ระหว่าง “ผี” กับ “ปราญยศ” อะไรน่ากลัวกว่ากัน? ...ได้ยินมาว่า 'โชคอนันต์' ถูกคนทำเสน่ห์ใส่ล่ะ แถมคุณผู้จัดการหน้าดุก็ชอบทำตัวแปลก ๆ
ชาย-ชาย,รัก,ลึกลับ,อาชญากรรม,ดาร์ค,แซ่บ,นายเอกมึน,พระเอกโหด,พระเอกคลั่งรัก,พระเอกหล่อ,พระเอกหื่น,พระเอกรวย,พระเอกร้าย,พระเอกยันเดเระ,พระเอกขี้หึง,พระเอกขี้หวง,พระเอกครั่งรัก,โหด,รุนแรง,ระทึกขวัญ,20+,18+,อีโรติก,โรมานซ์,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ปราญอาถรรพ์ [END]ระหว่าง “ผี” กับ “ปราญยศ” อะไรน่ากลัวกว่ากัน? ...ได้ยินมาว่า 'โชคอนันต์' ถูกคนทำเสน่ห์ใส่ล่ะ แถมคุณผู้จัดการหน้าดุก็ชอบทำตัวแปลก ๆ
X เนื้อหารุนแรงมาก โปรดอ่านคำเตือนโดยละเอียด X
- ปราญอาถรรพ์ -
โชคอนันต์ผู้ที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายมาเกือบสามสิบปี จู่ ๆ ก็โดนผีตามรังควาน ถึงขั้นถูกทักว่า "โดนของ"
ชีวิตก็บัดซบพออยู่แล้วแท้ ๆ แต่ทำไมเดี๋ยวนี้ผู้จัดการฝ่ายอย่าง 'ปราญยศ' ที่โชคนั้นหลบเลี่ยงและเกรงกลัวนักหนา ถึงได้มาวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ สร้างความกดดันตลอดเวลา แถมยังล่วงรู้เรื่องที่โชคนั้นเห็นผีอีก ทว่าอีกฝ่ายกลับทำให้เหล่าผีร้ายพวกนั้นหลบเลี่ยงอย่างหวาดกลัว
หนทางแห่งแสงสว่างได้ปรากฏ ปราญยศจะทำให้โชคไม่ต้องเห็นผีอีกต่อไป โชคอนันต์ต้องยอมร้องขอความช่วยเหลือจากปราญยศ ผู้ซึ่งน่ากลัวกว่าผีเสียอีก!
"ผู้จัดการช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ" - โชคอนันต์
"ผมจะได้อะไร?"
"ตามที่ผู้จัดการต้องการครับ"
โชคมองรอยยิ้มมุมปากที่ไม่ทราบเหตุผลของปราญยศ...มันดูเจ้าเล่ห์หรือเปล่านะ?
--------------------------------
"...ผมจะไม่มาทำโอทีในวันพรุ่งนี้ครับ" - โชคอนันต์
"บอกเหตุผลที่ดีมาสักข้อ"
"ผะ ผมจะไปแก้ของครับ"
--------------------------------
"คุณปราญยศ เมื่อคืนคุณไปไหนมา?" - โชคอนันต์
"ผมก็อยู่กับคุณไง"
"โกหก..." - โชคอนันต์
"ถ้าไม่อยู่บ้าน ผมจะอยู่ไหนกันนะ?"
"สายตาของคุณ เหมือนมันมีคำตอบอยู่แล้วเลย..."
"คุณคิดว่าผมเป็นฆาตกรด้วยหรือเปล่า หืม?"
