ระหว่าง “ผี” กับ “ปราญยศ” อะไรน่ากลัวกว่ากัน? ...ได้ยินมาว่า 'โชคอนันต์' ถูกคนทำเสน่ห์ใส่ล่ะ แถมคุณผู้จัดการหน้าดุก็ชอบทำตัวแปลก ๆ
ชาย-ชาย,รัก,ลึกลับ,อาชญากรรม,ดาร์ค,แซ่บ,นายเอกมึน,พระเอกโหด,พระเอกคลั่งรัก,พระเอกหล่อ,พระเอกหื่น,พระเอกรวย,พระเอกร้าย,พระเอกยันเดเระ,พระเอกขี้หึง,พระเอกขี้หวง,พระเอกครั่งรัก,โหด,รุนแรง,ระทึกขวัญ,20+,18+,อีโรติก,โรมานซ์,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ปราญอาถรรพ์ [END]ระหว่าง “ผี” กับ “ปราญยศ” อะไรน่ากลัวกว่ากัน? ...ได้ยินมาว่า 'โชคอนันต์' ถูกคนทำเสน่ห์ใส่ล่ะ แถมคุณผู้จัดการหน้าดุก็ชอบทำตัวแปลก ๆ
X เนื้อหารุนแรงมาก โปรดอ่านคำเตือนโดยละเอียด X
- ปราญอาถรรพ์ -
โชคอนันต์ผู้ที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายมาเกือบสามสิบปี จู่ ๆ ก็โดนผีตามรังควาน ถึงขั้นถูกทักว่า "โดนของ"
ชีวิตก็บัดซบพออยู่แล้วแท้ ๆ แต่ทำไมเดี๋ยวนี้ผู้จัดการฝ่ายอย่าง 'ปราญยศ' ที่โชคนั้นหลบเลี่ยงและเกรงกลัวนักหนา ถึงได้มาวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ สร้างความกดดันตลอดเวลา แถมยังล่วงรู้เรื่องที่โชคนั้นเห็นผีอีก ทว่าอีกฝ่ายกลับทำให้เหล่าผีร้ายพวกนั้นหลบเลี่ยงอย่างหวาดกลัว
หนทางแห่งแสงสว่างได้ปรากฏ ปราญยศจะทำให้โชคไม่ต้องเห็นผีอีกต่อไป โชคอนันต์ต้องยอมร้องขอความช่วยเหลือจากปราญยศ ผู้ซึ่งน่ากลัวกว่าผีเสียอีก!
"ผู้จัดการช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ" - โชคอนันต์
"ผมจะได้อะไร?"
"ตามที่ผู้จัดการต้องการครับ"
โชคมองรอยยิ้มมุมปากที่ไม่ทราบเหตุผลของปราญยศ...มันดูเจ้าเล่ห์หรือเปล่านะ?
--------------------------------
"...ผมจะไม่มาทำโอทีในวันพรุ่งนี้ครับ" - โชคอนันต์
"บอกเหตุผลที่ดีมาสักข้อ"
"ผะ ผมจะไปแก้ของครับ"
--------------------------------
"คุณปราญยศ เมื่อคืนคุณไปไหนมา?" - โชคอนันต์
"ผมก็อยู่กับคุณไง"
"โกหก..." - โชคอนันต์
"ถ้าไม่อยู่บ้าน ผมจะอยู่ไหนกันนะ?"
"สายตาของคุณ เหมือนมันมีคำตอบอยู่แล้วเลย..."
"คุณคิดว่าผมเป็นฆาตกรด้วยหรือเปล่า หืม?"
