ผมตื่นมาก็พบกับผู้หญิงนอนอยู่ในอ้อมแขนของผม ตอนแรกก็ตกใจนึกว่าเมื่อคืนหลังจากที่เมาผมทำอะไรไร้สติลงไป แต่ยัยนี่กลับบอกว่าตัวเองนั้นเป็นผี ผมไม่เข้าใจเลย เกิดอะไรขึ้นเนี่ย
ดราม่า,ชาย-หญิง,รัก,แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,สืบสวนสอบสวน,ผี,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Oh my gosh! สวัสดีครับคุณผีที่น่ารักผมตื่นมาก็พบกับผู้หญิงนอนอยู่ในอ้อมแขนของผม ตอนแรกก็ตกใจนึกว่าเมื่อคืนหลังจากที่เมาผมทำอะไรไร้สติลงไป แต่ยัยนี่กลับบอกว่าตัวเองนั้นเป็นผี ผมไม่เข้าใจเลย เกิดอะไรขึ้นเนี่ย
เพราะเมื่อคืนไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อน ฉลองที่เบสเฟรนของ 'บอย' คนนี้พึ่งกลับมาจากต่างประเทศ เลยทำให้เมาไม่ได้สติจนถึงห้อง พอตื่นขึ้นมากลับพบหญิงสาวในอ้อมกอดบนเตียง แบบนี้ใครจะไม่คิดไปเรื่อยถูกไหม? แต่ยัยนี่ดันบอกว่าตัวเองเป็นผี ผมนี่ถึงกับฮะ?? นอกจากเป็นผียังไม่พอ ต้องหาสาเหตุการตายเพื่อไปเกิดใหม่อีก ความทรงจำตอนเป็นคนก็ไม่มี...ชื่อตัวเองก็จำไม่ได้ ผมเลยให้ชื่อใหม่ไปว่า 'เกิร์ล' แล้วภาระกิจ เอ้ย ภารกิจตามหาสาเหตุการตายของผีน้อยก็ได้เริ่มต้นขึ้น...
ผมลืมตาตื่นขึ้นมาเป็นครั้งที่สองของวันนี้ เพราะพึ่งเผลอหลับไปในขณะที่นอนหนุนอยู่บนตักเกิร์ล ตอนนี้เธอยังคงนั่งให้ผมหนุนต้นขาเล็กเหมือนกับก่อนจะหลับ แต่เพิ่มเติมคือเธอถอดแว่นของผมออกเพื่อให้ผมหลับได้สบายขึ้นโดยไม่มีขาแว่นกวนใจ
"น่ารัก" ผมเอ่ยออกมาเบาๆ ขณะพยุงตัวเองลุกขึ้นมานั่งข้างๆ เกิร์ลซึ่งในตอนนี้กำลังหลับสนิท ผมจ้องมองใบหน้าหน้าเนียนใสที่ไร้การแต่งเติม ริมฝีปากชมพูจิ้มลิ้มอ้าออกเล็กน้อยตามประสาคนที่กำลังหลับ ไร้สติและไม่รู้สึกตัว
แต่ไม่นานผมก็ต้องชะงักเพราะเปลือกตาเล็กๆ ที่ปิดอยู่กำลังสั่นไหว ผมถอยออกมาห่างๆ เพื่อไม่ให้เจ้าตัวตกใจเมื่อตื่นขึ้นมา พยายามทำตัวให้ปกติที่สุดเหมือนกับว่าผมพึ่งตื่นขึ้นมาเมื่อครู่และไม่ได้จ้องใบหน้าน่ารักของเธอตอนที่กำลังหลับ
"อือออ" เธอตื่นขึ้นมาอย่างที่ผมคิด แขนเล็กยกขึ้นบิดขี้เกียจ เปลือกตากะพริบถี่ๆ เพื่อปรับสภาพสายตาให้เข้ากับแสงสว่างในห้อง เธอหันมองมาทางผมเป็นเชิงถามว่าตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แน่นอนว่าผมตื่นขึ้นมาก่อนเธอไม่นานเท่าไหร่นักหรอก
"ตื่นแล้วหรอ" ผมเอ่ยถาม พร้อมกันนั้นมือของผมก็เอื้อมไปหยิบแว่นบนโต๊ะตรงหน้าขึ้นมาใส่
