ระหว่าง “ผี” กับ “ปราญยศ” อะไรน่ากลัวกว่ากัน? ...ได้ยินมาว่า 'โชคอนันต์' ถูกคนทำเสน่ห์ใส่ล่ะ แถมคุณผู้จัดการหน้าดุก็ชอบทำตัวแปลก ๆ
ชาย-ชาย,รัก,ลึกลับ,อาชญากรรม,ดาร์ค,แซ่บ,นายเอกมึน,พระเอกโหด,พระเอกคลั่งรัก,พระเอกหล่อ,พระเอกหื่น,พระเอกรวย,พระเอกร้าย,พระเอกยันเดเระ,พระเอกขี้หึง,พระเอกขี้หวง,พระเอกครั่งรัก,โหด,รุนแรง,ระทึกขวัญ,20+,18+,อีโรติก,โรมานซ์,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ปราญอาถรรพ์ [END]ระหว่าง “ผี” กับ “ปราญยศ” อะไรน่ากลัวกว่ากัน? ...ได้ยินมาว่า 'โชคอนันต์' ถูกคนทำเสน่ห์ใส่ล่ะ แถมคุณผู้จัดการหน้าดุก็ชอบทำตัวแปลก ๆ
X เนื้อหารุนแรงมาก โปรดอ่านคำเตือนโดยละเอียด X
- ปราญอาถรรพ์ -
โชคอนันต์ผู้ที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายมาเกือบสามสิบปี จู่ ๆ ก็โดนผีตามรังควาน ถึงขั้นถูกทักว่า "โดนของ"
ชีวิตก็บัดซบพออยู่แล้วแท้ ๆ แต่ทำไมเดี๋ยวนี้ผู้จัดการฝ่ายอย่าง 'ปราญยศ' ที่โชคนั้นหลบเลี่ยงและเกรงกลัวนักหนา ถึงได้มาวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ สร้างความกดดันตลอดเวลา แถมยังล่วงรู้เรื่องที่โชคนั้นเห็นผีอีก ทว่าอีกฝ่ายกลับทำให้เหล่าผีร้ายพวกนั้นหลบเลี่ยงอย่างหวาดกลัว
หนทางแห่งแสงสว่างได้ปรากฏ ปราญยศจะทำให้โชคไม่ต้องเห็นผีอีกต่อไป โชคอนันต์ต้องยอมร้องขอความช่วยเหลือจากปราญยศ ผู้ซึ่งน่ากลัวกว่าผีเสียอีก!
"ผู้จัดการช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ" - โชคอนันต์
"ผมจะได้อะไร?"
"ตามที่ผู้จัดการต้องการครับ"
โชคมองรอยยิ้มมุมปากที่ไม่ทราบเหตุผลของปราญยศ...มันดูเจ้าเล่ห์หรือเปล่านะ?
--------------------------------
"...ผมจะไม่มาทำโอทีในวันพรุ่งนี้ครับ" - โชคอนันต์
"บอกเหตุผลที่ดีมาสักข้อ"
"ผะ ผมจะไปแก้ของครับ"
--------------------------------
"คุณปราญยศ เมื่อคืนคุณไปไหนมา?" - โชคอนันต์
"ผมก็อยู่กับคุณไง"
"โกหก..." - โชคอนันต์
"ถ้าไม่อยู่บ้าน ผมจะอยู่ไหนกันนะ?"
"สายตาของคุณ เหมือนมันมีคำตอบอยู่แล้วเลย..."
"คุณคิดว่าผมเป็นฆาตกรด้วยหรือเปล่า หืม?"