- ปราญยศ -
เรื่อง : ปราญอาถรรพ์
ผู้เขียน : จูฮาราห์ (Juharah)
สำเร็จเมื่อ : 24/12/2023
สถานะ : จบแล้ว 15/03/2024
Chapter 18 “ที่พักชั่วคราว”
โชคเงยหน้ามองคอนโดสูงชะลูดจนไม่กล้าเดาจำนวนชั้น เขามองชื่อคอนโดระดับไฮเอนด์ พลันเดินเกร็งทำตัวไม่ถูกกับความหรูหรามีสไตล์ แต่คนที่เดินนำหน้าไปไม่ได้สนใจท่าทีของโชคสักเท่าไหร่ ขายาวก้าวฉับไวทิ้งระยะห่างจากโชคที่พยายามเดินตามสุดชีวิตเหตุผลเพราะขนาดช่วงขาที่ต่างกันระดับหนึ่ง
ปราญยศเหลือบมองใบหน้าซีดเซียวที่เริ่มเหนื่อยหอบพลางกระตุกยิ้ม เขาชะลอความเร็วลงเพื่อให้ไปหยุดรออยู่หน้าลิฟต์ ในจังหวะที่ลิฟต์มาถึงโชคก็มาถึงเช่นกัน
ตัวเลขที่โชว์บนแป้นบอกเลขชั้นที่กำลังขึ้นไป ทำโชคร้องว้าวในใจ เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้เหยียบคอนโดราคาแพงหูฉี่ แถมในชั้นเกือบสูงสุดของคอนโดอีกด้วย พอลิฟต์เปิดออกก็พบเป็นประตูห้องทันที ไร้ประตูเพื่อนบ้าน ซึ่งโชคก็ไม่เข้าใจในการออกแบบแปลนเท่าไหร่นักจึงไม่สนใจอะไรมาก ถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีปัญญาซื้ออยู่แล้วล่ะนะ
โชคมองปราญยศที่เปิดประตูเข้าห้องไปด้วยท่าทีสบายและคุ้นชิน โชคจึงเดินตามเข้าไปอย่างเงียบเชียบที่สุดให้เหมือนเป็นธาตุอากาศ ราวกับกลัวว่าเสียงที่เกิดจากเขาจะทำให้ปราญยศรำคาญ
ที่พักของปราญยศเป็นเพนท์เฮ้าส์ขนาดใหญ่ อยู่บนชั้นที่ดีที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ของคอนโดนี้ โชคแอบเก็บความสงสัยไว้ในใจเรื่องที่ว่า...
แม้ปราญยศจะเป็นถึงระดับผู้จัดการฝ่าย แต่ก็ไม่น่าได้รับเงินเดือนมากพอที่จะผ่อนเพนท์เฮ้าส์หลังนี้แน่ ๆ
กลิ่นประจำตัวของปราญยศลอยคละคลุ้งไปทั่วอาณาเขตห้องพานทำให้ใจแขกผู้มาเยือนนั้นหวั่นไหว รู้สึกเหมือนกำลังถูกโอบกอดอยู่ตลอดเวลา
"โชค"
เจ้าของชื่อสะดุ้งโหยงหันมองคนเรียก พอสบตาคมกริบโชคจึงรีบก้มมองพื้นแกรนิตลาหินอ่อนในทันที "ครับ"
ปราญยศเห็นโชคที่เอาแต่ยืนอยู่หน้าประตูไม่เดินเข้าบ้านเสียดีจึงได้เดินเข้าไปใกล้จับท่อนแขนร้อนจูงให้เดินตาม ปราญยศแอบขมวดคิ้วไม่ชอบพอที่โชคนั้นตัวร้อนกว่าเดิม เขามาหยุดยืนที่ข้างโซฟาเบดขนาดใหญ่ ท่อนแขนหนาจับอีกคนให้หันหน้าเข้าหาในระยะกระชั้นชิด พลางเชยคางขึ้นให้สบตาเขา
ปราญยศเผยยิ้มบางนั่นก็ทำให้โชคชะงักมองอย่างแปลกตา แต่น้ำเสียงนุ่มทุ้มที่เอ่ยต่อมานั้นทำเขาแปลกใจมากกว่าจนทำตัวไม่ถูก
"ผมมีกฎไม่กี่ข้อ"
"..." โชคเคลิ้มฟังอย่างตั้งใจ
"หนึ่ง...อย่าเกร็งตอนอยู่ที่นี่เพราะมันจะทำให้ผมรู้สึกไม่ดี สอง...ผมมักจะทำงานช่วงกลางคืนเพราะงั้นอย่าเสียงดัง สาม...ผมไม่อนุญาตให้ใช้โซฟาในการนอนเป็นหลักเพราะมันคือที่ทำงานของผม"
โชคพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ซึ่งทุกข้อเขาสามารถปฏิบัติตามได้อย่างไม่อิดออด โชคนึกว่ามีเท่านั้น แต่รอยยิ้มบางบนใบหน้าหล่อเหลาหายไป สายตาคมกริบส่อแววจริงจัง
"ข้อสุดท้าย ห้ามเข้าไปห้องนอนที่สอง ในนั้นมีของสำคัญ อันนี้เคร่งครัด" ปราญยศกล่าวเสียงเรียบแต่แฝงคำสั่ง
โชคพยักหน้าอีกครั้ง เขามองห้องดังกล่าว มันเป็นประตูสีแดงอิฐโดดเด่นจากห้องอื่น ๆ ที่คุมโทนสีเทาเงินเป็นส่วนใหญ่ คิดไปว่าอาจจะใช้เก็บตู้เซฟ ของมีค่า ก่อนจะชะงักเมื่อสังเกตเห็นว่าเพนท์เฮ้าส์นี้มีสองห้องนอนใหญ่เท่านั้น โชคขมวดคิ้ว เอ่ยถามสงสัย
"ผมนอนตรงไหนได้บ้างครับ?"
