ใครบอกว่าเด็กเนิร์ดไม่มีประสบการณ์กันล่ะ หมาป่าในคราบแกะมีอยู่จริงนะ

แกงจืด รสแซ่บ - ตอนที่ 2 - โดย ศรกามเทพ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น,โรงเรียนไทย,เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

แกงจืด รสแซ่บ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

โรงเรียนไทย,เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ,แฟนตาซี

รายละเอียด

ใครบอกว่าเด็กเนิร์ดไม่มีประสบการณ์กันล่ะ หมาป่าในคราบแกะมีอยู่จริงนะ

ผู้แต่ง

ศรกามเทพ

เรื่องย่อ

สารบัญ

แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 1 -,แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 2 -,แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 3 -,แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 4 -,แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 5 -,แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 6 -,แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 7 -,แกงจืด รสแซ่บ-ตอนที่ 8 -

เนื้อหา

ตอนที่ 2 -

"ละ..แล้วอยู่ที่ไหน ? "

"อยู่บนโต๊ะครับ" ได้ยินหัวกะทิของห้องว่าอย่างนั้นผมก็ค่อย ๆ เดินแทรกตัวเขาในขณะที่จับแก้มทั้งสองข้างไปด้วยเพื่อซ่อนอาการหน้าแดงที่อย่างกับสาวน้อยกำลังตกหลุมรักครั้งแรก

พอผมได้เจอสมุดก็กะว่าจะหยิบแล้วออกไปจากห้องทันทีแต่กลายเป็นว่าหัวกะทิของห้องดันมาขัดขวางเอาไว้จนผ้าขนหนูหลุดลงพื้นต่อหน้าต่อตาผมจนได้เห็นงูที่ดันมีขนาดใหญ่กว่าของผมซะอีก

แถมยังมีสีขาวที่ดูสะอาดและหัวชมพูอีกด้วย

พระเจ้า...ความยุติธรรมของผมอยู่ตรงไหนกันล่ะครับเนี่ย! ฮือ..

"ไม่ลอกที่นี่หรือครับ ? " พร้อมกับรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรแบบปลอม ๆ เพราะเขาดูเหมือนพวกเจ้าเล่ห์มากกว่า...และเขาก็ยังไม่รู้ตัวเลยด้วยว่าตัวเขาเปลือยทั้งตัวแล้ว

"ไม่ได้พาสมุดมาด้วย" ตอบรับโดยที่สายตามองไปทางอื่นพร้อมกับแก้มที่แดงกว่าเดิมด้วยความอิจฉา (รึเปล่านะ ?) "ฉะ..ฉันลืมที่หอ"

"ใช้ของผมก่อนก็ได้นะครับ..พอดีมีสมุดเปล่าที่ไว้ใช้สำรองเอาไว้เยอะ" ตอนแรกผมก็คิดว่าจะปฏิเสธอยู่หรอกแต่หัวกะทิของห้องดันยื่นริมฝีปากอมชมพูนั้นเข้ามาใกล้ ๆ ผมจนอีกนิดก็จะชนกับริมฝีปากที่อวบอิ่มของผมอยู่แล้ว

"ก็ได้!" พอผมตะโกนตอบตกลงเขาก็เลิกแกล้งผมก่อนที่จะทำหน้าพยักพเยิดไปที่โต๊ะทำงานของเขาโดยที่ผมทำตามอย่างจำยอมเหมือนเป็นนักโทษที่ต้องทำตามคำสั่งผู้คุม

และเมื่อแก้มก้นของผมได้สัมผัสกับเก้าอี้ที่มีเบาะรองนั่งสบายก้นแถมยังมีกลิ่นหอมของดอกไม้จนผมเคลิ้มเกือบจะหนุนหัวบนโต๊ะเพราะมันน่านอนมาก

แต่คงนอนไม่หลับทันทีหรอกเพราะหัวกะทิของห้องทำให้ผมระแวงทุกอย่างแม้เขาจะอาสาเปิดโคมไฟผมยังเสียวสันหลังเลย

สาเหตุเพราะเขายังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเนี่ยแหละ..ผมเห็นแล้วรู้สึกอายแทนเขาจัง

ทั้งที่การลอกมันคือเรื่องที่ง่ายยิ่งกว่าปอกเปลือกกล้วยแล้วเอาเนื้อกล้วยเข้าไปในปากสักอีก แต่พอผมโดนกดดันจากคนที่นั่งอยู่บนเตียงจากด้านหลังกว่าจะลอกเสร็จผมก็แทบใช้พลังงานจนหมดและเกือบวิญญาณจะหลุดออกจากร่าง

"สมุดนี้ฉันขอล่ะกันและเอาไว้เดี๋ยวฉันค่อยใช้คืน" ก่อนที่จะลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างรวดเร็วเหมือนกลัวว่าจะไม่ได้ออกจากห้องพักของหัวกะทิของห้องเป็นรอบที่สอง

"ตีหนึ่งแล้วจะออกไปอีกหรือครับ ?ไม่กลัวถูกใครฉุดรึไงครับ ? " เจอคำขู่ของเขาเข้าไปผมถึงกับหยุดชะงักการเดินเอาไว้ก่อนที่จะเงยหน้าหันไปมองที่นาฬิกาติดผนัง

แค่ลอกการบ้านก็ปาไปหลายชั่วโมงแล้วรึเนี่ย!

หันไปมองหัวกะทิของห้องที่นั่งยิ้มพร้อมกับยักคิ้วได้อย่างกวนประสาทผมแบบสุด ๆ "มานอนบนเตียงกับผมไหม ?ผมไม่กัดหรอกเพราะผมฉีดยามาแล้วนะครับ"

ถึงเขาจะฉีดยามาแล้วก็เถอะ..แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสายตาที่ดูเจ้าเล่ห์ที่จ้องเขม็งมาทางผมจะไม่คิดเรื่องร้าย ๆ ไม่นึกเลยว่าเด็กเนิร์ดจะเป็นคนที่น่ากลัวอะไรอย่างนี้

ทำเอานักเลงประจำห้องอย่างผมกลายเป็นลูกไก่ในกำมือของเขาเฉยเลย

แต่ถึงหน้าตาผมจะดูนิ่งเหมือนนักเลงจริงๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่กลัวผีเพราะยังไงผมก็ยังเป็นคนอยู่ไม่ใช่ต้นไม้สักหน่อย

"แต่ฉันมาแต่ตัวนะ..ไม่มีเสื้อผ้ามา" ก็พูดเล่นตัวไปอย่างนั้นแหละเดี๋ยวหัวกะทิของห้องจะคิดว่าผมเป็นคนโดนหลอกได้ง่าย ทั้งที่ความจริงผมอยากจะกระโดดลงบนเตียงหรูของเขาด้วยซ้ำเพราะหอพักของผมเขานอนบนพื้นกัน (แกจะอนาถไปถึงไหนเนี่ยไมเยอร์)

"ผมมีเสื้อผ้าให้เปลี่ยน" ตอนแรกผมก็นึกว่าเขาจะลุกขึ้นไปเปิดเสื้อผ้า..แต่กลายเป็นว่าเขาดันกดรีโมทจนตู้เสื้อผ้าเปิดอัตโนมัติแถมสิ่งที่อยู่ข้างในก็ออกมาเป็นราวแขวนเสื้อที่มีเสื้อหลากสีแถมพอดูใกล้ ๆ ก็เป็นเนื้อผ้าที่น่าจะตรงกันข้ามกับเสื้อผ้าของผมที่ไม่ได้แตกต่างจากเศษผ้าที่เอามารีไซเคิลใหม่เลย "เลือกได้ตามใจชอบเลยครับ" หัวกะทิของห้องว่าอย่างนั้นก่อนที่ผมจะทำตามและเมื่อปลายนิ้วเรียวได้สัมผัสกับเนื้อผ้าที่แสนแพงผมก็ถึงกับน้ำตาไหลอย่างปลื้มปีติที่ชาตินี้ได้จับในสิ่งที่ต้องการแล้ว

