เชื่อว่าทุกคนคงมีช่วงเวลาที่อึดอัดหรือ เป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยถ้อยคำพูดต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องใช้“น้ำตา”ซื่อความหมายนั้นแทน *สามารถเลือกอ่านตอนไหนก่อนก็ได้ค่ะ เนื้อเรื่องไม่ต่อกัน เป็นเพียงเรื่องสั้นในแต่ละตอน ^-^*

ช่วงเวลาแห่งชลเนตร - บทที่ 4 ขอเพียงรับไออุ่น โดย ไนซ์สาม @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เรื่องสั้น,รัก,ดราม่า,ไทย,ชาย-ชาย,ชาย-หญิง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ช่วงเวลาแห่งชลเนตร

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

เรื่องสั้น,รัก,ดราม่า,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ชาย-หญิง

รายละเอียด

เชื่อว่าทุกคนคงมีช่วงเวลาที่อึดอัดหรือ เป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยถ้อยคำพูดต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องใช้“น้ำตา”ซื่อความหมายนั้นแทน *สามารถเลือกอ่านตอนไหนก่อนก็ได้ค่ะ เนื้อเรื่องไม่ต่อกัน เป็นเพียงเรื่องสั้นในแต่ละตอน ^-^*

ผู้แต่ง

ไนซ์สาม

เรื่องย่อ

สารบัญ

ช่วงเวลาแห่งชลเนตร-บทที่ 1 สายลมช่วยพัดพาน้ำตาฉันไป,ช่วงเวลาแห่งชลเนตร-บทที่ 2 อยากหนีไปให้ไกล,ช่วงเวลาแห่งชลเนตร-บทที่ 3 เพื่อนรัก,ช่วงเวลาแห่งชลเนตร-บทที่ 4 ขอเพียงรับไออุ่น

เนื้อหา

บทที่ 4 ขอเพียงรับไออุ่น

เพียงอยากได้รับความรัก เพียงอยากได้รับความเข้าใจ เพียงอยากได้ความสุข เพียงขอรับไออุ่นสักครั้งจากใครสักคนได้ไหม

อากาศสดชื่นเพราะเต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวขจี สายลมเบา ๆ พัดพาให้กลิ่นอ่อน ๆ ของความชื้นเข้ามา ดอกไม้บนต้นนั้นก็ต่างร่วงลงมาเพราะสายลม

ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบต้น ๆ นอนคว้ำยกขาทั้งสองข้างขึ้น พร้อมอ่านหนังสือนวนิยายที่วางอยู่ตรงหน้า

“ทำอะไรอยู่ครับ”เสียงทุ้มต่ำของเรือนร่างสูงเอ่ยขึ้น พร้อมความเอ็นดู ผู้ที่นอนอ่านหนังสืออยู่ที่ใต้ร่มของต้นไม้ใหญ่

“อ่านหนังสืออยู่ครับ”ร่างบางเปลี่ยนจากท่านอนเป็นการนั่งปกติ พร้อมใช้มือตบที่ที่นั่งข้าง ๆ ตัวเองแปะ ๆ ให้คนที่ยืนอยู่ลงมานั่งด้วยกัน

ร่างสูงลงมานั่งข้าง ๆ กับอีกฝ่าย ใช้มือหนาลูบผมคนข้างๆกายเบาๆด้วยความเอ็นดู“พี่รักหนูนะ”น้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้น เต็มไปด้วยความรักที่มีให้อีกฝ่ายอย่างเต็มเปี่ยม

เมื่อรู้ว่าชายผู้นั้นเอ่ยถึงตนก็ยกยิ้มด้วยความปลื้มใจ แล้วก็ค่อย ๆ เอาศีรษะของตนพิงลงมาที่บ่าไหล่ของอีกฝ่าย“รักเหมือนกันครับ”

“พี่อยากแต่งงานมีลูก”อยู่ ๆ ชายข้างกายที่ให้ไหล่ซบก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงปนจริงจังเล็กน้อย

“แต่เราเป็นผู้ชายด้วยกัน จะแต่งงานกันได้หรอ ไม่มีอะไรรองรับเราด้วยซ้ำ”อีกฝ่ายโต้กลับ

“ความรักของเราไงที่รองรับ”

ชายร่างบางขำออกมาเบา ๆ “ก็จริงนะ ถ้ามันได้อย่างนี้จริงก็ดี”เสียงขำเริ่มมีน้ำตาเอ่อล้นออกมาด้วยความดีใจ อาจเป็นเพราะว่ามีความสุขมากเกินไป

“หนูร้องไห้หรอ”อีกฝ่ายรีบหันไปมองผู้เป็นที่รักของตนเอง

“แค่ร้องเพราะดีใจที่พี่ยังคิดถึงเรื่องแต่งงานของเราต่างหาก”โต้ไปแล้วก็ยกยิ้มให้อีกฝ่าย

“พี่ยังไม่ได้ขอแต่งงานเลย อย่าเพิ่งร้องสิ”สิ้นเสียงพูดก็ขำออกมาในลำคอ

“จะรอนะครับ”



กาลเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ถึงเวลาอันสมควรที่จะได้รับความรู้สึกดีๆแก่กันและกัน

แสงไฟระย้าตกแต่งสวยงามตามงานตอนกลางคืน มีสีขาวทั้งดวงเล็กดวงใหญ่ มีบรรยากาศหรูหรา เต็มไปด้วยดอกไม้ อาหารว่าง และแขกผู้มีเกียรติมากมาย

ในพิธีสวมแหวนของคู่รักในคืนนี้ กำลังเริ่มต้นขึ้น 

ฝ่ายชายรางสูงกำลังใช้มือหนาดันแหวนสวมเข้าไปให้คนรักของตนเองด้วยความแผ่วเบา แววตามีแต่ความประกายสะท้อนให้เห็นว่าความรักที่มีต่อคนรักของตนเองมากมายแค่ไหน

และเจ้าบ่าวอีกคนหนึ่งก็สวมแหวนกลับให้ผู้ที่เป็นที่รักของตนเองเช่นกัน สงสัยจะเป็นด้วยทั้งความปลื้มปริ่มใจ ดีใจ มีความสุข ทุกความรู้สึกดี ๆ ได้เข้ามาพร้อมกันจนไม่สามารถอธิบายความรู้สึกนี้ได้ จึงทำให้น้ำตาได้อธิบายความรู้สึกนี้เอง

น้ำใส ๆ ไหลอาบแก้มขาวนวลลงมาช้า ๆ พร้อมสวมแหวนเข้าไปจนเสร็จเรียบร้อย

“ดูเหมือนเจ้าบ่าวคนนี้ของเราจะปลื้มปิติมากนะครับ น้ำตาไหลเลย”พิธีกรเอ่ยปากแซวพร้อมจะร้องไห้เพราะซึ้งในความรักของทั้งสอง

จบพิธีทั้งคู่ที่เป็นเจ้าภาพงานนี้ก็ลงมานั่งที่หลังงาน นั่งดูดาวบนท้องฟ้านับพันดวงด้วยกัน นับว่าเป็นเวลาที่ใครก็คงอิจฉา 

“ขอบคุณพี่มาก ๆ นะครับที่มอบสิ่งที่ผมขาดเหลือในชีวิตให้ ไม่คิดเหมือนกันว่าผมจะได้รับความรักเหมือนคนอื่นบ้าง”

“หนูสมควรได้รับมัน”



ขอให้ทุกคนได้รับความรักให้สมกับที่เป็นตัวคุณ และได้รับไออุ่นแก่ตัวเองที่ควรได้รับ