- ปราญยศ -
เรื่อง : ปราญอาถรรพ์
ผู้เขียน : จูฮาราห์ (Juharah)
สำเร็จเมื่อ : 24/12/2023
สถานะ : จบแล้ว 15/03/2024
Chapter 20 "ชื่อของเขานั้นดังในหัว"
ท่ามกลางมื้อเย็นที่โชคมาฝากท้องเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผ่านไปอย่างเชื่องช้า จนคนที่พูดต่อไม่ไหวคือหญิงที่อายุมากสุดในบ้าน เธอขอตัวก่อนเพราะละครหลังข่าวภาคค่ำเริ่มฉายแล้ว โชคทำหน้าที่แขกที่ดีในการเก็บจาน ล้างมันอย่างสะอาดหมดจรด ก่อนจะเดินตามมานั่งข้างนิ่มที่หน้าประตูบ้าน สาวเฟรนด์ลี่ยกเบียร์ขึ้นดื่ม มองออกไปยังสวนเล็ก ๆ หน้าบ้านท่ามกลางเสียงจิ้งหรีดร้องคลอเบา ๆ เมื่อเธอเห็นโชคก็ยื่นเบียร์กระป๋องสั้นให้และพูดดักทางก่อนถูกปฏิเสธ
"แค่นี้โชคไม่เมา ไม่ต้องปฏิเสธเลย"
โชคหุบปากที่อ้าค้าง แล้วรับมาเปิดเสียงดังเป๊าะ ยกกระดกจนลูกกระเดือกเคลื่อนไหวขึ้นลง ความแสบซ่าวิ่งผ่านลำคอทำเอานิ่วหน้ายามกลืน โชคไม่สันทัดจริง ๆ
นิ่มยื่นสร้อยพระไปให้โชค เอ่ยถามไปด้วย "อะ แม่เอาไปใส่สร้อยให้แล้ว ว่าแต่ได้มาจากไหน?"
"จากวัดที่ไปขอนอนน่ะ" โชคตอบและรับมาคล้องไว้ที่คอทันที เพียงแค่มีอะไรมาสัมผัสที่ผิวคอ เขาก็รู้สึกหนักขึ้นมาด้วยความไม่ชินและไม่ชอบ
"อ๋อ" เธอครางรับในลำคอ และเข้าเรื่องที่ชวนโชคมาในวันนี้ "เรื่องหมอธรรมอะ เพื่อนนิ่มที่ชื่อแก้วเขาบอกว่า ถ้าอยากจะแก้ของหรือปรึกษาอะไร ต้องไปให้หมอธรรมคนนั้นดูก่อนนะ เขาให้ของมาซี้ซั้วไม่ได้"
"เรายินดี ไม่ติดอะไร ขอแค่เขายอมช่วยเราก็พอ" โชคกล่าวพร้อมดวงตาที่สั่นไปด้วยความหวัง
"แล้วโชคจะไปกาญจนบุรีได้วันไหน?"
"พรุ่งนี้เลยได้ไหม" โชคตอบทันที
"พรุ่งวันศุกร์จ้ะ! อย่างไวคือเสาร์นะ" นิ่มผลักไหล่โชคแรง ๆ หนึ่งที ก่อนจะมีสีหน้าจริงจัง "ถามจริง โดนหนักมากเหรอโชค เจออะไรมาบ้าง ถึงกับต้องไปวัด"
หนักสิ
หนักมาก
โชคชั่งใจอยู่นาน เขายกเบียร์ขึ้นดื่มเสริมกำลังใจก่อนจะเล่า
"เราเจอผีน่ะ เห็นทุกตัวที่มันต้องการให้เราเห็น"
"..." นิ่มนั่งฟังนิ่ง ๆ
"มันมาหาเราทั้งตอนตื่นและตอนนอน โดยเฉพาะตอนนอน..มันไม่ปล่อยให้เราหลับสบายเลยล่ะ"
มันก่อกวน
ขบกัด กอดรัดแน่น
กระเสือกกระสน หมกมุ่นอยู่กับโชค
ความวูบวาบแล่นทั่วกายยามจินตนาการถึง อีกทั้งมาพร้อมกับขนทั่วล่างที่ลุกชันไม่เว้นแม้แต่เส้นผม
"มีทั้งเงาดำ เด็ก คนแก่ มาทั้งน่ากลัว สยดสยองหรือแม้แต่ร่างที่เราแทบแยกไม่ออกว่าเป็นคนหรือเปล่า"