แค่นี้ผมก็ตายตาหลับแล้วล่ะครับ ฮือ

ผมเลือกเสื้อผ้าสีขาวเพราะชอบโดยส่วนตัวแถมมันยังดูดีเมื่ออยู่กับคนผิวสองสีเหมือนน้ำผึ้งแบบผมอีกด้วย ลืมถามหัวกะทิของห้องเลยว่าห้องน้ำไปทางไหน

พอผมหันไปมองเขาและยังไม่ทันที่จะพูดอะไรเลยด้วยซ้ำเพราะสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าผมมันทำให้ผมถึงกับพูดไม่ออกและสิ่งที่ว่านั่นก็คือหัวกะทิของห้องกำลังกัดปากแล้วทำหน้าฟินในขณะที่มือข้างหนึ่งจับมือถือเอาไว้และมืออีกข้างหนึ่งลูบเป้าจนเห็นแก่นกายที่แข็งตัวเป็นลำแท่งได้อย่างชัดเจน

ผมเห็นแบบนั้นแล้วก็ไม่กล้าไปทักหรือไปขัดจังหวะความสุขและความมันส์ของเขาก่อนที่ผมจะหาทางด้วยตนเองด้วยการมองทางพร้อมกับเดินไปด้วย

"ละ..เลี้ยวซ้ายก็จะเจอห้องน้ำเลยนะครับ" ผมถึงกับสะดุ้งตกใจโหยงเมื่อได้ยินเสียงตะกุกตะกักและเสียงที่แหบพร่าของเขาก่อนที่เสียงเหล่านั้นจะทำให้แก้มของผมถึงกับร้อนผ่าว

ผมไม่ได้เขินเขาหรอกนะ!

แต่ผมอายแทนเขาต่างหาก ไม่ได้สนิทกันสักหน่อยทำไมหัวกะทิของห้องถึงได้กล้าทำคิดว่าเป็นเพราะที่นี่เป็นห้องของเขาแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นหรือ ?

หัดเกรงใจผมซะบ้างซิ!

เดินคิดในแง่ลบไปสักพักผมก็ได้มาถึงห้องอาบน้ำที่ผมแม่งก็ไม่เข้าใจว่าจะสร้างเป็นประตูกระจกไปทำไม ?เขาเป็นคนที่ชอบโชว์เรือนร่างอย่างนั้นหรือ ?

รู้สึกกลัวเขายิ่งกว่าเดิมยังไงก็ไม่รู้เหมือนคนโรคจิตอย่างไรอย่างนั้นแหละ

"อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้มาดูก็แล้วกันน่า!" เพราะมัวแต่นั่งสาวงูตัวใหญ่อยู่นั่นแหละ

พอผมก้าวเข้ามาในห้องน้ำก็เหมือนจะได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของหัวกะทิของห้องอีกเป็นครั้งที่สองเพราะสิ่งที่ตั้งอยู่ตรงหน้าของผมก็คือครีมนับสิบที่ส่วนมากจะไปในทางเสริมความงาม

เขาเป็นสายสำอางซะด้วย!

มิน่าล่ะถึงได้หล่อจนน่าหมั่นไส้!

เห็นแล้วอยากจะหล่อเหมือนกับเขาบ้างเพราะตอนนี้หน้าตาก็ไม่ได้แตกต่างจากมหาโจรจนตัวเองยังกลัวหน้าตาตอนที่ส่องกระจกในตอนเช้าทุกวันเลย

ผมก็ไม่เคยใช้หรอกเลยต้องดูที่วิธีใช้ ข้างกระปุกเขาบอกว่าต้องใช้หลังอาบน้ำผมถึงกับรีบไปอาบน้ำเลยจนตัวหอมเพราะสบู่ราคาแพงหูฉี่ของเขา

"ครีมนุ่มเหมือนวิปครีมเลย" ก่อนที่จะมาทาที่หน้าแล้วพักแค่สามวินาทีเท่านั้น (เร็วไปไหม ?) แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดและเมื่อผมส่องกระจกอีกครั้งก็ถึงกับตกใจจนผงะ "ไอ้คนหน้าตาสวยและน่ารักนี่ใครนะ!"