ปราญยศยกยิ้มมุมปากเล็ก ๆ ก่อนจะตอบเสียงทุ้มพร่า
"ห้องผม"
โชคตกใจจนออกทางสีหน้า เขาอ้าปากเหวอ หัวที่ปวดอยู่แล้วยิ่งปวดหนักกว่าเดิมจนเผลอยกมือกุม โชคเอ่ยเสียงแหบแทรกลมร้อนออกมาต้องการปฏิเสธ
"ผู้จัดการครับ ผมนอนที่ห้องรับแขกได้ หากคุณไม่ให้นอนโซฟา ผมสะดวกนอนพื้น" โชคช้อนตาร้อนผ่าวจากอาการไข้มองคนตัวสูง ร้องขออ้อนวอน "นะครับ"
ทว่าปราญยศไม่มองเป็นแบบนั้น โชคอนันต์กำลังยั่วยวนเขา กรามได้รูปขบแน่นเบือนหน้าหนีภาพตรงหน้า เขาไม่ให้คำตอบพลางเปลี่ยนเรื่อง
"ไปอาบน้ำเถอะ"
น้ำอุ่นไหลผ่านร่างกายร้อนฉ่าไม่ได้ทำให้โชครู้สึกดี ริมฝีปากอิ่มเผยอพรูลมหายใจร้อนออกมา ครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดเมื่อยล้าจนแทบทนไม่ไหว หัวเขาก็ปวดแทบจะระเบิดอยู่รอมร่อ
เสื้อยืดกางเกงวอร์มถูกหยิบมาสวมใส่ไม่อิดออด โชคอยากนอนพักแล้ว
อาจจะต้องขอยาลดไข้จากปราญยศสักสามเม็ด...
โชคเปิดประตูห้องน้ำออกมาเจอ Walk in closet สำหรับเก็บเสื้อผ้าและแต่งตัว เขามองกระเป๋าเดินทางของตัวเองที่วางอยู่ พอไปจับพบว่ามันเบาหวิว เสื้อผ้า ชุดทำงานคุ้นตาของเขาแขวนเป็นระเบียบอยู่บนราว แม้แต่ชั้นใน ของใช้ส่วนตัวก็ถูกเก็บในลิ้นชัก โชคหน้าแดงจัด เม้มปากกำมือแน่น
โชคไม่ได้เป็นคนเก็บ...
และคงไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากเจ้าของบ้านที่ทำทุกอย่างให้โชคเสียดิบดี
สองเท้าชื้นเดินออกมายังห้องรับแขกที่ติดกับโซนโต๊ะอาหารตัวยาวสำหรับแปดที่นั่ง โชคชะงักอีกครั้งมองเหยือก แก้วน้ำ และแผงยาที่วางบนโต๊ะ แผ่นหลังกว้างแน่นอัดภายใต้เสื้อเชิ้ตกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ที่ครัวฝรั่ง
ปราญยศหันกลับมาพร้อมถ้วยโจ๊กในมือ เนกไทหายไปแล้ว มันถูกพาดไว้ที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง กระดุมถูกปลดสองเม็ดอย่างสบาย ๆ เขาวางโจ๊กที่เพิ่งเอาออกจากไมโครเวฟเมื่อครู่ลงข้าง ๆ กับน้ำและยา ตาคมสบตากับคนที่ยืนมองเขาทึ่งตะลึง
"มากิน"
นั่นเป็นคำสั่ง โชคไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธแม้ว่าจะไม่หิวก็ตาม ใจโชคอยากลัดขั้นตอน ไปสเต็ปกินยาแล้วนอนเลย แต่ดูเหมือนเจ้าของบ้านจะไม่ยอม โชคทำได้เพียงเดินไปนั่งเก้าอี้จับช้อนเตรียมทานแต่โดยดี เมื่อเห็นดังนั้นปราญยศจึงเดินไปที่โซฟา หยิบไอแพดเครื่องใหญ่ขึ้นมาเลื่อนดูราวกับกำลังทำงาน
โชคนึกไม่เข้าใจ รู้สึกแปลกในท่าทีของปราญยศ ไม่ว่าจะเป็นโชคหรือคนอื่น จะให้ความรู้สึกกับปราญยศที่ว่าอีกฝ่ายเป็นคนแข็งกร้าว ละเอียด เจ้ากี้เจ้าการ ไม่ใส่ใจคนอื่นและมนุษยธรรมมีน้อย (จากที่โชคเคยเห็น) แต่การที่คนตัวใหญ่จัดแจงรับแขกที่เป็นลูกน้องของตัวเองอย่างโชคได้ดีขนาดนี้ ทำเอาอึ้งไม่น้อยที่อีกฝ่ายไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำอย่างที่คิด
โชคกินมื้อเย็นอย่างฝืดฝืน มาขอข้าวเขากิน จะกินเหลือก็น่าเกลียด ปริมาณที่เหลือเกือบครึ่งทำโชคท้อ ไม่ทันจะได้ตักอีกคำ ชามโจ๊กก็เลื่อนหายต่อหน้าต่อตาไปอยู่ในมือปราญยศอีกครั้ง
"อิ่มก็กินยา"
"ครับ อะ ผู้จัดการ!" โชคตกใจมองปราญยศที่ใช้ช้อนตักโจ๊กชามเดิมกินต่อหน้าตาเฉย คนตัวสูงเลิกคิ้วมองโชคงง ๆ
"อันนั้นผมเพิ่งกินไป...ผู้จัดการจะติดไข้นะครับ" โชคเอ่ย
ปราญยศจ้องเขานิ่ง ๆ ครู่หนึ่ง เอ่ยเสียงเรียบแล้วกินต่อ "กินยาได้แล้ว"
อะไรของคุณเขาเนี่ย!
โชคอยากจะทึ้งผมตัวให้หลุดออกมาเหลือเกิน แต่ก็ทำได้เพียงกระดกยาสามเม็ดเข้าปาก แถมยังมียาแก้เจ็บคอด้วย ปราญยศสังเกตแม้กระทั่งว่าเขามีอาการระคายคอ...
"ผมขอนอนที่ห้องรับแขกจนกว่าจะหายดี ถ้าไข้ติดผู้จัดการขึ้นมา ผมเกรงว่าจะแย่นะครับ" โชคเอ่ยเสียงพร่าปนลมหายใจร้าวผ่าว
ปราญยศหัวเราะหึหนึ่งที เขานำชามไปวางที่ซิงก์ล้างจาน หันกลับมาก้าวสามขุมไปยังโชค พลันช้อนคนป่วยขึ้นอุ้มไม่คิดเสวนาตอบโต้
ขี้เกียจเถียง...
"ผู้จัดการครับ! ปล่อยเถอะครับ" โชคมองพื้นที่อยู่ต่ำจากตัวเขาพลันหน้ามืดเพราะความสูง หันขวับมองปราญยศที่มุ่งหน้าไปยังห้องนอน โชคหายใจติดขัด กลิ่นกายหอมโคโลญจน์บวกกับเพศสภาพผู้ชายทำโชคเมาไปชั่วขณะ
คนอะไร เซ็กซี่ยันกลิ่นตัว...
