ระหว่าง “ผี” กับ “ปราญยศ” อะไรน่ากลัวกว่ากัน? ...ได้ยินมาว่า 'โชคอนันต์' ถูกคนทำเสน่ห์ใส่ล่ะ แถมคุณผู้จัดการหน้าดุก็ชอบทำตัวแปลก ๆ
ชาย-ชาย,รัก,ลึกลับ,อาชญากรรม,ดาร์ค,แซ่บ,นายเอกมึน,พระเอกโหด,พระเอกคลั่งรัก,พระเอกหล่อ,พระเอกหื่น,พระเอกรวย,พระเอกร้าย,พระเอกยันเดเระ,พระเอกขี้หึง,พระเอกขี้หวง,พระเอกครั่งรัก,โหด,รุนแรง,ระทึกขวัญ,20+,18+,อีโรติก,โรมานซ์,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ปราญอาถรรพ์ [END]ระหว่าง “ผี” กับ “ปราญยศ” อะไรน่ากลัวกว่ากัน? ...ได้ยินมาว่า 'โชคอนันต์' ถูกคนทำเสน่ห์ใส่ล่ะ แถมคุณผู้จัดการหน้าดุก็ชอบทำตัวแปลก ๆ
X เนื้อหารุนแรงมาก โปรดอ่านคำเตือนโดยละเอียด X
- ปราญอาถรรพ์ -
โชคอนันต์ผู้ที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายมาเกือบสามสิบปี จู่ ๆ ก็โดนผีตามรังควาน ถึงขั้นถูกทักว่า "โดนของ"
ชีวิตก็บัดซบพออยู่แล้วแท้ ๆ แต่ทำไมเดี๋ยวนี้ผู้จัดการฝ่ายอย่าง 'ปราญยศ' ที่โชคนั้นหลบเลี่ยงและเกรงกลัวนักหนา ถึงได้มาวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ สร้างความกดดันตลอดเวลา แถมยังล่วงรู้เรื่องที่โชคนั้นเห็นผีอีก ทว่าอีกฝ่ายกลับทำให้เหล่าผีร้ายพวกนั้นหลบเลี่ยงอย่างหวาดกลัว
หนทางแห่งแสงสว่างได้ปรากฏ ปราญยศจะทำให้โชคไม่ต้องเห็นผีอีกต่อไป โชคอนันต์ต้องยอมร้องขอความช่วยเหลือจากปราญยศ ผู้ซึ่งน่ากลัวกว่าผีเสียอีก!
"ผู้จัดการช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ" - โชคอนันต์
"ผมจะได้อะไร?"
"ตามที่ผู้จัดการต้องการครับ"
โชคมองรอยยิ้มมุมปากที่ไม่ทราบเหตุผลของปราญยศ...มันดูเจ้าเล่ห์หรือเปล่านะ?
--------------------------------
"...ผมจะไม่มาทำโอทีในวันพรุ่งนี้ครับ" - โชคอนันต์
"บอกเหตุผลที่ดีมาสักข้อ"
"ผะ ผมจะไปแก้ของครับ"
--------------------------------
"คุณปราญยศ เมื่อคืนคุณไปไหนมา?" - โชคอนันต์
"ผมก็อยู่กับคุณไง"
"โกหก..." - โชคอนันต์
"ถ้าไม่อยู่บ้าน ผมจะอยู่ไหนกันนะ?"
"สายตาของคุณ เหมือนมันมีคำตอบอยู่แล้วเลย..."
"คุณคิดว่าผมเป็นฆาตกรด้วยหรือเปล่า หืม?"