นิ่มเริ่มผวาตามน้ำเสียงโมโนโทนราวกับปลงในชีวิต
"บางครั้งมันจะเอาถึงตาย"
ภาพผีสาวที่ร่วงลงมาหน้ารถจนเกือบเสียหลักพลิกคว่ำ
แจกันในห้องที่ร่วงลงมาเกือบกระทบหัวของเขา
"มันไม่เคยเกิดขึ้น เราคิดว่าเราอาจจะโดนของ แต่ก็หาแรงจูงใจไม่ได้"
"เลยไม่ปฏิเสธที่จะพบหมอธรรม ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนโชคไม่ค่อยเชื่อ" นิ่มกล่าวต่อประโยคของโชค
"อืม เราต้องลองทุกวิถีทาง"
โชคจะลำบากปราญยศไปตลอดไม่ได้ แค่คืนเดียวเขาก็รู้สึกเป็นภาระแล้ว
"นิ่มจะช่วยโชคเองนะ เราจะไปกาญจนบุรีด้วยกัน" เธอจับต้นแขนเขา บีบย้ำให้กำลังใจ
โชคมองใบหน้าหวานพลางยิ้มบาง ใจเต้นไหว ไม่รู้เพราะความประทับใจหรือแอลกอฮอล์ที่เข้าปาก ทำให้โชคตัดสินใจยื่นหน้าไปหาสาวตัวเล็กอย่างช้า ๆ ใบหน้าของนิ่มชะงักเธอผงะออกไปเล็กน้อย ท่าทีไม่ตอบรับโดยทันที ทำโชคใจหาย
"ทำอะไรน่ะโชค?"
โชคนั่งมองเธออึ้ง เธอถามทั้งที่รู้ว่าเขาจะทำอะไรเมื่อครู่นี้
โชคกำลังจะจูบเธอ
โชคกำกระป๋องเปล่าแน่น ก่อนจะตัดสินใจพูดสิ่งที่อยู่ในใจมาหลายปีรัวยาว
"เราชอบนิ่ม ชอบมานานมาก นิ่มใจดีตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงวินาทีนี้ สวยและน่ารัก นิ่มทำให้เราทำงานต่อได้ในบริษัทที่เอาเปรียบเราขนาดนี้"
เธอคือเหตุผลที่โชคไม่ย้ายไปไหน
นิ่มอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน ก่อนที่เธอจะยิ้มและกล่าวออกมาเสียงหวาน
"นิ่มรู้" เพียงแต่ไม่คิดว่าโชคจะเปิดปากพูดตอนนี้ไม่รู้ว่าเธอไปสะกิดโดนอะไรเข้า
โชคชะงัก เงยหน้าสบตากลมโตไหวระริก
"รู้?"
"เฮ้อ รู้มานานพอ ๆ กับที่โชคมีความรู้สึกแบบนั้นแหละนะ" เธอเอนตัวไปด้านหลังใช้มือดันพื้นไว้ท่าทีสบายใจ
"ขอโทษที่ทำเป็นไม่รู้มาตลอดนะ แต่นิ่มยอมเสียความสัมพันธ์แบบเพื่อนของเราไม่ได้จริง ๆ"
"..." หูของโชคอื้ออึง แต่ทว่าเขากลับรับรู้มันได้ทุกคำพูด แม้กระทั่งจังหวะลมหายใจของเธอ
เกิดความเงียบนานหลายนาที โชคที่รับรู้มาตลอดอยู่แล้วว่าจะถูกปฏิเสธได้แต่ยอมถอนหายใจอย่างปลดปลงและยิ้มบางยอมจำนน ไม่ฉุดยื้อในความสัมพันธ์ที่เป็นไปได้ยาก "อืม เข้าใจแล้ว"
โชคแอบหยอดความรู้สึกให้เธอมาตลอดหลายปี มีหลายครั้งที่การกระทำของเขามันซื่อตรง แต่ก็ไม่ทันสังเกตว่าเธอก็ซื่อตรงเช่นกัน แถมชัดเจนกว่า มีแต่โชคที่หลับหูหลับตาไม่รับรู้ความชัดเจนนั้น