ร่างโปร่งถูกวางลงบนเตียงคิงไซซ์ ผ้าห่มผืนหนาคลุมให้ความอบอุ่นทันที ปราญยศนั่งยวบลงหันข้างให้โชค ฝ่ามือใหญ่ยกขึ้นลูบสางเส้นผมนุ่มลื่นของคนป่วย ส่งสายตาเรียวรีเรียบนิ่งไปให้
โดนผีกลั่นแกล้งจนจับไข้
น่าสงสาร...
ตาปรือฉ่ำทอประกายความกังวล ยังพยายามที่จะพูดออกมา
"ผู้จัดการจะติดไข้..."
"ไม่ต้องห่วงผม ไม่มีอะไรมาทำผมได้หรอก" เขาเอ่ยเสียงนุ่มแบบที่ไม่มีใครได้ยินมาก่อน
"ขอโทษที่รบกวนนะครับ ผมจะอยู่แค่ชั่วคราวเท่านั้น" โชคเอ่ยเสียงเบาคล้ายละเมอ
ปราญยศเช็ดเหงื่อที่ซึมตามไรผม นั่งฟังสีหน้านิ่งไม่เอ่ยแย้งหรือยินยอมใด ๆ
"ผมกลัว"
"ที่นี่ไม่มีอะไร" ปราญยศตอบคลายกังวล
ผมนุ่มถูกลูบไล้อ่อนโยน ให้ความสบายจนคนป่วยไม่อยากจะขัดขืน เปลือกตาหนักอึ้งค่อย ๆ ปิดลงอย่างเชื่องช้า จนกระทั่งลมหายใจที่ติดขัดเริ่มผ่อนเข้าออกยืดยาวอย่างสม่ำเสมอบ่งบอกถึงการหลับลึกในเวลาอันรวดเร็ว
ไม่แปลกสักนิด
เพราะโชคไม่ได้นอนเลยหนึ่งวันเต็ม ๆ
"อือ" โชคขยับตัวอึดอัด เขารู้สึกเหมือนถูกจ้องมอง "อื้ม"
ตาร้อนปรือขึ้นช้า ๆ เพื่อมองหาที่มาความอึดอัด เมื่อปรับสายตาได้ เงาร่างใหญ่ในความมืดมิดกำลังคร่อมตัวทับอยู่เหนือร่างของโชค นัยน์ตากวางเบิกโตตกใจ
มันมาแล้ว
"ฮึก หวา!" คนป่วยส่งเสียงร้องเหวอ ผวาหนีอย่างหวาดกลัว จนลืมนึกไปว่าไม่ได้อยู่บ้านตนเอง มือโชคหลุดขอบเตียงเสียหลักจะร่วงลงที่พื้นลามิเนตในห้องนอน
ทันใดนั้นเอวเพรียวก็ถูกคว้าด้วยความแข็งแรงอย่างรวดเร็ว โชคดิ้นพล่าน ปัดป่ายมือใหญ่ข้างนั้น น้ำหูน้ำตาไหลพราก
"อยะ อย่าทำ ออกไป!"
"โชคอนันต์!"