"นายตื่นมานานรึยัง"
"ก่อนเธอหนึ่งนาที" สิ้นเสียงผม เกิร์ลพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นแต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวขาออกไป ร่างเล็กทรุดฮวบลงตรงหน้าผมอย่างกะทันหันจนตั้งตัวไม่ทัน ผมตกใจมากจนควบคุมร่างกายไม่ได้ ตัวผมมันพุ่งลงไปอุ้มร่างบนพื้นขึ้นไว้ในอ้อมอก ในหัวตอนนี้คิดแค่เพียงว่าถ้าเธอเป็นอะไรไปจะทำยังไง หาหมอก็ไม่ได้
แต่ความคิดด้านลบมากมายในหัวของผมก็มลายหายไปเมื่อเกิร์ลเอาแขนมากอดรอบคอผมไว้เพราะกลัวตก เธอเงยหน้ามาสบตาผมก่อนจะเอ่ยออกมาเบาๆ
"ตะคิวกิน..." ว่าจบใบหน้าเล็กก็หลุบตาลงต่ำ บอกเป็นนัยๆ ว่าให้ผมวางเธอลงได้แล้ว เธอไม่เป็นอะไรมากขนาดนั้น
...ตกใจหมด รู้ไหมใจผมแทบจะตกลงเหวพร้อมๆ กับตอนที่ร่างเล็กๆ นั่งทรุดลงไปกับพื้นน่ะ
ผมวางเธอให้นอนลงบนโซฟาก่อนที่ตัวผมเองจะทิ้งตัวลงนั่งอยู่ข้างๆ จับสองขาเล็กที่เหยียดไปด้านข้างขี้นมาวางบนตักแล้วนวดเบาๆ เจ้าของขามองหน้าผมอย่างประหลาดใจ แน่นอนว่าผมยิ้มตอบทำเอาผีน้อยหันหนีด้วยความเขินอาย
"เดี๋ยวฉันไปซื้อของก่อนแล้วกันนะ" ว่าจบผมก็ค่อยๆ ลุกขึ้น วางขาเกิร์ลไว้ที่เดิมก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าเงินแล้วเดินออกมาจากห้อง แน่นอนไม่ลืมที่จะหันมาปิดประตูหรอกนะ
จะว่าไป คนเป็นตะคิวเนี่ยพอทน ผีเป็นตะคิวนี่...น่าประหลาดใจจริงๆ แต่ถ้าให้เทียบกับนิสัยของเกิร์ล แค่การที่ผีเป็นตะคิวเนี่ยน่าจะเป็นเรื่องธรรมดาไปเลยนะล่ะ ฮ่าๆ
"ขอบคุณที่ใช้บริการค่ะ" สิ้นเสียงพนักงานหญิง ผมยิ้มรับและหยิบถุงของที่พึ่งถูกคิดเงินเสร็จสรรพขึ้นไว้ในมือ ก่อนจะเดินออกจากร้านสะดวกซื้อเพื่อกลับไปที่ห้องของตัวเอง ส่วนของที่ผมซื้อมาก็...ยานวดแก้เมื่อย กับนมช็อกโกแลต,ช็อกโกเลต ซึ่งไม่ต้องคิดก็รู้ว่าผมซื้อไปให้ใคร
ระหว่างทางขึ้นบันไดบริเวณชั้นสองผมได้ยินเสียงหอบหายใจหลายๆ ทีติดต่อกัน ราวกับเจ้าของเสียงกำลังขาดอากาศหายใจอยู่รอมร่อ ขาผมก้าวขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็วตามสัญชาตญาณ เมื่อรู้สึกว่าต้นเสียงค่อยๆ ใกล้ขึ้นๆ ผมก็ยิ่งเร่งฝีเท้ามากกว่าเดิม
ภาพตรงหน้าผมตอนนี้เป็นเด็กชายใส่ชุดนักเรียนมัธยมปลายชื่อดังย่านนี้ที่กำลังนั่งคุกเข่า หายใจติดขัด ใบหน้านั้นซีดเผือด มือข้างขวาใช้กุมบริเวณอกตัวเองและมือข้างซ้ายกำลังเกาะราวบันไดอย่างหมดแรง เหมือนจะเป็นอาการของคนเป็นหอบ...