นิ่มมองโชคนานขณะหนึ่ง เธอยิ้มแล้วกล่าวไขข้อกระจ่าง "นิ่มชอบผู้หญิงน่ะ"
"อืม...ฮะ?!" คำบอกเล่าล่าสุดของเธอทำโชคตกใจยิ่งกว่าที่เธอปฏิเสธความรู้สึกของเขาเสียอีก นิ่มขำในท่าทีตอบรับของโชคเล็กน้อย
"นิ่มชอบคนคนหนึ่งในออฟฟิศน่ะ อันที่จริงเราคุยกันอยู่ สักสาม สี่เดือนแล้ว" ราวกับคำพูดไม่เพียงพอ เธอยกนิ้วขึ้นมาโชว์โชคอีกต่างหากด้วยท่าทางน่ารักตามนิสัยของเธอ
โชคที่อ้าปากหวอค่อย ๆ หุบลง ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
อย่างน้อยเธอไม่ได้ปฏิเสธเพราะเธอไม่ชอบโชค แต่เธอไม่มีวันจะชอบโชคในแง่นั้นได้เลยต่างหาก พอคิดเช่นนั้นโชคก็โล่งใจ
"นิ่มเคยจะเปิดใจนะ แต่ไม่ไหวจริง ๆ นิ่มขนลุกน่ะ" เธอพูดพลางขำและตบไหล่เขาดังแปะหลายที
"สงสัยปีนี้ปีชงแน่ ๆ" โชคพึมพำติดตลกเหม่อมองฟ้ามืด ทั้งโดนผีหลอก ทั้งอกหัก
"ตลก ปีนี้โชคอยู่รั้งท้ายความชงเลยนะ"
โชคยิ้ม แปลกที่เขาไม่เสียใจเท่าไหร่นัก แต่กลับโล่งอกไม่ทราบสาเหตุ หรือบางทีโชคอาจจะต้องการความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนแท้เท่านั้น คนที่โสดมาทั้งชีวิตอย่างโชคอาจจะเข้าใจผิดก็ได้ แต่ถึงอย่างไรก็เถอะ...
"ขอบใจนะที่บอกตรง ๆ"
"ขอบใจเหมือนกันที่ยังนั่งอยู่ตรงนี้" นิ่มตอบกลับ แววตาเธอเต็มไปด้วยความโล่งใจมากล้นไม่ต่างกับโชค
"ถ้าโชคไป โชคก็ไม่มีเพื่อนแล้วนิ่ม"
"นั่นสิ ก็มีคนสวยอย่างนิ่มเป็นเพื่อนคนเดียวนี่นะ แย่จัง..." นิ่มแสร้งทำสีหน้าเห็นใจ
โชคขำพลันยกมือจับหัวเล็กขยี้เบา ๆ ด้วยความเอ็นดู แต่แล้วก็ต้องหุบยิ้มเมื่อบรรยากาศอบอุ่นแปรเปลี่ยนเป็นเย็นเฉียบในฉับพลัน โชควางมือค้างไว้ไม่ไหวติง
"อยู่ ๆ ก็ขนลุก เราเข้าบ้านไหมโชค" นิ่มลูบแขนตัวเองรัว
โชคนั่งนิ่ง เขาตาค้างมองบางสิ่งที่คืบคลานออกมาจากด้านข้างของนิ่มในมุมที่เธอไม่เห็น ราวกับมันแอบอยู่ตรงนั้นมานาน สีหน้าของมันเหี้ยมเกรียม แสยะยิ้มจนน้ำลายหนืดยืด เขาเห็นแม้กระทั่งยามที่มันหยดลงบนหัวไหล่เธอ และไม่ได้มีแต่ตัวเดียว อีกนับไม่ถ้วนที่เกาะอยู่นอกกำแพง เข้ามาไม่ได้เพราะมีศาลพระภูมิ แต่โชคก็ไม่เข้าใจว่าไอ้ตัวที่อยู่ห่างเขาไปแค่ช่วงแขนเดียว มันเข้ามาได้อย่างไร
ปราญยศ
ชื่อคนคนหนึ่งผุดขึ้นมาในทันที โชคพลันลุกขึ้นยืนตัวตรง จนเธอต้องลุกตาม เขากล่าวกับนิ่ม พยายามอย่างมากให้เสียงไม่สั่นไหว