- ปราญยศ -
เรื่อง : ปราญอาถรรพ์
ผู้เขียน : จูฮาราห์ (Juharah)
สำเร็จเมื่อ : 24/12/2023
สถานะ : จบแล้ว 15/03/2024
Chapter 19 "นายหน้ามือทอง"
ในที่สุดแสงสีขาวที่สาดส่องเข้ามาในห้องนานหลายชั่วโมงก็สามารถทำให้คนบนเตียงกว้างได้สติตื่นขึ้นมา
ดวงตากลมสีน้ำตาลเข้มสุกใสปรือขึ้นอย่างช้า ๆ หลีกหนีจากความมืดมิดสู่ความสว่างจากแสงดวงอาทิตย์ เพดานห้องสีเทาอ่อนราบเรียบคือสิ่งแรกที่เห็น แม้จะแอบตกใจครู่หนึ่งเพราะความไม่คุ้น แต่ก็สามารถดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็วเมื่อรู้ว่าทำไมตนเองมาอยู่ที่นี่และเห็นเพดานห้องแปลกตา
ใบหน้าเรียวหันมองนาฬิกาสี่เหลี่ยมที่ตั้งบนโต๊ะข้างเตียง เวลาเกือบบ่ายสองนั่นคือสิ่งที่โชคเห็น ดูได้จากที่เจ้าของห้องไม่ได้อยู่กับเขาในเวลานี้ก็เป็นเพราะว่ามันเป็นวันทำงาน โชคไม่ได้ไปบริษัทในวันนี้และคงจะไม่ไปอีกแล้วทั้งวัน เขาต้องทำเรื่องลางานย้อนหลัง ผู้จัดการโต้งต้องบ่นเขาแน่
ความสดชื่นจากการนอนเต็มอิ่มที่โอบอุ้มร่างกายทำให้โชคยันตัวเองขึ้นมานั่งบนเตียงได้อย่างไม่อิดออด มือเรียวยกขึ้นแกะบางสิ่งที่เกะกะเหนือคิ้วออกมาดู แผ่นเจลเย็นที่ตอนนี้อุ่นระอุจากความร้อนที่หน้าผากเขา โชคนั่งเหม่อมองมันอยู่ครู่ใหญ่เพราะใช้ความคิด
โชคนอนหลับแบบไร้ความฝัน หลับลึก...มันดีจริง ๆ
เตียงนอนโอบอุ้มทั้งร่างสูง 170 ต้น ๆ ไว้อย่างทั่วถึง เมื่อนอนลงคล้ายถูกโอบกอด
หมอนหนุนพอดีหัว ไร้ความรู้สึกปวดแข็ง
ผ้าห่มให้ความอบอุ่นได้เป็นอย่างดีแก่โชคที่นอนหนาวจากอาการป่วย
รู้สึกเต็มอิ่มแบบที่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มาเนิ่นนาน
โชคได้นอนสักที...
โทรศัพท์เขาอยู่ไหนกันนะ?
ร่างโปร่งหย่อนขาลงพื้นข้างเตียง โชคเดินเชื่องช้าเล็กน้อยเพราะกำลังที่ไม่คงที่คงวา ประตูบานสวยเปิดออกช้า ๆ ท่าทางเกรงใจแฝงไว้ในทุกฝีก้าวเดินแม้เจ้าของบ้านจะไม่อยู่ก็ตาม
ประตูสีแดงอิฐทรงโมเดิร์นดึงดูดสายตาของโชคได้เป็นอย่างดี เขาทำเพียงแค่มองเท่านั้นเพราะนึกถึงข้อห้ามที่เจ้าของบ้านบอกไว้
ห้องนั้นห้ามยุ่ง
