รัก,ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น,โรงเรียนไทย,เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
"วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคะ แล้วพรุ่งนี้ก็ส่งการบ้านให้กับครูด้วย..เลทได้แค่ห้าโมงเย็นเท่านั้นนะคะ" พอครูมิ้นพูดจบก็ออกไปเลยแถมเพื่อนร่วมชั้นตัวร้ายคนหนึ่งก็ดันรีบลบเหมือนบ้านจะหายไปอย่างนั้นแหละจนผมไม่ทันที่จะลอกเสร็จก่อนที่สายตาจะหันไปมองหัวกะทิประจำห้องที่หน้าจะเป็นความหวังสุดท้าย
"เดี๋ยวก่อนสิ!" เจ้าของมือหยุดชะงักในขณะที่กำลังจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนที่จะมองที่มือของตัวเองสลับกับมองหน้าผมด้วยใบหน้าที่นิ่งที่ยากจะคาดเดาอะไรได้
"กรุณาปล่อยมือของผมด้วยครับคุณไมเยอร์"
"ขอลอกการบ้านหน่อย" ผมขอตรง ๆ โดยไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อมยาวเป็นรางรถไฟ
"ก็ผมเห็นนายขยันแต่เล่นเกมส์ทำไมไม่ตั้งใจเรียนเหมือนกับการเล่นเกมส์ด้วยล่ะครับ ? "
"นั่นมันคนล่ะเรื่องกันนะ!" ก่อนที่ผมจะจับข้อมือหัวกะทิของห้องแน่นขึ้นไปอีก "ให้ฉันทำอะไรก็ได้ฉันยอมหมดทั้งนั้นแหละ!" หัวกะทิของห้องที่เป็นเด็กเนิร์ดสวมแว่นกรอบสีดำได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มร้ายที่ทำเอาผมถึงกับขนลุกซู่ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นยิ้มอ่อนจนผมอาจจะคิดไปเองหรือไม่ก็อาจจะตาฝาดที่เห็นเขายิ้มทั้งที่ตั้งแต่เรียนห้องเดียวกันมาเขาไม่เคยยิ้มให้ผมหรือคนอื่นในห้องเลยสักครั้งเดียว
ไม่รู้ว่าทั้งชีวิตของเขาเคยมีความสุขกับใครเขาบ้างไหมนะ ?
"งั้นก็ตามมาที่หอพักของผมสิ! แล้วผมจะให้งานนายทำแลกกับการลอกการบ้าน" ได้ยินหัวกะทิของห้องว่าอย่างนั้นผมก็ถึงกับยิ้มระริกระรี้ด้วยความดีใจสุด ๆ เหมือนได้แจ๊คพอตหนึ่งล้านบาทจากฝาชาเขียวอย่างไรอย่างนั้นแหละ
ใช้เวลาเดินไม่นานผมก็ได้มาถึงยังหอพักสำหรับพวกหัวกะทิเขาอยู่กันซึ่งเป็นคนล่ะทางกับหอพักของผมที่อยู่ในระดับเด็กทั่วไปดาด ๆ
ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็เหมือนบ้านคนกับบ้านของหมาล่ะม้าง (คงไม่ต้องมีคำถามนะว่าของผมคืออย่างไหน ?)
และสิ่งที่หัวกะทิของห้องต้องการให้ผมทำเพื่อแลกกับการลอกการบ้านก็คือ...การซักผ้าที่กองเป็นภูเขาเหมือนไม่ได้ซักมาเป็นชาติ
เป็นเด็กหรูที่สกปรกกว่าผมอีกหรือเนี่ย!