คุณปราญยศ...ช่วยด้วย
"นิ่ม...เข้าบ้านเถอะ เราจะกลับแล้ว..เหมือนกัน"
"อ้าว นึกว่าจะนอนนี่"
โชคเหลือบมองเงาดำที่ยืนเว้นระยะห่างเขาออกไป อยู่ด้านหลังนิ่ม ท่าทีมันดูเหมือนไม่กล้าเข้าใกล้เขา จนกระทั่งเงาดำทมิฬใหญ่โตคุ้นตาปรากฏขึ้นมา ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยโทสะ ทำเอาโชคอกสั่นขวัญผวา เมื่อเจอเจ้ากรรมคู่กรณี ร่างนั้นไม่มีท่าทีเกรงกลัวเหมือนอีกสองตน มันเหยียบย่างมาจากมุมมืดอย่างช้า ๆ ทว่ามันไม่มาหาโชค ไม่แม้แต่จะมองเขาด้วยซ้ำ มันจะมุ่งเข้าหาหญิงสาวตรงหน้าโชคอย่างแน่วแน่
ถึงแม้จะกลัว แต่สัญชาตญาณทำให้โชคจับร่างเล็กของนิ่มแล้วเอาตัวเข้าไปขวางระหว่างมันกับคนตัวเล็กไว้ โชคยิ้มให้นิ่มปากสั่น ๆ ขนลุกกว่าเดิมยามที่เขารู้สึกว่ามันคืบคลานมาถึงด้านหลังจนสัมผัสถึงไอเย็นได้
คุณปราญยศ ช่วยด้วย...
"โชคตัวสั่นมาก ไข้กลับหรือเปล่า"
ไม่พูดเปล่า มือเล็กยกขึ้นมาแตะหน้าผากเขาด้วย
ในวินาทีเดียวกันนั้น ก็มีเสียงคำรามไม่พอใจดังเหนือหัวของโชค ร่างโปร่งสะดุ้งเฮือกใหญ่
"เย็นเจี๊ยบเลย อะ!" นิ่มถูกจับให้หันหลัง โชคดันเธอเข้าไปในบ้านผ่านช่องประตูระเกะระกะด้วยกระป๋องเบียร์
นิ่มมองดูเพื่อนชายผิวขาวที่หยิบกระเป๋าขึ้นมาแขวนบ่าติดรีบร้อน มือสั่น ๆ ของโชคจับที่บานประตูในบ้านเตรียมปิดให้
"นิ่ม เข้าบ้านสวดมนต์ นอนกับแม่วันนี้นะ" โชคบอกแก่นิ่มเสียงแผ่ว
ประโยคของโชคฟังดูแปลก คำของมันดูขาด ๆ ไปไม่สมประกอบ นิ่มกำลังจะเอ่ยทักแต่ก็ต้องชะงักในตอนที่ประตูปิดเกือบหมด เธอเห็นนัยน์ตาสิ้นหวังของโชคมองกลับมาให้พร้อมรอยยิ้มบาง แต่ที่ทำเธอหน้าซีดขาอ่อนล้มลงที่พื้นคือเงาดำใหญ่โตน่ากลัวที่อยู่ด้านหลังโชค มันมองเธอ มองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยแรงอาฆาตราวกับจะปลิดชีพเธอในตอนนี้ ไม่ทันที่นิ่มจะเอ่ยรั้งเพื่อนสนิท ประตูก็ปิดลงเสียแล้ว เหลือไว้เพียงอาการขนลุกชันทั่วตัว สันหลังอ่อนไหววาบ
ปราญ
ปราญยศ
คุณปราญยศ
เสียงในหัวดังขึ้นตลอดทาง ราวกับว่าอีกฝ่ายจะปรากฏขึ้นอย่างปาฏิหาริย์...แน่นอนว่าไม่มีทาง โชคแปลกใจไม่น้อยที่เขาสามารถนั่งแท็กซี่มาถึงคอนโดหรูโดยสวัสดิภาพ ตอนที่โชคจ่ายค่าโดยสาร คนขับรถก็มองหน้าซีดปากสั่นของเขาแปลก ๆ สลับกับคอนโดที่ตัวเองมาส่ง
ดูแล้วไม่ใช่คนรวย
เด็กเสี่ยนี่ปัดทิ้งเลย
สงสัยช่างไฟ...