โชคเลิกสนใจในทันที ในห้องนั้นมีของสำคัญ เขาแค่มองเฉย ๆ ก็รู้สึกเหมือนตนเองเป็นขโมยอย่างบอกไม่ถูก สองขายาวก้าวไปยังโต๊ะหน้าโซฟาเบดห้องรับแขก บนนั้นมีของใช้ของโชคหลายชิ้น ทั้งกุญแจ กระเป๋าสตางค์ มือถือ กรอบรูปเขากับแม่ที่หยิบติดมือมา
คีย์การ์ดเพนท์เฮ้าส์หรูและกุญแจสำรอง
แซนด์วิช ขวดน้ำและยาลดไข้
ไร้ข้อความที่เจ้าของห้องควรทิ้งไว้ แต่การไม่บอกกล่าวอะไรก็เหมาะสมกับเจ้าตัวเหมือนกัน
ตึกตัก
ความใส่ใจที่เหนือความคาดคิดอีกครั้งทำให้ก้อนเนื้อในอกสั่นไหวผิดจังหวะ
พฤติกรรมแปลกประหลาดของผู้จัดการฝ่ายหน้าตายทำให้โชคงงเป็นอย่างมาก
คิดไปก็เท่านั้น เสียงกระเพาะที่คำรามลั่นทำให้แซนด์วิชก้อนสามเหลี่ยมถูกส่งเข้าปากอย่างรวดเร็ว
โชคอ้าปากกัดมันคำใหญ่ เขาเป็นผู้ชายที่ไม่เรียบร้อยมากนัก กัดเพียงสามสี่คำมันก็หมดไปราวกับมันดูน้อยทั้ง ๆ ที่สร้างความอิ่มให้กับโชคระดับหนึ่งเลยทีเดียว สิ่งที่ตามไปทันทีคือยาและน้ำเปล่า
โชคยกจานไปล้างเก็บ แม้แต่ชามโจ๊กเมื่อคืนก็ถูกล้างไปแล้ว บ่งบอกความสะอาดของเจ้าของห้อง
ภาพเมื่อคืนที่ปราญยศใช้ช้อนตักโจ๊กเข้าปากอย่างไม่นึกรังเกียจแม้ว่ามันจะผ่านปากคนป่วยอย่างโชคแล้วก็ตาม แถมยังกินส่วนที่เหลือต่อจนหมด พอคิดถึงภาพนั้นก็ทำโชคผงะ หน้าแดงก่ำ พลันรีบไล่ความคิดนั้นทิ้ง
ตอนมัธยมก็กินต่อเพื่อนเป็นปกติ
ผู้ชายเหมือนกันน่า
แต่เขาไม่ได้สนิทกับปราญยศ...
ความคิดสุดท้ายทำโชคขมวดคิ้วมุ่นอีกรอบ
ติ๊ง!
เสียงแจ้งเตือนแอปพลิเคชันดังเรียกสติอีกครั้ง โชคหยิบมันมาเปิดดูเพื่ออ่านข้อความ
Nim: ป่วยหรอ? วันนี้ลาใช่ไหม
Nim: [ไม่ได้รับสาย]
Nim: นิ่มติดต่อเพื่อนเรื่องหมอธรรมให้แล้ว เขาไม่ให้สิ่งของมาไว้ป้องกันนะ ต้องไปหาเขาที่สำนักจังหวัดกาญจนบุรี โชคสะดวกไปเมื่อไหร่?
Nim: ถ้าตื่นแล้วตอบกลับทีนะ
หมอธรรมก็คล้าย ๆ กับหมอผีแต่เป็นสายขาว มุ่งอยู่ในศีลในธรรมความดี มีวิชาอาคมแกร่งกล้า นั่นคือสิ่งที่โชคเข้าใจหลังจากเสิร์ชหาข้อมูลในกูเกิล เขารีบตอบกลับเพื่อนสาวที่แอบชอบ
ChockAnun: เลิกงานแล้วมาเจอกันที่ร้านกาแฟxxxได้ไหม เราอยากคุยด้วย
ทันทีที่โชคส่งไป ก็ขึ้นเครื่องหมาย 'อ่านแล้ว' จากคู่สนทนาฝั่งตรงข้ามทันที
Nim: ไปบ้านนิ่มได้ไหม พอดีแม่ชวนกินข้าวพอดี
ChockAnun: เย้ ข้าวฟรี!
