคท้ายค่อนข้างเน้นย้ำเป็นพิเศษ
ราวกับโชคหูแว่ว เหมือนเขาได้ยินเสียงทุ้มขำแสยะเบา ๆ โชคเดินออกไป ทิ้งให้ปราญยศยืนอยู่ที่เดิมกับหลวงตาที่นั่งสงบนิ่ง
"ว่าอย่างไรล่ะโยม"
"เสียใจจริง ๆ ที่คนของผมเขามาทำให้วัดเล็ก ๆ ทรุดโทรมนี่เดือดร้อน"
"ไม่หรอกโยม เขาอยู่แล้วสบายใจ"
ปราญยศล้วงกระเป๋ากางเกงสแลกของตนเอง เอาซองขาวที่เตรียมไว้ออกมา ในนั้นมีแบงก์เทาปึกใหญ่ใส่ไว้อยู่ มือใหญ่วางมันลงที่พื้นแทบเท้าตนเองแล้วถอยห่างออกมาหนึ่งก้าว
"ค่าเสียเวลา เอาไปทำนุบำรุง ก่อนที่วัดนี้จะร้างไม่เหลือซาก"
ว่าจบปราญยศก็หันหลังก้าวเท้าที่สวมรองเท้าหนังสีดำออกไป หลวงตามองแผ่นหลังกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยอำนาจมากมายที่ชายผู้นี้ทั้งสร้างขึ้นเองและไม่ได้สร้างเอง หากเป็นคนทั่วไป คำพูดท่าทีแบบนั้นไม่อาจทำให้คนฟังอยู่เฉยได้ แต่พอมาเป็นชายผู้นี้ ผู้ห่มเหลืองที่มากไปด้วยบุญศรัทธา ก็มิอาจที่จะต่อปากต่อกร
แกร็บ
ปราญยศหยุดชะงัก ก้มหน้าเหลือบมองที่เท้าของตนเอง แผงยาแก้ปวดยี่ห้อดังอยู่ใต้รองเท้าของเขาอย่างไม่ตั้งใจ ตาคมหรี่อับแสงมองสบตากับเด็กชายที่นั่งจ้องเขาอยู่ก่อนแล้ว เนื้อตัวมอมแมมสั่นระริก กล่องสบู่ในมือเล็กนั้นตกลงไปอยู่ที่ตักเพราะอีกฝ่ายช็อก
ปราญยศจ้องมองอยู่เกือบนาที จากนั้นเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง ก้าวขาต่อโดยเหยียบพื้นรองเท้าอ๊อกฟอร์ดลงไปที่แผงยาจากสังฆทานนั้นจนสัมผัสได้ว่ามันแตกละเอียดคาฝ่าเท้า
เด็กน้อยน้ำตาคลอเบ้าหลังจากได้สบตาลึกไร้ความรู้สึก ดวงตานั้นแทบพร้อมจะพรากชีวิตทุกสิ่งไปได้อย่างไม่ไยดี
อะอีลูกเขย มึงมีเงี่ยนงำนะ...
โชค Be like:
โชค: ขอบตาผมดำเหรอครับ ก็ไม่เท่าไหร่นิ่
ถ้าชอบ คอมเมนต์เป็นกำลังใจให้หน่อยนะคะ ❤️
อีบุ๊ก >>>> https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMzMwOTY5NSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI3ODU3MSI7fQ