ผมตื่นมาก็พบกับผู้หญิงนอนอยู่ในอ้อมแขนของผม ตอนแรกก็ตกใจนึกว่าเมื่อคืนหลังจากที่เมาผมทำอะไรไร้สติลงไป แต่ยัยนี่กลับบอกว่าตัวเองนั้นเป็นผี ผมไม่เข้าใจเลย เกิดอะไรขึ้นเนี่ย
ดราม่า,ชาย-หญิง,รัก,แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,สืบสวนสอบสวน,ผี,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Oh my gosh! สวัสดีครับคุณผีที่น่ารักผมตื่นมาก็พบกับผู้หญิงนอนอยู่ในอ้อมแขนของผม ตอนแรกก็ตกใจนึกว่าเมื่อคืนหลังจากที่เมาผมทำอะไรไร้สติลงไป แต่ยัยนี่กลับบอกว่าตัวเองนั้นเป็นผี ผมไม่เข้าใจเลย เกิดอะไรขึ้นเนี่ย
เพราะเมื่อคืนไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อน ฉลองที่เบสเฟรนของ 'บอย' คนนี้พึ่งกลับมาจากต่างประเทศ เลยทำให้เมาไม่ได้สติจนถึงห้อง พอตื่นขึ้นมากลับพบหญิงสาวในอ้อมกอดบนเตียง แบบนี้ใครจะไม่คิดไปเรื่อยถูกไหม? แต่ยัยนี่ดันบอกว่าตัวเองเป็นผี ผมนี่ถึงกับฮะ?? นอกจากเป็นผียังไม่พอ ต้องหาสาเหตุการตายเพื่อไปเกิดใหม่อีก ความทรงจำตอนเป็นคนก็ไม่มี...ชื่อตัวเองก็จำไม่ได้ ผมเลยให้ชื่อใหม่ไปว่า 'เกิร์ล' แล้วภาระกิจ เอ้ย ภารกิจตามหาสาเหตุการตายของผีน้อยก็ได้เริ่มต้นขึ้น...
"บอย...อยากรู้อะไรล่ะจ๊ะ?"
"ถ้าแม่แก้วไม่พร้อมบอกความจริงก็ไม่เป็นไรครับ ผมรอฟังอยู่เสมอนะครับ" ผมตีหน้าเศร้า การแอ๊บแบบนี้ไม่ถนัดเลยแฮะ! ลำบากอ่ะ!!
"อืม...แม่บอกหนูได้จริงๆ ใช่ไหมจ๊ะ" สีหน้าของแม่แก้วดูอึดอัดใจ...ผมก็พลอยอึดอัดใจตามไปด้วย ใจจริงผมไม่อยากทำให้ผู้มีพระคุณของผมต้องรู้สึกแบบนี้เลย...
"ครับ"
"หนูลินน่ะ..." แม่แก้วอึกอักอยู่ครู่หนึ่ง ราวกับกำลังคิดไตร่ตรองว่าจะบอกผมดีหรือไม่ แต่แล้วก็ตัดสินใจพูดต่อ "เสียพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังตัวเล็กๆ เลยต้องอาศัยอยู่กับลุงแท้ๆ น่ะจ่ะ"
"แล้วพอจะมีช่องทางติดต่อไหมครับ" จบประโยคแม่แก้วทำสีหน้าเลิ่กลั่ก ให้ตายเถอะ ผมรู้สึกผิดจนจะเป็นบ้าอยู่แล้วนะ
"ม..." ยังไม่ทันที่แม่แก้วจะเอ่ยพูดอะไร ผมก็รู้สึกผิดจนทนไม่ไหว เอ่ยแทรกแทน
"ไม่เป็นไรครับ ถ้าพร้อมบอกความจริงเมื่อไหร่บอกผมนะครับ ผมพร้อมช่วยเสมอ" อะไรไม่รู้ทำให้ผมตัดสินใจพูดแบบนั้น เอาเข้าจริงๆ ผมคิดว่าป้านุชน่าจะมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ด้วยแน่
แต่เพียงแค่ผมไม่รู้ว่าเหตุการณ์มันเป็นยังไงก็เท่านั้น
เห็นทีต่อจากนี้ผมควรจะต้องผูกความไว้ใจให้แม่แก้วและป้านุชเสียแล้วล่ะนะ