นิ่มส่งสติกเกอร์เบ้ปากกลับมา โชคยิ้มละมุนและส่งสติกเกอร์รูปหัวใจกลับไปและอ่านข้อความของนิ่มอีกครั้ง
สิ่งของป้องกันงั้นเหรอ?
ราวกับเพิ่งนึกอะไรได้ โชคลุกขึ้นยืนเดินไปทางห้องน้ำติดห้องแต่งตัว ตากลมมองหาเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาที่ใส่เมื่อวานนี้ มันอยู่ไหน?
โชคเดินออกมา แล้วตรงไปยังโซนที่คิดว่าเป็นห้องซักแห้ง ในนั้นมีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบ มีตู้สำหรับใส่อุปกรณ์ซักผ้าวางเป็นระเบียบ แต่ไม่มีร่องรอยเสื้อผ้าใส่แล้วของเขา ตากลมหันไปมองตะกร้าพลาสติกสีขาวที่มีกองเสื้อผ้าอยู่ด้านใน
ไม่จริงน่า
ร่างโปร่งนั่งคุกเข่าลงข้างตะกร้าเสื้อผ้าใส่แล้ว ชั้นบนสุดมันมีเสื้อผ้าของโชค รวมอยู่กับของเจ้าของบ้าน...
โชคไม่ได้เสียมารยาทถึงขั้นเอาเสื้อผ้าไปซักรวมกับคนไม่สนิทแน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นหัวหน้า โชคแยกเสื้อผ้าตัวเองออกมากองไว้ด้านข้าง รวมถึงชั้นในที่แยกอยู่ในตะกร้าเล็กด้วย ใบหน้าใสขึ้นสีเขินอายไม่พอใจ
โชคล้วงบางสิ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ตที่ใส่แล้ว พระเครื่องนั้นมีขนาดเล็ก แลดูเก่าแก่โบราณ
โชคจะนำไปใส่กับสร้อยคอสักเส้น
แต่ตอนนี้โชคทำได้แค่นำสิ่งมีค่านี้ไปเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์ มีขนาดเล็กถึงขนาดนั้นเลยล่ะ...แต่โชคไม่รู้หรอกว่ามันทรงพลังแค่ไหน รู้เพียงว่าอยากจะห้อยคอติดตัวไว้แม้ว่าจะไม่ชอบสวมเครื่องประดับก็ตาม
อาการป่วยของโชคดีขึ้นเป็นอย่างมาก ถึงจะมีอ่อนล้าบ้างแต่ก็ไม่มากจนถึงขั้นทำอะไรไม่ได้ เขาเดินกลับเข้าไปในห้องนอน ปูเตียงใหม่ พับเก็บผ้าห่มอย่างเรียบร้อย เก็บกวาดเศษผมที่ร่วงตามพื้นจนสะอาดสะอ้านถึงจะไม่รู้ว่าเป็นของโชคหรือไม่ก็ตาม โชคเดินจัดเก็บข้าวของตัวเองให้เป็นระเบียบ
เขาจะต้องเป็นผู้อาศัยที่ไม่มีปัญหา...
โชคไม่อยากรบกวนปราญยศนานนัก เขาต้องรีบแก้ไขปัญหานี้ และย้ายออกไปโดยเร็วที่สุด
Rrrr
เสียงริงโทนคุ้นหูดังขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง มือเพรียวละจากการจัดวางของใช้ส่วนตัวในห้องน้ำเพื่อล้วงไปหยิบมันขึ้นมามองดูเบอร์แปลกที่โทรเข้าหาเขา โชคชั่งใจคิดเล็กน้อยว่าเบอร์นี้มีโอกาสเป็นใครบ้าง แต่โชคไม่ได้สั่งของ ไม่ได้ยื่นใบสมัครงานที่ไหน...
"สวัสดีครับ" เขากรอกเสียงสุภาพผ่านช่องไมค์มือถือ
(สวัสดีค่ะ ดิฉันได้รับการติดต่อมาจากคุณปราญยศ เป็นตัวแทนขายคอนโดxxx ของคุณโชคอนันต์ค่ะ) น้ำเสียงสดใสดังขึ้นทันทีหลังเขารับสาย
"ฮะ?"