- ปราญยศ -
เรื่อง : ปราญอาถรรพ์
ผู้เขียน : จูฮาราห์ (Juharah)
สำเร็จเมื่อ : 24/12/2023
สถานะ : จบแล้ว 15/03/2024
Chapter 13 "วาจา"
โชคลากกระเป๋าตรงไปหาปราญยศที่ยืนเล่นมือถือพิงรถหรูของตนเองรอโชคอยู่ เมื่ออีกฝ่ายรับรู้ว่าเขามาถึงแล้ว จึงเก็บมันใส่กระเป๋ากางเกง กล่าวน้ำเสียงเข้มดุดัน
"ขึ้นรถ"
โชคยังคงยืนอึกอัก เก้ ๆ กัง ๆ เกรงกลัว แต่ก็ไม่ยอมเลื่อนกระเป๋าไปหา
"ผู้จัดการ มาทำอะไรที่นี่ครับ"
ปราญยศนิ่งไปครู่หนึ่งราวกับกำลังนึกคำตอบ แต่ทว่าพออีกฝ่ายตอบมันยิ่งทำให้โชคสตั๊น ไปไม่เป็น
"มาให้อาหารปลา"
ที่วัดตอนสองทุ่มเนี่ยนะ!?
โชคยืนงงกับคำตอบโดยไม่รู้ตัวว่าปราญยศเดินมาหยิบกระเป๋าเขาไปใส่ไว้ในรถแล้ว กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่มือใหญ่อุ่นอ้อมแผ่นหลังมาจับเข้าที่ต้นแขนในท่วงท่ากึ่งโอบดูสนิทสนม
"ขึ้นรถได้แล้ว"
หมับ!
ร่างโปร่งของโชคเสียการทรงตัวเล็กน้อยเมื่อมีวัตถุเล็ก ๆ พุ่งเข้ามากระแทกที่ตัวด้วยความแรง จนเซถลาออกจากปราญยศ ส่วนคนตัวสูงเบิกตาเรียวอย่างตกใจเล็ก ๆ
ปราญยศมองแขนว่างเปล่าของตัวเองด้วยความรู้สึกที่ช้าไปเปลาะหนึ่ง เขาตวัดตามองตัวต้นเหตุอย่างแข็งกร้าว
เด็กชายสิบขวบตัวสูงเพียงเอวของโชคกำลังยืนกอดขายาวไว้แน่น นัยน์ตาดื้อรั้นจ้องไปที่ปราญยศคิดสู้แม้ว่าจะน้ำตาคลอและสั่นกลัวก็ตาม
แน่นอนว่าโชคอนันต์ไม่เห็นถึงสองสายตาที่ฟาดฟันกัน เขาจับไหล่เด็กวัดที่วิ่งมากอดเขาด้วยแรงทั้งหมดที่มี โชคงุนงงกับท่าทีนั้น จึงเอ่ยถาม
"มีอะไรหรือเปล่าจุก?"
"พี่จะไปกับคนคนนี้จริง ๆ เหรอ กับคนใจร้ายคนนี้น่ะเหรอ!" ใบหน้ามอมแมมเงยขึ้นมองโชค เสียงแหลมเล็กตะโกนดัง ลั่นวาจาไม่คิดปกปิด
"นี่! อย่าพูดแบบนั้นสิ คนใจร้ายอะไรกัน" โชคเลิ่กลั่ก เขาหน้าเสียไม่กล้ามองปราญยศ ไม่รู้เหตุผลว่าทำไมเด็กนี่ถึงมากล่าวว่าร้ายกับปราญยศ
"เขาเป็นแฟนพี่เหรอ! พี่โชคตาต่ำมาก เลิกเดี๋ยวนี้ อุบ!" เด็กน้อยถูกมือขาวปิดปากรวดเร็ว
โชคคุกเข่าลงแทบไม่ทัน เขายิ้มร้ายแต่กลับดูน่าตลก กระซิบเสียงลอดไรฟัน
"เขาเป็นหัวหน้าพี่ โดนผีหลอกยังอยู่ได้ แต่ถ้าโดนไล่ออก ได้มาอยู่วัดจนตายแน่"
"ก็ออกไปสิ ตายไป ก็มาอยู่วัดอยู่ดี!"