"ผมกลับแล้วนะครับ สวัสดีครับ" ผมยกมือไหว้ ก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อมตามมารยาทไทยก่อนจะเดินออกจากห้องไป เห้อ...ผมไม่ไหวแล้วกับการสืบเรื่องนี้ ปวดหัวปวดใจจะแย่
"กลับมาแล้ว" ผมเปิดประตูเข้าห้องมาก่อนจะถอดรองเท้าแล้วเดินเข้ามาวางของขวัญที่แม่แก้วมอบให้ไว้บนโต๊ะทำงาน สายตาก็เหลือบมองหาผีน้อยที่เป็นตัวปัญหาชีวิตผม
เจอตัวแล้ว...ร่างเล็กกำลังนอนหลับอยู่บนโซฟาอย่างสบายใจ ใบหน้าหวานกำลังบ่งบอกได้ถึงความสุขจากฝันดี ริมฝีปากเล็กอ้ากว้างจนน้ำลายไหลย้อยลงเป็นทางเปื้อนโซฟา ผมเดินเข้าไปจ้องมองผีน้อยใกล้ๆ ใช้มือลูบน้ำลายเปียกชื้นที่ไหลลงบนแก้มให้หมดไป
แก้มยัยนี่นุ่มมาก เหมือนกับเด็กที่ไร้เดียงสาทั้งท่าทางและการกระทำ ผมยิ้มบางๆ ให้กับผีน้อยตรงหน้า จริงๆ แล้วเธอน่ารักมากกว่าที่ผมคิด
"น่ารักมาก..." ผมเผลอคิดดังไปหน่อย แต่เกิร์ลดูไม่มีทีท่าจะรู้สึกตัว บางทีเธออาจจะหลับลึกเกินไปน่ะ
"อืม~" แต่จู่ๆ ร่างเล็กที่นอนนิ่งมานานก็ส่งเสียงเบาๆ ดวงตากลมโตสีน้ำตาลค่อยๆ เปิดขึ้นมามองผมที่กำลังนั่งอยู่ตรงหน้าช้าๆ เมื่อสมองวิเคราะห์ภาพตรงหน้า เกิร์ลก็ลุกขึ้นนั่งบนโซฟาเหมือนกับหมาที่เห็นเจ้านาย
"ทำไมวันนี้กลับเร็วจังล่ะ!"
"เจ้านายให้หยุด แล้วนี่ทำอะไรให้ฉันกินไหม" ผมเอ่ยยิ้มๆ ใส่ผีน้อยตรงหน้า
"ไม่ได้ทำ..." เธอทำหน้ายู่ "ก็ปกติไม่กลับไว"
"ฮ่าๆ ฉันมีของจะให้เธอด้วย" ว่าจบผมก็หยิบของขวัญจากแม่แก้วมากให้เกิร์ล ในตอนนี้อย่าพึ่งคิดว่าผมไม่อยากใช้ หรือรังเกียจอะไรแบบนั้น
ผมต้องการสื่อสารกับเกิร์ลผ่านแชตบ้าง เพราะมันส่งไปถึงทันที บางครั้งผมก็มีเหตุการณ์ที่ไม่รู้ล่วงหน้า (เช่นวันนี้) ทำให้ไม่สามารถบอกเกิร์ลไว้ก่อนได้ เธออาจจะเป็นกังวลผมเลยให้มือถือเธอไว้ติดตัว
แน่นอนว่ามันก็ยังคงเป็นของผม แค่ให้มันเป็นไอแพดส่วนกลางของเรา...ผมอาจจะใช้มันทำงานบ้าง หรือเกิร์ลอาจจะใช้มันอ่านนิยายออนไลน์ ผมไม่อยากพกของที่ดูราคาแพงแบบนี้ออกไปไหนมาไหน ผมรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนที่ควรจะใช้ของแบบนั้นต่อหน้าผู้คน ให้มันอยู่ในห้องผมนั่นแหละดีแล้ว
"ว๊าวววว!!" เกิร์ลตาลุกวาวก่อนจะหยิบไอแพดขึ้นมาเปิดดูอย่างตื่นเต้น
"ฉันให้เธอเอาไว้ใช้โทรหาฉัน หรือเวลาว่่างๆ เธอจะอ่านนิยายออนไลน์ก็ได้ แต่ฉันก็อาจจะทำงานในไอแพดนี้ี้ด้วย"
เธอพยักหน้า แต่ก็ยังไม่ละสายตาจากของในมือที่กำลังแกะออกมาใช้ นัยน์ตาสีน้ำตาลเปร่งประกายระยิบระยับราวกับเป็นความสดใสของโลกใบนี้