(ได้ยินมาว่าวันนี้คุณโชคอนันต์หยุด ไม่ทราบว่าสะดวกคุยเลยไหมคะ ดิฉันอยู่แถวซอยxxxพอดีค่ะ)
โชคถือโทรศัพท์ค้างไว้ที่หู ปากกระจับอ้าออกด้วยความงงงวย บทสนทนาเมื่อคืนวานนี้ดังสะท้อนเข้ามาในหัวเรื่องที่ผู้จัดการฝ่ายแนะนำโชคให้ขายคอนโดทิ้งและจะติดต่อนายหน้าให้ แต่ไม่นึกว่าจะเร็วขนาดนี้ มันไม่ครบวันเลยด้วยซ้ำ
(ฮัลโหล? คุณโชคอนันต์อยู่ไหมคะ?)
เสียงหวานตามสายเรียกเขาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าไร้การตอบกลับ
"อะ ครับ ๆ เจอกันที่ไหนดีครับ" โชคตอบรับไม่ทันคิด
(ดิฉันอยู่ร้านกาแฟหน้าคอนโดของคุณปราญยศค่ะ คุณโชคอนันต์ลงมาได้เลยนะคะ)
โชครับชื่อร้านมาท่องไว้ในใจและคุยถึงตำแหน่งนัดหมายอีกครั้ง เขาบอกเธอว่าจะลงไปในอีกสิบห้านาที เพราะต้องอาบน้ำแต่งตัว ตั้งใจว่าคุยเสร็จแล้วโชคจะเดินทางไปหานิ่มต่อตามที่นัดหมายไว้เลย ไปถึงคงจะเกือบห้าโมงเย็นพอดี คีย์การ์ดและกุญแจที่ปราญยศทิ้งไว้ให้ถูกหยิบเอามาไว้รูดผ่านประตูออกจากคอนโดหรู
โชคย่างกรายเข้าร้านกาแฟไปพบหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่ง เธอรีบเดินมารับเขาและพูดคุยสดใสตามนิสัยนักขาย
"สวัสดีค่ะคุณโชคอนันต์ ดิฉันสั่งอเมริกาโน่มาไว้ให้แล้ว เชิญเลยค่ะ"
"อ่าครับ" โชคพยักหน้ารับอย่างห้ามไม่ได้ เขาถูกหญิงสาวจูงให้มานั่งที่เก้าอี้เบาะนุ่ม
"อุ๊ย ตัวรุม ๆ นะคะ" เธอบอกหลังจากจับแขนเขา
โชคครางรับเล็กน้อย เขาตอบยิ้ม ๆ "ผมป่วยนิดหน่อยครับ แต่ดีขึ้นมากแล้ว"
"งั้นเหรอคะ ช่วงนี้อากาศร้อนด้วยเนอะ งั้นเรามาเริ่มเลยไหมคะ คุณโชคจะได้รีบกลับไปพักผ่อน" เธอถามอย่างกระตือรือร้น
"อ่า ครับ"
โชคยังคงแอบลังเลที่จะขายมันอยู่นิดหน่อย
นายหน้ามือทองสังเกตถึงสีหน้าคิดหนักนั้น ข้อความกำชับผ่านเสียงทุ้มเย็นของคนที่โทรมาจ้างงานเธอก็ดังขึ้นมาในหัวราวกับรู้ล่วงหน้าว่าคนตรงหน้าเธอจะมีปฏิกิริยาอย่างไร เธอรีบฉีกยิ้มแสร้งป้องปากกระซิบ
"ดีนะคะที่คุณโชคต้องการขายตอนนี้"
คำพูดของเธอทำโชคเอะใจ "ทำไมครับ?"