โชครับเงินทอนแล้วกระโดดลงจากที่นั่งข้างคนขับ เขามองรถที่เคลื่อนไป ด้านหลังมีผู้หญิงตัวซีดกับเด็กสองคนนั่งไปกับรถแท็กซี่คันนั้น แน่นอนว่าคนขับไม่รู้ตัวเหมือนกันว่ามีผู้โดยสารนั่งไปด้วย ไม่วายพวกเขายังหันมายิ้มให้โชคอีก...
ผู้จัดการ ช่วยด้วย...
ร่างโปร่งวิ่งผ่านพนักงานที่ยิ้มต้อนรับโชคราวกับรู้จักเขาเป็นอย่างดี โชคเดินไปมองรอบตัวไปอย่างหวาดผวา เขามองเห็นทุกสิ่งอย่างที่ไม่ใช่มนุษย์รายล้อมไปหมด ลิฟต์ที่เคลื่อนขึ้นถึงชั้นเกือบบนสุดมันให้ความรู้สึกช้าจับจิต โดยเฉพาะไปยังชั้นไพรเวทที่ไม่มีผู้โดยสารอยู่ร่วมด้วย
โชคกระทืบเท้าอยู่กับที่จนในที่สุดเขาก็ออกจากลิฟต์ได้ โชคแตะคีย์การ์ดหรูสีดำเปิดประตูวิ่งเข้าไปในห้อง
โชคต้องการปราญยศ
โชคกลัว
มันมีความรู้สึกแบบนั้นเต็มหัวของโชค ปราญยศคือพระมาโปรดของเขา อีกฝ่ายจะช่วยปัดเป่าสิ่งที่เขาเจอได้อย่างแน่นอน
โชคหอบหายใจเหนื่อยจากการเดินวิ่งไม่หยุด เขามองแผ่นหลังกว้างของปราญยศที่อยู่ในเสื้อยืดสีเทา กางเกงขายาวพร้อมนอน ร่างสูงเกือบ 190 กำลังยืนมองออกไปนอกกำแพงกระจกเต็มบาน ราวกับยืนดูความวุ่นวายของแสงสี
"ผู้จัดการ" เสียงเรียกดังขึ้นแผ่ว ๆ
โชครู้สึกเหมือนได้รับการปลดปล่อย เขากึ่งวิ่งไปหาคนที่ยืนหันหลัง อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขากลับมาจากเสียงเรียกชื่อของตนจึงเอี้ยวตัวมามองด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่หากโชคไม่สังเกตถึงความแน่นิ่ง ความคุกรุ่นในแววตานั้น ร่างโปร่งวิ่งเข้าไปหากายแกร่งแล้วโผเข้ากอดหมับอย่างไร้สติ
ปราญยศเซเล็กน้อยเท่านั้นแม้จะถูกจู่โจมด้วยอ้อมกอดของผู้ชายเต็มวัย ร่างโปร่งกระชับกอดเขาแน่น ทั้งยังคงสั่นกลัวบางอย่างที่หนีมา ปราญยศหรี่ตาคมลง ความมืดมิดปกคลุมในจิตใจมืดบอด แต่ก็พึงพอใจที่ได้รับรู้ว่า
โชคอนันต์กลับมาหาเขาแล้ว...