"เออ ก็จริง... ไม่ใช่! ปัดโธ่!" โชคตบหน้าผากตัวเองดังแปะ สมเพชตนเองที่เผลอคล้อยตามเด็กสิบขวบ เขาเหลือบมองปราญยศที่ยืนทำหน้าถมึงทึงแล้วก็พลันสะดุ้ง โชคตัดสินใจล้วงแบงก์ร้อยออกมาจากกระเป๋าสามใบ
"เอาไว้กินขนม อย่าทำหายล่ะ มัดใส่เสื้อไว้แน่น ๆ" โชคคว้ายางรัดแกงแถวพื้นมามัดเงินไว้กับเสื้อกล้ามตัวบางของเด็กตรงหน้าไว้แน่นหนา
"เขาหน้าโหดเฉย ๆ แต่เขาไม่ทำอะไรพี่หรอก จริง ๆ" โชคทำสีหน้าจริงจังเพื่อหวังเพิ่มความมั่นใจให้เด็กตรงหน้าที่เริ่มนิ่งไปเพราะได้เงินสามร้อย แต่ก็ไม่ยอมหันไปมองปราญยศ ซ้ำยังจับตัวโชคไว้แน่น
"รู้ได้ไง! พรุ่งนี้เขาอาจจะกินตับพี่ก็ได้" ประโยคหลังเด็กน้อยพึมพำหน้าเครียด เขาเพิ่งนั่งดูละครกับป้า ๆ แถววัดมา ผีปอบน่ะ หน้าตาน่ากลัวแบบนี้เลย
กินตับ!
โชคหน้าขึ้นสี คิดอนาจารไปไกล เขาแสร้งพูดเรื่องอื่นกลบเกลื่อน "นะ นี่ พูดกับผู้ใหญ่ให้มีหางเสียงหน่อยสิ!"
เด็กน้อยหน้ามุ่ย จนโชคต้องยิ้มอ่อนลูบหัวเอ็นดู
"เอาน่า เดี๋ยววันพระใหญ่จะแวะมาหา อ๊ะ!"
โชคเผลอร้องตกใจ มองปราญยศที่ใช้มือใหญ่จับบ่าเด็กตัวเล็กเพื่อดันให้ห่างโชค ไม่สิ...ออกไปทางผลักด้วยซ้ำ แต่จุกนั้นตอบสนองไวยิ่งกว่าเพราะเป็นเด็ก กระโดดหนีเป็นลิงค่างวิ่งไปบนศาลา แอบหลังเสา
"ไปได้แล้ว" ปราญยศบอกโชคเสียงเข้ม
"ดะ เดี๋ยวสิ" โชคชะงักค้าง ทำไมปราญยศทำตัวกับเด็กแบบนั้น! แต่คนตัวใหญ่หันไปจับจ้องจุกก่อนที่โชคจะเอ่ยอะไร
"กลับไปนอนกินนมเถอะ" ปราญยศบอกเด็กที่ยืนตัวสั่นกลัวเขา ร่างสูงจึงคล้องมือไปด้านหลังอ้อมมาถึงช่วงเอวนิ้วเรียวยาวเกือบถึงแอ่งสะดือของโชค "ส่วนเขา ฉันจะดูแลเอง"
เด็กน้อยตกใจ มองมือใหญ่ที่จับเค้นหน้าท้องของอีกคน
คนใจร้ายจะกินตับพี่โชคจริง ๆ ด้วย!
แล้วสายตาสะใจนั่นคืออะไร!
โชคที่ตกใจกับท่าทีใกล้ชิด รีบดันตัวเองไปยืนกุมมือไว้หน้าขา
ตกใจหมดเลย!
โชคเผลอเอามือกุมหน้าท้อง ผิวของเขาที่ถูกสัมผัสมันร้อนวูบวาบแปลก ๆ ความรู้สึกตรงที่โดนสัมผัสยังอยู่อยู่เลย แล้วสังเกตเห็นสีหน้าของปราญยศที่กำลังยียวนเด็ก...เด็กสิบขวบ!