โชคยังดีที่มีผงซักฟอกให้พร้อมโดยที่ผมไม่จำเป็นต้องออกไปซื้อเพิ่มแถมเครื่องซักผ้าก็เป็นแบบอัตโนมัติจนผมยังอิจฉาเพราะที่หอพักผมต้องซักด้วยมือกันทุกคน
ใครไม่เคยทำงานบ้านมาก่อนก็จะเป็นตอนที่อยู่ที่หอพักเนี่ยแหละเมื่อไม่มีใครมาช่วยแม้แต่พ่อและแม่
"ซักผ้าวันนี้จะเสร็จมั้ยล่ะวันนี้เนี่ย!" ผมก็บ่น ๆ ไปก็เท่านั้นแหละเพราะพอเอาเข้าจริง ๆ มันดันพอดีซะอย่างนั้น..เอิ่ม..ผมลืมบอกไปว่าเครื่องซักผ้าส่วนตัวไม่ได้มีแค่เครื่องเดียว
ถ้าวันไหนผมเกิดขี้เกียจขึ้นมาจะขอมันมาซักที่นี่จะได้ไหมนะ ?
หลังจากที่ผมซักเสร็จก็ต่อด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่มจนกระทั่งปั่นแห้งก่อนที่จะนำมาตากที่ราวตากผ้าที่ถึงแม้หัวกะทิของห้องจะสั่งให้ผมซักผ้าอย่างเดียวก็ตาม
มันทิ้งกลางคันไม่ได้นี่หว่า!
ถ้าซักแล้วก็ต้องตากให้ถึงที่สุดไปเลยสิ
ในขณะที่ผมกำลังพาดผ้าที่ไม้แขวนเสื้อก่อนที่จะดึงให้มันเรียบกันยับไปมากกว่านี้เมื่อแห้งดี..ผมก็ได้ยินเสียงเปิดประตูจากห้องน้ำที่เขาเข้าไปอาบน้ำตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
สงสัยผมอาจจะเหม่อลอยไปใกลเลยไม่ทันได้รู้สึกตัวล่ะม้าง ?
หัวกะทิของห้องออกมาในสภาพผ้าขนหนูผืนเดียว..อวดซิกแพ็คเป็นลอนที่มาพร้อมกับผิวขาวที่เนียนแถมยังมียอดอกสีชมพูสะอาดอีกด้วย
ทำไมตอนที่เขาถอดแว่นแล้วหล่อจังเลยเลยนะ!
สงสัยเขาคงจะจับสังเกตได้ว่าผมกำลังมองเขาอยู่ก่อนที่หัวกะทิของห้องจะเหล่ตามองมาทางผมในจังหวะที่ผมหันหน้าไปมองทางอื่นพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงและเลือดสูบฉีดจนทำให้แก้มเห่อร้อนจนลามแดงไปถึงหู
ทำไมผมต้องใจเต้นด้วยนะ!
ทั้งที่เป็นผู้ชายเหมือนกันแท้ ๆ
หรือผมอิจฉาที่เขาที่มีซิกแพ็คแต่ผมดันไม่มีแม้แต่แพ็คเดียวรึเปล่านะ ?
"ทำงานบ้านเก่งจังเลยนะครับ" ผมถึงกับสะดุ้งตกใจโหยงแถมยังรู้สึกหนาวจนขนลุกซู่อีกด้วยเมื่อมีเสียงกระซิบที่ข้างหู..แต่ผมดันลืมไปว่าหัวกะทิของห้องอยู่ด้านหลังจนเผลอหันไปมองเข้าเป็นจังหวะที่ริมฝีปากนุ่ม ๆ อมชมพูสัมผัสที่แก้มร้อนผ่าวของผมเข้า
ผมถึงกับผงะก่อนที่จะเขยิบไปทางซ้ายจนแผ่นหลังติดกับราวระเบียงจนหัวกะทิของห้องถึงกับหลุดขำกับความเปิ่นของผมด้วยใบหน้าที่หล่อที่เห็นแล้วเหมือนกำลังจะโดนเสียซิงจากข้างหลัง
"ฉะ..ฉันลอกได้รึยัง ? " แล้วผมจะพูดตะกุกตะกักให้เขาทำหน้าสงสัยทำไมเนี่ย!
"ได้ครับ"