เสียงทุ้มคุ้นหูตวาดเรียกสติกลับคืน โชคเหล่มองในความมืด จับจ้องร่างเลือนรางอย่างหวาดหวั่น ก่อนจะโล่งอกเล็กน้อยหลังมองเห็นว่า เงาดำที่เห็นนั้นไม่ใช่สิ่งที่โชคกำลังกลัว แต่เป็นปราญยศที่จ้องมองโชคติดตกใจเล็กน้อย
โชคนั่งนิ่งเบิกตาโตที่ขอบเตียง แขนเรียวสองข้างถูกจับยึดไว้โดยปราญยศ
ตอนนี้เที่ยงคืนกว่าแล้ว ไอเย็นแผ่ออกมาจากร่างสูง เขาสวมเสื้อยืดสีดำตัวบางกับกางเกงโปร่งขายาว กลิ่นสบู่เหลวลอยปะทะจมูก โชคถึงเรียบเรียงเหตุการณ์ได้ว่าปราญยศเพิ่งอาบน้ำเสร็จและกำลังปิดไฟนอน เป็นโชคที่หลอนกลัวไปเอง ด้วยเพราะปราญยศนั้นตัวใหญ่โตพอ ๆ กับสิ่งนั้นจนทำเขากลัว
"ฮึก ฮือออ" โชคส่งเสียงทุ้มร้องไห้ไม่นึกอาย เขาร้องด้วยความโล่งอก ขยับตัวจับชายเสื้อยืดอีกฝ่ายแน่นกลัวว่าจะถูกทิ้ง
"ผะ ผมนึกว่าเป็นมัน ฮืออ นึกว่ามันจะมาทำผมอีกครั้ง จะมาทำ..อึก...ร้าย ฮึก" โชคเพ้อ เขากวาดตามองรอบห้องใหญ่หวาดผวา กลัวว่ามันจะแอบอยู่ในมุมอับสายตาสักที่หนึ่ง
ท่อนแขนมากไปด้วยมัดกล้ามสวยงามโอบกายร้อนเข้ามากอด เขาลูบแผ่นหลังบางขึ้นลงปลอบประโลม กวาดสายตาคมกริบไปทั่วห้องว่างเปล่าของตนเอง
"ไม่มีทางที่คุณจะเห็นอะไรในห้องนี้ บ้านนี้"
ปราญยศกระซิบด้วยน้ำเสียงสร้างความเชื่อมั่น เสื้อเขาสัมผัสถึงความเปียกชุ่มด้วยน้ำตาของคนป่วยที่สะอื้นไห้แนบอก เขาพาร่างอ่อนแรงเอนนอนลงบนฟูกนุ่มยวบพร้อมกัน อีกฝ่ายขดหาเขาใต้ผ้าห่มเป็นก้อนกลมไม่โผล่แม้แต่เส้นผม
ปราญยศกอดก้อนกลมนั้นภายใต้ความมืด นานทีเดียวกว่าที่เสียงสะอื้นนั้นจะหายไปแทนที่ด้วยเสียงหายใจติดขัดเป็นท่วงจังหวะ ดวงจิตอ่อนไหวกำลังลื่นไหลเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง
แสงสีขาวสาดส่องเข้ามาในห้องยลโฉมใบหน้าเรียบเฉยเย็นชาที่พระเจ้าประทานหรือไม่ก็เจ้านรกโลกาเสกให้ โครงจมูกชัดเจนขึ้นเงารับแสงอาทิตย์ ขนตาเป็นแพหลุบลงตามดวงตาดำสนิทที่กำลังลดลงมองไปที่ใบหน้าขาวซีดอย่างใช้ความคิด...คิดบางอย่างที่คาดเดาได้ยากแต่คงไม่พ้นเรื่องของคนที่กำลังนอนหลับตาพริ้มสบาย ไร้การขมวดคิ้วดังทุกที
ฝ่ามือพ่วงด้วยนาฬิกาเรือนเงินยกขึ้นสัมผัสหน้าผากมน อุณหภูมิที่ยังคงสูงกว่าปกติส่งผ่านหลังมือแข็งแรงปูดไปด้วยเส้นเอ็น ความร้อนที่สัมผัสได้บ่งบอกถึงอาการป่วยที่ยังไม่ทุเลา แต่อย่างน้อยก็ลดลงจากเมื่อวาน
แผ่นเจลเย็นสีฟ้าแปะลงบริเวณหน้าผากแทนที่ฝ่ามืออุ่น
ร่างในชุดสูทพร้อมไปทำงานลุกขึ้นยืนเต็มความสูง สองมือจับชุดให้เข้ารูปสองสามครั้งด้วยท่วงท่าเชื่องช้าทว่าหนักแน่น ทอดสายตามองคนป่วยอีกนานนับนาทีอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะเดินออกจากห้องนอนไปอย่างเงียบงันไม่ให้รบกวนคนป่วย เพนท์เฮ้าส์กว้างใหญ่เงียบเชียบ มีเพียงหนึ่งมนุษย์ที่กำลังหลับสบายอยู่เท่านั้น...
ลูกเขยคนเปรตก็ไมโครเวฟได้ และยังยืนยันคำเดิม ฉันอยากเป็นโชคอนันต์ กรี๊ดกร๊าด 5555
อีบุ๊กงับ >> https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMzMwOTY5NSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI3ODU3MSI7fQ