"ผู้จัดการเลิกแกล้งเขาเถอะครับ ไปกันเถอะ...นะครับ" โชคยกมือแตะแขนล่ำจนรู้สึกถึงมัดกล้ามกึ่งดันอีกฝ่ายให้ขึ้นรถอย่างลืมตัว แล้วหันไปตะโกนบอกเด็กจุก "ไปแล้วนะ"
"นี่! ทำไมต้องไปกับเขา! นี่"
ปราญยศมองมืออุ่นที่จับแขนเขาเบา ๆ จนอีกฝ่ายชักมือกลับไปแล้วปราญยศก็ยังคงมองค้างอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินขึ้นรถไป เขามองร่างโปร่งที่เปิดประตูรถพึมพำขออนุญาตเบา ๆ หลังจากนั่งและคาดเข็มขัดเรียบร้อยก็มีอาการเกร็งขัด ปราญยศละสายตามาสนใจที่จะขับรถออกไปจากวัดนี้เสียที ใส่เกียร์ออกตัวอย่างไม่รีรอ ไม่ลืมที่จะมองกระจกข้าง สะท้อนพระชราห่มผ้าเหลืองยืนมองออกมาจากศาลา เขาหรี่ตาเล็กแสยะยิ้มโดยที่คนนั่งข้าง ๆ ไม่มีโอกาสได้เห็น
โชคนั่งนิ่งมาตลอดทาง ไม่มีใครเริ่มพูดอะไร ปราญยศไม่แม้แต่จะถามเขาว่าต้องไปส่งที่ไหนด้วยซ้ำ
"เอ่อ ผมขอโทษแทนจุกด้วยนะครับ เขาเป็นเด็กวัด อาจจะโผงผางไปหน่อย" เพราะมีอิสระในการใช้ชีวิต จึงไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด
"ถึงได้ไม่มีมารยาท" ปราญยศกล่าวเสียงนิ่งไร้เยื่อใยของความเมตตา
โชคแอบฉุนกึก ถึงจุกจะเป็นเด็กดื้อรั้น แต่ก็เป็นเด็กดีไม่น้อยเลย เพราะคิดต่าง โชคจึงเผลอโพล่งออกไปอย่างต่อต้านเป็นครั้งแรก และไม่ทันได้ยั้งตัว
"จุกเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ขยันขันแข็ง เขาเข้าเรียนช้ากว่าคนอื่นถึงสองปี อาจจะไม่รู้เรื่องมารยาทมากนัก แต่เขาเพิ่งสิบขวบเท่านั้น เขามีโอกาสอีกมากในการเรียนรู้ ปรับตัว!"
นัยน์ตาดำสนิทหรี่ลงไร้แสง มือที่ประคองพวงมาลัยกระตุกขึ้นเส้นเอ็น
ประโยคยาว ๆ ที่พูดกับเขาครั้งแรกหลังจากหายหน้าไป ควรเต็มไปด้วยน้ำเสียงบันดาลโทสะเช่นนั้นหรือ?
"เพิ่งมาอยู่ได้สี่วัน รู้จักมันดีเหลือเกิน"
"คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังเรียกเด็กว่า'มัน'?" โชคต่อปาก เขากำหมัดแน่น
"อยู่กับฉันมาจะครึ่งปีรู้มากขนาดนี้ไหม?" ครึ่งปีนั้นคืออายุงานของโชคอนันต์ นัยน์ตาคมของปราญยศวาวแสง เท้าเหยียบคันเร่งลึกขึ้นตามแรงอารมณ์
โชคแอบหวั่นกับความไวที่ฉวัดเฉวียนปาดแซงรถทุกคัน แต่ก็ตอบกลับทันทีเสียงแข็ง "แล้วผมจำเป็นต้องรู้เรื่องของคุณเหรอครับ? ผู้จัดการฝ่าย"
"โชคอนันต์!"
เอี๊ยด!