"แถบนั้นมีโรงงานตั้งอยู่สองสามเจ้าใช่ไหมล่ะคะ อีกห้าปีพวกเขาจะรื้อทิ้งเพราะกิจการใกล้จะเจ๊ง ไม่นานความเจริญที่มีน้อยนิดตรงนั้นจะไม่เหลือ ราคาคอนโดก็จะตกลงค่ะ" เธอกล่าวยิ้ม ๆ แบบกระซิบกระซาบ "ลับมาก ๆ เลยนะคะ อย่าบอกใครเชียวค่ะ"
โชคอึ้ง อย่างนั้นหรือ? เขานึกว่ามันรุ่งเรืองเสียอีก ทั้งคนในคอนโดเขาส่วนใหญ่ก็เป็นพนักงานของที่นั่น มิน่าพักหลังมานี้พวกเขาพากันย้ายออกไปทีละห้อง คงเพราะลาออกจากงานที่ไม่มีอนาคตให้ไปต่อสินะ อย่างนี้ห้องโชคจะขายได้สักเท่าไหร่กันล่ะ
"คุณโชคไม่ต้องกังวลนะคะ ดิฉันจะทำราคาให้เองค่ะ ไว้ใจดิฉันนะคะ" เธอพูดพลางเอากำปั้นทุบอกสีหน้ายิ้มแย้ม เธอน่ะ...นายหน้ามือทองเชียวนะ!
"มันน่าจะได้สักเท่าไหร่ครับ" โชคถาม ขอแค่มันได้ราคาเดิมไม่ทำเขาขาดทุนก็เพียงพอแล้ว
"ที่จริงจะทราบได้หลังดูสภาพห้องนะคะ แต่ที่ดิฉันประเมิน ไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านห้าแสนบาทค่ะ"
หนึ่งล้านห้าแสนบาท!
โชคทำหน้าอึ้ง เขาซื้อมาในราคาไม่ถึงล้านด้วยซ้ำเพราะมันเป็นคอนโดเล็ก ๆ ในตรอกชุมชนแออัด สิ่งที่ได้ยินทำเอาใจเขาชื้นขึ้นเริ่มคิดที่อยากจะขาย
"คุณโชคสะดวกพาดิฉันไปชมห้องวันไหนคะ จะได้ดูเรื่องรีโนเวทด้วย"
"ไม่!"
เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อโชคปฏิเสธเสียงดังในทันทีจนคนในร้านหันมอง โชคหอบหายใจเล็กน้อยก่อนจะกล่าวขอโทษ คำพูดเมื่อกี้ของเธอทำเขาขนลุก
"ขอโทษครับ แต่จะเป็นไรไหมถ้าผมจะให้กุญแจคุณไปดูเอง"
ตอนนี้โชคแทบไม่อยากจะกลับไปเหยียบที่ห้องของตัวเองอีกเลย...
"อ่า แล้วพวกของมีค่า?"
"ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณสามารถเข้าไปดูและพาธนาคารไปประเมินได้เลย" โชคพูดไปก่อนทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าได้ไหม
"เอ่อ โอเคค่ะ งั้นเดี๋ยวดิฉันชี้แจงเรื่องที่คุณโชคต้องไปทำที่ธนาคารนะคะ และรบกวนติดต่อทางนิติกรคอนโดไว้ให้ดิฉันสำหรับเข้าไปด้วยนะคะ" เธอปรับสีหน้าและกลับมาพูดยิ้มแย้มตามเคย
โชคพยักหน้ารับ พยายามปรับอารมณ์และตัวที่สั่นเทาหวาดกลัวให้กลับมาเป็นปกติเพื่อคุยกับเธอต่อเรื่องแนวทางรีโนเวท ระยะเวลา รวมถึงสัญญาจ้างนายหน้าที่จะมอบให้เธอร้อยละสามเท่านั้น มันเป็นตัวเลขที่ทำโชคงง แต่คำตอบติดตลกของเธอก็ทำเขาเบาใจ
'ดิฉันเน้นปริมาณ ไม่เน้นมูลค่าค่ะ เพราะงั้นถึงได้ฉายานายหน้ามือทองมาครอง ขายได้เยอะแต่ไม่รวยเท่าไหร่ค่ะ ฮ่าๆๆ'
เขาพูดคุยกับนายหน้ามือทองอย่างออกรสจนเกือบสี่โมงเย็น เธอพูดเก่ง มิน่าเธอถึงประสบความสำเร็จในสายงานของเธอ แต่ท้ายสุดเขาก็ต้องบอกลาเพราะว่ามีธุระต่อที่ต้องไปทำ แน่นอนว่าเธอไม่ยื้อโชคให้ตัวเองเสียเวลาเช่นกัน อีกทั้งเธอยังช่วยเรียกแท็กซี่ที่หน้าร้านและส่งโชคขึ้นรถพร้อมปิดประตูให้ท่าทีสดใส
หญิงสาวหุ่นเพรียวมองท้ายแท็กซี่ที่จากไปพร้อมโบกมือลายิ้ม ๆ พอพ้นสายตา เธอก็หยิบมือถือขึ้นมาส่งข้อความหาลูกค้าอีกคนของเธอ ไม่นานเกินรอเธอก็ต้องยกมือปิดปากร้องอู้วอย่างมีจริตจะก้านเมื่อมีแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีถึงห้าหลักอย่างง่ายดาย
ท่อนนิ้วยาวได้รูปเกี่ยวบานมู่ลี่ให้เปิดออกเล็กน้อย ตาเหยี่ยวคมกริบจดจ้องไปยังโต๊ะทำงานว่างเปล่านอกห้องทำงานอีกครั้ง หลังจากที่เจ้าตัวทำเช่นนี้ซ้ำ ๆ มาแล้วหลายรอบจนไม่อยากจะนับ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าคนที่นั่งประจำโต๊ะวันนี้จะไม่มา
ปราญยศเผลอจินตนาการถึงร่างโปร่งนั่งยืดตัวจดจ้องไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยแววตาจริงจัง มือเรียวจับเมาส์พลิ้วไหวด้วยความชำนาญกว่าใครทั้งหมด สลับกับการรัวนิ้วลงบนแป้นพิมพ์โดยไม่ละสายตาจากหน้าจอ เจ้าตัวคงไม่รู้ว่าตนเองดูเคร่งเครียดขนาดไหนยามจดจ่อกับการทำงาน มุมปากหยักยกยิ้มนึกถึงเจ้าของโต๊ะและภาพที่เขามักเห็นประจำก็เลือนไปเหลือเพียงความว่างเปล่า มุมปากก็หุบลงไปเป็นเรียบเฉยตามเดิม เขาละมือจากบานมู่ลี่ให้มันปิดลงอีกครั้ง สองมือล้วงเข้าไปในกางเกง ใบหน้าเทพบุตรครุ่นคิดหนักหน่วง
จากนั้นสูทตัวนอกที่แขวนอยู่ก็ถูกนำมาสวม เอกสารงานถูกนำใส่กระเป๋าและปราญยศก็เดินถือมันออกไปจากห้องทำงาน
พอร่างใหญ่พ้นออฟฟิศได้สามวินาที ราวกับทั้งห้องพร้อมใจกันถอนหายใจและเสียงซุบซิบก็ดังขึ้น
'เป็นไปได้ยังไง วันนี้เขากลับก่อนทั้ง ๆ ยังเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงถึงจะเลิกงาน'
'วันนี้ผู้จัดการแปลกมาก ตอนฉันเข้าไปอัปเดตงาน เขาดูเหม่อลอยแปลก ๆ ไม่เคยเป็นมาก่อน!'
'เขามีเรื่องเครียดอะไรหรือเปล่านะ'
'คนอย่างเขามีช่วงเวลาไหนไม่เครียดอย่างนั้นเหรอ?'