ก๊อกๆ ขณะที่พวกเรากำลังคุยกันก็กลับมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นแทรกมาจากหน้าห้อง ผมอาสาลุกออกไปเปิด ดูแน่นอนว่าเกิร์ลเปิดไม่ได้หรอก เดี๋ยวคนที่อยู่หน้าประตูงงแล้วจะกลัวห้องผม ฮ่าๆ
"สวัสดีครับ" ผมเปิดประตูไปทักทายผู้มาเยือน ปรากฏว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือคุณยายห้องข้างๆ ท่านอยู่ที่นี่คนเดียว ช่วงเสาร์อาทิตย์จะมีญาติๆ มาหาบ้างแต่ก็ไม่ได้เสียงดังรบกวนผม คุณยายยืนยิ้มให้ผมก่อนจะหยิบยื่นของในมือส่งให้ผม
"ยายเห็นมาส่งนานแล้วในตระกร้าพัสดุ แต่หนูก็ไม่ได้ลงไปเอาเลย ยายเลยเอามาให้จ๊ะ" ผมรับมามองอย่างพินิจพิจารณาว่าตัวเองสั่งอะไรไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
"ขอบคุณครับยาย" ผมเงยหน้าจากของในมือแล้วเอ่ยขอบคุณ ก่อนจะก้มลงมองของในมืออีกครั้ง
"จ้า" ว่าจบคุณยายก็เดินยิ้มกลับห้องตัวเองไป ใบหน้าเหี่ยวย่นดูมีตวามสุขเหมือนได้เห็นอะไรน่าสนใจ
ผมปิดประตู ลูบๆ คลำๆ ถุงพัสดุในมือก่อนจะเดินไปหยิบกรรไกรในครัวมาแกะห่อพัสดุปริศนาเพื่อคลายความสงสัยในใจ
"มันนุ่มๆ ...เหมือนฟองน้ำ" ผมเผลอคิดดังจนพูดออกมา สายตาดันหันไปก็สบกับเกิร์ลที่นั่งหน้าแดงอยู่บนโซฟา ด้านหน้ามีกล่องไอแพดที่ยังแกะไม่เสร็จวางอยู่
พอแกะออกมาผมถึงกับร้องอ๋อ นี่มันชุดชั้นในที่ผมซื้อมาให้เกิร์ลนี่ สั่งไปตั้งนานแล้วผมก็ดันลืมไปเสียสนิทเลย ผ่านมาตั้งสองอาทิตย์แล้วกว่าจะได้ให้...
เอ๊ะ...นี่ผมกำลังถือกางเกงในกับชุดชั้นในของผู้หญิงอยู่นี่ ถึงมันจะไม่เคยผ่านการใช้ แต่อีกไม่นานมันก็จะถูกใช้โดยยัยผีน้อยที่นั่งอยู่ตรงหน้านี่...
พอผมคิดได้ก็วางถุงเสื้อลงตรงหน้าเกิร์ลแล้วค่อยๆ ถอยหลังช้าๆ ราวกับคนที่กำลังถูกหมีล่า ใบหน้าเห่อร้อนขึ้นมาเล็กน้อยก่อนที่ผีน้อยบนโซฟาจะฮุบเสื้อไว้ในอ้อมแขนแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไป
โอ้ย ให้ตายเถอะ ผมถือเสื้อชั้นในกับกางเกงในผู้หญิงในมือแล้วจ้องเหมือนจะสิง ทั้งๆ ที่ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรแท้ๆ ทำไมตอนนี้ผมถึงได้รู้สึกเขินขนาดนี้นะ...
แกร๊ก! ไม่นานเสียงเปิดประตูห้องน้ำก็ดังขึ้น ร่างเล็กๆ เดินออกมาพร้อมกับหอบกะละมังใส่เสื้อชั้นใน ขาเรียวยาวรีบสาวเท้าเดินออกไปตากผ้าหน้าระเบียง
เธอไม่สบตาผม พยายามเดินก้มหน้าด้วย ฮ่าๆ อาการลุกลี้ลุกลนของเกิร์ลเมื่อกี้มันน่ารักมากๆ สำหรับผีตนนึงในสายตาของคนที่ไม่ค่อยยุ่งกับผู้หญิงอย่างผม