สิ้นเสียงตะโกนชื่อเขาดังลั่น มาพร้อมกับรถที่เบรกตัวกะทันหันเพราะติดไฟแดงจนโชคตัวโยนมาด้านหน้า ทำให้ Safety belt ทำงานรั้งตัวเขาไว้ แต่เหมือนมันสร้างความเจ็บแปลบที่อกเขานิดหน่อย โชคใจหายมองระยะห่างจากคันข้างหน้าที่เหลือไม่ถึงหนึ่งคืบ พลันมองไปด้านหลังแล้วโล่งอกที่ไม่มีรถตามมาในระยะกระชั้นชิด ไม่งั้นได้ถูกชนท้ายแน่
โชคถอนหายใจแผ่วเบา ช็อกจากเหตุการณ์เมื่อครู่ ลอบมองไปยังคนข้าง ๆ ที่นั่งกัดกรามยกแขนข้างหนึ่งขึ้นมาสางผมที่ปรกลงมาไม่เรียบร้อยท่าทีหงุดหงิด แต่ก็นิ่งเงียบสงัด ปราญยศไม่มีอาการทุกข์ร้อนจากการขับรถแย่ ๆ ของตนเองแม้แต่น้อย โชคขมวดคิ้วแน่น กำหมัด แต่ไม่คิดต่อกร ใจหนึ่งเพราะเขากลัวต่อความนิ่งเงียบของคนด้านข้าง มือใหญ่เต็มไปด้วยเส้นเลือดเอื้อมไปหยิบหมากฝรั่งที่วางหน้าคอนโซลรถมาแกะฟอยล์กระดาษแล้วส่งเข้าปากขบกรามเคี้ยว
มันให้ความรู้สึกไม่ปลอดภัย...
โชครู้สึกว่ารถหรูนี้มันไม่สบายอย่างที่คิด ซ้ำยังอึดอัดราวกับอยู่ใต้ทะเลลึก ไม่มั่นใจว่าเป็นเพราะรถ หรือเจ้าของรถกันแน่...
"รบกวนส่งผมที่แยก xxx ด้วยครับ"
โชคบอกชื่อแยกที่ใกล้ที่สุดไป เขาตั้งใจว่าจะพูดประโยคนี้เป็นประโยคสุดท้าย และคิดว่าอีกฝ่ายคงทำให้แต่โดยดี
"shit!..."
เสียงสบถแผ่วเบา แต่โชคก็ยังนั่งนิ่งแม้จะแอบตกใจที่ได้เห็นผู้จัดการฝ่ายผู้เข้มงวดและสุภาพสบถออกมาเป็นครั้งแรก ดูเหมือนเขาจะเป็นคนแรกที่ได้ยินและได้เห็นพฤติกรรมด้านลบนี่
"แค่บอกชื่อคอนโดคุณมา"
โชคถอนหายใจ ไม่อยากเถียงต่อจึงตั้งใจจะเอ่ยบอก แต่ชะงักเสียก่อนเนื่องจากสะดุดกับคำพูดเมื่อครู่นี้
"สองรอบแล้วนะครับ..."
"..." ปราญยศนิ่ง รอฟังต่อเงียบ ๆ
"คุณรู้ได้ยังไงว่าผมอยู่คอนโดและรู้ได้ยังไงว่าผมมาอยู่วัดได้สี่วันแล้ว"
ยังไม่ทันไร ลูกเขยคนเปรตก็พาลูกฉันทะเลาะละจ้าาาาา แต่หล่อนมีพิรุธนะจ๊ะ...
แต่ทุกคนเขาไม่นับเป็นเป็นเขยแล้วปราญยศ เขาเรียกแกว่าพ่อกันหมดเลย โหดเกินนน 5555
ขอบคุณสำหรับโดเนทนะคะ ใจฟูวววววว
Ch.12 มีคนมาเมนต์เพิ่มตั้ง 2 คน เดี๋ยวมาแถมอีกตอนนะคะะะะะ