'บอกว่าเขากำลังมีความรักยังดูเป็นไปได้กว่า'
'หรือกับผู้ชายที่เขาเป็นข่าวซุบซิบด้วยตอนนี้?'
"กลับมาแล้ว~ วันนี้พาผู้ชายมาบ้านด้วยล่ะคุณแม่"
นิ่มตะโกนเข้าไปในบ้านขณะถอดรองเท้าไว้ที่ชั้น โชคที่ตามมาในเสื้อยืดกางเกงยีนสบาย ๆ มีสีหน้ายิ้มแย้มขำคำพูดเธอ ไม่นานก็มีเสียงหญิงเลยวัยกลางคนมาหน่อยตะโกนกลับมาพร้อมกับตัวเธอที่เดินถือทัพพีมาด้วย
"พามาหรือฉุดมาจ๊ะยัยลูกสาว" เธอทำท่าเขกหัวลูกสาว ก่อนจะยิ้มกว้างให้โชค "เข้ามาก่อนลูก"
"สวัสดีครับแม่" โชคยกมือไหว้สวย
"แม่ทำกับข้าวเสร็จพอดีเลย วันนี้พ่อเขาไม่อยู่ ไม่ต้องเกร็ง" เธอบอกพลางขยิบตา
"ฝากท้องด้วยนะครับ" โชคกล่าวยิ้ม ๆ
"อุ๊ย งั้นก็ไม่ต้องแอบกินเบียร์แล้วสิโชค" นิ่มว่าพลางยกถุงเบียร์ที่ซื้อมาสามกระป๋อง
"จ้ะ แม่ตัวดี" คนเป็นมารดาอดกระแนะกระแหนไม่ได้
คีย์การ์ดแตะหน้าประตูที่หนาแน่นด้วยความปลอดภัย เมื่อมันปลดล็อก ร่างใหญ่ก็ดันตัวเองเข้าไปด้านในห้องเงียบกริบ
พลันสายตานิ่งงัน ใจกระตุกวูบราวกับถูกกระชาก ยามที่เห็นด้านในห้องนั้นมืดสนิทไร้เงาคน มีแสงจากด้านนอกลอดเข้ามาให้เห็นเค้าโครงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถุงอาหารเย็นและขนมเค้กร้านดังที่ซื้อมาด้วยความตั้งใจร่วงลงพื้นในทันที สองขายาวก้าวไปยังห้องนอน ไม่สนใจแม้กระทั่งจะเปิดไฟด้วยซ้ำ คาดหวังว่าเมื่อเปิดเข้าไปเขาจะได้ยินเสียงกรนหรือร่างที่หลับตัวกลม แต่ต้องผิดหวังเมื่อเขาเห็นเพียงผ้าห่มที่พับเก็บเป็นระเบียบเรียบร้อย
ใบหน้ามืดครึ้มลง ก้าวถัดไปยังห้องน้ำที่ติดกับห้องแต่งตัว เขาเปิดไฟและรีบเร่งไปเปิดดูด้านในตู้เสื้อผ้า ก่อนจะโล่งใจไปหนึ่งเปราะเมื่อเห็นชุดที่มีขนาดเล็กกว่าของเขาเกือบครึ่งถูกแขวนไว้ตามเดิมหลายชุด เขาก้มหน้าลง ปลายจมูกเลื่อนผ่านชายผ้าสูดดมกลิ่นหอมดอกไม้จากน้ำยาปรับผ้านุ่ม เสียงพ่นหัวเราะแห้งดังออกมาจากลำคอหนาอย่างโล่งใจ ทว่ามันกลับไร้ความตลกยามที่ได้ยิน มันเป็นเสียงหัวเราะที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากได้ยิน
"โชค...ให้ตายสิ" เขาสบถพึมพำแทรกเสียงขำแสยะ
Me: //เอามือทาบอก อะหรุ่มมมม
https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMzMwOTY5NSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI3ODU3MSI7fQ