"น้องครับ ยาพ่นอยู่ไหน" ผมรีบปรี่เข้าไปพยุงคนตัวสั่นไว้ก่อนจะเอ่ยถามอย่างร้อนรน ไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหละในสถานการณ์นี้ผมต้องช่วยน้องก่อน เหมือนว่าก่อนหน้านี้จะไม่มีใครผ่านมาด้วยน้องถึงอาการหนักขนาดนี้
"ผมทำหายครับ...มีอีกอันอยู่บนตู้รองเท้าหน้าประตูในห้อง 204 พี่ช่วยไปเอาให้ผมทีครับ..." ว่าจบเด็กชายก็ยื่นกุญแจห้องตนเองในมือมาให้ผม ผมรีบร้อนคว้ามันอย่างไว
แกรก!! ผมไขกุญแจห้องอย่างรีบร้อนแล้วเปิดเข้าไปคว้ายาพ่นที่วางอยู่โดดๆ บนตู้รองเท้าในห้อง ลักษณะมันเป็นตู้รองเท้าที่สูงพอๆ กับโต๊ะทำงานของผมทำให้มันสามารถหยิบของที่วางอยู่ด้านบนได้โดยไม่ต้องก้มหรือเอื้อม
เมื่อยาพ่นอยู่ในมือผมแล้ว ผมวิ่งกลับมาหาน้องทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ปิดประตูห้อง ยังดีที่ห้องของน้องเขาอยู่ใกล้กับบันไดซึ่งเป็นระยะที่สามารถเห็นได้ชัดเจนว่ามีอะไรเกิดขึ้นหน้าห้อง ผมจึงไม่กังวลกับการปิดประตูห้องแล้วเลือกที่จะรีบวิ่งเอายาพ่นมาให้น้องมากกว่า ยังไงตอนนี้สิ่งที่ต้องช่วยมากที่สุดคือชีวิตน้อง...
"ขอบคุณนะครับพี่" หลังจากได้รับยาพ่นไปใช้ได้ไม่นานอาการของน้องก็ค่อยๆ ดีขึ้น ผมพยุงน้องเขาเดินกลับห้องอย่างช้าๆ ก่อนที่น้องจะเอ่ยขอบคุณผมด้วยรอยยิ้ม
"ครับ ไม่เป็นไร แล้วเราอยู่คนเดียวหรอ...?" ระหว่างถามผมแอบคาดหวังว่าน้องจะไม่ได้อยู่คนเดียว เพราะคนที่มีโรคประจำตัวแบบนี้ ถึงจะอยู่หอมันก็ควรจะมีคนคอยอยู่ดูแล...
"อยู่กับแม่ครับ แต่ช่วงนี้แม่ไปทำงานต่างจังหวัดผมเลยอยู่กับป้าน่ะครับ"
"งั้นเดี๋ยวพี่ไปแล้วนะ" ผมเอ่ยก่อนจะหันหลังเตรียมออกจากห้อง แต่ก็ต้องชะงักฝีเท้าเมื่อถูกเรียกกลับไปอีกครั้ง
"รอก่อนครับพี่ ผมทักบอกป้าแล้ว ป้าบอกให้พี่รอกินข้าวเย็นด้วยกันก่อน นี่ก็ห้าโมงครึ่งแล้วป้าผมกำลังมาครับ มันไม่รบกวนเวลาพี่ใช่ไหม?"
"ไม่รบกวนครับ ฮ่าๆ " ว่าจบผมก็หยิบมือถือขึ้นมาทักแชตหาเกิร์ลที่ตอนนี้น่าจะอ่านนิยายสบายใจเฉิบอยู่บนเตียงของผมอย่างไม่สนโลก
[ Chat ]
BoY : วันนี้ฉันไม่กินข้าวเย็นนะ
GiRl : อ้าว! ทำไมอ่ะ
BoY : มีเรื่องนิดหน่อย
GiRl : จริงๆ นายไม่อยากกินอาหารฝีมือฉันใช่ไหม
GiRl : (อิโมจิกระต่ายร้องไห้)
BoY : โอเคๆ งั้นกินก็ได้ แต่กลับห้องช้าหน่อยนะ
GiRl : (อิโมจิกระต่ายส่งจุ๊บ)
[Chat End]
ทำไมในแชตถึงขยันส่งจุ๊บจังเลยนะ พอเจอหน้าทีไรเตะตัวนิดๆ หน่อยๆ ก็เขินแล้ว ตกลงยัยนี่เป็นผีสองบุคลิกจริงๆ ใช่ไหมนะ...
"แล้วพี่ชื่ออะไรครับ ผมนิคนะ" หลังจากที่ผมเงยหน้าขึ้นจากจอมือถือ เด็กชายตัวสูงพอๆ กับผมที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็เอ่ยถามออกมาอย่างมีมารยาท
"พี่บอย อยู่ห้อง 313 นี่เอ-" ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ เสียงประตูห้องเปิดออกดังขึ้น เรียกสายตาของพวกผมให้หันไปมองตามมาด้วยเสียงเรียกอย่างร้อนรนของผู้มาใหม่
"นิค!!"
...เอ๊ะ! คนคนนี้!?