ใจที่ขุ่นมัวราวกับถูกชำระล้าง ท่อนแขนแข็งแรงด้วยมัดกล้ามเป็นลอนสมส่วนยกขึ้นกอดตอบกระชับร่างบางให้แนบชิดกว่าเดิม ใบหน้าหล่อเหลาตามนิยมก้มลงแนบส่วนแก้มไร้ไขมันลงกับปุยผมนุ่มสลวย สันจมูกสูดดมความหอมจากกายเนื้อคนตัวเล็กกว่าแม้ไม่ได้สัมผัสโดยตรง กลิ่นแอลกอฮอล์ที่รอยมาเกือบทำให้โทสะกลับมาอีกหน ลมหายใจถอดถอนยาวราวกับกำลังควบคุมอารมณ์ น้ำเสียงทุ้มเข้มเจือความหงุดหงิดเอ่ยถามคำถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าคำตอบอยู่ตรงหน้า
"กลับมาแล้วเหรอ"
โชคปล่อยน้ำตาไหลเปียกเสื้อยืดหอม เขาพยักหน้าตอบคำถามกับกล้ามเนื้อหน้าอกแน่น ยิ่งซุกเข้าไปให้ปกปิดการมองเห็น การกอดตอบของปราญยศทำให้เขารู้สึกปลอดภัยอย่างเหลือเชื่อ แผ่นหลังของโชคไม่วูบโหวงเพราะท่อนแขนที่โอบรัดรอบตัว
ร่างโปร่งถูกอุ้มตัวลอยอย่างง่ายดายให้มานั่งคุดคู้บนตักของปราญยศ ในขณะที่อีกฝ่ายนั่งยืดขาบนโซฟาเบด
ปราญยศยังคงโอบกอดร่างสั่นเทาเอาไว้ หมากฝรั่งรสมินต์ในปากเขาถูกขบเคี้ยวซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนความหวานหาย เสียงน้ำลายกระทบกับความเหนียวหนืดดังเบา ๆ ในบางจังหวะ วันนี้มันถูกเขานำมาใช้เคี้ยวแก้อาการอยากบุหรี่ที่เลิกไปได้หลายเดือน ปกติเขาไม่อยากเวลานี้ แต่วันนี้มันหงุดหงิดเป็นพิเศษ
กายหยาบเอนแผ่นหลังพิงโซฟาท่าทีสบาย ปรายตาคมราวกับใบมีดมองถุงใส่กล่องอาหารใบใหญ่ที่ถูกยัดลงขยะนิ่ง ๆ และเย็นชา
ก่อนหน้านั้นมันถูกซื้อด้วยอารมณ์ที่อ่อนโยน
ฟันที่ขบเคี้ยวหมากฝรั่งยิ่งหนักแน่นขณะมองจุดเดิม
ตอนที่พวกมันถูกกระแทกลงในถังขยะ มันเต็มไปด้วยอารมณ์ในขั้วตรงกันข้าม
"อื้อ"
ปราญยศชะงักจากภวังค์ความคิดมืดมน ศีรษะสะบัดจนเส้นผมที่ปรกหน้าผากเคลื่อนไหวเล็กน้อย เขาหันมองคนกำลังเคลิ้มในอ้อมกอดที่ส่งเสียงประท้วงบางอย่าง ร่างโปร่งทำท่าจะหนีออกจากเขาเพราะอาการเจ็บจากการโดนกอดรัด
อ่า ปราญยศเผลอบีบเอวอีกฝ่ายแรงเกินไป มันน่าจะทิ้งรอยไว้... มือใหญ่คลายตัวลง ท่อนแขนยังคงโอบกอดเอาไว้หลวม ๆ แต่ก็กักขังไม่ยอมให้ไปไหนเช่นกัน
โดนผีหลอกแบบใดคิดถึงปราญยศ เอ๊ะๆๆๆ 🤔
ตอนหน้า NC แบบอรุ่มมมมมฮะะะ ❗️ จะเปิดให้อ่านฟรีถึง 20.00 น. นะคะ จากนั้นจะติดเหรียญค่ะ ขอค่าข้าวในแต่ละวันหน่อยค่ะ ฮืออออ
//คอมเม้นต์คุยกับเค้าหน่อยคับบบ อ่านทุกตัวอักษรเลย แงง